/ โรแมนติก / อุ้มรักเพื่อนสนิท / บทที่ 11 งานแต่งจอมปลอม

공유

บทที่ 11 งานแต่งจอมปลอม

last update 최신 업데이트: 2024-11-29 10:39:36

วันเวลาดำเนินมาถึงวันที่ส้มกับแบงค์ต้องแต่งงานกัน ช่วงเช้าเป็นพิธีหมั้นตามขนบธรรมเนียมประเพณีไทยซึ่งจัดขึ้นที่บ้านของส้ม ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น แม้ทั้งสองจะบาดหมางกันแต่ก็ยังทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีปั้นหน้ายิ้ม และแสดงความรักต่อหน้าแขกเหรื่อได้อย่างแนบเนียน 

และช่วงค่ำก็เป็นงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสที่โรงแรมชื่อดัง งานฉลองของทั้งสองถูกจัดขึ้นอย่างใหญ่โตสมฐานะของสองตระกูล แขกเหรื่อถูกเชิญมาร่วมงานนับพันคน

"เฮ้อ.." ส้มมองเงาสะท้อนของตัวเองในกระจกพร้อมกับถอนหายใจออกมาเบา ๆ ด้วยความรู้สึกเหนื่อยล้า ชุดเจ้าสาวแสนสวยที่สวมอยู่บนตัวไม่ได้ทำให้เธอมีความสุขสักนิด 

ในใจมันเต็มไปด้วยความทุกข์ระทมอยากจะให้งานแต่งนี้เสร็จสิ้นไว ๆ ด้วยซ้ำไปเพราะเหนื่อยกับการที่ต้องปั้นหน้ายิ้ม และทำตัวเหมือนมีความสุขเต็มทน

"วันนี้แกเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุดเลยรู้ไหมส้ม ทำหน้าให้มันสดชื่นหน่อยสิ" นับดาวที่คอยช่วยเพื่อนสาวแต่งตัวเอ่ยขึ้นครั้นเห็นสีหน้าเศร้าหมองในกระจกของเพื่อนพลางใช้มือตบบ่าเบา ๆ ให้กำลังใจและปลอบประโลมในเวลาเดียวกัน 

เพื่อนสาวเล่าทุกอย่าที่เกิดขึ้นให้ฟังหมดแล้วเธอจึงเข้าใจความรู้สึกเพื่อนสาวดีเพราะเคยผ่านเหตุการณ์ทำนองนี้มาแล้ว

"เจ้าสาวที่สวยที่สุด แต่ไม่มีความสุข" ส้มเลื่อนสายตามองหน้าเพื่อนสาวที่ยืนอยู่ด้านหลังผ่านกระจกอย่างปลง ๆ จะให้เธอมีความสุขได้ยังไงกันในเมื่องานแต่งครั้งนี้เกิดขึ้นจากการถูกบังคับ เธอได้แต่งงานกับคนที่รักก็จริงแต่เพราะลูก หนำซ้ำเขาก็ไม่ได้รักเธอสักนิด

"เอาน่าฉันเชื่อว่าทุกอย่างจะค่อย ๆ ดีขึ้น"

"ฉันก็หวังให้มันเป็นแบบนั้น"

แกร็ก!

ระหว่างที่ทั้งสองกำลังคุยกันประตูก็ถูกเปิดเข้ามาโดยแม่ของส้มนั่นเอง 

"ช่วยทำหน้าให้มันดี ๆ สมกับเป็นวันดี ๆ หน่อยได้ไหมยัยส้ม" อัปสรเดินเข้ามาหยุดยืนข้างบุตรสาวแล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงดุรู้สึกไม่ชอบใจกับสีหน้าเศร้าหมองของบุตรสาวทั้งที่วันนี้เป็นวันแต่งงานของตัวเองแท้ ๆ

"มันคงเป็นวันดี ๆ ของแม่กับพ่อมากกว่าค่ะ ไม่ใช่วันดีสำหรับส้ม" ส้มตอบกลับผู้เป็นแม่ด้วยน้ำเสียงราบเรียบเอี่ยวมองหน้าท่านด้วยแววตาตัดพ้อ 

หากท่านฟังและนึกถึงความรู้สึกของเธอสักนิดท่านจะรู้ว่าเธอไม่ได้มีความสุขกับการแต่งงานครั้งนี้เลย ขนาดเธอบอกไปตรง ๆ ก็แล้วว่าไม่อยากแต่งท่านก็ยังจะบังคับ

"พูดให้มะ.." 

