“ทำไมฉันถึงได้ซวยอย่างนี้”
ขวัญชนกแน่ใจว่าเป็นเพราะความสวยและเซ็กซี่อย่างหาตัวจับยากของเธอ ที่ดึงดูดชายชั่วและนำอันตรายมาสู่ชีวิตบ่อยๆ และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่ยืนยันโชคชะตาของเธอ
ชายหนุ่มมากหน้าหลายตาที่แสดงเจตจำนงอย่างชัดเจนว่าต้องการครอบครองเรือนร่างของเธอ โดยแลกกับความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานและหนี้สินที่เธอต้องชดใช้แทนมารดา ข้อเสนอหอมหวานเย้ายวนรุนแรง แต่เธอปฏิเสธที่จะทำแบบนั้นมาตลอด
“พี่เป๊กคนเลว ไม่น่าหลงกลเลย” หนุ่มใหญ่วัยสี่สิบต้นๆ เป็นตากล้องชื่อดังคนหนึ่งของเมืองไทย เขาทำงานอยู่ที่โมเดลลิ่งที่เธอเพิ่งเข้าสังกัดได้เพียงหนึ่งเดือน เขาทำหน้าที่ถ่ายภาพให้บริษัท ทั้งยังเป็นหุ้นส่วนคนสำคัญของนิตยสารผู้หญิงชื่อดังฉบับหนึ่ง ซึ่งเจ้าของเป็นภรรยาเก่าของเขาที่เลิกรากันไปนานแล้ว
เวลานี้เขาโสด แต่เธอรู้มาว่าเขาแอบซุกผู้หญิงคนหนึ่งไว้ในห้อง เพียงแต่ไม่เปิดเผยว่าเป็นใครเท่านั้น เขาถูกใจเธอตั้งแต่แรกเห็น ตั้งแต่วันแรกที่เธอเข้ามาสมัครเป็นนางแบบที่บริษัท หลังจากตะลอนหางานทำอยู่หลายวัน แต่ไม่ประสบความสำเร็จ
“เอาเงินเอางานมาล่อ คิดว่าไอ้ขวัญมันใจง่ายขนาดนั้น” เธอไม่มีวันทำแบบนั้นแน่นอน กลับกรุงเทพฯ ไปคราวนี้ เธอจะตกลงเข้าประกวดสุดยอดนางแบบแห่งประเทศไทยตามที่เจ้าของโมเดลลิ่งต้องการ เพราะหากเธอได้เข้ารอบสิบคน เธอก็จะได้เงินรางวัลแล้ว ถึงไม่มากมายเท่าคนที่ได้ตำแหน่ง แต่เงินนั้นก็สามารถช่วยให้เธอผ่อนหนี้ไปได้สักงวด
หมอนั่นหายไปจากหน้าห้องแล้ว ห้องที่เขาจองไว้แค่ห้องเดียว เพื่อพาเธอมานอนไกลถึงอเมริกา เอาเรื่องงานมาอ้าง แต่ท้ายที่สุด ไม่มีทีมงานสักคน
“ถ้าพี่แตะต้องฉันอีก ฉันฆ่าพี่แน่” เธอกำหมัดแน่น สูดหายใจลึกยาว ก่อนเปิดประตูห้องอย่างลุ้นระทึก “อย่าเพิ่งกลับมาตอนนี้ละกัน ไม่อย่างนั้น ฉันยอมเป็นฆาตกร”
ขวัญชนกใจดีสู้เสือ เดินย่องเข้าไปในห้องอีกครั้ง เธอเมียงมองหาตัวร้าย ที่อาจลากสังขารกลับเข้ามานอนในห้อง ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริง เธอมั่นใจว่าเขายังบาดเจ็บจากการถูกถีบและโดนฟาดไปหลายครั้ง เขาบาดเจ็บและขุ่นเคืองเธอไม่น้อย แต่เขาควรจะรู้ว่าเธอไม่ผิด ที่ปฏิเสธและทำร้ายเขายับแบบนี้
