เข้าสู่ระบบตอนที่ 2
เธอคือคนที่ใช่........
“คุณธีผ่านมาทำอะไรแถวนี้คะ”
ธิชาหันไปถามเจ้านายทันทีหลังจากที่ขึ้นมานั่งบนรถเพราะบ้านของธีภพไม่ได้อยู่ทางเดียวกับคอนโดที่เธออยู่เสียหน่อย
“ผมแวะมาทำธุระให้คุณพ่อเห็นธิชาบ่นว่ารถติดก็เลยแวะ มารับกลัวเริ่มงานเดือนแรกเธอจะไปสายเดี๋ยวหัวหน้าแผนกจะว่าเอา”
ธีภพโกหกอย่างไม่มีพิรุธเพราะเขาเตรียมคำตอบมาแล้ว ชายหนุ่มก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกันเขาถึงได้ยอมตื่นเช้าและรีบมารับธิชาทั้งที่มันเป็นคนละทางกับที่ทำงานของเขา
“คุณธีแวะร้านข้าวเหนียวหมูปิ้งข้างหน้าหน่อยค่ะ”
“แวะทำไมเธอหิวหรือ”
“หิวสิคะ อาหารเช้าเป็นมื้อสำคัญร้านนี้อร่อยมาก ธิชากินเกือบทุกวันเลยค่ะเพราะปกติลงรถประจำทางเสร็จก็จะซื้อเดินกินไปจนถึงที่บริษัทก็อิ่มพอดี”
ธีภพไม่เต็มใจจอดแต่ก็ไม่รู้จะใช้เหตุผลอะไรเพราะเขาแค่คิดว่าอาหารข้างทางมันดูไม่สะอาดและไม่น่าจะอร่อยแต่ก็ต้องยอมจอดให้สาวน้อยได้ลงไปซื้อกิน
“คุณธีอ้าปากค่ะเดี๋ยวธิชาป้อนเองรับลองคุณจะต้องติดใจแน่ ๆ”
ชายหนุ่มทำตัวว่านอนสอนง่ายอ้าปากให้อีกฝ่ายป้อนทั้งข้าวเหนียวและหมูปิ้งทั้งที่ปกติเขาไม่มีทางยอมกินอาหารแบบนี้เด็ดขาด
“อร่อยดีไม่น่าเชื่อเลย”
“ยังมีอีกหลายร้านที่อร่อยนะคะแต่ส่วนมากจะเปิดตอนเย็นไว้คุณธีผ่านมาก็ลองแวะมาหาลองกินนะคะโดยเฉพาะร้านขนมจีนหน้าปากซอยอร่อยมาก”
ธิชายังคงพูดไปกินไปนาน ๆ จะหันมาป้อนคนขับสักทีเพราะคิดว่าอีฝ่ายคงกินข้าวมาแล้ว
“เย็นนี้เราไปกินขนมจีนร้านที่คุณบอกกัน”
หญิงสาวที่กำลังเคี้ยวหมูปิ้งอยู่หันมามองหน้าคนพูดด้วยความแปลกใจที่เขาพูดเหมือนเย็นนี้เธอกับเขาจะได้เจอกันอีก
“ไม่ต้องทำหน้าตกใจแบบนั้นพอดีตอนเย็นผมต้องมาคุยงานที่นี่อยู่แล้ว คุณลืมไปหรือเปล่าว่าบริษัทที่คุณทำงานอยู่ก็ของผมนะ ตกลงเย็นนี้เราไปจะกินขนมจีนร้านที่คุณบอกว่าอร่อยนะ”
ทั้งคู่เจอกันเกือบทุกวันนับตั้งแต่วันนั้น ธีภพแรก ๆ ก็หาเหตุผลมาอ้างว่าผ่านมาถึงได้มารับในตอนเช้าช่วงเย็นก็อ้างว่าต้องมาตรวจงานที่บริษัทอยู่แล้วแต่พอระยะหลังธิชาก็ไม่ได้ถามเพราะมันกลายเป็นความเคยชินสนิทสนมกันโดยไม่รู้ตัว
“เสาร์นี้ไปบ้านผมไหม”
“อะไรนะคะ”
ธิชาถึงกับถามกลับไปด้วยความตกใจที่อยู่ดี ๆ เจ้านาย ของเธอก็มาชวนไปบ้านแบบนี้
“เอ่อ...คือผมคิดว่าเราไปกินอะไรกันตามร้านบ่อยแล้ว ผมอยากให้ธิชาไปทำกับข้าวให้คุณพ่อผมได้กินบ้างวันนั้นที่เธอทำกับข้าวมาเผื่อ อร่อยดีถ้าคุณพ่อได้กินต้องติดใจแน่ ๆ ”
