Beranda / รักโบราณ / หอประโลมรัก / 18.บัณฑิตผู้นิ่งขรึม ซูหมิงเจี๋ย

Share

18.บัณฑิตผู้นิ่งขรึม ซูหมิงเจี๋ย

Penulis: Chocolate lily
last update Terakhir Diperbarui: 2025-09-12 20:40:21

เสียงฝีเท้าเบาระหว่างก้าวย่ำบนหินกรวดสะอาดตา ทั้งสองเดินเคียงกันในตรอกที่เต็มไปด้วยโคมหลากสี

แสงสีส้มส่องผิวเนียนของเจียวลี่จนเรื่อระเรื่อ ราวกับเปลวเทียนที่ไหวระริกในกระจกแก้ว เส้นผมยาวของนางถูกรวบไว้ด้วยปิ่นหยก งดงามประหนึ่งภาพวาดที่มีชีวิต

“แม่นางเจียวลี่ ข้าหวังว่าจะไม่เสียมารยาท หากข้ากล่าวว่า ท่านช่างแตกต่างจากหญิงใดที่ข้าเคยพบ”

เจียวลี่เลิกคิ้ว ดวงตาเรียวยาวปรายมอง

“หากท่านหมายถึงความเป็นคณิกา เช่นนั้นก็คงไม่ผิด”

เสียงของนางราบเรียบ แปราศจากหนามแหลมกลบความเปราะบางในใจ

“หาใช่เช่นนั้น” ซูหมิงเจี๋ยกล่าวอย่างใจเย็น

“ข้าหมายถึงประกายในดวงตาเจ้าเป็นประกายของผู้ที่ล่วงผ่านความขมขื่นมาแต่ยังยืนหยัดได้อย่างสง่างาม มิใช่ใครก็มีได้”

เจียวลี่นิ่งไป เสียงขลุ่ยจากนักดนตรีข้างถนนดึงนางออกจากภวังค์ นางยิ้มน้อย ๆ แต่ไม่ตอบ

เมื่อเดินมาถึงลานโคมขนาดใหญ่ มีโคมกระดาษลอยฟ้านับร้อยรอปล่อย ซูหมิงเจี๋ยซื้อโคมมาหนึ่งลูก มอบพู่กันให้นาง

“เขาว่ากันว่า ถ้าขอพรบนโคมฟ้า แล้วเขียนมันด้วยความจริงใจ พรนั้นอาจสมหวังในวันหนึ่ง”

เจียวลี่นิ่ง นางรับพู่กันมา แล้วเริ่มลงมือเขียน อย่างช้า ๆ และมั่นคง

“ขอให้ข้ามีอิสระ
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terbaru

  • หอประโลมรัก   20.บัณฑิตผู้นิ่งขรึม ซูหมิงเจี๋ย NC25+

    ใต้แสงโคมแดง ร่างเปลือยเปล่าของเจียวลี่ย้ายมานอนแนบข้างลำตัวเขา บัณฑิตหนุ่มยื่นมือออกไป แตะเบาๆ ที่ไหล่นาง“ข้ายัง...อยากอีก” เสียงเขาแผ่วพร่า แต่จริงใจนางหัวเราะเบา ๆ เอื้อมมือมาลูบที่หลังมือเขาแผ่วเบา“ท่านติดใจแล้วหรือ”“มัน...เหมือนข้ากำลังฝัน แต่ข้าตื่นอยู่” เขาตอบ ใบหน้าแดงระเรื่อ“ข้าไม่อิ่มเอมเลย...ไม่รู้สึกพอเสียที”ดวงตาของเจียวลี่ยิ้มอย่างพึงใจ“หากเจ้ายังไม่อิ่ม ก็ให้ข้าป้อนอีกคำ”เขาพลิกตัวขึ้นคร่อมร่างบาง อย่างแผ่วเบา ริมฝีปากนุ่มแนบลงที่ซอกคอ จุมพิตอย่างเชื่องช้า ดั่งจะประทับรอยไว้ไม่ให้ลืมเลือนมือของคุณชายเริ่มเคลื่อนไหวตามใจ แต่ยังคงไม่มั่นคงนัก สัมผัสบนผิวเนียนของนางอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ“เจ้าชอบแบบใด...” เขากระซิบถามนางยิ้ม ก่อนจะจับมือเขานำไปแตะบนหน้าอกอวบอิ่มที่สั่นไหวอยู่ตรงหน้า กดแนบแน่นเล็กน้อย“แบบที่ท่านทำอยู่นี่ล่ะ ดีแล้ว” นางพูดช้า ๆ น้ำเสียงชวนสั่นสะท้านคุณชายดูดปลายนิ้วนางอย่างเงอะงะ ทว่าดวงตาเต็มไปด้วยไฟปรารถนาสุดท้ายก็ไม่อาจห้ามใจ ใช้ริมฝีปากซับลงบนยอดอกนาง ลิ้นสากแตะเบา ๆ แล้วดูดกลืนอย่างเรียนรู้ช้า ๆ “ดีมาก...” นางครางต่ำ ร่างแอ่นขึ้นรับสัมผัส มือห