“โง่จริงๆ เลย คิดว่าจะได้มาเที่ยวอเมริกา แถมยังได้ทำงานได้เงินด้วย ทำไมฉันคิดไม่ได้นะว่าฉันมันเป็นแค่นางแบบฝึกหัดกระจอกๆ” เธออดที่จะตำหนิตัวเองไม่ได้ ขณะเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า เพื่อลากกระเป๋าลากใบใหญ่ออกมา เธอรีบเก็บเสื้อผ้าที่แขวนไว้สองสามชุดแล้วยัดลงกระเป๋าอย่างหยาบๆ จากนั้นก็เดินไปหยิบกระเป๋าสะพาย “บัตร พาสปอร์ต หวังว่ายังอยู่ครบนะ”
หญิงสาวสำรวจกระเป๋าสะพายด้วยใจหวัง หากแล้วก็ไม่เป็นไปตามที่เธอคิด เพราะเอกสารการเดินทางและเงินเพียงน้อยนิดของเธอหายไปหมดแล้ว
“แย่แล้ว!!” เธอพยายามค้นหาไปทั่วห้อง แต่ก็ไม่เจอ พบเพียงกระดาษแผ่นเล็กที่เขียนด้วยลายมือไม่กี่ประโยคทิ้งไว้...ถ้าอยากได้เอกสารทั้งหมดคืน พร้อมเงินเต็มกระเป๋า อย่าไปไหน รอฉันอยู่ที่ห้อง...หัวใจของหญิงสาวหล่นวูบ หน้าซีดเผือด สมองมึนงงไปหมด
“นี่เราหนีมันไม่รอดจริงๆ เหรอ...ไอ้คนเลว!!!” เธอต้องมอบพรหมจรรย์ในวัยยี่สิบเอ็ดให้แก่หนุ่มใหญ่ใจทรามนี่จริงๆ เหรอ ร่างกายที่เธอทะนุถนอมมาทั้งชีวิต ต้องมาจบที่น้ำมือของคนมากตัณหาที่เธอต้องทนเห็นหน้าและสายตาลามเลียผ่านกล้องถ่ายภาพไปตลอดชีวิต แล้วเธอจะทนได้เหรอ “หรือว่าเราจะโทรหาเจ้านายดี”
ไม่ได้แน่...เธอรู้จากพี่ลูกเป็ด ซึ่งเป็นผู้ดูแลเธอเกี่ยวกับงานในวงการบันเทิงว่าเจ้านายสาวใหญ่ไฮโซนั้น แอบมีความสัมพันธ์ลึกซื้งกับวิญญูอยู่ แม้ว่าเจ้าหล่อนจะมีสามีตีตราก็ตาม
“พี่ลูกเป็ดล่ะ” ก่อนขึ้นเครื่องเมื่อยี่สิบชั่วโมงก่อน ลูกเป็ดมาส่งเธอขึ้นเครื่อง กระซิบบอกเธอว่าอย่าบอกใครเด็ดขาดว่าเธอไม่ร่วมเดินทางมาด้วย แต่กลับแอบไปเที่ยวกับแฟนหนุ่มที่เสม็ด ลูกเป็ดตั้งใจปิดโทรศัพท์ เพื่อจะได้ไม่ต้องมีใครตามตัวเจอภายในสามวันนี้ “เราเองก็ช่วยปิดบังเรื่องพี่ลูกเป็ดหนีเที่ยว แล้วเราจะทำอย่างไรดี”
เธอคิดไม่ตก เดินไปเดินมาจนวุ่น หากแล้วทางออกของเธอก็เปิดจนโล่ง เมื่อเสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าสะพายดังขึ้น เธอรีบเดินไปหยิบขึ้นมาดูทันที
“คุณลุง!!!” ชายวัยหกสิบที่เธอเจอที่ภูเก็ตเมื่อสามเดือนก่อน ขณะที่เขาเกือบจะถูกรถมอเตอร์ไซค์เฉี่ยวชน เธอเข้าไปดึงตัวเขาออกมาจากทางมอเตอร์ไซค์ได้สำเร็จ เธอกลายเป็นผู้มีพระคุณของเขาทันที และเมื่อเขาทราบชื่อและนามสกุลของเธอ เขามีสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อย แต่ไม่พูดอะไร
