เข้าสู่ระบบเมื่อองค์ชายฟู่ซิวเหิงได้รับสิ่งที่ต้องการแล้ว เขาก็รีบเดินจากไปทันที ฝีเท้าของเขาหนักแน่น แต่ขณะเดียวกัน มันก็เต็มไปด้วย เงาของความอาฆาต ที่ไม่สามารถปกปิดได้
ทางด้าน ลูกน้องของเยี่ยจิงหลิน ยืนมองตามแผ่นหลังขององค์ชายที่เดินห่างออกไป สีหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความไม่สบายใจ ก่อนที่หนึ่งในนั้นจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด
“นายหญิง ไว้ใจคนผู้นี้จริงๆ เหรอ?”
เยี่ยจิงหลินที่ได้ฟังคำพูดนั้นกลับหัวเราะออกมาเบาๆ นาง ยิ้มเย็นชา ดวงตาของนางทอประกายเยือกเย็นที่ทำให้ผู้คนรอบตัวขนลุก
“มันย่อมไม่มีคุณสมบัติมากพอที่จะทำให้ข้าไว้ใจ” นางกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่ง แต่แฝงไปด้วยเล่ห์เหลี่ยม “แต่จิตใจที่คับแคบและความมักใหญ่ใฝ่สูงของมันนั้นเป็นของจริง”
สิ่งที่นางเห็นใน ฟู่ซิวเหิง ไม่ใช่พันธมิตรที่น่าเชื่อถือ แต่เป็น เครื่องมือ ที่สามารถใช้ห้ำหั่นศัตรูให้หมดสิ้นนางหันไปมองลูกน้องของตน ก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่เต็มไปด้วยเจตนาที่ลึกซึ้ง
“แล้วเจ้าคิดว่า... ระหว่างท่านอ๋องกับองค์ชาย ใครจัดการได้ยากกว่ากัน?”
ลูกน้องของนางไม่ต้องเสียเวลาคิดคำตอบเลยแม้แต่น้อย เขาตอบกลับไปทันทีด้วยความมั่นใจ
“ย่อมเป็นท่านอ๋อง”
เยี่ยจิงหลินหัวเราะเบาๆ ก่อนจะพยักหน้าอย่างพอใจ นางหันกลับไปมองในทิศทางที่องค์ชายจากไป แววตาของนางตอนนี้ เต็มไปด้วยความเย็นชาและชั่วร้ายยิ่งกว่าครั้งไหนๆ
“เมื่อเจ้าไก่อ่อนนี่จัดการพ่อของมันแล้ว... ข้าก็ค่อยจัดการมันทีหลัง”
ทันใดนั้น ลูกน้องของนางที่ได้ยินแผนการของนางถึงกับเผยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความชั่วร้าย แววตาของเขาที่เคยเต็มไปด้วยความกังวล บัดนี้กลับกลายเป็นสายตาของ อสรพิษที่พร้อมจะฉกเหยื่อ
“สมกับเป็นนายหญิงของพวกเรา!” เสียงของเขาเต็มไปด้วยความเคารพปะปนกับความตื่นเต้นในแผนการอันชั่วร้ายนี้...
