ลวี่กั่วออกไปอย่างเสียหน้าเจ้าอารามมองเซียวหลันยวน "ก่อนหน้านี้เจ้าไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้อยแบบนี้ ตอนนั้นไม่ใช่บอกว่าจะคอยดูแลอุทยานเขาเฉิงอวิ๋นกับเมืองจื่อซวีแทนเจ้าอุทยานเฉินหรือ?"ตอนนั้นเซียวหลันยวนอายุยังน้อย แต่ตอนที่เจ้าอุทยานเฉินถูกทำลายจนกำลังจะสิ้นใจ เขาเคยบอกว่า ถ้าเขายังมีเรี่ยวแรงล่ะก็ จะช่วยดูแลที่นี่ต่อไป"ท่านลุงเจ้าอุทยานไม่ใช่ปฏิเสธข้าแล้วหรือ?" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้นเจ้าอารามตอนนี้ก็เพิ่งนึกขึ้นได้ ตอนนั้นหลังจากที่เซียวหลันยวนพูดจบ เจ้าอุทยานเฉินยังดิ้นรนพูดมาอีกว่าไม่ต้อง เจ้าลำบากมามากแล้ว"แต่หลังจากเขาพูดจบเจ้าก็ไม่ได้พูดอะไรออกมานี่?" เจ้าอารามเอ่ยขึ้นเซียวหลันยวนไม่ได้ประหม่าเลยสักนิด "ที่ไม่ได้พูด ข้าก็แค่บอกตนเองในใจ ว่าพอถึงเวลาค่อยดูสถานการณ์แล้วกัน เอาตามใจเลย"ตามใจ ตอนนี้เขาก็ทำตามความรู้สึก ปล่อยมือไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวแล้ว ไม่ถือว่าผิดคำพูดกับเจ้าอุทยานเจ้าอารามพูดไม่ออกจนหัวเราะออกมา"ตามใจหรือ? ข่างเป็นการตามใจที่ดีซะจริง"เขาอดเหลือบมองฟู่จาวหนิงไม่ได้สายตานี้มีความหมายลึกซึ้งขึ้นมาแล้วฟู่จาวหนิงเห็นแล้ว "เจ้าอารามคงไม่ได้คิดว่าข้าสอน
ณ เมืองหลวง แคว้นเจาบนถนนที่คึกคักหญิงสาวที่สวมชุดงดงามนางหนึ่งกำลังนำทหารหลายคนของนางไปดักขบวนแห่เจ้าสาวขบวนหนึ่งอย่างดุดัน“หลีกไป นี่คือคุณหนูใหญ่จากตระกูลของหมอเทวดาหลี่ หากว่าพวกเจ้าทำให้คุณหนูไม่พอใจระวังจะเดือดร้อน!” ผู้คนที่กำลังเดินอยู่บนถนนต่างพากันรีบหลีกทางให้ในทันที ด้วยกลัวว่าจะถูกลูกหลง เหล่าชาวเมืองมองไปที่ขบวนแห่เจ้าสาวที่ถูกตกแต่งด้วยความรู้สึกเห็นใจ “นี่เจ้าสาวจากตระกูลไหนกันเนี่ย? ไปทำอะไรให้คุณหนูใหญ่ตระกูลหลี่ขัดใจกัน?”“เจ้าไม่รู้หรือ? วันนี้เป็นวันแต่งงานของรัชทายาทเซียวกับคุณหนูตระกูลฟู่ คนที่นั่งอยู่ในเกี้ยวเจ้าสาวนั่นก็ต้องเป็นคุณหนูฟู่นั่นแหละ”โครม เกี้ยวเจ้าสาวถูกทหารของตระกูลหลี่ใช้กำลังบังคับให้หยุดลง หลังจากที่เกี้ยวเจ้าสาวเกิดการสั่นไหวอย่างรุนแรง ก็ได้ยินเสียงตุ๊บดังออกมา คล้ายจะเป็นเสียงของศีรษะที่กระแทกอะไรสักอย่าง“ไปเอาตัวฟู่จาวหนิงมา! แล้วก็ไปถอดชุดเจ้าสาวของนางทิ้งซะ!”คุณหนูใหญ่ตระกูลหลี่ชี้นิ้วไปยังเกี้ยวเจ้าสาวก่อนจะสั่งออกมาอย่างวางอำนาจ ทันใดนั้นทหารรับใช้ก็วิ่งไปแล้วยื่นมือไปเปิดม่านบังเกี้ยวเจ้าสาวทันทียายเฒ่าผู้ดูแลพิธีที่ยืนอยู่ด้านข้
