LOGINจากเรื่อง กรุ่นกลิ่นราชาวดี
เรนเป็นลูกรักของแม่ ส่วนเขานั้นเป็นลูกพ่อ ต่างก็แบ่งกันตามประสาเด็กน้อย โดยความจริงนั้นต่างก็รู้ว่าพ่อแม่ก็รักลูกทุกคนเท่ากันนั่นแหละ เพียงแต่ร็อคจะมีนิสัยคล้ายพ่อ แต่เรนจะคล้ายมารดาตรงความร่าเริงและเปิดเผย นั่นทำให้มันสามารถเจาะวงในของกลุ่มอิทธิพลในแอฟริกาได้ด้วยการเป็นคู่หมั้นของลูกสาวไอ้ตัวใหญ่ในแก๊งนั้น...
เรนเอาตัวรอดได้เก่งและคล่อง มันหายตัวลึกลับทันทีหลังงานเสร็จ เขาเองยังไม่รู้เลยมามันปลอมตัวมีหน้าตาแบบไหนตอนเป็นคู่หมั้นของผู้หญิงแอฟริกันคนนั้น! มันคือพวกจิ้งจอกพันหน้าสมกับพวกใต้ดินให้สมญานาม เขากับอธิศเองยังไม่ปลอมถึงพันหน้าเท่าเจ้าเรนมัน!
จุดที่สามารถแยกแยะฝาแฝดสองคนนี้ออกจากกันจริงๆ ทางกายภาพก็คือร็อคจะมีขี้แมลงวันอยู่ตรงหลังใบหูทั้งสองข้าง ร็อคจะมีเคราหนากว่าเรน และโครงหน้าบึกบึนกว่า เรนนั้นใบหน้าเรียวดูสำอางเหมือนนายแบบ เวลากลับมาบ้าน เรนมักจะโกนเคราจนหน้าเกลี้ยงเกลาเหลือเพียงรอยเขียวจาง ซึ่งตรงกันข้ามกับร็อค ราชาวดีเคยเห็นหน้าร็อคตอนเกลี้ยงๆ เพียงครั้งหรือสองครั้งเท่านั้นเอง แต่สำหรับราชาวดี แววตาคือสิ่งที่บ่งบอกได้ดีที่สุด ดวงตาของร็อคที่ใช้มองราชาวดีนั้นย่อม...แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับเรน
เรน เดลสัน สวมสูทเท่ยืนล้วงกระเป๋ามองดูพี่ชายฝาแฝดด้วยสายตาขบขัน เพราะเห็นร่างสูงของมันในสูทสีเข้ม โกนเคราจนเกลี้ยงหมดจดอย่างไม่ค่อยทำบ่อยนัก กำลังเดินกระสับกระส่าย ทำท่าใจร้อนเร่งให้บิดามารดาเร็วๆ เข้า
"เร็วสิฮะแม่ เดี๋ยวเผื่อรถติดจะไม่ทันฤกษ์" ส่งเสียงเรียกไปข้างบน บ้านนี้เดินทางกันเพียงสี่คน ด้วยรถคันเดียวเท่านั้น
"เพิ่งแปดโมง ขับรถแค่ยี่สิบนาทีก็ถึงแล้ว มึงใจเย็นก่อนเว้ยเจ้าร็อค" น้องชายเอ่ยเตือน ทำให้ร็อคทำตาขึงใส่
"มึงไม่ใช่เจ้าบ่าว มึงไม่เข้าใจ กูคิดถึงวดี กูอยากเห็นหน้าใจจะขาดแล้วโว้ย"
คนใจร้อนเมื่อไม่ได้ดั่งใจก็ทำเสียงระบายความหงุดหงิดออกมาใส่น้องชายใหญ่
"อ้าว เฮ้ย! กูไม่เกี่ยว อย่ามาลงที่กู... วันนี้เป็นวันมงคลของมึงอย่าเสือกทำอารมณ์บ่จอยแต่เช้า ใจเย็นๆ ไว้พี่ โน่น คนสวยกับคนหล่อเสด็จลงมาแล้ว"
เรนเอ่ย พลางพยักพเยิดไปยังร่างสูงของบิดาที่จูงมือมารดาเดินลงมาจากชั้นบน บิดาแต่งสูทเช่นเดียวกันกับพวกเขา ส่วนมารดาแต่งชุดเดรสยาวสีครีมสวยสง่า
