บทที่ 42
ความคืบหน้าของคดี
ฉินหรูถูกสามีทรมานบนเตียงทั้งคืน กว่าจะได้นอนก็เกือบรุ่งสาง
หลังจากได้รับอิสรภาพ ฉินหรูหลับใหลอยู่บนเตียงจนถึงบ่าย ดังนั้นพอตื่นขึ้นมาอีกครั้ง นางจึงนอนนิ่งไม่ขยับ ไม่รู้สึกอยากลงจากเตียงแม้แต่ก้าวเดียว
เฟิงหยางเรี่ยวแรงเยอะมาก ทำนางปวดร้าวไปทั้งตัว!
แรกเริ่มเฟิงหยางกอดนางแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่ในภายหลัง เขากลับเหมือนไร้หัวใจ โถมใส่นางไม่ยั้ง เคี่ยวกรำนางตลอดทั้งคืน
ภาพความสุขอันเร่าร้อนพลันย้อนเข้ามาในหัว ทันใดนั้น ใบหน้าของฉินหรูก็แดงก่ำ หัวใจเต้นระส่ำระส่าย ในอกร้อนผ่าว
ฉินหรูรีบสลัดภาพนั้นทิ้ง ทำท่าลุกขึ้นจากเตียง แต่แล้วเอวของนางก็ปวดแปลบขึ้นมา
“อูย...”
นางสูดปาก ลดมือลงไปนวดๆ ทุบๆ บนเอวตัวเอง
“หากเพลียก็นอนต่ออีกหน่อย อย่าได้ฝืน”
เสียงทุ้มดังขึ้นตรงหน้าประตู
“ทะ ท่านพี่” พอเห็นสามี ฉินหรูพลันหน้าแดงแป๊ด ก่อนจะแสร้งว่าเป็นความผิดของเขา “หะ หะ หากไม่เป็นเพราะท่าน ข้าคง...ไม่มีสภาพแบบนี้!”
เฟิงหยางยิ้มอย่างไม่ถือสา
ฉินหรูทำท่าจะลุกจากเตียงอีกครั้ง หากจนที่ลุกไม่ขึ้น
ฮือ...สภาพของนางตอนนี้ดูไม่ได้เลย นับเป็นความผิดของเขาจริงๆ ใช่หรือไม่
ฉินหรูเม้มปาก สักครู่ก็เอ่ยขึ้นว่า “วันนี้ต้องไปรับอาเหยา ข้าเป็นแบบนี้แล้ว คงไปรับลูกไม่ได้”
“เมื่อเช้าข้าไปหาอาเหยาที่บ้านฉินมาแล้ว ดูเหมือนเขาจะสนุกที่ได้อยู่กับท่านตาท่านยาย ไม่ยอมกลับมากับข้า” เฟิงหยางบอกภรรยาอย่างเรียบง่าย
ได้ยินแบบนั้น สีหน้าของฉินหรูเผยความลำบากใจ
“ตั้งแต่ที่อาเหยาอายุได้หนึ่งขวบ ข้าก็ออกมาทำงานที่บ้านเซวียแล้ว หากถามว่าอาเหยาสนิทกับใครมากที่สุด คงเป็นท่านยายของเขากระมัง”
“อืม” เฟิงหยางตอบรับสั้นๆ
“ในเมื่อวันนี้ข้าคงไปรับอาเหยาไม่ได้ คงต้องฝากให้ท่านแม่เลี้ยงอีกวัน”
พูดจบ ฉินหรูยกมือปิดหน้าปิดซ่อนความเขินอาย
เฟิงหยางหัวเราะเบาๆ
ตอนที่ฉินหรูลดมือที่ปิดหน้าลง นางเพิ่งเห็นว่าเฟิงหยางเข้ามาในห้องพร้อมกับอ่างน้ำล้างหน้า
