เข้าสู่ระบบราชครู กู่เทียนหลง ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าสถานการณ์จะพลิกผันกลับมาเช่นนี้! แผนร้ายที่เขาวางไว้เพื่อกำจัด แม่ทัพซุนเทา ชายผู้ทำตัวโดดเด่นเกินหน้าเกินตา บัดนี้กลับกลายเป็นหายนะที่ย้อนมาทำลายเขาเองและที่เลวร้ายที่สุด... มันลากทั้งครอบครัวและลูกหลานของเขามาพัวพันด้วย!
หัวใจของชายชราในยามนี้บีบรัดราวกับถูกมือที่มองไม่เห็นบีบเค้นอย่างไร้ปรานี สายตาของเขากวาดมองเหล่าบุตรหลานที่กำลังยืนตัวสั่น พวกเขาล้วนแล้วแต่เป็นอนาคตของตระกูลกู่!
บางคนเป็นขุนนางผู้ทรงอำนาจบางคนเป็นแม่ทัพนายกอง คุมกำลังพลนับหมื่นแทบจะควบคุมโครงสร้างของราชสำนักทั้งหมดแต่ในเวลานี้ บุตรหลานของตระกูลกู่กลับยืนสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว
พวกเขาทุกคนตระหนักดีว่า... แม่ทัพซุนเทา ชายผู้ที่พวกเขาคิดว่าเป็นเหยื่อของตระกูลตนเองกลับกลายเป็นนักล่าที่กำลังนั่งจิบสุราอย่างสบายอารมณ์ ณ ใจกลางห้องโถงของพวกเขา
รอยยิ้มของซุนเทาไม่ต่างอะไรจากพญามัจจุราชที่รอเวลาชำระแค้น!
“แม่ทัพซุนเทาได้โปรดระงับโทสะลงก่อน พวกเรายังคงพูดคุยกันได้”
ชายชราพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะควบคุมความโกรธของตัวเองลง รวมไปถึงใบหน้าที่สุดแสนจะอัปลักษณ์ในยามที่ต้องกล้ำกลืนฝืนทนต่อสถานการณ์ตรงหน้า ไม่ว่าจะอย่างไร เขาจะต้องรักษาชีวิตของตระกูลเอาไว้ให้ได้
"หุบปาก... ตัวเจ้านั้นแก่แล้ว เก็บแรงไว้หายใจเถอะ"
แม่ทัพซุนเทาพูดออกมาอย่างฉุนเฉียว ขณะที่มืออีกข้างยังคงถือจอกสุราไว้มั่น ดวงตาของเขาทอประกายเย็นชา ท่าทางของเขายังคงสง่างามดั่งเช่นทุกครั้งที่ผ่านมาราวกับว่าในยามนี้เขาต่างหากที่เป็นเจ้าของตระกูลกู่
สายตาของบุตรหลานตระกูลกู่ที่รวมตัวกันอยู่ในห้องโถงเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น ซุนเทา ชายผู้นี้ไม่ใช่บุรุษธรรมดาที่สามารถข่มขู่ให้หวาดกลัวได้ง่ายๆ ถึงแม้ว่าในร่างกายของเขาจะเต็มไปด้วยพิษและไม่อาจใช้พลังลมปราณได้ แต่เขายังคงเปี่ยมไปด้วยอำนาจ เพียงแค่คำพูดของเขา... ก็สามารถทำให้ขุนนางใหญ่และตระกูลที่ทรงอิทธิพลต้องตัวสั่นได้!
ราชครู กู่เทียนหลง กัดฟันแน่น ใบหน้าเหี่ยวย่นของเขากระตุกเล็กน้อย ทุกสิ่งที่เขาวางแผนมา... กลับกลายเป็นหายนะของตนเอง! "ซุนเทา เจ้าต้องการอะไรกันแน่!"
เสียงของชายชราสั่นเครือเล็กน้อยแม้พยายามควบคุมตนเองให้นิ่งสงบ แต่แม่ทัพหนุ่มกลับไม่ได้ใส่ใจคำถามนั้นเลยแม้แต่น้อย ซุนเทายกจอกสุราขึ้นจิบช้าๆ ก่อนจะกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น
"ข้าเพียงต้องการเห็นสีหน้าของเจ้าตอนนี้... และข้าก็พึงพอใจเป็นอย่างมาก"
เสียงหัวเราะของแม่ทัพซุนเทาดังก้องในห้องโถง ในขณะที่ราชครู กู่เทียนหลง และเหล่าบุตรหลานของเขา กลับต้องจมอยู่กับความสิ้นหวัง "พวกเจ้าทุกคน จงก้มกราบข้าเพื่อเป็นการขอขมา!"
