Beranda / โรแมนติก / หมอขาอย่ากินดุ / chapter 6. ดวงตาแบบนี้

Share

chapter 6. ดวงตาแบบนี้

last update Terakhir Diperbarui: 2025-01-06 23:42:38

เอ๊ะ! ดวงตาแบบนี้

            “งั้น...หมออิฐจะกลับแล้วเหรอคะ”  เกวลินถามด้วยความเป็นห่วง เธอเห็นขวดเบียร์บนโต๊ะห้าหรือหกขวด  เขานั่งคนเดียวกินหมดนั้นจริงๆ เหรอ คอแข็งชะมัด

            “ครับ”  เกือบเที่ยงคืนแล้ว คนในผับดื่มกินได้ที่กระโดดเต้นตามเสียงเพลง ทำให้เขาขยับเข้าไปใกล้หญิงสาวอย่างไม่ตั้งใจ น่าแปลกที่เขาได้กลิ่นหอมอ่อนจากเรือนกายของหญิงสาว เธอรวบผมเป็นหางม้าทรงสูง เผยลำคอขาวที่ทำให้เขารู้สึกกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก

            “หมออิฐกลับยังไงคะ คงไม่ได้จะขับรถเองใช่ไหม” ยังพูดไม่จบประโยคดี ร่างเล็กก็ถูกกระแทกจนเธอถลาเข้าไปปะทะกับแผงอกของเขา แม้จะยกมือยันแผ่นอกได้ทัน แต่มันก็ไม่ต่างจากถูกโอบกอดเลยสักนิด  เธอเงยหน้าขึ้นเห็นสีหน้ากระอักกระอ่วนของเขาแล้วต้องขมวดคิ้วแล้วลดมือลงเป็นฝ่ายคว้าข้อมือลากเขาออกมาด้านนอกเสียเอง

            เดี๋ยวนะ! นี่เขาโดนผู้หญิงฉุดเหรอ!

            อิทธิพลแทบจะหายเมาในทันที ถูกมือเล็กลากออกมานอกผับ ห่างจากประตูทางเข้าออกแล้วเธอจึงปล่อยข้อมือเขา 

            “ขอโทษค่ะ คนเยอะมากเลย ไม่ได้ตั้งใจจะลวนลามหมออิฐเลยนะคะ”

            “ครับ” เขาพยักหน้ารับแล้วกลั้นหัวเราะ

            “ว่าแต่หมออิฐกลับยังไงคะ เมื่อครู่ข้างในเสียงดังมาก กะทิฟังไม่ชัดค่ะ”

            “กะทิ?”  เขาเลิกคิ้วไปเชิงถาม หญิงสาวเหมือนเพิ่งรู้ตัว เธอชี้นิ้วที่ตัวเองแล้วแนะนำตัว

            “ชื่อกะทิค่ะ หมออิฐคงจำไม่ได้ กะทิไปส่งของที่โรงพยาบาลบ่อยๆ อ้อ! วันนั้นหมออิฐเตือนเรื่องฉีดสเปรย์แอลกอฮอร์ใส่ตัวเองไงคะ”

            “อ้อ...คุณไรเดอร์คนนั้นเอง”

            “เอ่อ...ไรเดอร์ก็ไรเดอร์ค่ะ”  เธอยกมือขึ้นลูบท้ายทอยแก้เขิน จะบอกว่าไม่ใช่ก็กลัวว่าจะทำเขาหน้าแตก แต่งานที่ทำก็ไม่ต่างจากไรเดอร์นัก ถ้าเขามีภาพจำว่าเธอคือไรเดอร์ก็ช่างเถอะ

            ยังดีที่ไม่ใช่คนไข้ของเขา  อิทธิพลถอนหายใจโล่งอก “ผมกำลังจะกลับครับ ว่าจะเรียกรถอยู่”

            “แท็กซี่เหรอคะ เรียกแท็กซี่ตอนผับใกล้ปิดใช้เวลาเกินยี่สิบนาทีแน่นอนค่ะ แต่ถ้าหมออิฐไม่ถือสาให้กะทิไปส่งก็ได้นะคะ เมื่อกี้กะทิมาส่งขนมเค้กเอารถยนต์ที่บ้านมาค่ะ ไม่กล้าเอามอ’ไซค์มา กลัวเค้กหน้าคว่ำค่ะ ฮะฮ่า”

