ก็ถึงจะไม่ได้เป็นไฮโซโก้หรูติดตัวมาแต่เกิด ไม่ได้มียศฐาบรรดาศักดิ์อะไรในวงสังคมแต่ระดับเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญต้นๆ ของประเทศที่จะเกี่ยวก้อยดองกับเจ้าของธุรกิจวัสดุก่อสร้างรายใหญ่ที่เอื้ออำนวยแก่กันทางด้านธุรกิจมาอย่างช้านานจะน้อยหน้าใครได้ซะที่ไหน
ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเพียงคนเดียวกับลูกสาวสุดรักสุดดวงใจ ถึงจะไม่ได้โด่งดังมากมายแต่รับรองได้ว่าจะต้องขึ้นหน้าหนังสือพิมพ์แน่นอน
“นี่คุณจงใจแกล้งฉันใช่ไหม”
ว่าที่เจ้าสาวจ้องมองคนตัวสูงที่ดูเหมือนจะทำหน้ายียวนกวนประสาทเธออยู่ตลอดเวลา
“ผมจะไปทำแบบนั้นทำไมล่ะคุณ ถ้าเราให้ความร่วมมืองานก็จะจบเร็วไม่ใช่หรือไง เอ๊ะหรือว่าคุณ…”
เจ้าของใบหน้าหล่อยื่นหน้าเข้ามาใกล้เจ้าของใบหน้าบึ้งตึงอย่างมีเลศนัย แถมยังยกมือชี้นิ้วมาที่เธออีกนั่นทำเอาให้อรฤดี ใบหน้าแดงก่ำเมื่อรู้เท่าทั้นความหมายแอบแฝงของชายหนุ่มแถมยังยิ่งเพิ่มความโมโหให้ทวีคูนขึ้นมาอีก
“ได้เลย คุณตั้งใจจะเล่นแบบนี้ใช่ไหม”
อรฤดีเอ่ยพูดเสียงเข้มจ้องเข้าใปในดวงตาคู่คมที่ทำเป็นจ้องกลับอย่างเก่งกาจโดยที่พยายามเก็บซ่อนความตื่นเต้นที่อยู่ในอกไว้อย่างมิดชิด
“อรพร้อมแล้วค่ะพี่แมว เราเริ่มเซ็ตต่อไปกันเถอะค่ะ”
“งั้นเข้ามาเปลี่ยนชุดที่ห้องนี้ได้เลยค่ะน้องอร พี่แมวเตรียมชุดต่อไปไว้ให้แล้วค่ะ”
การถ่ายพรีเวดดิ้งในวันนี้จัดว่าเป็นงานใหญ่ฉากอลังการ และด้วยความสวยความหล่อของคู่บ่าวสาวทำให้พี่ช่างแต่งหน้า ช่างทำผมหรือแม้แต่ลูกน้องของพี่แมวที่อยู่ในร้านอดไม่ได้ที่จะต้องถ่ายภาพเบื้องหลังอันแสนน่ารักกุ้กกิ้กของทั้งคู่อัพลงSocialที่หน้าโปรไฟล์ของตัวเองโดยเฉพาะในเพจร้านของพี่แมวที่จัดว่าเป็นร้านดังอันดับต้นๆ รับแต่งงานไฮโซรวมทั้งดารานางแบบหลายคู่เองก็เรียกใช้บริการครบวงจรจากร้านพี่แมวกันทั้งนั้น
และหลังจากที่รูปภาพของทั้งสองถูกโพสต์ลงในหน้าโซเชียลได้ไม่นานก็มีกระแสตอบรับที่ดีตอบกลับมาในทันที รวมไปถึงได้รับเสียงกรี้ดด ด้วยความรู้สึกเกลียดชังเข้าใส้จากลูกปัดคนรักของจอมทัพด้วยเช่นกัน
“กรี้ดดดด กรี้ดดดดด”
ในห้องนอนหรูหราของไฮโซสาวดังลั่นไปด้วยเสียงกรีดร้องหลายครั้ง แล้วน้ำตาหยดใสๆ ก็ค่อยๆ ไหลเอ่ออาบแก้มนวลลงมา แววตาเคียดแค้นจ้องมองไปที่รอยยิ้มของหญิงสาวในภาพที่เธอรู้สึกเกลียดได้แม้ยังไม่เคยเจอหน้าจังๆ