"ใจเย็น ๆ นะคะคุณแม่ วันนี้เป็นวันดีอย่าทะเลาะกันเลยค่ะ" นับดาวรีบพูดแทรกขึ้นก่อนที่แม่ของเพื่อนสาวจะได้เอ่ยอะไรออกมาเพราะดูจากสีหน้าของท่านแล้วคงโกรธมากที่เพื่อนสาวตอบไปแบบนั้น เกรงว่าจะทะเลาะกันใหญ่โตพานทำให้เสียบรรยากาศในวันดี ๆ

"จ้ะ" อัปสรยอมสงบอารมณ์อย่างว่าง่ายหลับตาพรูลมหายใจออกมายาว ๆ ก่อนจะปรือตาขึ้นเอ่ยกับบุตรสาวอย่างใจเย็นที่สุด "ลงไปที่งานได้แล้ว ถึงเวลาแล้ว"

ส้มไม่ได้ตอบอะไรหยัดกายลุกขึ้นยืน ใช้มือรวบกระโปรงชุดแต่งงานที่ยาวพะรุงพะรังยกขึ้น แล้วหมุนตัวเดินออกไปจากห้องโดยมีเพื่อนสาวกับผู้เป็นแม่เดินตามหลังไปติด ๆ 

เท้าเล็กชะงักเล็กน้อยเมื่อเดินมาถึงประตูทางเข้างานแล้วเห็นเจ้าบ่าวของเธอยืนอยู่ ไล่สายตามองสำรวจร่างสูงในชุดสูทสีเทาตรงอกด้านขวาติดดอกไม้สีขาวเพิ่มความเก๋ ทรงผมถูกปาดขึ้นโชว์หน้าผากให้ลุคคุณชายสุดเนี้ยบดูแปลกตาจากทุกวันนิ่ง ๆ อดชื่นชมไม่ได้วันนี้เขาหล่อ และดูดีกว่าทุกวันจริง ๆ 

แต่เพียงเสี้ยวนาทีเธอก็รีบสลัดความคิดออกเดินเข้าไปหาเขาด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง 

ขณะที่แบงค์ก็ไล่สายตามองร่างบางในชุดเจ้าสาวปาดไหล่แขนยาวสีขาวปักลวดลาย Art Deco ด้วยคริสตัลสวารอฟสกี้ จากแบรนด์ระดับโอต์ กูตูร์ สวมเครื่องเพชรประจำตระกูลที่แม่ของเขามอบให้ ทรงผมฟุ้ง รวบหลัง เปิดหน้าผากโชว์ปอยขับใบหน้าที่หวานอยู่แล้วหวานฉ่ำด้วยแววตาเรียบนิ่งไร้ความรู้สึก 

ทั้งที่ความจริงคนตรงหน้าสวยมากวินาทีแรกที่เห็นยอมรับว่าตะลึงเล็กน้อบ แต่เสี้ยวนาทีก็สลัดความรู้สึกออกไป

"พร้อมแล้วใช่ไหม" เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบพร้อมกับอ้าแขนออกเชิงบอกให้เธอควงแขน ส้มพยักหน้ารับพร้อมกับเดินไปยืนเคียงข้างเขาสอดมือเข้าไปควงแขนอย่างรู้งาน 

จากนั้นก็พากันเดินเข้าไปในงานตามพรมแดงที่ถูกปูไว้ ตลอดทางเดินเต็มไปด้วยแขกเหรื่อมากมาย และมีกลุ่มเพื่อน ๆ คอยโปรยกลีบดอกกุหลาบเพิ่มบรรยากาศโรแมนติก

ทั้งสองต้องปั้นหน้ายิ้มทำเหมือนว่ามีความสุขทั้งที่ความจริงต่างทุกข์ระทม ขณะที่กำลังก้าวขึ้นเวทีส้มก็เผลอขยำแขนเสื้อของร่างสูงแน่นเพราะรู้สึกตื่นเต้นเกินไปทำให้อีกคนต้องปรายตามองด้วยความสงสัย กดเสียงถามเบา ๆ "เป็นอะไร"

