แชร์

014

ผู้เขียน: เสี่ยวหลันฮวา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-10-14 16:57:23

แสงอาทิตย์ยามสายสาดส่องลงบนหลุมศพเรียบง่ายที่ถูกจัดทำขึ้นอย่างรวดเร็วใต้ต้นไม้ใหญ่ ข้างหลุมศพมีหินแผ่นหนึ่งที่ถูกสลักชื่อของเมิ่งจูด้วยลายมือของซูเหยาเอง ตัวอักษรแต่ละตัวถูกสลักลงไปด้วยความตั้งใจและความเจ็บปวด คมมีดที่กรีดลงบนหิน ราวกับกรีดลงบนหัวใจของนาง

ซูเหยานั่งคุกเข่าลงหน้าหลุมศพ มือเรียวถือจอกเหล้าหยกที่เต็มไปด้วยเหล้าสีอำพัน ภาพของเมิ่งจูในอดีตฉายชัดในห้วงความคิด รอยยิ้มสดใส เสียงหัวเราะคิกคัก และแววตาที่เต็มไปด้วยความภักดี ก่อนจะรินเหล้าลงบนพื้นดินเบื้องหน้า กลิ่นหอมของสุราลอยคลุ้งในอากาศ ปะปนกับกลิ่นดินและกลิ่นคาวเลือดที่ยังคงติดจางๆ อยู่ในความทรงจำ กลิ่นคาวเลือดที่นางไม่มีวันลืม คอยย้ำเตือนถึงความสูญเสีย

“เมิ่งจู...” เสียงของนางแผ่วเบา ราวกับกลั่นออกมาจากความรู้สึกที่หนักอึ้งในใจ เสียงสั่นเครือจนแทบฟังไม่ได้ศัพท์

“เจ้าบอกให้ข้ามีชีวิตต่อไป แต่เจ้ากลับทิ้งข้าไปก่อน เจ้ามันโง่ โง่เขลาจริงๆ” น้ำเสียงของนางเต็มไปด้วยความขมขื่น ความโกรธที่ปะปนกับความเศร้า น้ำตาที่ไหลอาบแก้มโดยไม่ทันรู้ตัว หยดน้ำตาไหลลงบนพื้นดิน ราวกับเป็นหยาดโลหิตที่ไหลลงสู่หลุมศพ เป็นการรดน้ำศพให้เพื่อนรัก

มื
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • อย่าบังคับให้ข้าต้องกลายเป็นนางร้าย   027

    เสียงระฆังลมกระทบกันเบา ๆ แสงแดดยามสายส่องลอดม่านไม้ไผ่เป็นริ้วร้านน้ำชาที่เพิ่งเปิดใหม่ “เหยาซินถัง” ตกแต่งงดงาม ตัวอาคารไม้สีอ่อน โปร่งด้วยหน้าต่างกระจกฝ้ารูปเมฆ โต๊ะไม้ไผ่เรียงรายเป็นระเบียบ ด้านในสุดมีชั้นวางโถชาแกะลาย ตรงกลางห้อง มีกระถางบัวขนาดใหญ่ น้ำใสสะท้อนเงาจันทร์จำลองจากโคมกระดาษที่แขวนอยู่เหนือศีรษะวันนี้คลาคล่ำด้วยผู้คน พวกหลงจู๊และเหล่าบัณฑิตมานั่งพูดคุยกัน เสียงหัวเราะนุ่มนวลเคล้ากลิ่นชาอบใบเหมย และกลิ่นหอมหวานจากขนมสดใหม่ซูเหยาอยู่ในชุดผ้าแพรสีอ่อน นั่งอยู่หลังเคาน์เตอร์ไม้เล็ก ๆ นางกำลังบรรจงรินน้ำชาจากกาน้ำดินเผาลงในจอกขาว ละอองไอร้อนลอยคลอรอบปลายนิ้วหลี่หลัวยืนอยู่ใกล้ ๆ มือเรียวกำลังจดบัญชีและตรวจนับกล่องชา พูดด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจ“ในที่สุดความฝันของคุณหนูก็กลายเป็นจริงแล้วเจ้าค่ะ ดูสิ ลูกค้าข้างนอกแน่นขนัดตั้งแต่เปิดร้านจนถึงตอนนี้ยังไม่มีวี่แววว่าจะลดลงเลยสักนิด”ซูเหยายิ้มบาง ดวงตาอ่อนโยนทอดมองออกไปยังหน้าร้าน มองกลุ่มคนเดินผ่าน เสียงหัวเราะของแขกหนุ่มสาว และสูดกลิ่นหอมของขนมอบคลุ้งไปทั่วอากาศ“กลิ่นชาคละเคล้าขนมสูตรเฉพาะตอนนี้กำลังดีทีเดียว หากรุนแรงไปจะท

