บทที่ 37
ข้าเองก็คิดถึงเจ้า
แม้ว่าเฟิงหยางจะออกบ้านไปแล้ว แต่หัวใจของฉินหรูยังเต้นระรัว
เพียงแค่ถูกเฟิงหยางมองด้วยสายตาลึกล้ำ ฉินหรูก็รู้สึกหวั่นไหว ในอกร้อนผ่าวๆ
นางกลายเป็นคนอ่อนไหวขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน
ว่าแต่ เมื่อกี้เขาบอกว่ากลับมาค่อยคุยเรื่อง ‘น้องของอาเหยา’ สินะ
แค่คำพูดของเด็ก เหตุใดต้องคิดเป็นจริงเป็นจังขนาดนั้นด้วยเล่า!
ถึงจะคิดแบบนั้น แต่ฉินหรูกลับกระสับกระส่าย ใจลอยตลอดทั้งวัน
….
สุดท้าย คืนนั้นเฟิงหยางก็ไม่ได้กลับมาอย่างที่บอก
ฉินหรูรอเขาเกือบทั้งคืน กระทั่งผล็อยหลับไปพร้อมกับอาเหยา
ตอนตื่นขึ้นมา สายตาของฉินหรูอดจะมองบนเตียงนอนฝั่งด้านนอกไม่ได้ ที่นอนตรงนั้นยังคงว่างเปล่า พอเห็นแบบนั้นหัวใจของนางพลันโหว่งหวิว
ในตอนนั้นเอง จู่ๆ คำพูดของเสี่ยวจินก็ผุดเข้ามาในหัว
‘ถ้าเขาไม่พยายามแตะต้องเจ้า ไม่ใช่ว่าเขากำลังซุกซ่อนผู้หญิงอื่นอยู่หรือ’
นั่นสินะ ตั้งแต่เฟิงหยางกลับมาเมืองฉาง นอกจากจับมือกันนอน เขากลับไม่เคยแม้แต่จะกอดนางเลยสักครั้ง
หากว่าเมื่อคืนเขาไม่ได้กลับบ้าน แต่ไปหาผู้หญิงคนอื่นเล่า นางจะทำอย่างไรกับขาเก้าอี้ทองคำนี้ดี!
ฉินหรูคาดเดาไปต่างๆ นานา ยิ่งคิดฟุ้งซ่านก็เหมือนมีอะไรสุ่มแน่นในอก
ทั้งที่ตอนแต่งงานกัน นางกับเขาไม่มีความรักและความผูกพันใดๆ ทว่าตอนนี้ กลับรู้สึกว่าตัวตนของเฟิงหยางมีความสำคัญต่อนางมาก
ชาติก่อน นางปฏิเสธเฟิงหยางจึงมีจุดจบที่ไม่สวย พอได้รับโอกาสกลับมาเกิดอีกครั้ง นางเลยสาบานกับตัวเองแล้วว่าจะมีสามีเพียงแค่คนเดียว ไม่มองใครอื่น จากนั้นก็เฝ้ารอเขามาตลอด ทั้งหมดนี้ก็เพื่ออนาคตที่ดี
นางคงคาดหวังกับเฟิงหยางมากเกินไป และนี่อาจเป็นสาเหตุที่ในอกของนางรู้สึกแน่นตื้อกระมัง
“...แม่”
เสียงเล็กๆ ของอาเหยาดังขึ้น ดึงสติและความคิดของฉินหรูกลับมาปัจจุบัน
เจ้าตัวเล็กขยี้ตาปรือๆ ของเขา พร้อมกับลุกขึ้นมานั่ง
ฉินหรูลูบศีรษะของเจ้าตัวน้อย “ตื่นแล้วหรือจ๊ะ”
“อือ”
ศีรษะเล็กขยับขึ้นลง
หลังจากตื่นเต็มตา อาเหยาเพิ่งเห็นว่าท่านพ่อของเขาไม่ได้อยู่ในห้อง
ปกติแล้ว หลังจากอาเหยาตื่น ท่านพ่อกับท่านแม่จะหอมแก้มของอาเหยาแล้วค่อยลุกไปล้างหน้ากันสามคน
อาเหยามีความสุขมาก
แต่ว่า…วันนี้กลับมีเพียงท่านแม่คนเดียว แล้วท่านพ่อไปไหน?