จะให้ชอบได้อย่างไรก็ในเมื่อผู้หญิงคนนี้กำลังแย่งคนรักไปจากเธอ
“เกลียดฉันเกลียดแก แกต้องไม่มีความสุข แกจะต้องไม่มีวันมีความสุขฉันเกลียดแก เกลียดๆๆๆๆๆ”
ลูกปัดยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาที่แก้มลวกๆ ก่อนจะเรียกสติกลับมาแล้วกดเบอร์โทรของคนรักในทันที…. หัวใจหญิงสาวหวิววาบเมื่อไร้ซึ่งการตอบรับใดๆ แม้จะกดโทรกลับไปอีกหลายต่อหลายครั้งก็ไม่มีวี่แววว่าคนปลายทางจะรับสาย
“ปัดจะพยายามเชื่อใจคุณนะคะจอม”
เธอกัดฟันพูดออกมาเบาๆ ปนน้ำเสียงสะอื้น ในหัวใจเธอมันเจ็บปวดเหลือเกินอยากจะโผตัวเข้าซบกับอกแกร่งของเขาให้รู้สึกอุ่นใจแต่ก็ทำไม่ได้ ทำได้เพียงยืนกำมือแน่นที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้นในใจอยู่เต็มอก
.
.
.
“จะทำผมแบบไหนก็สวยจะชุดไหนก็เหมาะไปซะทุกชุดเลยนะคะน้องอร เบ้าหน้าฟ้าประทานจริงๆ ถ้าชาติหน้ามีจริงพี่แมวขอเกิดเป็นฝาแฝดน้องอรนะคะ และถ้ายิ่งได้เจ้าบ่าวหล่อๆ เหมือนน้องจอมด้วยก็ยิ่งดีเลยค่ะ คิก คิก”
พี่แมวเอ่ยชมอรฤดีตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันจนว่าที่เจ้าบ่าวเริ่มไม่ค่อยจะพอใจเข้าเสียแล้วแต่เขาเองก็พยายามเก็บสีหน้าท่าทางอย่างที่สุด
ก็จะมีใครชอบกันล่ะ ที่คนอื่นมาเอ่ยปากชื่นชมคนของตัวเองถึงแม้จะแต่งกันแบบไม่เต็มใจก็เถอะแต่ถึงยังไงเธอก็ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าสาวของเขาอยู่ดี …
“เซ็ตนี้เป็นเซ็ตสุดท้ายนะคะพี่แมวขอแบบแนบเนื้อหอมจริง จุ๊บจริง กอดกันให้แน่นนนน ..กว่าทุกเซ็ตที่ผ่านมาเลยค่ะ โอเค๊”
พี่แมวพูดจีบปากจีบคอแล้วจบประโยคด้วยท่ายกมือขึ้นมาโอเคโดยที่ไม่ได้รู้สึกเลยว่าคู่ว่าที่บ่าวสาวไม่ได้อยากจะโอเคด้วยเลย
“อ่ะเรามาเริ่มจากหอมแก้มกันก่อนเลยนะคะ ช่างภาพขอมาแล้วค่ะ แสงพร้อม ไฟพร้อม ไปกันเลยค่าา”
ทั้งสองคนตัวแข็งทื่อยืนมองหน้ากันเลิกลั่กเพราะความสมจริงแบบนั้นมันไม่เคยอยู่ในหัวสมองของทั้งสองคนเลยน่ะสิ
“เอ้าเร็วสิคะ สู้ๆ ค่ะ ไม่งั้นพวกคุณพ่อคุณแม่ของน้องจอมน้องอรเอาพี่แมวตายแน่ๆ เลย ค่ะ”
ไม่พูดเปล่านะสิพี่แมวเดินเข้ามาช่วยจัดท่าทางให้อย่างกระฉับกระเฉงจับสองมือของอรฤดีจับกุมมือของจอมทัพที่พี่แมวจับมาโอบกอดเอวคอดของเธอไว้แล้วก็มายืนตรงหน้าของทั้งสองคนทำมือเป็นสัญญาณว่าให้อรฤดีเอียงแก้มแล้วให้ว่าที่เจ้าบ่าวก้มลงมาหอมแก้มนวลนั้นของเธอค้างไว้