โดยพื้นฐานแล้ว ท่านอ๋องฟู่หยางเซิน เป็นบุรุษที่ระมัดระวังตัวเป็นอย่างมาก ตลอดชีวิตของเขาเต็มไปด้วยการเมือง การทรยศ และการป้องกันภัยจากศัตรูที่หมายจะโค่นล้มอำนาจของเขา แต่กับบุตรชายที่เขารักที่สุด ฟู่ซิวเหิง… เขากลับลดการป้องกันลงอย่างไม่รู้ตัวเขาผ่านโลกมามาก รู้จักเล่ห์เหลี่ยมของศัตรูทุกรูปแบบ แต่สิ่งที่เขาไม่เคยหยั่งรู้เลยก็คือ จิตใจที่แท้จริงของบุตรชายตนเอง
ในช่วงสายของวันเดียวกันนั้น องค์ชายฟู่ซิวเหิง เดินทางมายังจวนของท่านอ๋อง ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสำนึกผิด ทันทีที่มาถึง เขาทรุดตัวลงคุกเข่าอย่างแรง ราวกับจะใช้ร่างกายของตนแบกรับความผิดบาปทั้งมวล
“ท่านพ่อ... ลูกผิดไปแล้ว! เป็นลูกเองที่โง่เขลาเบาปัญญา”
น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความเศร้าสร้อยและความสั่นเครือ มันแฝงไปด้วยความเจ็บปวดเสียใจที่แสดงออกมาอย่างสมบูรณ์แบบจน แม้แต่ข้ารับใช้รอบตัวก็ยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสะเทือนใจ
ท่านอ๋องฟู่หยางเซินมองบุตรชายที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าของตน ดวงตาที่เคยแข็งกร้าวกลับอ่อนลงทันที หัวใจของบิดานั้นอ่อนโยนเสมอเมื่อลูกชายที่รักเอ่ยคำขอขมา
"ลูกพ่อ เจ้าคิดได้ก็ดีแล้ว... ต่อไปความยิ่งใหญ่ของพ่อก็ย่อมตกเป็นของเจ้า"
คำพูดที่เต็มไปด้วยความไว้วางใจ ของท่านอ๋องดังขึ้นมาพร้อมรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความภาคภูมิใจ เขาไม่เคยระแคะระคายเลยว่าเบื้องหลังของดวงตาที่เศร้าสร้อยขององค์ชายนั้น ซ่อนประกายของความชั่วร้ายไว้อย่างแนบเนียน
ถ้วยชาที่เป็นดั่งคำขอโทษ... หรือคำพิพากษา
ฟู่ซิวเหิง เงยหน้าขึ้นด้วยสีหน้าอ่อนน้อมก่อนจะหยิบ ถ้วยชา ที่เตรียมไว้ขึ้นมา
“สิ่งนี้คือแทนคำขอโทษของลูก” เขากล่าวเสียงนุ่มนวล “มันคือชาหอมจากแดนไกล หากท่านพ่อดื่มมันเข้าไป จะทำให้สุขภาพดี แข็งแรงขึ้นอย่างแน่นอน”
รอยยิ้มอบอุ่นที่แฝงไปด้วยเล่ห์ร้ายขององค์ชายปรากฏขึ้น เขายื่นถ้วยชาที่แสนหอมกรุ่นไปให้ท่านอ๋อง มือของเขาแนบเนียน ไม่สั่นไหวแม้แต่น้อยท่านอ๋องฟู่หยางเซิน หัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะรับถ้วยชาไปถือไว้ในมือ
เขาไม่เคยระแวงบุตรชายของตนเองเขาไม่รู้เลยว่า ในชานั้นมีพิษที่ร้ายแรงแต่ออกฤทธิ์ช้า ค่อยๆ กัดกินร่างกายของเขาทีละน้อย เพื่อไม่ให้เกิดความสงสัย องค์ชายก็ยกชาขึ้นดื่มด้วย
แต่ในถ้วยของเขา... ไม่มีพิษอยู่เลย
“อืม... รสชาติของมันไม่เลวเลยทีเดียว” ท่านอ๋องเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มพึงพอใจ ดวงตาขององค์ชายฉายแววเยือกเย็นอย่างแนบเนียนเกมแห่งการทรยศเริ่มต้นขึ้นแล้ว และผู้ที่ตกเป็นเหยื่อในคราวนี้คือชายที่เคยอยู่เหนืออำนาจของทุกคน...
