แชร์

บทที่ 112

ผู้เขียน: จิ้งซิง
เวินอวี้จือกล่าวเตือนเขา “มีเรื่องอะไรก็ค่อยพูดกันวันหลัง อย่าลืมจุดประสงค์ที่พวกเรามาที่นี่ในวันนี้”

เวินฉางอวิ้นที่เดิมทีแล้วตั้งใจจะถามบิดาให้ชัดเจนก็ชะงักไป

จริงสิ ธุระสำคัญในวันนี้คือการฉลองวันเกิดให้กับน้องห้า

อย่ามัวเสียเวลาในวันเกิดของน้องห้าเลย

“เฮ้อ ไม่ต้องหรอก ข้าไม่รีบ”

เวินซื่อยิ้มเล็กน้อย “ถ้าพวกท่านมีอะไรจะพูด ก็พูดให้ชัดเจนตอนนี้เลยก็ได้”

นางกำลังมีความสุขที่ได้ดูละครฉากนี้

เวินเยวี่ยไม่อยากให้นางได้ดูละครอยู่ตรงนี้จริงๆ

หากไม่ขัดขวางเสียหน่อย เกรงว่าเวินฉางอวิ้นก็จะหลุดพ้นจากการควบคุมของนางแล้ว

เวินเยวี่ยรีบยิ้มออกมาทันทีพลางเอ่ยขึ้น “ไม่ว่าจะเป็นคำพูดใด ก็ไม่สำคัญเท่ากับวันเกิดของพี่หญิงห้าในวันนี้ ท่านว่าจริงหรือไม่ พี่ใหญ่?”

เวินฉางอวิ้นพยักหน้าโดยไม่รู้ตัว “ใช่ น้องหกพูดถูก”

“ได้”

เวินซื่อที่ไม่ได้ดูละครสนุกๆ ก็แบมือทั้งสองข้างออกไป แล้วกล่าวกับเวินเฉวียนเซิ่งและคนอื่นๆ “เช่นนั้นก็เอามาสิ”

“อะไรนะ?”

เวินฉางอวิ้นยังไม่ทันได้ตอบสนอง ยืนอยู่ที่เดิมด้วยสีหน้างุนงง

“ของขวัญอย่างไรเล่า”

เวินซื่อยิ้มอย่างคลุมเครือพลางเอ่ยขึ้น “พวกท่านไม่ได้ตั้งใจมาอวยพรวั
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก
ความคิดเห็น (2)
goodnovel comment avatar
Mini Aston Porsche
ดูลักษณะแล้วน่าจะโดนวางยา คาถา อาคม อะไรซักอย่าง เหมือนพี่รองจะเริ่มลหุดการควบคุมมานิดหน่อยแล้วนิ
goodnovel comment avatar
WLFJ
พวกพี่ๆ เป็นอะไรไป ทำไมถึงรักน้องต่างมารดามากกว่า มันไม่เมคเซ้นอ่ะ แล้วจะมาอวยพรวันเกิดทำไม ดูวุ่นวายมาก
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทล่าสุด