เขาต้องการตอบแทนบุญคุณของเธอ จึงมอบห้องพักที่คอนโดมิเนียมหรูใจกลางกรุงเทพฯ ให้เธอหนึ่งห้องเป็นของขวัญสำหรับความดี ทั้งที่เธอปฏิเสธแล้ว เขาก็ยังยัดเยียดห้องพักแสนสบายให้แก่เธอโดยจัดการเรื่องเอกสารการโอนเป็นที่เรียบร้อย รอเพียงแค่เธอยอมเซ็นต์เท่านั้น
เธอเข้าพักที่ห้องนั้นแล้วเมื่อต้นเดือนนี่เอง โดยแสดงเจตจำนงขอเช่า แต่ชายชราไม่ยอม เธอยืนยันว่าหากเขาไม่ยอมรับค่าเช่า เธอจะไม่อยู่ที่ห้องนั้น ในที่สุด เขายอมรับค่าเช่า แต่เพียงในราคาที่ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน
“สวัสดีค่ะคุณลุง”
“เป็นไงบ้าง ที่พักปลอดภัยดีไหม” น้ำเสียงเอื้ออาทรนั้น ทำให้เธอรู้สึกดีไม่น้อย เธอมองออกว่าเขาไม่ได้ต้องการความสาวสวยของเธอเป็นรางวัลสำหรับความดีที่เขาเอื้ออาทรให้ตลอดหนึ่งเดือนที่อยู่กรุงเทพฯ เธอรู้สึกได้ถึงความเมตตาอารีที่ไม่มีความใคร่แอบแฝงอย่างที่ใครเข้าใจ เธอจึงตอบแบบไม่เต็มปากเต็มคำนัก เพื่อให้ท่านสบายใจที่สุด
“ปลอดภัยดีค่ะ สะดวกสบายทุกอย่าง” แต่ถึงจะปิดบังทุกเรื่องที่เกิดขึ้นที่อเมริกา แต่เธอก็คงไม่ปิดบังเรื่องการเดินทางกลับประเทศไทยโดยเร็วที่สุด “แต่ขวัญอยากจะกลับให้เร็วที่สุดค่ะ”
“อ้าว ทำไมล่ะ งานเสร็จแล้วรึ”
“ยังค่ะ แต่เขาสามารถหานางแบบที่นี่ถ่ายแทนได้ ขวัญอยากกลับไปขึ้นเวทีประกวดในวันมะรืนค่ะ”
“อ้อ...จะเอาอย่างนั้นหรือ”
“ขวัญอยากจะรบกวนคุณลุงให้ช่วยหน่อยค่ะ คือกระเป๋าของขวัญหาย ทำให้เอกสารการเดินทางของขวัญหายไปหมดเลย รวมทั้งตั๋วเดินทางกลับด้วยค่ะ” เธอเล่ารายละเอียดให้ชายสูงวัย ผู้เป็นนักธุรกิจใหญ่และร่ำรวยระดับมหาเศรษฐีคนหนึ่งของเมืองไทยฟังอย่างไม่อาย เธอต้องการความช่วยเหลือจริงๆ หลังจากวางสายไปได้ไม่นาน คุณลุงอเนก ก็โทรศัพท์กลับมาหาเธออีกครั้ง
“กลับได้พรุ่งนี้เลย เรื่องเอกสารไม่ต้องห่วง อีกไม่กี่ชั่วโมง ทุกอย่างจะเรียบร้อย ส่วนเรื่องตั๋วเครื่องบิน ฉันจองตั๋ววีไอพีให้แล้ว หนูแค่ไปยื่นเรื่องที่เคาน์เตอร์...” หญิงสาวดีใจอย่างที่สุด เธอสามารถกลับบ้านได้แล้ว โดยไม่ต้องห่วงเรื่องเอกสารที่ยังอยู่ในมือของวิญญู เธอเชื่อว่าระดับอเนก เอื้ออังกูรไกร จัดการเรื่องนี้ได้ไม่ยาก
หญิงสาวลากกระเป๋าออกจากห้องพัก หากแล้วไม่ทันจะพ้นผ่านจากประตูห้อง วิญญูกลับมา ด้วยท่าทางเย้ยหยันเต็มที่ เขาเพิ่งลงไปพบหญิงสาวคนหนึ่งที่คอฟฟี่เล้าจ์ หลังจากที่เจ้าหล่อนโทรศัพท์มาหาเขาหลายสายก่อนหน้านี้เพื่อให้ลงไปเจรจาเรื่องงานกับเธอ ด้วยเจ้าหล่อนมาเที่ยวอเมริกาพอดี จึงอยากจะตกลงให้เสร็จๆ
“พี่เป๊ก!!!”
