หน้าหลัก / รักโบราณ / เกิดใหม่ทั้งที จะเป็นมารดาที่ดีให้ได้! / บทที่ 39 เฟิงหยางเป็นพ่อสื่อให้เสี่ยวจิน

แชร์

บทที่ 39 เฟิงหยางเป็นพ่อสื่อให้เสี่ยวจิน

ผู้เขียน: ฮาจิฮาจิ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-21 09:56:53

บทที่ 39

เฟิงหยางเป็นพ่อสื่อให้เสี่ยวจิน

            “สี่ปีก่อนข้ายังเด็ก อะไรที่เป็นประสบการณ์ครั้งแรกล้วนน่ากลัวทั้งหมดนั่นแหละ!”

            หลังจากเงียบไปสักครู่ ฉินหรูแก้ตัวให้กับตัวเอง สองแก้มแดงระเรื่อ

            เฟิงหยางอมยิ้มพร้อมเอ่อออตามภรรยา “นั่นสินะ”  

            ฉินหรูเหลือบตามองเฟิงหยางด้วยความลังเล สักพักหนึ่ง นางกล่าวเสริมว่า “ถึงตอนนั้นข้าจะหวาดกลัวท่าน แต่ไม่เคยมีความคิดรังเกียจท่านเลย”

            “….”

            ประโยคนี้ ทำเอาเฟิงหยางมองภรรยาเงียบๆ

            ต่อมา มือใหญ่ที่โอบเอวบางลูบไล้แผ่วเบา

            ฉินหรูเกร็งร่าง แม้รู้สึกหวั่นๆ แต่ไม่คิดที่จะหนีเขา 

            มาแล้วสินะ!

            ต้องชิน…ต้องชินเท่านั้น

            ฉินหรูสูดหายใจลึกๆ หลายเฮือก เตรียมใจพร้อมที่จะถูกเฟิงหยางเคี่ยวกรำ

            ทว่าเฟิงหยางเพียงแค่ยกยิ้มมุมปาก ก่อนจะปล่อยมือจากเอวของภรรยา 

            ระหว่างที่ฉินหรูงุนงง เฟิงหยางเปลี่ยนเรื่องแบบปุบปับ

            “ข้าตัดสินใจได้แล้ว เรื่องของเสิ่นเทา ข้าควรจัดการให้เร็วที่สุด เพราะไม่ใช่ปัญหาของข้าแค่คนเดียว เสิ่นเทาก้าวก่ายภายในราชสำนัก ความผิดนี้ยากให้อภัย อีกอย่าง ถึงข้าไม่จัดการ คนอื่นก็ต้องเข้ามาทำแทนอยู่ดี”

            “ท่านทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้ว”

            “ครอบครัวของข้ามีเพียงพวกเจ้า...เจ้ากับอาเหยา”

            เฟิงหยางกล่าวด้วยเสียงทุ้มนุ่ม เมื่อว่าจบ ใบหน้าคมคายก็ซบลงกับอกนุ่มๆ ของภรรยา

            หัวใจของฉินหรูเต้นระรัวด้วยความเขินอาย

            ชายหนุ่มยกยิ้มบนมุมปาก ฟังเสียงหัวใจของนางที่กำลังเต้นระส่ำ

            “ท่านนอนเถอะ ข้าจะอยู่เป็นเพื่อนท่านจนกว่าจะหลับเอง”

            ทันทีที่ฉินหรูกล่าวจบ เฟิงหยางก็หลับตาลง

            น่าแปลกเสียจริง

            ก่อนนี้ไม่มีสักคืนที่เขาจะนอนหลับลง ทั้งที่มีเตียงกว้าง ห่มผ้าอุ่นๆ แต่พอได้กอดภรรยา เฟิงหยางกลับรู้สึกผ่อนคลายมาก และดูเหมือนจะนอนหลับสนิท

            ในยุคที่เต็มไปด้วยสงครามแย่งชิงดินแดน ทุกชีวิตล้วนดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด

            หมู่บ้านที่อยู่ใกล้ชายแดน หลายครอบครัวต้องเสียเสาหลักจากสงคราม หญิงสาวหลายคนหันมาหาเลี้ยงชีพด้วยการขายตัว