  • หอประโลมรัก   19.บัณฑิตผู้นิ่งขรึม ซูหมิงเจี๋ย NC25+

    ราตรีนี้ซูหมิงเจี๋ย นั่งประจำที่เดิม เขามาโดยมิได้หวังสิ่งใดนอกจากเสียงพิณของนาง ตั้งแต่คืนนั้น ที่บังเอิญได้พบกันในเทศกาลโคมไฟ นางคือแสงจันทร์ที่เขาไม่เคยรู้ว่าตนโหยหา และบัดนี้ เสียงพิณของนางคืออาภรณ์ใจที่เขารอคอยทว่า คืนนี้ เงียบงัน แขกหลายคนเริ่มซุบซิบ เสียงกระซิบของขาประจำแว่วลอดมา“วันนี้แม่นางเจียวลี่ไม่เล่นหรือ”“หรือจะล้มป่วย”ซูหมิงเจี๋ยไม่ได้กล่าวสิ่งใด เขาเพียงยกน้ำชาขึ้นจิบ ดวงตาคมจ้องเงาโคมที่ไหวไกวอยู่เหนือเพดาน พลางคิดหรือว่าเขาจะไม่ควรมาเขานั่งรอจนเมื่อผู้คนเริ่มซา แขกเหรื่อล่ำลากันไปทีละคน ซูหมิงเจี๋ยจึงลุกขึ้น เดินผ่านระเบียงหออย่างเงียบงัน มุ่งหน้าไปยังโต๊ะของซูเย หัวหน้าหอซูเยยังคงอยู่ในชุดคลุมสีอ่อน นั่งจิบชาพลางตรวจบัญชีด้วยแววตาเรียบนิ่ง เมื่อเห็นเขาเข้ามา ก็ยิ้มบางอย่างรู้ทัน“คุณชายมาถามเรื่องเจียวลี่หรือเจ้าคะ” ซูเยเอ่ยขึ้นก่อนซูหมิงเจี๋ยหยุดยืนตรงหน้าเธอ ไม่กล่าวคำแก้ตัว“นาง…สบายดีหรือไม่” เขาถามแผ่วเบาซูเยวางพัดลงช้า ๆ ก่อนตอบ“คืนนี้ นางมิได้เล่นพิณ เพราะนางรอคุณชายอยู่บนห้องข้างบนเจ้าค่ะ”เขาชะงัก แววตาสงบนิ่งในคราวแรกสั่นไหวเล็กน้อย“รอข้า”“นางบอ