            ผู้หญิงอะไร พูดไปหัวเราะไป

            อิทธิพลสโคลงศีรษะไปมา เอาเถอะ ยังไงเขาต้องเรียกรถกลับคอนโดอยู่ดี นั่งรถเธอไปก็ไม่ได้เป็นอะไรหรอกมั้ง

            “ก็ได้ครับ”

            “ถ้างั้นก็เชิญเลยค่ะ ไปส่งที่คอนโดใช่ไหมคะ หรืออยากไปที่ไหน หรือแวะซื้ออะไรก่อนหรือเปล่า ถ้าจะซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอร์ละก็ เหลืออีกยี่สิบนาทีเที่ยงคืนค่ะ หมออิฐต้องรีบตัดสินใจหน่อยนะคะ”

             “เอ่อ...ครับ ซื้อเบียร์สักแพ็กก็ดี”

            “แพ็กเดียวพอหรือคะ เอายกถาดไหมคะ กะทิพาไปซื้อใกล้ๆ ร้านขายส่งนี่เอง ได้ราคาถูกกว่าที่สำคัญ ถ้าเบียร์หมดแล้วออกมาหาซื้อเบียร์ไม่ได้ มันจะกร่อยเอานะคะ”

            ท่าทางจริงจังของเธอทำเอาเขาต้องก้มหน้าซ่อนรอยยิ้ม แล้วพยักหน้ารับ

“ครับ ตกลงตามนั้น”

            “โอเค.ค่ะ งั้นไปกันเลยนะคะ เชิญทางนี้เลยค่ะ”  เกวลินเดินนำไปที่รถเก๋งญี่ปุ่นคันเล็ก เธอเปิดประตูให้ผู้ชาย  เธอรอจนเขาเข้าไปนั่งเรียบร้อยจึงปิดประตูให้แล้วล้วงมือหยิบโทรศัพท์มือถือส่งข้อความไปบอกพี่ชายว่าเธอจะแวะส่งลูกค้าก่อน ซึ่งเธอก็ทำแบบนี้บ่อยๆ ผู้หญิงมาดื่มมาเที่ยวผับกลับไม่ไหว ผู้จัดการร้านโทรตามเธอให้มาช่วยรับลูกค้าไปส่ง อย่างน้อยก็ผู้หญิงเหมือนกัน สบายใจและปลอดภัยแน่นอน และที่สำคัญ เธอก็ได้ค่าบริการด้วย  การันต์ส่งไอคอนหน้าดุแทนคำตอบ เธอหัวเราะแล้วเก็บมือใส่กระเป๋ากางเกงยีนส์แล้วขึ้นนั่งฝั่งคนขับ

            “เดี๋ยวแวะซื้อของก่อน หมออิฐดื่มเบียร์ยี่ห้ออะไรคะ” 

            รถเคลื่อนออกมาได้ไม่กี่นาทีก็ถึงร้านค้าที่เป็นตึกแถว เหมือนหน้าร้านจะปิดแต่มีคนนั่งเฝ้าด้านนอกอยู่ อิทธิพลบอกยี่ห้อเบียร์ที่ต้องการพร้อมยื่นธนบัตรสีเทาส่งให้ หญิงสาวรับเงินแล้วเดินเร็วๆ ไปสั่งของตามที่เขาสั่ง  ชายหนุ่มมองร่างเพรียวลมเคลื่อนไหวคล่องแคล่วแสดงว่าเธอคงมาซื้อของที่นี่เป็นประจำ เพียงไม่กี่นาทีก็ได้เบียร์หนึ่งถาด พนักงานที่ร้านยกมาให้ใส่เบาะด้านหลังของรถ

            “ตังค์ทอนค่ะ” 

เกวลินยื่นเงินทอนให้เขา แต่ชายหนุ่มส่ายหน้า เธอก็รับไว้อย่างเต็มใจ ทำให้เขาไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจที่ใช้ผู้หญิงไปซื้อเบียร์  

“อยากได้อะไรเพิ่มอีกไหมคะ”  เจ้าของดวงตากลมสวยถามแล้วขับรถไปคอนโดของเขา

“ผมยังไม่ได้บอกทางเลย”  เขาประหลาดใจที่เธอขับรถเส้นทางกลับคอนโดของเขา

“กะทิเคยไปส่งข้าวกล่องให้หมออิฐที่คอนโดค่ะ” เธอยิ้มแต่สายตายังจับจ้องไปที่ถนนเบื้องหน้า “ถ้าหมออิฐยังไม่ได้ย้ายที่พักนะคะ”

