แชร์

เล่ม 2 ตอนที่ 5 พบกันอีกครั้ง

ผู้เขียน: MACARONI/1Millionmilesaway
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-17 21:26:03

         หลินหลีเหว่ยในคราบชายขอทานวิ่งเร็วรี่มาหาเหลียนเฟิน ดวงตาเบิกโต สีหน้าหวาดกลัว แกล้งตบตา

          แม้เหลียนเฟินและหลวนเล่อปลอมตัวเป็นชาวเมืองเฟิง แต่หากเรียกกระบี่เงินสลักลายคู่กายออกมาแล้ว ทุกคนย่อมรู้ว่าพวกเขาเป็นศิษย์วังธาราเหมันต์

          “ท่านนักพรตช่วยข้าด้วย” เขาตะโกนเสียงดัง แล้วรีบวิ่งมาคุกเข่าต่อหน้าเหลียนเฟิน

          “เกิดอันใดกับเจ้า” หลวนเล่อถามชายขอทาน

          “คนผู้นั้น จู่ ๆ ก็เข้ามาทำร้ายข้า พยายามถลกหนังหน้าข้าออกไป ท่านนักพรตช่วยข้าด้วยเถิด ข้ากลัวไปหมดแล้ว” หลินหลีเหว่ยใช้มารยาของตนหลอกล่อให้ศิษย์วังธาราเหมันต์ตายใจ

          “ถลกหนังหน้าเจ้าน่ะหรือ มีดีตรงไหนกัน” หวังเยี่ยนหลงที่เพิ่งมาถึงหยุดอยู่ตรงหน้าทุกคนหัวเราะร่า สมเพชละครหลอกเด็กของหลินหลีเหว่ย

          “ข้าไม่รู้ คนดี ๆ ที่ไหนจะมาทำร้ายผู้อื่นเช่นนี้ ไม่ใช่ว่าเจ้าเป็นปีศาจที่ผู้คนเล่าลือกันหรือ” หลินหลีเหว่ยได้ทีใส่ความเติมเชื้อเพลิงความเลวร้ายของหวังเยี่ยนหลง “ต้องใช่แน่ ๆ เจ้าต้องเป็นปีศาจตัวนั้นแน่ ๆ”

          เขาทำท่าทางกลัวจนตัวสั่นรีบวิ่งมาเกาะขาของเหลียนเฟิน หลบสายตาไม่มองหน้าหวังเยี่ยนหลง

          “ถอยไป!” หวังเยี่ยนหลงตวาดเหลียนเฟินที่ยังคงยกปลายกระบี่ชี้มาทางเขา

          “ไม่!” ศิษย์ผู้นี้ไม่เกรงกลัวต่อสิ่งใด ตอบกลับเขาสั้น ๆ

          “ข้ามีเรื่องต้องสะสางกับมัน ถอยไป!” สีหน้าหวังเยี่ยนหลงดูหงุดหงิดจนใครที่เห็นอย่าได้คิดจะเข้ามาขวาง พลอยทำให้หลวนเล่อสะดุ้งตกใจไปด้วย

          “ใจดำอำมหิตเพียงนี้ยังเรียกว่าเป็นคนได้หรือ ท่านนักพรตช่วยข้าด้วย คนผู้นั้นอาจจะเป็นปีศาจเปลี่ยนโฉมล่อลวงท่านอยู่ก็ได้”

          เหลียนเฟินฟังสิ่งที่หลินหลีเหว่ยพูดแล้วคิดตาม หากเป็นปีศาจอย่างที่เขาบอก เหตุใดจึงมองไม่เห็นปราณมารในตัวคนตรงหน้า หากเป็นเช่นนั้นคงพอจะคิดได้ว่ายังเป็นมนุษย์อยู่กระมัง

          “เจ้ามีเรื่องอันใดกับเขาถึงขั้นต้องทำร้ายร่างกาย” เหลียนเฟินเอ่ยถามคนหน้าบึ้ง

          “ไม่ใช่เรื่องของเจ้า อย่ามาขวางข้า” สายตาหวังเยี่ยนหลงเปลี่ยนไป พลันกระบี่ของเขาปรากฏอยู่ข้างกายคิดจะปลิดชีพทุกคนในที่นั้น