“จะไปไหนขวัญ”
“กลับบ้านค่ะ”
“จะกลับได้ไง พี่จ่ายเงินซื้อตั๋วให้เธอมานี่เพื่ออะไร” เขาขยับเท้าเข้าหา หญิงสาวขยับถอยอย่างหวาดๆ “คิดว่าพี่ลงทุนเปล่าๆ เหรอ คนอย่างพี่ ทำอะไรก็ต้องคุ้ม ถ้ายังได้ไม่คุ้ม ไม่จบแน่”
ขวัญชนกกลืนน้ำลายแทบไม่ลงคอ แต่ยังเชิดหน้าสู้ “ก็ลองเข้ามาอีกสิคะ คราวนี้ ขวัญไม่แค่สั่งสอนพี่แน่ ขวัญเอาจริงขึ้นมาเมื่อไหร่ พี่เป๊กหนาวแน่”
“ก็ลองดู ระหว่างผู้ชายอย่างพี่ กับเธอที่เป็นแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ไปไหนไม่รอด”
ขวัญชนกใช้ความคิดขณะที่เขายังขยับเท้าเข้าหา “แต่พี่มีเมียอยู่แล้ว”
“มีแล้วไง ก็แค่อยากมีเพิ่ม”
“ขวัญไม่ใช่สเป๊กพี่หรอกค่ะ”
“ใครบอก” แล้วเขาก็ใช้สายตาลามเลียเธอตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า แม้ในเสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงยีนขายาวและเสื้อโค้ตตัวใหญ่ที่หุ้มร่างกายไว้ เธอยังคงเซ็กซี่แม้ในเสื้อผ้าปกปิดมิดชิด “พี่อยากได้ขวัญมาตั้งแต่วันแรกที่เจอแล้วนะ ขวัญทำให้พี่ร้อนไปทั้งตัวเลย ทุกวันนี้ไม่ว่าพี่จะนอนกับใคร พี่ก็แอบคิดถึงขวัญตลอด”
ขวัญชนกตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์สามี ทว่า โทรศัพท์เครื่องนั้นดังลั่นอยู่ในบ้านนี่เอง เธอหันไปมองต้นเสียง ถึงได้เห็นว่ามันวางอยู่บนโซฟาตัวยาว“โทรศัพท์ก็ไม่ได้เอาไป” เธอเริ่มหงุดหงิดขึ้นมาแล้ว เมื่อนึกถึงสันดานของสามีที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด เขามันประเภทเจ้าชู้ไม่เลือกกินเสียด้วย ป่านนี้อาจไปนอนกกอยู่กับสาวๆคนไหนก็ได้ “อย่าบอกนะว่าแอบไปตั้งแต่ตอนดึก”คิดแล้วก็เจ็บใจจัด รีบกลับเข้าห้องไปเปลี่ยนชุด เตรียมตัวออกข้างนอก“คอยดูนะ ถ้าจับได้ว่าคุณนอกใจฉัน ฉันจะเลิกกับคุณทันทีเลย”หญิงสาวไม่รอรีให้เสียเวลา เธอออกจากบ้านหลังสวย แล้วมุ่งสู่อพาร์ตเม้นต์ของชายหนุ่ม ที่ๆเขาเช่าทิ้งไว้สำหรับอยู่อาศัยขณะเรียนหนังสือ ตั้งแต่กลับมาบอสตันเมื่อต้นสัปดาห์ก่อน จนถึงตอนนี้ เธอยังไม่ได้ไปเหยียบที่นั่นเลยสักครั้ง เขาอ้างว่ายังไม่ได้จ้างแม่บ้านมาทำความสะอาด กลัวเธอจะสูดฝุ่นเข้าปอด เดี๋ยวกระทบถึงลูก“จอมทัพ!!!” เธอเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน “คุณไม่ได้ตายดีแน่!!!”ขวัญชนกโบกรถแท็กซี่อย่างร้อนรน เมื่อเข้าไปนั่งที่เบาะหลังแล้ว เธอบอกจุดหมายปลายทางให้โชว์เฟอร์รับทราบอย่างละเอียดยิบ จากนั้นรถก็วิ่งฉิวทิ้งห่างบ้านพักห
