หลังจากที่น้องเมฆลืมตาดูโลก ชีวิตของภาคินัยและปลายฝันก็เต็มไปด้วยความสุขและความอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน การมีลูกชายตัวน้อยเข้ามาเติมเต็ม ทำให้คำว่า "ครอบครัว" สมบูรณ์แบบในทุกมิติ ไม่เพียงแต่ภาคินัยและปลายฝันเท่านั้นที่เห่อลูกชายตัวน้อย แต่สมาชิกทุกคนในครอบครัวต่างก็หลงใหลในความน่ารักของน้องเมฆ และพร้อมที่จะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือดูแลหลานชายสุดที่รักคนนี้
บ้านหลังใหญ่ของภาคินัยและปลายฝันที่เคยเงียบสงบ ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ อ้อแอ้ของน้องเมฆ และเสียงพูดคุยอย่างสนุกสนานของคนในบ้าน การปรับตัวจากการเป็นคู่รักมาเป็นคุณพ่อคุณแม่มือใหม่นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่พวกเขาก็พร้อมที่จะเรียนรู้และเติบโตไปพร้อมกับลูกชาย
ปลายฝันทุ่มเทเวลาให้กับการดูแลน้องเมฆอย่างเต็มที่ เธอให้นมลูกทุกครั้งที่ลูกหิว เปลี่ยนผ้าอ้อม ดูแลความสะอาด และคอยสังเกตพัฒนาการของลูกอย่างใกล้ชิด แม้จะเหนื่อยล้าจากการอดนอน แต่ทุกครั้งที่เห็นรอยยิ้มของน้องเมฆ เธอก็รู้สึกว่าความเหนื่อยเหล่านั้นหายไปเป็นปลิดทิ้ง
"คุณภีมคะ ดูสิคะน้องเมฆยิ้มให้ปายด้วย" ปลายฝันกระซิบอย่างมีความสุขขณะอุ้มลูกชายไว้ในอ้อมแขน
ภาคินัยเองก็รับบทบาทคุณพ่อได้อย่างยอดเยี่ยม เขาเรียนรู้ทุกอย่างตั้งแต่พื้นฐาน ทั้งการชงนม การอาบน้ำ การกล่อมลูกนอน และการเล่นกับลูก เขาพยายามกลับบ้านให้เร็วขึ้น เพื่อจะได้มีเวลาอยู่กับปลายฝันและน้องเมฆให้ได้มากที่สุด เขาชอบที่จะอุ้มลูกชายเดินไปรอบๆ บ้าน และพูดคุยกับลูกน้อยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
"ป๊าขอหอมหน่อยครับน้องเมฆ" ภาคินัยกระซิบ พลางหอมแก้มลูกชายฟอดใหญ่
น้องเมฆเป็นเด็กที่เลี้ยงง่าย เขาเป็นเด็กอารมณ์ดี ยิ้มเก่ง และนอนหลับได้นาน ทำให้ปลายฝันและภาคินัยไม่เหนื่อยจนเกินไป ทุกพัฒนาการของน้องเมฆล้วนเป็นความสุขและความภาคภูมิใจของทั้งสองคน ตั้งแต่การลืมตาดูโลก การส่งเสียงอ้อแอ้ การพลิกตัวได้เอง ไปจนถึงการยิ้มตอบพ่อแม่ ทุกย่างก้าวของการเติบโตของน้องเมฆคือความมหัศจรรย์ที่เติมเต็มชีวิตของพวกเขา
"คุณภีมคะ น้องเมฆพลิกตัวได้แล้วค่ะ!" ปลายฝันร้องด้วยความดีใจเมื่อเห็นลูกชายพลิกคว่ำได้เองเป็นครั้งแรก
ภาคินัยรีบวิ่งเข้ามาดูด้วยความตื่นเต้น "เก่งมากเลยครับน้องเมฆ! ลูกป๊าเก่งที่สุดเลย"
น้องเมฆไม่ใช่แค่ลูกชายของพวกเขา แต่เขากลายเป็นโซ่ทองคล้องใจที่ทำให้ความรักของภาคินัยและปลายฝันยิ่งแน่นแฟ้นและลึกซึ้งมากขึ้น พวกเขาเรียนรู้ที่จะแบ่งปันความรับผิดชอบ ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และเป็นกำลังใจให้กันเสมอ
