แชร์

หอมกลิ่นดอกท้อ

ผู้เขียน: Yuyueyuan
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-28 09:30:14

มาถึงตำหนักซินหยวนก็เข้าช่วงปลายของยามซวี (19.00 – 20.59 น.) เหล่าขันทีและนางกำนัลในตำหนักล้วนทราบว่าฮ่องเต้จะเสด็จมาตั้งแต่เย็น ถึงอย่างนั้นก็ยังงุนงงกันอยู่

“ถวายพระพรฝ่าบาท” เหล่าขันทีและนางกำนัลต่างกล่าวรับเสด็จพร้อมกัน

“เถียนเฟยอยู่ห้องไหน คืนนี้เจิ้นจะค้างที่นี่” ฮ่องเต้กล่าวอย่างไม่อ้อมค้อมให้เสียเวลา

“หม่อมฉันจะนำเสด็จเองเพคะ” เสียงหวานของโหรวม่านดังขึ้น พร้อมกับส่งสายตาให้กับซิ่วฟางและเซียงหรูให้ตามไปด้วยกัน

เมื่อถึงห้องบรรทมของเถียนเฟย โหรวม่านกับซิ่วฟางก็ยืนหลบมุมภายในห้องรอรับสั่งของฮ่องเต้ ส่วนเซียงหรูกับเนี่ยนเหวินก็ยกถาดของว่างและน้ำชาเข้ามาถวายแก่ฮ่องเต้

ฮ่องเต้กวาดสายตามองไปทั่วห้องเห็นพระสนมร่างเล็กนอนไม่ได้สติอยู่บนเตียงก็เอ่ยขึ้นว่า “นำเสื้อคลุมขนสัตว์ของเถียนเฟยมาให้เจิ้น แล้วพวกเจ้าก็ออกไปได้” พลันหันมามองยังองครักษ์ข้างกาย เฉิงกงกงและขันทีอัน

“หน้าห้องให้เจียงจิ้นเผิง เมิ่งจื่อหาน และอันหย่วนหังอยู่เฝ้าก็พอ”

‘มาถึงตำหนักก็ยังหาโอกาสคุยกับนางกำนัลของตัวเองไม่ได้ ต้องอยู่หน้าห้องกับองครักษ์ส่วนพระองค์ราวกับถูกเฝ้าเองเสียอย่างนั้น แล้วนี่ฝ่าบาทจะอุ้มร่างเถียนเฟยลงนอนบนพื้นมั้ยนะ’ ขันทีน้อยทำหน้ามุ่ยยืนคิดวุ่นวายอยู่หน้าห้องบรรทม

ภายในห้องบรรทม ฮ่องเต้ทรงถือเสื้อคลุมขนสัตว์แล้วยืนมองเถียนเฟยอยู่ข้างเตียง เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะวางเสื้อคลุมลงบนเตียง สองมือตระกองอุ้มย้ายร่างแน่งน้อยในเข้าไปนอนชิดอีกฝั่งของเตียง หยิบเสื้อขนสัตว์ตัวนั้นมาคลุมส่วนบนของร่างนาง จากนั้นจึงถอดฉลองพระองค์ตัวนอกออกแล้วล้มตัวลงนอนยังที่ด้านข้างของร่างน้อย

เมื่อฮ่องเต้อยู่ใกล้ชิดกับสตรีเป็นครั้งแรก แถมยังเป็นการนอนร่วมเตียงร่วมหมอนกันอีก แม้อีกฝ่ายจะไม่ได้สติ แต่ก็ส่งผลให้เกิดการประหม่าขึ้นมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ กลิ่นหอมดอกท้อจางๆออกมาจากกายของสนมสาวที่อยู่ด้านข้าง เมื่อสู่จมูกบุรุษหนุ่มก็ทำให้ฮ่องเต้พลิกตัวนอนตะแคงเพื่อจ้องมองร่างของเถียนเฟย

“กลิ่นดอกท้อนี่ ไม่ใช่กลิ่นน้ำหอม แต่เป็นกลิ่นกายของเจ้าสินะ” ความหอมจางๆนี้ทำให้ฮ่องเต้ทรงผ่อนคลายและหลับสบายได้ตลอดคืน

