Share

5 ไปส่งหน่อยจิ~

last update Last Updated: 2025-10-12 01:30:23

"อ่ะนี่เพื่อน โทรศัพท์มึง" คีตะเดินกลับมาเอาโทรศัพท์ยื่นให้ปริ้นซ์หลังจากที่ได้เบอร์โทรและ I* ของสาวสวยเมื่อกี้ที่ชื่อว่า 'บังเอิญ'

"ขอบใจแต่ไม่ต้องการไอ้สัส" ปริ้นซ์รับโทรศัพท์จากคีตะมาไว้ในมือก่อนจะแจกคำอวยพรให้คีตะไปหนึ่งประโยค เพราะว่าเขาไม่ได้เต็มใจที่จะให้โทรศัพท์มันไป แต่มันมาแย่งโทรศัพท์เขาไปหน้าตาเฉยพร้อมกับเดินไปขอเบอร์ขอIGผู้หญิงคนนั้นมาทั้งที่ตัวเขาไม่ได้ขอร้องมัน

"กูจะรอดูเลย บุญคุณในครั้งนี้มึงต้องได้ตอบแทนกูแน่นอน" คีตะพูดใส่ปริ้นซ์อย่างนั้นอกมั่นใจพร้อมกับยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่มอย่างโชว์เหนือ ว่าไอ้เพื่อนรักมันต้องชอบใจที่ตัวเองไปขอเบอร์พี่สาวคนสวยเมื่อกี้อย่างแน่นอน

"ควาย!!!" ปริ้นซ์หมั่นไส้ท่าทางของเพื่อนตัวเองมาก ที่มันมั่นใจนักหนาว่าเขาจะชอบกับสิ่งที่มันทำ

หลังจากนั้นทั้งสองก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ ส่วนปริ้นซ์ก็เก็บโทรศัพท์มือถือของตัวเองไว้ในกระเป๋ากางเกงทันที โดยไม่ได้ดูอะไรในมือถือของตัวเองเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะเขานั้นไม่ได้สนใจอะไรแบบนี้อยู่แล้ว

พรึบ~

"อุ๊ย! มินนี่ขอโทษนะคะที่ล้มมาชนคุณ" ปริ้นที่นั่งจิบเหล้าอยู่ดีๆก็ต้องหันไปมองที่นั่งว่างข้างตัวเองที่อยู่ดีๆก็มีผู้หญิงตัวฉุนที่ไหนไม่รู้มานั่งข้างตัวเอง พร้อมกับซบหัวลงที่ไหล่เขาอย่างถือวิสาสะ

"........" เขาเลือกที่จะไม่ตอบอะไรกับผู้หญิงตัวฉุนคนนั้น แต่เลือกที่จะขยับตัวหนีไปตรงกลางของโซฟาแทน โต๊ะของเขาเป็นโซฟาตัวเดียวขนาดใหญ่เพราะมันเป็นโซฟาตัวยูเลยทำให้มีพื้นที่หนีผู้หญิงคนนี้ได้เยอะ

"อุ๊ย! ขอบคุณนะคะที่ให้มินนี่นั่งด้วย พอดีว่ามินนี่มาที่นี่คนเดียวเหงามากเลยค่ะ ขอนั่งเป็นเพื่อนด้วยได้ไหมคะหรือว่าจะมากกว่าเพื่อนก็ได้นะคะ" ผู้หญิงหน้าวอกตัวฉุนคนนั้นคิดว่าที่ปริ้นซ์ขยับที่หนีตัวเองคือการแบ่งที่ให้ ปริ้นซ์ที่ได้ยินอย่างนั้นก็ชักสีหน้าอย่างไม่สบอารมณ์ใส่เธอทันที แต่เธอคนนั้นก็เลือกที่จะเมินเฉยต่อสีหน้าที่ไม่ยินดียินร้ายของปริ้นซ์และขยับตัวเข้าหาปริ้นซ์อีกครั้ง

"ผมขยับหนีขนาดนี้คุณก็น่าจะรู้ตัวได้แล้วนะครับว่าผมไม่อยากให้คุณอยู่ตรงนี้ด้วย" ปริ้นซ์เลือกที่จะระงับอารมณ์ของตัวเองไว้ ถึงแม้จะได้แค่นิดเดียวก็เถอะ เพราะเขาไม่อยากพูดทำร้ายจิตใจของผู้หญิงสักเท่าไหร่ แต่ถ้าเขาทนไม่ไหวจริงๆนั่นมันก็อีกเรื่องหนึ่ง