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1042

    “รนหาที่ตาย”ใบหน้าของเป่ยเฉินหยวนเคร่งขรึม เขาสั่งเสี่ยวหานและจู๋เยวี่ยก่อน “คุ้มครองนายหญิงของพวกเจ้าให้ดี”จากนั้นก็ออกคำสั่ง ไว้ชีวิตหนึ่งคน ที่เหลือฆ่าให้หมด”“พ่ะย่ะค่ะ!”กองทัพธงดำทั้งหมดที่อยู่รอบรถม้าของหลานซื่อ พลันเข้าจู่โจมชนต่างเผ่าและฝูงหมาป่าเหล่านั้นทันทีเสี่ยวหานและจู๋เยวี่ยคุ้มกันอยู่ทางซ้ายและขวาของรถม้า ไม่ยอมห่างแม้แต่ก้าวเดียวในมือของเป่ยเฉินหยวนถือดาบใหญ่ สายตาคมกริบจับจ้องไปยังคนของชนต่างเผ่าสิบกว่าคนนั้น ขณะที่กำลังจะลงมือ เสียงที่กดต่ำลงของหลานซื่อก็ดังมาจากในรถม้าด้านหลัง“ท่านอ๋อง ทิศตะวันตกเฉียงใต้ จับชายคนที่มีแผลเป็นบนโหนกคิ้วไว้”สายตาของเป่ยเฉินหยวนกวาดมองไปรอบหนึ่ง ก็จับจ้องไปยังชายร่างเล็กคนหนึ่งซึ่งหลบอยู่ด้านหลังคนต่างเผ่าคนอื่นๆ ท่าทางหลบๆ ซ่อนๆ ใบหน้าดำคล้ำซูบผอม และบนโหนกคิ้วก็มีแผลเป็นอยู่จริงๆ ทันทีที่เป่ยเฉินหยวนเห็นคนผู้นั้น เขาก็หยิบธนูและลูกศรขึ้นมาทันที เล็งเป้าผ่านฝูงชนและฝูงหมาป่าไปโดยตรงชายร่างเล็กคนนั้นดูเหมือนจะสัมผัสได้ถึงอันตราย ขณะที่คนต่างเผ่าคนอื่นๆ และฝูงหมาป่ากำลังพุ่งเข้าสังหาร เขากลับแอบถอยหลังไปเรื่อยๆ จนกระท

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1041

    “ธิดาศักดิ์สิทธิ์ ต้องการให้ข้ากับจู๋เยวี่ยไปจัดการพวกเขา...?”เสี่ยวหานยื่นมือแล้วทำท่าปาดคอหลานซื่อยิ้ม “ตอนนี้ยังไม่ต้อง พวกเขานำคนมาไม่น้อย แถมในนั้นยังมีคนที่น่าสนใจอยู่ด้วย”หลานซื่อคาดไม่ถึงว่า โอวหยางอวี้เทียนและโอวหยางอวี้ซู่จะนำเรื่องน่าประหลาดใจนี้มาให้กับนางทันทีที่คนกลุ่มนั้นตามมา ในชั่วพริบตาที่เหล่าแมลงพิษตรวจพบ พวกมันก็สัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่ซ่อนเร้นอยู่จางๆ ท่ามกลางคนเหล่านั้นแรงกดดันชนิดนี้เป็นสิ่งที่เหล่าแมลงพิษคุ้นเคยเป็นอย่างดีเมื่อส่งสัญญาณมาให้หลานซื่อ นางก็รู้ได้ทันทีว่าคืออะไรคือราชากู่หลานซื่อกำลังกลุ้มใจว่าจะไปหาราชากู่ตนใหม่จากที่ใดมาเพิ่มพลังให้อวิ่นซิงอยู่พอดี ผลก็คือคาดไม่ถึงว่าเพิ่งจะออกจากด่านชายแดนก็ได้พบกับเรื่องน่าประหลาดใจเสียแล้วแม้แต่อวิ่นซิงเองพอรับรู้เรื่องนี้ก็อดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นขึ้นมาเล็กน้อยเพียงแต่คนผู้นั้นปลอมตัวมาอย่างแนบเนียนยิ่งนัก ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นคนใดในบรรดาคนที่สองพี่น้องโอวหยางนำมาด้วยหลานซื่อไม่ให้เสี่ยวหานไปจัดการพวกเขา ก็เพราะไม่อยากแหวกหญ้าให้งูตื่น เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้อีกฝ่ายเห็นท่าไม่ดีแล้วลอบห