สมองจาวหนิงผุดภาพร่างกายที่อ่อนแอของผู้เฒ่าฟู่ขึ้นมาฟู่จาวหนิงกับรัชทายาทเซียวเดิมทีมีการหมั้นหมายอยู่ สุขภาพผู้เฒ่าฟู่เองก็ย่ำแย่ลงทุกวัน ความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาคือสามารถเห็นหลานสาวแต่งเข้าจวนตระกูลเซียวได้อย่างราบรื่น ได้มีที่พึ่งพิงในภายภาคหน้า แต่ตระกูลเซียวก็ไม่ยอมเอ่ยเรื่องงานมงคลเสียทีช่วงนี้อาการป่วยของผุ้เฒ่าฟู่ก็ทรุดลงอย่างรวดเร็ว เขาเป็นลมหมดสติอยู่บ่อยครั้ง พอตื่นขึ้นมาก็จะคว้ามือของนางและกังวลเรื่องงานแต่ง ฟู่จาวหนิงก็ร้อนรน ดังนั้นแต่ละวันจึงเอาแต่เซ้าซี้รัชทายาทเซียว หลังถูกปฏิเสธมาหลายครั้ง นางจึงหยิบยกเอาคุณงามความดีที่บิดามารดาของนางเคยช่วยชีวิตองค์รัชทายาทไว้ออกมาให้องค์จักรพรรดิประทานจัดงานแต่งงานให้รัชทายาทเซียวก็ถูกบีบจนต้องจำใจยอมรับการแต่งงานกับฟู่จาวหนิงเซียวเหยียนจิ่งเองก็เป็นบุรุษรูปงามอันดับต้นๆ ในเมืองหลวงจริงๆ คิ้วกระบี่ดวงตาดอกท้อ จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากเชิด รูปหน้ายอดเยี่ยม ร่างสูงโปร่ง เสื้อคลุมสักหลาดพอดีตัวดูสูงส่ง ขับเน้นร่างของเขาออกมาจนตัวดูเป็นคนแต่นิสัยเป็นสุนัขเสียอย่างนั้นไม่แปลกที่หลี่จื่อเหยาหลงใหลเขามาตลอดพอคิดถึงสถาน
เสียงโครมดังขึ้น เซียวเหยียนจิ่งรู้สึกว่าเลือดถูกต้มจนเดือดปุดขึ้นมาถึงกระหม่อม"ฟู่!จาว!หนิง!"เขากัดฟันเอ่ยชื่อฟู่จาวหนิงออกมาทีละคำๆนางกล้าดีอย่างไร จึงกล้ามาหยามหมิ่นเขาเช่นนี้?ชาวบ้านรอบๆ ก็ล้วนตาโตพูดไม่ออกกันหมด จากนั้นจึงมองพวกเขาทั้งสองและพยักหน้าเห็นด้วยแบบไม่รู้ตัว พวกเขารู้สึกว่าสิ่งที่คุณหนูฟู่พูดออกมานั้นถูกต้องเซียวเหยียนจิ่งจ้องนางอย่างเกลียดชัง "ฟู่จาวหนิง เจ้าอย่ามาเสียใจภายหลังแล้วกัน! ข้าตอนนี้จะคอยดู ว่าเจ้าจะไสหัวกลับไปอย่างไร! เจ้าอย่าลืมว่าปู่ของเจ้า ตอนนี้เขาก็เหมือนจะเหลือแค่ลมหายใจเฮือกสุดท้ายแล้วสินะ เจ้าเชื่อไหมว่าพอเจ้าเหยียบเข้าประตูจวนไปและเขารู้ว่าเจ้าถูกถอนหมั้น เขาคงขาดใจตายทันทีแน่?"ฟู่จาวหนิงจ้องเขาตาลุกโชนเซียวเหยียนจิ่งเจ้าผู้ชายขยะ ป่านนี้แล้วยังจะมาคุกคามนางอีก!แต่ฟู่จาวหนิงก็รู้ว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นไม่ผิดเลย ผู้เฒ่าฟู่เวลานี้คงทนรับเรื่องแรงๆ ไม่ไหวเซียวเหยียนจิ่งพอเห็นนางไม่โต้กลับ ก็หัวเราะเสียงเย็นขึ้นมา "แล้วก็ที่เจ้าหยามหมิ่นรัชทายาทอย่างข้าวันนี้ ข้าจดจำไว้หมดแล้ว เจ้าอย่าได้หวังว่าจะหาสามีได้อีก"เขาจะคอยดูว่าตระกูลไหนจะก