แม่ทัพซุนเทากล่าวเสียงเรียบ ดวงตาฉายประกายเยือกเย็นราวกับคมมีด บรรยากาศในห้องโถงตกอยู่ในความเงียบงัน ทุกสายตาหันไปมองราชครู กู่เทียนหลง เป็นเชิงรอฟังคำสั่ง
"ซุนเทา! เจ้าอย่าให้มันมากจนเกินไปนัก!" ราชครูตวาดลั่น เส้นเลือดบนหน้าผากปูดโปน ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยโทสะ "แกมันก็แค่เด็กรุ่นหลัง คิดจะให้ข้ามอบกราบเจ้ารึ?! น่าขันสิ้นดี!"
แม่ทัพหนุ่มหัวเราะเบาๆ "งั้นก็บอกลาโลกได้เลย"
เสียงนิ้วกระดิกแตะลงที่ตัวจุดชนวน เสียงพรึบๆ ของไส้ชนวนที่เริ่มเผาไหม้ทำให้ทุกคนในห้องโถงเบิกตากว้างด้วยความตื่นตระหนก
"อย่าาา!!!" เสียงกรีดร้องของลูกหลานตระกูลกู่ดังระงม ทันใดนั้น ทุกคนไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง เด็กหรือแก่ พากันคุกเข่าลงแทบเท้าซุนเทาในทันที! ร่างของพวกเขาสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว ดวงตาเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
แม้แต่ ราชครู กู่เทียนหลง ผู้เป็นเจ้าบ้าน ผู้เคยยิ่งใหญ่เหนือผู้คน ยังต้องกัดฟันจนกรามแทบแตก ร่างชราสั่นสะท้าน คุกเข่าลงบนพื้นอย่างอัปยศ หัวใจของเขาแทบจะแตกสลาย!
เขาคือราชครูแห่งแผ่นดิน เป็นบุรุษที่ยิ่งใหญ่ แต่วันนี้เขาต้องคุกเข่าต่อหน้า "ซุนเทา"
"ดีมาก" แม่ทัพซุนเทากล่าวเสียงเรียบ ก่อนจะยกจอกสุราขึ้นดื่มอย่างอารมณ์ดี ดวงตาของเขาฉายแววเยาะเย้ย ขณะที่สายตาของราชครูเต็มไปด้วยความเคียดแค้น!
"งั้นพวกเราไปโลกหน้าด้วยกันเถอะ!"
แม่ทัพซุนเทาแสยะยิ้มอย่างชั่วร้าย แววตาของเขาเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง พรึบ! นิ้วของเขากระตุกดึงตัวจุดชนวนระเบิดในทันที!
"ไม่นะ!!"
ราชครู กู่เทียนหลง เบิกตากว้าง ใบหน้าซีดเผือด ความหวาดกลัวที่แท้จริงแล่นเข้าจู่โจมเขาอย่างรุนแรง แต่ไม่มีโอกาสให้เขาได้เปล่งเสียงสั่งการใด ๆ ได้อีกแล้ว
"บัดซบ!!"
เสียงตะโกนสุดท้ายของราชครูดังก้อง ก่อนที่ทุกอย่างจะหายไปหมด
ตู้มมมมมมม!!!
เสียงระเบิดสะเทือนเลื่อนลั่น แรงอัดอากาศทำให้พื้นดินสั่นสะเทือน อาคารทั้งหลังของจวนตระกูลกู่ แตกกระจายเป็นเศษซาก! เปลวเพลิงพวยพุ่งสูงเสียดฟ้า เศษไม้ เศษอิฐ และซากศพปลิวว่อน ทั่วทั้งจวนมอดไหม้กลายเป็นเพียงเถ้าถ่าน!
ทุกชีวิตในจวน… หายไปในพริบตา!