"อยากใจร้ายกับมินนี่นักสิคะสุดหล่อ ให้มินนี่นั่งเป็นเพื่อนด้วยนะคะๆๆๆ"

"อยากนั่งโต๊ะตรงนี้นัก ก็นั่งไปคนเดียวเลยก็แล้วกัน บาย" ปริ้นพูดเสร็จก็เดินออกจากโต๊ะตรงนั้นไปทันทีตอนนี้เขาหมดอารมณ์ที่จะอยู่ต่อแล้วแหละ แต่เดินออกมาได้ประมาณสามก้าวก็ได้ยินเสียงกรี๊ดไล่หลังเขามาทันที ไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าเป็นใครกรี๊ด

"กรี๊ดดดดดด!! ไอ้ผู้ชายตาถั่วไอ้ผู้ชายหน้าโง่ฉันสวยขนาดนี้ทำไมแกไม่สนใจ กรี๊ดดดดด!!!"

ส่วนไอ้คีตะไม่ต้องถามหาว่าอยู่ไหนหรอก คงไม่พ้นไปกับพี่สาวคนสวยที่มาล้มใส่ตักมันเมื่อไม่กี่นาทีที่แล้วนั่นแหละ

ไอ้คีตะก็ไม่ต่างจากเสือผู้หญิงที่มีความติ๊งต๊องนั่นแหละ ส่วนผมก็แค่เป็นเด็กเกเรคนหนึ่งก็เท่านั้นไม่ได้ต้องการผู้หญิงมาสนองอารมณ์เหมือนมันหรอก คนเรามันไม่เหมือนกัน ผมก็จะไม่ห้ามในสิ่งที่มันทำหรอก เพราะว่าอนาคตผมอาจจะเป็นแบบมันก็ได้ใครจะรู้

ฟู่ววววววว~

ตอนนี้ผมออกมาสูบบุหรี่ที่โซนด้านหน้าของผับที่เขาจัดไว้ให้โดยเฉพาะ เฮ้อ~ไอ้คีตะก็หนีผมไปแล้วกุญแจรถก็เอาไปจะกลับยังไงล่ะทีนี้ เงินก็มีอยู่หรอกถ้าจะเรียกแท็กซี่ แต่นี่ก็ยืนมาจะครึ่งชั่วโมงแล้วไม่มีแท็กซี่สักคันผ่านมาหน้าผับเลย

ยิกยิกยิก

"เชิญเลยครับ ขอโทษนะครับที่ยืนขวางทาง" แรงสะกิดด้านหลังของผมทำให้ผมพูดขอโทษออกไปทันที เพราะบางทีคนสะกิดผมอาจจะบอกให้ผมหลีกทางให้เขาหน่อยละมั้ง เพราะตรงที่ผมยืนอยู่ก็คือตรงกลางของโซนดูดบุหรี่ มันอาจจะเกะกะเขาก็ได้ผมเลยเขยิบไปอีกทางเพื่อให้เขามายืนสูบด้วยกัน

ยิกยิกยิกยิก

"ก็ผมหลบให้แล้วนี่ไงครับ พี่จะเอาอะไรอีก" นี่ขนาดผมเขยิบมาหลบตรงมุมที่สูบให้แล้วก็ยังตามมาสะกิดไหล่ผมอยู่ จนผมทนไม่ไหวเลยหันไปประจันหน้ากับคนที่มาสะกิดไรผมไม่เลิก

"เน้~นายยยยหัวฟ้า มาทำอารายยย~ตรงเน้อ่ะ" แต่เมื่อผมหันกลับหลังมาประจันหน้ากับคนที่สะกิดไหล่ก็พบว่าเป็นผู้หญิงที่อยู่โต๊ะVIPข้างๆผมนั่นเอง คนที่เดินเข้าผับมาแล้วผู้ชายทั้งผับมองเธอเป็นตาเดียวรวมทั้งผมด้วยนั่นแหละ ตอนเดินเข้ามาเธอก็เข้ามาอย่างหงส์แต่ตอนนี้เธอยืนอยู่ตรงหน้าผมไม่ต่างจากหมาขี้เรื้อนเลย ยืนก็ไม่ค่อยจะตรง โอนไปเอนมาพร้อมกับน้ำเสียงที่ยานคางมาจนแทบจะจับใจความไม่ได้