"ร็อคเอาของทุกอย่างไปใส่ในรถเรียบร้อยแล้วครับ"
ชายหนุ่มรีบเอ่ยบอก ร็อคเห็นบิดามารดาและน้องชายต่างยิ้มกริ่มเหมือนขบขัน แต่เขาไม่สนใจเพราะเวลานี้หัวใจได้เดินทางไปล่วงหน้าตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว
"ร็อคขับเอง" อาสาเป็นคนขับอีกต่างหากจะได้ถึงไวๆ
"เฮ้ย ฉันขับดีกว่า" เรนเอ่ย เกือบจะพูดว่าขืนให้มันขับอาจจะไม่ถึง แต่นึกขึ้นได้ว่าไม่ควรพูดเป็นลาง
ขบวนเจ้าบ่าวจึงได้เวลาเคลื่อนรถออกจากบ้าน
ร็อคมาถึงก็ยังไม่ได้พบราชาวดี เพราะเจ้าสาวถูกเก็บตัว ร่างสูงของอธิศสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดตากับกางเกงสแล็คเดินมาหา ร็อคเห็นก็เลิกคิ้ว ดีใจและแปลกใจในเวลาเดียวกัน
"พี่มาได้ด้วยเหรอ"
เขาเอ่ยทักผู้เป็นเสมือนพี่ชาย เพราะตอนแยกกันขึ้นเครื่องนั้นอธิศไม่ได้บอกว่าจะมาและร็อคก็เข้าใจดีว่างานของเขานั้นไม่สามารถจะมากำหนดตารางเวลาเช่นคนอื่นทั่วไปได้ ร็อคดีใจที่ได้เห็นอธิศ แสดงว่าอธิศยังไม่ได้พักการเดินทางเลยตั้งแต่เสร็จจ็อบที่แล้ว เขาเดินทางตลอด นี่ไปถึงเมืองไทย เข้าพบเจ้านายเสร็จแล้วก็คงจะตีตั๋วเครื่องบินมาเลย
"ถือโอกาสพักร้อนหน่อย" อธิศเอ่ยตอบพลางยิ้ม เขาตบไหล่ร็อคเบาๆ
"นายตัดสินใจถูกแล้วล่ะ เพราะต่อไปนี้จะยุ่งยาก"
อธิศเอ่ยบอก เพราะเขากับซีไอเอบางพวกจะต้องปะทะกัน! อธิศไม่ต้องการให้ร็อคต้องลำบากใจ เรนเดินมาสมทบ อธิศยื่นมือไปจับทักทาย พวกเขาติดต่อกันอย่างลับๆ ตามโอกาสและตามสายงานถ้าหากมีงานไหนที่เกี่ยวเนื่องกัน
"ไหนล่ะคู่หมั้นนาย"
อธิศเอ่ยแซวเรนเบาๆ เพราะจ็อบที่แล้ว เรนปลอมตัวเข้าไปถึงรังใหญ่โดยการเป็นคู่หมั้นของลูกสาวมาเฟียชาวแอฟริกา เรนนั้นเปรียวและคล่องประดุจเหยี่ยวจ้าวเวหา เขาทำได้ทุกอย่างที่เห็นว่าจะได้ผลกับงาน
"เสร็จงานแล้วจะเก็บไว้ทำไมล่ะพี่ยอด เราก็ชิ่งสิ" เรนตอบพลางหัวเราะในลำคอ
"อาจจะถูกตาม"
"ไม่รู้หรอก ผมปลอมตัว"
"ปลอมยังไงก็ต้องรู้ คนใกล้ชิดเป็นถึงคู่หมั้น เขาก็ต้องรักนายมาก รักมากก็จะต้องแค้นมาก
"เออ ถามหน่อย ตอนแกนอนกับเขา ก็ต้องรู้สิวะ"
อธิศกระซิบถามในตอนท้าย คุยกันอยู่มุมหนึ่งตรงหน้าห้องบอลรูม ซึ่งญาติๆ ที่มาก็ทยอยกันเดินเข้าไป ต่างยกมือทักทายกันอย่างครื้นเครง