  • หอประโลมรัก   18.บัณฑิตผู้นิ่งขรึม ซูหมิงเจี๋ย

    เสียงฝีเท้าเบาระหว่างก้าวย่ำบนหินกรวดสะอาดตา ทั้งสองเดินเคียงกันในตรอกที่เต็มไปด้วยโคมหลากสีแสงสีส้มส่องผิวเนียนของเจียวลี่จนเรื่อระเรื่อ ราวกับเปลวเทียนที่ไหวระริกในกระจกแก้ว เส้นผมยาวของนางถูกรวบไว้ด้วยปิ่นหยก งดงามประหนึ่งภาพวาดที่มีชีวิต“แม่นางเจียวลี่ ข้าหวังว่าจะไม่เสียมารยาท หากข้ากล่าวว่า ท่านช่างแตกต่างจากหญิงใดที่ข้าเคยพบ”เจียวลี่เลิกคิ้ว ดวงตาเรียวยาวปรายมอง“หากท่านหมายถึงความเป็นคณิกา เช่นนั้นก็คงไม่ผิด”เสียงของนางราบเรียบ แปราศจากหนามแหลมกลบความเปราะบางในใจ“หาใช่เช่นนั้น” ซูหมิงเจี๋ยกล่าวอย่างใจเย็น “ข้าหมายถึงประกายในดวงตาเจ้าเป็นประกายของผู้ที่ล่วงผ่านความขมขื่นมาแต่ยังยืนหยัดได้อย่างสง่างาม มิใช่ใครก็มีได้”เจียวลี่นิ่งไป เสียงขลุ่ยจากนักดนตรีข้างถนนดึงนางออกจากภวังค์ นางยิ้มน้อย ๆ แต่ไม่ตอบเมื่อเดินมาถึงลานโคมขนาดใหญ่ มีโคมกระดาษลอยฟ้านับร้อยรอปล่อย ซูหมิงเจี๋ยซื้อโคมมาหนึ่งลูก มอบพู่กันให้นาง“เขาว่ากันว่า ถ้าขอพรบนโคมฟ้า แล้วเขียนมันด้วยความจริงใจ พรนั้นอาจสมหวังในวันหนึ่ง”เจียวลี่นิ่ง นางรับพู่กันมา แล้วเริ่มลงมือเขียน อย่างช้า ๆ และมั่นคง“ขอให้ข้ามีอิสระ

  • หอประโลมรัก   17.บังเอิญพบคู่หมั่นเก่า

    เสียงขลุ่ยแผ่วเบาแทรกกับกลิ่นอบเชยและดอกบ๊วยที่ลอยลมมาในบรรยากาศของตลาดยามใกล้ค่ำ เจียวลี่ถือถุงเครื่องสำอางในมือข้างหนึ่ง ขณะที่อีกมือยังถือกล่องชาสมุนไพรจากร้านประจำ แพรไหมบางคลุมไหล่พริ้วไหวตามแรงลม ชายกระโปรงยาวกระทบแสงตะวันคล้อยต่ำราวแสงจันทร์ในยามพลบค่ำนางกำลังจะหันกลับไปทางหอคณิกา ทว่าทันใดนั้นเอง เสียงเรียบทุ้มหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลัง เสียงที่คุ้นเคยในอดีต และฝังลึกในใจยากลืมเลือน“หากรู้ว่าเจ้าจะงามถึงเพียงนี้ ข้าคงไม่ปล่อยเจ้าจากมา”เจียวลี่หันขวับ สายตาของนางประสานเข้ากับดวงตาสีดำลุ่มลึกของชายหนุ่มผู้หนึ่ง เขาสูงขึ้นมากกว่าครั้งสุดท้ายที่พบเจอ ใบหน้าคมเข้ม เต็มไปด้วยบารมีของผู้ครอบครองกิจการนับไม่ถ้วนในเมืองหลวงแต่สิ่งที่เปลี่ยนที่สุดไม่ใช่ทรงผมหรืออาภรณ์ แต่เป็นรอยยิ้มเศร้า ๆ ที่เขาใช้มองนาง“คุณชายใหญ่!” นางแทบไม่เชื่อสายตาตนเอง“เหตุใดท่านจึง อยู่ที่นี่”เขาเดินเข้ามาใกล้ ฝูงชนพลุกพล่านพลันเหมือนเบลอหายไปจากสายตา นางได้ยินเพียงเสียงหัวใจตนเอง และเสียงเท้าของเขาที่หยุดลงเบื้องหน้า“เพราะตลาดวันนี้คงไม่งาม หากไม่มีเจ้าอยู่ในนั้น”เขาพูดเรียบง่าย ก่อนเอื้อมมือจับชายแขนเสื้