คนถูกถามส่ายหน้าปฏิเสธเบา ๆ แทนคำตอบพร้อมกับคลายมือออกจากแขนเสื้อเขาเล็กน้อย ซึ่งอีกคนก็ไม่ได้เอ่ยอะไรต่อพากันเดินไปยังกลางเวทีที่มีพิธีกรรออยู่ 

พิธีกรหญิงวัยสามสิบต้น ๆ คลี่ยิ้มให้คู่บ่าวสาวด้วยความยินดี ก่อนจะเชิญผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายขึ้นมากล่าวคำอวยพรบนเวที  "เจ้าบ่าวเจ้าสาวของเรามาแล้ว ลำดับต่อไปขอเชิญพ่อแม่บ่าวสาวขึ้นมากล่าวคำอวยพรค่ะ"

สิิ้นเสียงประกาศของพิธีกรพ่อแม่ของส้มกับแบงค์ก็พากันเดินขึ้นบนเวที กล่าวความรู้สึกของตัวเอง อวยพรบ่าวสาว และกล่าวขอบคุณแขกในงาน จากนั้นก็เชิญประธานขึ้นเวลาเวทีคล้องพวงมาลัยให้บ่าวสาว และกล่าวคำอวยพร

และก็มาถึงช่วงเวลาสัมภาษณ์คู่บ่าวสาวซึ่งเป็นเวลาที่ส้มรู้สึกกดดันที่สุดกลัวว่าจะถูกถามคำถามแปลก ๆ หัวใจดวงน้อยกระหน่ำเต้นแรงอย่างห้ามไม่ได้ มือไม้เย็นเฉียบไปหมด ขณะที่แบงค์มีท่าทีเรียบนิ่งไม่ได้รู้สึกอะไรสักนิด

"เจ้าบ่าวเจ้าสาวช่วยเล่าจุดเริ่มต้นของความให้ฟังได้ไหมคะว่าจากเพื่อนสนิททำไมถึงกลายมาเป็นคู่รักกันได้" 

แค่คำถามแรกจากพิธีกรส้มก็ถึงกับสะอึกเผลอจิกเล็บลงบนอุ่งมือแน่น ก่อนหันไปมองร่างสูงข้าง ๆ เชิงขอความช่วยเหลือ แต่เขากลับทำเป็นไม่สนใจ 

สุดท้ายเธอก็ต้องคิดหาคำพูดเอาเอง พยายามบังคับมืออันสั่นเทายกไมค์ขึ้นพูด "พวกเราก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะว่าความรู้สึกนี้มันก่อตัวขึ้นตั้งแต่เมื่อไร มารู้ตัวอีกทีต่างคนก็ต่างมีใจให้กันค่ะ" 

ขณะพูดเธอก็มองใบหน้าหล่อเหลาไปด้วยพร้อมกับระบายยิ้มหวานออกมาทำเหมือนว่ากำลังรู้สึกมีความสุขมากที่ได้เขามาเป็นคู่ชีวิต 

แต่ใครจะรู้เลยว่าในใจขืนขมแค่ไหน แบงค์เค้นหัวเราะในลำคออย่างเย้ยหยันกับคำตอบโกหกของหญิงสาว ค่อย ๆ โน้มริมฝีปากไปกระซิบชิดกกหูเล็กด้วยน้ำเสียงหยัน "เธอนี่แต่งเรื่องเก่งจริง ๆ นะ"

คำพูดราบเรียบที่ดังข้างกกหูเหมือนคมมีดกรีดลึกลงกลางใจคนฟัง ตาคู่สวยไหวระริกด้วยความเสียใจ แค่เขาไม่ช่วยพูดว่าแย่แล้ว ยังจะมาพูดจาทำลายความรู้สึกกันอีกทำไมถึงได้ใจร้ายขนาดนี้กัน 

มือเรียวที่ขนาบอยู่ข้างตัวกำแน่นพยายามข่มก้อนสะอื้นที่กำลังจะตีขึ้นมา เอียงคอออกห่างใบหน้าหล่อเหลาเล็กน้อย แล้วเอี่ยวมองสบสายตาของเขาพร้อมกับระบายยิ้มออกมาราวกับว่าตอนนี้เธอกับเขากำลังหยอกล้อกันให้ทุกคนเข้าใจแบบนั้น