เรนจุดยิ้มกริ่ม ใบหน้าถอดแบบพิมพ์เดียวกับร็อคหากดวงตาพราวระยับและเจ้าเล่ห์มากกว่า ร็อคนั้นดวงตานิ่งและอ่านไม่ออก แต่เรนสวมบทบาทได้ทุกอย่างที่เขาจะต้องการทำ หากเวลาเป็นตัวเอง เรนจะแพรวพราวและเปรียวจัด เรียกว่า ลื่นยิ่งกว่าปลาไหล จับไม่ได้ไล่ไม่ทันและ จับไม่อยู่ หากผู้หญิงคนไหนต้องการจะเอาให้อยู่หมัด นั้นจะเป็นเพียงแค่ความฝันเท่านั้น ไม่มีใครจับผู้ชายที่ไม่รู้ว่าฉากไหนเป็นตัวตนที่แท้จริงของเขาได้
"เราก็ต้องมีวิธี"
เรนเอ่ยแล้วยกวิสกี้สาดลงคอ สายตามองไปโดยรอบอย่างสนุกและรื่นรมย์ นานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่ได้กลับมาบ้าน ครอบครัวใหญ่ที่ไม่ใช่เพียงครอบครัวเดลสัน เขาฝังตัวอยู่ลึกและอยู่ไกล ปลอมตัวชนิดที่ถ้าหากผู้คนเหล่านี้เดินเฉียดใกล้ก็ยังไม่อาจรู้ได้ว่าเป็นเขา
ไอ้ฝนกรดพันหน้า นั่นคือฉายาที่ผู้อยู่ใต้ดินด้วยกันตั้งให้ ใครคิดว่าคนรูปร่างสำอางมุมปากยกยิ้มยามเจรจาดวงตารื่นรมย์กรุ้มกริ่ม เปรียบประดุจเป็นน้ำฝนกลั่นบริสุทธิ์ แต่ถ้าหากเผลอแตะเข้าไป... ตายทันที! คนที่สามารถปาดคอคนได้ด้วยใบหน้าที่ยังยิ้มอยู่นั้น... น่ากลัวกว่าคนหน้าเหี้ยมเป็นไหนๆ
เรนมองไปยังกลุ่มสตรีสาวๆ ที่เดินหัวเราะคุยกันอย่างเริงร่า สาวน้อยนางหนึ่งสวมชุดสีฟ้าสดใสเข้ากับชื่อ... หล่อนกำลังคุยจ้อกับกรีตรา ซารีน่า พาลิซ่าและทาริต้า ทุกคนแต่งตัวสวยและยิ้มแย้มอย่างมีความสุข ใบหน้ายิ้มเต็มที่หันมาทางพวกสุภาพบุรุษที่ยืนหันหน้าเข้าหากันและคุยกันอยู่ คนชุดสีฟ้าบังเอิญสายตาปะทะกับเขา เจ้าหล่อนรีบเมินทันที เรนก็รีบเมินกลับเช่นกัน แล้วยกแก้ววิสกี้ขึ้นจรดริมฝีปาก
"เหล้านายหมดตั้งนานแล้ว เติมหน่อยไหม"
อธิศเอ่ยทักทำให้เรนก้มมองแก้ว อธิศคว้าแก้วของเรนเดินไปยังบาร์เครื่องดื่มในห้องบอลรูม ร็อคเลิกคิ้วมองหน้าน้องชายฝาแฝดที่ชำเลืองมองกลุ่มสาวๆ ที่พากันโบกมือทักทายพวกเขาเสียงเจื้อยแจ้ว
"ฟ้าจำผู้ชายคนหนึ่งที่ภูเก็ตได้ไหม ที่ร้านอาหารน่ะ ผู้ชายตัวสูงและใส่แว่น คนที่ฟ้าหันไปทีไรก็เห็นว่าเขามองฟ้าอยู่"เรนลองสะกิดความทรงจำให้เธอ ฟ้าใสก็นิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าเมื่อนึกออก"จำได้ค่ะ เพราะคุยกับเขานิดหนึ่งที่หน้าห้องน้ำ เอ๊ะ... อย่าบอกนะคะว่านั่นคือ...พี่"เรนพยักหน้า..."ใช่...พี่เอง ตอนนั้นพี่กำลังทำงานอยู่""โห...