ครั้นถึงยามเหม่า (5.00 – 6.59 น.) ฮ่องเต้ทรงรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาก็พบว่าจมูกของตนเองซุกอยู่กับผมของสตรีร่างน้อย มือข้างซ้ายโอบกายนางให้มาชิดแนบอก ส่วนแขนขวาพาดไปบนผ้าห่มบริเวณเอวของนาง

“แบบนี้ก็ดีนะ ทั้งหอมและนุ่ม” หอม หมายถึงกลิ่นดอกท้อจากกายของเถียนเฟย ส่วนนุ่มน่ะหรือ ก็คือ ผมนุ่ม ผ้าคลุมขนสัตว์นุ่ม และผ้าห่มนุ่ม เพราะถึงแม้ว่าฮ่องเต้จะทรงโอบนางเข้ามาแนบชิดกับตน ใบหน้างามซบลงตรงแผงอก ร่างกายส่วนอื่นแนบชิดกันก็ตาม แต่ก็ยังมีผ้ากั้นไว้ครบทุกบริเวณ ไม่มีส่วนไหนที่เนื้อแนบเนื้อ

ยังไม่ทันได้ขยับตัวออกจากสตรีร่างน้อย ที่ประตูห้องก็เกิดเสียงดังขึ้น

“ฝ่าบาทพะย่ะค่ะ” เสียงของเฉิงกงกงเรียกและเสียงเปิดประตูเข้ามาก่อนได้รับอนุญาตด้วยความเคยชิน  ดังนั้นทั้งเฉิงกงกง และผู้เฝ้าหน้าประตูทั้งสามล้วนได้เห็นภาพฮ่องเต้นอนกอดพระสนมอย่างชัดเจนเต็มสองตา ทั้งสี่คนล้วนตกตะลึงและเก้อเขิน

‘คราวหลังเจิ้นคงต้องดึงม่านลงล่ะ’ เขาคิดแล้วก็ยกร่างเถียนเฟยออกจากอกตนเอง ค่อยๆวางศีรษะของนางลงบนหมอนอย่างเบามือ

เถียนจิ้งหลานในร่างขันทีอันเห็นดังนั้นก็เลือดกำเดาแทบพุ่ง เหมือนเห็นตัวเองกำลังเล่นหนังกับพระเอกหนุ่มรูปหล่ออยู่ ทั้งที่ความเป็นจริงเคยดูแต่ผลงานตัวเองตอนเป็นแค่นักแสดงตัวประกอบ

เฉิงกงกงยิ้มอย่างมีความสุข กล่าวอย่างเบิกบานว่า

“กำเนิดโอรสมังกรคงไม่นานแล้ว”

ฮ่องเต้ลงจากเตียงปรายสายตามองไปยังเฉิงกงกงอย่างเฉยชา พลางเอ่ยเสียงเรียบว่า “ยังอีกนาน”

เถียนจิ้งหลานได้ยินดังนั้นพลันคิดได้ ‘แหงล่ะสิ เล่นเอาเสื้อคลุมขนสัตว์ห่อร่างข้าแบบนั้น ไม่ต่างจากเจ้าการ์ฟีลด์เท่าไหร่หรอก ดูๆไปก็คล้ายมัมมี่ขนสัตว์อยู่นะ’

ในช่วงเช้าของทุกวัน ฮ่องเต้ต้องเสด็จไปว่าราชกิจที่ท้องพระโรง และเช้าวันนี้ขันทีอันนั้นว่างงาน เลยมีเวลาไปสอดส่องตามสถานที่ต่างๆในพระราชวัง

ขณะที่เดินผ่านหน้าตำหนักหนึ่ง ก็พลันรู้สึกเย็นวูบวาบที่หลัง ใจหนึ่งก็อยากเดินผ่านไปเร็วๆ แต่อีกใจหนึ่งก็ยังนึกถึงคำพูดของซือฝุ ถ้าเจอสิ่งใดผิดปกติให้รีบรายงาน เธอลังเลสองจิตสองใจอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็ตัดสินใจก้าวเท้าเข้าไปในอาณาบริเวณของตำหนักนั้น