"จวนอ๋องเซียว?"ชายหนุ่มในรถม้าพอลิ้มรสสามคำนี้ น้ำเสียงก็เปลี่ยนทันควัน "ไสหัวไปไกลๆ"เซียวเหยียนจิ่งตะลึงงันด้วยโทสะ รู้ถึงตัวตนฐานะเขาแล้ว แต่กลับยังไล่ให้เขาไสหัวไป?"ไม่ได้ยินที่ท่านอ๋องพูดหรือ?" ทหารตบลงที่หัวม้า ม้างามก็ยกเท้าหน้าขึ้นทันที ถีบพัดเซียวเหยียนจิ่งออกไปอย่างแรง"อ๊า!"เซียวเหยียนจิ่งถูกม้าถีบจนปลิว ตกกระแทกลงไปที่หน้าหลี่จื่อเหยาพอดี นางรีบร้อนเข้าไปประคองตัวเขา "พี่เซียว!"นางกระโจนตัวขึ้น ถลึงตาไปทางรถม้าด้วยความโกรธ "อ๋องเจวี้ยนอะไรกัน! คุณหนูอย่างข้าไม่เห็นจะเคยได้ยิน ขนาดพี่ชายองค์รัชทายาทก็ยังรักข้ายอมให้ข้ามาตลอด แล้วเจ้าสูงส่งกว่าท่านพี่องค์รัชทายาทหรือ? ข้าจะบอกเจ้านะ บิดาข้าคือหมอเทวดาหลี่!"ทหารที่เดิมทีชักกระบี่ออกมาแล้วพอได้ยินคำว่าหมอเทวดาหลี่ ท่าทางก็หยุดลงทันที เขาหันหน้าไปมองฟู่จาวหนิง ลังเลขึ้นมา"อ๋องเจวี้ยนจะเสียเวลาอีกไม่ได้ โทษของเจ้าคนโง่ที่ไม่เคารพต่อท่านอ๋อง ข้าจะสั่งสอนนางแทนท่านอ๋องเอง"ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นเสียงขรึม กระชากกระบี่ของทหารออกมา สาวเท้าขึ้นหน้าไปทางหลี่จื่อเหยา ชูกระบี่ แสงเย็นวาบ เสียงแควกดังขึ้น หลี่จื่อเหยารู้สึกหน้าอ
แม่เฒ่าประคองมือของนาง ตื่นเต้นจนเสียงสั่นพร่าไปหมด"พระชายา ท่านเดินดีดีหน่อยสิ ไอ๊หยาท่านดูสิ พรมแดงก็ปูมาอยู่หน้าเกี้ยวเจ้าสาวแล้ว ที่ประตูยังมีขบวนสาวรับใช้อยู่อีก แต่งกันด้วยเสื้อผ้าใหม่เอี่ยม นั่นสิเรียกว่าความสุข!""แต่คิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าเวลาเพียงแค่นี้ จวนอ๋องเจวี้ยนก็จัดการไว้หมดแล้ว"ฟู่จาวหนิงถูกประคองเข้าประตู และได้ยินเสียงตื่นเต้นของแม่เฒ่าพูดกับนางมาตลอดทาง ในใจก็ประหลาดใจอย่างมากเช่นกันหลังจากที่อ๋องเจวี้ยนรับปากจะแต่งงานบนถนน ระหว่างทางพวกเขาคงจะสั่งคนให้รีบกลับไปถ่ายทอดคำสั่งที่จวนอ๋องอย่างแน่นอน จากนั้นจึงจัดการตระเตรียมขึ้นมาให้ตายเถอะ นางประเมินอ๋องเจวี้ยนคนนี้ต่ำไปใช่ไหมนะกอดความสงสัยนี้ ฟู่จาวหนิงถูกประคองมาถึงโถงรับแขกกลางสวนดอกไม้แห่งหนึ่ง จากนั้นมีสาวใช้สองคนเดินเข้ามารับช่วงต่อจากยายเฒ่าผู้ดูแลพิธีการ"ข้าน้อยเฝิ่นซิงคารวะพระชายา""ข้าน้อยหงจั๋วคารวะพระชายา"เสียงหญิงสาวทั้งสองใสกังวาน หลังจากคารวะต่อฟู่จาวหนิงแล้วจึงอธิบายสถานการณ์กับนาง"พระชายา เวลานี้โถงพิธีการกับห้องหอกำลังจัดเตรียม ท่านอ๋องต้องไปเปลี่ยนชุดมงคล ข่าวการแต่งงานต้องเข้าวังเพื
"ท่านอ๋อง ท่านเป็นอะไรไหม?"ชิงอีหันไปมองอ๋องเจวี้ยนอย่างตึงเครียด"ลากออกไป" อ๋องเจวี้ยนสีหน้าไร้อารมณ์"ขอรับ!"แม่นมทั้งสองคนยังคิดจะตะโกน แต่ก็ถูกกดจุดขมับแล้วลากออกไปชิงอีจึงหมุนตัว มองไปยังใบหน้าของอ๋องเจวี้ยนผาดหนึ่งอย่างรวดเร็ว และก็มองเห็นด้านหลังอ๋องเจวี้ยนมีฟู่จาวหนิงยื่นหัวออกมา รู้สึกสงสัยอย่างหนักหญิงสาวที่ชิงกระบี่จากมือเขาได้อย่างรวดเร็ว แต่พอเจอกับแม่นมสองคนกลับปอดแหกขึ้นมาหรือ?