เมื่อไม่เห็นท่านพ่อ อาเหยาจึงถามท่านแม่ด้วยความสงสัย
“ท่านพ่อล่ะ?”
“พ่อเจ้ายังทำงานอยู่เลยน่ะ”
“ทำงาน?”
อาเหยาเอียงหัว ทำหน้าสงสัย ผ่านไปนานก็ยังไม่เอียงศีรษะกลับ
“ตอนนี้เจ้ายังเด็ก ไม่เข้าใจก็ไม่เป็นไร…ในเมื่อตื่นแล้วพวกเราลุกไปล้างหน้ากันดีกว่า”
“อือ”
หญิงสาวยิ้มอย่างเอ็นดู ก่อนจะลูบผมที่กระดกยุ่งเหยิงของอาเหยาและจัดแจงเสื้อผ้าให้เรียบร้อย
ระหว่างนั้น อาเหยาทำหน้ามุ่ย
นางยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ “อาเหยา เจ้าคิดถึงพ่อของเจ้าหรือ”
ศีรษะเล็กๆ ผงกขึ้นลง ยอมรับว่าคิดถึงท่านพ่อ
“เดี๋ยวพ่อเจ้าก็กลับมาแล้ว”
ฉินหรูช่วยอาเหยาจัดเสื้อผ้าเสร็จแล้วก็อุ้มลูกลงจากเตียง จูงมือน้อยๆ เดินไปทางประตู
พอมาถึงหน้าประตู อยู่ดีๆ ขาสั้นป้อมของอาเหยาก็ไม่ยอมเดินต่อ ทำให้ฉินหรูต้องหยุดเดินไปด้วย
“อยากให้แม่อุ้มหรือ” ฉินหรูถามลูกชาย
อาเหยาส่ายหน้าขวับๆ สักครู่ค่อยเงยหน้าเรียกฉินหรูด้วยตาใสแป๋ว
“ท่านแม่”
“มีอะไรหรือ?”
“ท่านแม่คิดถึงท่านพ่อไหม”
คำถามของอาเหยาทั้งไร้เดียงสาและตรงไปตรงมาอย่างยิ่ง
ฉินหรูได้ยินลูกชายตัวน้อยถามอย่างนั้น อดไม่ได้ที่จะยิ้มด้วยความเอ็นดู
“แม่เองก็คิดถึงพ่อของเจ้าเหมือนกับเจ้านั่นแหละ”
ตอนที่กำลังจะถามอาเหยาต่อว่า ‘ถามแม่ทำไมหรือ’ พลันนั้น ประตูถูกผลักให้เปิดจากข้างนอก ร่างสูงของเฟิงหยางยืนตระหง่านอยู่ตรงหน้าฉินหรูพอดี
ฉินหรูนิ่งอึ้ง ทั้งตกใจทั้งสงสัยว่าเฟิงหยางจะได้ยินคำพูดนั้นของนางเมื่อกี้หรือไม่
แต่…คงได้ยินนั่นแหละ ไม่อย่างนั้น มุมปากของเขาจะยกยิ้มอย่างมีพิรุธหรือ!?