สิ่งที่ทำให้ครอบครัวของภาคินัยและปลายฝันสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น คือการสนับสนุนอันอบอุ่นจากคนในครอบครัว เมื่อพวกท่านมีเวลาว่าง ต่างก็แวะเวียนมาเยี่ยมเยียนและช่วยดูแลน้องเมฆอย่างเต็มที่
คุณตาและคุณยายของน้องเมฆก็ไม่แพ้กัน พวกท่านรักและเอ็นดูหลานชายสุดหัวใจ เมื่อมีเวลาว่าง พวกท่านจะเดินทางมาเยี่ยมหลานที่บ้านเสมอ คุณยายจะช่วยปลายฝันในเรื่องการทำอาหารที่มีประโยชน์สำหรับคุณแม่หลังคลอด และยังช่วยดูแลน้องเมฆในบางครั้งเพื่อให้ปลายฝันได้พักผ่อน
"ปายลูกวันนี้ยายทำแกงเลียงมาให้จ้ะ บำรุงน้ำนมดีนะ" คุณยายบอกพลางยื่นถ้วยแกงให้ปลายฝัน
คุณตาชอบที่จะมาเล่นกับน้องเมฆ ท่านจะนำของเล่นชิ้นเล็กๆ มาให้หลานชาย และสอนให้น้องเมฆฝึกจับสิ่งของ หรือส่งเสียงตอบรับ การมีคุณตาคุณยายมาช่วยทำให้ปลายฝันและภาคินัยรู้สึกอุ่นใจและไม่โดดเดี่ยวในการเลี้ยงลูก
การที่ทุกคนในครอบครัวเข้ามามีส่วนร่วมในการเลี้ยงดูน้องเมฆ ทำให้ความผูกพันภายในครอบครัวยิ่งแน่นแฟ้นขึ้นไปอีก พวกเขาทุกคนต่างก็หลงรักน้องเมฆ และพร้อมที่จะมอบความรักและความอบอุ่นให้กับเขาอย่างเต็มที่
มื้อเย็นของครอบครัวในแต่ละวันจึงเต็มไปด้วยความสุขและเสียงหัวเราะ ทุกคนจะผลัดกันอุ้มน้องเมฆ เล่นกับเขา และพูดคุยถึงพัฒนาการต่างๆ ของลูกน้อย
"วันนี้น้องเมฆหัดคว้าของเล่นได้แล้วนะ" คุณย่าเล่าด้วยความภาคภูมิใจ
"จริงเหรอครับคุณย่า! เก่งจังเลยลูกป๊า" ภาคินัยตอบด้วยความตื่นเต้น
ปลายฝันรู้สึกขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือและกำลังใจจากทุกคนในครอบครัว การมีคนรักมาช่วยดูแลลูกน้อย ทำให้เธอรู้สึกเบาใจและมีพลังงานที่จะดูแลน้องเมฆได้อย่างเต็มที่
ชีวิตของภาคินัยและปลายฝันตอนนี้สมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง การมีน้องเมฆเข้ามาเติมเต็ม ทำให้บ้านของพวกเขากลายเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความรัก ความอบอุ่น และเสียงหัวเราะ
ความช่วยเหลือจากครอบครัวในยามว่าง ทำให้ภาคินัยและปลายฝันสามารถใช้เวลาอยู่ร่วมกันได้อย่างเต็มที่ และยังคงมีช่วงเวลาส่วนตัวที่จะเติมเต็มความรักให้แก่กันและกัน
จากนี้ไป ทุกวันของภาคินัยและปลายฝันจะเต็มไปด้วยความสุขที่เกิดจากการได้เฝ้ามองน้องเมฆเติบโตไปพร้อมกับความรักและความเอาใจใส่จากทุกคนในครอบครัว พวกเขาพร้อมแล้วที่จะสร้างความทรงจำที่ดีงาม และเติมเต็มชีวิตด้วยความรักที่ไม่มีวันสิ้นสุด
