Share

ริ่มกักตุนเสบียง

Author: zuey
last update Last Updated: 2025-08-06 17:54:44

ณ เรือนตระกูลหลี่

“กลับมาแล้วหรือเจ้าพวกตัวซวย หายหัวไปทั้งคืนยังกล้ากลับมาที่นี่อีกนะ”

เสียงแหลมสากของแม่เฒ่าหม่าดังขึ้นด้านหลัง ในระหว่างที่สองพี่น้องกำลังย่องกลับไปยังห้องเก็บฟืน

“ท่านย่า”

หญิงชรามีสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อย ที่เด็กสาวหันมาพูดกับตนด้วยสีหน้าเย็นชา ทั้งที่ในยามปกติมักจะแสดงท่าทีขลาดกลัว

เป็นครั้งแรกที่ได้พบหญิงชราหลังจากย้อนกลับมามีชีวิตอีกครั้ง หลี่อันหนิงกำหมัดแน่นเพื่อระงับอารมณ์โกรธแค้นที่ปะทุขึ้นภายในใจ

ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของตนเป็นเพราะหญิงชราผู้นี้ วันหน้านางจะต้องตอบแทนอย่างสาสมให้สมกับที่ครอบครัวของตนได้รับมา

หลี่อันหนิงสบถสาบานในใจ

“ท่าย่ามีอะไรจะใช้ข้าหรือ”

เด็กสาวถามเสียงห้วน ไร้ท่าทีขลาดกลัวดั่งเช่นวันวาน

“วันนี้พวกแกสองคนไม่ได้รับอนุญาตให้ทานอาหาร ต้องทำงานที่เหลือจากเมื่อวานให้เสร็จทั้งหมด จากนั้นก็ขึ้นเขาไปเก็บผักป่ามาซะ”

หลี่อันหนิงบิดปากเล็กน้อย ห้ามทานอาหารหรือ อาหารที่แม้แต่หมูยังไม่อยากทานใครมันจะกลืนลงท้องได้ เด็กน้อยทั้งสองไม่ตอบโต้ กลับทำตามที่หญิงชราสั่งอย่างว่าง่าย ซึ่งต่างจากท่าทีเฉยชาที่แสดงออก

หลี่เจียนเจียนเดินผ่านสองพี่น้องที่กำลังหอบชุดเสื้อผ้าคนบ้านหลี่ไปยังริมน้ำ หญิงสาวมองอย่างดูแคลนก่อนเดินผ่านเลยไป เหตุเพราะวันนี้อารมณ์ดี จึงไม่คิดตอแยเอ่ยถึงเรื่องเมื่อวานที่พวกนางทำให้ตนขายหน้า

เด็กสาวหันมองด้านหลังอาหญิงของตนด้วยท่าทางครุ่นคิด ไม่คิดว่าคนร้ายกาจอย่างนางจะยอมปล่อยพวกตนไปอย่างง่ายดาย

“นี่พวกเจ้ารู้หรือไม่ว่าหลี่เจียนเจียนของบ้านหลี่กำลังดูตัวกับบัณฑิตหลิวหมู่บ้านข้างๆ”

เสียงซุบซิบของเหล่าแม่บ้านกำลังพูดถึงเรื่องอาเล็กของนาง หลี่อันหนิงและหลี่ซางเป่าตั้งใจซักผ้าและมิได้สนใจเรื่องที่ทุกคนกำลังพูดคุย

นางรู้อยู่แล้วว่าอีกไม่นานหลี่เจียนเจียนจะต้องถูกปฏิเสธการดูตัวแน่นอน คนดีดีอย่างหลิวซีห่าวไหนเลยจะยอมลดตัวมาแต่งงานกับสตรีไร้ยางอาย ใช้เงินซื้อบุรุษเช่นหลี่เจียนเจียน

“กลับเถอะ เป่าเอ๋อ วันนี้ต้องขึ้นเขาเพื่ออนาคตของเราทั้งสอง”