          “ช่วยข้าด้วย ข้ายังไม่อยากตาย” หลินหลีเหว่ยหันไปเกาะขาของหลวนเล่อบ้าง ตั้งใจให้คนทั้งสองช่วยสังหารศัตรู

          “ศิษย์พี่” เหลียนเฟินเอ่ยปากเพียงเท่านี้ หลวนเล่อก็รู้ว่าเขาหมายถึงสิ่งใดจึงพาชายขอทานจำแลงถอยออกมาทางด้านหลัง มือกำด้ามกระบี่ไว้แน่น

          หวังเยี่ยนหลงไม่พูดพร่ำทำเพลง ร่ายอาคมบังคับกระบี่พุ่งไปที่หัวใจของเหลียนเฟินในพริบตา ทว่า ศิษย์สำนักผู้มีฝีมือเก่งกาจลำดับที่สามย่อมไม่แพ้ง่าย ๆ

          ทั้งสองคนผลัดกันรับผลัดกันโจมตีอยู่พักหนึ่ง จนหวังเยี่ยนหลงเริ่มหมดความอดทนกับเด็กเมื่อวานซืนอย่างเหลียนเฟินเต็มแก่ จึงร่ายอาคมอ่านความคิดของเขาเพื่อหาหนทางจัดการสิ่งเกะกะไปให้พ้นหูพ้นตา

          ง้างกระบี่ฟาดลงทางด้านขวา แล้วเอี้ยวตัวไปทางด้านหลัง เล็งที่ข้อเท้าด้านซ้ายแล้วฟันเข้าที่หน้าท้อง เสียงความคิดของเหลียนเฟินกำลังวางแผนจัดกระบวนท่า

          หวังเยี่ยนหลงเลิกคิ้วยักยิ้ม ความโมโหหายไปเกือบครึ่งเพราะรู้ว่าจะต้องทำอย่างไร

          กระนั้นแล้ว สิ่งที่เขาคิดกลับไม่เป็นเช่นนั้น แทนที่เหลียนเฟินจะง้างกระบี่ฟาดลงด้านขวา เขากลับฟาดลงทางด้านซ้ายแทน กระบวนท่าต่อจากนั้นควรจะเป็นเล็งข้อเท้าก่อนฟันหน้าท้อง เขาดันเลือกฟันเข้าที่หน้าท้องก่อนข้อเท้า

          เจ้าเด็กนี่กำลังปั่นหัวข้าอยู่หรือ จากที่เมื่อครู่เริ่มยิ้มได้บ้างเพราะคิดว่าจะจัดการตัวปัญหาได้ เวลานี้หวังเยี่ยนหลงเริ่มมีน้ำโหขึ้นกว่าเท่าตัว

          เขาตั้งใจอ่านความคิดของเหลียนเฟินอีกครั้ง และลองทำเช่นเดิมอย่างเมื่อครู่ เหตุการณ์ต่อมากลายเป็นว่า เหลียนเฟินไม่ได้ทำตามที่คิดแม้แต่อย่างเดียว มิหนำซ้ำรอบนี้ร่างกายของเขายังได้แผลจากคมกระบี่ของเหลียนเฟินอีกหลายแห่ง

          หลินหลีเหว่ยกระหยิ่มยิ้มคิดในใจว่านักพรตผู้นี้เก่งกาจเสียจริง สามารถทำให้หวังเยี่ยนหลงเลือดตกยางออกได้ เขาจึงคิดเกาะติดเหลียนเฟินจนกว่าตนเองจะปลอดภัย

          หวังเยี่ยนหลงรู้สึกเจ็บใจที่พลาดท่าให้เหลียนเฟิน เวลานี้พลังปราณของเขาไม่กล้าแข็งเท่ายามปกติเพราะคอยระบายออกไปก่อนหน้านี้ อีกทั้งคืนก่อนยังปลดปล่อยปราณมารไปบางส่วนเพื่อหลอกล่อหลินหลีเหว่ย เขาไม่คิดว่าจะมีใครกล้ามาประจันหน้ากับเขาด้วยซ้ำ

