Share

ตอนที่9. หลับตาลง

Author: Bunmeebooks
last update Last Updated: 2024-11-27 22:33:57

เขาหลับตาลง ยากนักที่จะตัดใจจากโฉมสะคราญล่มเมืองเช่นนี้ นางเปรียบเสมือนน้ำผึ้งในแดนสวรรค์ยิ่งกินก็ยิ่งหวาน ยิ่งชวนให้ติดตรึงในรสนั้นจนยากจะตัดใจ

ในขณะที่เขาตกอยู่ในห้วงคำนึงของตน ก็รู้สึกถึงสัมผัสอุ่นนุ่มประทับลงที่ริมฝีปากตน เขาจึงรีบลืมตาขึ้นแล้วก็พบกับใบหน้างดงามอยู่ห่างจากเขาเพียงแค่ 1 ชุ่น เขาร้องออกมาคำหนึ่ง แล้วขยับตัวหมายจะถอยหลังตามสัญชาตญาณ

“อ๊ะ !”

แต่ร่างสวยกลับโอบรัดเขาไว้อย่างรวดเร็ว แล้วทิ้งน้ำหนักทั้งหมดลงบนเตียง บุรุษที่ถูกเนื้อนิ่มของนางเบียดเสียดร่างกายก็กลับรู้สึกปั่นป่วนขึ้นมาฉับพลัน เป็นผลให้เขาไม่ทันระวังตัว จึงถูกดึงให้ล้มลงไปกับเตียงพร้อมนาง

ตุบ !

“เบา ๆ อย่าส่งเสียง.... ท่านอยากให้พวกนางกำนัลในตำหนักเข้ามาเห็นเราสองคนในท่าทีแบบนี้รึ”

เสียงกังวานใสของดรุณีวัยแรกแย้มนั้น ช่างชวนให้ลุ่มหลง

คิ้วดาบที่พาดเฉียงบนใบหน้าคมคายอาจหาญของหัวหน้าองครักษ์ย่นเข้าหากันในแสงสลัว เมื่อวานเขาประหลาดใจที่นางทำตัวคล้ายคนไม่รู้จักกัน แต่คืนนี้ฟางเหรินกลับทำให้เขาประหลาดใจยิ่งกว่า จากดรุณีน้อยหวานหยดย้อยคล้ายกับลูกแมวช่างออดอ้อน กลายเป็นปีศาจจิ้งจอกแสนเร่าร้อนไปได้อย่างไร !

“ฟางเหริน เจ้าไม่เคยเรียกข้าว่า... ท่าน มาก่อน”

เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงนั้นแฝงความสงสัยอยู่สามส่วน ร่างกายของเขาก็เหมือนจะต่อต้านการโอบกอดจากร่างนุ่มนิ่มเล็กน้อย

“ท่านใส่ใจไปไยกับคำเรียกขาน อย่างไรข้าก็เป็นของท่านแล้ว”

น้ำเสียงหวานปานจะคั้นออกมาเป็นน้ำตาลได้ของนางออดอ้อน พร้อมกับวางมือเรียวลูบไล้ไปตามแผงอกกำยำของเขา นางรู้สึกว่ากล้ามเนื้อหน้าอกขององครักษ์วังหลวงช่างแน่นดียิ่งนัก เหตุใดหลายปีที่ผ่านมานางจึงทนรับใช้ฮ่องเต้ที่มีแต่เนื้อนิ่ม ๆ แม้จะไม่อ้วนเผละแต่ก็ไม่แน่นน่ากัดเหมือนบุรุษวัยหนุ่มผู้นี้

“ฟางเหริน... จะ เจ้าปล่อยข้าก่อนได้หรือไม่ ข้ามีเรื่องอยากถามเจ้า”