            บางครั้งหัวหน้ากองยังซื้อผู้หญิงจากหมู่บ้านใกล้ๆ กลับมาให้เหล่าทหารได้ปลดปล่อยความใคร่  

            เฟิงหยางเองก็เป็นผู้ชาย ย่อมมีความปรารถนา

            แต่ตอนนี้เขาออกจากตระกูลเสิ่นแล้ว ดังนั้นต้องสะสมเบี้ยเลี้ยงทหารเอาไว้ให้มากๆ ตอนกลับไปที่เมืองฉาง เขาจะได้มีเงินก้อนหนึ่งเอาไว้สร้างตัว เลี้ยงดูภรรยาตัวน้อยให้สุขสบาย

            เพราะเหตุนั้น เขาเลยไม่เคยซื้อตัวนางบำเรอเหล่านั้นเลยสักครั้ง ทั้งที่พวกนางมายั่วยวนถึงกระโจม

            พอคิดถึงตรงนี้ เฟิงหยางก็ผล็อยหลับไปพร้อมกับความอบอุ่นจากร่างกายของฉินหรู

            ตอนที่เฟิงหยางตื่นขึ้นมา ฉินหรูก็ไม่อยู่ในห้องแล้ว

            เฟิงหยางยังคงนอนอยู่บนเตียง ยกสองมือขึ้น พิจารณาฝ่ามือของตนนิ่งๆ

            บนฝ่ามือของเขาหลงเหลือไออุ่นเอาไว้จางๆ ราวกับว่านางจับมือของเขาอยู่ตลอด

            …..

            ช่วงสายของวันหนึ่ง

            ลานหน้าบ้านของเฟิงหยาง

            จั่นเถิงเดินนำชายหนุ่มคนหนึ่งไปยังเรือนรับรอง  

            ชายหนุ่มคนนี้เป็นทหารชั้นผู้น้อยในกองทัพที่เฟิงหยางดูแล เขาชื่อเฉินต้าน ปีนี้อายุย่างยี่สิบหก อาศัยอยู่กับมารดาและหลานชายซึ่งเป็นลูกของน้องสาว

            แม้บ้านของเฉินต้านจะไม่ได้ร่ำรวย แต่เขาก็เป็นคนซื่อสัตย์และขยัน ทางบ้านจึงไม่อดยากเรื่องอาหาร 

            ระหว่างกำลังเดินผ่านสวนหย่อม จั่นเถิงกับเฉินต้านได้ยินเสียงหัวเราะสนุกสนานของสตรีและเด็กน้อยดังแว่วมา

            จั่นเถิงกับเฉินต้านหยุดฝีเท้าแล้วมองไปทางเสียงหัวเราะนั้น

            ภายในสวนอันร่มรื่นมีสตรีสองนางและเด็กชายอีกหนึ่งคน สตรีคนหนึ่งสวมชุดสีฟ้าอ่อน มวยผมเรียบง่าย หน้าตาอ่อนเยาว์ กระนั้น มองก็รู้ว่าแต่งงานแล้ว บนตักของนางคือเด็กชายอายุราวๆ สามขวบ สตรีอีกคนสวมชุดสีเขียวเรียบร้อย อายุของนางน่าจะมากกว่าสตรีที่สวมชุดสีฟ้าอ่อน แต่ถึงอย่างนั้น มองจากรูปร่างและทรงผมเดาว่ายังไม่ได้แต่งงาน

            พวกนางเป็นใครกัน?