ตอนที่ 122 บทส่งท้ายกาลเวลาหมุนผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่ความทรงจำที่สวยงามยังคงถูกถักทอขึ้นอย่างต่อเนื่องในชีวิตของภาคินัย ปลายฝัน ธามและน้ำหวาน ทุกเส้นทางที่พวกเขาได้เดินผ่านมา ไม่ว่าจะสุข ทุกข์ หรือท้าทาย ล้วนหล่อหลอมให้พวกเขากลายเป็นคนที่สมบูรณ์ในวันนี้ บทสรุปของเรื่องราวนี้จึงเป็นการสะท้อนถึงชีวิตที่เต็มไปด้วยความสุข ความรักที่อบอุ่น และอนาคตที่สดใส ที่พวกเขาได้สร้างขึ้นด้วยกันวันหยุดสุดสัปดาห์ที่สดใสครอบครัวของภาคินัยและปลายฝัน รวมถึงธามและน้ำหวาน ได้วางแผนเดินทางไปเที่ยวทะเลด้วยกัน เป็นครั้งแรกที่เด็กๆ จะได้สัมผัสผืนทรายและน้ำทะเลด้วยตัวเองรถตู้คันใหญ่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและบทเพลงจากเด็กๆ น้องเมฆและน้องเมษาที่ตอนนี้เริ่มเดินได้คล่องแคล่ว ต่างตื่นเต้นกับวิวทิวทัศน์นอกหน้าต่างที่ไม่คุ้นเคย"คุณภีมคะ ดูสิคะน้องเมฆชี้ไปที่ทะเลใหญ่เลย" ปลายฝันยิ้มอย่างมีความสุข"เมษาก็ตื่นเต้นเหมือนกันค่ะคุณธาม" น้ำหวานเสริม พลางมองลูกสาวที่กำลังยิ้มกว้างเมื่อเดินทางถึงรีสอร์ตหรูริมทะเล ภาคินัยและธามต่างช่วยกันขนสัมภาระลงจากรถ ส่วนปลายฝันและน้ำหวานก็ดูแลเด็กๆ ที่วิ่งสำรวจไปทั่วบริเวณด้วยความกระตือ
ตอนที่ 121 บทสรุปของความรักชีวิตของภาคินัยและปลายฝันดำเนินมาถึงบทสรุปที่งดงาม พวกเขาได้ค้นพบความสุขที่แท้จริงในทุกมิติ ทั้งในด้านความรักที่มั่นคง ครอบครัวที่อบอุ่น และหน้าที่การงานที่รุ่งโรจน์ ความรักของพวกเขาสุกงอมและเบ่งบานอย่างเต็มที่ เช่นเดียวกับธามและน้ำหวาน ที่ต่างก็สร้างสรรค์ชีวิตในแบบของตัวเองได้อย่างลงตัว บทสรุปของความรักครั้งนี้จึงเป็นการเฉลิมฉลองให้กับชีวิตที่เต็มไปด้วยความสุข ความเข้าใจ และการเติมเต็มซึ่งกันและกันผ่านมาหลายปี นับตั้งแต่น้องเมฆลืมตาดูโลก ชีวิตของภาคินัยและปลายฝันดูเหมือนจะสมบูรณ์แบบในทุกด้าน พวกเขายังคงเป็นสามีภรรยาที่รักกันอย่างลึกซึ้ง ความผูกพันที่แน่นแฟ้นยิ่งทวีคูณขึ้นตามกาลเวลา แม้จะมีความรับผิดชอบมากมาย แต่พวกเขาก็ไม่เคยละเลยที่จะเติมเต็มความปรารถนาและความเร่าร้อนให้แก่กันและกันค่ำคืนหนึ่งหลังจากที่น้องเมฆหลับไปแล้ว แสงจันทร์สาดส่องเข้ามาในห้องนอนอย่างนุ่มนวล ภาคินัยโอบกอดปลายฝันจากด้านหลังอย่างแผ่วเบา สัมผัสที่คุ้นเคยทำให้ปลายฝันรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย เธอซบหน้ากับแผงอกที่คุ้นเคยของเขา"ปายครับ คุณสวยที่สุดเลยนะ" ภาคินัยกระซิบเสียงพร่า พลางจูบลงบนไหล