ชาหอมกรุ่นที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของสมุนไพรชั้นเลิศ ยิ่งดื่มมากเท่าไหร่ก็ยิ่งให้ความรู้สึกสดชื่น ท่านอ๋อง ฟู่หยางเซิน ดื่มมันอย่างเพลิดเพลินโดยไม่เอะใจเลยว่า ทุกหยดของชานี้ คือยาพิษที่กำลังกัดกินร่างกายของเขาอย่างช้าๆในช่วงแรก ร่างกายของท่านอ๋องยังคงแข็งแรงดั่งเดิม ไม่มีวี่แววของสิ่งผิดปกติให้ต้องสงสัยเลยแม้แต่น้อย แต่ ยาพิษที่แทรกซึมอยู่ในชานั้นมิใช่พิษทั่วไป มันออกฤทธิ์อย่างแยบยล ค่อยๆ กัดกินจากภายในอย่างช้าๆ จนแม้แต่เจ้าตัวก็ไม่ทันได้รู้สึกถึงความผิดแปลกของร่างกายตนเอง
ยิ่งวันเวลาผ่านไป ร่างกายของท่านอ๋องก็เริ่มอ่อนแอลงทีละนิด ความแข็งแกร่งที่เคยมีเริ่มถูกกัดกร่อนไปอย่างเงียบเชียบ เขาคิดว่ามันเป็นเพียงความเหนื่อยล้าตามอายุ หรืออาการป่วยจากความเครียดในราชสำนัก แต่แท้ที่จริงแล้ว มันเป็นฝีมือของผู้ที่เขารักและไว้วางใจมากที่สุด องค์ชายฟู่ซิวเหิง!
ทุกเช้า ชาหอมอันเลิศรส จะถูกนำมาวางตรงหน้าท่านอ๋อง องค์ชายฟู่ซิวเหิง เองก็ยังคงดื่มไปพร้อมๆ กัน เพื่อเป็นการตอกย้ำถึงความจริงใจและความเคารพที่เขามีต่อบิดาแต่ในความเป็นจริงแล้ว มันคือการพรากชีวิตของบิดาไปทีละหยดทีละคำ
ดวงตาของ องค์ชายฟู่ซิวเหิง ยังคงแสดงถึงความห่วงใยและความเคารพเช่นเดิม เขามาเยี่ยมท่านอ๋องทุกวัน มอบชาถ้วยเดิมให้ท่านพ่อดื่มอย่างสม่ำเสมอ แต่ในดวงตาคู่นั้น แฝงไปด้วยเงาแห่งความเย็นชาและความทะเยอทะยานที่ท่านอ๋องไม่อาจมองเห็น
ฟู่ซิวเหิงกำลังรอ...รอวันที่ร่างกายของบิดาจะอ่อนแอลงจนไม่สามารถต่อต้านเขาได้อีกรอวันที่คนทั้งแคว้นจะยอมรับว่าอ๋องผู้ยิ่งใหญ่ได้แก่ชราและอ่อนแอลงจนไม่สามารถปกครองอำนาจได้อีกต่อไปรอวันที่ เขาจะขึ้นครองบัลลังก์แห่งอำนาจแต่เพียงผู้เดียว!
และที่สำคัญที่สุดรอวันที่ท่านอ๋องจะล้มลงโดยที่ไม่มีใครสามารถช่วยได้ทัน!
