ทางด้านยอดนรีเมื่อหลบหน้าเขาเข้ามาในห้องน้ำก็จ้องหน้าแดงก่ำของตัวเองอยู่ในห้องน้ำอย่างขัดเขินกับความใจกล้าบ้าบิ่นของตน บวกกับคำท้าทายแกมให้กำลังใจของจารณที่บอกกับเธอว่า สมัยนี้ผู้หญิงไม่ต้องรอให้ผู้ชายเป็นฝ่ายเริ่มหรอก หากมั่นใจว่าคนนี้คือใช่ คือคนที่เลือกก็รุกเสียเอง เปิดหน้าลุยเลยขืนชักช้าจะเสียโอกาสดีๆ ไป เพราะคนอย่างเจคอปนั้นเพียบพร้อมสมบูรณ์แบบ ผู้หญิงที่ไหนก็อยากได้เขาอยากครอบครองเป็นเจ้าของเขา และแน่นว่า เธอไม่มีวันยอมให้ใครมาฉกเขาไปจากมือแน่นอน เจคอปจะต้องเป็นของเธอคนเดียวเท่านั้นชะนีหน้าไหนก็อย่าบังอาจมาแย่ง...
“แต่จำไว้อย่างนะยอด อย่าไว้ใจใครบนเกาะนี้..โดยเฉพาะคนในคฤหาสน์ หรือแม้แต่คนที่เหมือนไม่มีอะไรให้ต้องกลัว..”
แล้วยอดนรีก็อดที่จะนึกถึงคำพูดของจารณก่อนจะแยกจากกันไม่ได้ คำพูดนั้นหนักแน่นจริงจังและแฝงไว้ด้วยความห่วงใย จริงใจ...
“รวมทั้งพี่จิมด้วยหรือคะ”
“ใช่..” เขาตอบจริงจัง
“เพราะบางครั้ง คนเราก็อาจจะทำในสิ่งที่ตัวเองไม่ต้องการก็ได้ และนั่นล่ะคือสิ่งที่เจ็บปวดที่สุด..”
“พี่จิม..”
“จำไว้นะ อย่าลืม ระวังตัวให้ดีๆ และรีบทำตามฝันซะ..” ไม่วายที่เขาจะย้ำให้เธอทำในสิ่งที่ตัวเองวาดฝันและต้องการ
“มันคืออะไรกันนะ พี่จิมพูดแปลกๆ มันต้องมีอะไรสิน่า”
หญิงสาวบ่นงึมงำกับตัวเองก่อนจะสลัดศีรษะแรงๆ แล้วหยุดคิดฟุ้งซ่าน รีบอาบน้ำแต่งตัวแล้วลงไปรับประทานอาหารรวมกับทุกคน...
ยอดนรีเดินออกมาจากห้องในเวลาโพล้เพล้ แสงตะวันยามเย็นลอดผ่านกระจกที่ประดับตกแต่งบานหน้าต่างดูหรูหรางดงามราวภาพวาด หญิงสาวเดินไปที่ระเบียงเพื่อพิศมองความงดงามนี้อย่างอดใจไม่ไหว จึงไม่ได้เห็นว่ามีสายตาที่มาดร้ายจ้องมองตนอยู่
ร่างระหงกำลังชื่นชมอยู่กับบรรยากาศแสนสวยทว่าเงียบสงัด เพราะในช่วงนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมีสาวใช้เดินเพ่นพ่านหรือทำงานบนตึก เนื่องจากนี่คือช่วงเวลาเลิกงานของพวกเขานั่นเอง ดังนั้นบนตึกใหญ่ของคฤหาสน์ คนที่จะมีสิทธิ์เดินไปมาได้คือ ผู้ที่อาศัยอยู่บนตึกเท่านั้น นั่นก็คือ มีตัวเธอเอง เจคอป จารณ นางจารุวรรณ นายจรัญและคุณยาย อ้อ.. แล้วเพิ่มเติมมาอีกสองคน คือคนเฝ้าหน้าห้องของคุณยาย ซึ่งเป็นคนของเจคอป และสองคือคนที่เธอรู้จักดี เพราะเป็นลูกน้องฝีมือดีของชายหนุ่ม ชื่อ แม็ค และ เอกรัตน์ ซึ่งสองคนนั้นจะประจำการอยู่ที่บริเวณปีกตึกฝั่งห้องของคุณยายเท่านั้น และพักห้องติดกับคุณยาย และตั้งแต่มีสองคนนี้มาช่วยดูแลและเฝ้าดูแลความปลอดภัยให้คุณยาย เจคอปดูจะผ่อนคลายและเครียดน้อยลง
ยอดนรีจับราวระเบียงกว้างไว้แล้วเงยหน้ามองฟ้าสีส้มทองพร้อมทั้งสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าปอดลึกๆ ดวงตางามหลับพริ้ม จึงไม่ได้เห็นว่ามีเงาตะคลุ่มๆ เงาหนึ่งเดินมาข้างหลังอย่างเงียบกริบ ฝีเท้าเบาแสนเบาจนเธอซึ่งเป็นคนที่ประสาทสัมผัสทางด้านการได้ยินดีมาก ยังไม่ทันรู้สึกตัว
“อุ๊ย.. ว้าย..กรี๊ดดดด..”