“ดีค่าา ดีมากกสวยที่สุด ค้างไว้ก่อนนะคะ”
คงจะมีเพียงพี่แมวคนเดียวเท่านั้นที่ดีอกดีใจยิ้มร่าราวกับถูกหอมซะเอง แต่กับคนที่ถูกหอมจริงๆ ในตอนนี้นั้นหน้าแดงเป็นลูกตำลึงส่วนเจ้าของจมูกโด่งที่หอมก็หัวใจเต้นรัวจนแทบจับจังหวะไม่ได้…
มันเกิดอะไรกับหัวใจควบคุมอะไรไม่ได้สักอย่าง..
อรฤดีตัวแข็งทื่อเป็นก้อนหินไปแล้วก็นี่คือครั้งแรกที่เธอถูกผู้ชายทั้งกอดทั้งหอมถึงแม้จะเป็นเพียงแค่การแสดงก็เถอะเธอยังไม่เคยมีแฟนยังไม่เคยถูกผู้ชายใดสัมผัสแบบนี้มาก่อนเลย
ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่าที่รู้สึกเหมือนกับว่าหัวใจของเขามันเต้นเร็วซะเหลือเกิน..กลิ่นหอมอ่อนๆ จากร่างกายใหญ่โตของเขาฝ่ามืออุ่นๆ ที่โอบกอดเธอ.. ทุกอย่างมันชวนให้หัวใจของเธอก็เต้นรัวไม่ได้ต่างกับเขาแม้แต่นิดเดียว
“อ่ะต่อไปจูบหน้าผากนะคะ หันหน้าเข้าหากัน…”
“คุณโอเคนะ”
คนตัวสูงเอ่ยถามเบาๆ ขณะ ที่กำลังจัดท่าเพราะเห็นว่าว่าที่เจ้าสาวของตนเองหน้าแดงผิดปกติไม่รู้ว่าเธอจะป่วยหรือเปล่า แถมเธอยังมีเหงื่อซึมอกมาตามกรอบหน้าหวานอีกต่างหาก
“มะ ไม่เป็นไรค่ะ โอเค รีบๆ ทำตามที่พี่แมวบอกเถอะจะได้เสร็จเร็วๆ ชั้นอยากกลับบ้านแล้ว”
ชายหนุ่มพยักหน้ารับเบาๆ และพยายามสังเกตุอาการเธอเพราะคิดว่าเธอคงจะกดดันจนอาจจะไม่สบายเข้าให้แล้วถ้าเป็นแบบนั้นเขาเองก็มีส่วนผิดเต็มๆ ที่แกล้งและกดดันเธอมากไปหน่อย
“อื้มมม สวยเริศมากค่ะ ทั้งสองคน จุ้บค้างไว้ก่อนนะคะ”
อรฤดีหลับตาพริ้มเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยรับสัมผัสอุ่นๆ จากริมฝีปากของชายหนุ่มที่จูบประทับลงมาบนหน้าผากมนของตัวเอง สองมือของเขาและเธอจับกันไว้ไม่ปล่อยแม้จะไม่เต็มใจแต่ภาพที่ถูกถ่ายทอดออกมากลับดูหวานละมุนอบอุ่นหัวใจรับรู้ได้ถึงความรักและความห่วงใยของกันและกันได้อย่างไม่น่าเชื่อ
“อ่ะ..เซ็ตต่อไปกันเลยนะคะ เซ็ตสุดท้ายของวันนี้แล้วทำให้เต็มที่เลยนะคะ มานั่งที่โซฟาด้านนี้คะ”
เมื่อทั้งสองคนเดินมานั่งแล้วพี่แมวก็เปิดรูปตัวอย่างแบบที่ต้องการให้คู่บ่าวสาวทำตามด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวังแววตาใสปิ้งๆ เป็นประกาย…
“อรว่า../ ได้ครับไม่มีปัญหา!”