เมื่อนางรุกรานกายเขามากขึ้น เขาก็คร้านจะใส่ใจเรื่องคำเรียกขาน เพราะแม้แต่เสียงของเขาที่เปล่งออกมาก็ไม่อาจควบคุมได้ เขารู้สึกว่าเสียงของเขาสั่นพร่าเหลือเกิน

“ท่านว่ามาสิ ข้ามีเรื่องจะรบกวนท่านให้ช่วยเช่นกัน”

นางเอ่ยเสียงกระเส่า พร้อมกับวาดแขนเรียวขึ้นโอบรอบคอเขา แล้วบดเบียดเนื้ออุ่นนุ่มเข้าหาเขาอย่างยั่วยวน  ทำเอาเลือดภายในกายเขาร้อนฉ่าขึ้นทั่วทั้งตัว ก่อนที่เขาจะควบคุมตนเองไม่ได้จึงรีบเอ่ยปากว่า

“ลูกในท้องของเจ้าที่เสียไป ใช่ลูกของเราหรือไม่”

เมื่อได้ยินเขาถามเช่นนั้น เฟิ่งอี๋ชะงักไปเพราะไม่คาดคิดว่าฟางเหรินจะปิดบังเรื่องที่นางตั้งครรภ์ทั้งกับฮ่องเต้ และกับชู้ด้วยเช่นกัน

เดิมทีนางเพียงแค่จะคิดใช้เรือนร่างตนเองเพื่อแลกเปลี่ยนให้ชู้ผู้นี้ทำอะไรบางอย่างให้ แต่เมื่อเขาสนใจเรื่องลูก และกังวลเรื่องของฟางเหริน งั้นเรื่องที่นางจะไหว้วานให้เขาไปทำต้องสำเร็จแน่ ๆ นึกไม่ถึงว่าเรื่องจะง่ายดายเพียงนี้ !

“ท่านพี่... ละ ลูกของเราถูกคนใจร้ายลอบวางยาจนตายไปแล้ว”

เฟิ่งอี๋เปลี่ยนท่าทีเป็นเศร้าโศก แล้วบีบน้ำตาออกมา

เกอหลางเมื่อได้ยินเช่นนั้น ก็รู้สึกราวกับว่าร่วงหล่นลงมาจากหน้าผากระแทกลงสู่ผสุธาจนเจ็บร้าวไปทั้งแผ่นอก

“มันผู้ใดที่ฆ่าลูกข้า”

เขาแค่นเสียงคำรามต่ำ ดวงตามีประกายโทสะจนแทบจะควบคุมไม่ได้

“เฟินหนิงกุ้ยเหริน พี่สาวของข้า... ท่านพี่ต้องแก้แค้นให้ข้า และลูกของเรานะ”

นางเอ่ยทั้งน้ำตา พร้อมกับยื่นมือขึ้นมาคล้ายกับจะวิ่งวอน ร่างกายของบุรุษหนุ่มถึงกับสั่นสะท้านไปกับความสูญเสียของเขาและนาง

เขาคว้าจับมือนางเอาไว้แน่น แล้ววางมันไว้เหนือศีรษะ จากนั้นก็โน้มตัวลงประทับริมฝีปากลงจูบซับน้ำตาที่ข้างแก้มเนียนนุ่มทั้งซ้ายและขวา

จากนั้น ก็จุมพิตลงที่กลีบปากบางราวกับบุปผชาติสีสด เขากดปากตนเองลงไปลึกอย่างดูดดื่มโหยหา อีกทั้งยังผสมปนเปไปด้วยการปลอบประโลม

เฟิ่งอี๋เผยอริมฝีปากรับจูบ แล้วขบริมฝีปากเขาอย่างยั่วเย้า อีกทั้งมือเรียวที่ยังเป็นอิสระอีกข้างก็เลื่อนลงไปแกะสายรัดเอวของเขาออกอย่างคล่องแคล่ว

เกอหลางคำรามในลำคอครางหนึ่ง เมื่อไฟสวาทเผาไหม้เขาจนไม่อาจควบคุมได้แล้ว !

หัวหน้าองครักษ์หนุ่ม ปล่อยมือนาง แล้วลูบไล้สํารวจเรือนร่างที่แสนคะนึงหา ในขณะที่สอดแทรกปลายลิ้นร้อนครวญความหอมหวานดุจน้ำผึ้งจากเรียวลิ้นเล็ก เขาบดจูบหนักหน่วงจวนเจียนจะหมดอากาศหายใจจึงยอมละปากออก

“อ่า... ฟางเหริน เจ้ารู้หรือไม่ หลายวันมานี้ข้ากังวลเรื่องของเจ้าจนมิอาจข่มตาหลับลงได้”

เขาส่งเสียงแหบพร่า สายตาอันเร่าร้อนของเขาจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าสวยหยาดเยิ้ม การปลุกปั่นอัคคีสวาทเมื่อครู่เผาผลาญใบหน้านางจนแดงก่ำ ริมฝีปากเผยอขึ้นเล็ก ๆ ดวงตาฉ่ำหวานไปด้วยความปรารถนา

“คะนึงหาข้ามากเพียงใด ก็โปรดรักข้าให้มากยิ่งกว่า”

เฟิ่งอี๋เอ่ยเสียงกระเส่าแว่วหวาน เมื่อสายรัดเอวของเขาถูกนางปลดออกแล้ว สาบเสื้อก็เผยอออกให้เห็นแผงหน้าอกที่มีมัดกล้ามเนื้อเป็นรูปร่างอย่างชัดเจน จนอดไม่ได้ที่จะเอื้อมสอดเข้าไปลูบไล้ผิวเนื้อแข็งแกร่ง

“ฟางเหริน......”

เกอหลางเรียกชื่อนางผะแผ่วราวคนละเมอ จากนั้นก็ประทับริมฝีปากรวกร้อนไปตามผิวเนื้อเนียนละเอียดของนาง ทุกครั้งที่ประทับจูบลง มือแกร่งก็ค่อย ๆ เปลื้องอาภรณ์ของนางออก เขาลากลิ้นไล้เลียแล้วจูบพรมไปตามลำคอขาวระหง ลาดไหล่ขาวผ่อง จากนั้นออกแรงขบเม้มเบาๆ

“อือ.....”

นางครางออกมาอย่างสุขซ่าน  

ในขณะที่ปากร้ายกำลังพรมจูบไปทั่วราวกับคนเมามัว ฝ่ามือสองข้างของเขาก็บีบเฟ้นเคล้าคลึงภูเขาเนื้อนุ่มสองลูกตรงกลางอกของนาง เขาใช้นิ้วหัวแม่มือกดคลึงยอดภูเขาเนื้อสีแดงระเรื่อ จนนางเปล่งเสียงครางออกมาอีกหน

อาชาไนยผู้เหี้ยมหาญรับรู้ถึงยอดปทุมถันรัดรึงแข็งขึงสู้ฝ่ามือ จึงรีบสยบความเคร่งครัดของเต้าอวบ ๆ โดยการโฉบปากลงดูดกลืนกินความหวานของยอดภูเขานั้นอย่างว่องไว

“อ่า....”

เฟิ่งอี๋เปล่งเสียงครางออกมา เรือนร่างในวัยสาวนี้ช่างตอบสนองต่อสัมผัสวาบหวามของบุรุษหนุ่มไวนัก ทำเอานางทรมานไปทั้งกายจนบิดเร่าขึ้นโดยไม่รู้ตัว เมื่อถูกเขาครอบปากร้อนจัดลงที่ปลายยอดถัน แล้วตวัดปลายลิ้นร้อนหยอกล้อกับหัวนมที่บีบรัดจนชูชัน