          ความหงุดหงิดเพิ่มขึ้นจนไม่อาจเก็บสีหน้าเอาไว้ได้ หางตาเหลือบเห็นหลินหลีเหว่ยกำลังเย้ยหยันเขาอยู่ก็ยิ่งทวีความโมโห กระบวนท่าและอาคมต่าง ๆ ถูกร่ายออกมาไม่หยุดแต่กระนั้นเหลียนเฟินกลับปัดป้องการโจมตีได้ทั้งหมด  จากนั้นจึงถึงคราวที่เหลียนเฟินจะสู้กลับบ้าง กระบวนท่ากระบี่อันอ่อนช้อยแต่พลังรุนแรงกระหน่ำใส่หวังเยี่ยนหลงไม่ขาดสาย

          เหลียนเฟินเองก็รู้สึกสงสัยว่าเหตุใดคนตรงหน้าถึงรับการโจมตีของเขาได้ราวกับว่าเคยประมือกันมาก่อนหน้านี้

          กระบี่เงินสลักลาย กระบวนท่าเช่นนี้ หวังเยี่ยนหลงคิดถึงใครบางคนที่เขาเคยสู้ด้วย มารดามันเถอะ! ศิษย์วังธาราเหมันต์

          ในที่สุดเขาก็รู้ว่าตัวเองกำลังเผชิญหน้ากับผู้ใด แต่เมื่อสังเกตเหลียนเฟินอย่างละเอียดแล้ว อย่างไรฝีมือของศิษย์ตรงหน้าก็ยังไม่เท่าคนผู้นั้น ดูเผิน ๆ เหมือนเพิ่งจะผ่านขั้นกลาง ดังนั้นแล้วหวังเยี่ยนหลงจึงเริ่มใช้กระบวนท่าที่สูงกว่านั้น

          หวังเยี่ยนหลงร่ายอาคมสั่งการกระบี่ให้โจมตีหลวนเล่อกับหลินหลีเหว่ย ส่วนตัวเขาใช้วิชาที่เคยฝึกมาเข้าประชิดสู้กับเหลียนเฟินตัวต่อตัว

          “ศิษย์พี่!” เหลียนเฟินส่งกระบี่ของเขาเข้ามาขวางเพื่อปกป้องนาง แล้วร่ายอาคมสายสีขาวกั้นเป็นเกราะกำบัง

          จังหวะที่เขาไม่ทันได้ระวังตัวจึงมีคนฉวยโอกาสเข้าใกล้มากกว่าเคย ปลายนิ้วของเขาเผลอแตะแก้มเหลียนเฟิน ยามที่เจ้าตัวหันหน้ามาสบสายตากับเขาพอดิบพอดี

          แววตาของหวังเยี่ยนหลงวูบไหว เปิดโอกาสให้เหลียนเฟินร่ายวิชาอัดพลังใส่ร่างของเขาเต็มเหนี่ยวจนกระอักเลือด

          หัวใจที่เคยด้านชาราวกับมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันใด หวังเยี่ยน หลงไม่เข้าใจว่าตนเองมีสิ่งใดผิดปกติไปจึงถอยหนึ่งก้าวแล้วหลบหนีไปจากที่นั่น

เหลียนเฟินรีบไปหาหลวนเล่อ “ศิษย์พี่ บาดเจ็บที่ใดหรือไม่”

          “ข้าไม่เป็นไร เจ้าอย่าได้กังวล” หลวนเล่อยิ้มให้เขา

          “แต่ข้าบาดเจ็บ หูย แสบไปหมดแล้ว” เสียงของชายขอทานดังขึ้นเรียกร้องความสนใจ

          “เช่นนั้นรักษาแผลให้เขา แล้วพาไปส่งศาลาว่าการดีหรือไม่” หลวนเล่อถามความเห็นของศิษย์น้อง

          “ดีขอรับ อย่างน้อยที่นั่นก็มีทหารอารักขาพอสมควร ข้าอยากถามเบาะแสเพิ่มเติมด้วย” เหลียนเฟินครุ่นคิด