"หื้ม..เจ้าบ่าวเจ้าสาวสวีทหวานไม่เกรงใจกันเลยนะคะ พิธีกรตาร้อนไปหมดแล้ว" พิธีกรสาวเอ่ยแซวด้วยใบหน้ายิ้มแย้มทำให้ทั้งสองละสายตาออกจากกันให้ความสนใจแขกเหรื่อเหมือนเดิม ก่อนพิธีกรจะถามคำถามต่อไป

"แล้วอะไรที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวประทับใจในตัวกันและกันคะ" 

"สิ่งที่ผมประทับใจในตัวเจ้าสาวของผมที่สุดคือนิสัยครับ เธอเป็นคนที่รักครอบครัวมาก จิตใจดีชอบช่วยเหลือผู้อื่น แม้กระทั่งหมาแมวเธอก็ยังช่วยเหลือครับ ที่สำคัญคือเธอคอยอยู่เคียงข้าง และคอยให้กำลังกำลังใจผมเสมอในยามที่ผมพบเจอปัญหา หรือมีเรื่องไม่สบายใจ" 

ครั้งนี้เป็นแบงค์ที่ตอบก่อน ทุกอย่างที่เขาเอ่ยออกไปล้วนมาจากความรู้สึกข้างในหญิงสาวเป็นแบบนั้นจริง ๆ ทว่าตอนนี้มันกลับไม่ใช่อีกแล้วเพื่อนสาวคนที่แสนดีคนนั้นได้จากเขาไปแล้ว

ส้มมองหน้าเพื่อนชายอย่างอึ้ง ๆ ไม่คิดว่าเขาจะพูดแบบนี้ตอนแรกที่ได้ยินคำถามก็แอบกังวลกลัวว่าเขาจะพูดอะไรที่ไม่สมควรพูดออกไป 

เธอลอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ ด้วยความโล่งอก ก่อนยกไมค์ขึ้นตอบต่อ สายตายังคงจับจ้องบนใบหน้าหล่อเหลาส่งผ่านความรู้สึก

"ส่วนดิฉันสิ่งที่ประทับใจและรักในตัวผู้ชายคนนี้ที่สุดคือนิสัยเช่นกันค่ะ ฉันรู้สึกโชคดีมากที่มีเขาอยู่เคียงข้าง เขาเป็นเหมือนป้อมปราการที่คอยปกป้องฉันจากอันตรายต่าง ๆ เขาเป็นทั้งเพื่อนและคนรักที่ดีมากค่ะ ตลอดเวลาที่รู้จักกันมาตั้งแต่ในสถานะเพื่อนจนเลือกขั้นเป็นคนรักเขาดูแลเอาใจใส่ฉันเป็นอย่างดี ทำให้ฉันมีแต่ความสุขและเสียงหัวเราะ" 

ขณะเอ่ยไปน้ำสีใสก็ค่อย ๆ รินไหลออกจากแววตาไหวระริกอย่างสุดจะกลั้น ก้อนเนื้อในอกด้านซ้ายบีบรัดด้วยความเจ็บปวดเพราะผู้ชายคนนั้นที่เธอพูดถึงมันไม่มีอีกแล้ว 

เพื่อนชายที่แสนดีของเธอคนนั้นไม่มีอีกแล้วคนตรงหน้าเธอในตอนนี้เป็นใครก็ไม่รู้ที่ใจร้ายกับเธอมาก ๆ หากสามารถขอพรได้สักข้อเธอก็ขอให้เพื่อนชายคนเดิมของเธอกลับมา 

และขอให้เขารักเธอตอบบ้าง..

สำหรับทุกคนในงานคงคิดว่าที่เธอร้องไห้เพราะรู้สึกดีใจ และตื้นตันที่ได้แต่งงานกับผู้ชายที่ดี และรักเธอมากทั้งที่ความจริงไม่ใช่สักนิด 

แน่นอนว่าแบงค์ต้องแสดงเป็นเจ้าบ่าวที่รักเจ้าสาวมากยกมือขึ้นข้างที่ถือไมค์โอบไหล่มนเอาไว้ แล้วใช้อีกข้างซับน้ำตาบนพวงแก้มนวลอย่างอ่อนโยน ส่วนทางกับคำพูดที่เอ่ยออกมา "เธออย่าอินไปหน่อยเลยมันก็แค่การแต่งงานจอมปลอม"