ยอดนรีกรีดร้องเสียงหลงรู้สึกใจหล่นวูบเมื่อมีมือของใครบางคนผลักแผ่นหลังของตนอย่างแรงจนเธอแทบจะพลัดตกจากระเบียง แต่ดีว่าเธอคว้าราวระเบียงไว้มั่นและกระถางดอกไม้ที่ประดับเรียงรายอยู่บนชั้นที่ตกแต่งระเบียงอย่างสวยงามนั้น ตกแตกดังสนั่นพร้อมกับเสียงกรีดร้องของเธอ
ยอดนรีหันขวับมามองว่าใครที่กล้าทำกับเธอแบบนี้ทันได้เห็นแผ่นหลังไวๆ ของร่างใครคนหนึ่งในชุดสีดำวิ่งหลบหายไปตรงมุมเสา เธอลุกขึ้นรีบวิ่งตามไปอย่างไม่คิดชีวิต ในขณะเดียวกันเจคอปกับเอกรัตน์ก็วิ่งมายังทิศทางที่พวกตนได้ยินเสียง และเขาก็ทันได้เห็นแผ่นหลังของยอดนรีที่วิ่งตามคนร้ายไปอยู่ไวๆ
“แกอยู่ที่นี่ ไม่ต้องตามไป”
เจคอปบอกแล้ววิ่งตามยอดนรีไปทันที เอกรัตน์นั้นเตรียมพร้อมและกวาดตามองรอบๆ ตัวอย่างระแวดระวังตามสัญชาตญาณ...
“ยอด..” เจคอปข้อมือของเธอเอาไว้ก่อนที่ยอดนรีจะวิ่งเตลิดไปมากกว่านี้ และเขาเห็นว่าทางที่เธอจะเตลิดไปนั้นคือ หน้าผา...
“พี่เจค..” ยอดนรีหันขวับมามองเขาหน้าตื่น
“เมื่อกี้..”
“พี่เห็นแล้ว..”
“เห็นหรือคะ เห็นคนร้ายแล้วใช่ไหม มันเป็นใครคะ”
“เปล่า.. ที่พี่เห็นก็คือยอดวิ่งเตลิดมาจนจะตกหน้าผา..”