ตอนที่ 120 ความสุขหลังจากผ่านเรื่องราวมากมาย ทั้งความรัก ความสุข ความท้าทาย และการเติบโตในบทบาทใหม่ ทุกคู่ต่างค้นพบความสุขในแบบของตัวเอง ภาคินัยกับปลายฝัน และธามกับน้ำหวาน ต่างได้ใช้ชีวิตในแบบที่พวกเขาปรารถนา เติมเต็มความหมายของคำว่า "ความสุขที่แท้จริง" ในแบบฉบับของตัวเองชีวิตของภาคินัยและปลายฝันตอนนี้เปรียบเสมือนภาพวาดที่สมบูรณ์แบบ ทุกองค์ประกอบต่างถูกเติมเต็มอย่างลงตัว ด้วยความรักที่เปี่ยมล้นจากน้องเมฆ และความสำเร็จในหน้าที่การงานที่รุ่งโรจน์ภาคินัยยังคงทุ่มเทให้กับการบริหารภาคินัย กรุ๊ปอย่างเต็มที่ แต่เขาก็เรียนรู้ที่จะจัดสรรเวลาให้สมดุลระหว่างงานและครอบครัว เขามักจะตื่นเช้าขึ้นมาเล่นกับน้องเมฆก่อนไปทำงาน และพยายามกลับบ้านให้เร็วที่สุดเพื่อใช้เวลาช่วงเย็นกับภรรยาและลูกชาย การเห็นน้องเมฆเติบโตขึ้นในทุกๆ วัน คือพลังขับเคลื่อนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขา"วันนี้น้องเมฆเรียก 'ป๊า' ชัดขึ้นเยอะเลยนะครับปาย" ภาคินัยเล่าด้วยรอยยิ้มกว้างในมื้อเย็นปลายฝันยังคงเป็นกำลังสำคัญอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของภาคินัย เธอทำหน้าที่ภรรยาและคุณแม่ได้อย่างไม่มีที่ติ ดูแลบ้านให้เป็นระเบียบเรียบร้อย อบอุ่
ตอนที่ 119 มิตรภาพที่ยั่งยืนท่ามกลางความวุ่นวายของชีวิตในบทบาทใหม่ ทั้งการเป็นพ่อแม่และการบริหารธุรกิจที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง มิตรภาพที่ถักทอขึ้นระหว่างภาคินัยและธาม รวมถึงปลายฝันและน้ำหวาน กลับยิ่งแข็งแกร่งและหยั่งรากลึก พวกเขาพิสูจน์ให้เห็นว่ามิตรภาพที่แท้จริงไม่เคยจางหายไปตามกาลเวลา แต่กลับยิ่งเปล่งประกายและเป็นพลังใจให้แก่กันเสมอครั้งหนึ่ง ภาคินัยและธามเคยเป็นคู่แข่งทางธุรกิจที่ขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือดในสนามแข่งขัน แต่ด้วยความจริงใจและความเข้าใจซึ่งกันและกัน พวกเขาก็ได้ก้าวข้ามกำแพงแห่งการแข่งขันและแปรเปลี่ยนเป็นมิตรภาพที่แข็งแกร่ง การมีลูกในเวลาใกล้เคียงกัน ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นบ่ายวันหนึ่ง ภาคินัยโทรหาธามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าแกมขบขัน "เฮ้ยธาม! วันนี้น้องเมฆงอแงไม่ยอมนอนเลยว่ะ ฉันแทบไม่ได้ทำงานเลย"ธามหัวเราะจากปลายสาย "ฉันก็เหมือนกันภีม! น้องเมษาวันนี้เล่นไม่หยุดเลย พลังเยอะจริงๆ เด็กสมัยนี้"บทสนทนาของพวกเขาไม่ใช่เรื่องธุรกิจอีกต่อไป แต่เป็นเรื่องราวของผ้าอ้อม นมผง และการนอนไม่พอ การแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเป็นคุณพ่อมือใหม่กลายเ