เด็กสาวยกถังผ้าที่ซักเสร็จแล้วเดินกลับไปยังเรือนตระกูลหลี่ หลังจากทำงานทั้งหมดเสร็จสิ้น สองพี่น้องก็คว้าตะกร้าสะพายหลังเดินขึ้นเขาไปโดยไม่สนใจสิ่งกำลังจะเกิดขึ้น

“เป่าเอ๋อ วันนี้เราจะไม่เก็บผักป่า แต่เราจะขุดหัวมันที่ขึ้นในภูเขาทั้งหมด เอากลับไปเก็บไว้ในถ้ำน้ำร้อน”

เด็กน้อยเอียงหน้ามองพี่สาวด้วยท่าทีสงสัย

“ทำไมเล่า”

“อืมม จะพูดอย่างไรดี คงต้องบอกว่าท่านแม่บอกให้ทำเช่นนี้กระมัง อีกไม่นานจะเกิดภัยแล้งขึ้น หัวมันป่าที่ไม่มีใครกินพวกนี้จะมีประโยชน์กับเราพี่น้องในอนาคต”

หลี่อันหนิงอธิบายให้น้องสาวฟัง โดยมิได้บอกว่าตนเองเป็นคนที่ย้อนกลับมาเกิดใหม่ และรู้บางเรื่องที่กำลังเกิดขึ้นในอนาคต

“ได้ ถ้าท่านแม่บอกว่ามันจะเกิดขึ้น เป่าเอ๋อก็จะเชื่อ”

หัวมันที่ฝังอยู่ในดินนางเคยทานมันหลายครั้ง เพราะในอดีตตนและมารดาเมื่อยามที่ขึ้นเขามาเก็บผักป่า ก็มักจะใช้หัวมันเหล่านี้แทนอาหารเพื่อบรรเทาความหิวโหย ทุกสิ่งเป็นมารดาของนางที่สอนมา

หลี่อันหนิงรู้ว่าตรงจุดไหนของภูเขามีดงต้นหัวมันขึ้นมากกว่าปกติ ในวันหน้าสิ่งเหล่านี้คือหลักประกันมิให้พวกนางต้องอดอยาก

“พี่ใหญ่ข้าขุดได้หัวใหญ่มากท่านดูสิ”

หลี่อันหนิงมองหัวมันที่อยู่ในมือของน้องสาว ที่มีขนาดเกือบเท่ากับตัวของนางเลยทีเดียว

“เป่าเอ๋อน้องทำได้อย่างไร”

เด็กสาวรับหัวมันที่อยู่ในมือของหลี่ซางเป่ามาพิจารณา เด็กน้อยยกยิ้มด้วยท่าทางภาคภูมิใจ

“ท่านแม่สอนข้า”

“จริงหรือ ท่านแม่บอกว่าต้องทำอย่างไรบ้าง”

นางรู้แค่ว่าต้องขุดตรงที่มีลำต้นของหัวมัน และตอนนั้นยังเล็กมากจึงเป็นผู้เฝ้าดูเท่านั้นมิได้ขุดด้วยตนเอง

“ท่านดูที่รอยแตกของดินตรงนี้นะเจ้าคะ นี่คือที่ที่มีหัวมันอันใหญ่ซ่อนอยู่”

หลี่ซางเป่าชี้ให้ผู้เป็นพี่สาวดู และหลี่อันหนิงก็ทดลองขุดด้วยตนเอง มันจริงอย่างที่นางเอ่ย หัวมันขนาดเขื่องนอนแอ้งแม้งซ่อนตัวอยู่ในดิน นางไม่จำเป็นต้องเริ่มขุดจากลำต้นของมันเลยสักนิด

“ขอบคุณท่านแม่ที่ช่วยสั่งสอน”

