LOGINเรนเป็นคนมีเสน่ห์พราวเสมอยามอยู่ท่ามกลางผู้หญิง ร็อครู้ว่าเรนไม่หลบสายตาใคร โดยเฉพาะสาวๆ มันจะจ้องมองอย่างเปิดเผย แล้วนับอยู่ในใจอย่างสนุกว่าผู้หญิงที่จ้องสบตานั้นจะใช้เวลากี่วินาทีในการทนต่อสายตาคมกล้าของมันได้
"ถึงห้าวิไหม" ร็อคเอ่ยถามน้องชาย เรนหันไปเลิกคิ้วมองพี่ชายที่จุดยิ้มแกมเยาะให้
"พูดเรื่องอะไร" เรนเอ่ยถาม พลางเอามือล้างกระเป๋ากางเกงด้วยท่าทางรีแล็กซ์ ร็อคยักไหล่
"ก็จ้องใครอยู่ล่ะ แต่ดูท่านายจะจ้องไม่ถึงห้าวินะ"
กฎของเจ้าเรนมัน... ร็อคหัวเราะที่น้องชายนิ่งไปนิดหนึ่ง เรนไหวไหล่บ้าง
"มองทุกคน โตกันจนแทบจำไม่ได้"
เขาตอบเสียงเรียบ เพราะการไม่ค่อยได้กลับมาบ้าน หรือถ้าหากกลับก็ไม่ค่อยได้ไปพบใครนอกจากแม่และพ่อ
"พี่ร็อค พี่เรน ยังไม่เข้าไปเหรอคะ ใกล้เวลาฤกษ์งามยามปลอดแล้วนะ"
ทาริต้าร้องทักน้ำเสียงร่าเริง ทุกคนมีอาการเดียวกันคือตื่นเต้นและลุ้นกับการจะได้เห็นว่าใครเป็นเจ้าบ่าว แม้จะค่อนข้างแน่ใจว่าจะเป็นแม็กซ์ รอสเซิลก็ตาม
"พี่จะรอเจ้าสาวก่อน"
ร็อคเป็นคนตอบทีเล่นทีจริง แต่ไม่มีใครสงสัย เพราะร็อคเป็นเพื่อนรักเพื่อนสนิทของราชาวดีย่อมพูดเช่นนั้นได้ ถือว่าเป็นเรื่องปกติ
"คิดว่าแม็กซ์มาถึงแล้วค่ะ"
พาลิซ่าเอ่ยบ้าง เป็นการบอกกันเป็นนัยๆ ว่าเจ้าบ่าวมาแล้ว... ร็อคยิ้มและพยักหน้ารับทราบ สาวๆ พากันเดินผ่านประตูโค้งบานใหญ่ที่เปิดกว้างเข้าไปยังห้องจัดงานเลี้ยง
ร็อคยกมือขึ้นลูบตรงหัวใจที่กำลังเต้นไม่เป็นจังหวะ ผู้คนและบรรยากาศที่สุดแสนชื่นมื่นเต็มไปด้วยความสุข ไม่น่าเชื่อว่าวันนี้จะมาถึงจนได้ วันที่เขากำลังจะเข้าหอ ได้ครอบครองเป็นเจ้าของผู้หญิงที่เขารักมาตั้งแต่จำความได้
*****
อธิศดึงแว่นตากันแดดมาสวม หมวกแก็ปกระชับศีรษะดึงลงมาปิดหน้า หมวดฮู๊ดจากเสื้อแจ็คเก็ตถูกดึงขึ้นสวมทับหมวกอีกที จากนั้นก็ลงจากตึก เรียกแท็กซี่ไปตามที่อยู่ของอะพาร์ตเมนต์ของฟ้าใสกับกรีตรา
อธิศทราบว่าสาวน้อยสองคนนั้นทำงานที่นิวยอร์กหลังจากเรียนจบ ฟ้าใสยังไม่ยอมกลับไปลาสเวกัส ส่วนกรีตราก็ยังไม่ยอมกลับไปสานต่อธุรกิจของครอบครัวที่มอสโควเพราะยังสนุกกับงานและยังไม่ต้องการแยกจากกันในฐานะเพื่อนรักที่ทำตัวติดกันราวกับฝาแฝด
*****
เมื่อทั้งสองอาบน้ำเสร็จ ก็พากันออกมาจากห้องนอน อธิศโอบแขนไปรอบเอวของรัลดาพาเดินไปยังห้องครัว เห็นร่างสูงโปร่งระหงของฟ้าใสกำลังง่วนอยู่กับการแกะอาหารใส่จาน ฟ้าใสเงยหน้าขึ้นมาก็ทำตาค้างและอ้าปากหวอทันทีกับภาพที่เห็น ก่อนที่จะเข้าใจอย่างรวดเร็วว่าอะไรเป็นอะไร สาวน้อยแสร้งหรี่ตาและจุ๊ปาก