ชายหนุ่มวางอ่างน้ำบนโต๊ะข้างเตียง ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำบิดหมาดๆ เช็ดใบหน้าแดงเรื่อของภรรยาอย่างเอาใจใส่
ฉินหรูตะหนักขึ้นมาได้ ตอนตื่นนอนเมื่อครู่ ร่างกายของนางไม่ได้เหนียวเหนอะหนะ ทั้งยังหลับสนิทจนถึงบ่าย จำได้ว่าหลังกิจกรรมเร่าร้อน ฉินหรูอ่อนเพลียจนผล็อยหลับ คนที่ช่วยความสะอาดร่างกายให้นางก็คือเฟิงหยาง
มิน่าเล่า นางถึงได้รู้สึกสบายตัวยิ่งนัก
เฟิงหยางอ่อนโยนและเอาใจใส่นางมากจริงๆ ทั้งเช็ดตัวให้ ตอนนี้ก็ยังเช็ดหน้าให้อีก ยิ่งคิดก็ยิ่งซาบซึ้งใจอย่างมาก
หลายวันต่อมา
บ้านแม่ทัพเฟิง
จั่นเถิงเดินนำเฉินต้านมายังเรือนรับรอง ทันทีที่เจอท่านแม่ทัพ เฉินต้านรีบประสานมือคารวะ ก่อนจะหยิบเอกสารตอบกลับจากเมืองหลวงออกมาจากอกเสื้อ ยื่นให้กับท่านแม่ทัพโดยตรง
คำสั่งของท่านแม่ทัพเฟิงคือเฉินต้านต้องเดินทางไปส่งเอกสารลับให้กับแม่ทัพใหญ่ จากนั้นรอเอกสารตอบกลับมาส่งอีกที เอกสารนี้ห้ามผ่านมือผู้ใดเด็ดขาด แม้จั่นเถิงเป็นคนสนิทของแม่ทัพเฟิง เฉินต้านก็ไม่อาจฝากเอกสารนี้ส่งต่อได้เพราะเป็นคำสั่ง
ความสัตย์ซื่อของเฉินต้าน ทุกคนต่างลงความเห็นว่าคนผู้นี้ช่างไม่เลว
หลังจากอ่านเอกสารจบ มุมปากของเฟิงหยางก็ยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม
เอกสารที่เฟิงหยางส่งไปให้แม่ทัพใหญ่คือหลักฐานเอาผิดขุนนางทุจริต คดีนี้พ่วงด้วยการลักลอบค้าขายใบต้าหมา และการรับสินบนจากบ้านเศรษฐี
ส่วนบ้านเศรษฐีที่ว่าไม่ใช่ใครอื่น เสิ่นเทานั่นเอง
แม่ทัพใหญ่อยู่เมืองหลวงคอยประสานงานกับราชสำนัก คดีนี้พัวพันกับขุนนางมากมาย ต้องมีหลักฐานพร้อมและรอให้เบื้องบนอนุญาตเสียก่อนจึงจะทำคดีได้
บัดนี้ คดีได้รับการอนุมัติแล้ว ที่เหลือคือการไต่สวน
จั่นเถิงเห็นสีท่านแม่ทัพยิ้มอารมณ์ดี พลันอดถามไม่ได้
“ท่านแม่ทัพ ทางแม่ทัพใหญ่ตอบกลับมาว่าอย่างไรขอรับ”
เฟิงหยางยื่นเอกสารให้จั่นเถิง ก่อนบอกว่า “นำสิ่งนี้ไปให้นายอำเภอเซวีย ให้เขาทำคดีเมื่อเตรียมทุกอย่างพร้อม”
“ขอรับ”
….