เด็กสาวคุกเข่าคำนับสามครั้งอย่างซาบซึ้งใจ จากนั้นจึงลงมือทำงานของตนอย่างขะมักเขม้น

ช่วงบ่ายดวงตะวันคล้อยไปอีกด้าน หลี่อันหนิงถือกระบอกน้ำไปยังลำธารที่อยู่ห่างออกไป ลำธารสายนี้ไหลมาจากน้ำตกที่อยู่ใจกลางภูเขาและไหลไปเรื่อยๆ เพื่อหล่อเลี้ยงอีกหลายหมู่บ้าน

เด็กสาวมองลงไปยังสายน้ำที่ใสจนมองเห็นตัวปลา

“เป่าเอ๋อวันนี้เราทานปลาย่างกันดีกว่า”

หลี่อันหนิงผู้ได้รับประสบการณ์ของเจ้าเสือดำและแม่ทัพผู้จากไป นางเดินหาก้อนหินขนาดเท่าหัวของตน ก่อนจะรอคอยเจ้าปลาที่ว่ายผ่าน จากนั้นทุ่มหินลงไปอย่างแรง ไม่นานปลาหลายตัวก็ลอยหงายท้องขึ้นมาบนผิวน้ำ

“เป่าเอ๋อก่อไฟ”

หลี่อันหนิงจับปลาส่วนหลี่ซางเป่าเป็นผู้สนับสนุน สองพี่น้องใช้ชีวิตอย่างอิสระอยู่ภายในป่าโดยที่ไม่จำเป็นต้องหวาดกลัวสัตว์ร้ายตัวอื่น เพราะภูเขาละแวกนี้เป็นเขตแดนของเจ้าเสือดำ

“ท่านพี่ เรากลับไปหาเจ้าตัวน้อยทั้งสองที่ถ้ำดีหรือไม่ เป่าเอ๋อ อยากทานพร้อมกับพวกมัน”

เด็กสาวเองก็คิดเช่นนั้น

“ได้สิ ทำตามที่น้องต้องการได้เลย”

สองพี่น้องใช้กระบอกไม้ไผ่ตักน้ำที่ลำธารกลับไปพร้อมทั้งห่อปลาย่างอีกหลายตัว

ระหว่างทางหลี่อันหนิงได้ขนเอาหัวมันที่ขุดกองไว้ กลับไปเก็บยังถ้ำลับของพวกนางด้วย

“เรากลับมาแล้ว”

เด็กสาวตะโกนเรียกเจ้าสองหน่อที่นอนอยู่ในโพรงเล็กของมัน

เจ้าก้อนขนทั้งสองเมื่อได้ยินเสียงของหลี่อันหนิง ใบหูเล็กทั้งสองข้างก็กระดิกเบาๆ พวกมันจดจำกลิ่นของสองพี่น้องได้ดี เมื่อเด็กสาววางสัมภาระลง เจ้าตัวน้อยก็พุ่งเข้ามาในอ้อมแขนราวกับว่านางคือมารดาของมัน

“เป็นอย่างไรเจ้าตัวน้อย อยู่กันเองดื้อหรือไม่ จำเอาไว้ว่าถ้าเราไม่มาพวกเจ้าห้ามออกจากถ้ำเด็ดขาด เพราะมันอันตราย”

หลี่อันหนิงเอ่ยกับลูกเสือดำทั้งสองอย่างเอ็นดู เจ้าตัวน้อยราวกับฟังที่นางพูดรู้เรื่อง พวกมันกระดิกหูเบาๆ ทุกครั้งที่นางเอ่ยสั่งสอน

หลังจากทานปลาย่างจนอิ่มหนำ สองคนกับอีกสองตัวก็นอนกลางวันจนกระทั่งเสียงนกป่าร้องขับขานเมื่อยามกลับรังนอน