            แววตาของเฉินต้านเต็มไปด้วยคำถาม

            จั่นเถิงมองเฉินต้านแวบหนึ่ง แล้วกล่าวขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

            “สตรีที่สวมชุดฟ้าคนนั้นคือฮูหยินของท่านแม่ทัพ เด็กคนนั้นก็คือคุณชายน้อย ส่วนสตรีที่สวมชุดสีเขียวคนนั้นเป็นสหายของฮูหยิน…อ้อ สหายของฮูหยินผู้นั้นยังไม่แต่งงานและไม่มีคู่หมาย หากเจ้าสนใจ ท่านแม่ทัพช่วยแนะนำให้เจ้าได้”

            “เอ๊ะ เอ่อ…” เฉินต้านฟังมาถึงตอนท้ายก็สะดุ้งตกใจ รีบถามกลับไปว่า “ท่านจั่นเถิงบอกเรื่องนี้กับข้าทำไม ข้าแค่มองเฉยๆ”

            “สายตาเจ้ามันฟ้องน่ะ”

            “ฟ้องหรือ ฟ้องว่าอะไร”

            “ฟ้องว่าสนใจแม่นางชุดเขียวคนนั้นน่ะสิ”

            “เอ๋!!??”

            จริงอยู่ที่เฉินต้านสนใจสตรีชุดเขียวเพราะตอนที่นางยิ้มและหัวเราะ นางดูร่าเริงสดใส ไม่มีการเสแสร้ง

            ตั้งแต่เข้าเมืองมาเป็นทหาร เขาเห็นผู้หญิงมาเยอะ น้อยนักที่จะแสดงออกอย่างเปิดเผยเหมือนกับสตรีชุดเขียวคนนั้น

            แต่มารดาของเฉินต้านอายุมากแล้ว หนำซ้ำหลานชายอายุเพิ่งจะห้าขวบ เขาที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงคนเดียวในบ้าน ถึงสนใจสตรี หากก็ยังไม่พร้อมที่จะแต่งงาน เขาไม่อยากทำให้ภรรยาที่แต่งเข้ามาต้องมาลำบาก

            “เฮ้อ” เฉินต้านถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วตัดบท “เรื่องแต่งงาน ปล่อยให้เป็นบุญพาวาสนาดีกว่า พวกเราไปหาท่านแม่ทัพกันเถอะขอรับ”

            จั่นเถิงมองเฉินต้านนิ่ง เขาทำงานเอกสารมานาน ย่อมรู้ประวัติของทหารในค่ายดี เลยรู้ว่าเฉินต้านกำลังกังวลเรื่องอะไร

            แม้ปากของเฉินต้านจะปฏิเสธ แต่สายตากลับมองสตรีชุดเขียวอย่างสนใจ ถึงอย่างนั้น เฉินต้านก็ต้องหักห้ามความรู้สึกเพราะไม่อยากให้ภรรยา(ในอนาคต) ต้องมาลำบากไปด้วย

            จั่นเถิงคิดจบก็ตบบ่าเฉินต้านเบาๆ “เฉินต้านเอ๋ยเฉินต้าน เจ้าเป็นคนดี ขยันและซื่อสัตย์ ถึงตอนนี้เบี้ยหวัดทหารจะน้อย แต่เจ้าอย่าได้คิดน้อยเนื้อต่ำใจไปเลย ข้าเชื่อเรื่องบุญวาสนานะ แต่ถ้ามัวรอวาสนา ชาตินี้อย่าหวังว่าจะได้แต่งงานเลย”

            “เอ่อ…”

            “ความปรารถนาของแม่เจ้า อยากเห็นเจ้าแต่งงานมีภรรยาและมีลูกที่น่ารักไม่ใช่หรือ สหายของฮูหยินท่านนี้เป็นคนดี นางไม่ได้คิดเล็กคิดน้อยเรื่องฐานะของสามีในอนาคต ขอแค่ผู้ชายที่จะแต่งงานด้วยซื่อสัตย์ รักเดียวใจเดียว พึ่งพาและช่วยกันทำมาหากิน นางหวังไว้แค่นั้น”

            เฉินต้านมองสตรีชุดเขียวพักหนึ่ง ก่อนตอบจั่นเถิงว่า ขอรับ

            จากนั้น ทั้งสองก็เดินไปยังเรือนรับรอง

            ระหว่างทาง เฉินต้านครุ่นคิดตลอด ตนควรเปิดใจ หาสตรีดีๆ มาแต่งด้วยดีหรือไม่

            “เฉินต้าน?”