จอมพัทพูดแทรกขึ้นมาโดยไม่รอให้อรฤดีพูดจบเมื่อได้ยินอย่างนั้นพี่แมวก็ยิ้มกว้างออกมาในทันที ก็คู่รักกันนี่เนอะแค่จูบกันนิดเดียวสบายมากอยู่แล้ว
“ชั้นทำไม่ได้หรอกนะ คุณไปรับปากพี่แมวแบบนั้นได้ยังไง”
“คุณอยากให้เรื่องถึงหูพ่อแม่ของเราหรือไง จูบธุรกิจเองนะคุณผมไม่ได้คิดอะไรกับคุณแน่นอนรับรองได้”
“แต่นี่มันจูบแรกของชั้นนะมันควรจะเป็นคนที่ชั้นรักสิ ไม่ใช่คุณ”
“…”
“คุณว่าอะไรนะ..จูบแรกงั้นเหรอ”
“…”
เขามองหน้าเธอด้วยแววตาเรียบนิ่งราวกับว่ากำลังค้นหาคำตอบอะไรบางอย่างในแววตาคู่นั้นของเธออรฤดีไม่ได้ตอบคำถามของเขาอีก มีเพียงใบหน้างอง้ำด้วยความไม่พอใจเท่านั้นที่แสดงออกมาให้ชายหนุ่มได้เห็น
“ผมขอโทษที่พูดแบบนั้นออกไป..”
“ทำไมต้องเจอผู้หญิงหน้าด้านที่นี่นะ”คำพูดของลูกปัดดังพอที่จะทำให้ทั้งอรฤดีและกรองขวัญได้ชัดชัดเจนจนต้องเงยหน้ามามองตากันในทันทีตอนนี้อรฤดีรู้แล้วว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนรักของว่าที่สามีเธอและเป็นผู้หญิงเดียวกันกับที่เดินชนเธอในวันก่อนไม่รู้ทำไมเมื่อเรียบเรียงสถานการณ์ได้อย่างนั้นแล้วก็เกิดความความรู้สึกไม่พอใจบางอย่างขึ้นมาทันทีทั้งที่ตกตกลงกันไว้เรียบร้อยแล้วแต่ปล่อยให้มีเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ยังไงอรฤดีหันไปมองลูกปัดด้วยแววตาเอาเรื่องแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปเพราะไม่อยากจะทำให้ เสียบรรยากาศอุตส่าห์ตั้งใจจะกินไอติมให้อารมณ์เย็นลงให้ใจดีขึ้นมา แต่กลับมาเจอต้นต่อตัวปัญหาเข้าเต็มๆ“มองทำไมยะ ไม่เคยเห็นคนมากับแฟนรึไงหรือว่ามองเพราะอยากจะได้ของของคนอื่นจนตัวสั่น!”“มันจะมากไปแล้วนะนังลูกปัด จะพูดจะจาอะไรหัดคิดก่อนซะบ้าง”กรองขวัญเอ่ยพูดสวนขึ้นมาทันที เมื่อ รู้สึกว่าผู้หญิงที่สวยแต่เปลือกคนนี้นั้นพูดจารุนแรงเกินไป“แหมก็เรื่องจริงทั้งนั้นทนฟังไม่ได้เหรอ จะคบเพื่อนก็เลือกคบหน่อยนะ ระวังจะโดนเพื่อนรัก สวมเขาให้รู้ตัว”ลูกปัดเบะปากพูดจีบปากจีบคอหน้าระรื่นหันไปทางกรองขวัญเพื่อนที่สนิทและก็ไม่อยากสน