เมื่อเดินไปถึงหน้าตำหนักก็เห็นป้าย ‘ตำหนักเหมันต์’

“ตำหนักเย็นหรือนี่ วังเวงทีเดียว” เธอสายตากวาดมองโดยรอบก็เห็นกลุ่มก้อนของสิ่งมีชีวิตจำนวนมากเกาะอยู่บนคานใต้หลังคา

“นกอะไรเนี่ย ตัวใหญ่มาก” เอ่ยจบก็หรี่ดวงตาเพื่อเพิ่งมองให้ชัดๆ

“นกฮูกหรือนี่ เยอะขนาดนี้ก็ขนลุกได้นะ” แต่ในพระราชวังไม่น่าจะมีนกฮูกจำนวนมากอาศัยอยู่ แม้ว่าตำหนักเย็นจะไม่มีผู้ใดพำนักมานานแล้วก็ตาม คิดแล้วก็พูดพึมพำกับตนเอง

“ผิดปกติ ข้าว่าแบบนี้ผิดปกติ”

เมื่อเดินต่อไปยังด้านข้างตำหนักก็พบฝูงอีกาเกาะอยู่เต็มต้นไม้ที่มีแต่กิ่งก้านไร้ใบ

“นี่มันเยอะมากๆ ราวกับว่าต้นไม้งอกใบออกมาเป็นอีกามากกว่า” เธอพูดไปลูบแขนตัวเองไป เนื่องจากขนลุกมาสักพักแล้ว

“ไม่ได้การ ข้าต้องไปส่งจดหมายแจ้งซือฝุ” ขันทีอันหันหลังได้ก็วิ่งพรวดพราดออกจากตำหนักเย็น

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ฮองเฮาจอมซุ่มซ่ามของเจิ้น   ตำหนักเหมันต์

    ยามเซิน (15.00 – 16.59 น.)ขันทีอันยังไม่ทันได้ก้าวพ้นธรณีประตูของตำหนักเหอเซิ่งก็ได้ยินเสียงของฮ่องเต้กับราชครูหม่าคุยกันค่อนข้างดัง‘เมื่อวานก็มา วันนี้ก็มา หรือราชครูเกิดหวงฮ่องเต้ขึ้นมากันนะ’ คิดแล้วก็เดินเข้าไปยืนอยู่ข้างขันทีเซี่ยงรอปรนนิบัติฮ่องเต้“ท่านเจ้ากี้เจ้าการกับเรื่องของเจิ้นมากไปแล้ว” เสียงขุ่นมัวของฮ่องเต้แสดงถึงความไม่พอพระทัย“กระหม่อมทำทุกอย่างเพื่อฝ่าบาทและบัลลังก์มังกรนะพะย่ะค่ะ” ราชครูหม่าโต้แย้งขึ้นมาทันที“หวังดีด้วยการให้เจิ้นไปค้างอ้างแรมกับพระสนมทุกคน ท่านทำเหมือนไม่รู้จักเจิ้น”“เพราะรู้จักดีถึงต้องทำเช่นนี้พะย่ะค่ะ หากฝ่าบาทห่วงบ้านเมือง กระหม่อมจะช่วยฝ่าบาทสุดความสามารถไม่เสียดายชีวิต หากห่วงบัลลังก์ กระหม่อมจะช่วยปกป้อง หากห่วงสมบัติในท้องพระคลั