สองพี่น้องใช้เวลาบนเขาทั้งวันจนกระทั่งท้องนภาเปลี่ยนสี ตั้งแต่ที่คิดตัดขาดกับคนตระกูลหลี่ หลี่อันหนิงก็ไม่คิดว่าตนต้องกังวลเรื่องเกี่ยวกับพวกเขาอีก นางและน้องสาวใช้ชีวิตอย่างอิสระเมื่อไม่ต้องการกลับตระกูลหลี่ก็ใช้ถ้ำแห่งนั้นเป็นสถานที่หลับนอนมันซะเลย

ช่วงเวลากลางวันที่นี่ระบายอากาศได้ดีเหมาะสำหรับใช้อยู่อาศัย กลางคืนก็อบอุ่นเพราะมีบ่อน้ำพุร้อน แล้วพวกนางยังจะอยากกลับไปยังห้องเก็บฟืนที่ทั้งเหม็นอับและเล็กแคบทำไมกัน

หลี่ซางเป่าที่พึ่งงัวเงียตื่น ชี้ไปยังอีกฟากของโถงถ้ำ

“ท่านพี่ ท่านแม่บอกข้าว่ามีบางสิ่งอยู่ที่นั่น”

หลี่อันหนิงมองตามมือของน้องสาว อีกฟากของโถงถ้ำมีต้นไม้และหญ้าขึ้นค่อนข้างหนาทึบ เพราะไม่ใช่ถ้ำปิดทำให้พืชและสิ่งมีชีวิตเติบโตและอาศัยอยู่ได้

“ท่านแม่บอกว่ามีสิ่งใดหรือ”

“ข้าเองก็ไม่รู้ นางบอกว่าเคยสอนเกี่ยวกับเรื่องนั้นให้ท่านแล้ว ท่านต้องไปดูด้วยตนเอง”

เด็กสาวพยักหน้าก่อนเดินไปยังจุดที่น้องสาวชี้ให้ดู

หลี่อันหนิงแหวกหญ้าออกเพื่อสำรวจว่าที่ตรงนี้มีสิ่งใดกันแน่ นางมองหาสิ่งที่คิดว่าอาจมีประโยชน์ต่อพวกตน ทว่าสุดท้ายก็ไม่เห็นมีสิ่งใดนอกจากต้นไม้และหญ้า

เด็กสาวเดินกลับมาหาน้องสาวด้วยท่าทีผิดหวัง

“เป่าเอ๋อที่นั่นไม่มีอะไรเลยนอกจากหญ้า พี่ไม่คิดว่าน้องจะโกหกหรอกนะ แต่บางทีเป่าเอ๋ออาจเข้าใจผิด”

หลี่ซางเป่าเกาหัวตนเอง

“ท่านแม่บอกน้องเช่นนั้นจริงๆ นะ พี่ใหญ่ลองดูอีกครั้งได้หรือไม่”

เมื่อเห็นว่าน้องสาวยืนยันหนักแน่นหลี่อันหนิงก็ไม่คิดจะขัดขวาง ซ้ำยังสนับสนุนให้หลี่ซางเป่าค้นหาด้วยตนเอง

“ได้เช่นนั้นเราก็หาดูอีกทีก็แล้วกัน”

สองพี่น้องเดินเข้าไปในพงหญ้าทึบ ใช้ไม้แหวกเส้นทางออกทีละน้อยเพื่อมองหาบางสิ่งที่น้องสาวเอ่ยถึง ผ่านไปได้เพียงไม่นานหลี่ซางเป่าก็ร้องออกมาเสียงดังด้วยท่าทางตื่นเต้น

“พี่ใหญ่!! พี่ใหญ่!! ท่านดูนี่สิ เป่าเอ๋อบอกแล้วว่าท่านแม่มิได้โกหก”