            เสียงของจั่นเถิงดึงสติของเฉินต้านกลับมา

            รู้ตัวอีกที ทั้งเฉินต้านและจั่นเถิงก็มาอยู่ในห้องรับรอง ตรงหน้าคือท่านแม่ทัพเฟิง

            เฉินต้านถูกเรียกตัวมาที่บ้านของแม่ทัพเฟิงเป็นการส่วนตัว เนื่องจากต้องทำหน้าที่ส่งเอกสารลับให้ถึงมือแม่ใหญ่ที่อยู่เมืองหลวง

            แม่ทัพใหญ่ผู้นี้คือผู้บังคับบัญชาสูงสุด และเป็นผู้แนะนำเฟิงหยางให้เลื่อนตำแหน่ง

            หน้าที่นี้ของเฉินต้านนับเป็นหน้าที่สำคัญและเป็นความลับสุดยอด

            หลังจากรับงานเสร็จ เฉินต้านออกจากบ้านของเฟิงหยางทันที มุ่งหน้าเข้าเมืองหลวงเพื่อทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย

            ผ่านไปสักพักใหญ่ๆ ฉินหรูกับอาเหยาเข้ามาในเรือนรับรอง

            “ท่านพ่อ!”

            เจ้าตัวเล็กกระโดดโลดเต้นเข้าไปหาบิดา

            เฟิงหยางยื่นสองมือโอบรับเจ้าตัวน้อย

            “น้าเสี่ยวจินกลับไปแล้วหรือ”

            “กลับไปแล้วขอรับ!”

            อาเหยาตอบฉะฉาน นับวันพูดได้คล่องปรือ เฟิงหยางยิ้มอย่างปลาบปลื้มที่เห็นลูกชายเก่ง

            “ผู้ชายคนเมื่อกี้ ท่านจะแนะนำให้พี่เสี่ยวจินหรือ” ฉินหรูถามสามี

            เฟิงหยางผงกศีรษะแล้วตอบ “เจ้าคิดว่าอย่างไร”

            “พูดถึงหน้าตานับว่าไม่เลว สำหรับเรื่องฐานะข้าคิดว่าไม่มีปัญหาที่สำคัญ ในเมื่อท่านรับรองว่าเขาเป็นคนซื่อสัตย์และขยัน ข้าเชื่อท่าน ส่วนที่เหลือขึ้นอยู่กับพวกเขาสองคนแล้ว” ฉินหรูสรุปอย่างรวดเร็ว

            เฟิงหยางเรียกตัวเฉินต้านมาที่บ้าน ไม่เพียงมอบหมายหน้าที่สำคัญ ยังสร้างโอกาสให้มาพบกับเสี่ยวจิน โดยทำทีเหมือนบังเอิญ

            ทางด้านเสี่ยวจินนั้น ฉินหรูนัดให้มาหา ใช้ข้ออ้างว่าทำขนมไว้เยอะ ต้องการฝากไปให้ทุกคนที่บ้านเซวีย

            เช้านี้เสี่ยวจินจึงแวะมาหาฉินหรูก่อนไปทำงาน

            สรุปคือ ยิงเกาทัณฑ์นัดเดียวได้นกสองตัว เฟิงหยางมอบงานสำคัญให้เฉินต้านพร้อมกับถือโอกาสทำหน้าที่พ่อสื่อไปด้วย

            สามีของนาง ร้ายกาจไม่เบา

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เกิดใหม่ทั้งที จะเป็นมารดาที่ดีให้ได้!    บทพิเศษ มิตรภาพ