  • หอประโลมรัก   16.เทศกาบโคมไฟ กับเขาผู้นั้น

    หลายวันผ่านไป สายลมเอื้อย ๆ พัดกลิ่นบุปผา กับเสียงหัวเราะในยามสาย ตลาดกลางนครเริ่มมีชีวิตชีวาอีกครั้ง เมื่อใกล้ถึงเทศกาลโคมไฟ หอประโลมรัก ที่ตั้งตระหง่านอยู่ริมแม่น้ำก็เริ่มเปิดม่านรับแสงอรุณเช่นกัน แต่วันนี้ กลับไม่เห็นเงาของบุรุษใดเข้าออกห้องของนางคณิกาเจียวลี่ดังเคยเจียวลี่หยุดรับแขกมาหลายวันแล้ว เป็นการหยุดที่เจ้าของหออย่างซูเยก็ไม่อาจทัดทาน นางบอกว่าใกล้ถึงเทศกาลโคมไฟ ต้องพักฟื้นร่างกายให้สมบูรณ์ แต่ใครจะรู้ ว่าจริง ๆ แล้วในใจของเจียวลี่นั้น ไม่ใช่เพียงแค่ต้องการฟื้นกาย หากแต่ต้องการฟื้นใจด้วยเช่นกันวันนี้นางสวมชุดผ้าแพรบางสีครามอ่อน ลวดลายบุปผากลีบบัวปักด้วยไหมทอง ผมยาวสลวยถูกรวบขึ้นครึ่งศีรษะด้วยปิ่นเงินลายเมฆหมอก ต่างหูหยกขาวแกะลายระยับเมื่อสะท้อนแสงเจียวลี่ในยามไม่มีเครื่องแต่งประดับมากมาย กลับยิ่งงดงามอย่างเป็นธรรมชาติ ผิวพรรณที่ได้รับการบำรุงด้วยน้ำมันดอกเหมย ขาวละมุนราวกลีบบุปผายามเช้า ริมฝีปากแต้มสีแดงจางจากน้ำชาดอกคำฝอย มอบความหวานเย็นให้กับใบหน้าที่งามอยู่แล้วให้เหมือนภาพวาดจากฝีมือเทพ“เจี่ยวลี่เจ้าจะไปตลาดคนเดียวหรือ” ถิงถิงเอ่ยถามด้วยสายตากังวล“มีแต่คนหมายปองเจ้

  • หอประโลมรัก   15.บุรุษเช่นนั้นมักร้อนแรงเมื่อคลั่งไคล้

    บทที่ 15 บุรุษเช่นนั้นมักร้อนแรงเมื่อคลั่งไคล้ริมฝีปากหยักหนากดจูบซ้ำ ๆ ลงบนหน้าผากนวลของเจียวลี่ เจ๋อหมิงกักร่างนางแนบแน่นไว้ใต้ร่างตน ราวกับกลัวว่านางจะหายลับไปกับสายลมแขนแข็งแรงโอบรัดร่างบางเอาไว้ ในขณะที่สะโพกแข็งแรงยังคงเคลื่อนกระแทกเข้าออกอย่างต่อเนื่อง ทำเอาร่างของนางให้บิดเร่าอยู่ใต้ร่างเขาอย่างห้ามไม่อยู่"เจียวลี่...จดจำข้าไว้..." เสียงทุ้มพร่าแทบกลายเป็นเสียงคำรามเขาก้มลงครอบครองกลีบปากบางอีกครั้ง ดูดกลืนลมหายใจนางไปจนหมดสิ้น ไม่ปล่อยโอกาสให้เจียวลี่ได้หายใจเต็มปอดเจ๋อหมิงพลิกตัวนางขึ้นนั่งคร่อมบนตัวเขาอีกครั้ง ก่อนจะสอดมือหนายกสะโพกนุ่มนิ่มไว้ และเสยท่อนเนื้อขึ้นอย่างลึกสุดปลายลำโคน ในจังหวะที่รุนแรงเร่าร้อนราวกับสัตว์ร้ายกระหายเหยื่อ"เจ๋อหมิง...อืมมมคุณชาย ข้า...ข้าไม่ไหวแล้ว..." เสียงหวานแผ่วเบาแทบขาดห้วงนางพยายามดันไหล่ดันอกของเขาออก แต่เขากลับเพียงกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์ มือหนาจับยึดสะโพกนาง และเสยกระแทกลึกกว่าเดิม จนเตียงไม้สะเทือนเลื่อนเสียงเอี๊ยดอ๊าดลั่นห้อง"เจ้าต้องไหว..." เขากระซิบข้างหู ลมหายใจร้อนระอุชวนสั่นสะท้าน"เรายังมีเวลาอีกนิด ข้าอยากอยู่กับเจ้าจนพอใ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status