หลี่อันหนิงมองดูตามนิ้วมือของเด็กน้อยที่ชี้ไปยังหญ้าต้นหนึ่ง

ใบของมันคล้ายรูปฝ่ามือส่วนขอบหยักเป็นฟันเลื่อยมีขนาดกว้างสองสามชุ่น (2-3 นิ้ว) ความยาวของใบประมาณห้าถึงหกชุ่น สามใบด้านบนจะมีขนาดใหญ่กว่าใบด้านล่าง เส้นหน้าใบมีขนปกคลุมเล็กน้อยส่วนด้านหลังไม่มีเส้นขน ที่สำคัญมีเมล็ดสีแดงชูช่ออยู่ด้านบน

มองอย่างไรก็คือโสมชัดๆ ก่อนหน้านี้นางมองหาจนทั่วทว่ากลับมองไม่เห็นอะไรเช่นนี้เลย หลี่อันหนิงหันกลับไปมองน้องน้อยที่ยืนตาเป็นประกายใกล้ๆ ตน หรือว่าเป่าเอ๋อจะเป็นคนนำโชคมาให้เราพี่น้อง

เด็กน้อยไม่รอช้ารีบขุดมันออกมาอย่างระมัดระวัง ระหว่างที่เสียมจ้วงแทงลงในดิน หัวใจของนางเต้นระทึกด้วยความตื่นเต้นอยู่ตลอดเวลา ไม่คิดว่าพวกตนจะโชคดีเพียงนี้

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เกิดใหม่ในฐานะคุณหนูตระกูลพาน   ริ่มกักตุนเสบียง

    ณ เรือนตระกูลหลี่“กลับมาแล้วหรือเจ้าพวกตัวซวย หายหัวไปทั้งคืนยังกล้ากลับมาที่นี่อีกนะ”เสียงแหลมสากของแม่เฒ่าหม่าดังขึ้นด้านหลัง ในระหว่างที่สองพี่น้องกำลังย่องกลับไปยังห้องเก็บฟืน“ท่านย่า”หญิงชรามีสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อย ที่เด็กสาวหันมาพูดกับตนด้วยสีหน้าเย็นชา ทั้งที่ในยามปกติมักจะแสดงท่าทีขลาดกลัวเป็นครั้งแรกที่ได้พบหญิงชราหลังจากย้อนกลับมามีชีวิตอีกครั้ง หลี่อันหนิงกำหมัดแน่นเพื่อระงับอารมณ์โกรธแค้นที่ปะทุขึ้นภายในใจทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของตนเป็นเพราะหญิงชราผู้นี้ วันหน้านางจะต้องตอบแทนอย่างสาสมให้สมกับที่ครอบครัวของตนได้รับมาหลี่อันหนิงสบถสาบานในใจ“ท่าย่ามีอะไรจะใช้ข้าหรือ”เด็กสาวถามเสียงห้วน ไร้ท่าทีขลาดกลัวดั่งเช่นวันวาน“วันนี้พวกแกสองคนไม่ได้รับอนุญาตให้ทานอาหาร ต้องทำงานที่เหลือจากเมื่อวานให้เสร็จทั้งหมด จากนั้นก็ขึ้นเขาไปเก็บผักป่ามาซะ”หลี่อันหนิงบิดปากเล็กน้อย ห้ามทานอาหารหรือ อาหารที่แม้แต่หมูยังไม่อยากทานใครมันจะกลืนลงท้องได้ เด็กน้อยทั้งสองไม่ตอบโต้ กลับทำตามที่หญิงชราสั่งอย่างว่าง่าย ซึ่งต่างจากท่าทีเฉยชาที่แสดงออกหลี่เจียนเจียนเดินผ่านสองพี่น้องที่กำล