“อ้อ...คุณนั้นเอง”  เขาสั่งอาหารประจำที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ร้านที่ได้เมนูมาจากพยาบาล “คุณนี่ทำหลายอย่างจริงๆ”

“ไม่เลือกงานไม่ยากจน งานสุจริตกะทิรับทำค่ะ” เธอหัวเราะเสียงใส “ที่บ้านเป็นร้านอาหารค่ะ พี่ชายเป็นพ่อครัว กะทิเป็นลูกมือ นอกจากข้าวกล่องแล้วก็รับจัด snack box หรือ coffee break เป็นพวกขนมไทยค่ะ แต่ขนมอบก็ทำได้นะคะ อย่างขนมเค้กวันนี้ก็ทำเองค่ะ ทำเองส่งเอง นักเลงพอ ฮะฮ่า”

ถ้าไม่พูดคำหัวเราะคำจะดีมาก เขาว่าตัวเองเมาประมาณหนึ่ง แต่ท่าทางเธอจะเมาพืชสมุนไพรเสียมากกว่า แต่เสียงใสๆ ฟังแล้วก็เพลินหูดีเหมือนกัน

“คุณกะทิทำงานแบบนี้นานหรือยังครับ”  เขาถามนึกสนใจขึ้นมา

“เล่าแล้วเรื่องมันยาวแถมดราม่าอีกเล็กน้อยถึงปานกลาง หมออิฐยังอยากฟังอยู่หรือคะ”  เธอตอบและตบท้ายด้วยเสียงหัวเราะ “คือกะทิเพิ่งเรียนจบค่ะ สมัครงานไว้แล้วหลายทีแต่เงียบสนิท ก็เลยรับจ้างไปทั่วค่ะ ส่งอาหารที่บ้าน รับซื้อข้าวของตามสั่ง รับส่งคนบ้าง อ้อ! เคยมีลูกค้าจ้างไปถวายสังฆทานเป็นเพื่อนด้วยนะคะ ตอนนี้ท่องบทถวายสังฆทานได้แบบไม่ต้องเปิดมือถือดูเลยค่ะ”

“เหมือนจะเคยได้ยินอาชีพแบบนี้”

“เป็นเพื่อนก็ได้นะคะ” เธอพูดขึ้นแล้วเหลือบตามองเขาเล็กน้อย  “เคยมีลูกค้าอกหักอยากหาเพื่อนนั่งฟัง กะทิก็เป็นคนยื่นกระดาษทิชชู่ให้ค่ะ”

“ไม่กลัวเหรอครับ”  เขาถาม “คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ”

“แต่ถือว่าแต้มบุญยังมี ยังไม่เคยเจอเรื่องไม่ดีค่ะ” หญิงสาวยิ้มกว้าง

ราวยี่สิบนาทีก็มาถึงที่หมาย เกวลินจอดรถเรียบร้อยแล้วลงไปอุ้มถาดเบียร์ด้วยตัวเอง อิทธิพลมองเธอตาค้าง ผู้หญิงคนนี้...ดูตัวเล็กๆ แต่แรงเยอะเหมือนกัน

“ไม่ต้องห่วงค่ะ ไม่หนักหรอก”  เกวลินพูดขึ้นเหมือนเข้าใจสายตาของเขา “หมออิฐเดินนำไปเลยค่ะ ถือว่าเป็นบริการของกะทิเอง”

เขาได้แต่ผงกศีรษะยอมรับ เอาเถอะ ถ้าเธออยากอุ้มเบียร์หนึ่งถาดด้วยตัวเองก็ตามใจ เขาเดินเข้าไปในคอนโด กดลิฟต์และเบี่ยงตัวให้เธอเข้าไปก่อน  หญิงสาวเลิกคิ้วเล็กน้อยแต่เดินตามเข้าไปด้านใน

เดี๋ยวนะ...สงสัยเธอจะไม่ชัดเจนพอ เธอคิดแค่ว่าจะอุ้มถาดเบียร์ส่งเขาแค่ลิฟต์ ไม่ใช่ไปส่งถึงห้อง

แต่...