แม้ตระหนักเช่นนั้น ฉินหรูก็รู้ว่าสายไปที่จะแก้ตัว สายตาของนางเหลือบมองสามีแทน
เฟิงหยางยังคงสวมเสื้อผ้าเหมือนเมื่อวาน เสื้อผ้าของเขาไม่มีรอยยับ เหมือนว่าจะนั่งทำงานทั้งคืน ที่ผิดสังเกตเห็นจะเป็นใต้ตาที่ดำคล้ำ งานยุ่งจนไม่ได้พักเลยสินะ
“นี่ท่านทำงานทั้งคืนเลยหรือ”
เขาพยักหน้ายอมรับตรงๆ แล้วเดินเข้ามาในห้อง ตรงไปยังราวไม้ที่ตากเสื้อคลุม
นางถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก้าวตามเขาไป ช่วยถอดเสื้อคลุมไปพาดไว้บนราวไม้ ดันเขาให้ไปที่เตียง มิหนำซ้ำยังช่วยนวดไหล่และขมับ ทุกการกระทำเป็นไปตามสัญชาตญาณทางกาย
ตอนอยู่ที่ไร่ ยามเห็นท่านพ่อท่านแม่ขุดดินลอกคลองปวดเหมื่อยทั้งตัว นางก็จะช่วยนวดให้พวกท่านเช่นนี้เสมอ
ส่วนอาเหยา แม้เขาจะเป็นเด็ก แต่ด้วยความที่ถูกอบรมมาอย่างดี ทั้งยังเห็นท่านแม่เป็นตัวอย่าง เจ้าตัวเล็กก็ช่วยบีบๆ นวดๆ ท่านตากับท่านยายเหมือนกัน
ดังนั้นพอเห็นท่านแม่นวดให้ท่านพ่อ เจ้าก้อนน้อยจึงเดินเข้ามาหยุดข้างเฟิงหยาง กำปั้นน้อยๆ ทั้งสองข้างทุบลงบนขาของชายหนุ่ม
ฉินหรูกับเฟิงหยางเห็นแบบนั้นอดยิ้มขันไม่ได้
เฟิงหยางลูบหัวลูกชายอย่างทะนุถนอม “เด็กดี”
ถูกบิดาชม อาเหยายิ้มแก้มแทบปริ
“เอาละ นวดพอแค่นี้ก่อน” ฉินหรูบอกเจ้าตัวน้อย จากนั้นก็หันมาพูดกับสามี “ท่านกลับมาเหนื่อยๆ นอนพักให้สบายเถอะ ข้าจะพาลูกไปล้างหน้า”
“อืม”
เฟิงหยางพยักหน้ายิ้มๆ ให้ภรรยา
“ท่านพ่อ…”
“อาเหยา พ่อเจ้าทำงานมาเหนื่อยๆ ปล่อยให้พ่อเจ้านอนพัก อย่ากวนเขาเลยเนอะ”
“ได้!”
จากนั้น นางจูงมืออาเหยาตั้งท่าจะเดินออกจากห้อง
จังหวะที่นางกำลังหมุนตัว จู่ๆ มือใหญ่ก็คว้ามือนางไว้
ฉินหรูหันกลับมามองเฟิงหยางด้วยสีหน้าตั้งคำถาม
“...??”
ทว่าเฟิงหยางกลับไม่พูดไม่จา นางเองก็เดาอารมณ์และความคิดของเขาไม่ถูก เพราะเขาเป็นคนนิ่งๆ และพูดน้อย
“ข้าลืมถามท่านไปเลย ท่านกินอะไรมาหรือยัง อยากให้ข้าเตรียมอะไรไว้ให้เป็นพิเศษหรือไม่”
กระนั้น เฟิงหยางยังคงเงียบ
ผ่านไปสักครู่ เขาส่ายหน้าบอกว่า “ไม่มีอะไร” จากนั้นค่อยปล่อยมือจากนาง
“ถ้าอย่างนั้น ข้าพาลูกไปล้างหน้าแล้วนะ”
“อืม”
ฉินหรูยิ้มน้อยๆ ให้กับเฟิงหยาง แล้วจูงมืออาเหยาเดินมาถึงหน้าประตู ทันใดนั้น เสียงทุ้มเอ่ยเรียกชื่อนางแผ่วเบา