"ฮั่นแน่..." เอ่ยทักทำเสียงรู้ทัน ก่อนจะยกมือไหว้อธิศ
"พี่ยอดสุดหล่อแอบมาตีท้ายครัวเราได้ยังไง... โธ่ ฟ้าก็คิดว่ารองเท้าใครนะ ไซส์ได้ใจขนาดนี้ กำหนดวันแต่งงานหรือยังคะนี่"
สาวน้อยเอ่ยกระเซ้าโดยไม่ต้องให้ใครมาอธิบายให้ฟัง ถือเป็นคนฉลาดมีไหวพริบปฏิภาณดีเยี่ยม รัลดาหน้าแดงที่สาวน้อยรู้ทันโดยไม่ต้องให้พูด แสดงว่าอาการพิรุธของหล่อนกับเขาคงจะแสดงออกมาอย่างเต็มที่ แต่ความจริงเขาดูท่าทางสบายและรีแล็กซ์เป็นปกติ มีแต่รัลดาที่ยังรู้สึกเขินอยู่บ้าง ก็มันเป็นสิ่งใหม่เหลือเกินนี่นา จู่ๆ ก็มีแฟน ได้เรียนรู้ในสิ่งที่มันเรียกว่าความรักและความใคร่ในเวลาเพียงชั่วข้ามวัน พอเพิ่งจะตกลงและคุยกันเข้าใจก็ดันมามีพยานรู้เห็นที่ไม่ได้รับเชิญอีก จะต้องฝีมือระดับลุงฟานโน่นล่ะถึงจะปรับตัวได้อย่างฉับพลันทันทีได้ เจ้าพ่อเงินตราผู้เป็นเซียนขั้นเทพในทุกเรื่อง
"เร็วๆ นี้แหละจ้ะ พี่รันจองฟ้าใสเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้พี่ด้วยนะ ได้หรือเปล่า"
รัลดาเอ่ยออกไป เมื่อเห็นเขาทำตัวตามสบายรัลดาก็เลยทำตัวตามปกติด้วย มองดูอาหารไทยซึ่งก็คือขนมจีนน้ำยากะทิตำรับไทยแท้ที่หารับประทานยากมาก ฟ้าใสจัดใส่ถ้วยให้เรียบร้อยแล้ว
"พี่ยอดทานด้วยกันนะคะ ฟ้าซื้อมาหลายชุด เผื่อคุณนายกรีนเขาด้วย"
ฟ้าใสเอ่ยชวน กรีน หรือกรีตรา นั้นเป็นอีกหนึ่งที่หลงใหลอาหารไทยทุกประเภท ฟ้าใสกุลีกุจอหยิบถ้วยมาอีกใบแล้วแกะขนมจีนใส่ลงไป อธิศหย่อนตัวลงนั่งบนเก้าอี้สตูลหน้าเคาน์เตอร์ รัลดาเดินไปเปิดตู้เย็นหยิบเหยือกน้ำผลไม้มารินใส่แก้วสามแก้ว แจกให้ทั้งสามคน จากนั้นก็มานั่งข้างๆ อธิศ
"แล้วทำไมน้องฟ้ามาถึงบ้านก่อนละ กรีนไปไหน"
รัลดาเอ่ยถามเมื่อฟ้าใสมานั่งลงบนสตูลตัวถัดจากหล่อน ทั้งสามคนเริ่มรับประทานไปและคุยกันไป ปกติฟ้าใสและกรีตา สองสาวจะทำตัวติดกันเป็นฝาแฝดไม่ยอมห่างกัน
"กรีนเขามีนัดกับลูกค้าจากรัสเซียค่ะ ส่วนฟ้าเจ้านายไล่ให้กลับมาพักผ่อนค่ะ"
ฟ้าใสกล่าว ฟ้าใสเป็นไข้หวัดแต่ก็ยังดันทุรังไปทำงาน เพราะหญิงสาวเป็นคนที่แอ็คทิฟและมีความเชื่อว่าถ้าหากไม่สบายและยิ่งนอนพักมันจะยิ่งหายช้า ไม่รู้ว่าไปเอาความเชื่อแบบนี้มาจากไหน เจ้าหล่อนยังบอกอีกว่าถ้าเราบอกร่างกายว่าเราแข็งแรงเดี๋ยวอาการป่วยมันก็จะหายไปเอง คงจะได้รับอิทธิพลจากผู้คนแถวปางผาหมอกกระมัง