ในขณะที่ปากดูกลืนความหอมหวานราวกับทารกหิวโหย ภูเขาเนื้อนุ่มอีกข้างก็ถูกฝ่ามือร้อนฉ่ากอบกุมเอาไว้เต็มฝ่ามือ ทุกครั้งที่องครักษ์หนุ่มดูดดึงปลายถัน แผ่นหลังของนางก็จะหยัดขึ้นมา พร้อมกับเสียงครวญครางครั้งแล้วครั้งเล่า

เมื่อดื่มด่ำกับภูเขาเนื้อนุ่มจนสาแก่ใจแล้ว เขาก็ผละปากออกแล้วพรมจูบเลื่อนต่ำลงสู่กายเบื้องล่าง ค่อยประทับริมฝีปากร้อนฉ่าไปตามเรือนร่างสวยอย่างละเมียด ค่อย ๆ ลิ้มลองรสชาติหอมหวานจากเนื้อสาวทั่วทุกแห่ง จูบ เม้ม ลากไล้เลียไปตามผิวราบรื่น

“หืม”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ฮองเฮา ขย่มบัลลังก์   ตอนที่24. จบ

    เฟิ่งอี๋เหยียดยิ้มที่มุมปาก แล้วกรีดนิ้วหยิบน้ำชาขึ้นจิบอย่างสำราญใจ“ใต้เท้าเกอหลาง หัวหน้าองครักษ์ขอเข้าเฝ้า”เสียงขันทีประจำตำหนักเมฆาสวรรค์ร้องประกาศขึ้นตามระเบียบการขอเข้าเฝ้าฮ่องเต้“เข้ามาได้”เฟิ่งอี๋เอ่ยเสียงเรียบเป็นการอนุญาต ขันทีจึงเดินนำขุนนางผู้นั้นเข้ามา เมื่อฮ่องเต้หญิงโบกมือขึ้นหนึ่งครั้ง นางกำนัลและขันทีก็หายออกไปจากห้องรับรองอย่างรวดเร็ว“ถวายพระพรฝ่าบาท ของจงทรงพระเจริญ หมื่นปี หมื่นปี หมื่นหมื่นปี”เกอหลางคุกเข่าลงถวายความเคารพต่อฮ่องเต้พระองค์ใหม่ ซึ่งเคยเป็นสตรีอันเป็นที่รักยิ่งของเขา เขาจึงรู้สึกกระอักกระอ่วนใจปนเปกับความคิดสับสนบางประการ“ลุกขึ้นเถอะ ไม่ตั้งมากพิธี”เฟิ่งอี๋บอก ดวงตาหงส์คมกริบจับจ้องบุรุษตรงหน้าอย่างใคร่ครวญ ความรักที่มีต่อฟางเหรินของบุรุษผู้นี้ทำให้แผนการแก้แค้นทุกอย่างราบรื่น แต่นางก็ไม่อาจแน่ใจได้ว่าความรักที่มีมากล้นนี้จะหวนกลับมาทำร้ายนางหรือไม่ หากเขารู้ว่าแท้จริงแล้ววิญญาณที่อยู่ในร่างนี้ไม่ใช่ฟางเหรินคนรักของเขา !“ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะ”เกอหลางลุกขึ้น แล้วมองสบพระเนตรฮ่องเต้หญิง ฉับพลันนั้นเขารู้สึกว่าไม่เคยรู้จักสตรีตรงหน้าแม้แต่น้อย ด