“เสี่ยวหรู”
“เจ้าคะ?” ฉินหรูหันมาถาม
ริมฝีปากของเฟิงหยางคลี่ยิ้มบางขณะกล่าว
“ข้าเองก็คิดถึงเจ้า”
บทพิเศษมิตรภาพ หลังจากเฟิงหยางออกบ้านไปได้สักพัก เสี่ยวจินกับไป๋เหิงก็มาเยือน หญิงสาวทั้งสามยังคงสนิทสนมกันดี แม้ภายหลังต่างแยกย้ายไปมีเส้นทางของตนเอง แต่พวกนางมักมารวมตัวกันบ้านเฟิงบ่อยๆ ไป๋เหิงกับคุณชายใหญ่เซวียเยี่ยนจื่อ คุยกำหนดการและวันแต่งงานเรียบร้อยแล้ว เห็นว่าพธีแต่งงานจะจัดขึ้นในอีกสองอาทิตย์ข้างหน้า เสี่ยวจินลงเอยกับเฉินต้านเมื่อไม่นานมานี้ แม้ไม่ได้จัดงานแต่งงานใหญ่โตเหมือนกับไป๋เหิง แต่อย่างน้อย นางได้กราบไหว้ฟ้าดินและทำพิธีคารวะญาติผู้ใหญ่ “เสี่ยวหรู สามีเจ้าเพิ่งออกไปค่ายทหารหรือ ระหว่างทางพวกข้าเห็นเขาควบม้าออกไปพอดี นี่ๆ เจ้ากับสามีหักโหมเกินไปหรือไม่ ทำเขาไปสายแล้ว” เสี่ยวจินเปิดประเด็น ท้ายประโยคยังแซวสหายพลางหัวเราะคิก “ใช่ๆ ไปค่ายเวลานี้ ไม่นับว่าสายไปหรือ” ไป๋เหิงยิ้มแย้ม เอ่อออกับเสี่ยวจิน ฉินหรูแกล้งทำหน้ามุ่ย โบกมือแล้วกล่าวตัดบทพวกนางทั้งสอง “ช่างเรื่องของสามีเถอะ ข้าสนใจเรื่องของพวกพี่สาวมากกว่า พี่เสี่ยวจิน วันนี้ปักปิ่นมาสวยเชียว ไม่คิดเลยว่าเฉินต้านจะเป็นสามีที่เอาอกเอ
บทพิเศษเป็นวันที่ดี รุ่งอรุณมาเยือน แสงอาทิตย์สีทองทอประกายเข้ามาทางหน้าต่าง ทันทีที่เฟิงหยางลืมตาตื่นขึ้น พลันพลิกตัวนอนตะแคง มุมปากยกยิ้มขณะมองภรรยาที่ยังหลับใหลบนที่นอน เมื่อคืนเขาคงรังแกนางมากไปหน่อย ทำให้นางอ่อนเพลียต้องตื่นสายแล้ว คิดจบ เฟิงหยางก็ยื่นมือออกไปลูบไล้แก้มเนียนของภรรยาแผ่วเบา ทุกครั้งที่ตื่นขึ้นมาท่ามกลางความมืด เขารู้สึกถึงความสุขและอุ่นหัวใจเมื่อเห็นว่านางยังอยู่เคียงข้าง ครู่ต่อมา ขนตาหนาเป็นแพรของหญิงสาวขยับไหวราวกับปีกผีเสื้อ ก่อนดวงตาคู่สวยจะเปิดปรือขึ้น ฉินหรูค่อยๆ ลืมตาตื่น ทันใดนั้นก็เห็นว่าสามีกำลังยิ้มมองนางอยู่ ริมฝีปากของนางพลันคลี่ยิ้มให้เขาด้วยความอ่อนเพลีย ขณะเดียวกัน ดวงตาคู่สวยก็เต็มไปด้วยความรักที่ไม่มีวันหมด “ท่านพี่...” ริมฝีปากของฉินหรูขยับเรียกสามีแผ่วเบา “ข้าทำเจ้าตื่นหรือ” แม้เฟิงหยางจะถามเช่นนั้น หากนิ้วมือกลับเลื่อนลงมาลูบไล้กลีบปากอิ่มสวย ราวกับไม่อาจหักห้ามใจให้ปล่อยมือจากนาง “ปกติข้าตื่นเช้ากว่