ในขณะเดียวกัน ที่ พระราชวัง ใกล้กับจวนราชครู องค์ฮ่องเต้ ฟู่ซื่อเทียน กำลังจิบชาอย่างสบายใจภายในสวนอันงดงาม พระองค์กำลังรอข่าวดีจากราชครูด้วยสีหน้าพึงพอใจ
แต่ทันใดนั้น
ตูมมมม!!
ณ สวนหลวง สถานที่ซึ่งองค์ฮ่องเต้ฟู่ซื่อเทียนทรงโปรดปรานที่สุด ภายใต้แสงอาทิตย์ยามเที่ยงวัน ดอกเหมยบานสะพรั่งส่งกลิ่นหอมกรุ่นไปทั่วบริเวณ สายลมอ่อนพัดไหวทำให้ใบไม้กระทบกันเกิดเสียงกรุ๊งกริ๊งเบา ๆ
ศาลาหินอ่อนกลางสวนตั้งตระหง่าน โอบล้อมด้วยบ่อน้ำใสราวกระจก ภายในศาลา องค์ฮ่องเต้ประทับอยู่บนแท่นไม้แกะสลักอย่างวิจิตรงดงาม ดวงตาคมปลาบ จับจ้องไปยังจวนของราชครูที่ตั้งอยู่ไม่ไกล
เบื้องหน้าพระองค์ ชาก้านหยกในจอกขาวยังคงส่งไออุ่นจางๆ พระหัตถ์หยิบจอกขึ้นจิบอย่างสำราญ ขณะรอข่าวดีจากราชครู กู่เทียนหลง
"เหอะ! สมควรแล้วที่จะกำจัดซุนเทาไปซะ..."
พระองค์ทอดถอนพระทัย รอยยิ้มเย้ยหยันผุดขึ้นบนริมฝีปาก คิดถึงภาพแม่ทัพซุนเทาถูกกำจัด พระองค์ก็รู้สึกโล่งอก
แต่แล้ว...
ตูมมมมม!!!
เสียงระเบิดดังกึกก้อง แรงสั่นสะเทือนสะท้านไปทั่วทั้งพระราชวัง นกน้อยที่เกาะตามต้นไม้ต่างบินหนีกระเจิง ใบบัวในบ่อน้ำกระเพื่อมไหวราวกับถูกคลื่นขนาดใหญ่ซัด ต้นเหมยอายุร้อยปีหักสะบั้นลงในพริบตา!
แรงระเบิดที่เกิดขึ้นจากจวนราชครู พุ่งทะยานขึ้นฟ้าราวกับอสูรกายเพลิง เปลวไฟและควันดำทะมึนลุกโชนพวยพุ่ง เสียงผู้คนกรีดร้องด้วยความหวาดกลัวดังไปทั่วบริเวณ
ฮ่องเต้ฟู่ซื่อเทียนยังไม่ทันตั้งตัว…
"อึก...!!"
แรงอัดอากาศจากระเบิด ซัดร่างของพระองค์กระเด็นออกจากศาลาหินอ่อนทันที!
ร่างสูงสง่าปลิวคว้างกลางอากาศ ราวกับใบไม้ที่ไร้ราก ปลิวกระแทกเข้ากับต้นเหมยขนาดใหญ่จนกิ่งไม้หักโค่น
"อ๊อก!!"
พระองค์กระอักเลือดสดๆ พุ่งออกจากปาก เลือดสีแดงฉานกระเซ็นลงบนอาภรณ์มังกรทองของพระองค์ ความร้อนจากแรงระเบิดแผดเผาผิวหนังจนรู้สึกแสบร้อน มือของพระองค์พยายามยันพื้น แต่กลับสั่นเทาไร้เรี่ยวแรง
ดวงตาของพระองค์เบิกกว้าง สะท้อนภาพซากปรักหักพังของจวนราชครู
ไม่มีอีกแล้ว... จวนหลังใหญ่ที่เคยยิ่งใหญ่ตระหง่านไม่มีอีกแล้ว... ตระกูลกู่ที่เคยยิ่งใหญ่ข้ามยุคสมัย
สิ่งเดียวที่เหลืออยู่… คือความเงียบงันของความตาย
เสียงลมหายใจของพระองค์ หนักและขาดห้วง สายตาหวาดกลัวจนแทบไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น
"ราชครู… ซุนเทา… พวกเจ้าทำบ้าอะไรกันลงไป!?"