    บทพิเศษมิตรภาพ หลังจากเฟิงหยางออกบ้านไปได้สักพัก เสี่ยวจินกับไป๋เหิงก็มาเยือน หญิงสาวทั้งสามยังคงสนิทสนมกันดี แม้ภายหลังต่างแยกย้ายไปมีเส้นทางของตนเอง แต่พวกนางมักมารวมตัวกันบ้านเฟิงบ่อยๆ ไป๋เหิงกับคุณชายใหญ่เซวียเยี่ยนจื่อ คุยกำหนดการและวันแต่งงานเรียบร้อยแล้ว เห็นว่าพธีแต่งงานจะจัดขึ้นในอีกสองอาทิตย์ข้างหน้า เสี่ยวจินลงเอยกับเฉินต้านเมื่อไม่นานมานี้ แม้ไม่ได้จัดงานแต่งงานใหญ่โตเหมือนกับไป๋เหิง แต่อย่างน้อย นางได้กราบไหว้ฟ้าดินและทำพิธีคารวะญาติผู้ใหญ่ “เสี่ยวหรู สามีเจ้าเพิ่งออกไปค่ายทหารหรือ ระหว่างทางพวกข้าเห็นเขาควบม้าออกไปพอดี นี่ๆ เจ้ากับสามีหักโหมเกินไปหรือไม่ ทำเขาไปสายแล้ว” เสี่ยวจินเปิดประเด็น ท้ายประโยคยังแซวสหายพลางหัวเราะคิก “ใช่ๆ ไปค่ายเวลานี้ ไม่นับว่าสายไปหรือ” ไป๋เหิงยิ้มแย้ม เอ่อออกับเสี่ยวจิน ฉินหรูแกล้งทำหน้ามุ่ย โบกมือแล้วกล่าวตัดบทพวกนางทั้งสอง “ช่างเรื่องของสามีเถอะ ข้าสนใจเรื่องของพวกพี่สาวมากกว่า พี่เสี่ยวจิน วันนี้ปักปิ่นมาสวยเชียว ไม่คิดเลยว่าเฉินต้านจะเป็นสามีที่เอาอกเอ

  • เกิดใหม่ทั้งที จะเป็นมารดาที่ดีให้ได้!    บทพิเศษ เป็นวันที่ดี

    บทพิเศษเป็นวันที่ดี รุ่งอรุณมาเยือน แสงอาทิตย์สีทองทอประกายเข้ามาทางหน้าต่าง ทันทีที่เฟิงหยางลืมตาตื่นขึ้น พลันพลิกตัวนอนตะแคง มุมปากยกยิ้มขณะมองภรรยาที่ยังหลับใหลบนที่นอน เมื่อคืนเขาคงรังแกนางมากไปหน่อย ทำให้นางอ่อนเพลียต้องตื่นสายแล้ว คิดจบ เฟิงหยางก็ยื่นมือออกไปลูบไล้แก้มเนียนของภรรยาแผ่วเบา ทุกครั้งที่ตื่นขึ้นมาท่ามกลางความมืด เขารู้สึกถึงความสุขและอุ่นหัวใจเมื่อเห็นว่านางยังอยู่เคียงข้าง ครู่ต่อมา ขนตาหนาเป็นแพรของหญิงสาวขยับไหวราวกับปีกผีเสื้อ ก่อนดวงตาคู่สวยจะเปิดปรือขึ้น ฉินหรูค่อยๆ ลืมตาตื่น ทันใดนั้นก็เห็นว่าสามีกำลังยิ้มมองนางอยู่ ริมฝีปากของนางพลันคลี่ยิ้มให้เขาด้วยความอ่อนเพลีย ขณะเดียวกัน ดวงตาคู่สวยก็เต็มไปด้วยความรักที่ไม่มีวันหมด “ท่านพี่...” ริมฝีปากของฉินหรูขยับเรียกสามีแผ่วเบา “ข้าทำเจ้าตื่นหรือ” แม้เฟิงหยางจะถามเช่นนั้น หากนิ้วมือกลับเลื่อนลงมาลูบไล้กลีบปากอิ่มสวย ราวกับไม่อาจหักห้ามใจให้ปล่อยมือจากนาง “ปกติข้าตื่นเช้ากว่

  • เกิดใหม่ทั้งที จะเป็นมารดาที่ดีให้ได้!    บทพิเศษ อุ่นรัก(อีกครั้ง)