มีอีกมั้ยคะ" เธอถามออกไปอย่างทึ่งจัดและคาดไม่ถึง"ที่ฟ้าได้เจอก็มีแค่นี้แหละ" ส่วนที่ไม่เจอก็ไม่ต้องพูดถึง... มันเยอะมากจนนับไม่ถ้วน ฉายาสายลับพันหน้านั้นไม่เกินจริงหรอกเพลงจบลงพอดี เรนโอบเอวฟ้าใสเดินออกจากฟลอร์ เหลือบสายตาไปเห็นว่าร็อคกับราชาวดียังคงเต้นรำเพลงต่อไปไม่หยุด พี่ชายของเขาทำเหมือนไม่ได้เต้นรำกับเมียมาเป็นชาติอย่างนั้นแหละ เพราะตอนนี้มันทิ้งลูกๆ เอาไว้ที่โต๊ะให้ปู่กับย่าดูแลเฉย แต่จะว่ามันก็ไม่ได้เพราะเขาเองก็ปล่อยลูกๆ ไว้กับคุณตาคุณยายเหมือนกันเรนนึกถึงครั้งที่ร็อคบอกว่ามันกำลังบินมาเมืองไทยเพื่อช่วยเขาปิดจ๊อบแต่ไอ้พี่ชายกลับหายหัวไปเฉย เพิ่งมาเฉลยทีหลังว่ามันโกหก ที่จริงมันไปที่เกาะกลางทะเล จัดการเก็บกวาดลูกน้องของไอ้ฮอล์กจนเกลี้ยง แล้
"ไม่เอาค่ะ อย่าซนสิคะ... นี่มันดึกแล้วนะ เรานอนกันดีกว่า เพราะพรุ่งนี้มีนัดจะต้องไปที่บ้านริมน้ำนะ"หญิงสาวเตือนเบาๆ มารดาของเมฆานัดให้ไปลองชุดที่ท่านเป็นคนออกแบบให้ด้วยตัวเอง หญิงสาวจึงรู้สึกตื่นเต้นมาก ไม่อยากสาย เธอผลักอกกว้างเบาๆ แต่มีหรือเขาจะปล่อยง่ายๆ"แป๊บเดียวเอง น้ำเดียวแล้วจะให้นอน...นะครับ"เขากระซิบขอด้วยภาษาทะลึ่ง พร้อมกับมือไม้ก็ซุกซนไปทั่วตัวเธอไม่ยอมหยุด"คุณนี่นะ..."เธอบ่นงึมงำน้ำเสียงเบาหวิวเพราะเริ่มอ่อนไหวไปกับสัมผัสหวามที่เขากำลังทำอยู่ มืออุ่นล้วงเข้าไปใต้เสื้อแล้วกลิ้งกลึงยอดถันที่ไวต่อความรู้สึก"อา ดีจัง...ผมชอบที่คุณจุดติดเร็วแบบนี้"แววตาที่เต็มไปด้วยไฟปรารถนาปนเว้าวอนของเขาทำให้ซิมใจอ่อนยวบพร้อมกับร่างกายที่อ่อนระทวยตาม เธอไม่เคยใจแข็งกับเมฆาได้เลยสักครั้ง"ไม่เกินยี่สิบนาทีนะคะ" หญิงสาวกล่าวเสียงอ้อมแอ้มเขาไม่ตอบ แต่ก้มมาปิดปากและจุมพิตเธออย่างเร่าร้อนไม่ยอมเสียเวลาอีกต่อไป เมฆารู้ว่ายังไงเมียก็ต้องตามใจเขาอยู่แล้ว ซิมรักเขามาก เขารู้ดี และเขาเองก็รักเธอมากพอกัน ตอนนี้ก็แทบจะรอไม่ไหวแล้วที่จะได้สร้างครอบครัวกับเธอเสียทีและแล้ววันแต่งงานก็มาถึง...พิธีว