บอสตัน...ในวันที่สายฝนเย็นฉ่ำโปรยปรายลงมาไม่ขาดสาย“ทะเลที่นี่ เวลาฝนตกก็สวยไปอีกแบบนะ”“แต่คุณสวยกว่าอีก”“อย่ามาปากหวานหน่อยเลย”“ก็มันเรื่องจริงนี่” ทั้งคู่ยืนอยู่ตรงหน้าต่างบานใหญ่ในบ้านพักตากอากาศหลังสวยริมทะเล โดยชายหนุ่มสวมกอดหญิงสาวจากด้านหลัง ขณะท้องสาวนูนขึ้นเล็กน้อย “เมียของผม ทั้งสวย ทั้งน่ารัก แถมยังเซ็กซี่ไปทั้งตัว นี่ขนาดท้องอยู่นะ สาวๆที่นี่สู้คุณไม่ได้สักคน”“สู้ไม่ได้ หมายความว่าไงคะ” เจ้าหล่อนปลดมือของชายหนุ่มออก แล้วเหลียวหน้ากลับมามอง ด้วยตาดุเข้ม “หรือว่า แอบกลับไปทบทวนความหลังกับสาวๆของคุณมา”“อย่าหาเรื่องน่า ตั้งแต่มานี่ต้นสัปดาห์ที่แล้วจนถึงวันนี้ ผมก็อยู่กับคุณตลอด ระแวงไม่เข้าเรื่อง”“ไม่เข้าเรื่องยังไง คนอย่างคุณก็รู้ๆกันอยู่” เจ้าหล่อนทำปั้นปึ่ง เดินผละมาที่โต๊ะอาหาร ซึ่งมีชุดชงชาและกาแฟวางอยู่ เธอรินชาใส่ถ้วย ควันพวยพุ่ง หอมฟุ้งไปทั้งบ้านจอมทัพเดินตามมากอดแล้วจูบภรรยาอย่างโหยหาและเอาใจ“อย่าหงุดหงิดเลยนะ เดี๋ยวส่งผลไปถึงลูก มันไม่ดี”“ไม่รู้สิคะ สงสัยจะเป็นเพราะโฮโมน”“ผมอยากให้ลูกชายของผมเป็นเด็กอารมณ์ดีนะ”“รู้ได้ไงว่าลูกชาย”“คนที่สองต้องลูกชายอยู่แล้
‘ไม่จริง’“เรื่องนี้คุณแม่กุลธิดาของผมทราบเรื่องดีครับ เพราะท่านอยู่ในเหตุการณ์ทั้งสองเหตุการณ์”จอมทัพหันมามองเธอด้วยสายตาผิดหวัง เธอตั้งสติแล้วลงจากเวทีมาหาเขา โผเข้ากอดเขาแล้วสะอื้นฮึกฮัก นักข่าวพากันกระหน่ำถ่ายรูปไม่หยุด“จอมยังไม่ตาย แม่ดีใจเหลือเกิน จอมหายไปไหนมาลูก ทำไมมาเอาป่านนี้”ชายหนุ่มผละจากอ้อมกอดของมารดาเลี้ยง ด้วยท่วงท่าเย็นชา ไร้เยื่อใย“ขอบคุณที่คุณแม่เลี้ยงดูผมมานะครับ”กุลธิดารู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูก เธอเองที่เป็นคนทำลายความรักความเชื่อใจของผู้ชายคนนี้จนหมดสิ้น“จอม...”