  • ฮองเฮา ขย่มบัลลังก์   ตอนที่23. ยั่วเย้า

    เฉินฉู่หยัดสะโพกขึ้นรับกับปากน้อยอย่างซ่านกระสัน สองมือสอดเข้าเรือนผมสีดำนุ่มสลวยของนาง แล้วเคล้าคลึงอย่างสุขซ่านเฟิ่งอี๋ใช้เรียวลิ้นเล็กตวัดไล้เลียที่ส่วนหัวมังกรบากใหญ่ลิ้มรสหวานผสมกับรสเค็มปะแล่ม จากนั้นก็ปาดเลียไปทั่วแก่นลำ“อืม... ฮองเฮา... ฮองเฮา ข้าจะทนไม่ไหวแล้ว”เฉินฉู่ไม่อาจทนการยั่วเย้าได้อีกไป เขาหยัดกายขึ้นแล้วกดนางลงกับเตียงเป็นฝ่ายขึ้นคร่อมนางไว้ จากนั้นก็จ้วงแทงแก่นมังกรใหญ่เข้าสู่กายนางอย่างเร็วรวด“อ๊าซ์ !”เฟิ่งอี๋อุทานครางออกมาลั่น แก่นมังกรร้อนฉ่ามุดเข้าสู่ภายในกายของนางจนสุดลำ“ฮองเฮา...ข้ารักเจ้า... ข้ารักเจ้า”อ๋องเฉิงฉู่พร่ำไม่หยุดปาก ขณะที่พรมจูบไปตามใบหน้างดงามเต็มไปด้วยเสน่ห์เร้าใจ จากนั้นก็ก้มลงบดจูบนางอย่างเร่าร้อน ใช้ปลายลิ้นร้อนตวัดเกี่ยวพันกับลิ้นเล็กเพื่อดูดดื่มความหวานล้ำ เมื่อถอนจูบออกเขาก็ขบเม้มกลีบปากล่างของนางอย่างหื่นกระหาย“อ่า”เฟิ่งอี๋ยกมือขึ้นลูบไล้ไปตามแผ่นหลังแกร่ง เร่งเร้าให้เขาขยับสะโพกอัดแก่นมังกรเข้าออกร่างอ๋องเฉิงฉู่สั่นสะท้านตอบรับ ลมหายใจกระชั้น เขาจึงขบนางเบา ๆ ที่บ่าอย่างลุ่มหลง แล้วหยัดตัวขึ้น สองมือจับเอวนางไว้แล้วเริ่มกระแทกแ

  • ฮองเฮา ขย่มบัลลังก์   ตอนที่22. ข้ารักเจ้า

    อ๋องเฉินฉู่เอ่ยกับนาง แต่กลับก้มหน้าลง มิอาจมองนางตรง ๆ ได้ เพราะอาภรณ์ที่นางสวมใส่บางนัก จนมองเห็นโครงร่างของทรวงอกอวบอิ่มเป็นดอกบัวตูมดอกใหญ่ ปลายยอดดอกพุ่งชี้มาทางเขา จนรู้สึกว่าห้องนี้ช่างร้อนเกินไปแล้ว“ท่านอ๋อง.... บัดนี้ฮ่องเต้ทรงประชวรมิอาจออกว่าราชการได้ งานในราชสำนักหากปล่อยไว้เนิ่นนานไม่ดีแน่ เรามองไม่เห็นผู้ใดแล้ว.... นอกจากท่าน... ท่านเท่านั้นที่จะบริหารบ้านเมืองต่อไปได้”เสียงของนางหวานล้ำอีกทั้งยังเจื่อความขมขื่นในใจ ต่อให้ผู้ฟังเป็นบุรุษใจหินเพียบงใด ก็อ่อนยวบลงราวกับขี้ผึ้งลนไฟเมื่อได้ยินนางเอ่ยเช่นนั้นสายตาของอ๋องเฉินฉู่ก็แปรเปลี่ยนเป็นกรุ้มกริ่มขึ้นมา ต่อให้นางเป็นแม่ของแผ่นดิน แต่ดรุณีน้อยก็ยังเป็นบุปผาแรกแย้มอยู่วันยังค่ำ เมื่อเสาหลักที่ยึดเกาะพังทลายลง มีหรือนางจะไม่หันเข้าหาเสาต้นใหม่เป็นที่พักพิง“ขอบพระทัยฮองเฮาที่ทรงเชื่อมั่นในตัวข้า”เขาเอ่ยอย่างลำพองใจเป็นที่สุด นับตั้งแต่อดีตเชื้อพระวงศ์ก็มิอาจหลีกเลี่ยงการเข่นฆ่าพี่น้องเพื่อชิงบัลลังก์ แต่สำหรับเขาแล้วรู้สึกว่าสวรรค์ช่างเข้าข้างยิ่งนัก เลือดไม่เปื้อนมือเขาสักหยด แต่บัลลังก์กลับถูกถวายใส่พานให้เขาเสียแล้ว