บทพิเศษอุ่นรัก(อีกครั้ง) กลิ่นอาหารที่กำลังปรุงใหม่ๆ ลอยมาจากโต๊ะกลางห้อง กลิ่นนั้นหอมมาก ทั้งยังทำให้กระเพาะของเฟิงหยางถึงกับร้องระงม ตั้งแต่รับนางกับลูกกลับมาอยู่ด้วยกัน ผ่านมาหลายเดือนแล้ว แม้นานๆ ครั้งนางจะเข้าครัวสักที แต่เฟิงหยางย่อมรู้ถึงความอร่อยในรสมือของฉินหรู นอกจากนี้ยังทำให้เขาคลั่งไคล้อย่างที่สุด เช้านี้เฟิงหยางครึ้มอกครึ้มใจเป็นพิเศษ เพราะไม่มีเรื่องใดให้เขาต้องปวดหัวหรือเป็นกังวลอีกแล้ว เหนืออื่นใด คนงามของเขาเป็นยอดภรรยาหาผู้ใดเทียบไม่ได้ หัวใจเขามอบให้นางไปจนหมดสิ้น สิ่งที่ทั้งคู่ยังขาดคือการเติมความหวานละมุนละไมให้แก่กัน อีกอย่างหนึ่ง ช่วงนี้อาเหยาอ้อนไปอยู่บ้านท่านตาเพราะกำลังเห่อน้องสาว นับว่าทางสะดวก! หลังจากจบคดีความของเสิ่นเทา ผ่านมาแล้วสองเดือน เขากับนางไม่ได้ร่วมเตียงกันอีกเลย เขาเองก็เป็นบุรุษ ย่อมมีความใคร่ อยากกอดภรรยาใจจะขาดอยู่รอมร่อ ตั้งแต่กลับมาอยู่ด้วยกัน เขาเพิ่งจะกอดนางไปแค่คืนเดียวก็ตอนที่อาเหยาไปอยู่กับท่านตาท่านยาย! เวลานี้ เฟิงหยางกำลังแช่ตัวอยู่ใน
บทที่ 45บทสรุป ย้อนกลับมา ณ ที่ว่าการอำเภอเมืองฉาง หลังจากหัวหน้ามือปราบยกหีบเก็บเงิน เอกสารรายรับรายจ่ายและสมุดรายชื่อเข้ามาในที่ว่าการ เสิ่นเทาก็ทรุดลงกับพื้นทันที คร่ำครวญว่าตนเป็นผู้บริสุทธิ์ หีบเงินและสมุดรายชื่อเหล่านี้เป็นของผู้อื่น ตนถูกคนใส่ความ แน่นอนว่า คำพูดของเสิ่นเทาโกหกอย่างเห็นได้ชัด ตอนที่หัวหน้ามือปราบไปยังห้องลับนั้น หนิงลี่กำลังสั่งให้พวกบ่าวขนย้ายข้าวของออกไปพอดี เรียกได้ว่าจับได้แบบคาหนังคาเขา ในเมื่อหลักฐานแน่นหนาถึงเพียงนี้ เหล่าขุนนางกังฉินยังประทับลายนิ้วมือ สารภาพผิดกันหมดแล้ว เสิ่นเทาก็ไร้หนทางรอดเช่นกัน วันต่อมา เสิ่นเทายอมรับสารภาพ ทั้งยังขอร้องให้ละเว้นชีวิตของเสิ่นเซียวอวี้และหลานที่กำลังจะคลอด นายอำเภอเซวียไม่ได้ตอบทันที แต่ใช้เวลาพิจารณคดีสองวันสองคืน ในที่สุด การตัดสินคดีก็ถูกติดบนป้ายประกาศ ขุนนางกังฉินและเสิ่นเทาเกี่ยวข้องกับคดีมากมาย ทั้งคดีฆาตกรรมทั้งหาเงินมาอย่างมิชอบ ได้รับโทษประหารในอีกเจ็ดวันให้หลัง เสิ่นเซียวอวี้ผู้เป็น