ส้มได้แต่กำหมัดแน่นกับคำพูดจิกกัดแสนร้ายกาจของเพื่อนชาย พยายามกลืนก้อนสะอื้นลงคอแล้วเค้นเสียงตอกกลับอย่างเหลืออด  "ที่ส้มร้องไห้ไม่ใช่เพราะอิน แต่เสียใจต่างหากที่เพื่อนชายแสนดีคนนั้นหายไป เหลือแต่ผู้ชายใจร้ายที่ยืนว่าส้มอยู่ตอนนี้"

"หากจะโทษต้องโทษเธอที่ทำให้เพื่อนชายผู้แสนดีคนนั้นหายไป"

"แบงค์ไม่เคยคิดจะโทษตัวเองบ้างเลยใช่ไหม"

"ช่างเป็นคู่ที่เกื้อกูลกันจริง ๆ เลยใช่ไหมคะทุกคน สุดท้ายนี้เชิญเจ้าบ่าวขอบคุณแขกในงานหน่อยค่ะ" ระหว่างที่ทั้งสองกำลังถกเถียงกันเสียงของพิธีกรสาวก็ตังแทรกขึ้นทำให้ทั้งสองต้องสงบศึกปั้นหน้ายิ้มต่อ โดยแบงค์ก็ทำหน้าที่กล่าวขอบคุณแขกที่มาร่วมงาน

จากนั้นก็เดินควงแขนกันไปทำการจุดเทียนที่ซุ่ม ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตคู่ของบ่าวสาว เพื่อเป็นการอวยพรให้ชีวิตรักเป็นไปอย่างราบรื่น 

และทำการจดทะเบียนสมรสต่อทั้งสองมองใบทะเบียนสมรสที่วางอยู่บนโต๊ะตรงหน้าด้วยความลำบากใจต่างคนต่างไม่อยากจด แต่ก็ต้องฝืนใจจรดปลายปากกาลงเซ็นเพราะมีสายตานับพันคู่จับจ้องอยู่

เมื่อการจดทะเบียนสมรสเสร็จสิ้นก็ถึงเวลาตัดเค้ก ทั้งสองร่วมกันตัดเค้กระหว่างนั้นก็มีดนตรีเปิดคลอไปด้วยเพื่อสร้างบรรยากาศ 

ทว่ากลับไม่ได้ช่วยให้คนทั้งสองอารมณ์ดีขึ้นมาสักนิดต่างอยากให้งานในค่ำคืนนี้จบลงสักที ครั้นทำการตัดเค้กเสร็จก็นำไปมอบให้กับประธานพิธี พ่อแม่ และญาติผู้ใหญ่ 

จากนั้นก็เดินกลับไปยังเวทีอีกครั้งเพื่อทำการโยนช่อดอกไม้ที่เตรียมเอาไว้

และงานเลี้ยงฉลองในค่ำคืนนี้ก็เป็นอันจบลง แขกเหรื่อที่มาร่วมงานเริ่มทยอยกันกลับเพราะส้มไม่ได้จัดอาฟเตอร์ปาร์ตี้เหมือนหลาย ๆ งานที่เขาชอบจัดกัน 

การแต่งงานครั้งนี้เป็นแค่การแต่งงานจอมปลอมเหมือนที่เพื่อนชายว่าไว้ ไม่จำเป็นต้องอะไรมากมาย อีกอย่างเธอทุกข์ระทมเกินกว่าจะมีอารมณ์สนุกได้