  • เกิดใหม่ในฐานะคุณหนูตระกูลพาน   ความลับที่ได้รู้โดยบังเอิญ

    กลางดึก ในระหว่างที่พี่น้องกำลังหลับสนิท เสียงคำรามของสัตว์ร้ายดังก้องสะท้านขึ้นที่ด้านนอกถ้ำ หลี่อันหนิงและหลี่ซางเป่าสะดุ้งรู้สึกตัวขึ้นพร้อมกันเด็กสาวมิได้เล่าเรื่องที่ตนได้ยินเจ้าก้อนขนสีดำพูดคุยกันให้น้องสาวฟัง ไม่คิดว่าแม่ของมันจะกลับมาในคืนนี้ ในระหว่างที่หลี่อันหนิงกำลังคิดหาทางหนี เสียงร้องครางด้วยความเจ็บปวดของเจ้าสัตว์ร้ายด้านนอกดังขึ้นแผ่วเบาในหัวของนางได้ยินเสียงของมันรำพึงถึงลูกน้อยทั้งสอง เด็กสาวมองไปยังฝั่งตรงข้ามของบ่อน้ำร้อน ก่อนตัดสินใจเดินออกไปดูในความมืดสลัวราง หลี่ซางเป่าจับแขนเสื้อของพี่สาวเอาไว้มั่น“พี่ใหญ่ไปไหนหรือ”“ซางเป่ารอพี่อยู่ที่นี่ได้หรือไม่ ไม่นานพี่จะกลับมา”เด็กน้อยส่ายหน้าปฏิเสธแสดงท่าทีหวาดกลัว นางเห็นน้องน้อยแสดงท่าทางเช่นนั้นออกมา ก็ได้แต่ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ“ได้ๆ เช่นนั้นก็ไปด้วยกันเถิด”หญิงสาวจับมือของน้องสาวเดินออกมาทางปากถ้ำ ที่ยังคงได้ยินเสียงร้องครางของสัตว์บาดเจ็บชัดเจน เมื่อไปถึงบริเวณปากถ้ำที่นั่นมีคบเพลิงมากมายถูกจุดโดยมนุษย์ดวงตาดำสนิทของเจ้าสัตว์ร้ายจ้องมองมายังนางและน้องสาวที่ซ่อนตัวอยู่ เจ้าก้อนขนทั้งสองที่ไม่รู้ว่าตามมาตั้งแ

  • เกิดใหม่ในฐานะคุณหนูตระกูลพาน   ความสามารถของหลี่ซางเป่า

    หลี่อันหนิงพยักหน้าพลางลูบผมของเด็กน้อยซางเป่าอย่างภูมิใจ ตอนนี้ตนเองเป็นเพียงเด็กเท่านั้นไม่อาจทำตามใจตนดั่งเช่นผู้ใหญ่ได้ หากต้องการปกป้องน้องทั้งสองนางจำต้องมีอำนาจในมือและแล้วหลี่อันหนิงก็หวนกลับไปนึกถึงใบหน้าอันหล่อเหลาที่แสนเย็นชาของท่านขุนนางหนุ่ม เพียงเท่านั้นในหัวใจของนางก็รู้สึกอบอุ่นอย่างแปลกประหลาด“พี่ใหญ่ข้ารู้ว่าที่ใดที่เราสามารถใช้นอนได้”เด็กสาวมองหน้าน้องน้อยของตนด้วยสีหน้าสนใจ หลี่ซางเป่าเดินลิ่วนำหน้าไปเหมือนกับคุ้นเคยเส้นทางบนภูเขา หลี่อันหนิงผู้เป็นพี่สาวรีบวิ่งตามจนกระทั่งทั้งสองไปถึงผาหินที่มีต้นไม้และเถาวัลย์ขึ้นรกชัฏแห่งหนึ่ง“เป่าเอ๋อเราใช้ที่นี่นอนไม่ได้หรอกนะ มันรกเกินไปอีกอย่างอาจมีงูพิษออกมาก็ได้ รู้หรือไม่ว่ามันอันตราย”หลี่ซางเป่าเกาหัวตนเองเบาๆ นางแสดงสีหน้ามั่นใจก่อนจะหันไปดึงแขนเสื้อของพี่สาว“ได้เรานอนที่นี่ได้ นางบอกว่าคืนนี้ให้เรานอนที่นี่”นางหรือ...ใครกัน หลี่อันหนิงมองใบหน้าที่เล็กกว่าฝ่ามือของน้องสาวอย่างงุนงง สายตาสำรวจมองไปรอบๆ ไม่เห็นมีที่ใดเลยที่จะสามารถใช้นอนได้ แล้วเหตุใดซางเป่าถึงพูดเช่นนั้นออกมา“ใครเป็นคนบอกน้องหรือ เป่าเอ๋อ”“ท่านแ