ช่างเถอะ

ก็แค่ไปส่งของนี่

           

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • หมอขาอย่ากินดุ    chapter 27. จบ

    ไม่รู้ทำไม จู่ๆ น้ำตาก็ไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว เธอที่เฝ้ามองเขาอยู่ไกลๆ ค่อยติดตามข่าวของเขาเสมอ แม้มีโอกาสได้ใกล้ชิดก็ไม่เคยแสดงความรู้สึกข้างในออกไป จนวันนี้...เขาอยู่ตรงหน้าและบอกรักเธอ “คนดี ร้องไห้ทำไมครับ” เขายิ้มแล้วจูบซับหยดน้ำตาให้ “ไม่รู้ค่ะ สงสัยไม่สบายแน่เลย” คราวนี้เกวลินหัวเราะทั้งน้ำตา จริงสินะ เวลาแบบนี้ต้องยิ้มดีใจต่างหากล่ะ “อื้ม...ไม่สบายเหรอ งั้นหมอตรวจให้นะครับ” เขายิ้มกรุ้มกริ่ม มือไม้เริ่มลูบไล้ไปตามเรือนร่างที่โหยหาย “พี่อิฐ! คนกำลังซึ้ง” เธอตีมือเขาแต่กลับหัวเราะร่วนจนกระทั่งเขาอุ้มเธอมาที่เตียงเล็กของเธอเอง “ก็กะทิไม่สบาย พี่จะทำให้สบายตัวไงครับ” ปลายลิ้นร้อนตวัดเลียติ่งหูทำให้หญิงสาวหลุดเสียงครางออกมา มือเรียวยกขึ้นคล้องคอเขาแล้วกระซิบเสียงหวาน “กะทิรักพี่อิฐค่ะ” ชายหนุ่มตอบกลับด้วยภาษากาย เขาขยับเคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้าและนุ่มนวลจนคนใต้ร่างได้แต่ครวญครางเรียกร้องให้เขาเติมเต็มความปรารถนาที่เอ่อล้น สองร่างแนบชิดกลายเป็นหนึ่งผสานเสียงลมหายใจและหัวใจสองดวงเต้นไปพร

  • หมอขาอย่ากินดุ    chapter 26.  รักนะครับ

    “อยู่บ้านคนเดียวล็อกบ้านดีๆ ล่ะ” การันต์ย้ำกับน้องสาว “ทำเหมือนจะไปหลายวัน” เกวลินแลบลิ้นใส่ “ไปเถอะค่ะ ปล่อยให้ผู้ใหญ่รอไม่ดีนะคะ” การันต์พยักหน้าแล้วเดินไปที่รถพร้อมวายุ เกวลินรอจนรถออกไปแล้วจึงเดินเข้ามาในบ้าน เกวลินเดินไปหยิบน้ำผลไม้ในตู้เย็นรินใส่แก้ว ยังไม่ทันยกขึ้นดื่มก็ได้ยินเสียงกดออดที่หน้าบ้าน เธอวางแก้วลงแล้วเดินมาที่ประตู “ลืมอะไรหรือคะพี่ตะโก้” เธอถามทันทีที่เปิดประตูออก ทว่าคนตรงหน้ากลับไม่ใช่พี่ชายที่เธอเข้าใจผิดคิดว่าคงลืมของจึงกลับมา “ทำไมไม่ดูให้ดีก่อนเปิดประตู ถ้าเป็นโจรขึ้นมาจะทำยังไง” คนตัวสูงดุแล้วเดินเข้าไปราวกับเป็นบ้านของตัวเองเสียงล็อกประตูทำให้เกวลินได้สติ เธอไม่คิดว่าเขาจะมายืนตรงหน้าอย่างนี้ “พี่...พี่อิฐ” “ก็พี่ไง หรือรอใครอยู่” อิทธิพลขมวดคิ้วแล้วกวาดตามอง “ตะโก้กับวายุไม่อยู่เหรอ” “ค่ะ...ออกไปข้างนอก...” “ดี...พี่มีเรื่องจะคุยด้วย” “เดี๋ยวนะคะ ขอกะทิทำใจก่อน” “ทำใจอะไร” อิทธิพลขมวดคิ้ว “พี่อิฐมาบอกเลิกกะท