          “ท่านนักพรต ข้าอยู่กับท่านไม่ได้หรือ ข้ากลัวคนผู้นั้นจะกลับมาทำร้ายข้าอีก หากเขาเป็นปีศาจเล่า ข้ายังไม่อยากตาย ช่วยพาข้าไปด้วยเถิดขอรับ ข้ากลัวจริง ๆ” หลินหลีเหว่ยแสดงละครให้สมบทบาทเพราะมีแผนใหม่ในใจ

          ครั้นเห็นว่าทั้งสองคนไม่ตอบตกลงเสียทีจึงทำท่าจะร้องไห้กราบแทบเท้าให้เห็นใจ

          “ก็ได้ ๆ คืนนี้เจ้าไปกับพวกข้าก็ได้” หลวนเล่อรีบบอก

          จากนั้นทั้งสามคนก็พากันเดินกลับโรงเตี๊ยม หลินหลีเหว่ยได้นอนในห้องว่างใกล้กับห้องเหลียนเฟิน

          “ศิษย์พี่ ท่านนอนหลับให้สบายเถิด ข้าจะเฝ้ายามต่อเอง” เหลียนเฟินบอกนางก่อนจะแยกย้ายกันเข้าห้อง

          เขาร่ายอาคมป้องกันแล้วนั่งฟื้นพลังปราณที่เสียไปอย่างเงียบ ๆ

          ห้องเล็กทางด้านซ้ายมีเสียงกุกกักเบา ๆ หลินหลีเหว่ยกำลังร่ายอาคมจุดกำยานส่งผ่านมาที่ห้องของเหลียนเฟิน

          กลิ่นของมันชวนให้ง่วงเหงาหาวนอนจนเหลียนเฟินต้องเอนกายนอนบนเตียงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

          ครั้นแน่ใจแล้วว่าเป้าหมายหลับลึก เขาจึงแอบย่องเข้ามาในห้อง ในมือถือยาเม็ดสีสันประหลาดมาด้วย

          คนผู้หนึ่งที่ล่วงล้ำเข้ามาอ่านความคิดของหลินหลีเหว่ยถึงกับยิ้มมุมปาก

          “เจ้าหนูสกปรกคิดจะเปลี่ยนร่างตบตาข้าอีก?” เขาพึมพำกับตัวเอง

          หวังเยี่ยนหลงนึกสนุกกระโดดเข้าไปดูเหตุการณ์ใกล้ ๆ อยากเห็นยามที่หลินหลีเหว่ยเลาะเนื้อหนังของนักพรตผู้นั้นออกมา

          ยาเม็ดประหลาดถูกกรอกเข้าปากของเหลียนเฟิน สีหน้าของหลินหลีเหว่ยตื่นเต้นจนเก็บอาการไม่อยู่ เขายิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียว

          “หน้าตาดียิ่งนัก” เขาพึมพำพลางลูบใบหน้าของเหลียนเฟิน ในใจโลดเต้นจะได้สวมร่างของศิษย์วังธาราเหมันต์ จากนั้นเขาจะรีบซ่อนร่างจริงของเหลียนเฟินแล้วเผ่นหนีก่อนที่หวังเยี่ยนหลงจะรู้ตัว

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   เล่ม 2 ตอนที่ 7 ความคลุ้มคลั่งในอดีต