  • เกิดใหม่ในฐานะคุณหนูตระกูลพาน   ค้นพบถ้ำลับ

    แม่เฒ่าจวงจีบปากจีบคือเอ่ย พลางหันไปถามความเห็นของเหล่าจีนมุงที่ตอนนี้เริ่มมากขึ้นทุกทีหลี่เจียนเจียนผู้ที่ถูกตามใจมาตั้งแต่ยังเล็ก คิดไม่ถึงว่าจะถูกหญิงชราตรงหน้าตอกกลับเช่นนี้ นางกำหมัดกระทืบเท้าอย่างไม่พอใจ ก่อนตวาดแหวออกไปอีกครั้ง“เจ้า!! ยายเฒ่า เจ้าพูดจาเหลวไหลอันใด ข้าบอกให้ส่งนางเด็กสารเลวสองคนนั้นออกมา”ใบหน้าของหลี่เจียนเจียนเริ่มแดงก่ำด้วยความโกรธ นางไม่รู้วิธีจัดการกับคนอย่างหญิงชราผู้นี้ เพราะที่ผ่านมาเป็นนางที่เป็นผู้กระทำมาตลอด“เจ้าหมายความว่าอย่างไร เรือนหลังนี้มีเพียงข้าและหลานชายอาศัยอยู่ หากจะพูดว่ามีเด็กสารเลวที่นี่ก็มีแต่เจ้าคนเดียว”แม่เฒ่าจวงลอยหน้าลอยตาเอ่ย โดยไม่สนใจในใบหน้าที่เริ่มเขียวคล้ำดำมืดของหลี่เจียนเจียน“กรี๊ด!!! ยายเฒ่าจวง กล้าว่าข้าสารเลวหรือ”หญิงสาวพุ่งเข้าใส่แม่เฒ่าจวงแต่ถูกจวงอี้ซิงเอาตัวขวางเอาไว้ เขาและนางอายุสิบเจ็ดเท่ากันทว่าเด็กหนุ่มกลับสูงใหญ่และแข็งแรงมากกว่า อาจเพราะเขาทำงานหนักมาตั้งแต่ยังเล็กหลี่เจียนเจียนไม่สนใจว่าคนที่ขวางทางตนจะเป็นใคร นางใช้เล็บข่วนเด็กหนุ่มตรงหน้าเพื่อระบายโทสะของตน แต่สิ่งที่หลี่เจียนเจียนทำไม่สามารถสร้างความ