    บทพิเศษอุ่นรัก(อีกครั้ง) กลิ่นอาหารที่กำลังปรุงใหม่ๆ ลอยมาจากโต๊ะกลางห้อง กลิ่นนั้นหอมมาก ทั้งยังทำให้กระเพาะของเฟิงหยางถึงกับร้องระงม ตั้งแต่รับนางกับลูกกลับมาอยู่ด้วยกัน ผ่านมาหลายเดือนแล้ว แม้นานๆ ครั้งนางจะเข้าครัวสักที แต่เฟิงหยางย่อมรู้ถึงความอร่อยในรสมือของฉินหรู นอกจากนี้ยังทำให้เขาคลั่งไคล้อย่างที่สุด เช้านี้เฟิงหยางครึ้มอกครึ้มใจเป็นพิเศษ เพราะไม่มีเรื่องใดให้เขาต้องปวดหัวหรือเป็นกังวลอีกแล้ว เหนืออื่นใด คนงามของเขาเป็นยอดภรรยาหาผู้ใดเทียบไม่ได้ หัวใจเขามอบให้นางไปจนหมดสิ้น สิ่งที่ทั้งคู่ยังขาดคือการเติมความหวานละมุนละไมให้แก่กัน อีกอย่างหนึ่ง ช่วงนี้อาเหยาอ้อนไปอยู่บ้านท่านตาเพราะกำลังเห่อน้องสาว นับว่าทางสะดวก! หลังจากจบคดีความของเสิ่นเทา ผ่านมาแล้วสองเดือน เขากับนางไม่ได้ร่วมเตียงกันอีกเลย เขาเองก็เป็นบุรุษ ย่อมมีความใคร่ อยากกอดภรรยาใจจะขาดอยู่รอมร่อ ตั้งแต่กลับมาอยู่ด้วยกัน เขาเพิ่งจะกอดนางไปแค่คืนเดียวก็ตอนที่อาเหยาไปอยู่กับท่านตาท่านยาย! เวลานี้ เฟิงหยางกำลังแช่ตัวอยู่ใน

  • เกิดใหม่ทั้งที จะเป็นมารดาที่ดีให้ได้!    บทที่ 45 บทสรุป

    บทที่ 45บทสรุป ย้อนกลับมา ณ ที่ว่าการอำเภอเมืองฉาง หลังจากหัวหน้ามือปราบยกหีบเก็บเงิน เอกสารรายรับรายจ่ายและสมุดรายชื่อเข้ามาในที่ว่าการ เสิ่นเทาก็ทรุดลงกับพื้นทันที คร่ำครวญว่าตนเป็นผู้บริสุทธิ์ หีบเงินและสมุดรายชื่อเหล่านี้เป็นของผู้อื่น ตนถูกคนใส่ความ แน่นอนว่า คำพูดของเสิ่นเทาโกหกอย่างเห็นได้ชัด ตอนที่หัวหน้ามือปราบไปยังห้องลับนั้น หนิงลี่กำลังสั่งให้พวกบ่าวขนย้ายข้าวของออกไปพอดี เรียกได้ว่าจับได้แบบคาหนังคาเขา ในเมื่อหลักฐานแน่นหนาถึงเพียงนี้ เหล่าขุนนางกังฉินยังประทับลายนิ้วมือ สารภาพผิดกันหมดแล้ว เสิ่นเทาก็ไร้หนทางรอดเช่นกัน วันต่อมา เสิ่นเทายอมรับสารภาพ ทั้งยังขอร้องให้ละเว้นชีวิตของเสิ่นเซียวอวี้และหลานที่กำลังจะคลอด นายอำเภอเซวียไม่ได้ตอบทันที แต่ใช้เวลาพิจารณคดีสองวันสองคืน ในที่สุด การตัดสินคดีก็ถูกติดบนป้ายประกาศ ขุนนางกังฉินและเสิ่นเทาเกี่ยวข้องกับคดีมากมาย ทั้งคดีฆาตกรรมทั้งหาเงินมาอย่างมิชอบ ได้รับโทษประหารในอีกเจ็ดวันให้หลัง เสิ่นเซียวอวี้ผู้เป็น