ที่ว่าการอำเภอเมืองตั้งอยู่กลางเมืองฉาง เซวียฉิน นายอำเภอเซวียถึงจะขี้ขลาดอยู่บ้าง หากก็เป็นคนมีคุณธรรม
ยามนี้เซวียฉินนั่งอ่านเอกสารคดีในห้องรับรองพร้อมผู้ช่วย
หลังจากมือปราบนายหนึ่งเข้ามารายงานเซวียฉินว่า ผู้ติดตามแซ่จั่น มือขวาของแม่ทัพเฟิงมาขอพบ เซวียฉินวางเอกสารลง แล้วสั่งให้มือปราบไปเรียกผู้ติดตามแซ่จั่นผู้นั้นเข้ามา
จั่นเถิงประสานมือให้ความเคารพนายอำเภอเซวียอย่างมีมารยาท จากนั้นยื่นเอกสารให้กับมือปราบที่ยืนข้างๆ เพื่อส่งต่อให้กับนายอำเภอ
“เบื้องบนมีคำสั่ง ให้นายอำเภอเซวียแห่งเมืองฉางตรวจสอบคดีขุนนางทุจริต รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องขอรับ ห้ามละเว้นใครสักคน เอกสารที่ข้ามอบให้ท่านไปนั้นคือหลักฐานและรายชื่อผู้เกี่ยวข้องกับคดีทั้งหมด เรื่องนี้เกี่ยวพันกับขุนนางและเศรษฐีในท้องที่ เป็นคดีที่ไม่ง่ายนัก แต่แม่ทัพเฟิงยืนยันว่าจะช่วยเหลือนายอำเภอเซวียเต็มที่ ทั้งยังรับรองความปลอดภัยให้ท่านด้วย”
คราแรก นายอำเภอเซวียทำหน้าตกใจ เนื่องจากเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับขุนนาง แน่นอนว่าย่อมไม่ง่าย แต่พอได้ยินว่าแม่ทัพเฟิงช่วยเหลืออย่างเต็มที่ เขาจึงค่อยพยักหน้าอย่างเข้าใจ
ทันทีที่จั่นเถิงส่งมอบเอกสารเรียบร้อย เขาขอตัวกลับทันที
เซวียฉินอ่านเอกสารในมือ พออ่านจบก็ส่งต่อให้กับผู้ช่วย
“ตรวจสอบบันทึกคดี และเอกสารทั้งหมด รวบรวมหลักฐานครบถ้วนแล้ว เราจะทำการไต่สวนคดีกัน” นายอำเภอเซวียออกคำสั่งอย่างเข้าใจง่ายและกระชับที่สุด
“ขอรับ” ผู้ช่วยนายอำเภอรับคำสั้นๆ ก่อนจะตั้งคำถามต่อ “เบื้องบนกำชับมาว่า ‘ห้ามละเว้นใครไปสักคน’ เห็นชัดว่าคดีนี้เกี่ยวข้องกับเสิ่นเทาด้วย แม่ทัพเฟิงผู้นี้ไม่ใช่บุตรชายแท้ๆ ของเสิ่นเทาหรอกหรือ”
นายอำเภอเซวียหันใบหน้าไปทางหน้าต่าง สายตาทอดทอดมองออกไปไกลขณะกล่าวด้วยเสียงราบเรียบ
“ก็แค่ลูกชายที่เสิ่นเทาให้กำเนิดเท่านั้นแหละ”
“ความหมายของนายอำเภอเซวียคือ…”
“ความสัมพันธ์ภายในบ้านเสิ่นซับซ้อน ข้าไม่อยากยุ่ง ในเมื่อเสิ่นเทาทำผิดย่อมต้องสอบสวน นี่คือหน้าที่ของพวกเรา” นายอำเภอเซวียกล่าว