    ย้อนกลับไปเมื่อสิบแปดปีที่แล้ว หลังจากเกิดเหตุการณ์นั้น หวังเยี่ยนหลงก็คลุ้มคลั่งเพราะควบคุมปราณมารไม่ได้ เขาถูกมันควบคุมความคิดจิตใจพยายามยึดร่างของเขา ยามที่สงบสติลงหวังเยี่ยนหลงก็เอาแต่นิ่งเงียบสับสน ครั้นปราณมารปะทุ อารมณ์รุนแรงอ่อนไหวยิ่งทวีมากขึ้น เขาเผลอร่ายอาคมโลหิตมารโดยไม่รู้ตัว จนทำให้คนที่มีโลหิตมารในร่างพลอยได้รับลูกหลงไปด้วย ในเวลานั้น หลิงซีแทบไม่มีทางเลือกอื่นใดแต่พอจะได้ยินเรื่องของละอองบุปผาโลหิตมาบ้างจึงส่งซวงและหลุนเข้าไปสืบหาข้อมูลเพิ่มเติม ระหว่างรอข่าวดี นางพยายามช่วยให้หวังเยี่ยนหลงควบคุมตนเองให้ได้ หากเขาไม่ถูกปราณมารโจมตี นางและพวกพ้องที่เหลือก็จะปลอดภัยไปด้วย บางครั้งหลิงซีคิดฉวยโอกาสสังหารหวังเยี่ยนหลงในเวลาที่อ่อนกำลังลง ทว่าไม่เป็นผลเลยสักครั้ง ไม่ว่าหวังเยี่ยนหลงจะมีสติหรือไม่ ปราณมารมักไม่ปล่อยให้ใครแตะต้องเขาได้ง่าย ๆ ร่างนี้เป็นของมัน ผู้ใดก็ไม่มีสิทธิ์ ละอองบุปผาโลหิตเป็นของวิเศษของพรรคบุปผาทมิฬ สวงนไว้ให้ประมุขพรรคและครอบครัวเท่านั้น หลิงซีรายงานเรื่องที่ได้รับจากซวงและหลุนให้หวังเยี่ยนหลงได้

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   เล่ม 2 ตอนที่ 6 เสแสร้งเป็นคนดี

    ผ่านไปหนึ่งก้านธูป หลินหลีเหว่ยนับเวลาถอยหลังจะได้ร่ายอาคมถลกหนังนักพรตผู้นี้ “อ๊าก!” เหลียนเฟินร้องเสียงดังจนทำให้คนที่อยู่ตรงนั้นสะดุ้งด้วยความแปลกใจ เหตุใดคนที่ควรจะนอนหลับใหลถึงฟื้นสติได้เร็วปานนี้ “เจ้า...” เขาไม่รู้จะเอ่ยคำใด “คันจริง ๆ เจ้าเอาอะไรให้ข้ากิน” เหลียนเฟินจ้องหน้าชายขอทานพลางใช้มือลูบใบหน้าและร่างกายของตนเอง รอยแดงเป็นวงกลมปรากฏขึ้นบนผิวขาวของเขา “โอสถละลายร่าง” เขาเผลอตอบเพราะยังตกใจไม่หาย ใครก็ตามที่กินยานี้เข้าไปมักจะหนีไม่รอดสักราย ฤทธิ์ของมันจะค่อย ๆ กัดกร่อนหนังหุ้มร่างกาย ทำให้คนผู้นั้นทรมานปวดแสบปวดร้อนจนทนไม่ได้ วันนี้เข้าเพิ่มกำยานเข้าไปด้วยเพราะไม่อยากสู้กับเหลียนเฟิน ชะรอยไม่คิดว่าจะผิดแผนจนได้ “เป็นเจ้าจริง ๆ ด้วย” เหลียนเฟินร่ายกระบี่จ่อคอเขาในทันที “ท่านนักพรต ทำไมถึงจ่อกระบี่มาทางข้าเล่า” มารยาร้อยเล่มเกวียนยังคงถูกนำมาใช้ต่อเนื่อง “เจ้าเป็นคนทำร้ายชาวบ้าน ข้าปล่อยเจ้าไปไม่ได้” เหลียนเฟินกล่าวต่อ “ไม่มีใครรู้ว่าคนผู้นั้นทำอะไรกับร่างของชาวบ้าน แต่เจ้ากลับรู้ว่าจะ

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   เล่ม 2 ตอนที่ 5 พบกันอีกครั้ง