หลังจากที่สะสางทุกเรื่องราวในเมืองหลวงจนเสร็จสิ้น เยี่ยจิงหลินก็ตัดสินใจเดินทางกลับไปยังหมู่บ้านไท่ผิงชุน ที่นั่น… คือสถานที่ที่มีความหมายกับนางมากที่สุดเมื่อมาถึงหมู่บ้านแห่งนี้ บรรยากาศรอบตัวแตกต่างจากเมืองหลวงโดยสิ้นเชิงไม่มีเสียงของขุนนางที่คอยแย่งชิงอำนาจ ไม่มีแววตาแห่งความโลภ ไม่มีเสียงกระซิบของคนที่พยายามคิดคดหักหลังที่นี่มีเพียงสายลมอ่อนๆ อากาศที่สดชื่น และผู้คนที่ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายแม้ว่าหมู่บ้านแห่งนี้จะ แห้งแล้งและทุรกันดารแต่สำหรับเยี่ยจิงหลินที่นี่คือบ้าน เมื่อเดินเข้าสู่เรือนของตนเอง นางกลับต้องแปลกใจเมื่อพบว่า หลิวฉางหยาง กำลังพักอาศัยอยู่ที่นี่! เยี่ยจิงหลินหันไปมองมารดาของตนซูหลินด้วยความสงสัยก่อนที่แม่ของนางจะ เผยรอยยิ้มออกมาอย่างเขินอาย"ลูก… แม่ตัดสินใจแล้วว่าแม่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง" หลิวฉางหยางไม่ใช่แค่คนรู้จัก แต่เขาเป็นคนที่ ยืนเคียงข้างและคอยดูแลแม่ของนางเสมอมาในวันที่ชีวิตของซูหลินลำบากเขาอยู่เคียงข้างนางโดยไม่ทอดทิ้งและตอนนี้แม่ของเยี่ยจิงหลินก็ได้ตัดสินใจเปิดใจให้กับความรักอีกครั้งเยี่ยจิงหลินเมื่อเห็นแม่ของตนมีความสุข นางย่อมดีใจอย่างที่สุด"แ
เวลาผ่านไปหนึ่งเดือนเต็ม...ด้วย ฝีมือการรักษาของหมอเทวดาหลานซือหมิง ในที่สุด ฮ่องเต้ฟู่ซื่อเทียนก็ฟื้นคืนสติอีกครั้ง!แม้ว่าพระองค์ยังต้องใช้เวลาอีกมากกว่าจะกลับมาแข็งแรงเต็มที่ แต่สิ่งที่พระองค์ได้รับรู้หลังจากฟื้นคืนสติมันทำให้หัวใจของพระองค์สั่นสะท้านยิ่งกว่าพิษร้ายที่เคยกัดกินร่างกายเสียอีก!"คนที่วางยาข้า... คือน้องชายของข้าเอง!?" ฮ่องเต้ฟู่ซื่อเทียนตื่นตระหนกเมื่อรับรู้ถึงความจริง อ๋องฟู่หยางเซิน ผู้ที่เขาเคยมอบความไว้วางใจ... กลับเป็นผู้ที่คิดจะฆ่าเขาเอง!สิ่งที่ทำให้พระองค์สะท้านใจไปมากกว่านั้นคือ..."ผู้ที่ช่วยข้ากลับเป็นบุตรสาวของแม่ทัพซุนเทา... บิดาของนางคือผู้ที่ข้าเคยหวาดระแวงเพราะคำยุยงของราชครูกู่เทียนหลง!" พระองค์หวาดระแวงแม่ทัพซุนเทาเพราะคำพูดของราชครูที่คอยปั่นหัวสุดท้าย... พระองค์ก็ต้องสูญเสียทั้งคู่ไปหลังจากนั้นไม่นานความเดือดดาลก็ปะทุขึ้น!"ข้าจะไม่มีวันให้อภัยมัน!" ดวงตาของฮ่องเต้ฟู่ซื่อเทียน ฉายแววของความโกรธแค้นแม้ว่าอ๋องฟู่หยางเซินจะไม่เหลือเรี่ยวแรงใดๆ แล้ว แม้ว่าเขาจะอยู่ในสภาพของคนที่ไร้สติ เหม่อลอย ไม่รู้เรื่องราวใดๆแต่ความผิดที่เขาก่อขึ้นมันเกินกว่าที