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1040

    เมื่อมาถึงลู่โจว ตามหลักแล้วควรจะไปเยี่ยมเยียนคารวะหนิงหย่วนโหวแต่เนื่องจากสองวันก่อนหนิงหย่วนโหวไม่ได้อยู่ในเมืองหลักของลู่โจว แต่อยู่ที่ด่านจูหยาง เพื่อรับมือกับชนต่างเผ่าที่เข้ามารุกรานด่านและชาวบ้านในบริเวณใกล้เคียงอยู่บ่อยครั้ง ดังนั้นหลานซื่อและคนอื่นๆ จึงส่งจดหมายไปให้หนิงหย่วนโหวหลังจากที่มาถึงด่านจูหยางแล้วแต่คาดไม่ถึงว่า ผู้ที่รับจดหมายเพียงแค่เหลือบมองเวินเฉวียนเซิ่งที่นั่งอยู่บนเก้าอี้รถเข็น แล้วก็โยนจดหมายกลับคืนให้เขาทันที“แค่พ่อค้าเร่ไม่กี่คน คิดจริงๆ หรือว่าท่านโหวของเราเป็นคนที่ใครก็สามารถเข้าพบได้? รีบไสหัวไปเสีย ไม่เช่นนั้นก็อย่าหาว่าข้าไม่เตือน เรียกคนมาลากพวกเจ้าออกไป”สถานการณ์เช่นนี้ทำเอาแม้แต่เวินเฉวียนเซิ่งยังต้องขมวดคิ้ว “นำจดหมายนี้ไปมอบให้ท่านโหวของพวกเจ้า ท่านโหวของพวกเจ้าย่อมรู้เองว่าจะพบพวกเราหรือไม่”“ไสหัวไปๆ ๆ อย่ามัวพูดจาไร้สาระอยู่ที่นี่ ท่านโหวของเรายุ่งมาก ไม่มีเวลามาพบพวกเจ้า ยิ่งไม่มีเวลามาอ่านจดหมายของพวกเจ้า รีบไสหัวไป!”ถูกทหารกระจอกๆ คนหนึ่งตะคอกใส่ครั้งแล้วครั้งเล่าตอนที่เวินเฉวียนเซิ่งอยู่ในเมืองหลวง เคยต้องมาถูกหยามเช่นนี้ที่ไหน

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1039

    เมื่อได้ยินเช่นนี้ เวินเฉวียนเซิ่งก็รู้สึกว่าบุตรสาวของตนผู้นี้ช่างไร้เดียงสาจนน่าหัวเราะยิ่งนัก“คำสั่งของบิดามารดาอย่างนั้นหรือ? เจ้าคิดว่าเขาเป็นใคร?”มุมปากของเวินเฉวียนเซิ่งยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเย้ยหยัน “เขาคือเป่ยเฉินหยวน คืออ๋องผู้สำเร็จราชการแทนที่เจ้าพูดถึง คนในจวนอ๋องเป่ยเฉินของพวกเขา นอกจากเขาแล้วก็ตายไปจนหมดสิ้นแล้ว ต่อให้เจ้ามีสัญญาหมั้นหมายกับเขาจริงๆ ตราบใดที่เขาไม่ต้องการ เจ้าคิดว่าในโลกนี้ยังมีผู้ใดสามารถบังคับเขาได้อีก?”เวินเยวี่ยได้ฟังคำพูดเหล่านี้ สีหน้าก็ยิ่งซีดเผือดลงเรื่อยๆ หลังจากฟังจบ นางก็ทั้งอับอายทั้งโมโหจนกล่าวออกมาด้วยความขุ่นเคือง “เช่นนั้นคำพูดของท่านพ่อเมื่อครู่หมายความว่าอย่างไร? ท่านพ่อไม่ได้บอกหรือว่า ไม่ว่าจริงหรือเท็จ จี้หยกถงซินนั่นจะต้องเป็นของข้า? ในเมื่อสัญญาหมั้นหมายใช้ไม่ได้แล้ว เช่นนั้นข้าเอาจี้หยกถงซินนั่นมาจะมีประโยชน์อันใด?!”“โง่เง่า!”เวินเฉวียนเซิ่งจ้องมองนางอย่างขัดใจที่ไม่ได้เรื่องแวบหนึ่ง “สัญญาหมั้นหมายใช้ไม่ได้ นั่นมันสำหรับเจ้า แต่หากปล่อยให้จี้หยกถงซินนั่นอยู่ในมือของหลานซื่อต่อไป สัญญาหมั้นหมายจะยังใช้ได้หรือไม่ก็ไม่แน่แล้ว