ก่อนหน้านั้นก็พอจะรู้เรื่องภายในบ้านเสิ่นมาจากลูกชายบ้างแล้ว ใจยังคิดว่าเฟิงหยางที่เก็บงำความแค้นจะใช้ศาลเตี้ยตัดสินเสิ่นเทาหรือไม่ แต่ในเมื่อเขาส่งมอบเอกสารมาให้ทางอำเภอเป็นผู้ทำคดี ดูไปแล้ว เฟิงหยางคนนี้ยังพอมีมโนธรรมอยู่บ้าง
บทพิเศษมิตรภาพ หลังจากเฟิงหยางออกบ้านไปได้สักพัก เสี่ยวจินกับไป๋เหิงก็มาเยือน หญิงสาวทั้งสามยังคงสนิทสนมกันดี แม้ภายหลังต่างแยกย้ายไปมีเส้นทางของตนเอง แต่พวกนางมักมารวมตัวกันบ้านเฟิงบ่อยๆ ไป๋เหิงกับคุณชายใหญ่เซวียเยี่ยนจื่อ คุยกำหนดการและวันแต่งงานเรียบร้อยแล้ว เห็นว่าพธีแต่งงานจะจัดขึ้นในอีกสองอาทิตย์ข้างหน้า เสี่ยวจินลงเอยกับเฉินต้านเมื่อไม่นานมานี้ แม้ไม่ได้จัดงานแต่งงานใหญ่โตเหมือนกับไป๋เหิง แต่อย่างน้อย นางได้กราบไหว้ฟ้าดินและทำพิธีคารวะญาติผู้ใหญ่ “เสี่ยวหรู สามีเจ้าเพิ่งออกไปค่ายทหารหรือ ระหว่างทางพวกข้าเห็นเขาควบม้าออกไปพอดี นี่ๆ เจ้ากับสามีหักโหมเกินไปหรือไม่ ทำเขาไปสายแล้ว” เสี่ยวจินเปิดประเด็น ท้ายประโยคยังแซวสหายพลางหัวเราะคิก “ใช่ๆ ไปค่ายเวลานี้ ไม่นับว่าสายไปหรือ” ไป๋เหิงยิ้มแย้ม เอ่อออกับเสี่ยวจิน ฉินหรูแกล้งทำหน้ามุ่ย โบกมือแล้วกล่าวตัดบทพวกนางทั้งสอง “ช่างเรื่องของสามีเถอะ ข้าสนใจเรื่องของพวกพี่สาวมากกว่า พี่เสี่ยวจิน วันนี้ปักปิ่นมาสวยเชียว ไม่คิดเลยว่าเฉินต้านจะเป็นสามีที่เอาอกเอ
บทพิเศษเป็นวันที่ดี รุ่งอรุณมาเยือน แสงอาทิตย์สีทองทอประกายเข้ามาทางหน้าต่าง ทันทีที่เฟิงหยางลืมตาตื่นขึ้น พลันพลิกตัวนอนตะแคง มุมปากยกยิ้มขณะมองภรรยาที่ยังหลับใหลบนที่นอน เมื่อคืนเขาคงรังแกนางมากไปหน่อย ทำให้นางอ่อนเพลียต้องตื่นสายแล้ว คิดจบ เฟิงหยางก็ยื่นมือออกไปลูบไล้แก้มเนียนของภรรยาแผ่วเบา ทุกครั้งที่ตื่นขึ้นมาท่ามกลางความมืด เขารู้สึกถึงความสุขและอุ่นหัวใจเมื่อเห็นว่านางยังอยู่เคียงข้าง ครู่ต่อมา ขนตาหนาเป็นแพรของหญิงสาวขยับไหวราวกับปีกผีเสื้อ ก่อนดวงตาคู่สวยจะเปิดปรือขึ้น ฉินหรูค่อยๆ ลืมตาตื่น ทันใดนั้นก็เห็นว่าสามีกำลังยิ้มมองนางอยู่ ริมฝีปากของนางพลันคลี่ยิ้มให้เขาด้วยความอ่อนเพลีย ขณะเดียวกัน ดวงตาคู่สวยก็เต็มไปด้วยความรักที่ไม่มีวันหมด “ท่านพี่...” ริมฝีปากของฉินหรูขยับเรียกสามีแผ่วเบา “ข้าทำเจ้าตื่นหรือ” แม้เฟิงหยางจะถามเช่นนั้น หากนิ้วมือกลับเลื่อนลงมาลูบไล้กลีบปากอิ่มสวย ราวกับไม่อาจหักห้ามใจให้ปล่อยมือจากนาง “ปกติข้าตื่นเช้ากว่