  • เกิดใหม่ในฐานะคุณหนูตระกูลพาน   หลี่เจียนเจียนอาละวาด

    “อันหนิง!! อันหนิงลูกแม่ ลูกต้องช่วยน้องชายของเจ้านะ อย่าปล่อยให้เขาต้องเดินทางผิดเช่นในอดีต บัดนี้มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่สามารถนำทางให้เขากลับมาเดินในเส้นทางที่ถูกต้องได้”ในความมืดมิดอันเวิ้งว้าง เด็กสาวได้ยินเสียงคุ้นเคยของผู้เป็นมารดาดังแว่วอยู่ไกลๆ นางมองสถานที่ที่ไม่คุ้นตานี้ด้วยสีหน้าสงสัย แม้รอบกายจะมืดทะมึนแต่กลับมิได้ให้บรรยากาศที่น่าหวาดกลัวหลังจากเงี่ยหูฟังว่าเสียงของมารดามาจากที่ใด นางจึงตัดสินใจเดินตามเสียงนั้น กระทั่งได้เห็นภาพเหตุการณ์ของชายหนุ่มรูปงามในชุดขาว ราวกับเทพสงครามกำลังเข่นฆ่าสังหารผู้อื่นด้วยใบหน้าเฉยชาเด็กสาวตกใจกับภาพตรงหน้าจนถอยกรูดไปด้านหลัง ทว่าภายในใจกลับคิดว่าดวงตาของคนผู้นี้ช่างดูคุ้นเคยยิ่งนักเมื่อหลี่อันหนิงมองเพ่งมองให้ชัดๆ นางเห็นไฝเม็ดเล็กที่อยู่ใต้ดวงตาขวาของเขาแล้วภาพของเด็กชายตัวน้อยที่ถือตำราในมือก็ผุดขึ้นมาในหัวของนาง บ้านหลี่มีเพียงเด็กสองคนที่เกิดมาพร้อมกัน และพวกเขามีไฝน้ำตาอยู่คนละฝั่งหลี่ซางเป่ามีไฝเม็ดเล็กใต้ดวงตาข้างซ้าย เช่นนั้นเขาก็คือหลี่อี้เจ๋อ น้องชายคนรองของนาง ทว่าภาพตรงหน้ามันคืออันใด เหตุใดเขาถึงได้กลายเป็นคนโหดเหี้ยมอำ

  • เกิดใหม่ในฐานะคุณหนูตระกูลพาน   เหตุใดข้าได้ยินเสียงของนาง

    “อวัยวะภายในของนางและกระดูกหลายส่วนถูกทำลายจนสิ้น ต่อให้ช่วยได้ในตอนนี้นางก็คงอยู่ไม่พ้นเดือน ทำได้เพียงใช้สมุนไพรยื้อชีวิตไปเรื่อยๆ เท่านั้น อีกอย่างเราอยู่ในภารกิจที่เร่งด่วน จำเป็นต้องปล่อยนางไป เฮ่อ!! ช่างน่าเวทนานัก นางยังเด็กอยู่เลยกลับต้องมาพบกับชะตากรรมอันเลวร้ายเช่นนี้”ชายหนุ่มรูปงามที่แต่งกายด้วยชุดสีดำทั้งตัว เส้นผมสีดำสนิทถูกรวบสูงและสวมกวานหยก เขาประคองร่างบางขึ้นอย่างทะนุถนอม แม้ร่างกายของนางจะเปรอะเปื้อนไปด้วยดินโคลน แต่ถึงกระนั้นเขากลับกอดนางเอาไว้ในอ้อมแขนอย่างไม่นึกรังเกียจชายหนุ่มยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดเลือดที่ใบหน้าของหลี่อันหนิงอย่างแผ่วเบา นางไม่เคยได้รับการปฏิบัติเช่นนี้มาก่อนตั้งแต่ที่มารดาจากไป หญิงสาวส่งยิ้มให้กับบุรุษตรงหน้าเพื่อเป็นการขอบคุณ จากนั้นเขาจึงก้มลงกระซิบที่ข้างหูของนาง“ข้าคือขุนนางที่ฮ่องเต้ส่งมา เด็กน้อยเจ้ามีคำขออื่นใดหรือไม่”หลี่อันหนิงได้ยินคำถามนั้นก็รู้แล้วว่าอีกไม่ช้าชีวิตของตนก็คงจะถูกพรากไป แต่ก็ยังดี อย่างน้อยนางสามารถเลือกที่จะตายด้วยน้ำมือของใครได้เด็กสาวใช้แรงเฮือกสุดท้ายกระซิบเอ่ยตอบกลับไป“รบกวนช่วย!!...ฆ่า!!ข้า อย่าให้ข้าต้อ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status