”อ้าวสวัสดีครับเจอกันอีกแล้ว“เสียงที่ไม่ค่อยคุ้นหูจากคนที่ไม่ค่อยคุ้นหน้าเอ่ยทักทายอย่างเป็นกันเองด้วยรอยยิ้มพร้อมกับสองขาที่สาวเท้าก้าวเดินเข้ามาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าอรฤดีด้วยท่าทางที่เป็นมิตรกว่าครั้งก่อนที่เจอ”วันนี้มาคนเดียวเหรอครับ“ชายหนุ่มเอ่ยถามพร้อมกับกวาดสายตามองรอบๆ ไปด้วยซึ่งก็ไม่เห็นว่าจะมีเงาของจอมทัพหรือใคร“อรมากับเพื่อนค่ะ”“ผมอยากรู้จักคุณมากกว่านี้นะ..””อย่าดีกว่าค่ะอรกำลังจะแต่งงานแล้วนะคะคงจะดูไม่ดี“”การแต่งงานปลอมๆ น่ะเหรอครับ“ทันทีที่เปรมพูดอย่างนั้นอรฤดีก็เงยหน้าขึ้นมองสบตาเขาทันทีเพราะไม่คิดว่าชายหนุ่มตรงหน้านี้จะรู้ความจริง“คุณรู้ได้ยังไงคะ”“ผมรู้ได้ยังไงไม่สำคัญหรอกครับ ที่สำคัญคือผมช่วยคุณได้ถ้าหากคุณต้องการ”ชายหนุ่มตรงหน้าพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นเขาถูกใจเธอตั้งแต่แรกพบแต่เมื่อเห็นว่าเธอนั่งอยู่กับคนรักของน้องสาวตนเองในวันนั้นก็รู้สึกผิดหวังไม่น้อยที่เธอเข้ามาเป็นบุคคลที่สามของชีวิตคู่คนอื่น แต่เมื่อได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดจากปากน้องสาวของตัวเองเขาก็มีแรงฮึดสู้ที่จะสานสัมพันธ์กับเธออีกครั้ง แล้วตอนนี้เขาก็พร้อมลุยเดินหน้าเต็มที่เพื่อที่จะดึงผู้หญิงคนนี้
หลายวันต่อมา “ไม่ต้องห่วงนะคะคุณแม่ขวัญจะคอยเคี่ยวเข็ญให้ยายอรทำตามที่คุณแม่พูดอย่างเคร่งครัดเลยค่ะ”กรองขวัญจีบปากจีบคอพูดรับปากสิริวดีแม่ของเพื่อนสนิทตัวเองเป็นมั่นเป็นเหมาะในการรับหน้าที่พาอรฤดีไปเข้าคอร์สเจ้าสาวในวันนี้“ดีมากลูกถ้าเกิดว่ายายอรดื้อขึ้นมาโทรบอกแม่เลยนะ”“ได้เลยค่ะคุณแม่ไม่ต้องห่วงนะคะขวัญจะดูแลอย่างดีเลยค่ะงั้นพวกเราไปก่อนนะคะ”คนเป็นแม่โบกมือบ๊ายบายให้กับหญิงสาวทั้งสองที่รักปานดวงใจ เห็นลูกสาวของเธอมีเพื่อนสนิทที่รักใคร่กันดีพร้อมให้ความช่วยเหลือกันแบบนี้คนเป็นแม่แบบเธอก็นอนตายตาหลับ แต่ดูเหมือนว่าที่เจ้าสาวจะหน้างอไม่พอยังไม่ค่อยให้ความร่วมมือสักเท่าไหร่อีกต่างหาก “ไม่เห็นจำเป็นเลยคอร์สเจ้าทรงเจ้าสาวอะไรมันจะทำให้สวยขึ้นมาได้สักแค่ไหนกันเชียวก็แค่แผนการตลาดหาเงินเพิ่มเฉยๆ ไม่ใช่เหรอ”อรฤดีขึ้นมาบนรถคาดเข็มขัดนิรภัยเสร็จแล้วก็นั่งกอดอกแล้วบ่นอุ๊บอิ๊บในทันที “จะบ้าเหรออรมันจำเป็นมากเลยนะ ไม่ว่าแกจะแต่งเล่นหรือแต่งจริงแต่งแล้วจะอยู่ทนหรือจะเลิกมันไม่สำคัญมันสำคัญตรงที่วันที่แกได้แต่งตัวแต่งหน้าแต่งชุดเจ้าสาวคนที่สวยที่สุดในงานก็คือแกทุกสายตาจะต้องจับจ้องมาที่แก
วันต่อมา รถยนต์คันหรูแล่นมาถึงเรือนหอหลังโตของทั้งสองคนที่อยู่แถวชานเมืองภายในรั้วกว้างใหญ่มีบ้านสองชั้นในสไตล์โมเดิร์น luxuryตั้งอยู่อย่างสวยงาม.. จะให้น้อยหน้าใครได้อย่างไรกันล่ะ จะให้เสียชื่อเจ้าของอสังหาริมทรัพย์และเจ้าของธุรกิจวัสดุก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดได้ยังไงทุกอย่างต้องออกมาสวยงามและดีที่สุดเท่านั้นทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์แล้วพร้อมเข้าอยู่ภายในถูกตกแต่งได้อย่างสวยงามหรูหราทั้งchandeliereและเฟอร์นิเจอร์พื้นที่ใช้สอยทุกอย่างลงตัว แต่ดูเหมือนว่าที่บ่าวสาวนั้นจะดูไม่ค่อยตื่นเต้นยินดีกันสักเท่าไหร่นะ…แน่ล่ะก็นี่มันเป็นงานแต่งงานปลอมๆ นี่นา “ต้องการปรับแก้ตรงไหนหรือต้องการเพิ่มเติมอะไรตรงส่วนไหนแจ้งผมได้เลยนะครับ”เลขาส่วนตัวของสุเมธเดินตามทั้งสองคนเพื่อคอยแนะนำและคอยดูแลบริการตั้งแต่ที่ว่าที่คู่บ่าวสาวมาถึง “คุณอยากปรับเปลี่ยนแก้ไขอะไรตรงไหนไหม”คนตัวสูงหันมาเอ่ยถามว่าที่เจ้าสาวของเขาที่กำลังเดินสำรวจดูห้องนั้นห้องนี้ไปทั่วทั้งที่ขาตัวเองก็สั้นนิดเดียว “ไม่นะคะ ดีมากสวยมากๆ เลยค่ะ ชั้นชอบ” คำตอบของเธอไม่เพียงแต่ทำให้เลขาของสุเมธยิ้มออกมาเท่านั้นจอมทัพเองก็เช่นกันยิ่งเห็นเธอชอบเ
“แกยังไม่เลิกกับผู้หญิงคนนั้นอีกเหรอตาจอม”ทัศนีย์แม่ของจอมทัพเดินดุ่มๆ มาเอ่ยถามเมื่อเรื่องที่ร้านอารวันนี้เข้าถึงหูเธอและก็รู้อีกด้วยว่าเรื่องนี้ทำให้ว่าที่ลูกสะใภ้ของเธอเสียความรู้สึกไปไม่น้อย“ปัดเค้าก็ไม่ได้ทำอะไรผิดนี่ครับคุณแม่ แล้วผมก็รักเธอ”“เห้อ..