การตายขององค์ชายฟู่ซิวเหิง… เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น เยี่ยจิงหลินไม่ได้คิดจะหยุดเพียงแค่ปลิดชีพองค์ชาย แต่นางกำลังจะทำให้ตระกูลของอ๋องฟู่หยางเซินล่มสลายไปทั้งสายเลือด! ก่อนที่นางจะลงมือ เยี่ยจิงหลินส่งคนของนางออกไปสืบข่าวเกี่ยวกับบุตรชายของอ๋องฟู่หยางเซินทุกคนพวกมันทุกคนล้วนชั่วช้า ไม่ได้ต่างไปจากฟู่ซิวเหิงเลยแม้แต่น้อยพวกมันฉ้อโกง ฉุดคร่าหญิงสาว กดขี่ชาวบ้าน ใช้อำนาจอย่างอำมหิต...ทุกสิ่งที่ได้รับรายงานมามีแต่สิ่งที่ทำให้นางยิ่งแน่ใจว่าพวกมันสมควรจะถูกกำจัดจนหมด!เมื่อแผนการถูกวางไว้อย่างรัดกุม ค่ำคืนนี้ก็ไม่ต่างอะไรไปจาก คืนแห่งนรกที่แท้จริงสำหรับท่านอ๋องแม้ว่าตัวของเขานั้นไม่มีสติเป็นของตัวเองแล้วก็ตาม"ลอบสังหารพร้อมกันในคืนเดียว อย่าให้เหลือแม้แต่คนเดียว"นางออกคำสั่งอย่างเด็ดขาด! เหล่ามือสังหารในเงามืด เคลื่อนไหวอย่างไร้เสียง แต่ละคนได้รับเป้าหมายของตนเอง ไม่มีความผิดพลาด ไม่มีความลังเล มีเพียงจุดจบของเครือญาติแห่งอ๋องฟู่หยางเซินเท่านั้นที่รออยู่!เสียงกรีดร้องแห่งความตื่นตระหนก ดังขึ้นจากคฤหาสน์หลายแห่งของบุตรชายท่านอ๋อง"ไม่นะ! ปล่อยข้าไป! ข้าให้เงินเจ้าได้!""อย่า! ข้ายอมแ
เยี่ยจิงหลินยืนอยู่กลางโถงสุราที่ถูกย้อมไปด้วยเลือด นางจ้องมองภาพตรงหน้าอย่างพึงพอใจ ฟู่ซิวเหิง องค์ชายผู้เคยหยิ่งทะนงบัดนี้กำลังสั่นสะท้านไม่ต่างจากลูกนกที่ถูกขังไว้ในกรงแห่งความตาย!นางกวาดสายตามองเหล่าขุนนางและองครักษ์ที่เหลือรอด บางคนยังยืนตัวแข็งทื่อด้วยความหวาดกลัว บางคนคุกเข่าลงร้องขอชีวิต น้ำตานองหน้า แต่มันไร้ประโยชน์!ใบหน้าของเยี่ยจิงหลินยังคงเรียบนิ่ง… ก่อนที่ริมฝีปากของนางจะคลี่ยิ้มบางๆ ออกมา"จงดับลมหายใจของพวกมันให้หมดซะ... อย่าให้รอดไปได้แม้แต่คนเดียว"คำสั่งของนางเยือกเย็นราวกับเป็นเสียงแห่งมัจจุราช เงามรณะเคลื่อนไหวทันที!เสียงดาบกระทบกับเนื้อ เสียงเลือดสาดกระเซ็น เสียงกรีดร้องดังขึ้นเป็นระลอก ก่อนที่ทุกอย่างจะค่อยๆ เงียบลงไปทีละน้อย ฟู่ซิวเหิงจ้องมองภาพตรงหน้าด้วยสายตาที่สั่นไหว เขาเห็นขุนนางที่เคยประจบสอพลอตนเองถูกเชือดไปทีละคน…เขาเห็นองครักษ์ของตนเองล้มลงโดยไม่มีโอกาสแม้แต่จะชักดาบขึ้นมาต่อสู้!"ไม่… ไม่…"ร่างของเขาสั่นสะท้านไปทั้งตัว สิ่งที่เขาเคยภาคภูมิใจ อำนาจ ความเย่อหยิ่ง ความทะเยอทะยานล้วนมลายหายไปจนหมดสิ้นและเมื่อความหวาดกลัวพุ่งถึงขีดสุด…"ท่านพ่อ! ช่วยข