    หลินหลีเหว่ยในคราบชายขอทานวิ่งเร็วรี่มาหาเหลียนเฟิน ดวงตาเบิกโต สีหน้าหวาดกลัว แกล้งตบตา แม้เหลียนเฟินและหลวนเล่อปลอมตัวเป็นชาวเมืองเฟิง แต่หากเรียกกระบี่เงินสลักลายคู่กายออกมาแล้ว ทุกคนย่อมรู้ว่าพวกเขาเป็นศิษย์วังธาราเหมันต์ “ท่านนักพรตช่วยข้าด้วย” เขาตะโกนเสียงดัง แล้วรีบวิ่งมาคุกเข่าต่อหน้าเหลียนเฟิน “เกิดอันใดกับเจ้า” หลวนเล่อถามชายขอทาน “คนผู้นั้น จู่ ๆ ก็เข้ามาทำร้ายข้า พยายามถลกหนังหน้าข้าออกไป ท่านนักพรตช่วยข้าด้วยเถิด ข้ากลัวไปหมดแล้ว” หลินหลีเหว่ยใช้มารยาของตนหลอกล่อให้ศิษย์วังธาราเหมันต์ตายใจ “ถลกหนังหน้าเจ้าน่ะหรือ มีดีตรงไหนกัน” หวังเยี่ยนหลงที่เพิ่งมาถึงหยุดอยู่ตรงหน้าทุกคนหัวเราะร่า สมเพชละครหลอกเด็กของหลินหลีเหว่ย “ข้าไม่รู้ คนดี ๆ ที่ไหนจะมาทำร้ายผู้อื่นเช่นนี้ ไม่ใช่ว่าเจ้าเป็นปีศาจที่ผู้คนเล่าลือกันหรือ” หลินหลีเหว่ยได้ทีใส่ความเติมเชื้อเพลิงความเลวร้ายของหวังเยี่ยนหลง “ต้องใช่แน่ ๆ เจ้าต้องเป็นปีศาจตัวนั้นแน่ ๆ” เขาทำท่าทางกลัวจนตัวสั่นรีบวิ่งมาเกาะขาของเหลียนเฟิน หลบสายตาไม่มองหน้าหวังเยี่ยนหลง

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   เล่ม 2 ตอนที่ 4 กำจัดเสี้ยนหนาม

    ท่าเรือเมืองเฟิง “เหลียนเฟิน เจ้ารีบออกมาได้แล้ว ข้าหิว” หลวนเล่อตะโกนบอกเขา สายตาจ้องไปยังร้านค้าต่าง ๆ ที่อยู่ไกลลิบ “เรียบร้อยแล้วขอรับ” เขาเดินออกมาหานาง ก้มมองดูเสื้อผ้าชุดใหม่ ท่าทางไม่ค่อยคุ้นชิน เหลียนเฟินเปลี่ยนมาสวมชุดเสื้อผ้าพื้นเมือง เดิมทีมักจะมัดผมสูงสวมกวานสีเงินเด่นสง่า เวลานี้เกล้าผมจุกเล็ก ๆ ถักเปียห้อย มีลูกปัดสีทองสะบัดไปมายามลมพัดไหว “ทำไมศิษย์พี่แต่งเป็นบุรุษเล่า” เขาเพิ่งจะเห็นว่าหลวนเล่อแต่งกายเหมือนกันไม่ผิดเพี้ยน “อยู่ต่างบ้านต่างเมือง ข้าเป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็ก ๆ เกรงว่าเปิดเผยตัวตนมากไปจะเกิดอันตราย” หลวนเล่อยิ้มกว้าง “แต่เหลียนเฟิน เอาหนวดไปติดดีหรือไม่ เจ้าแต่งเป็นบุรุษเหมือนกับข้าก็จริง เหตุใดถึงดูราวกับเป็นน้องสาวข้าไปได้ หรือว่าเจ้าจะลองเปลี่ยนโฉมเป็นสตรีแสนงดงามแทน” “ศิษย์พี่ล้อข้าเล่นอีกแล้ว รีบเข้าไปข้างในตัวเมืองกันก่อนฟ้าจะมืดเถิด” ทั้งคู่ตรงดิ่งไปที่ร้านขายบะหมี่ สั่งอาหารมาคนละสองชาม นั่งซดน้ำซุปแสนอร่อยไม่สนใจสิ่งอื่นใดอีกต่อไป คล้อยหลังตะวันลับฟ้า บ้านเรือนร้านค้าในตัวเมืองทย

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   เล่ม 2 ตอนที่ 3 ลอบทำร้ายประมุข