หลังจากที่สะสางทุกเรื่องราวในเมืองหลวงจนเสร็จสิ้น เยี่ยจิงหลินก็ตัดสินใจเดินทางกลับไปยังหมู่บ้านไท่ผิงชุน ที่นั่น… คือสถานที่ที่มีความหมายกับนางมากที่สุดเมื่อมาถึงหมู่บ้านแห่งนี้ บรรยากาศรอบตัวแตกต่างจากเมืองหลวงโดยสิ้นเชิงไม่มีเสียงของขุนนางที่คอยแย่งชิงอำนาจ ไม่มีแววตาแห่งความโลภ ไม่มีเสียงกระซิบของคนที่พยายามคิดคดหักหลังที่นี่มีเพียงสายลมอ่อนๆ อากาศที่สดชื่น และผู้คนที่ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายแม้ว่าหมู่บ้านแห่งนี้จะ แห้งแล้งและทุรกันดารแต่สำหรับเยี่ยจิงหลินที่นี่คือบ้าน เมื่อเดินเข้าสู่เรือนของตนเอง นางกลับต้องแปลกใจเมื่อพบว่า หลิวฉางหยาง กำลังพักอาศัยอยู่ที่นี่! เยี่ยจิงหลินหันไปมองมารดาของตนซูหลินด้วยความสงสัยก่อนที่แม่ของนางจะ เผยรอยยิ้มออกมาอย่างเขินอาย"ลูก… แม่ตัดสินใจแล้วว่าแม่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง" หลิวฉางหยางไม่ใช่แค่คนรู้จัก แต่เขาเป็นคนที่ ยืนเคียงข้างและคอยดูแลแม่ของนางเสมอมาในวันที่ชีวิตของซูหลินลำบากเขาอยู่เคียงข้างนางโดยไม่ทอดทิ้งและตอนนี้แม่ของเยี่ยจิงหลินก็ได้ตัดสินใจเปิดใจให้กับความรักอีกครั้งเยี่ยจิงหลินเมื่อเห็นแม่ของตนมีความสุข นางย่อมดีใจอย่างที่สุด"แ
เวลาผ่านไปหนึ่งเดือนเต็ม...ด้วย ฝีมือการรักษาของหมอเทวดาหลานซือหมิง ในที่สุด ฮ่องเต้ฟู่ซื่อเทียนก็ฟื้นคืนสติอีกครั้ง!แม้ว่าพระองค์ยังต้องใช้เวลาอีกมากกว่าจะกลับมาแข็งแรงเต็มที่ แต่สิ่งที่พระองค์ได้รับรู้หลังจากฟื้นคืนสติมันทำให้หัวใจของพระองค์สั่นสะท้านยิ่งกว่าพิษร้ายที่เคยกัดกินร่างกายเสียอีก!"คนที่วางยาข้า... คือน้องชายของข้าเอง!?" ฮ่องเต้ฟู่ซื่อเทียนตื่นตระหนกเมื่อรับรู้ถึงความจริง อ๋องฟู่หยางเซิน ผู้ที่เขาเคยมอบความไว้วางใจ... กลับเป็นผู้ที่คิดจะฆ่าเขาเอง!สิ่งที่ทำให้พระองค์สะท้านใจไปมากกว่านั้นคือ..."ผู้ที่ช่วยข้ากลับเป็นบุตรสาวของแม่ทัพซุนเทา... บิดาของนางคือผู้ที่ข้าเคยหวาดระแวงเพราะคำยุยงของราชครูกู่เทียนหลง!" พระองค์หวาดระแวงแม่ทัพซุนเทาเพราะคำพูดของราชครูที่คอยปั่นหัวสุดท้าย... พระองค์ก็ต้องสูญเสียทั้งคู่ไปหลังจากนั้นไม่นานความเดือดดาลก็ปะทุขึ้น!"ข้าจะไม่มีวันให้อภัยมัน!" ดวงตาของฮ่องเต้ฟู่ซื่อเทียน ฉายแววของความโกรธแค้นแม้ว่าอ๋องฟู่หยางเซินจะไม่เหลือเรี่ยวแรงใดๆ แล้ว แม้ว่าเขาจะอยู่ในสภาพของคนที่ไร้สติ เหม่อลอย ไม่รู้เรื่องราวใดๆแต่ความผิดที่เขาก่อขึ้นมันเกินกว่าที