เขาบอกด้วยสีหน้าตื่นตกใจทำให้ยอดนรีได้สติมองตามสายตาของเขา แล้วก็รีบถอยหลังมาสองสามก้าวสวมกอดเขาไว้แน่นตัวสั่นขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ เมื่อไม่กี่ก้าวตรงหน้าเธอคือทางเดินของระเบียงที่ชำรุดและกำลังซ่อมแซมอยู่
แต่ว่า.. ป้ายที่เตือนว่ากำลังซ่อมแซมมันหายไป ยอดนรีมองตามพื้นทางเดินที่ขาดช่วงไปยังอีกด้านที่เธอเห็นว่าร่างเงาดำๆ นั้นวิ่งลับหายไปอย่างครุ่นคิด แต่เธอแน่ใจว่าสิ่งนั้นคือคน ไม่ใช่สิ่งเร้นลับแต่อย่างใด เหมือนว่าคนคนนั้นจงใจให้เธอคิดว่าเธอถูกโจมตีจากสิ่งเร้นลับ ที่เธอเชื่อเช่นนั้นก็เพราะว่าเธอคว้าผ้าที่มันใช้คลุมศีรษะได้น่ะสิ
“วิ่งมาทางนี้ทำไม รู้อยู่ไม่ใช่หรือว่าเขากำลังซ่อมทางเดิน”
เจคอปลูบหลังลูบไหล่เธออย่างปลอบโยน กิริยาของเขาอ่อนโยนนัก ยอดนรีใจพองฟูขึ้นมาหลังจากที่มันเหี่ยวแฟบไปเมื่อครู่ก่อน
“นี่ค่ะ..” เธอชูผ้าสีดำในมือให้เขาดู
“มีคนจะผลักยอดตกระเบียง ยอดวิ่งตามมาและคว้าบางอย่างจากมันได้..” แล้วเธอก็บอกเล่าในสิ่งที่เธอพบเจอและคิด
“นั่นแสดงว่า คนร้ายมันจ้องเราอยู่และหาโอกาสจะทำร้ายเรา”
“ใครน่าสงสัยสุดคะ”
หนุ่มสาวประคองกันกลับมาที่หน้าห้องของคุณยาย ซึ่งมีโซฟาตัวใหญ่ให้นั่งพักผ่อน และเพื่อมาดูอาการของคุณยายด้วย
“ตอนนี้ทุกคนน่าสงสัย”
“รวมเราทั้งสี่คนด้วยหรือคะ” หญิงสาวมองหน้าเขากับแม็คและเอกรัตน์
“สองคนนี้อยู่กับพี่ตอนที่ยอดร้องกรี๊ดแปดหลอดนั่น”
“โล่งอกไป นึกว่าจะต้องระแวงพี่แม็คกับพี่เอกเสียอีก” เอกรัตน์กับแม็คหัวเราะกับคำพูดของเธอและไม่ได้ถือสาอะไร
“มันคิดจะเอาชีวิตคุณยอดเลยนะครับคุณเจค”
“มันคิดจะเอาชีวิตทุกคนนั่นล่ะ แต่ฉันยังอยากจะแน่ใจอีกนิด อยากให้แน่ใจมากกว่านี้”
“พี่เจครู้หรือคะว่าใคร” หญิงสาวตาโต เจคอปทำมือจุ๊ปากทำให้เธอต้องหุบปากไว้แน่น
“ยัง..”
ตอนที่46.อวสาน“ยอด ท้อง แล้วค่ะ เรากำลังจะมีลูกด้วยกัน”“หา… จริงเหรอยอด ไชไย้ๆๆๆ พี่เจคจะได้เป็นพ่อคนแล้ว”เจคอปกระโดดตัวลอย แล้วโอบกอดร่างอวบอิ่มของเมียรักแน่นอย่างสุดแสนจะดีใจ ทั้งหอมแก้มซ้ายขวาอย่างสุดแสนรัก“เห็นไหมล่ะว่า ยอดน่ะเป็นสะใภ้ที่แสนดีแค่ไหน”“ครับเชื่อครับ เราไปบอกคุณยายกันเถอะ”“ค่ะ…” ยอดนรียิ้มกว้างแล้วจะเดินเคียงข้างไปกับเขา แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเจคอปหยุดเดินเสียดื้อๆ“มีอะไรคะ” หญิงสาวขมวดคิ้ว“ไม่ได้สิ เดี๋ยวยอดเหนื่อย พี่อุ้มดีกว่า”“บ้าพี่เจค ยอดไม่เหนื่อยหรอกค่ะ ยอดเดินเองได้ไปกันเถอะ ““ไม่เอา พี่จะอุ้ม” คราวนี้คนที่อยากจะอุ้มเมียรักทำท่างอแงเหมือนเด็กๆ แต่มันไม่ได้ดูน่ารักสักนิดเลย“เอางี้ ให้ยอดขี่หลังดีกว่า”“ได้ครับที่รัก มาเลย”เจ