แต่ว่าพอเขาคิดอีกทีก็ไม่แปลก ถึงอย่างไรนั่นก็เป็นคนของฮองเฮา ฟู่จาวหนิงจะกล้าลงมือกับคนของฮองเฮาได้อย่างไร"ท่านอ๋อง จะกราบไหว้ฟ้าดินไหม" เขาถามขึ้นฟู่จาวหนิงพอได้ยินเขาถามเช่นนี้ก็เดินออกมาจากด้านหลังอ๋องเจวี้ยน "ดังนั้น พวกเจ้าที่แท้ไม่คิดจะกราบไหว้ฟ้าดินหรอกหรือ?"ชิงอีนิ่งงัน แต่สายตาที่มองนางกลับตกตะลึงขึ้นมาเขาคิดว่าฟู่จาวหนิงที่ไม่กรีดร้องเมื่อครู่ เพราะว่านางยังไม่เห็นใบหน้าของท่านอ๋อง แต่ตอนนี้นางกลับมองท่านอ๋องด้วยสีหน้าปกติ เห็นได้ชัดว่ามองเห็นแล้วนางไม่กลัวแผลเป็นของท่านอ๋องหรือ?"กราบไหว้ฟ้าดิน พิธีแต่งงานใหญ่" อ๋องเจวี้ยนมองฟู่จาวหนิงอย่างลึกซึ้ง "เจ้าแน่ใจว่าจะไ
คำพูดของไทเฮาไม่มีใครได้ยินและตอนที่ฮองเฮาเห็นอ๋องเจวี้ยนในชุดมงคลเดินเข้ามา ดวงตาก็มีเงามืดทมึนหลั่งทะลักของชั้นต่ำที่นังแพศยานั่นคลอดออกมา จะแต่งงานมีพระชายาแล้ว!ไม่ ฝันไปเถอะ!พิธีวันนี้ นางจะล่มมันเสีย!ฮองเฮาคิดในใจ ใบหน้าเผยรอยยิ้มออกมา เอียงหน้าไปเอ่ยกับองค์จักรพรรดิเสียงแผ่วเบาว่า "องค์จักรพรรดิมักจะกังวลเรื่องสุขภาพของอ๋องเจวี้ยน ดูเอาเถิด อ๋องเจวี้ยนไม่ใช่ว่าเติบโตมาสูงใหญ่หล่อเหลาหรอกหรือ?"อายุสั้นอะไรกัน ทำไมไม่เห็นว่าจะดูอายุสั้นตรงไหน?องค์จักรพรรดิหัวเราะร่า "แม้จะบอกว่าอายวนจะดูคล้ายกับไท่ซ่างหวงตอนหนุ่มก็เถอะ แต่พอดูแบบนี้พวกเราพี่น้องก็ดูคล้ายกันอยู่พอควรนะ"พอได้ยินองค์จักรพรรดิพูดถึงไท่ซ่างหวง ฮองเฮาก็แค้นจนเข็ดฟันนี่เป็นเพราะเจ้าคนชั้นต่ำนี่หน้าตาคล้ายกับไท่ซ่างหวง ดังนั้นตั้งแต่เล็กจึงถูกไท่ซ่างหวงปกป้องไว้ หลายต่อหลายครั้งก็จัดการเขาไม่ได้เสียทีไท่ซ่างหวงกลัวว่าเขาที่ร่างกายอ่อนแอพอโตมาจะแย่งอะไรกับใครไม่ไหว ก่อนหน้าที่จะตายถึงกับทิ้งโองการไว้ให้แก่เขา รอจนเขาเติบโตกลายเป็นผู้ใหญ่ พอรับพระชายา ก็จะมีคนนำของขวัญชิ้นใหญ่มามอบให้กับเขากระทั่งองค์จั
ลวี่กั่วออกไปอย่างเสียหน้าเจ้าอารามมองเซียวหลันยวน "ก่อนหน้านี้เจ้าไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้อยแบบนี้ ตอนนั้นไม่ใช่บอกว่าจะคอยดูแลอุทยานเขาเฉิงอวิ๋นกับเมืองจื่อซวีแทนเจ้าอุทยานเฉินหรือ?"ตอนนั้นเซียวหลันยวนอายุยังน้อย แต่ตอนที่เจ้าอุทยานเฉินถูกทำลายจนกำลังจะสิ้นใจ เขาเคยบอกว่า ถ้าเขายังมีเรี่ยวแรงล่ะก็ จะช่วยดูแลที่นี่ต่อไป"ท่านลุงเจ้าอุทยานไม่ใช่ปฏิเสธข้าแล้วหรือ?" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้นเจ้าอารามตอนนี้ก็เพิ่งนึกขึ้นได้ ตอนนั้นหลังจากที่เซียวหลันยวนพูดจบ เจ้าอุทยานเฉินยังดิ้นรนพูดมาอีกว่าไม่ต้อง เจ้าลำบากมามากแล้ว"แต่หลังจากเขาพูดจบเจ้าก็ไม่ได้พูดอะไรออกมานี่?" เจ้าอารามเอ่ยขึ้นเซียวหลันยวนไม่ได้ประหม่าเลยสักนิด "ที่ไม่ได้พูด ข้าก็แค่บอกตนเองในใจ ว่าพอถึงเวลาค่อยดูสถานการณ์แล้วกัน เอาตามใจเลย"ตามใจ ตอนนี้เขาก็ทำตามความรู้สึก ปล่อยมือไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวแล้ว ไม่ถือว่าผิดคำพูดกับเจ้าอุทยานเจ้าอารามพูดไม่ออกจนหัวเราะออกมา"ตามใจหรือ? ข่างเป็นการตามใจที่ดีซะจริง"เขาอดเหลือบมองฟู่จาวหนิงไม่ได้สายตานี้มีความหมายลึกซึ้งขึ้นมาแล้วฟู่จาวหนิงเห็นแล้ว "เจ้าอารามคงไม่ได้คิดว่าข้าสอน
"นางน่าจะคิดมากเกินไปน่ะ พวกเจ้าไปเตือนนางหน่อยก็พอแล้ว" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นลวี่กั่วกัดฟันพระชายาอ๋องเจวี้ยนเป็นคนที่ในคับแคบจริงๆ! มิน่าฮูหยินถึงไม่ชอบนางเอาเสียเลย!ถ้าไม่ใช่เพราะนาง ฮูหยินกับอ๋องเจวี้ยนจะมาผิดใจได้อย่างไรกัน?ก่อนหน้านี้อ๋องเจวี้ยนก็เคารพฮูหยินมาตลอด ตอนนี้ดันมาถูกพระชายาอ๋องเจวี้ยนเป่าหูอยู่ข้างหมอน จนมาขีดเส้นคั่นกับฮูหยินไปแล้วอยู่ด้วยกันกับพระชายาแบบนี้ หลังจากนี้อ๋องเจวี้ยนจะไปได้ดีได้อย่างไร?ฟู่จาวหนิงมองลวี่กั่ว และก็ไม่พลาดที่จะเห็นสีหน้าเคียดแค้นเล็กๆ ก่อนที่นางจะก้มหน้าลงเป็นแบบนี้ แล้วยังคิดจะให้นางลงเขาเพื่อไปดูอาการฮูหยินเฉิงอีกรึ?"พระชายา ท่านช่วยหน่อยเถิด ข้าน้อยเป็นแค่สาวใช้คนหนึ่ง พูดอะไรไปฮูหยินก็ไม่ฟัง นับตั้งแต่เจ้าอุทยานตายไป สองคนที่ฮูหยินเชื่อใจมากที่สุดก็คือเจ้าอารามกับอ๋องเจวี้ยน และเชื่อฟังคำพูดของพวกเขาสองคนมากที่สุด จะรบกวนเจ้าอารามหรือว่าท่านอ๋องลงเขาไปดูนางหน่อยได้ไหม?"ลวี่กั่วพูด และคุกเข่าลงตรงหน้าพวกเขา"ขอร้องพระชายาด้วย สงสารฮูหยินของข้าทีเถิด พระชายาต้องเป็นคนที่ใจดีมีเมตตาแน่นอน ฮูหยินของข้าก่อนหน้านี้เข้าใจพระชาย
คนอื่นในเมืองก็พบความผิดปกติอย่างรวดเร็วแน่นอนว่าพวกเขากำลังไล่ตามหาประชาชนพวกนั้นเพื่อคิดบัญชี คนพวกนั้นที่รับเงินห้าสิบตำลึงมาตอนนี้ก็ล้วนเก็บตัวอยู่แต่ในบ้านไม่ออกไปไหนแต่ก็ยังไม่รู้สึกปลอดภัย เพราะยังมีคนมาเคาะประตูบ้าน ด่าท่อไม่หยุด กระทั่งครอบครัวของพวกเขาก็ยังไม่ให้อภัยพวกเขาด้วยและสองวันนี้ประชาชนที่ไปตรวจโรคซื้อยากับหมอเฉียวทางนั้นก็ถูแจ้งว่า หลังจากนี้มาตรวจโรคและซื้อา ราคาจะเพิ่มขึ้นมาแล้วหมอเฉียวบอกกับพวกเขาด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ว่า: พวกเจ้าคิดว่าค่ารักษาของข้าถูกขนาดนั้นเลยหรือ? ถ้าเก็บแค่นั้นข้าก็อดตายไปนานแล้ว หลังจากนี้ถ้าไม่มีอ๋องเจวี้ยนชดเชยให้ เช่นนั้นเขาก็ควรเก็บด้วยราคาปกติแล้วคนป่วยที่ไปซื้อยาวันนั้นจ่ายเงินมากกว่าแต่ก่อนครึ่งหนึ่งหลังจากกลับไปก็ด่าคนพวกนั้นอย่างสาดเสียเทเสียเพียงไม่นาน ก็มีคนรู้ว่าสาเหตุของเรื่องนี้คือฮูหยินเฉิง จึงมีพวกหญิงสาวคุณนายที่สมัยก่อนผูกมิตรกับฮูหยินเฉิงไว้วิ่งแจ้นไปอุทยานเขาเฉิงอวิ๋นหานางฮูหยินเฉิงเพิ่งจะรับมือกับหลานชายสองคนของสามีจบ ก็ถูกคนพวกนี้มาพูดจาเสียดสีอีก โกรธจัดล้มป่วยไปทันทีลวี่กั่วขึ้นเขามาหาฟู่จาวหนิง บอกว่าฮ
"ให้เจ้าลงโทษข้าน่ะสิ""ไปเรียนลูกไม้เลี่ยนๆ แบบนี้มาตั้งแต่เมื่อไรกัน!" ฟู่จาวหนิงเคืองๆอาหารเย็นส่งเข้ามา วางลงบนโต๊ะสืออีเข้าามาแจ้งเรื่องหนึ่ง"ตอนที่ข้าเข้าไปยกอาหารในครัวเจอกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นด้วย องค์หญิงใหญ่กำลังทำงานอยู่ในครัวขอรับ""นางกำลังทำกับข้าวหรือ? นางทำเป็นด้วย?" ฟู่จาวหนิงรู้สึกประหลาดใจหน่อยๆสืออีหยิบของว่างจานหนึ่งออกมาจากตะกร้าอาหาร วางลงตรงหน้านาง"พระชายา นี่คือของว่างที่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นทำขอรับ บอกว่าชื่อขนมดลชัยอะไรสักอย่าง เป็นของว่างของประชาชนทางต้าชื่อ เหมือนจะบอกว่าแม่นมที่เคยดูแลนางมาคนหนึ่งสมัยก่อนสอนนางทำ องค์หญิงใหญ่บอกให้นำมาให้ท่านลองชิมดูขอรับ""ให้ข้าชิมหรือ?" ฟู่จาวหนิงเลิกคิ้ว จากนั้นก็มองเซียวหลันยวนผาดหนึ่งไม่ใช่จะเอามาให้เซียวหลันยวนชิมหรือ?"หนิงหนิง เจ้ามองข้าแบบนี้ทำไมกัน? ข้าไม่ได้อะไรกับนางเลยนะ" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้น "แต่ว่า ของที่ให้เจ้ากิน ตรวจสอบไว้ก่อนเป็นการดี"ไม่ใช่ว่านางไม่เชื่อใจองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น แต่แม่นางคนนั้นไม่ค่อยฉลาดเอาเลยจริงๆฟู่จาวหนิงมองของว่างที่ไม่ค่อยจะประณีตเท่าไรจานนั้น จินตนาการถึงภาพองค์หญิ
"ฮูหยินอู๋คนนั้น เหมือนจะเคยบอกว่านางชื่ออิงถัง""ชื่ออะไรก็ช่างเถอะ"เซียวหลันยวนไม่ได้สนใจกับชื่อของนางเลย เขาแค่รู้ว่าเป็นคนนั้นก็พอแล้ว"ได้ยินเจี๋ยหลี่คนนั้นบอกมาว่า เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับฮูหยินอู๋ไม่มากนัก"ฟู่จาวหนิงนึกถึงคำพูดที่ฮูหยินอู๋พูดกับนางไว้ก่อนออกเดินทาง ก็เหมือนมีท่าทางจะผูกมิตรอยู่จริงๆคิดจะดึงนางเป็นพวก ร่วมมือกับนางจริงหรือ?เซียวหลันยวนเหล่มองนาง ยื่นมือมาจับคางนางโยกเบาๆ "เจ้าคงไม่ได้หวั่นไหว แล้วอยากจะไปทำอะไรกับฮูหยินอู๋จริงๆ หรอกกระมัง?"