ภายใน หอสุรา ที่เคยเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลอง พลันเกิดความเปลี่ยนแปลงในพริบตาเดียว!ฟู่ซิวเหิง และเหล่าขุนนางยังคงกำลังดื่มด่ำกับความสุขจากอำนาจใหม่ของตนเอง เสียงจอกสุรากระทบกัน เสียงหัวเราะยังคงดังไปทั่วทั้งห้องโถง ทุกคนกำลังหลงระเริงอยู่ใน ภาพมายาของชัยชนะแต่แล้ว…"พรึ่บ!"เปลวไฟทุกดวงภายในห้องโถงพลันดับมอดลงอย่างกะทันหัน!ทั้งห้องตกอยู่ใน ความมืดมิดอันสมบูรณ์แบบ ไม่มีแสงไฟแม้แต่ดวงเดียว มีเพียงเงามืดอันน่าหวาดกลัว ที่กำลังคืบคลานเข้ามาอย่างเงียบเชียบเสียงของแขกภายในงานเริ่มเปลี่ยนเป็นเสียงกระซิบกระซาบ ความตื่นตระหนกเริ่มแพร่กระจายออกไปในหมู่ผู้ร่วมงาน"มันเกิดอะไรขึ้น?!""มีใครไปจุดไฟเร็วเข้า!"เสียงตะโกนดังขึ้นจากมุมห้อง น้ำเสียงของพวกเขาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก!แต่ไม่มีคำตอบไม่มีใครขยับท่ามกลางความเงียบงันและความมืดมิด…"อ๊ากกกกก!!!"เสียงกรีดร้องที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด ดังก้องไปทั่วห้องโถง!หนึ่งในแขกของงานถูกปลิดชีพอย่างไร้ความปรานี!เงามัจจุราชที่คืบคลานฟู่ซิวเหิงเบิกตากว้าง เขาหันมองไปรอบๆ แต่สิ่งที่เขาเห็นมีเพียงความมืดสนิท!"ใครอยู่ตรงนั้น?! ออกมาเดี๋
ความจริงที่โหดร้ายกำลังกลืนกินหัวใจของท่านอ๋องฟู่หยางเซินอย่างช้าๆบุตรชายที่เขารักและไว้วางใจที่สุดกลับกลายเป็นผู้ที่กำลังผลักไสเขาไปสู่ความตาย!ร่างกายของท่านอ๋องที่อ่อนแรงอยู่แล้ว กลับยิ่งทรุดหนักลงกว่าเดิม ด้วยความรู้สึกที่ไม่อยากยอมรับความจริง ความรู้สึกเจ็บปวดและความสิ้นหวังได้กัดกินจิตใจของเขา ยิ่งไปกว่านั้น ความเศร้าโศกที่ค่อยๆ กัดกินหัวใจของเขา ทำให้พิษร้ายที่แฝงอยู่ในร่างแทรกซึมลึกลงไปในทุกอณูของร่างกาย!หัวใจที่แตกสลาย…ร่างกายที่อ่อนแอ…ความเจ็บปวดจากพิษร้ายที่คืบคลานเข้าสู่กระแสโลหิต…ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังบั่นทอน ชีวิตของอ๋องฟู่หยางเซิน ไปทีละนิดจากชายผู้ยิ่งใหญ่ที่เคยปกครองอำนาจเหนือผู้อื่น บัดนี้กลับต้อง นอนอยู่บนเตียงอย่างคนไร้ซึ่งเรี่ยวแรง ดวงตาที่เคยเปี่ยมไปด้วยพลังและความเย่อหยิ่ง กลับกลายเป็นสายตาที่เหม่อลอย…เขารู้ดีว่า ตนเองกำลังจะตายแต่สิ่งที่เลวร้ายที่สุดไม่ใช่ความตาย...แต่เป็นการตายด้วยน้ำมือของบุตรชายที่เขารักที่สุด!ความคิดสุดท้ายที่วนเวียนอยู่ในหัวของเขาคือ..."นี่หรือคือผลตอบแทนของข้า...?""นี่หรือคือจุดจบของอ๋องฟู่หยางเซิน?""ข้าเลี้ยงดูอสูรกายขึ้นมาเองแท้ๆ…"