"เรามันเป็นพวกเดียวกับนายเรน ไม่ยอมล้มหมอนนอนเสื่อ มันซ่าอยู่ที่เกาหลีเหนือตอนนี้" อธิศเผยออกมานิดหนึ่ง ทำให้อีกคนย่นจมูก
"แว่ะ ไม่เหมือนกันเลยสักนิด ฟ้าไม่ได้กะล่อนเจ้าชู้เหมือนพี่เรนสักหน่อย" คนถูกเปรียบเทียบไม่ยอมรับว่าเหมือน
"พี่เรนอยู่เกาหลีเหนือเหรอคะ ตายจริง ไปอยู่ได้ยังไงคะพี่ยอด มันเป็นประเทศปิดที่อันตรายสำหรับคนต่างชาติมากๆ ไม่ใช่เหรอคะ"
รัลดาเอ่ยถามทันที เพราะหญิงสาวไม่ได้รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับพี่ชายของตัวเอง
"งานอยู่ที่ไหนก็ต้องไปที่นั่น มันไม่มีทางเลือกมากนัก แต่หวังว่าคงอีกไม่นานจะเรียบร้อย"
อธิศเอ่ยบอกแบบสรุปสั้นๆ เพราะเรื่องงานย่อมเป็นความลับทางราชการไม่อาจเปิดเผยได้ เมื่อรับประทานกันอิ่มแล้วฟ้าใสก็ขอตัวไปพักผ่อน
ต่อมาขบวนพระสงฆ์ก็มาถึง ทุกคนจึงอยู่ในอาการสงบสำรวม ยืนเคียงข้างคู่ของใครของมันแล้วตักบาตรร่วมกันด้วยหัวใจที่อิ่มเอิบเต็มไปด้วยบุญกุศลและความรู้สึกขอบคุณที่ได้มีโอกาสตื่นขึ้นมาทำกุศลความดีอีกวันหนึ่งของชีวิต
ฟ้าใสกับกรีตราวิ่งกระหืดกระหอบออกมาจากโรงแรม
"รอด้วยค่า"
เสียงของกรีตราตะโกน แล้วก็รีบวิ่งไปยืนต่อคิวท้ายสุด ซึ่งเป็นราฟาเอล สองสาวจึงไปยืนขนาบข้างมีราฟาเอลอยู่ตรงกลาง พระสงฆ์รูปหัวแถวเดินถือบาตรมายืนตรงหน้าพอดี
"เอา...นี่" เสียงห้าวของใครก็ไม่รู้เรียก ฟ้าใสก็รีบหันไปมอง ถึงเพิ่งเห็นว่าร่างสูงของเรนยืนอยู่ถัดจากหล่อน ตรงหน้าเขามีถาดใส่อาหารวางอยู่ เขากำลังหยิบกล่องนมยื่นให้
"เอ้า ยื่นส่งกันไปมาทำไมให้เสียเวลาพระฮึเรน รีบใส่ลงไปในบาตรเลยสิลูก"
เสียงมารดาของเรนรีบกระซิบดุ ทำให้เรนรีบเปลี่ยนทิศทางการยื่น นำไปใส่ลงในบาตรแทน ฟ้าใสก็รีบเอามือแตะตรงหลังมือของเขาโดยไม่ได้คิดอะไร จากนั้นก็ทำแบบนั้นกับพระทุกรูปที่เดินมาอยู่ตรงหน้า โดยการกระทำดังกล่าว เด็กไม่ได้คิดลึก แต่ผู้ใหญ่ที่เห็นเหตุการณ์ต่างลอบมองหน้ากันและยิ้มให้กันอย่างมีเลศนัยแปลกๆ