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   ตอนพิเศษ 2

    @บ้านวิสุทธิ์ภักดี"ว้าย!" ส้มร้องอุทานด้วยความตกใจเมื่อจู่ ๆ ก็ถูกพ่อของลูกยกขึ้นอุ้มในท่าเจ้าสาวขณะที่กำลังจะก้าวเท้าเดินเข้าไปในบ้านวิสุทธิ์ภักดี "จะอุ้มทำไมแบงค์ส้มก็กำลังจะเดินเข้าบ้านอยู่นี่ไง" ครั้นตั้งตัวได้เธก็โวยวายใส่ร่างสูงพลางใช้มือทุบอกเขาแรง ๆ ไม่เข้าใจว่าเขาจะมาอุ้มทำไมกันในเมื่อเธอก็ยอมเดินเข้าบ้านดี ๆ ไม่ได้จะวิ่งหนีกลับบ้านสักหน่อยแบงค์เพียงยิ้มให้เพื่อนสาวเล็กน้อยไม่ได้ตอบอะไรตั้งหน้าอุ้มเธอเดินดุ่ม ๆ เข้าบ้าน ก่อนจะพาเดินตรงขึ้นไปยังชั้นสองของบ้านทำเอาส้มต้องขมวดคิ้วเป็นปม รีบเปล่งเสียงถามทันที "แบงค์จะพาส้มไปไหน ปล่อยส้มลงเดี๋ยวนี้นะ""พาขึ้นไปดูทะเบียนสมรส แล้วก็ใบหย่าไงเพื่อยืนยันว่าแบงค์ยังไม่ได้เซ็นมันจริง ๆ เพราะฉะนั้นเรายังเป็นสามีภรรยากันอยู่" สิ้นประโยคใบหน้าหล่อเหลาก็เคลือบไปด้วยรอยยิ้มกรุ่มกริ่ม แววตาทอประกายเจ้าเล่ห์จนส้มอดหัวใจเต้นแรงไม่ได้รู้สึกว่ามันไม่น่าไว้ใจเอาเสียเลย พยายามข่มอาการเอาไว้แล้วเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงดุหวังว่าอีกคนจะเกรงขึ้นมาบ้าง "แบงค์ก็ขึ้นไปหยิบลงมาให้ดูสิ จะอุ้มส้มขึ้นไปด้วยทำไม" "อยากพาขึ้นไปดูให้ถึงที่ไง" "มันใช่เรื่องไหม

  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   ตอนพิเศษ 1

    หลายปีต่อมา"คุณพ่อคะเมื่อวานตอนไปห้างมีหนุ่ม ๆ มาจีบคุณแม่ด้วยค่ะ" ทันทีที่แบงค์ย่างกรายเข้ามาภายในบ้านเอกวิโรจน์บุตรสาวที่นั่งรอการมาของเขาในห้องโถงก็รีบเอ่ยฟ้องเสียงเจื้อยแจ๋ว"จริงเหรอครับ" ทำเอาแบงค์ถึงกับหูผึ่งรีบเดินเข้าไปหย่อนก้นนั่งข้างบุตรสาว ถามไถ่ด้วยความร้อนรนใจ "แล้วผู้ชายคนนั้นหล่อไหม แล้วแม่เขาตอบผู้ชายคนนั้นไปว่ายังไงบ้าง""เขาก็หล่อนะคะ แต่น้อยกว่าคุณพ่อ" ภริตาเด็กน้อยวัยย่างเข้าเก้าขวบตอบไปตามความจริงเพราะสำหรับเธอแล้วไม่มีใครหล่อกว่าพ่อตัวเอง "ส่วนคุณแม่แค่ยิ้มหวานให้ผู้ชายคนนั้นค่ะไม่ได้ตอบอะไร น้องริตาเลยตอบแทนคุณแม่ไปว่ามีลูกแล้วผู้ชายคนนั้นก็เดินหนีไปเลย""ทำดีมากลูกรัก ไม่เสียแรงที่พ่อให้ลูกช่วยดูแลแม่จากผู้ชายคนอื่น" ใบหน้าหล่อเหลาที่เคยบึ้งตึงก่อนหน้านี้เริ่มมีรอยยิ้มปรากฏให้เห็นเมื่อได้ยินประโยคต่อมาจากบุตรสาว ก่อนเขาจะเอื้อมมือไปหยีเรือนผมสีน้ำตาลอ่อนเบา ๆ ด้วยความมันเขี้ยว ตอนนี้เวลาก็ผ่านมาสี่ปีเกือบห้าปีแล้วอีกแค่วันเดียวเท่านั้นก็จะคบห้าปีพอดี บุตรสาวของเขาอายุย่างเข้าเก้าปีเริ่มเติบโตเป็นสาวแล้วรู้เรื่องทุกอย่างจึงเป็นตัวช่วยของเขาได้ดีงานที่เขามอ