การตายขององค์ชายฟู่ซิวเหิง… เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น เยี่ยจิงหลินไม่ได้คิดจะหยุดเพียงแค่ปลิดชีพองค์ชาย แต่นางกำลังจะทำให้ตระกูลของอ๋องฟู่หยางเซินล่มสลายไปทั้งสายเลือด! ก่อนที่นางจะลงมือ เยี่ยจิงหลินส่งคนของนางออกไปสืบข่าวเกี่ยวกับบุตรชายของอ๋องฟู่หยางเซินทุกคนพวกมันทุกคนล้วนชั่วช้า ไม่ได้ต่างไปจากฟู่ซิวเหิงเลยแม้แต่น้อยพวกมันฉ้อโกง ฉุดคร่าหญิงสาว กดขี่ชาวบ้าน ใช้อำนาจอย่างอำมหิต...ทุกสิ่งที่ได้รับรายงานมามีแต่สิ่งที่ทำให้นางยิ่งแน่ใจว่าพวกมันสมควรจะถูกกำจัดจนหมด!เมื่อแผนการถูกวางไว้อย่างรัดกุม ค่ำคืนนี้ก็ไม่ต่างอะไรไปจาก คืนแห่งนรกที่แท้จริงสำหรับท่านอ๋องแม้ว่าตัวของเขานั้นไม่มีสติเป็นของตัวเองแล้วก็ตาม"ลอบสังหารพร้อมกันในคืนเดียว อย่าให้เหลือแม้แต่คนเดียว"นางออกคำสั่งอย่างเด็ดขาด! เหล่ามือสังหารในเงามืด เคลื่อนไหวอย่างไร้เสียง แต่ละคนได้รับเป้าหมายของตนเอง ไม่มีความผิดพลาด ไม่มีความลังเล มีเพียงจุดจบของเครือญาติแห่งอ๋องฟู่หยางเซินเท่านั้นที่รออยู่!เสียงกรีดร้องแห่งความตื่นตระหนก ดังขึ้นจากคฤหาสน์หลายแห่งของบุตรชายท่านอ๋อง"ไม่นะ! ปล่อยข้าไป! ข้าให้เงินเจ้าได้!""อย่า! ข้ายอมแ
เยี่ยจิงหลินยืนอยู่กลางโถงสุราที่ถูกย้อมไปด้วยเลือด นางจ้องมองภาพตรงหน้าอย่างพึงพอใจ ฟู่ซิวเหิง องค์ชายผู้เคยหยิ่งทะนงบัดนี้กำลังสั่นสะท้านไม่ต่างจากลูกนกที่ถูกขังไว้ในกรงแห่งความตาย!นางกวาดสายตามองเหล่าขุนนางและองครักษ์ที่เหลือรอด บางคนยังยืนตัวแข็งทื่อด้วยความหวาดกลัว บางคนคุกเข่าลงร้องขอชีวิต น้ำตานองหน้า แต่มันไร้ประโยชน์!ใบหน้าของเยี่ยจิงหลินยังคงเรียบนิ่ง… ก่อนที่ริมฝีปากของนางจะคลี่ยิ้มบางๆ ออกมา"จงดับลมหายใจของพวกมันให้หมดซะ... อย่าให้รอดไปได้แม้แต่คนเดียว"คำสั่งของนางเยือกเย็นราวกับเป็นเสียงแห่งมัจจุราช เงามรณะเคลื่อนไหวทันที!เสียงดาบกระทบกับเนื้อ เสียงเลือดสาดกระเซ็น เสียงกรีดร้องดังขึ้นเป็นระลอก ก่อนที่ทุกอย่างจะค่อยๆ เงียบลงไปทีละน้อย ฟู่ซิวเหิงจ้องมองภาพตรงหน้าด้วยสายตาที่สั่นไหว เขาเห็นขุนนางที่เคยประจบสอพลอตนเองถูกเชือดไปทีละคน…เขาเห็นองครักษ์ของตนเองล้มลงโดยไม่มีโอกาสแม้แต่จะชักดาบขึ้นมาต่อสู้!"ไม่… ไม่…"ร่างของเขาสั่นสะท้านไปทั้งตัว สิ่งที่เขาเคยภาคภูมิใจ อำนาจ ความเย่อหยิ่ง ความทะเยอทะยานล้วนมลายหายไปจนหมดสิ้นและเมื่อความหวาดกลัวพุ่งถึงขีดสุด…"ท่านพ่อ! ช่วยข