“ผมรักคุณแม่นะครับ ถึงแม้คุณแม่จะไม่เคยรักผมเลยก็ตาม”“จอม...ไม่จริงลูก”“พอเถอะครับคุณแม่ พอซะทีเถอะ!!!”กุลธิดาอึ้งจนพูดไม่ออก“คิดว่าแม่ไม่เสียใจเหรอที่เห็นลูกตาย...”ชายหนุ่มหัวเราะทั้งน้ำตา หันมองหน้ามารดาเลี้ยงด้วยหัวใจที่แตกสลาย “ผมรู้หมดแล้วครับ ว่าแม่ทำอะไรลงไปบ้าง และตอนนี้หลักฐานทุกอย่างก็อยู่ที่ตำรวจหมดแล้วด้วย ทุกคดี รวมทั้งคดีบงการฆ่าผมด้วย!”ทุกคนที่ได้ยินต่างพากันตกใจกับข่าวนี้ ก่อนจะจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์กันมันปาก ขณะกุลธิดาปากคอสั่น ร้องบอกทุกคนว่าสิ่งที่จอมทัพพูดนั้นไม่ใช่เรื่องจ
“ไม่ได้”เขาแสร้งทำเป็นหูเพี้ยน ก้มเข้าหาเธอแล้วประกบริมฝีปากบนเนื้อปากอิ่มแสนรั้นจนแนบแน่น“อือ...”ริมฝีปากร้ายจูบอย่างอ่อนโยนเพียงชั่วอึดใจหนึ่ง ก่อนจะถอนออกมาอย่างแสนเสียดาย“อ่า...มีความสุขจัง...งานนี้ถึงโดนตบก็ยอม”“คุณจอม!” เธอหน้าแดงก่ำเพราะความเขิน รีบหันมองรอบกาย เพราะกลัวพ่อแม่จะเห็นเข้า “คุณทำบ้าอะไรของคุณเนี่ย”“ผมรักคุณนะ”เขาบอกรักเธอตลอดเวลาจนเธอเริ่มหมดความตื่นเต้นไปแล้ว...อย่างนั้นหรือ...ไม่เลย...ไม่ว่าเขาจะบอกรักเธอสักกี่ครั้ง เธอก็ยังตื่นเต้นได้ทุกครั้งสิน่า“พูดอยู่ได้ น่าเบื่อ”“ผมจะรีบกลับมานะ”“ดูแลตัวเองด้วย”“ว่าไงนะ” เขาได้ยินแล้ว แต่อยากได้ยินอีก เพราะมันทำให้เขามีความสุขแทบบ้า “คุณว่าไงนะขวัญ”เธอไม่อยากพูดอีก มันเสียศักดิ์ศรี แค่ครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว“อย่าไปทำอะไรบุ่มบ่ามล่ะ คิดจะทำอะไรก็ต้องรอบคอบ มีสติ ห้ามประมาทเด็ดขาด”เขาคว้ามือเธอไปจับแน่น “คุณเป็นห่วงผมเหรอ”“ก็...คุณจะไปหาเงินมาสร้างโรงพยาบาลไม่ใช่เหรอ ฉันก็แค่ห่วงผลประโยชน์ของคนที่เกาะ” เธอรู้จากหมอทินกรมาสักพักแล้ว เกี่ยวกับโครงการก่อสร้างโรงพยาบาลขนาดเล็กบนเกาะพันดาว ที่เขาเป็นเจ้าของเงินทุนแล