  • อย่าบังคับให้ข้าต้องกลายเป็นนางร้าย   026

    ซูเหยาใช้เท้าเขี่ยขาเขาอย่างไม่ลังเล ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง น่าจะสลบไปแล้วกระมัง"ช่วยคนหนึ่งครั้งเรียกว่าบังเอิญ สองครั้งเรียกว่าสวรรค์บังคับ" ซูเหยาพึมพำกับตัวเองขณะยืนมองเขา นางเริ่มยกชายเสื้อของเขาขึ้น พิจารณาแผลกลางอกที่ยังคงไหลออกมาไม่หยุด แม้จะไม่ลึกมากจนถึงชีวิต แต่ถ้าไม่รีบรักษาในตอนนี้ เขาคงจะได้ตายจริง ซูเหยารู้ดีว่าเวลาไม่รีรอเมื่อมือของซูเหยาเริ่มทำแผลให้กับเขา นางรู้สึกถึงความไม่มั่นคงที่กำลังก่อตัวในใจ ความหล่อเหลาของเขาทำให้นางเผลอหยุดมองเนิ่นนาน ใบหน้าที่ไม่อาจบรรยายได้ด้วยคำพูด ความงดงามของเขานั้นเหมือนเทพบุตรที่ลงมาอยู่ตรงหน้าในขณะที่นางทายา มืออีกข้างไม่รักดีถึงกับลูบไล้ใบหน้ารูปสลักนั้น ความรู้สึกบางอย่างก็แทรกเข้ามาในใจของซูเหยาฉับพลัน นางรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่ยากจะอธิบาย ซูเหยากลืนน้ำลายอึกใหญ่ สั่นศีรษะเรียกสติตนเองกลับคืน ไม่ได้ ข้าไม่อาจปล่อยให้ตัวเองติดอยู่ในความลุ่มหลงนี้ได้จู่ ๆ สัญชาตญาณบางอย่างก็ทำให้ซูเหยาหยุดการกระทำของตัวเองได้สำเร็จ นางเหลือบมองไปที่ศีรษะของชายหนุ่ม แล้วเห็นตัวเลขที่กระพริบขึ้นเหนือหัวของเขา นางไม่อาจมองข้ามสิ่งนี้ได้ ค่าความชอบ

  • อย่าบังคับให้ข้าต้องกลายเป็นนางร้าย   025

    ซูเหยากระพริบตามองหลี่หลัวอยู่หลายที “หลี่หลัว ข้าคิดว่าตั้งแต่นี้ต่อไป เจ้าควรออกกำลังกายให้มากเสียหน่อย”หลี่หลัวยิ้ม ขยับแขนหมุนข้อมือ “คุณหนูเจ้าคะ ข้าก็คิดเช่นนั้นอยู่พอดี”จากนั้น เสียงฟาด ฟัน กระแทกดังสนั่นราวม้าน้ำคลั่งในลานเก่าแห่งนี้ เหล่านักฆ่าคิดว่าตัวเองคือผู้ล่า ที่ไหนได้พวกเขากลายเป็นหมูในถังไม้ไผ่ ถูกปลิดลมหายใจราวกับใบไม้หล่นเปรี๊ยะ!เสียงกระทบเหล็กดังลั่น ชายชุดดำเบี่ยงหลบ แต่มือซ้ายของเขาถูกปาดจนเส้นเอ็นขาด นิ้วที่กำคมดาบอ่อนยวบลงทันใด“เร็วเกินไปแล้ว!” เขาสบถอีกคนอาศัยจังหวะหลบหลี่หลัว พุ่งเข้าหาซูเหยาจากด้านหลัง แต่ก่อนปลายดาบจะถึงเส้นผมของนาง ซูเหยาแค่ขยับชายแขนเสื้อเบา ๆ เข็มอีกเล่มก็ฝังเข้าไปใต้คางของมันไม่กี่ลมหายใจนับจากที่เหยียดหยามนาง หกคนล้มลงต่อหน้าทุกสายตาตอนนี้ แม้แต่เสียงหัวเราะก็เริ่มฝืดคอ นักฆ่าคนหนึ่งเริ่มถอยหลัง อีกคนเบิกตากว้าง มองพัดในมือหลี่หลัวกับแววตาไร้หวั่นของซูเหยา“อี-อี-อีนังนี่ ไม่ใช่แค่คุณหนูธรรมดา! ข่าวลือเป็นเรื่องจริง อึก”“โง่จริง ถ้าข้าเป็นคุณหนูธรรมดา คงถูกฆ่าไปตั้งแต่ตอนอยู่ในจวนโหวแล้วกระมัง” ซูเหยาถอนหายใจ เพียงแค่ตอนนั้นนั