  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   บทที่ 50 The end

    จากวันนั้นเวลาก็ดำเนินมาหนึ่งปีเต็ม ๆแบงค์ยังคงคอยดูแลลูกในฐานะคุณอาที่แสนดี ซึ่งเขาก็เต็มใจยอมรับไม่คิดเรียกร้องอะไรแค่ได้อยู่ในชีวิตผู้หญิงที่รักทั้งสองคนเขาก็มีความสุขแล้วครืดดด~สายเรียกเข้าจากโทรศัพท์ดังขึ้นทำให้แบงค์ที่กำลังเดินไปขึ้นรถเพื่อเดินทางไปหาบุตรสาวที่บ้านเอกวิโรจน์เหมือนเช่นทุกวันต้องหยุดชะงัก ก่อนจะล้วงไปหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงออกมาดูคิ้วเข้มพลันขมวดชนกันเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าสายที่โทรเข้ามาคือแม่ของลูกอดแปลกใจไม่ได้เพราะปกติเธอจะไม่โทรมาแต่เช้าแบบนี้ จึงกดรับสายด้วยความอยากรู้"โทรมาแต่เช้าเลยมีอะไรรึเปล่าส้ม"(ส้มจะโทรมาบอกว่าวันนี้ให้มาหาลูกตอนเย็น ๆ นะ เพราะช่วงเช้าพ่อกับแม่ส้มจะพาน้องริตาไปข้างนอก)พอได้ฟังประโยคจากปลายสายเขาก็หน้าหงอยลงฉับพลันรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยเพราะกะไว้ว่าจะไปรับสองแม่ลูกไปทำบุญด้วยกันที่วัดสักหน่อยเนื่องในวันนี้เป็นวันเกิดของเขา อดคิดไม่ได้ว่าเพื่อนสาวคงจะลืมไปแล้วว่าวันนี้เป็นวันเกิดของเขาเพราะเป็นเวลาหลายปีแล้วที่ทั้งสองไม่ได้ฉลองวันเกิดด้วยกันตั้งแต่เกิดเรื่องนั่น"อ๋อ..ได้ ๆ" เขาได้แต่เก็บความเศร้าไว้ในใจแล้วเปล่งเสียงตอบปลายสายไ

  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   บทที่ 49 หน้าที่พ่อแม่

    ส้มทอดสายตามองบรรยากาศยามค่ำคืนริมระเบียงห้องพักด้วยความรู้สึกผ่อนคลายหลังจากที่พาบุตรสาวเข้านอนเรียบร้อยแล้ว ขณะที่ในสมองก็ครุ่นคิดอะไรเรื่อยเปื่อยเกี่ยวกับเรื่องชายหนุ่มและลูก ไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่เธอจมดิ่งอยู่ในห้วงความคิดจนสายลมเย็นยะเยือกลอยสัมผัสผิวเรียบเนียนทำให้เธอต้องรีบยกมือขึ้นโอบกอดตัวเอง ก่อนจะแหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้าสีดำนิลที่มีดวงดาวน้อยใหญ่ลอยประดับประดาอย่างสวยงาม แต่นาทีต่อมาเธอก็ต้องสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อสัมผัสได้ถึงอะไรนุ่ม ๆ อุ่น ๆ ที่คลุมลงมาบนไหล่ ครั้นเอี่ยวหน้ามองก็พบว่าเป็นพ่อของลูกนั่นเองที่เอาผ้ามาคลุมไหล่ให้เธอ จึงเอ่ยขอบคุณไปตามมารยาท "ขอบคุณ"แบงค์เพียงยกยิ้มให้เพื่อนสาวบาง ๆ แล้วเดินไปยืนริมระเบียงข้าง ๆ ทอดสายตามองออกไปนอกท้องทะเลอันมืดสลัวโดยไม่พูดอะไรออกมา เฉกเช่นเดียวกับส้มที่มองออกไปยังทะเลอีกครั้งโดยไม่พูดอะไรทำให้บรรยากาศรอบ ๆ ปกคลุมไปด้วยความเงียบมีเพียงเสียงคลื่นกระทบฝั่งดังแว่วมาเป็นระยะไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่ต่างคนต่างตกอยู่ในห้วงความคิดของตัวเอง ก่อนแบงค์จะเป็นฝ่ายเปิดประเด็นชวนคุยขณะที่สายตายังคงจดจ่อกับทะเลเบื้องหน้า "บรรยากาศดีเนาะ ส้มว่าไหม

