“คุณชายข้าขอร้อง” เซี่ยฟานบอกหวังซีซวน แม้จะกลัวที่ต้องอยู่กับหวังเยี่ยนหลง แต่ในใจนึกเป็นห่วงทั้งเหอชิงหยางและไม่อยากให้คุณชายห้าต้องบาดเจ็บเพราะตัวเองไปอีกคน
หวังซีซวนจึงได้แต่จำใจยอมทำตามเพราะรู้ว่าเหอชิงหยางเป็นคนสำคัญของเซี่ยฟาน
“พี่สาม อย่ารังแกเขานักเลย ชีวิตของเขาขมขื่นมามากพอแล้ว” คำพูดของหวังซีซวนไม่ได้ทำให้จิตสำนึกข้างในของหวังเยี่ยนหลงจุดประกายมากมายนัก
เขาเลิกคิ้วมองหน้าน้องชายก่อนจะพูดว่า “มีอะไรก็รีบไปทำ อย่ามาวุ่นวายที่เรือนของข้า”
ทันทีที่เข้ามาด้านในเรือน เขาก็หัวเราะร่าเยาะเย้ยเซี่ยฟาน “เจ้าห้าไม่ได้บอกหรืออย่างไรว่าห้ามเปิดประตูให้ใคร” หวังเยี่ยนหลงถากถาง "คะ คุณชาย ต้องการอะไรหรือ” เซี่ยฟานถามตะกุกตะกัก น้ำตาเริ่มคลอเบ้า “คุณชายต้องการยารักษาหรือขอรับ ข้าจะไปเตรียมมาให้” เขาบ่ายเบี่ยงเดินเลี่ยงไปอีกทาง พยายามเข้าใกล้ประตูให้มากที่สุด “ประตูนั่น ข้าเพิ่งร่ายอาคม ถ้าไม่ใช่ข้า ย่อมออกไปไม่ได้” เสียงของหวังเยี่ยนหลงดังขึ้นทำลายสิ่งที่เซี่ยฟานกำลังคิดในใจ “ไม่
“ทาสรับใช้ผู้นั้นมีดีอะไร พวกเจ้าถึงได้ยื้อแย่งกันไปมา”เสียงเยือกเย็นของหวังเฉิงเย่ถามลองเชิง ไม่นึกว่าตนเองจะต้องมานั่งตัดสินใจกับเรื่องไร้สาระของบุตรชาย “เซี่ยฟานช่วยข้ากลั่นโอสถได้ขอรับ งานที่ท่านพ่อสั่งจะได้สำเร็จเร็วขึ้นอีก เขามีความรู้เรื่องสมุนไพรจึงช่วยแบ่งเบาภาระข้าไปได้มาก” หวังซีซวนรู้ว่าบิดาเขาใส่ใจกับเรื่องใดมากที่สุด จึงพูดออกไปเช่นนั้น “ตามใจเจ้า” เขาบอกปัดอย่างส่ง ๆ แล้วเดินออกไปฝึกศิษย์ในสำนักต่อ หวังซีซวนยิ้มดีใจ รีบกล่าวขอบคุณแล้วไปบอกข่าวดีกับเซี่ยฟาน
“คุณชายข้าขอร้อง” เซี่ยฟานบอกหวังซีซวนแม้จะกลัวที่ต้องอยู่กับหวังเยี่ยนหลง แต่ในใจนึกเป็นห่วงทั้งเหอชิงหยางและไม่อยากให้คุณชายห้าต้องบาดเจ็บเพราะตัวเองไปอีกคน หวังซีซวนจึงได้แต่จำใจยอมทำตามเพราะรู้ว่าเหอชิงหยางเป็นคนสำคัญของเซี่ยฟาน “พี่สาม อย่ารังแกเขานักเลย ชีวิตของเขาขมขื่นมามากพอแล้ว” คำพูดของหวังซีซวนไม่ได้ทำให้จิตสำนึกข้างในของหวังเยี่ยนหลงจุดประกายมากมายนัก เขาเลิกคิ้วมองหน้าน้องชายก่อนจะพูดว่า “มีอะไรก็รีบไปทำ อย่ามาวุ่นวายที่เรือนของข้า”