  • ฮองเฮาจอมซุ่มซ่ามของเจิ้น   หอมกลิ่นดอกท้อ

    มาถึงตำหนักซินหยวนก็เข้าช่วงปลายของยามซวี (19.00 – 20.59 น.) เหล่าขันทีและนางกำนัลในตำหนักล้วนทราบว่าฮ่องเต้จะเสด็จมาตั้งแต่เย็น ถึงอย่างนั้นก็ยังงุนงงกันอยู่“ถวายพระพรฝ่าบาท” เหล่าขันทีและนางกำนัลต่างกล่าวรับเสด็จพร้อมกัน“เถียนเฟยอยู่ห้องไหน คืนนี้เจิ้นจะค้างที่นี่” ฮ่องเต้กล่าวอย่างไม่อ้อมค้อมให้เสียเวลา“หม่อมฉันจะนำเสด็จเองเพคะ” เสียงหวานของโหรวม่านดังขึ้น พร้อมกับส่งสายตาให้กับซิ่วฟางและเซียงหรูให้ตามไปด้วยกันเมื่อถึงห้องบรรทมของเถียนเฟย โหรวม่านกับซิ่วฟางก็ยืนหลบมุมภายในห้องรอรับสั่งของฮ่องเต้ ส่วนเซียงหรูกับเนี่ยนเหวินก็ยกถาดของว่างและน้ำชาเข้ามาถวายแก่ฮ่องเต้ฮ่องเต้กวาดสายตามองไปทั่วห้องเห็นพระสนมร่างเล็กนอนไม่ได้สติอยู่บนเตียงก็เอ่ยขึ้นว่า “นำเสื้อคลุมขนสัตว์ของเถียนเฟยมาให้เจิ้น แล้วพวกเจ้าก็ออกไปได้” พลัน

  • ฮองเฮาจอมซุ่มซ่ามของเจิ้น   ผู้น่าสงสัย

    หลังจากออกว่าราชกิจที่ท้องพระโรง ฮ่องเต้และราชครูหม่าก็ไปยังห้องทรงงาน ณ ตำหนักหย่งฟู่“เรื่องที่ฝ่าบาทให้กระหม่อมสืบได้ความว่าท่านมหาเสนาบดีเหยาอยากอุ้มหลาน เลยสั่งให้เหยาเฟยใกล้ชิดกับฝ่าบาทเพิ่มขึ้นพะย่ะค่ะ ”“เจ้าคิดว่าสาเหตุมีเพียงเท่านี้หรือ” ฮ่องเต้ถามกลับด้วยความคลางแคลงใจ“แค่นี้จริงๆพะย่ะค่ะ เรื่องอื่นๆ ล้วนไม่มีสิ่งใดน่าสงสัย มิต้องทรงวิตกกังวล เรื่องสำคัญสำหรับฝ่าบาทในตอนนี้คือให้กำเนิดองค์รัชทายาทได้แล้วพะย่ะค่ะ”ราชครูหม่าทำมือประสานกันค้อมตัว หลบสายตาขณะกล่าวตอบฮ่องเต้ เขาก้มหน้าแล้วกล่าวต่อ“กระหม่อมคิดว่า ฝ่าบาทควรต้องใช้เวลาในยามค่ำคืนกับพระสนมได้แล้วพะย่ะค่ะ มิเช่นนั้นจะส่งผลต่อความมั่นคงของพระราชบัลลังก์และความสงบของรัฐต้าเซี่ยได้”“เจ้าอย่ารวบรัดเจิ้น เจิ้นยังไม่อ

  • ฮองเฮาจอมซุ่มซ่ามของเจิ้น   ขันทีน้อย

    “เสี่ยวหู่ เจ้านี่เก่งนะ ทำให้เหยาเฟยอุ้มมาส่งด้วยพระองค์เองได้”ฝ่ามือเรียวของขันทีอันกึ่งขยี้กึ่งนวดคลึงบนลำตัวและขนของเสี่ยวหู่‘สบายสุดๆ มันแปลกตรงไหนกัน’ “เหมียวๆๆ”ขันทีอันเห็นการตอบกลับของเสี่ยวหู่ก็พูดต่อ“ปกติเหยาเฟยแทบไม่ออกนอกเขตตำหนัก ถ้าไม่มีรับสั่งจากไทเฮาหรือฮ่องเต้ ขนาดสวนดอกไม้ยังไม่ค่อยไปเลย”“เหยาเฟยเป็นพวกอินโทรเวิร์ตหรือนี่ ” “เหมียวๆๆๆ”ขันทีอันมือหนึ่งตักน้ำอุ่นมาค่อยๆรดบนตัวของเสี่ยวหู่ มืออีกข้างค่อยๆลูบน้ำบนขนออก พลางกระซิบเบาๆ “ข้าพูดกับเจ้า เจ้าก็อย่าไปบอกใครนะ”‘เรื่องนี้ขันทีกับนางกำนัลในวังก็น่าจะรู้มั้ย ความลับตรงไหนกัน’“ได้ๆ ข้าจะ