  • อย่าบังคับให้ข้าต้องกลายเป็นนางร้าย   024

    “มีข่าวจากเรือนเล็กในตลาดฝั่งเหนือเจ้าค่ะ” เสียงของเสี่ยวเซียงดังขึ้นยามเช้า นางเป็นหนึ่งในเด็กสาวกำพร้าที่ซูเหยาช่วยไว้ตั้งแต่ยังเร่ร่อน ปัจจุบันถูกฝึกให้เป็นหูตาในเมืองหัวเฉิน“พูดมา” ซูเหยากล่าวเรียบ ดวงตายังจับจ้องแผนที่เล็กบนโต๊ะ“พ่อค้ากลุ่มใหม่จากเมืองหลวงมาเปิดร้านผ้า แต่ที่แปลกคือไม่มีการแจ้งกับตระกูลใดในเมือง หญิงที่ดูแลร้าน มีสำเนียงคล้ายคนเมืองหลวงเจ้าค่ะ”หลี่หลัวขมวดคิ้ว ช่างจองเวรจองกรรมไม่เลิกรา “พวกนั้นส่งคนมาอีกแล้วหรือ”ซูเหยาเพียงพยักหน้าเล็กน้อย เสียงหึในลำคอดังขึ้น นางไม่แปลกใจ คนเลวเหล่านั้นจะยอมรามือได้อย่างไร หากนางยังมีชีวิตอยู่ดี เพียงแต่กังวลที่พวกเขาเริ่ม “เดินเกมเปิด” แล้ว“ให้อาหลินลองไปสมัครเป็นเด็กยกผ้าในร้านนั้น ถ้าอีกฝ่ายรับเข้า ก็คือเปิดช่องให้เราแล้ว” ซูเหยาว่าช้า ๆ คืนหนึ่งในตลาดยามค่ำ เสียงขลุ่ยจากเด็กเร่ร่อนคนหนึ่งบรรเลงทำนองเพลง ชายวัยกลางคนแต่งกายเรียบง่ายนั่งดื่มสุรากับสหายอยู่โต๊ะใกล้ ๆชายที่ดูไม่มีพิษภัยนี้ไม่มีใครรู้ว่า เขาผู้นั้นคือหวังถง หัวหน้ากลุ่มข่าวเงาในเมืองหัวเฉิน “ข้าคิดว่านางเด็กซูนั่นจะอยู่เงียบ ๆ เสียอีก” เขากระดกเหล้าเข้า