"ฟ้าจำผู้ชายคนหนึ่งที่ภูเก็ตได้ไหม ที่ร้านอาหารน่ะ ผู้ชายตัวสูงและใส่แว่น คนที่ฟ้าหันไปทีไรก็เห็นว่าเขามองฟ้าอยู่"เรนลองสะกิดความทรงจำให้เธอ ฟ้าใสก็นิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าเมื่อนึกออก"จำได้ค่ะ เพราะคุยกับเขานิดหนึ่งที่หน้าห้องน้ำ เอ๊ะ... อย่าบอกนะคะว่านั่นคือ...พี่"เรนพยักหน้า..."ใช่...พี่เอง ตอนนั้นพี่กำลังทำงานอยู่""โห...มีอีกมั้ยคะ" เธอถามออกไปอย่างทึ่งจัดและคาดไม่ถึง"ที่ฟ้าได้เจอก็มีแค่นี้แหละ" ส่วนที่ไม่เจอก็ไม่ต้องพูดถึง... มันเยอะมากจนนับไม่ถ้วน ฉายาสายลับพันหน้านั้นไม่เกินจริงหรอกเพลงจบลงพอดี เรนโอบเอวฟ้าใสเดินออกจากฟลอร์ เหลือบสายตาไปเห็นว่าร็อคกับราชาวดียังคงเต้นรำเพลงต่อไปไม่หยุด พี่ชายของเขาทำเหมือนไม่ได้เต้นรำกับเมียมาเป็นชาติอย่างนั้นแหละ เพราะตอนนี้มันทิ้งลูกๆ เอาไว้ที่โต๊ะให้ปู่กับย่าดูแลเฉย แต่จะว่ามันก็ไม่ได้เพราะเขาเองก็ปล่อยลูกๆ ไว้กับคุณตาคุณยายเหมือนกันเรนนึกถึงครั้งที่ร็อคบอกว่ามันกำลังบินมาเมืองไทยเพื่อช่วยเขาปิดจ๊อบแต่ไอ้พี่ชายกลับหายหัวไปเฉย เพิ่งมาเฉลยทีหลังว่ามันโกหก ที่จริงมันไปที่เกาะกลางทะเล จัดการเก็บกวาดลูกน้องของไอ้ฮอล์กจนเกลี้ยง แล้
"ไม่เอาค่ะ อย่าซนสิคะ... นี่มันดึกแล้วนะ เรานอนกันดีกว่า เพราะพรุ่งนี้มีนัดจะต้องไปที่บ้านริมน้ำนะ"หญิงสาวเตือนเบาๆ มารดาของเมฆานัดให้ไปลองชุดที่ท่านเป็นคนออกแบบให้ด้วยตัวเอง หญิงสาวจึงรู้สึกตื่นเต้นมาก ไม่อยากสาย เธอผลักอกกว้างเบาๆ แต่มีหรือเขาจะปล่อยง่ายๆ"แป๊บเดียวเอง น้ำเดียวแล้วจะให้นอน...นะครับ"เขากระซิบขอด้วยภาษาทะลึ่ง พร้อมกับมือไม้ก็ซุกซนไปทั่วตัวเธอไม่ยอมหยุด"คุณนี่นะ..."เธอบ่นงึมงำน้ำเสียงเบาหวิวเพราะเริ่มอ่อนไหวไปกับสัมผัสหวามที่เขากำลังทำอยู่ มืออุ่นล้วงเข้าไปใต้เสื้อแล้วกลิ้งกลึงยอดถันที่ไวต่อความรู้สึก"อา ดีจัง...ผมชอบที่คุณจุดติดเร็วแบบนี้"แววตาที่เต็มไปด้วยไฟปรารถนาปนเว้าวอนของเขาทำให้ซิมใจอ่อนยวบพร้อมกับร่างกายที่อ่อนระทวยตาม เธอไม่เคยใจแข็งกับเมฆาได้เลยสักครั้ง"ไม่เกินยี่สิบนาทีนะคะ" หญิงสาวกล่าวเสียงอ้อมแอ้มเขาไม่ตอบ แต่ก้มมาปิดปากและจุมพิตเธออย่างเร่าร้อนไม่ยอมเสียเวลาอีกต่อไป เมฆารู้ว่ายังไงเมียก็ต้องตามใจเขาอยู่แล้ว ซิมรักเขามาก เขารู้ดี และเขาเองก็รักเธอมากพอกัน ตอนนี้ก็แทบจะรอไม่ไหวแล้วที่จะได้สร้างครอบครัวกับเธอเสียทีและแล้ววันแต่งงานก็มาถึง...พิธีว