  • ฮองเฮา ขย่มบัลลังก์   ตอนที่21. ว่าอย่างไร

    “ว่าอย่างไรนะ”ฮ่องไทเฮาแทบจะล้มลงกับพื้น นางกำนัลสองคนจึงรีบเข้ามาพยุงไว้ ผู้ที่ได้ยินถ้อยคำนั้นถึงกับอุทานออกมาอย่างพร้อมเพรียง – ฮ่องเต้มีชีวิตอยู่ราวกับคนตายหรือเนี่ย –ส่วนหมอหลวงนั้นมิอาจตอบคำถามได้อีกต่อไปทรุดตัวลงแล้วโขกศีรษะลงกับพื้นราวกับคนเสียสติเพื่อร้องขอชีวิต“โปรดไว้ชีวิตหม่อมฉันด้วย”“เอามันไปตัดหัว !”ฮองไทเฮาสั่งลงอาญาทั้งน้ำตาเฉินเฉิงฮ่องเต้ได้ยิน และเห็นทุกอย่างผ่านห่างตา เห็นว่าหมอหลวงถูกทหารลากออกไปได้รับโทษทัณฑ์แทนฮองเฮา แต่เขามิอาจเอ่ยวาจาร้องขอความเป็นธรรมแทนหมอหลวงได้ แม้กระทั่งขยับตัวก็มิอาจทำได้ ทำได้เพียงปล่อยเรื่องทั้งหมดให้เป็นไป พระองค์เสียใจอย่างที่สุดที่เฟิ่งอี๋ไม่ฆ่าเขาให้ตาย เพราะถ้าเขาตายก็ไม่ต้องรู้สึกเจ็บปวดและสิ้นหวังเหมือนตอนนี้ !2 วันต่อมาเฟิ่งอี๋ในร่างของฟางเหรินฮองเฮากำลังกรีดนิ้วหยิบช้อนตักน้ำแกงป้อนฮ่องเต้ซึ่งนอนอยู่บนแท่นบรรทม น้ำแกงสีทองไหลเข้าพระโอษฐ์ได้เพียงหนึ่งส่วน ส่วนที่เหลือล้วนถูกเขาใช้ลมขับพ่นออกมาจนเลอะไปทั้งหน้าและปากของตนเองเฟิ่งอี๋ไม่เพียงแต่ไม่โมโหกลับยังยิ้มเย็นให้คนที่ทำตัวเหมือนเด็กเอาแต่ใจไม่ยอมกลืนอาหารลงไปดี ๆ น