ตอนที่45.“จ้าจาจ๋า” น้องเจมส์ชูแขนมาหานางจารุวรรณอย่างคุ้นเคยมากขึ้น และดูท่าจะติดคุณย่าเสียแล้ว“มาให้ย่าอุ้มหน่อยคนเก่ง” นางรับร่างของน้องเจมส์มาแล้วหอมแก้มยุ้ยๆ นั้นอย่างมันเขี้ยวและรักใคร่“ให้ป้ายอดอุ้มบ้างสิครับ”“ยอดอุ้มๆๆ” แล้วน้องเจมส์ก็โผมาหายอดนรีอย่างยินดี“ยอดฉวย..” น้องเจมส์เอ่ยขึ้นพร้มทั้งหอมแก้มยอดนรีอีกด้วย ยอดนรีกับริสาหัวเราะกับท่าทางแก่แดดของพ่อหนูน้อย“เจ้าตัวแสบนี่ประจบไปเรื่อย”“แววเจ้าชู้ออกแบบนี้ ได้พ่อมาเต็มๆ ใช่ไหมคะ” ริสาเอ่ยยิ้มๆ ล้อเลียนสามี“แหม.. ริสาก็ จิมเลิกเจ้าชู้ตั้งแต่เจอริสาแล้ว”“ขอให้จริงเถอะค่ะ เพราะถ้ามีวอกแวกสักนิดเจอดีแน่..”“ไม่กล้าหรอกจิมครับรักริสาคนเดียวและจะรักตลอดไป” จารณเข้ามาโอบกอดร่างบอบบางของภรรยาอย่างเอาใจ“พี่เจคก็เหมือนกันนะคะ ถ้าแอบวอกแวกนอกใจยอดล่ะก็..”ยอดนรีทำท่าเอานิ้วปาดคอและทำ
ตอนที่44.กว่าสิบปีที่ใช้ชีวิตร่วมกับนายจรัญก็ไม่ค่อยได้มาวอแวกับนาง และก็ต่างคนต่างอยู่ จนเมื่อเกิดเรื่องที่คุณยายพลัดตกบันได ซึ่งมีนายจรัญเป็นผู้เห็นเหตุการณ์และนางก็อยู่จุดที่เกิดเหตุพอดี ทำให้นางระแวงและกลัวว่าจะมีคนรู้เรื่องจึงพยายามทำทุกอย่างเพื่อกลบเกลื่อนความผิดนั้น ทั้งที่ตัวเองไม่ได้เป็นคนทำ แต่นายจรัญกลับมาทำทีพูดให้นางระแวงและหลงคล้อยตาม ว่าจะต้องจัดฉากสร้างเรื่องบิดเบือน เพื่อไม่ให้ใครสงสัยตนโดยหารู้ไม่ว่านั่นคือแผนการที่นายจรัญกับนางอรุณีวางแผนไว้ “ยอดบอกแล้วว่าคุณป้าน่ะ แกก็คนดีคนหนึ่ง” ยอดนรีบอกสามียิ้มๆ“แต่ก็เกือบจะเสียคนเพราะโลภมาก”“นั่นเพราะความคิดชั่ววูบนะคะ แต่พี่จิมก็รักแม่ของเขามาก ไม่อย่างนั้นคงไม่ขอร้องให้พี่เจคให้โอกาสแม่ของเขาหรอกค่ะ อีกอย่างพวกเขาก็น่าสงสารนะคะ สูญเสียคนในครอบครัวโดยที่ไม่รู้เลยมาเป็นสิบปี”“นั่นสินะ นั่นล่ะพี่ถึงเห็นใจจิมกับคุณป้า เลยอยากให้โอกาสแกแก้ตัว แต่ถ้าหากว่ายอดกล่อมไม่สำเร็จ พี่ก็คงไม่ใจร้า
ตอนที่43.หัวใจที่เคยแข็งกระด้างและเต็มไปด้วยไฟร้อนรุ่มที่สุมอยู่ในอกของนางก็พลันเย็นยะเยือก เมื่อเห็นใบหน้าของพ่อหนูน้อยที่เดินเตาะแตะเข้ามาในห้องนั่งเล่น น้ำตาที่แห้งเหือดไปก่อนหน้านั้นก็ไหลออกมาอาบแก้มอีกครั้ง โดยไม่รู้ตัว...“สวัสดีค่ะคุณยาย คุณ เอ่อ คุณ.. จารุวรรณ..”ริสาไหว้ผู้สูงวัยกว่าทั้งสอง ก่อนจะหันไปยิ้มให้กับจารณอย่างอ่อนหวาน และพ่อหนูน้อยเมื่อเห็นจารณก็ยิ้มแป้นอวดฟันซี่เล็กๆ อย่างดีอกดีใจ“ป้อๆ ป้อจ๋า.. ถึง คิด ถึง..”