ตอนที่ 118 การเติบโตของภาคินัย กรุ๊ปหลังจากที่น้องเมฆเข้ามาเติมเต็มชีวิตครอบครัวของภาคินัยและปลายฝัน แรงบันดาลใจและความมุ่งมั่นของทั้งคู่ก็ยิ่งเพิ่มพูนขึ้น ไม่เพียงแต่ในเรื่องส่วนตัวเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อการบริหารงานของภาคินัย กรุ๊ปอย่างเห็นได้ชัด ภายใต้การนำของภาคินัย และการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากปลายฝัน บริษัทก็ได้ก้าวเข้าสู่ยุคแห่งความเจริญรุ่งเรืองที่โดดเด่นยิ่งกว่าเดิมเช้าวันหนึ่งที่สดใสในเดือนมิถุนายน ภาคินัยเดินนำปลายฝันและน้องเมฆที่อยู่ในรถเข็นเด็ก เข้าสู่ล็อบบี้สุดหรูของภาคินัย ทาวเวอร์ อาคารสำนักงานใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯ ภาคินัยในชุดสูทสีเข้มดูภูมิฐานและสง่างามกว่าเคย ส่วนปลายฝันในชุดเดรสสีอ่อนสบายตาดูสวยสดใสในมาดคุณแม่ลูกหนึ่ง น้องเมฆตัวน้อยในรถเข็นมองซ้ายมองขวาด้วยแววตาอยากรู้อยากเห็น ใบหน้าจิ้มลิ้มมีรอยยิ้มอ้อแอ้ตลอดเวลา"วันนี้ลูกชายมาเยี่ยมบริษัทป๊าครั้งแรกนะลูก" ภาคินัยกระซิบกับน้องเมฆพลางยิ้มอบอุ่นปลายฝันหัวเราะเบาๆ "สงสัยจะชอบบรรยากาศนะคะเนี่ย"พนักงานในล็อบบี้ที่กำลังสัญจรไปมา ต่างหยุดชะงักเมื่อเห็นภาพครอบครัวที่ดูอบอุ่นและสมบูรณ์แบบนี้ หลายคนส่งยิ้มและโค้งคำนับให้ผ
ตอนที่ 117 คุณปู่กับทายาทเมื่อน้องเมฆเติบโตขึ้นในแต่ละวัน ไม่เพียงแต่ภาคินัยและปลายฝันเท่านั้นที่ภาคภูมิใจ แต่ยังมีคุณปู่ของภาคินัย ผู้เป็นรากฐานของอาณาจักรภาคินัย กรุ๊ป ที่เปี่ยมด้วยความสุขอย่างยิ่งที่ได้เห็นทายาทคนใหม่ การมาถึงของน้องเมฆไม่เพียงแต่เติมเต็มความหมายของคำว่าครอบครัวให้สมบูรณ์ แต่ยังเป็นการยืนยันว่าธุรกิจที่สร้างมาด้วยหยาดเหงื่อแรงกาย จะมีผู้สืบทอดต่อไปอย่างมั่นคงคุณปู่ของภาคินัย แม้จะอยู่ในวัยชรา แต่ดวงตาท่านยังคงเปล่งประกายด้วยความสุขและความเฉียบแหลม การมาถึงของน้องเมฆ เหลนชายและทายาทของเหลนคนเดียวของตระกูล ทำให้หัวใจของคุณปู่เต็มตื้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนท่านเฝ้ารอวันนี้มานานแสนนาน วันที่จะได้เห็นสายเลือดของตระกูลยังคงดำเนินต่อไปคุณปู่ก็เดินทางมาเยี่ยมเหลนชายที่บ้านทันที ท่านนั่งลงข้างเปลนอนของน้องเมฆ มองเหลนชายตัวน้อยด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรักและความเอ็นดู"ตาหนูเมฆของปู่ ในที่สุดเจ้าก็มา" คุณปู่กระซิบเสียงแผ่ว พลางเอื้อมมือที่เหี่ยวย่นลูบไล้แก้มยุ้ยของน้องเมฆอย่างอ่อนโยนภาคินัยและปลายฝันยืนมองภาพนั้นด้วยความซาบซึ้ง พวกเขารับรู้ได้ถึงความรักอันลึกซึ้งที่คุณ