    รุ่งเช้าวันต่อมา สีหน้าเรียบเฉยของคนผู้หนึ่งยืนดูเหตุการณ์ชุลมุนอยู่ข้างบนระเบียงชั้นสองของโรงเตี๊ยม เขาไม่มีทีท่าสะทกสะท้านหวาดกลัวเฉกเช่นคนทั่วไป พลันรอยยิ้มมุมปากปรากฏขึ้นเพราะแน่ใจแล้วว่าผู้ที่สร้างเรื่องทั้งหมดหวังสิ่งใด “ตามตัวได้หรือไม่” เสียงเย็นชาถามลูกน้องคนสนิท มือข้างหนึ่งถือถ้วยชายกดื่มสบายอารมณ์ “ยังไม่พบขอรับนายท่าน” เขารายงานตามความจริง นับตั้งแต่รับคำสั่งจากหวังเยี่ยนหลง เขาออกเดินทางสืบเสาะไปทั่วแคว้นซีเป่ย ในที่สุดก็พบว่าคนผู้นี้แอบหลบซ่อนตัวอยู่ในเมืองเฟิง ใช้วิชาของตนเองหลบหนียามเมื่อถึงคราวจวนตัว เพียงแต่ครานี้ เขากลับทิ้งร่องรอยไว้ชัดเจนมากเกินไปจนผิดสังเกต “นายท่าน กำลังคิดสิ่งใดอยู่หรือ” ชายอีกคนเอ่ยปาก “เห็นหรือไม่ว่าเจ้านั่นตั้งใจทิ้งร่องรอยของปราณมารเอาไว้” เขาชี้ไปยังข้างล่างที่มีทหารสี่ห้านายกำลังเก็บศพของชายขอทาน “วิชาของหลินหลีเหว่ยไม่เคยมีร่องรอยเช่นนั้น” “เพราะเหตุใดเล่าขอรับ” ลูกน้องทั้งสองคนยังคงไม่เข้าใจ แต่เจ้านายของพวกเขากลับคาดการณ์แผนทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย คนผู้นี้ไ

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   เล่ม 2 ตอนที่ 2 เหตุการณ์แปลกต่างเมือง

    สุดท้ายแล้ววันนั้นเหลียนเฟินก็ผ่านการสอบมาได้ กลายเป็นศิษย์ที่เหล่าอาจารย์และเพื่อนพ้องร่วมสำนักภาคภูมิใจ อาจารย์อาจึงตกรางวัลเขาด้วยวันหยุดพักผ่อนห้าวันพร้อมอัฐอีกหนึ่งถุงใหญ่เอาไว้ใช้จ่ายส่วนตัว กระนั้นความฝันที่จะได้นอนเล่นอยู่เงียบ ๆ ก็สลายไปเมื่อศิษย์พี่หญิงหลวนเล่อวิ่งหน้าตั้งเข้ามาหา สีหน้าตื่นเต้นเหมือนจะได้ออกไปนอกสำนัก “เหลียนเฟินนนน” นางเรียกศิษย์น้องพร้อมรอยยิ้มเลศนัย เหลียนเฟินจึงรีบหันหน้าไปอีกทางเตรียมวิ่งหนีเพราะรู้ดีว่าสีหน้าเช่นนั้นหมายความว่าอะไร “เหลียนเฟิน ถ้าเจ้าหนี ข้าจะฟ้องอาจารย์ว่าเจ้าไม่ดูแลข้า” หลวนเล่ออ้างคำสั่งของหมิงฮวาที่ฝากฝังเอาไว้ เขาจึงถอนหายใจรอรับฟังสิ่งที่นางจะเอ่ย “ข้าเดาว่า ข้าต้องช่วยทำอะไรสักอย่างใช่หรือไม่” เหลียนเฟินถาม ในใจภาวนาว่าอย่าให้ตรงกับวันว่างของเขาเลย “อาจารย์อาสั่งให้ข้าไปตรวจหาสาเหตุการตายของชาวบ้านที่เมืองเฟิง ศิษย์พี่ใหญ่กับศิษย์พี่รองไม่อยู่ ศิษย์พี่ซีหลิวมีงานรัดตัว ข้าเลยขอพาเจ้าไปด้วย อาจารย์อาอนุญาตแล้ว” หลวนเล่อร่ายยาวเรื่องราวตั้งแต่ต้นจนจบ นางรู้ดีว่าศิษย์น้องผ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status