บทที่ 44ชะตากรรมของบ้านเสิ่น ตั้งแต่เสิ่นเทาถูกทางการเรียกตัว หนิงลี่ร้อนรนเหมือนไฟลนก้น เรียกทุกคนมารวมตัวกันที่ห้องโถง หารือว่าจะช่วยเสิ่นเทาอย่างไร เพียงไม่นาน เสิ่นเซียวอวี้กับจางเหมยเหมยก็มาถึง พ่อบ้านเสิ่นกับไฉ่ไฉ่มารอก่อนแล้ว จึงไม่ต้องเสียเวลานาน หนิงลี่นั่งไม่ติดเก้าอี้ เดินกลับไปกลับมาพลางว่า “สามีข้าถูกทางการเรียกตัว ไต่สวนคดีปล่อยกู้และติดสินบน พวกเจ้าช่วยคิดหาวิธีช่วยเขาออกมาหน่อย” พ่อบ้านเสิ่นครุ่นคิด ก่อนจะเสนอให้ยัดเงินนายอำเภอเซวีย ไฉ่ไฉ่นั้นจนปัญญา ไม่มีความคิดดีๆ เนื่องจากยังตรอมใจที่คนรักทอดทิ้งนางไป ด้านจางเหมยเหมยกลุ้มใจยิ่งกว่า เป็นแค่สะใภ้ที่แต่งเข้า ไม่คิดว่าจะต้องมาติดร่างแหไปด้วย ทั้งยังจับต้นชนปลายไม่ถูก ในขณะที่ทุกคนร้อนใจจะเป็นจะตายเรื่องที่เสิ่นเทาถูกจับ กลับมีเพียงคนคนเดียวที่ไม่ทุกข์ร้อน นั่งหัวเราะคิกคักราวกับเห็นเป็นเรื่องตลก คนคนนั้นก็คือเสิ่นเซียวอวี้! เสิ่นเซียวอวี้กวาดสายตามองสีหน้าเป็นทุกข์ของทุกคนในห้องโถง ชี้หน้าเรียงตัวพร้อ
บทที่ 43ไต่สวน คดีขุนนางทุจริตเกี่ยวโยงกับคดีปล่อยกู้ของเสิ่นเทา นอกจากนี้ พบว่าวิธีการทวงหนี้ของเสิ่นเทานั้นยังโหดร้ายทารุณ ถึงขั้นมีผู้เสียชีวิตไม่น้อย ในเมื่อมีผู้เสียชีวิตย่อมเป็นคดีฆาตกรรม แต่เสิ่นเทารอดพ้นความผิดมาได้เพราะความช่วยเหลือจากขุนนางกังฉิน อย่างไรก็ตาม การฆาตกรรมที่เกิดขึ้นซ้ำๆ ย่อมมีหลักฐาน บัดนี้ หลักฐานและพยานบุคคลครบเรียบร้อย นายอำเภอเซวียจึงเรียกขุนนางกังฉินเหล่านั้นสอบสวนทีละคน สุดท้ายถึงค่อยเป็นเสิ่นเทา หลายวันต่อมา เสิ่นเทาถูกเรียกตัวมายังที่ว่าการอำเภอ จากนั้นผู้ช่วยนายอำเภออ่านสรุปสำนวนคดี เสิ่นเทาเบื้องหน้าทำธุรกิจค้าขาย แต่เบื้องหลังปล่อยกู้ มอบเงินสินบนแก่ขุนนาง และยังชุบเลี้ยงโจรกลุ่มหนึ่ง หากลูกหนี้ใช้หนี้คืนไม่ตรงตามกำหนด เสิ่นเทาจะใช้วิธีทวงเงินอย่างโหดเหี้ยมทารุณ กังขังหน่วงเหนี่ยว ทรมานจนถึงแก่ชีวิตก็มี ญาติของลูกหนี้ที่เป็นผู้หญิง จะถูกจับไปขายให้กับหอคณิกา อ้างว่าเพื่อขัดดอก... ทั้งที่เสิ่นเทาทำการอุกอาจ แต่ยังลอยนวลม