บทพิเศษอุ่นรัก(อีกครั้ง) กลิ่นอาหารที่กำลังปรุงใหม่ๆ ลอยมาจากโต๊ะกลางห้อง กลิ่นนั้นหอมมาก ทั้งยังทำให้กระเพาะของเฟิงหยางถึงกับร้องระงม ตั้งแต่รับนางกับลูกกลับมาอยู่ด้วยกัน ผ่านมาหลายเดือนแล้ว แม้นานๆ ครั้งนางจะเข้าครัวสักที แต่เฟิงหยางย่อมรู้ถึงความอร่อยในรสมือของฉินหรู นอกจากนี้ยังทำให้เขาคลั่งไคล้อย่างที่สุด เช้านี้เฟิงหยางครึ้มอกครึ้มใจเป็นพิเศษ เพราะไม่มีเรื่องใดให้เขาต้องปวดหัวหรือเป็นกังวลอีกแล้ว เหนืออื่นใด คนงามของเขาเป็นยอดภรรยาหาผู้ใดเทียบไม่ได้ หัวใจเขามอบให้นางไปจนหมดสิ้น สิ่งที่ทั้งคู่ยังขาดคือการเติมความหวานละมุนละไมให้แก่กัน อีกอย่างหนึ่ง ช่วงนี้อาเหยาอ้อนไปอยู่บ้านท่านตาเพราะกำลังเห่อน้องสาว นับว่าทางสะดวก! หลังจากจบคดีความของเสิ่นเทา ผ่านมาแล้วสองเดือน เขากับนางไม่ได้ร่วมเตียงกันอีกเลย เขาเองก็เป็นบุรุษ ย่อมมีความใคร่ อยากกอดภรรยาใจจะขาดอยู่รอมร่อ ตั้งแต่กลับมาอยู่ด้วยกัน เขาเพิ่งจะกอดนางไปแค่คืนเดียวก็ตอนที่อาเหยาไปอยู่กับท่านตาท่านยาย! เวลานี้ เฟิงหยางกำลังแช่ตัวอยู่ใน
บทที่ 45บทสรุป ย้อนกลับมา ณ ที่ว่าการอำเภอเมืองฉาง หลังจากหัวหน้ามือปราบยกหีบเก็บเงิน เอกสารรายรับรายจ่ายและสมุดรายชื่อเข้ามาในที่ว่าการ เสิ่นเทาก็ทรุดลงกับพื้นทันที คร่ำครวญว่าตนเป็นผู้บริสุทธิ์ หีบเงินและสมุดรายชื่อเหล่านี้เป็นของผู้อื่น ตนถูกคนใส่ความ แน่นอนว่า คำพูดของเสิ่นเทาโกหกอย่างเห็นได้ชัด ตอนที่หัวหน้ามือปราบไปยังห้องลับนั้น หนิงลี่กำลังสั่งให้พวกบ่าวขนย้ายข้าวของออกไปพอดี เรียกได้ว่าจับได้แบบคาหนังคาเขา ในเมื่อหลักฐานแน่นหนาถึงเพียงนี้ เหล่าขุนนางกังฉินยังประทับลายนิ้วมือ สารภาพผิดกันหมดแล้ว เสิ่นเทาก็ไร้หนทางรอดเช่นกัน วันต่อมา เสิ่นเทายอมรับสารภาพ ทั้งยังขอร้องให้ละเว้นชีวิตของเสิ่นเซียวอวี้และหลานที่กำลังจะคลอด นายอำเภอเซวียไม่ได้ตอบทันที แต่ใช้เวลาพิจารณคดีสองวันสองคืน ในที่สุด การตัดสินคดีก็ถูกติดบนป้ายประกาศ ขุนนางกังฉินและเสิ่นเทาเกี่ยวข้องกับคดีมากมาย ทั้งคดีฆาตกรรมทั้งหาเงินมาอย่างมิชอบ ได้รับโทษประหารในอีกเจ็ดวันให้หลัง เสิ่นเซียวอวี้ผู้เป็น