  • หมอขาอย่ากินดุ    chapter 25. พูดอะไรไม่ออก

    เกวลินโผล่หน้ามาดู แค่พี่ชายพยักหน้าให้เธอก็ผลุบกลับเข้าไปในครัว รินน้ำดื่มสองแก้วแล้วเดินกลับเข้ามาอีกครั้ง แต่เธอคิดว่าคงไม่เหมาะจะนั่งฟังด้วยจึงหลบไปด้านหลัง ได้แต่ส่งยิ้มให้กำลังวายุที่ยืนหน้าซีดอยู่ และเป็นการันต์ที่กระตุกมือให้วายุนั่งลงข้างเขา “ลูก...ดูสบายดีนะ” คนเป็นแม่เอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “ผมสบายดี” วายุตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งแต่สองมือบีบกันแน่น การได้พบแม่ไม่ได้ทำให้เขากังวลได้เท่ากับเห็นพ่อมาอยู่ตรงหน้าด้วย เขากลัวว่าพ่อจะทำร้ายคนที่บ้านนี้ ซึ่งเขาไม่ยอมให้มีเรื่องเลวร้ายอะไรเกิดขึ้นเด็ดขาด “พ่อรู้ได้ยังไงว่าผมอยู่ที่นี่” “วันนี้พ่อเห็นแกไปออกบูธก็เลยให้คนตามดู” คนเป็นพ่อเอ่ยเสียงอ่อนล้า “ทำไมครับ อยากเห็นว่าผมจะใช้ชีวิตเหลวแหลกอย่างที่พ่อประณามไว้หรือเปล่านะเหรอ” น้ำเสียงวายุก็ปวดร้าวไม่แพ้กัน “เปล่าๆ....พ่อ...พ่ออยากให้แกกลับบ้าน” ถ้อยคำที่ไม่คิดว่าจะได้ยินจากปากของคนตรงหน้าทำให้วายุนิ่งงันไป เขาย้ายสายตาไปมองมารดาที่หยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นซับน้ำตา “กลับบ้านเ

  • หมอขาอย่ากินดุ    chapter 24. ทุกอย่างมันอลหม่านไปหมด

    ‘ใครเป็นฝ่ายทักกันก่อนเล่า’ เกวลินขมวดคิ้วแล้วฉีกยิ้มทักทาย “ว่าไง”“ว่าไง?” เอมอรแอบเบ้ปากในใจ “ก็ไม่มีอะไร แค่จำได้ว่าเธอออกจากโรงเรียนกลางเทอมนี่ ได้ยินว่าท้องเลยหนีตามผู้ชายไป แล้วเป็นไงบ้างล่ะ ป่านนี้ลูกคนโตแล้วสินะ มีอะไรให้เพื่อนอย่างฉันช่วยก็บอกมาได้เลยนะ”แม้เอมอรไม่ได้ใช้น้ำเสียงดังอะไรนัก แต่ถ้อยคำของเธอทำให้คนที่ได้ยินถึงกับนิ่งไป นั้นหมายถึงคุณเกริกและคุณลาวัลย์ที่อดปรายตามองทางเกวลินไม่ได้ หญิงสาวสูดลมหายใจลึกอ้าปากจะโต้เถียงแต่กลับเป็นการันต์ที่ทนไม่ไหวชิงพูดออกไปก่อน“ท้องอะไร หนีตามผู้ชายอะไร” การันต์พูดเสียงดังอย่าไม่อายใครและไม่มีอะไรให้อายด้วย “ยัยกะทิออกจากโรงเรียนตอนม.5ก็จริง แต่เพราะมาดูแลแม่ที่ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย แต่ก็ไปสอบกศน.จนได้วุฒิม.ปลายไง รู้จักไหม การศึกษานอกโรงเรียนนะ แล้วถ้ายัยกะทิเรียนไม่จบม.ปลายมันจะเอาวุฒิที่ไหนไปเรียนมหาวิทยาลัยจนได้เกียรตินิยมอันดับสองเล่า! คิดจะปั้นเรื่องใส่ความคนอื่นก็ช่วยให้มันใกล้เคียงกับความจริงหน่อยเซ่!”“ตะโก้!ใจเย็นๆ” วายุรั้งแขนการันต์ไว้เพราะกลัวว่าคนรักจะเข้าไปตบตีอีกฝ่าย ถึงยังไงคู่กรณีก็เป็นผู้หญิง ทำอะไรไปก็