“พ่อก็คิดถึงน้องเจมส์ครับ”น้องเจมส์ หรือเด็กชาย รณภพ ลูกของเขากับริสา อดีตผู้ช่วยฝีมือดีของคุณยายจำปูนที่ถูกนางจารุวรรณวางแผนบีบให้ออกไปจากเกาะ แต่เหตุการณ์ในครั้งนั้นก็ทำให้มีเด็กชายรณภพในวันนี้...“ธุจ้าคุณย่าจาจ๋าสิครับ”“ตุ๊จ้าจา” น้องเจมส์ยกมือป้อมๆ ขึ้นสวัสดีคุณย่าด้วยท่าทางตื่นเต้นยิ้มแย้ม แล้วพ่อหนูน้อยก็เอียงคอมองอย่างสงสัย“จ
ตอนที่42.“ฉันสัญญาว่าจะดูแลหนูอรให้ดี สัญญา..”นายทัศนัยเงยหน้ามองหลานสาวที่เพิ่งรู้ว่ามีตัวตนด้วยแววตาที่เปี่ยมด้วยความรักและคำมั่นสัญญา ว่าจะรักและดูแลทายาทของหญิงที่เขาเคยชอบมากจนถึงขั้นเกือบจะรัก และได้ทอดทิ้งไปเพราะความรักสนุก และไม่อยากจะมีภาระผูกพันในวันวาน แต่นับจากนี้ชายวัยใกล้ฝั่งก็บอกตัวเองว่าจะชดเชยทุกอย่างให้กับหลานสาวคนนี้อย่างดีที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้อรชรจะต้องมีชีวิตที่ดีอย่างแน่นอนเขาสัญญา...“ไปอยู่กับตานะหนูอร..”“ค่ะคุณตา”อรชรตอบรับด้วยรอยยิ้ม สองตาหลานกอดกันด้วยความรักที่ก่อเกิดขึ้นในใจได้ไม่ยาก และอรชรก็รอคอยวันที่เธอจะได้มีญาติที่แท้จริงสักคนมานานแสนนาน...คุณยายจำปูนมองสองตาหลานด้วยความสุข...“อรไปนะคะพี่เจค พี่ยอด..” อรชรบอกลาเจคอปกับยอดนรีอีกครั้งเมื่อถึงเวลาที่จะต้องจากไปแล้วจริงๆ ก็อดใจหายไม่ได้ แม้จะอาลัยอาวรณ์เจคอป
ตอนที่41.การตายของนางจำปาทำให้คุณยายจำปูนรู้สึกเวทนาไม่น้อย และนางก็ไม่อยากให้นางอรุณีหรือทัศนีย์ ต้องมีจุดจบเช่นเดียวกับแม่ของนาง อย่างน้อยๆ คำสั่งเสียของสามีที่รักที่เคยได้บอกไว้ว่า สงสารสองแม่ลูกคู่นี้ที่พบเจอแต่เรื่องราวเลวร้ายและตกทุกข์ได้ยาก อยากให้นางช่วยเหลือและชี้ทางที่ดีให้กับหลาน คุณยายเห็นแล้วว่า ญาติผู้พี่เป็นอย่างไร ดังนั้นนางจึงทำใจละวางความแค้นที่มีต่อนางอรุณีลงและให้อภัย เพื่อเป็นทาน เพื่อให้ตัวเองไม่ต้องผูกบ่วงเวรกรรมต่อกันอีก แม้นางจะสูญเสียลูกชาย แม้ว่านายจรัญไม่เอาไหนนัก เพราะชอบทำตัวเหมือนคนไม่เอาถ่าน แต่นายจรัญก็เป็นลูกที่ดี อย่างน้อยๆ เขาก็รักลูกเมียไม่เคยไปมีบ้านเล็กบ้านน้อย แม้จะเป็นหนุ่มเจ้าสำราญชอบเที่ยวเตร่ แต่การทำงานก็ไม่เคยมีปัญหา แต่ก็นั่นล่ะ.. นายจรัญผู้เป็นลูกชายนั้นอายุสั้นนัก จากไปเสียตั้งแต่ยังหนุ่มโดยที่ไม่มีใครรู้เลย และนางก็ได้นายจรัญตัวปลอมมาอยู่ข้างกายหลายปีทุกคนล้วนมีข้อดีข้อเลว เป็นส่วนผสมของมนุษย์ที่อาจจะไม่ได้สมบูรณ์แบบ แต่นี่ล่ะคือมนุษย์ เมื่อคุณยายจำปูน