ภายใน หอสุรา ที่เคยเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลอง พลันเกิดความเปลี่ยนแปลงในพริบตาเดียว!ฟู่ซิวเหิง และเหล่าขุนนางยังคงกำลังดื่มด่ำกับความสุขจากอำนาจใหม่ของตนเอง เสียงจอกสุรากระทบกัน เสียงหัวเราะยังคงดังไปทั่วทั้งห้องโถง ทุกคนกำลังหลงระเริงอยู่ใน ภาพมายาของชัยชนะแต่แล้ว…"พรึ่บ!"เปลวไฟทุกดวงภายในห้องโถงพลันดับมอดลงอย่างกะทันหัน!ทั้งห้องตกอยู่ใน ความมืดมิดอันสมบูรณ์แบบ ไม่มีแสงไฟแม้แต่ดวงเดียว มีเพียงเงามืดอันน่าหวาดกลัว ที่กำลังคืบคลานเข้ามาอย่างเงียบเชียบเสียงของแขกภายในงานเริ่มเปลี่ยนเป็นเสียงกระซิบกระซาบ ความตื่นตระหนกเริ่มแพร่กระจายออกไปในหมู่ผู้ร่วมงาน"มันเกิดอะไรขึ้น?!""มีใครไปจุดไฟเร็วเข้า!"เสียงตะโกนดังขึ้นจากมุมห้อง น้ำเสียงของพวกเขาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก!แต่ไม่มีคำตอบไม่มีใครขยับท่ามกลางความเงียบงันและความมืดมิด…"อ๊ากกกกก!!!"เสียงกรีดร้องที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด ดังก้องไปทั่วห้องโถง!หนึ่งในแขกของงานถูกปลิดชีพอย่างไร้ความปรานี!เงามัจจุราชที่คืบคลานฟู่ซิวเหิงเบิกตากว้าง เขาหันมองไปรอบๆ แต่สิ่งที่เขาเห็นมีเพียงความมืดสนิท!"ใครอยู่ตรงนั้น?! ออกมาเดี๋
ความจริงที่โหดร้ายกำลังกลืนกินหัวใจของท่านอ๋องฟู่หยางเซินอย่างช้าๆบุตรชายที่เขารักและไว้วางใจที่สุดกลับกลายเป็นผู้ที่กำลังผลักไสเขาไปสู่ความตาย!ร่างกายของท่านอ๋องที่อ่อนแรงอยู่แล้ว กลับยิ่งทรุดหนักลงกว่าเดิม ด้วยความรู้สึกที่ไม่อยากยอมรับความจริง ความรู้สึกเจ็บปวดและความสิ้นหวังได้กัดกินจิตใจของเขา ยิ่งไปกว่านั้น ความเศร้าโศกที่ค่อยๆ กัดกินหัวใจของเขา ทำให้พิษร้ายที่แฝงอยู่ในร่างแทรกซึมลึกลงไปในทุกอณูของร่างกาย!หัวใจที่แตกสลาย…ร่างกายที่อ่อนแอ…ความเจ็บปวดจากพิษร้ายที่คืบคลานเข้าสู่กระแสโลหิต…ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังบั่นทอน ชีวิตของอ๋องฟู่หยางเซิน ไปทีละนิดจากชายผู้ยิ่งใหญ่ที่เคยปกครองอำนาจเหนือผู้อื่น บัดนี้กลับต้อง นอนอยู่บนเตียงอย่างคนไร้ซึ่งเรี่ยวแรง ดวงตาที่เคยเปี่ยมไปด้วยพลังและความเย่อหยิ่ง กลับกลายเป็นสายตาที่เหม่อลอย…เขารู้ดีว่า ตนเองกำลังจะตายแต่สิ่งที่เลวร้ายที่สุดไม่ใช่ความตาย...แต่เป็นการตายด้วยน้ำมือของบุตรชายที่เขารักที่สุด!ความคิดสุดท้ายที่วนเวียนอยู่ในหัวของเขาคือ..."นี่หรือคือผลตอบแทนของข้า...?""นี่หรือคือจุดจบของอ๋องฟู่หยางเซิน?""ข้าเลี้ยงดูอสูรกายขึ้นมาเองแท้ๆ…"