"จริงเหรอคะ? ซิมไม่ได้สังเกตเลยเนี่ย" หญิงสาวยกมือขึ้นแตะบริเวณขอบตาด้วยสีหน้ากังวลเล็กน้อยเมฆาคลี่ยิ้มขำที่เธอเชื่อคำกระเซ้าแซวของเขา บุคลิกภายนอกทั่วไปซิมเหมือนผู้หญิงบอบบางและซื่อใส แต่เวลาทำงานตัวตนของซิมจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เธอสามารถสั่งจัดการคนได้ด้วยสีหน้าเรียบเฉย เธอใจแกร่ง เด็ดขาด และกล้าหาญอย่างที่ผู้ชายหลายคนสู้ไม่ได้ เป็นคนสองบุคลิกอย่างแท้จริง เมฆารักเธอทั้งสองเวอร์ชัน และรู้สึกมันเขี้ยวมากเวลาเห็นซิมตามมุกของเขาไม่ทันแบบนี้"ไม่เชื่อก็ไปส่องกระจกบนห้องดูสิ ปะ ผมจะพาไปเอง"ชายหนุ่มกล่าวพลางฉุดมือเธอให้ลุกขึ้น ซ่อนรอยยิ้มพราวเอาไว้"ซิมยังทำงานไม่เสร็จเลยค่ะ" เธอทักท้วงเสียงอ่อน"เอาไว้ทำต่อพรุ่งนี้เถอะ ตอนนี้มันเป็นเวลาพักผ่อนกับผัวนะที่รัก"สีหน้ากรุ้มกริ่มของเขาทำให้ซิมไม่ค่อยแน่ใจนักว่าเขาต้องการจะพักผ่อนจริงๆ แต่ก็ยอมเดินตามแรงดึง จนกระทั่งเข้าไปในห้องนอน พอเขาผลักเธอเบาๆ ให้ล้มลงไปบนเตียง หญิงสาวก็รู้ความนัยว่าไอ้ที่เดาไว้น่ะ...ไม่ผิดเลยสักนิด"คนเจ้าเล่ห์" เธอต่อว่าต่อขานทันที แต่เขาก็ยิ้มรับหน้าตาระรื่น"กับคุณ... ถ้าไม่เจ้าเล่ห์...ผมก็อดจู๋จี๋ด้วยน่ะสิ ทุกวันนี้
กลางดึกของคืนที่มีสายฝนตกโปรยปราย เจ้าหน้าที่ตำรวจสองนายกำลังอยู่เวรที่ด่านตรวจ พวกเขารู้สึกเซ็งและเบื่อหน่ายกับสภาพอากาศแสนอึมครึมและเปียกแฉะนี้เหลือเกิน เวลาค่อนคืนอย่างนี้ก็คงมีแค่คนมีเวรอย่างพวกเขาเท่านั้นแหละที่จะต้องมานั่งถ่างตาทำงานเพื่อให้คนอีกหลายสิบล้านคนได้นอนหลับอย่างเป็นสุขในนิทรารมณ์จนกระทั่งเวลาเลยเที่ยงคืนไปเล็กน้อยก็มีเสียงครืดคราดของวิทยุสื่อสารดังขึ้น เรียกสติที่กำลังเคลิ้มของจ่าหมีให้เงี่ยหูฟังก่อนจะหยิบขึ้นมาดู มันเหมือนคลื่นวิทยุที่ยังจูนไม่ตรงสถานีจึงเกิดเสียงซ่าไม่หยุด"อะไรวะเนี่ย ฟังไม่รู้เรื่องเลยโว้ย ห่าเอ๊ย"จ่าสบถขรม แต่ก็ตั้งใจฟังต่อไป พอมองหาว่ามันมาจากคลื่นความถี่ไหน เขากลับเห็นแต่ตัวเลขยาวเหยียด คล้ายกับว่ามันไม่ได้มาจากแหล่งสื่อสารปกติของพวกตำรวจ ชั่วแวบหนึ่งจ่านึกถึงคำเล่าขานที่ว่าในช่วงสองสามปีมานี้มันมี คลื่นรบกวนพิเศษ ที่ไม่ทราบแหล่งที่มาคอยแจ้งเบาะแสเรื่องพวกกระทำผิดกฎหมายทำให้ตำรวจสามารถจับกุมพวกเดนนรกพร้อมของกลางได้หลายเคสจนเป็นข่าวอยู่เนืองๆ"เตรียมสกัดจับรถเก๋งสีดำ ยี่ห้อโตโยต้า ป้ายทะเบียน กค 781... มียาบ้า... ค้นใต้เบาะและท้ายรถที่มีการต่
