Share

บทที่ 8

เฉียวซุนค่อย ๆ บิดถ้วยเก็บความร้อน

หลังจากบิดแน่นแล้ว เธอก็ก้มหน้าแล้วพูดเบาๆว่า “ต้องมีสักทาง! เงินที่ขายแหวนแต่งงานก็พอสำหรับค่ารักษาพยาบาลของพ่ออีกตั้งครึ่งปี ค่าทนายของพี่...... หนูวางแผนว่าจะขายบ้านหลังนี้แล้วจากนั้นหนูก็จะออกไปทำงานหาเลี้ยงครอบครัวด้วยค่ะ”

พูดจบ แววตาของเฉียวซุนก็ชื้นขึ้น

บ้านหลังนี้เป็นบ้านที่แม่เธอทิ้งไว้ให้ ก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะลำบากยากแค้นแค่ไหนก็ไม่เคยแตะต้องมัน

เสิ่นชิงตะลึง

เธอไม่ได้ห้ามปรามแต่อย่างใด แต่ภายในใจยังคงไม่เห็นด้วยเสมอ

เฉียวซุนจัดเตรียมเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองก็ไปโรงพยาบาล

หลังการรักษาอาการป่วยของเฉียวต้าซวินโดยทั่วไปก็ค่อนข้างคงที่แล้ว แต่อารมณ์ค่อนข้างดำดิ่งอยู่บ้าง คอยแต่คิดถึงอนาคตที่เหลือของลูกชายคนโตอย่างเฉียวสือเยี่ยน

ในเวลานี้เฉียวซุนไม่ได้พูดถึงเรื่องหย่า

ช่วงบ่ายคุณหมอเจ้าของไข้แวะมาตรวจที่วอร์ด

เฮ่อจี้ถัง ปริญญาเอกแพทยศาสตร์ เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมสมองตั้งแต่อายุยังน้อย แถมเขายังหน้าตาดี ส่วนสูงหนึ่งร้อยแปดสิบห้า และเป็นคนสุขุมใจเย็นอีกด้วย

หลังจากตรวจอาการเสร็จ เขาก็เหลือบมองไปที่เฉียวซุน “ออกไปคุยกันหน่อยนะครับ”

เฉียวซุนอึ้งไปชั่วขณะ

เธอวางของในมือลงทันที แล้วพูดกับพ่อเฉียวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “พ่อคะ หนูจะออกไปแป๊บหนึ่งนะคะ”

ไม่นาน พวกเขาก็เดินถึงทางเดินที่เงียบสงบ

เมื่อเห็นความกังวลใจของเธอ เฮ่อจี้ถังก็ยิ้มปลอบใจเธอ

จากนั้นเขาก็ก้มศีรษะดูเวชระเบียน “พี่ได้ปรึกษากับหัวหน้าแผนกศัลยกรรมหลายท่าน มีคำแนะนำเป็นเอกฉันท์ว่า จากนี้ให้คุณเฉียวรับการรักษาฟื้นฟูสมรรถภาพตามที่กำหนด ไม่งั้นจะฟื้นฟูสมรรถภาพกลับมาอยู่ในสภาพเดิมได้ยาก...... แค่ว่าค่าใช้จ่ายแพงอยู่นิดหน่อย ตกอยู่ที่เดือนละเจ็ดแสนห้าหมื่นบาทน่ะ”

เจ็ดแสนห้าหมื่นบาท สำหรับเฉียวซุนในตอนนี้ถือว่าเป็นตัวเลขที่แพงหูฉี่เลยก็ว่าได้

แต่เธอก็ไม่ลังเลที่จะเอ่ยว่า “เราจะรับการรักษาค่ะ”

เฮ่อจี้ถังปิดเวชระเบียนและมองเธอนิ่ง ๆ

อันที่จริงแล้ว พวกเขาเคยรู้จักกันมาก่อน แต่เฉียวซุนลืมไปแล้ว

ในตอนที่เฉียวซุนยังเด็กมาก เขาอาศัยอยู่ข้างบ้านเธอ เขาจำได้ว่าทุกเย็นของฤดูร้อน ระเบียงด้านนอกห้องนอนของเฉียวซุนจะมีดาวดวงเล็ก ๆ สว่างขึ้นและเฉียวซุนก็มักจะนั่งคิดถึงแม่อยู่เสมอ

เธอถามเขาว่า พี่จี้ถัง แม่จะกลับมามั้ย?