"ยืนอยู่โซนสูบบุหรี่ ก็ต้องสูบบุหรี่ดิเจ๊" ไม่รู้ทำไมว่าพอเป็นเธอผมกลับพูดไม่เพราะกับเธอ หรือบางทีเพราะการแต่งตัวของเธอละมั้งทำให้ผมอยากพูดแบบนี้ ไม่ใช่ว่าไม่ให้เกียรติเธอ แต่ที่ผมเรียกเธอว่าเจ๊เพราะเธอน่าจะมีอายุเยอะกว่าผมอย่างแน่นอน ถึงจะเข้ามาผับนี้ได้โดยไม่ได้ใช้กลโกงแบบผมและไอ้คีตะ

"เอ๊ะ! นายยยยหัวฟ้านี่ รู้ด้ายยงายยว่าโคนอื่นชอบเรียกช้านนน~ว่าเจ๊ หาาาาา!!!" หลังจากที่ผมเรียกเธอว่าเจ๊ไป เธอก็มีหน้าตาขึงขังใส่ผมทันที พร้อมกับพุ่งตัวมาเขย่าแขนผมรัวๆเพื่อต้องการคำตอบ

"ผมไม่ใช่นายหัวฟ้า และผมก็แค่อยากเรียกเจ๊ว่าเจ๊เฉยๆ ไม่ได้รู้หรอกว่ามีคนเรียกมาก่อนแล้ว แล้วนี่เจ๊มายุ่งกับผมทำไม ออกไปได้แล้วไป๊ถ้าไม่สูบบุหรี่ก็อย่ามายืนเกะกะอยู่ตรงนี้" ผมไล่เธอให้ออกไปจากตรงนี้เพราะเธอเข้ามาก็ไม่ได้มีท่าทีว่าจะมาสูบบุหรี่เลย แต่เหมือนจะเข้ามาก่อกวนผมมากกว่า

"อื้ออออ~ ม่ายปายยยย เน้ช้านมาหานายเลยน้าาา~" หลังจากที่เธอพุ่งมาเกาะแขนผมแล้วเธอก็ไม่ยอมปล่อยแขนผมอีกเลย แถมยังกอดรัดแน่นอย่างกับงูเหลือมรัดเหยื่อยังไงอย่างนั้นแหละ ผมพยายามแกะเท่าไหร่ก็แกะแขนเธอไม่ออกเลย เลยได้แต่ปล่อยให้เธอเกาะแขนไว้อย่างนั้นแหละ และไม่ได้สนใจเธออีก ส่วนผมก็หันไปสนใจบุหรี่ในมือของตัวเองต่อ

"เน้!!!! ไอ้หัวฟ้าาาา"

"โหหห ขึ้นไอ้เลยหรอเจ๊ เดี๋ยวปั๊ดถีบแน่นอนหงายหลังอยู่แถวนี้เลย" เมื่อเธอได้ยินว่าผมจะถีบเธอ เธอก็กอดรัดผมแน่นกว่าเดิมเข้าไปอีก แล้วไอ้ซาลาเปาสองลูกโตๆนุ่มนิ่มๆนั่นก็มาเบียดที่หน้าท้องของผมเข้าไปอีก เบียดจนมดแทบจะเดินผ่านไม่ได้ ส่วนไอ้ลูกชายของผมไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันยืนตรงเตรียมตัวเคารพธงชาติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

"เน้!!!!!" ผ่านไปสักพักเธอก็เรียกผมขึ้นมาอีกครั้งอย่างเสียงดัง โดยที่ยังไม่ยอมปล่อยแขนของเธอออกจากเอวของผม

"อะไรเจ๊จะเรียกทำไม ปล่อยได้แล้วผมจะกลับบ้าน" ผมยืนให้เธอกอดจนยุงแทบจะกินเลือดผมไปหมดตัวแล้ว และตอนนี้ผมก็ต้องการที่จะกลับบ้านเพราะว่ายืนอยู่ตรงนี้นานพอสมควรแล้ว และก็ไม่มีท่าทีว่าไอ้เพื่อนตัวดีของผมจะกลับมาพาผมกลับไปส่งบ้าน