นับตั้งแต่คืนนั้นเป็นต้นมา เซี่ยฟานก็มักจะเจอเรื่องราวแบบเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่าในแต่ละวัน เขาขังตัวเองไว้ในมุมมืดของเรือนใบไผ่ ตัวสั่นระริกทุกครั้งที่ได้ยินเสียงฝีเท้าเข้าใกล้ หัวใจดวงน้อยแทบจะแบกรับไว้ไม่ไหว หวังเยี่ยนหลงไม่ได้สังเกตเลยว่าร่างกายของเซี่ยฟานมีสัญลักษณ์อะไรเกิดขึ้น เดิมทีไม่ใส่ใจเซี่ยฟานอย่างไรก็ยังคงทำเช่นเดิม ที่แปลกไปจากเดิมคือเริ่มยอมรับตัวเองแล้วว่าขาดเซี่ยฟานไปไม่ได้ เพราะคิดทึกทักไปว่าเซี่ยฟานคือที่ระบายปราณมารของเขา หลังจากเสร็จกิจทุกครั้ง เขาจะสามารถกดปราณมารไม่ให้กัดกินตนเองได้ นอกจากเหอชิงหยางแล้วยังมีคนผู้หนึ่งที่รู้สึกได้ว่าเซี่ยฟานหายไป เขามักจะง่วนอยู่ในเรือนต้นสนเพื่อกลั่นโอสถตามที่บิดาสั่งเอาไว้ ครั้นจะหาเรื่องออกมา
เซี่ยฟานหวาดผวาจนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวมือของหวังเยี่ยนหลงที่เอื้อมโอบรอบเอวของเขาทำให้ร่างบางสะดุ้ง สองมือน้อย ๆ พยายามผลักไส แต่อ้อมแขนนั้นรัดตัวเขาแน่นกว่าเดิม “คุณชาย ข้าผิดไปแล้ว อภัยให้ข้าด้วย” “...” หวังเยี่ยนหลงตอบกลับด้วยรอยยิ้มมุมปาก ก่อนโน้มตัวลงซุกไซ้ซอกคอ ไล่เลี่ยไรผมของเซี่ยฟาน แม้จะถูกมือทั้งสองข้างทึ้งดึงเส้นผมพยายามหนีเอาตัวรอด “เกะกะ” หวังเยี่ยนหลงร่ายอาคมตรึงแขนของเซี่ยฟานไว้อย่างที่เคยทำ เซี่ยฟานไร้ทางหนี ทั้งยังไม่อาจร้องเรียกให้ใครช่วยไ
“เจ้าหายหัวไปที่ใดมา” เสียงเกรี้ยวกราดของหวังเยี่ยนหลงดังขึ้นทันทีที่เห็นหน้าของเซี่ยฟาน “ข้ากำลังปลูกสมุนไพรอยู่ข้างนอกขอรับ” เซี่ยฟานบอกความจริงเขาเพียงครึ่งเดียว “คุณชายกลับมาแล้ว ข้าจะรีบไปเตรียมสำรับอาหาร น้ำอุ่นกับเสื้อผ้าชุดใหม่ให้นะขอรับ” เขาหันหลังกลับ เตรียมจะเดินออกนอกเรือนใบไผ่ ทว่า หวังเยี่ยนหลงไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้นเพราะสังเกตได้ว่าสีหน้าของเซี่ยฟานดูเปลี่ยนไป คนที่ทำหน้าอมทุกข์ตลอดเวลา ครั้งนี้กลับดูแปลกตา เขาตอบตัวเองไม่ได้ว่า สิ่งนั้นเรียกว่าอะไรเพราะตัวเขาเองก็ไม่เคยได้รับมันเช่นกัน&n