สามปีต่อมาฟ้าใสกำลังกล่อมหยาดธาราหลับตอนบ่ายอยู่ในคอกที่ห้องนั่งเล่น เธอเปิดทีวีทิ้งเอาไว้เป็นเพื่อน“จากกรณีเรือสำราญซาฮาราถูกเจ้าหน้าที่ยึดจับและตรวจพบเฮโรอีนจำนวนมากพร้อมกับใต้ท้องเรือมีเด็กผู้หญิงอายุต่ำกว่าสิบแปดปีกว่าสิบคนซ่อนอยู่นั้น เวลานี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการขยายผลและจับกุมนักการเมืองระดับรองหัวหน้าพรรคพร้อมตำรวจระดับนายพลอีกจำนวนสี่คน... ส่วนเบาะแสการจับกุมนั้นเจ้าหน้าที่ไม่อาจเปิดเผยผู้ให้ข้อมูลได้ แต่เท่าที่คนขุดข่าวทราบ เห็นว่าเป็นแหล่งเดียวกันกับเบาะแสคดีทลายบ่อนเถื่อนใจกลางกรุงเมื่อเดือนที่แล้ว...และคดีค้าประเวณีและทารุณกรรมเด็กที่พัทยาเมื่อต้นปีที่ผ่านมา”ฟ้าใสหันไปให้ความสนใจมากขึ้น และเมื่อฟังจบริมฝีปากงามก็คลี่เป็นรอยยิ้มจางๆ แหล่งข่าวปริศนามันจะเป็นฝีมือของใครได้ล่ะ ถ้าไม่ใช่...เรนตอนนี้องค์กรใต้ดินมีบอสใหม่ที่เป็นคนดีและมีอุดมการณ์หนักแน่น ทำให้เรนยอมช่วยเหลือเป็นครั้งคราว แต่ห้ามไม่ให้องค์กรมายุ่งกับชีวิตส่วนตัวของเขาเด็ดขาด เรนขู่ไปว่าถ้ามีใครมายุ่งเขาจะถล่มเกาะเหี้ยนั่นให้มันจบๆ ไป ทุกวันนี้ชีวิตของพวกเขาจึงอยู่อย่างสงบสุขอย่างที่เรนปรารถนา“หลับแล้วเหรอ”
ฟ้าใสฉี่ใส่แก้วเสร็จก็เอามาวางที่เคาน์เตอร์ เรนเอื้อมมือมา แต่เธอรีบตีเพียะ“ไม่ต้องเลยค่ะ ฟ้าจะทำเอง พี่ยืนอยู่เฉยๆ พอ” เธออายจะตายอยู่แล้วตอนนี้ แต่ก่อนที่จะได้ตรวจ ฟ้าใสก็ทำท่าจะขย้อนของเก่าอีกรอบ รีบหมุนตัวไปยังชักโครกแล้วโก่งคออาเจียนยกใหญ่เรนรีบขยับมาลูบหลังให้หญิงสาวอย่างเป็นห่วง“พี่บอกแล้วว่าให้อยู่เฉยๆ ก็ไม่เชื่อ” เขาทำบ่นให้เธอ แต่มือก็คอยลูบหลังและจับผมให้ คว้าทิชชูมาส่งให้เช็ดปากอย่างเอาใจใส่ แล้วก็กดชักโครกให้เสร็จสรรพ“นั่งตรงนี้ พี่จะทำให้เอง”เขาประคองเธอให้นั่งที่ขอบอ่างอาบน้ำ จากนั้นก็รีบหยอดปัสสาวะใส่อุปกรณ์ ทำตามคำแนะนำข้างกล่องอย่างเคร่งครัดฟ้าใสนั่งมองร่างสูงที่กำลังวุ่นวายกับอุปกรณ์ตรวจฯ เธออดที่จะยิ้มบางออกมาไม่ได้ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะเป็นผู้ชายของเธอจริงๆ มันเหมือนฝันที่เป็นจริงไม่เคยบอกใครเลยว่าเมื่อนานมาแล้วเด็กสาวคนหนึ่งเคยมีผู้ชายในฝันกับเขาเหมือนกัน เธอแอบซุกซ่อนความลับนี้เอาไว้อย่างลึกสุดใจ แม้แต่ตัวเธอเองก็แกล้งทำเป็นลืมๆ มันไปซะ เพราะคิดว่ามันไม่มีทางที่จะเป็นจริงได้ พี่เรนคนที่มีชีวิตลึกลับและจับต้องไม่ได้คนนั้นไม่มีทางที่จะมองฟ้าใสเด็กกะโปโล