ธิชาชอบทำกับข้าวอยู่แล้วแต่ด้วยเวลางานที่รัดตัวเธอจึงไม่ค่อยได้ทำ วันเสาร์ที่ผ่านมาธีภพมารับเธอสายหน่อยจึงได้พอมีเวลาทำกับข้าวไปกินกลางวันหญิงสาวจึงทำเผื่อเจ้านายด้วย
“อร่อยจริงหรือแค่ชมให้ดีใจคะ”
คนถูกชมทำท่าเขินเพราะถึงจะทำกับข่าวเก่งแต่ก็ยังไม่เคยมีใครชมเธอแบบนี้
“ผมพูดจริง ๆ เสาร์นี้ผมจะบอกหัวหน้าธิชาให้ว่าผมจะพาไปประชุมด้วยแต่ความจริงคือธิชาต้องมาเป็นแม่ครัวให้ผม ตกลงนะ”
วันเวลาที่ผ่านมาเกือบสองเดือนทั้งสองคนสนิทกันอย่างไม่รู้ตัว ธีภพตัดสินใจที่จะเลือกให้ธิชาเป็นผู้หญิงคนนั้นคนที่เขาจะแต่งงานด้วยเพื่อให้พ่อของเขาสบายใจถึงแม่ว่าชายหนุ่มยังไม่แน่ใจว่าตัวเองรู้สึกอย่างไรกับอีกฝ่ายกันแน่
เทวนาถได้เจอกับธิชาเขารู้สึกถูกชะตากับหญิงสาวทันทีความน่ารักและใสซื่อทำให้คนสูงอายุรู้สึกเอ็นดูและยินดีถ้าลูกชายจะเลือกคนนี้มาเป็นภรรยา
“คุณพ่อไม่รังเกียจธิชาใช่ไหมครับตอนแรกผมคิดว่าคุณพ่อจะไม่ชอบเพราะเธอไม่ได้มาจากครอบครัวร่ำรวยอะไร”
“ทำไมลูกคิดว่าพ่อต้องคิดแบบนั้น ไม่เห็นจำเป็นต้องรวยเลยเพราะเราก็มีเงินมีทองมากมายอยู่แล้ว ขอแค่ลูกรักเธอและเธอก็รักลูกก็พอ”
“แต่...ผมยังไม่ได้เป็นอะไรกันเลยนะครับ ถ้าคุณพ่อเปิดทางแบบนี้ผมจะได้ไปขอคบเธอเป็นแฟนเสียที”
“เดินหน้าเลยลูก พ่ออยากมีหลานเต็มแก่แล้ว”
เทวนาถกอดลูกชายด้วยความรู้สึกที่สุขไปถึงหัวใจ นานมากแล้วที่เขารู้สึกว่าตัวเองใช้ชีวิตแบบสิ้นหวังไปวัน ๆ ไม่มีกำลังใจที่จะอยากมีชีวิตต่ออย่างน้อยถ้าตอนนี้เขามีหลานสักคนจะได้มี ความสดใสของเด็กน้อยมาทำให้ชีวิตของเขาดูมีชีวิตชีวาขึ้นบ้าง
“ธิชาเราก็สนิทกันมาสักพักแล้วคือผมคิดว่า...เราควรจะเป็นมากกว่าเจ้านายและลูกน้อง จะมีปัญหาอะไรไหมถ้าผมจะขอคบกับธิชาแบบคนรัก”
ชายหนุ่มไม่ปล่อยเวลาให้เลยผ่านไปนานเมื่อบิดาเปิดทางแล้วเขาก็เริ่มจู่โจมทันที
“คุณธีพูดเล่นหรือเปล่าคะ ธิชาไม่สนุกด้วยนะ”
หญิงสาวถึงจะดีใจแต่ก็เก็บซ่อนความรู้สึกไว้เพราะกลัวอีกฝ่ายจะแค่ล้อเล่นเท่านั้น
“ผมพูดจริง ๆ อายุผมก็มากแล้วไม่อยากคบกับใครไปวัน ๆ อยากลองเปิดใจมีแฟนกับเขาดูถ้าธิชาพร้อมบางทีเราอาจจะดูใจกันไม่นานแล้วแต่งงานเลยก็ได้นะ”
หญิงสาวเขินจนพูดอะไรไม่ออกเพราะเธอแอบชอบเจ้านายคนนี้มาตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นหน้ากันแต่ด้วยฐานะเจ้านายกับลูกน้องเธอจึงไม่คิดที่จะพัฒนาไปมากกว่านี้ วันนี้ชีวิตของเธอจึงเหมือนกำลังฝันอยู่และไม่อยากตื่นมาเจอความจริงเลยถ้ามันจะไม่ใช่อย่างตอนนี้