ฟู่จาวหนิงตบมือของเขาออก"ท่านคิดอะไรน่ะ ถ้าข้าคิดจะทำอะไรจริงๆ ไม่ต้องร่วมมือกับนางก็ได้นี่ แค่นางเดิมทีเป็นคนของลัทธิเทพทำลายล้าง ข้าก็ไม่มีทางผูกมิตรกับนางอยู่แล้ว"นางไม่สนว่าฮูหยินอู๋ตอนนี้จะออกจากลัทธิเทพทำลายล้างแล้วจริงหรือไม่ ถึงอย่างไร ก่อนหน้านี้ก็เป็นคนของลัทธิเทพทำลายล้างจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้น ฟู่จิ้นเชินเองก็ยังเคยบอกว่า ฮูหยินอู๋ คยต้องสงสัยว่าเป็นคนที่ฆ่าสามีด้วยนางไม่มีความรู้สึกดีดีให้กับลัทธิเทพทำลายล้างเลย แล้วคนที่มาจากลัทธิเทพทำลายล้าง นางจะไปร่วมมือด้วยได้อย่างไรกัน?"แล้วเจ้าเชื่อไหมว่าเรื่อ
ไป๋หู่ตอบว่า "เรียนท่านอ๋อง นี่เป็นของขวัญพบหน้าที่เจ้าอารามส่งให้คุณหนูขอรับ"เซียวหลันยวนเห็นน้ำที่ใส่อยู่ด้านในแล้ว เขาขมวดคิ้วแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรมาก ยกมือฟู่จาวหนิงขึ้นมา "ขึ้นไปกันก่อนเถอะ""เจ้าอารามยังอยู่ด้านใน ท่านไม่เข้าไปหรือ?" ฟู่จาวหนิงถาม"ไม่เข้าไปแล้ว"เซียวหลันยวนกลับรู้สึกว่าตนเองกับเจ้าอารามไม่มีอะไรต้องคุยกันแล้ว เรื่องมากมาย พวกเขาคุยกันมาตั้งหลายปีแล้ว เขากับเจ้าอารามเองก็ไม่ใช่คนที่พูดมากนัก ทั้งสองคนพออยู่ด้วยกันมีอะไรก็พูดออกมา พูดจบก็นิ่งเงียบไป"พระชายาเดินเหินระมัดระวังด้วย"ตอนที่พวกเขาจะขึ้นไป ซางจื่อก็คารวะให้กับฟู่จาวหนิง จากนั้นก็ยืนส่งพวกเขาด้วยสายตาฟู่จาวหนิงหันกลับไปเหลือบมองซางจื่อยังยืนอยู่ที่นั่น เห็นได้ชัดว่ากำลังรอเจ้าอารามออกมาแต่เจ้าอารามก็ยังไม่ออกมา อยู่ในถ้ำภูเขาทำอะไรอยู่นะ?อยู่ในนั้นก็ไม่มีของกินด้วยนี่"เจ้าอารามพูดอะไรกับเจ้าหรือ?" เซียวหลันยวนถาม"ก็แค่มาคุยโวกับข้าเรื่องดูแลตัวเองน่ะ" ฟู่จาวหนิงตอบ "บอกว่าเขาไม่เคยแก่อีกเลยตั้งแต่อายุยี่สิบสี่""เริ่มตั้งแต่ตอนไหนก็ยังเอามาบอกเจ้าหรือ?" เซียวหลันยวนประหลาดใจหน่อยๆ"เร
"เป้าหมายของข้าหรือ..."เจ้าอารามพูดไปครึ่งประโยคแล้วตอนท้ายลากเสียงยาว เหมือนตัวเขากำลังสับสนอยู่บ้างแต่ตอนนี้ฟู่จาวหนิงมองออก ว่าความสับสนนี้ของเขาเป็นของปลอม ในใจเขาอันที่จริงแจ่มชัดยิ่งกว่าใครๆนางมองเขาไมม่ออกแต่กลับรู้สึกว่า เขามองคนทุกคนออกจนปรุโปร่ง"บางที ข้าคงแค่อยากจะรักษาสภาพตอนนี้ของใต้หล้าเอาไว้ แบบนี้ยังไม่ค่อยสงบสุขนัก แต่ยังถือว่ามั่นคงอยู่" เจ้าอารามเอ่ยขึ้น"ข้ากับอายวนอยู่ด้วยกัน จะส่งผลกระทบกับสถานการณ์ใต้หล้าจริงหรือ? ถ้าเช่นนั้นเจ้าก็คงจะให้เกียรติพวกเรามาเกินไปแล้วกระมัง""เป็นเจ้าดูถูกตัวเองต่างหาก"เจ้าอารามยังคิดจะพูดอะไรต่อ แต่ด้านนอกก็มีเสียงเซียวหลันยวนลอดเข้ามา"หนิงหนิง""อายวนกลับมาแล้ว" เจ้าอารามไม่ได้พูดต่อ เขามองกระถางน้ำนั่น "เจ้านี่เจ้าจะเก็บไว้ไหม?""ไม่รับก็เสียของสิ" ฟู่จาวหนิงไม่มีลังเลไม่ว่าในใจเจ้าอารามจะคิดอะไร ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อความสนใจของนางในเรื่องเหล่านี้ ไว้นางกลับไปค่อเข้าไปตรวจสอบในห้องเภสัช ลองดูว่าใช่น้ำใสหรือไม่ แล้วถ้าด้านในส่วนประกอบอัศจรรย์อะไรที่ชะลอความอ่อนเยาว์อยู่จริงไหมถ้ามีอยู่จริงๆ ล่ะก็ นางเองก็อยากจ