  • หมอขาอย่ากินดุ    chapter 23. พี่เป็นแค่หมอจนๆ  

    การันต์สบตากับวายุแล้วปลดหน้ากากอนามัยออก ทั้งที่เขาบอกกับวายุไม่ต้องมาช่วยก็ได้ แต่อีกฝ่ายก็เป็นห่วงน้องสาวของเขาที่ยังเจ็บขาอยู่จึงมาช่วยงาน ทำให้เขารู้สึกว่าตนเองคิดไม่ผิดที่พาวายุเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว วายุดึงปลดหน้ากากอนามัยออกแล้วเอียงตัวไปทางการันต์เล็กน้อย มองผิวเผินเหมือนเพื่อนถ่ายรูปคู่กัน มีเพียงแววตาที่มองกันนั้นแตกต่างจากคำว่า ‘เพื่อน’โอ๊ย! พี่ชายเธอตัวใหญ่ยักษ์แต่พี่วายุก็ไม่ได้ตัวเล็กแต่เพราะสูงโปร่งเลยดูบอบบางไปเลย เกวลินกดบันทึกภาพรัวๆ นานๆ จะมีรูปถ่ายคู่กันนอกบ้านที แอบดีใจที่พี่ชายได้เจอคนรู้ใจที่เข้าอกเข้าใจกันดี ชีวิตคนเราจะต้องการอะไรไปมากกว่านี้ หญิงสาวแอบถอนหายใจ บางทีเธอก็คิดว่าตัวเองฝันไปที่ได้คบกับอิทธิพล เขาดูสมบูรณ์แบบไปเสียทุกอย่าง จนบางทีเธอก็คิดว่าตัวเองไม่เหมาะที่จะยืนเคียงข้าง แต่เพราะเห็นรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของเขายามที่อยู่ด้วยกัน ทำให้เธอคิดได้ว่า...ขอแค่ทำให้เขามีความสุขแค่นี้ก็พอแล้ว“หนูกะทิอยู่นี่เอง”เสียงทักจากด้านหลังทำให้เกวลินหันไปส่งยิ้มพร้อมยกมือไหว้ทันที “สวัสดีค่ะคุณลาวัลย์ คุณเกริก”“เรียกเสียห่างเหินเชียว” คุณเกริกหัวเร

  • หมอขาอย่ากินดุ    chapter 22. จะดีเหรอคะ

    “จะดีเหรอคะ นานๆ เลี้ยงทีก็ได้ค่ะ ไม่ต้องเลี้ยงบ่อยนักหรอก เดี๋ยวกะทินิสัยเสียเอาแต่ใจตัวเองขึ้นมา พี่อิฐจะลำบากเอานะ” ตั้งแต่เคยมีแฟนมาก็มีคนนี้ที่บ่นว่าเขาเลี้ยงเธอบ่อยเกินไป อิทธิพลไม่รู้จะทำยังไงดี บางทีทำตัวก็เป็นเด็ก แต่บางครั้งก็เป็นคนมีเหตุผล “ก็ไม่เห็นเป็นอะไรนี่ พี่ชายกะทิบอกให้พี่ไปกินข้าวเย็นที่ร้านได้ กะทิจะได้ไม่ต้องออกมาส่งข้าวให้พี่กิน นี่พี่ก็ประหยัดมื้อเย็นไปอีกหนึ่งมื้อเชียวนะ” เกวลินคิดตามแล้วก็พยักหน้ารับ แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน จะได้ไม่รู้ผิดว่าตัวเองเอาเปรียบเขามากไป “พี่ถามอะไรหน่อยสิ” “ค่ะ” หญิงสาวพยักหน้ารับพลางยกน้ำขึ้นดื่ม “พี่เห็นที่บ้านมีผู้ชายอีกคน ...คนนั้นใครเหรอ” “อ้อ!พี่วายุค่ะ” “แล้ว?” “เอ่อ...” เกวลินชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง ใจหนึ่งก็กลัวว่าเขาจะรังเกียจที่พี่ชายเธอเป็นเกย์ แต่อีกใจก็ไม่รู้ว่าจะปิดบังทำไม พูดไปตรงๆ ดีกว่า “พี่วายุ...เป็นแฟนของพี่ตะโก้ค่ะ” “แฟน?” “อื้ม... ก็แฟนแบบเราสองคนนี้ไง”

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status