“ธิชา ธิชา ”
“คะ”
“ยิ้มเหม่อเลยนะ ผมเรียกตั้งหลายครั้งแล้ว ตกลงจะยอมคบกับผมไหมยังไม่ตอบเลยนะ”
คนถูกขอเป็นแฟนอายจนหน้าแดงแบบนี้อีกฝ่ายยังจะไม่รู้คำตอบอีก
“ตกลงค่ะ”
ธีภพดีใจที่อีกฝ่ายยอมตกลงสำหรับชายหนุ่มทุกอย่างที่เขาทำตอนนี้เพื่อหาคนที่ถูกใจเขาที่สุดมาแต่งงานด้วยโดยที่เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเขาเองรู้สึกอย่างไรกับธิชา เขารู้แค่เพียงว่าอยากแต่งงานและมีลูกเพื่อให้พ่อของเขาสบายใจและต่อจากนั้นเขาก็ไม่ได้คิดอะไรต่อเพราะลึก ๆ แล้วเขาก็ไม่เคยศรัทธาว่าครอบครัวจะนำความสุขมาให้เขาได้
“ขอบคุณนะครับ”
ธีภพจับมือเล็กขึ้นมาจูบด้วยสายตาที่แสนหวานทำเอาเจ้าของมือแทบจะละลายกลายเป็นขี้ผึ้งอยู่บนรถเพราะตอนนี้แขนขาอ่อนแรงเพราะความอายจนแทบจะเดินไม่ได้แล้ว
ตอนที่2งานวิวาห์ของคุณหนู งานแต่งานถูกจัดขึ้นหลังจากที่หนูนายอมตกลงไม่ถึงเดือน เพราะทางภูษิตยินยอมพร้อมใจตั้งแต่แรก เพราะแอบชอบหนูนามาตั้งนาน โดยที่ตัวหญิงสาวไม่เคยรู้เลย กนกวรรณไม่คิดว่าข่าวการแต่งงานของลูกสาวเธอจะโด่งดังไปทั่วภาคเหนือ บรรดาเชื้อเจ้าเก่า พ่อเลี้ยงจากจังหวัดต่าง นักการเมืองท้องถิ่นต่างก็ถูกพ่อเลี้ยงเชิญมาร่วมงาน กนกวรรณอดคิดไม่ได้ ว่านี่คือการประกาศตัวว่าพ่อเลี้ยงชนินทร์กำลังมีใบเบิกทางในวงราชการ “ตื่นเต้นเหรอ” เจ้าบ่าวที่สาวๆทั้งจังหวัดต่างหมายปอง ถามเจ้าสาวเพราะสัมผัสได้ถึงมือที่สั่นของหนูนาเมื่อเขาจับมือเธออยู่กลางเวที “พี่ภูคะ หนูนาตาลายไปหมดเลย” ปกติก็ไม่ใช
ตอนที่5มาทีหลังแต่ถูกต้อง “ได้กี่หน้าแล้ว พี่เห็นเราทำงานเลยยังไม่อยากขึ้นมากวน” ภูษิตคิดแบบที่พูดด้วยส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วนหนึ่ง เขายังไม่กล้าเจอหน้าภรรยาเพราะรู้สึกว่าตัวเองผิดที่ไปแอบคุยโทรศัพท์กับคนรักเก่า “ได้นิดหน่อยค่ะ ยังไม่ค่อยมีสมาธิ” พูดจบหนูนาก็ลุกจากโต๊ะทำงานลงมานอนบนเตียง พร้องกับทำท่ากระดิกนิ้วให้อีกฝ่ายตามมานอนข้าง ๆ เธอ ถึงแม้จะรู้สึกงง ๆ แต่ก็ภูษิตก็ยอมทำตาม เพราะใจจริงก็อยากนอนกอดภรรยาให้รู้สึกดีขึ้นมาบ้างอยู่แล้ว “หนูนาแค่เรียกมานอนเฉยๆ แต่มาถึงมานอนกอดได้อย่างไรกันคะ” ยิ่งคนตัวเล็กในอ้อม