"กลับบ้านหยอออ~ ช้านก็จาาากลับบ้านเหมือนกานนน~ ขอกาบบ~ โด้ยยยด้ายยยหมายยย"

"มาเองก็กลับเองสิเจ๊ ปล่อยผมได้แล้ว!!!" นี่คนหรืองูเนี่ยรัดไม่ปล่อยแถมยังรัดแรงขึ้นเรื่อยๆอีก

"กลับม่ายหวายอ่าาา~ ไปส่งหน่อยจิ" พูดเสร็จก็ล้วงกุญแจในกระเป๋าเล็กๆของตัวเองยื่นมาให้ผมพร้อมกับชี้ไปที่รถของตัวเองเสร็จสรรพเรียบร้อย และยังไม่พอแค่นั้นเมื่อยัดกุญแจใส่มือผมเสร็จแล้วอยู่ดีๆเธอก็หลับคอพับไปเลย ไม่รู้ว่าทำอย่างนี้คือตั้งใจอ่อยผมหรือหลับจริงๆกันแน่

"เออ!!! ให้มันได้อย่างนี้สิวะ เจ๊เป็นใครผมยังไม่รู้เลยเนี่ย" ทำไงได้ล่ะ อันดับแรกก็คือผมต้องลากคนเมาขึ้นไปที่รถก่อน แล้วค่อยคิดหาวิธีว่าจะทำยังไงต่อกับเรื่องนี้ดี

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เจ๊บังเอิญได้ผัวเด็ก   68 ตลอดไป(จบ)

    เจ็ดปีผ่านไป “พ่อครับผมรักพ่อที่สุดเลยครับ ผมจะเป็นเด็กดีของพ่อกับแม่ทุกวันเลยนะครับ จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ” ปริ้นซ์โน้มหน้าลงไปหาลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเขาที่กำลังบอกรักเขาเนื่องในโอกาสวันพ่อแห่งชาติอยู่ ก่อนที่เขาจะจุ๊บลูกคืนกลับไปด้วย “ครับลูก ไปจำคำพวกนี้มาแต่ไหนครับ” เขาก็ไม่คิดว่าลูกชายแก่นเซี้ยวคนนี้จะพูดบอกรักพ่ออย่างเขาดีๆเป็น “ผมพูดตามที่ครูบอกครับฮี่ๆ” เด็กก็คือเด็กอยู่วันยังค่ำไม่ว่าใครจะถามอะไรก็เลือกจะพูดความจริงออกมาทุกอย่าง “โถ่ลูก โกหกพ่อหน่อยก็ได้ บอกว่าผมคิดเองครับอย่างนี้ก็ได้น่ะลูก” “ไม่ได้ครับ แม่บอกว่าถ้าใครโกหกจะเป็นเด็กไม่ดีแล้วแม่ก็จะให้นอนนอกบ้านด้วยครับ” “อึก” ปริ้นซ์สะอึกขึ้นเล็กน้อยเมื่อเจอลูกชายของตนพูดแบบนั้นออกมา สงสัยเมียเขาจะสอนลูกมาอย่างดีเลยแหะ เขาไม่สามารถหลอกล่ออะไรได้เลยเพราะเจ้าแสบเอาแต่เชื่อฟังเมียเขาอย่างเดียว “วันนี้ไปไหนดีครับน้องธีร์” ลูกชายของผมและเมียสุดที่รักอย่างบังเอิญมีชื่อว่าน้องธีร์ หรือ เด็กชายอิทธิกร ธัญญธราทรัพย์ โดนนามสกุลนั้นเป็นนามสกุลของครอบครัวของผมเอง “ไปห้างครับคุณพ่อ ผมอยากไปกินเค้ก” นั่นแหละคือสิ่งที่ลูกเขาชอบที