  • ฮองเฮา ขย่มบัลลังก์   ตอนที่20. รายงาน

    ตั้งแต่สตรีนางนี้เหยียบย่างเข้าสู่วังหลวง ล้วนมีเรื่องร้ายให้พระองค์ต้องกังวลพระทัยบ่อย ๆ พระองค์จึงไม่โปรดนางเท่าใดนัก ยิ่งวันนี้โอรสของพระองค์ถึงกับประชวรในขณะที่ฟางเหรินเป็นผู้ปรนนิบัติ พระองค์จึงชิงชังนางเข้าไส้ เพราะปักพระทัยเชื่อว่า สตรีนางนี้เป็นกาลกิณีที่นำเภทภัยมาสู่บัลลังก์ !ฮองไทเฮาตวัดสายตาคืนกลับมา ด้วยเคยเป็นพญาหงส์มานานจึงซ่อนอารมณ์ความรู้สึกทุกอย่างไว้ภายใต้หน้ากากยับย่นที่เต็มไปด้วยริ้วรอยแห่งวัย พระองค์รอให้หมอหลวงตรวจพระวรกายขององค์ฮ่องเต้จนเรียบร้อยแล้วจึงตรัสถามว่า“เป็นอย่างไรบ้าง”“เรียนไทเฮา... จากการตรวจชีพจรพบว่าเลือดลมของฝ่าบาทวุ่นวายสับสน คล้ายกับว่าเผชิญกับเรื่องตื่นตระหนก หรือตื่นเต้นอย่างสุดขีด เกินกว่าร่างกายจะรับไหว จึงหมดสติไปพ่ะย่ะค่ะ”หมอหลวงประสานมือไว้ได้หน้าแล้วกล่าวรายงาน ไม่กล้าสบพระเนตรฮองไทเฮาคล้ายกับมีสิ่งใดซ่อนไว้“ถ้าเพียงแค่ตกใจ ไยตอนนี้ฮ่องเต้ยังไม่ฟื้นเล่า”ฮองไทเฮาน้ำเสียงเข้มขึ้น ซักถามอย่างข้องใจ“อะ... เอ่อ..”หัวใจของหมอหลวงเต้นแรงขึ้น บนหน้าผากเริ่มมีเหงื่อผุดพรายขึ้นมา“ท่านหมอ”ฮองไทเฮาเรียกหมอหลวงเสียงเยียบเย็นเสียงนั้นทำให้ห

  • ฮองเฮา ขย่มบัลลังก์   ตอนที่19. ปาดน้ำตา

    เฉินเฉิงแววตาสั่นระริกในนั้นปรากฏรอยหวาดกลัวและสับสน อยากจะวิ่งหนีแต่ร่างกายขยับไม่ได้ตามคำสั่งแม้แต่น้อย อยากตะโกนให้คนช่วยแต่ขากรรไกรเขากลับค้างไม่สามารถเปล่งวาจาออกมาเป็นคำได้เลย“อ่า.... พระองค์ทรงลืมไปแล้วหรือ.... มีสตรีนางหนึ่งที่ยอมละทิ้งอาชีพทางการแพทย์ ทิ้งความฝันของตนเพียงเพื่อถวายตัวและหัวใจรับใช้ฝ่าบาทอย่างโง่งม”เฟิ่งอี๋หยัดกายขึ้น เอ่ยถึงความหลังขณะที่ใช้ปลายนิ้วไล้ไปตามพระพักตร์ขาวซีดของฮ่องเต้“ในครั้งนั้น ฝ่าบาททรงโปรดหม่อมฉันที่สุด จนได้รับแต่งตั้งเป็นฮองเฮา และยังตรัสกับหม่อมฉันว่า - สตรีงามไม่นานก็โรยรา แต่สตรีมีปัญญาเลิศล้ำ ควรค่าต่อการเป็นแม่ของแผ่นดิน - เหอะ !”นางแค่นเสียงออกมาคำหนึ่ง ดวงตารื้นขึ้นด้วยน้ำตาแห่งความเจ็บซ้ำ จากนั้นก็เอ่ยต่อไปด้วยเสียงสั่นพร่าว่า“ถ้อยคำเหล่านั้นล้วนจอมปลอมทั้งสิ้น มีปัญญาสูงค่าแล้วอย่างไร สุดท้ายพระองค์ก็เลือกสตรีเลอโฉมขึ้นมาแทนที่หม่อมฉัน หนำซ้ำยังควักเอาหัวใจของหม่อมฉันออกมาเฉือนเป็นชิ้น ๆ โดยการสั่งให้หม่อมฉันดื่มยาขับเลือด ! ลูกของหม่อมฉัน พระองค์ทรงฆ่าลูกของเราด้วยมือของพระองค์เอง !”น้ำตาของนางไหลอาบทั้งสองแก้ม น้ำอุ่น ๆ ไ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status