ตอนที่1คุณหนูจะแต่งงาน “ป้าศรีฉันล่ะเหนื่อยกับการสอนหนูนาจัง ยังเล่นอะไรเป็นเด็ก ๆ แล้วเมื่อไหร่จะโตกับเขาเสียที” กนกวรรณระอากับกนิษฐาลูกสาวคนเล็กของเธอเหลือเกินที่วันๆเอาแต่นั่งเขียนนิยายและวิ่งเล่นเหมือนเด็กๆทั้งที่อายุก็ยี่สิบสามแล้ว “คุณหนูเธอก็ยังไม่โตนะคะ ป้ามองดูกี่ทีก็ยังเป็นเด็กตัวน้อยๆ ตัวเล็กๆ ที่ชอบวิ่งตามคุณท่านไปทำงานตลอด” ป้าศรีเป็นคนเก่าแก่ของบ้าน ตั้งแต่สมัยมารดาของกนกวรรณอีกทีและยังเป็นคนเลี้ยงหนูนามาตั้งแต่เกิดอีกด้วย“ก็เข้าข้างกันแบบนี้ ถึงได้ไม่ยอมฟังฉันเลย” กนกวรรณไม่เคยเถียงสองคนนี้ชนะ เพราะป้าศรีกับหนูนาจะอยู่ฝ่ายเดียวกันตลอด “คุณท่านคะแล้วเรื่องที่พ่อเลี้ยงชนินทร์อยากจะให้ลูกชายของ
ตอนที่3เพื่อนหญิงคนสนิท วันนี้ภูชิตตั้งใจจะพาหนูนากลับบ้านไปหาแม่ของเธอ เพื่อค่อยๆให้เธอหายคิดถึง เพราะชายหนุ่มเข้าใจดีว่าภรรยาของเขาเป็นคนอ่อนไหว “แม่ฝากขนมไปให้กนกวรรณด้วยนะ เมื่อเช้าแม่ไปตลาดมาเจอขนมโบราณหลายอย่าง” ภาวิณีมารดาของภูชิตเธอเป็นแม่บ้านตัวจริง ที่ชีวิตมีแต่งานบ้านดูแลลูกและสามี ส่วนเรื่องนอกบ้านต่าง ๆพ่อเลี้ยงชนินทร์ไม่เคยให้เธอเข้าไปยุ่งเกี่ยวเลย “ขอบคุณนะคะ” ลูกสะใภ้ยกมือไว้อย่างนอบน้อม “คุณแม่ครับน้องล่ะ” ภูชิตถามหาสมิตา เพราะตั้งแต่ตื่นเช้ามายังไม่เห็นน้องสาวเลย “น้องกลับไปมหาวิทยา
ตอนที่6คนที่ถูกต้อง “ภู ในที่สุดคุณก็มาเยี่ยมเมย์” หญิงสาวหน้าตาสวยในชุดคนป่วย รีบลุกจากที่นอนขึ้นมานั่งเมื่อเห็นอดีตคนรักมาเยี่ยม “เป็นอย่างไรบ้างจ๊ะหนูเมย์” ยังไม่ทันที่ภูษิตจะได้ตอบอะไร ภาวิณีก็ทำหน้าที่แม่สามีที่ดี ส่งเสียงตามมา “สวัสดีค่ะคุณแม่ เมย์คิดว่าภูมาคนเดียว” คนป่วยชักสีหน้าไม่พอใจ “เข้ามาเลยหนูนา” ภาวิณีหันไปข้างหลังและกวักมือเรียกลูกสะใภ้ที่กำลังถอดรองเท้าอยู่ “มากันหมดเลยทั้งแม่และเมียตาภู ตอนงานแต่งงานหนูเมย์ไม
ตอนที่4เมื่อคนเก่าอยากมีบทบาท “ขนของอะไรเยอะเลย” ภาวิณีรีบเดินออกมาที่หน้าบ้าน เมื่อได้ยินเสียงรถของลูกชายวิ่งเข้ามาจอดที่โรงรถ “หนังสือนิยายของหนูนาเองค่ะ” ลูกสะใภ้ส่งยิ้มหวานให้แม่สามี เพราะเธอคิดว่า ภาวิณีคงรู้สึกขำที่เธอขนนิยายมาเสียหลายลัง “เป็นนักเขียนก็ต้องชอบอ่านก่อนใช่ไหม ไว้วันหลังแม่จะขออ่านผลงานของหนูนาบ้างนะลูก” บ้านของครอบครัวพ่อเลี้ยงชนินทร์ วันทั้งวันแทบจะดูเงียบเหงา หนูนาแอบคิดไม่ได้ว่า ถ้าเธอไม่เข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ ช่วงกลางวันคงมีแค่ภาวิณีกับแม่บ้านเท่านั้นที่อยู่ด้วยกัน&nb