ลูกคนนี้ แกจะเคยรักเคยชอบกันน่ะแม่ไม่ว่าหรอกนะแต่แม่จะบอกเอาไว้อย่างนึงว่าคนที่เค้ารักกันจริงๆ นะลูกเค้าจะไม่ทำแบบนั้นเด็ดขาดไม่ว่าจะมีเหตุผลอะไร” คนเป็นแม่ส่ายหัวมองลูดด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความห่วงใยแต่ก็ไม่ค่อยจะพอใจกับการกระทำของลูกชายตัวเองด้วยเหมือนกันจอมทัพก้มหน้าหลบสายตาของผู้หญิงที่ผ่านโลกมานานตรงหน้าด้วยความสับสนภาพในอดีตต่างๆ เริ่มไหลบ่าเข้ามาอีกครั้ง … “แม่รักและหวังดีกับลูกเสมอนะ”เธอยกมือขึ้นลูบหัวลูกชายที่ดูกำลังสับสนและอ่อนแอเบาๆ ก่อนจะสวมกอดที่เต็มไปด้วยความรักของคนเป็นแม่อย่างสุดหัวใจ “ผมก็รักแม่ครับ”ชายหนุ่มโน้มตัวลงมาสวมกอดตอบในทันที อ้อมกอดนี้ของเธอไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ยังคงอบอุ่นเหมือนเดิมเสมอเลยจริงๆ …“อ่อ แม่มีอีกเรื่องสสำคัญจะบอกกับลูกนะ” “ครับแม่ ..”มือเล็กของคนเป็นแม่ลูบหลังของลูกชายตัวโตเบาด้
“ผมขอโทษที่พูดแบบนั้นออกไป..” “อ้าวเร็วๆ สิคะทั้งสองคนจัดท่าตามในรูปได้เลยค่ะ ต้องออกมาสวยมากแน่ๆ”รูปที่พี่แมวยื่นให้ทั้งสองคนดูคือภาพที่เจ้าบ่าวนั่งอยู่บนโซฟาโดยที่มีเจ้าสาวร่างเล็กนั่งอยู่บนตักของเขาพร้อมกับสองแขนที่โอบลำคอหนาของชายหนุ่มไว้มือข้างหนึ่งของเจ้าบ่าววางลงบนขาเรียวของเจ้าสาวส่วนอีกมือโอบประคองบั้นท้ายของเธอเอาไว้ราวกับว่าอยากจะกอดจะกลืนกินเธอเข้าไปเสียให้หมดทุกสัดส่วน..แล้วค่อยๆ โน้นใบหน้าเข้าแนบชิดประกบริมฝีปากจูบซับความหวานถ่ายทอดความอบอุ่นแผ่วเบาผ่านสัมอันแสนอ่อนโยนให้แก่กันและกัน.. อรฤดีหันไปมองหน้าพี่แมวอีกครั้งด้วยความลังเลทั้งที่ตอนนี้เธอนั่งอยู่บนตักของชายหนุ่มเรียบร้อยแล้ว พี่แมวพยักหน้าหงึกๆ ให้เธอเป็นสัญญาณว่าให้เธอจูบกับเจ้าบ่าวได้แล้ว“เชื่อใจผมนะ”ไม่รู้อะไรดลใจให้เขาพูดออกมา แต่ทั้งน้ำเสียงและแววตาบวกกับอ้อมกอดที่ให้ความรู้สึกปลอกภัยนั้นทำให้อรฤดีคลายความกังวลใจลงไปได้อย่างไม่น่าเชื่อก่อนจะค่อยๆ โน้มใบหน้าเข้าไปรับสัมผัสอ่อนโยนจากริมฝีปากหนาของชายหนุ่มราวกับถูกดึงเข้าไปอยู่ในห้วงมนต์สะกดของเขาอย่างง่ายดายมีเพียงลมหายใจแผ่วเบาของกันและกันเท่านั้นที่บอกไ