"จริงเหรอคะ? ซิมไม่ได้สังเกตเลยเนี่ย" หญิงสาวยกมือขึ้นแตะบริเวณขอบตาด้วยสีหน้ากังวลเล็กน้อยเมฆาคลี่ยิ้มขำที่เธอเชื่อคำกระเซ้าแซวของเขา บุคลิกภายนอกทั่วไปซิมเหมือนผู้หญิงบอบบางและซื่อใส แต่เวลาทำงานตัวตนของซิมจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เธอสามารถสั่งจัดการคนได้ด้วยสีหน้าเรียบเฉย เธอใจแกร่ง เด็ดขาด และกล้าหาญอย่างที่ผู้ชายหลายคนสู้ไม่ได้ เป็นคนสองบุคลิกอย่างแท้จริง เมฆารักเธอทั้งสองเวอร์ชัน และรู้สึกมันเขี้ยวมากเวลาเห็นซิมตามมุกของเขาไม่ทันแบบนี้"ไม่เชื่อก็ไปส่องกระจกบนห้องดูสิ ปะ ผมจะพาไปเอง"ชายหนุ่มกล่าวพลางฉุดมือเธอให้ลุกขึ้น ซ่อนรอยยิ้มพราวเอาไว้"ซิมยังทำงานไม่เสร็จเลยค่ะ" เธอทักท้วงเสียงอ่อน"เอาไว้ทำต่อพรุ่งนี้เถอะ ตอนนี้มันเป็นเวลาพักผ่อนกับผัวนะที่รัก"สีหน้ากรุ้มกริ่มของเขาทำให้ซิมไม่ค่อยแน่ใจนักว่าเขาต้องการจะพักผ่อนจริงๆ แต่ก็ยอมเดินตามแรงดึง จนกระทั่งเข้าไปในห้องนอน พอเขาผลักเธอเบาๆ ให้ล้มลงไปบนเตียง หญิงสาวก็รู้ความนัยว่าไอ้ที่เดาไว้น่ะ...ไม่ผิดเลยสักนิด"คนเจ้าเล่ห์" เธอต่อว่าต่อขานทันที แต่เขาก็ยิ้มรับหน้าตาระรื่น"กับคุณ... ถ้าไม่เจ้าเล่ห์...ผมก็อดจู๋จี๋ด้วยน่ะสิ ทุกวันนี้
กลางดึกของคืนที่มีสายฝนตกโปรยปราย เจ้าหน้าที่ตำรวจสองนายกำลังอยู่เวรที่ด่านตรวจ พวกเขารู้สึกเซ็งและเบื่อหน่ายกับสภาพอากาศแสนอึมครึมและเปียกแฉะนี้เหลือเกิน เวลาค่อนคืนอย่างนี้ก็คงมีแค่คนมีเวรอย่างพวกเขาเท่านั้นแหละที่จะต้องมานั่งถ่างตาทำงานเพื่อให้คนอีกหลายสิบล้านคนได้นอนหลับอย่างเป็นสุขในนิทรารมณ์จนกระทั่งเวลาเลยเที่ยงคืนไปเล็กน้อยก็มีเสียงครืดคราดของวิทยุสื่อสารดังขึ้น เรียกสติที่กำลังเคลิ้มของจ่าหมีให้เงี่ยหูฟังก่อนจะหยิบขึ้นมาดู มันเหมือนคลื่นวิทยุที่ยังจูนไม่ตรงสถานีจึงเกิดเสียงซ่าไม่หยุด"อะไรวะเนี่ย ฟังไม่รู้เรื่องเลยโว้ย ห่าเอ๊ย"จ่าสบถขรม แต่ก็ตั้งใจฟังต่อไป พอมองหาว่ามันมาจากคลื่นความถี่ไหน เขากลับเห็นแต่ตัวเลขยาวเหยียด คล้ายกับว่ามันไม่ได้มาจากแหล่งสื่อสารปกติของพวกตำรวจ ชั่วแวบหนึ่งจ่านึกถึงคำเล่าขานที่ว่าในช่วงสองสามปีมานี้มันมี คลื่นรบกวนพิเศษ ที่ไม่ทราบแหล่งที่มาคอยแจ้งเบาะแสเรื่องพวกกระทำผิดกฎหมายทำให้ตำรวจสามารถจับกุมพวกเดนนรกพร้อมของกลางได้หลายเคสจนเป็นข่าวอยู่เนืองๆ"เตรียมสกัดจับรถเก๋งสีดำ ยี่ห้อโตโยต้า ป้ายทะเบียน กค 781... มียาบ้า... ค้นใต้เบาะและท้ายรถที่มีการต่