จู่ๆ เขาก็พูดแบบนี้ออกมา ทำเอาฟู่จาวหนิงตั้งตัวไม่ทันอันที่จริงนางเองก็เคยคิดปัญหานี้อยู่ทำไมทั้งๆ ที่ใบหน้ารักษาหายแล้ว มีใบหน้างดงามเสียขนาดนั้น แต่เซียวหลันยวนกลับยังสวมหน้ากากไว้ตลอด?สวมหน้ากากก็ไม่ได้สะดวกเสียหน่อยยิ่งไปกว่านั้น ใบหน้าหล่อเหลานั่นปิดบังเอาไว้เสียของจะแย่แต่เซียวหลันยวนก็ไม่เคยพูดถึงปัญหานี้กับนาง บางครั้งนางถามไป เขาก็ทำแค่ยิ้มๆหรือว่าเจ้าอารามจะรู้ว่าเพราะอะไร?"เพราะว่า ใบหน้าของเขา มันดูคล้ายคลังกับจักรพรรดินีของตงฉิงสมัยยังสาวน่ะสิ" เจ้าอารามบอกกับนางฟู่จาวหนิงตกตะลึงนางยังไม่เคยคิดไปถึงด้านนี้เลยแต่ว่าเจ้าอารามพูดอกมาแบบนี้ นางก็กระจ่างขึ้นมาทันทีนี่เหมือนจะเป็นความเป็นไปได้มากที่สุดอยู่ก็เหมือนกับเรื่องสกุลของเจ้าอาราม ถ้าลือออกไปจะดึงดูดความสนใจพวกคนเจตนาไม่ดี ใบหน้าเซียวหลันยวนถ้าเปิดเผยออกไป ก็อาจจะดึงดูดความสนใจคนเหล่านั้นที่กำลังตามหาตงฉิงอยู่ด้วยกระมัง?จักรพรรดินีตงฉิงแต่ก่อนเคยไปเป็นทูตที่ต้าชื่อ รับประกันได้ยากว่าคนที่เคยเห็นนางในอดีตจะยังมีชีวิตรอดกันอยู่ไหมอย่างลัทธิเทพทำลายล้าง ก็ค้นหาตงฉิงมาโดยตลอดเช่นกันคนเหล่านั้นถ้
"ตอนนั้นในเขาชิงถงเกิดการขัดแย้งภายใน อาจารย์ของเจ้าคนนั้น โอ้จริงด้วย ลุงของถังอู๋เจวี้ยน ไม่ใช่ว่าโมโหจนออกจากเขาชิงถงหรือ? เพราะตระกูลเขาชิงถงอีกสายหนึ่งของพวกเขาทำเรื่องผิดมา แต่เขาชิงถงกลับปล่อยพวกเขาไปเพราะจะไม่สังหารเครือญาติ"ฟู่จาวหนิงตะลึงงันนางคิดไม่ถึงเลย ว่าพูดไปพูดมา ก็ยังวนมาถึงเรื่องเขาชิงถงจนได้นี่ไม่ถือเป็นความลับของเขาชิงถงหรือ? แล้วทำไมเจ้าอารามถึงรู้ได้?"อาจารย์ลุงของเจ้าคนนั้นรู้สึกว่าตระกูลปกป้องคนชั่ว ไม่แยกแยะผิดชอบชั่วดี ดังนั้นจึงออกจากเขาชิงถง ส่วนตระกูลถังที่ทำผิดสายนั้น ก็ถูกขับออกจากเขาชิงถงไปด้วยเช่นกัน สายนั้นมีความเกี่ยวข้องกับราชวงศ์ตงฉิงอยู่ ข้าคิดว่าพวกเขาคิดจะค้นหาตงฉิงอยู่ตลอด และการจะหาตงฉิงให้พบก็มีอยู่สองวิธี หนึ่งคือหาสมบัติแคว้นชิ้นหนึ่งของตงฉิงให้พบ ของสิ่งนั้นสามารถนำทางไปยังวังจักรรพรรดิตงฉิงได้ และอาจจะเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนกลไกใหญ่ของตงฉิง""และอีกวิธีหนึ่ง คือหาคนของตระกูลซืออวี๋ให้เจอ เพราะตระกูลซืออวี่มีการสืบทอดพรสวรรค์ สามารถทำนายตำแหน่งของตงฉิงออกมาได้"เจ้าอารามพูถึงจุดนี้ก็หยุดลงมา มองฟู่จาวหนิงด้วยสายตาลึกซึ้งคว