  • เจ๊บังเอิญได้ผัวเด็ก   67 วันที่มีความสุขที่สุด

    “เฮ้อ พวกกูละช็อคมากเลยน่ะอีเจ๊ มึงหายไปแป๊บเดียวกลับมาก็ท้องซะแล้ว” เพื่อนๆต่างก็บ่นให้เธอฟังหลังจากที่เธอเล่าเรื่องราวต่างๆให้พวกมันฟัง “เอ่อน่า อย่าบ่นกูนักเลย แล้วนี่วันนี้ไม่มีงานหรอ” เธอถามทุกคนออกไปเพราะพวกมันมานั่งคุยกับเธออยู่นี่ก็นานมากพอสมควรแล้ว “ไม่อ่ะ เคลียร์งานลูกค้าเสร็จหมดแล้ว ช่วงนี้น่าจะว่างแหละมั้งถ้าไม่มีลูกค้าเข้า” “อุ๊ย ต๊ายตาย นึกว่าใคร ที่แท้ก็อีบังเอิญนี่เอง มาที่นี่ทำไมไม่ทราบ” “อะไรอีปูขาเป๋ อีเจ๊มาแล้วมึงมาเสือกอะไร ห๊ะ” นัททำท่าจะพุ่งเข้าไปหาปูเป้ที่เป็นคู่กัดของทีมพวกเธอแต่ก็โดนเพื่อนๆดึงตัวห้ามเอาไว้ก่อน “อะไรอีนัท มึงนี่โง่เนาะ กฎเขามีไว้ปฏิบัติตามไม่ใช่หรอ ผู้ใดที่ไม่ใช่พนักงานไม่มีสิทธิ์เข้ามาที่นี่ แล้วอีบังเอิญมันก็ลาออกไปแล้วไม่ใช่หรอ กูว่ากูก็ไม่ได้ความจำเสื่อมน่ะ” “แล้วมึงมายุ่งอะไรด้วยห๊ะ” “ก็ไม่ได้อยากยุ่งเท่าไหร่หรอก แต่ในเมื่อพวกมึงไม่ทำตามกฎที่บริษัทตั้งไว้กูคงต้องไปฟ้องท่านประธานสักหน่อยแล้วมั้ง ฮ่าๆๆๆๆๆ” แกร๊ก “ใครจะฟ้องอะไรฉันไม่ทราบ” “ท….ท่านประธาน” ทั้งนัท อาร์ตี้ เก๋และชมพู่ต่างก็พากันเหงื่อตกเมื่อคนที่เปิดประตูเข้

  • เจ๊บังเอิญได้ผัวเด็ก   66 ท้องได้ไง

    “ตัวเอง เร็วๆหน่อยไหม” “ครับๆๆ เร็วแล้วครับที่รัก” ปริ้นซ์ใสเสื้อผ้าอย่างรีบเร่ง ก็เมียเขาน่ะสิตื่นขึ้นมาบอกว่าวันนี้จะเข้าไปที่บริษัท เขาเลยต้องมารีบแบบนี้ให้เธอนั่นแหละ แถมยังดื้อไม่กินข้าวด้วยน่ะ บอกจะไปกินที่ร้านประจำข้างๆบริษัทแทน เขากลัวเธอจะหิวเลยต้องรีบใส่เสื้อผ้าให้เร็วที่สุดเพื่อที่จะได้พาเมียไปกินข้าวในร้านที่เธออยากกิน “เร็วๆ เขาหิวแล้วตัวเอง” “ป่ะครับ ค่อยๆเดินน่ะที่รัก” “แทบจะต่อเท้ากันเดินแล้วเนี่ยตัวเอง เร็วๆเลย” บังเอิญยังคงเร่งปริ้นซ์ไม่หยุด วันนี้เธอรู้สึกขัดหูขัดตาเขาเป็นพิเศษเพราะเธอบอกให้เขารีบก็ไม่รีบสักที เดี๋ยวแม่ก็งอนให้เข็ดซะหรอก “ครับ เชิญครับคุณผู้หญิง” เมื่อเดินมาถึงรถปริ้นซ์ก็รีบวิ่งไปเปิดประตูฝั่งข้างคนขับให้เมียอย่างรวดเร็วก่อนที่องค์แม่จะลงประทับมาในร่างของเมียเขา “ขอบคุณค่ะ” บังเอิญรีบสอดตัวเข้าไปในรถอย่างรวดเร็ว วันนี้เธอแต่งตัวน่ารักเป็นพิเศษเพราะเป็นชุดที่คุณแฟนเป็นคนเลือกให้นั่นเอง วันนี้มาในชุดเดรสระบายลูกไม้สีชุมพูอ่อนพร้อมกับเข็มกลัดที่ติดไว้ตรงหน้าท้องเพื่อบ่งบอกให้คนที่เห็นรู้ว่าตัวเธอนั่นกำลังตั้งท้องอยู่ ถึงท้องจะนูนออกมานิดหน่