  • เกิดใหม่ทั้งที จะเป็นมารดาที่ดีให้ได้!    บทที่ 44 ชะตากรรมของบ้านเสิ่น

    บทที่ 44ชะตากรรมของบ้านเสิ่น ตั้งแต่เสิ่นเทาถูกทางการเรียกตัว หนิงลี่ร้อนรนเหมือนไฟลนก้น เรียกทุกคนมารวมตัวกันที่ห้องโถง หารือว่าจะช่วยเสิ่นเทาอย่างไร เพียงไม่นาน เสิ่นเซียวอวี้กับจางเหมยเหมยก็มาถึง พ่อบ้านเสิ่นกับไฉ่ไฉ่มารอก่อนแล้ว จึงไม่ต้องเสียเวลานาน หนิงลี่นั่งไม่ติดเก้าอี้ เดินกลับไปกลับมาพลางว่า “สามีข้าถูกทางการเรียกตัว ไต่สวนคดีปล่อยกู้และติดสินบน พวกเจ้าช่วยคิดหาวิธีช่วยเขาออกมาหน่อย” พ่อบ้านเสิ่นครุ่นคิด ก่อนจะเสนอให้ยัดเงินนายอำเภอเซวีย ไฉ่ไฉ่นั้นจนปัญญา ไม่มีความคิดดีๆ เนื่องจากยังตรอมใจที่คนรักทอดทิ้งนางไป ด้านจางเหมยเหมยกลุ้มใจยิ่งกว่า เป็นแค่สะใภ้ที่แต่งเข้า ไม่คิดว่าจะต้องมาติดร่างแหไปด้วย ทั้งยังจับต้นชนปลายไม่ถูก ในขณะที่ทุกคนร้อนใจจะเป็นจะตายเรื่องที่เสิ่นเทาถูกจับ กลับมีเพียงคนคนเดียวที่ไม่ทุกข์ร้อน นั่งหัวเราะคิกคักราวกับเห็นเป็นเรื่องตลก คนคนนั้นก็คือเสิ่นเซียวอวี้! เสิ่นเซียวอวี้กวาดสายตามองสีหน้าเป็นทุกข์ของทุกคนในห้องโถง ชี้หน้าเรียงตัวพร้อ

  • เกิดใหม่ทั้งที จะเป็นมารดาที่ดีให้ได้!    บทที่ 43 ไต่สวน

    บทที่ 43ไต่สวน คดีขุนนางทุจริตเกี่ยวโยงกับคดีปล่อยกู้ของเสิ่นเทา นอกจากนี้ พบว่าวิธีการทวงหนี้ของเสิ่นเทานั้นยังโหดร้ายทารุณ ถึงขั้นมีผู้เสียชีวิตไม่น้อย ในเมื่อมีผู้เสียชีวิตย่อมเป็นคดีฆาตกรรม แต่เสิ่นเทารอดพ้นความผิดมาได้เพราะความช่วยเหลือจากขุนนางกังฉิน อย่างไรก็ตาม การฆาตกรรมที่เกิดขึ้นซ้ำๆ ย่อมมีหลักฐาน บัดนี้ หลักฐานและพยานบุคคลครบเรียบร้อย นายอำเภอเซวียจึงเรียกขุนนางกังฉินเหล่านั้นสอบสวนทีละคน สุดท้ายถึงค่อยเป็นเสิ่นเทา หลายวันต่อมา เสิ่นเทาถูกเรียกตัวมายังที่ว่าการอำเภอ จากนั้นผู้ช่วยนายอำเภออ่านสรุปสำนวนคดี เสิ่นเทาเบื้องหน้าทำธุรกิจค้าขาย แต่เบื้องหลังปล่อยกู้ มอบเงินสินบนแก่ขุนนาง และยังชุบเลี้ยงโจรกลุ่มหนึ่ง หากลูกหนี้ใช้หนี้คืนไม่ตรงตามกำหนด เสิ่นเทาจะใช้วิธีทวงเงินอย่างโหดเหี้ยมทารุณ กังขังหน่วงเหนี่ยว ทรมานจนถึงแก่ชีวิตก็มี ญาติของลูกหนี้ที่เป็นผู้หญิง จะถูกจับไปขายให้กับหอคณิกา อ้างว่าเพื่อขัดดอก... ทั้งที่เสิ่นเทาทำการอุกอาจ แต่ยังลอยนวลม

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status