บทที่ 44ชะตากรรมของบ้านเสิ่น ตั้งแต่เสิ่นเทาถูกทางการเรียกตัว หนิงลี่ร้อนรนเหมือนไฟลนก้น เรียกทุกคนมารวมตัวกันที่ห้องโถง หารือว่าจะช่วยเสิ่นเทาอย่างไร เพียงไม่นาน เสิ่นเซียวอวี้กับจางเหมยเหมยก็มาถึง พ่อบ้านเสิ่นกับไฉ่ไฉ่มารอก่อนแล้ว จึงไม่ต้องเสียเวลานาน หนิงลี่นั่งไม่ติดเก้าอี้ เดินกลับไปกลับมาพลางว่า “สามีข้าถูกทางการเรียกตัว ไต่สวนคดีปล่อยกู้และติดสินบน พวกเจ้าช่วยคิดหาวิธีช่วยเขาออกมาหน่อย” พ่อบ้านเสิ่นครุ่นคิด ก่อนจะเสนอให้ยัดเงินนายอำเภอเซวีย ไฉ่ไฉ่นั้นจนปัญญา ไม่มีความคิดดีๆ เนื่องจากยังตรอมใจที่คนรักทอดทิ้งนางไป ด้านจางเหมยเหมยกลุ้มใจยิ่งกว่า เป็นแค่สะใภ้ที่แต่งเข้า ไม่คิดว่าจะต้องมาติดร่างแหไปด้วย ทั้งยังจับต้นชนปลายไม่ถูก ในขณะที่ทุกคนร้อนใจจะเป็นจะตายเรื่องที่เสิ่นเทาถูกจับ กลับมีเพียงคนคนเดียวที่ไม่ทุกข์ร้อน นั่งหัวเราะคิกคักราวกับเห็นเป็นเรื่องตลก คนคนนั้นก็คือเสิ่นเซียวอวี้! เสิ่นเซียวอวี้กวาดสายตามองสีหน้าเป็นทุกข์ของทุกคนในห้องโถง ชี้หน้าเรียงตัวพร้อ
บทที่ 43ไต่สวน คดีขุนนางทุจริตเกี่ยวโยงกับคดีปล่อยกู้ของเสิ่นเทา นอกจากนี้ พบว่าวิธีการทวงหนี้ของเสิ่นเทานั้นยังโหดร้ายทารุณ ถึงขั้นมีผู้เสียชีวิตไม่น้อย ในเมื่อมีผู้เสียชีวิตย่อมเป็นคดีฆาตกรรม แต่เสิ่นเทารอดพ้นความผิดมาได้เพราะความช่วยเหลือจากขุนนางกังฉิน อย่างไรก็ตาม การฆาตกรรมที่เกิดขึ้นซ้ำๆ ย่อมมีหลักฐาน บัดนี้ หลักฐานและพยานบุคคลครบเรียบร้อย นายอำเภอเซวียจึงเรียกขุนนางกังฉินเหล่านั้นสอบสวนทีละคน สุดท้ายถึงค่อยเป็นเสิ่นเทา หลายวันต่อมา เสิ่นเทาถูกเรียกตัวมายังที่ว่าการอำเภอ จากนั้นผู้ช่วยนายอำเภออ่านสรุปสำนวนคดี เสิ่นเทาเบื้องหน้าทำธุรกิจค้าขาย แต่เบื้องหลังปล่อยกู้ มอบเงินสินบนแก่ขุนนาง และยังชุบเลี้ยงโจรกลุ่มหนึ่ง หากลูกหนี้ใช้หนี้คืนไม่ตรงตามกำหนด เสิ่นเทาจะใช้วิธีทวงเงินอย่างโหดเหี้ยมทารุณ กังขังหน่วงเหนี่ยว ทรมานจนถึงแก่ชีวิตก็มี ญาติของลูกหนี้ที่เป็นผู้หญิง จะถูกจับไปขายให้กับหอคณิกา อ้างว่าเพื่อขัดดอก... ทั้งที่เสิ่นเทาทำการอุกอาจ แต่ยังลอยนวลม