  • ฮองเฮาจอมซุ่มซ่ามของเจิ้น   เหยาเฟยคนงาม

    ภายใต้ร่มเงาไม้แสงแดดรำไร สายลมเย็นๆพัดผ่าน ใบไม้พลิ้วไหวตามแรงลม เหยาเฟยสตรีหน้าตางดงามรูปร่างบอบบาง สวมอาภรณ์สีเขียวสดใสกำลังนั่งท่ามกลางมวลดอกไม้พูดคุยหยอกเย้าอยู่กับนางกำนัลของตนหลิงฮุ่ยจ้องมองใบหน้าของเหยาเฟยด้วยความชื่นชม ปากน้อยๆส่งเสียงเจื้อยแจ้วได้ยินชัดเจนว่า“เหยาเฟยเพคะ พระองค์ทรงงดงามขนาดนี้ ขนาดหม่อมฉันที่เป็นสตรีด้วยกันยังหลงใหล ทำไมพระองค์ไม่เสด็จไปหาฮ่องเต้ล่ะเพคะ ฮ่องเต้น่าจะโปรดปรานพระองค์ไม่มากก็น้อย”เหยาเฟยเอื้อมมือเรียวไปบีบแก้มหลิงฮุ่ย กล่าวอย่างเอ็นดู“เจ้าก็พูดไป เจ้าก็รู้ว่าฝ่าบาทไม่ทรงโปรดสตรี ต้องให้ข้าทำอย่างไรให้ฝ่าบาทมาสนใจข้าดีล่ะ”“ชายหนุ่มอย่างไรก็ต้องแพ้สัญชาตญาณของบุรุษเพศอยู่ดีเพคะ อาจจะต้องพยายามปลุกมันบ่อยๆเท่านั้นเอง”หลิงฮุ่ยโน้มตัวไปแนบกาย พูดกึ่งกระซิบข้างหูของเหยาเฟย มือน้อยพลางเล่นม้วนปอยผมขอ

  • ฮองเฮาจอมซุ่มซ่ามของเจิ้น   พบซือฝุ

    ณ หน้าตำหนักเหอเซิ่งเสี่ยวหู่รับรู้ได้ถึงไอของความเย็นยะเยือกและหมอกดำแผ่กระจายไปทั่วบริเวณ เงาดำที่เห็นเมื่อสักครู่แวบหายไปก่อนที่จะมาถึง‘ทำไมคืนนี้ถึงปรากฏความผิดปกติเกิดขึ้นนะ กำลังจะเกิดเหตุการณ์ร้ายขึ้นหรือเปล่าเนี่ย’เมื่อเธอเดินสำรวจไปรอบๆหน้าตำหนักยังไม่พบเจอสิ่งใดผิดสังเกต‘รอดูพรุ่งนี้อีกวันละกัน อาจจะเป็นแค่วันปล่อยผีก็ได้มั้ง’ จากนั้นเถียนจิ้งหลานในร่างเสี่ยวหู่ก็กลับเข้าตำหนักไปนอนบนเตียงนุ่มๆของตนเองยามแสงสว่างสาดส่องมาทางหน้าต่าง ยังไม่ทันที่จะรู้สึกตัวตื่นจากความอบอุ่นในตอนเช้า กลับต้องสะดุ้งตกใจตื่นเพราะเสียงของเฉิงกงกง“ฝ่าบาทๆ พะย่ะค่ะ”“มีเรื่องอันใดเกิดขึ้น” เสียงเนือยๆของฮ่องเต้ดังขึ้น&ldquo

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status