สามปีต่อมาฟ้าใสกำลังกล่อมหยาดธาราหลับตอนบ่ายอยู่ในคอกที่ห้องนั่งเล่น เธอเปิดทีวีทิ้งเอาไว้เป็นเพื่อน“จากกรณีเรือสำราญซาฮาราถูกเจ้าหน้าที่ยึดจับและตรวจพบเฮโรอีนจำนวนมากพร้อมกับใต้ท้องเรือมีเด็กผู้หญิงอายุต่ำกว่าสิบแปดปีกว่าสิบคนซ่อนอยู่นั้น เวลานี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการขยายผลและจับกุมนักการเมืองระดับรองหัวหน้าพรรคพร้อมตำรวจระดับนายพลอีกจำนวนสี่คน... ส่วนเบาะแสการจับกุมนั้นเจ้าหน้าที่ไม่อาจเปิดเผยผู้ให้ข้อมูลได้ แต่เท่าที่คนขุดข่าวทราบ เห็นว่าเป็นแหล่งเดียวกันกับเบาะแสคดีทลายบ่อนเถื่อนใจกลางกรุงเมื่อเดือนที่แล้ว...และคดีค้าประเวณีและทารุณกรรมเด็กที่พัทยาเมื่อต้นปีที่ผ่านมา”ฟ้าใสหันไปให้ความสนใจมากขึ้น และเมื่อฟังจบริมฝีปากงามก็คลี่เป็นรอยยิ้มจางๆ แหล่งข่าวปริศนามันจะเป็นฝีมือของใครได้ล่ะ ถ้าไม่ใช่...เรนตอนนี้องค์กรใต้ดินมีบอสใหม่ที่เป็นคนดีและมีอุดมการณ์หนักแน่น ทำให้เรนยอมช่วยเหลือเป็นครั้งคราว แต่ห้ามไม่ให้องค์กรมายุ่งกับชีวิตส่วนตัวของเขาเด็ดขาด เรนขู่ไปว่าถ้ามีใครมายุ่งเขาจะถล่มเกาะเหี้ยนั่นให้มันจบๆ ไป ทุกวันนี้ชีวิตของพวกเขาจึงอยู่อย่างสงบสุขอย่างที่เรนปรารถนา“หลับแล้วเหรอ”
ฟ้าใสฉี่ใส่แก้วเสร็จก็เอามาวางที่เคาน์เตอร์ เรนเอื้อมมือมา แต่เธอรีบตีเพียะ“ไม่ต้องเลยค่ะ ฟ้าจะทำเอง พี่ยืนอยู่เฉยๆ พอ” เธออายจะตายอยู่แล้วตอนนี้ แต่ก่อนที่จะได้ตรวจ ฟ้าใสก็ทำท่าจะขย้อนของเก่าอีกรอบ รีบหมุนตัวไปยังชักโครกแล้วโก่งคออาเจียนยกใหญ่เรนรีบขยับมาลูบหลังให้หญิงสาวอย่างเป็นห่วง“พี่บอกแล้วว่าให้อยู่เฉยๆ ก็ไม่เชื่อ” เขาทำบ่นให้เธอ แต่มือก็คอยลูบหลังและจับผมให้ คว้าทิชชูมาส่งให้เช็ดปากอย่างเอาใจใส่ แล้วก็กดชักโครกให้เสร็จสรรพ“นั่งตรงนี้ พี่จะทำให้เอง”เขาประคองเธอให้นั่งที่ขอบอ่างอาบน้ำ จากนั้นก็รีบหยอดปัสสาวะใส่อุปกรณ์ ทำตามคำแนะนำข้างกล่องอย่างเคร่งครัดฟ้าใสนั่งมองร่างสูงที่กำลังวุ่นวายกับอุปกรณ์ตรวจฯ เธออดที่จะยิ้มบางออกมาไม่ได้ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะเป็นผู้ชายของเธอจริงๆ มันเหมือนฝันที่เป็นจริงไม่เคยบอกใครเลยว่าเมื่อนานมาแล้วเด็กสาวคนหนึ่งเคยมีผู้ชายในฝันกับเขาเหมือนกัน เธอแอบซุกซ่อนความลับนี้เอาไว้อย่างลึกสุดใจ แม้แต่ตัวเธอเองก็แกล้งทำเป็นลืมๆ มันไปซะ เพราะคิดว่ามันไม่มีทางที่จะเป็นจริงได้ พี่เรนคนที่มีชีวิตลึกลับและจับต้องไม่ได้คนนั้นไม่มีทางที่จะมองฟ้าใสเด็กกะโปโล