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1038

    ช้าก่อนแม้หลานซื่ออาจจะไม่สนใจบิดาและพวกพี่ชายแล้ว แต่หากนางบอกความลับของหยกแขวนกับท่านพ่อในชาตินี้ ท่านพ่อย่อมต้องสนใจแน่นอนขอเพียงท่านพ่อสนใจ ต่อให้ตอนนี้ท่านพ่อจะถูกกดข่ม แต่ด้วยความสามารถของท่าน ต้องช่วยนางแย่งหยกแขวนมาได้แน่นอน!เมื่อคิดได้ดังนั้น แววตาเวินเยวี่ยมีประกายแวบผ่านจากนั้นนางเอ่ยถาม “ใช่สิ ท่านพ่อ ก่อนหน้านี้มีเรื่องหนึ่งที่ข้าลืมบอกท่านมาตลอด ไม่ทราบท่านเคยเห็นหยกแขวนบนตัวพี่หญิงหรือไม่?”“หยกแขวน?”เวินเฉวียนเซิ่งมองนางแวบหนึ่ง “หยกแขวนอะไร?”เวินเยวี่ยหลบตาเล็กน้อย นางบรรยายลักษณะของหยกแขวนที่ตัวเองเคยเห็นในชาติที่แล้วให้ฟัง “เป็นจี้หยกถงซินชิ้นหนึ่ง”“ไม่เคยเห็น”เวินเฉวียนเซิ่งย่อมไม่เคยเห็นชาตินี้ หลานซื่อเก็บซ่อนหยกแขวนเอาไว้อย่างดีอย่าว่าแต่เวินเฉวียนเซิ่ง แม้แต่พวกเสี่ยวหานก็น้อยนักที่จะเห็นหยกแขวนของหลานซื่อ“เจ้าถามหยกแขวนของนางทำไม?”เวินเฉวียนเซิ่งขมวดคิ้ว “ทำไม พ่อเพิ่งตักเตือนเจ้าไป เจ้าก็จำคำพูดของพ่อไม่ได้แล้ว ยังอยากไปหาเรื่องนางหรือ?”เวินเยวี่ยรีบเอ่ยขึ้น “ไม่ใช่นะท่านพ่อ ข้าไม่ได้จะไปหาเรื่องพี่หญิง”นางเม้มปาก เผยท่าทางน่าสงสาร

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1037

    “พวกเจ้า!”เวินจื่อเยวี่ยเตรียมด่าทอกลับ ด้านหลังมีเสียงลมรวดเร็วดังขึ้นกะทันหันความรู้สึกอันตรายที่รุนแรงทำให้เวินจื่อเยวี่ยหันหลังยกสองมือขึ้นอยากป้องกันตัวเองทว่าวินาทีต่อมา เขากลับถูกคนด้านหลังซึ่งไม่รู้ปรากฏตัวตั้งแต่เมื่อใดถีบอย่างแรงจนตัวปลิวอีกครั้งหนำซ้ำยังถูกถีบจนหน้าต่างเสียหาย ร่วงลงมาจากชั้นสามโดยตรง ตกลงไปบนถนนของชั้นหนึ่งเสียงดังปังขณะเดียวกัน เขาร่วงลงไปข้างรถม้าคันนั้นที่จอดอยู่ข้างถนน“เกิดอะไรขึ้น?”ภายในรถม้า เวินเยวี่ยสะดุ้งกับความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นกะทันหันนางยังรอให้เวินจื่อเยวี่ยพาตัวอีกฝ่ายมาให้นาง แต่ผ่านไปครึ่งวันก็ยังไม่ลงมา หลังนางขมวดคิ้ว สุดท้ายจึงเปิดผ้าม่านมองดูข้างนอกเมื่อได้มองดูทำให้เวินเยวี่ยตกใจจนรูม่านตาหด“พี่สาม?! ท่านเป็นอะไรไป?”นางรีบลงจากรถม้า เมื่อเงยหน้ามอง เห็นเพียงชั้นสามของโรงเตี๊ยมไหลฝูกลายเป็นรูใหญ่ ส่วนสภาพของเวินจื่อเยวี่ย เห็นได้ชัดว่าร่วงลงมาจากข้างบนเวินเยวี่ยเอ่ยถามด้วยความตื่นตระหนก “พี่สาม ท่านไปหาพี่หญิงมาดูอาการให้ข้าไม่ใช่หรือ? ทำไมจู่ ๆ ถึงร่วงลงมาจากชั้นสามล่ะ?!”ขณะนี้เวินจื่อเยวี่ยที่ร่วงลงมาบาดเจ็

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status