  • อย่าบังคับให้ข้าต้องกลายเป็นนางร้าย   023

    “รับชาหรือสำรับเจ้าคะ” หลงจู๊ถามบุรุษทั้งสอง“ขอแค่ที่นั่งเงียบ ๆ กับชาร้อนสักจอกวันนี้อากาศมันร้อนมากไปหน่อย” เสียงไม่ดัง ไม่ต่ำดังขึ้นจากบุรุษปริศนา เสียงกระดิ่งดังขึ้นจากประตูหลังร้าน ซูเหยาทันเห็นเป้าหมายสั่งสำรับอาหารบนโต๊ะพอดี เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาใกล้ เขาเพียงเงยหน้ายิ้มรับซูเหยาหญิงสาวแล้วยอบกาย “ไม่ทราบท่านมาจากสำนักใดเจ้าคะ”ชายหนุ่มยิ้มบาง “ข้าแค่คนเดินทาง หยุดพักใต้ร่มเงาไม้ ไม่ได้มาจากที่ใดเป็นพิเศษ”ซูเหยายกคิ้วเล็กน้อย “คนที่ไม่มีจุดเริ่มต้น ก็มักไม่มีปลายทาง”“ข้าไม่แน่ใจเรื่องปลายทาง” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงนุ่ม “แต่ข้าประทับใจกลิ่นชาของที่นี่จึงแวะมาเสียหน่อย กลิ่นชาในร้านนี้ บางทีก็คล้ายกลบกลิ่นอื่นดีนัก อย่างเช่นกลิ่นยา หรือกลิ่นพิษ”“นั่นก็แล้วแต่วาสนาของแต่ละคนแล้วเจ้าค่ะ” ซูเหยายิ้มตอบ ช่างประจวบเหมาะที่น้ำชามาถึงพอดีชายหนุ่มหัวเราะในลำคอไม่โต้กลับ แต่ยกจอกชาขึ้นจิบ “อย่างน้อยตอนนี้ก็รู้ว่าจอกนี้ปลอดภัยยิ่ง”“หากจะใส่ ก็ไม่ใส่ในจอกแรกหรอกเจ้าค่ะ” ซูเหยาว่าพลางยิ้มครู่หนึ่งที่ความเงียบแทรกกลางบรรยากาศ เขาวางจอกลงอย่างแผ่วเบา “คุณหนูรองซูไม่ต้องกังวล ข้าม

  • อย่าบังคับให้ข้าต้องกลายเป็นนางร้าย   022

    ลมเย็นจากแม่น้ำเซี่ยนที่พัดผ่านกลางเมืองหัวเฉินพัดกลิ่นน้ำแกงเข้มข้นและเสียงขลุกขลักของเตาหล่อเหลาอาหารกลางถนนเส้นรองให้โชยเข้าไปถึงอีกฟากถนน ที่ใจกลางย่านการค้าทางตะวันตกของเมือง ตั้งตระหง่านอยู่คือเหลาเจินซินเหลาอาหารที่เปิดมาสิบปีไม่เพียงขึ้นชื่อในเขตทางใต้แต่กลับโด่งดังในหมู่นักเดินทาง ขุนนางท้องถิ่น และพ่อค้าใหญ่ระหว่างแคว้นที่เดินทางมาชื่อของเหลาเจินซินอาจยังไม่เป็นที่รู้จักในเมืองหลวง แต่ในหัวเฉินหากเอ่ยถึง “หมูแดงหอมชา” หรือ “ขนมเปี๊ยะลายมังกร” ของที่นี่แล้วล่ะก็ ไม่ว่าใครก็ต้องพยักหน้าทว่า ไม่มีใครรู้ว่าเจ้าของที่แท้จริงของเหลาอาหารหลังนี้คือใคร นอกจากคนตระกูลฟางเช้าวันรุ่งขึ้น ซูเหยาเดินมาถึงหน้าร้านโดยมีเพียงหลี่หลัวติดตาม ใบหน้าเรียบเฉยของนางซ่อนอยู่ใต้หมวกไม้ไผ่ปีกกว้าง สวมผ้าคลุมสีน้ำตาลเรียบ ไร้เครื่องประดับใด ๆ“มีข่าวจากโรงเตี๊ยมฝั่งใต้เจ้าค่ะ สายของพวกในจวนหย่งอันโหวแฝงมาเป็นแขกค้าขายแล้วสองชุด” หลี่หลัวกระซิบซูเหยาไม่ตอบในทันที มือเรียวยกขึ้นถอดหมวกปีกกว้างออก ขณะยืนมองภาพความวุ่นวายเล็กๆ ของร้าน เสียงเด็กฝึกงานตะโกนเรียกออเดอร์ เสียงหัวเราะของพ่อค้าจากดินแดนเห

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status