  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   บทที่ 48 สายเลือด

    เช้าวันต่อมาหลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จทั้งสามคนพ่อแม่ลูกก็พากันลงไปทานอาหาร ครั้นทานอาหารเสร็จก็เช่ารถของโรงแรมพาบุตรสาวไปเล่นที่สวนน้ำกระทั่งเที่ยงจึงพากันไปทานอาหารที่ร้านอาหารชื่อดังของภูเก็ต"กินข้าวเสร็จคุณอาใจดีจะพาน้องริตาไปเที่ยวไหนต่อคะ" เด็กน้อยภริตาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเจื้อยแจ๋วระหว่างที่นั่งรออาหารมาเสิร์ฟพร้อมกับเอียงหน้าขึ้นมองคุณอาใจดีที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ขณะที่ส้มนั้นนั่งอยู่บนเก้าอี้อีกฝั่งจ้องมองบุตรสาวด้วยความรู้สึกเอ็นดูระคนมันเขี้ยวเพราะยิ่งนับวันบุตรสาวก็ยิ่งติดคนเป็นพ่อมากขึ้น ดูอย่างตอนนี้สิแทนที่จะนั่งข้างเธอ กลับเลือกไปนั่งข้างชายหนุ่มแต่ก็คงไม่แปลกอะไรเพราะเขาเล่นตามใจบุตรสาวไปเสียทุกอย่างไม่ว่าบุตรสาวจะบอกจะขออะไรก็ทำให้หมดไม่เคยขัดจึงทำให้บุตรสาวชอบอยู่กับเขา"อืม..เราไปดูเครื่องบินที่หาดไม้ขาวกันไหมครับ พอแดดร่มหน่อยเดี๋ยวเราค่อยไปเล่นน้ำทะเลกัน" คนถูกถามอย่างแบงค์นั่งใช้ความคิดชั่วครู่ ก่อนเสนอความคิดเห็นให้บุตรสาวพร้อมกับยกมือลูบเรือนผมสีน้ำตาลอ่อนเบา ๆ ด้วยความรักใคร่เอ็นดู"ได้ค่ะ"เด็กน้อยภริตายิ้มรับจนตาหยีพลอยทำให้คนเป็นพ่อแม่ยิ้มตามไปด้วย ก่อนแบงค์จะเล

  • อุ้มรักเพื่อนสนิท   บทที่ 47 เที่ยว

    นับจากวันนั้นเวลาก็ผ่านมาหนึ่งเดือนเต็ม ๆ แล้วที่แบงค์ได้กลับเข้ามาในชีวิตเพื่อนสาวกับลูกอีกครั้ง ตอนเช้าของทุกวันก่อนไปทำงานเขาจะแวะมาหาบุตรสาวก่อนเสมอ และหลังเลิกงานตอนเย็นก็แวะมาเล่นกับบุตรสาวอีกครั้ง หากเป็นวันหยุดเขาก็จะมารับบุตรสาวพาไปเที่ยวเป็นประจำ บางครั้งก็พาไปนอนค้างคืนที่บ้านด้วยกัน ส่วนความสัมพันธ์กับแม่ของลูกก็ไม่มีอะไรคืบหน้ามากกว่าเดิมเพราะเธอปิดกั้นเขาทุกทางคงจะมีแค่เรื่องลูกที่ทำให้เธอยอมเกี่ยวข้องกับเขา ถึงกระนั้นเขาก็ยังไม่ถอดใจหวังว่าสักวันจะแทรกซึมเข้าไปในใจเธอได้อีกครั้งวันนี้เป็นวันหยุดเขาเลยชวนบุตรสาวไปเที่ยวทะเลตามที่ได้บอกไว้ก่อนหน้านี้ และเขายังแอบพูดกับบุตรสาวว่าให้ชวนแม่ไปด้วยเพราะหวังว่าจะได้สร้างโมเม้นท์ดี ๆ กับแม่ของลูกเผื่ออะไร ๆ จะดีขึ้นกว่าเดิม และทุกอย่างก็เป็นไปตามแผนส้มยอมไปเที่ยวทะเลด้วยเพราะทนแรงออดอ้อนจากบุตรสาวไม่ไหว ทะเลที่เขาจะพาสองแม่ลูกไปเที่ยวก็คือภูเก็ตนั่นเองเพราะเขาไปมาครั้งที่แล้วมันสวยมาก ที่เที่ยวก็มีเยอะแยะจึงอยากให้บุตรสาวได้เที่ยวบ้าง ทั้งสามออกเดินทางจากกรุงเทพตั้งแต่เช้าตรู่ด้วยรถส่วนตัวโดยแบงค์ทำหน้าที่เป็นคนขับ เขาอยากจะ

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status