เฮ่อจี้ถังไม่รู้และเขาก็ไม่รู้จะตอบกลับยังไง ขณะที่เขาจับตามองเธออยู่ใน ณ ตอนนี้ ก็นึกถึงข่าวการแต่งงานของเธอตอนที่เขากลับประเทศมาเมื่อสามปีที่แล้วขึ้นมาได้ เขาคิดว่าเธอแต่งงานเพราะรัก แต่เธอกลับไปได้ไม่ค่อยดี

ลู่เจ๋อเย็นชากับเธอ ปฏิบัติต่อเธออย่างทารุณ

ขณะที่เฮ่อจี้ถังกำลังจะเอ่ยพูด ฝั่งตรงข้ามก็มีเสียงเย็นชาดังขึ้น “เฉียวซุน”

เป็นลู่เจ๋อ

ลู่เจ๋อแต่งตัวด้วยชุดสูททำงาน เสื้อเชิ้ตสีเทาเข้มและเสื้อสูทสีดำ...... ดูเหมือนมาจากบริษัท เขาเดินมาทางด้านนี้ รองเท้าหนังลูกวัวส่งเสียงเหยียบย่างบริเวณทางเดินอย่างแจ่มชัด

สักครู่ลู่เจ๋อเดินมาอยู่ตรงหน้าพวกเขา

เขายื่นมือออกมา น้ำเสียงเหนื่อย ๆ เจือด้วยการไม่ให้เกียรติอยู่เล็กน้อย

“รุ่นพี่เฮ่อ ไม่เจอกันนานเลยนะครับ!”

เฮ่อจี้ถังมองดูมือตรงหน้า ยิ้มราบเรียบและยื่นมือข้างหนึ่งออกไปจับ “ประธานลู่ ผู้ที่เจอตัวยาก!"

ลู่เจ๋อจับแล้วปล่อยทันที หันศีรษะมองไปที่เฉียวซุน “ไปดูพ่อ?”

คลื่นใต้น้ำของผู้ชายสองคน

เฉียวซุนดูไม่ออก เธอไม่อยากทำหน้าบึ้งตึงใส่ลู่เจ๋อต่อหน้าหมอเฮ่อ จึงพยักหน้า “หมอเฮ่อคะ ฉันขอตัวก่อนนะคะ”

เฮ่อจี้ถังยิ้มเล็กน้อย

เฉียวซุนเดินไปที่ห้องพักผู้ป่วยพร้อมกับลู่เจ๋อ โดยไม่มีใครเอ่ยคำใด

ตัวเธอเองอยากจะหย่า เธอไม่อยากที่จะต้องมาระแวดระวังคอยเอาอกเอาใจเขาอย่างเมื่อก่อนอีกต่อไป

เมื่อเข้าใกล้ประตูห้องพักผู้ป่วย ทันใดนั้นลู่เจ๋อก็คว้าข้อมือเล็ก ๆ ของเฉียวซุนไว้ กักเธอไว้ระหว่างตัวเขากับผนัง สายตาของเขาซับซ้อน

เมื่อกี้ ท่าทางที่เฮ่อจี้ถังจ้องมองเฉียวซุนเป็นสายตาที่ผู้ชายใช้มองผู้หญิง

ลู่เจ๋อสัมผัสใบหน้ารูปไข่ของเฉียวซุนอย่างเบา ๆ ขาวสะอาดและละเอียดอ่อน น่าดึงดูดคนยิ่งนัก

เสียงเขาแหบแห้งเล็กน้อย “พูดอะไรกับเขา?”

เฉียวซุนอยากจะดิ้นให้หลุด แต่ลู่เจ๋อออกแรงเพียงเล็กน้อย เธอก็ถูกกดกลับไปอีกครั้ง

ร่างของทั้งสองคนแนบชิดกัน ความแข็งกร้าวสัมผัสความนุ่มนวล......

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status