“ผมจะกลับไปกรุงเทพฯสักพักนะ”เขามาบอกเธอที่บ้านในตอนบ่ายของวันหนึ่ง ขณะที่เธอกำลังถักเสื้อไหมพรมตัวที่หกให้ลูกของเธออยู่ที่หลังบ้าน“ก็ไปสิ ไม่จำเป็นต้องมาบอกฉันหรอก”เธอไม่หันมามองเขาด้วยซ้ำตอนที่พูดออกมา น้ำเสียงของเธอแข็งกระด้าง ไม่น่าฟังสักเท่าไหร่ แต่เขาก็ไม่ถือสาหาความหรอก เขารู้ว่าเธอยังโกรธและไม่ให้อภัยเขา แม้เวลาเกือบเดือนที่ผ่านมา เขาจะพยายามเอาอกเอาใจเธอมากแค่ไหน แต่เธอก็ทำเป็นมองไม่เห็น“ผมจะไปสะสางปัญหาที่บริษัท แล้วก็จะไปให้ปากคำเพิ่มเติมเรื่องคดีของคุณด้วย อีกไม่นานคนร้ายตัวจริงจะได้รับผลกรรมที่ทำไว้กับคุณแล้วนะ คุณสบายใจได้”“ทุกวันนี้ฉันก็สบายใจดี การที่ไม่ต้องไปสู้รบปรบมือกับใคร ไม่ต้องไปแก่งแย่งแข็งขันกับใคร มันทำให้ฉันค้นพบความสุขที่แท้จริง”“ผมดีใจนะที่คุณมีความสุข” เขาเดินมานั่งลงข้างๆกับเธอ มองเธอด้วยสายตาล้นเอ่อไปด้วยรัก เวลานี้ท้องของเธอเห็นชัดมากแล้ว จนเธอต้องสวมชุดคลุมท้องเพื่อให้คล่องตัวขึ้น“ทำไมเสื้อผ้าของลูกมีแต่สีหวานๆ”“ก็ลูกฉันเป็นผู้หญิงนี่นา”“จริงเหรอ!” เขาได้ยินก็ตื่นเต้นแทบคลั่ง เกือบจะคว้าเธอมากอดให้ชื่นใจแล้ว หากไม่โดนสายตาพิฆาตเสียก่อน“นี่ผมก
“หมอ...หมอ...” หมอชราพูดออกมาแทบไม่ออก “หมอฝันจะเห็นสิ่งนี้มาตลอด แต่หมอไม่มีปัญญาจะทำ”“ไม่จริงครับ หมอมีปัญญาจะทำ แต่หมอรอผมอยู่ และตอนนี้ผมก็มาแล้วไง...นี่แหละคือโชคชะตาของผม”“ขอบคุณนะ ที่เห็นคุณค่าของคนที่นี่”“ผมต่างหากที่ต้องขอบคุณทุกคนที่นี่...ความจริงผมเกิดความคิดนี้ขึ้นมา ก็เพราะว่าอีกไม่นานนี้ ลูกของผมจะคลอดที่นี่ ผมเลยอยากทำอะไรเพื่อคนที่ผมรักด้วย”“ไม่ต้องห่วงนะ หมอจะทำคลอดลูกของคุณให้ดีที่สุด และเด็กคนนี้จะภูมิใจที่ได้มีพ่ออย่างคุณ”“ผมก็หวังเช่นนั้นครับ...”หวังว่าเขาจะได้ทำอะไรเพื่อลูกน้อยของเขาที่กำลังจะคลอดในอีกสี่เดือนข้างหน้า แม้ไม่มีโอกาสได้ทำหน้าที่พ่อที่รักเขาอย่างสุดหัวใจ แต่การได้รู้ว่าเขายังปลอดภัยและแข็งแรงดี นั่นก็คงจะเพียงพอให้หัวใจของเขาได้มีแรงเดินต่อ“ตกลงหนูท้องกับใคร”กุลธิดาเค้นถามหญิงสาวอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ หลังจากที่เจ้าหล่อนพูดบางสิ่งที่ทำให้เธอปวดหัวไม่หาย“ไม่รู้สิคะ หนูจำไม่ได้”“จำไม่ได้เลยเหรอว่านอนกับใครบ้าง”สิริวิไลทำหน้าขัดใจ “จะจำไว้ทำไมคะ ก็แค่สนุกๆ ไม่ได้จริงจังสักหน่อย จะซีเรียสทำไมคะ เพราะถึงยังไง ลูกของหนูก็ต้องเป็นลูกของคุณจอมทัพ