  • เจ๊บังเอิญได้ผัวเด็ก   65 เลือกที่อยู่

    “อยู่นี่” “อยู่ที่กรุงเทพครับ” “ฉันบอกว่าให้อยู่นี่” “ไม่ได้ครับต้องอยู่กรุงเทพ” “ลูกฉัน ฉันจะให้ลูกอยู่กันฉันที่นี่” “แต่นั่นก็เมียผม ต้องไปอยู่กรุงเทพเท่านั้น” “พอค่ะ!!!!” ทั้งสองที่มีปากเสียงกันอยู่หันไปหาคนที่ตะโกนขัดขึ้นมา “ลูกเลือกมาเลยว่าจะอยู่ที่ไหน / ที่รักเลือกมาเลยว่าที่รักจะอยู่ที่ไหน” ทั้งลูกเขยและพ่อตาต่างก็หันไปขอความคิดเห็นจากบังเอิญที่นั่งทำหน้าเอือมระอาอยู่บนโซฟา นี่เธอนั่งฟังทั้งสองคนเถียงกันมาได้ประมาณสิบนาทีแล้ว ไม่รู้ว่าปริ้นซ์ไปพูดอะไรไม่เข้าหูพ่อของเธอก็ไม่รู้ ถึงได้มาลงเอยด้วยการเถียงกันอย่างที่เห็นนั่นแหละ “พ่อคะ พ่อก็รู้ว่าหนูจะเลือกที่ไหนอยู่แล้วนี่คะ จะมาเถียงกันทำไมอีก” “ลูกอ่ะ ไม่คิดจะเปลี่ยนใจกลับมาอยู่บ้านเราเลยหรอลูก” “พ่อขา~ หนูชอบกรุงเทพมากกว่านี่คะ พ่อก็รู้ว่าหนูชอบช็อปปิ้งจะตาย” บังเอิญเดินไปหาพ่อของตัวเองที่อยู่โซฟาอีกตัว พร้อมกับเข้าไปกอดออดอ้อนคนเป็นพ่อใหญ่ “ก็ได้ลูก เห็นว่าเป็นความชอบของลูกหรอกนะ ไม่งั้นพ่อไม่ยอมแน่ๆ” คุณบดินทร์ลูบหัวลูกสาวอย่างรักใคร่ พร้อมกับถอนหายใจออกมาเบาๆเมื่อเขาไม่สำเร็จในการต่อรองกับลูกสาว บังเอ

  • เจ๊บังเอิญได้ผัวเด็ก   64 ดูเพศ

    สามเดือนผ่านไป วันเวลาเลื่อนผ่าน ความสุขของทั้งสองยังเพิ่มขึ้น “ค่อยๆเดินนะที่รัก” ปริ้นซ์พยายามประคองใต้แขนของบังเอิญอย่างระมัดระวัง วันนี้ก็เป็นเวลาสามเดือนแล้วหลังจากที่เมียเขาต้องนอนเป็นผักเปื่อยอยู่บนเตียงผู้ป่วยมานาน วันนี้เมียของเขาได้รับอนุญาตให้ขยับร่างกายได้แล้ว และต้องเริ่มมากายภาพบำบัดเล็กน้อยเพราะว่านอนนานเกินไปจนกล้ามเนื้อบางส่วนอ่อนแรง ตอนนี้เขารู้สึกสงสารเมียเขาเหลือเกิน ที่กำลังทำหน้าตางอแงเหมือนจะร้องไห้อย่างนั้นแหละเพราะได้รับอนุญาติทั้งทีแต่ตัวเองดันกลับมาเดินเหินแบบปกติยังไม่ได้ “หงึ ปริ้นซ์ งื้ออออ” “อย่าทำหน้าแบบนั้นสิครับที่รัก สู้ๆน่ะ แป๊บเดียวเดี๋ยวที่รักก็เดินได้แบบเดิมแล้ว จุ๊บ” ปริ้นซ์หอมไปที่กลางหน้าผากของบังเอิญอย่างให้กำลังใจ “งื้อก็ได้ แต่ตัวเองต้องพยุงเขาน่ะ ห้ามปล่อยน่ะเดี๋ยวเขาล้ม” เธอกลัวว่าตัวเองจะแข้งขาอ่อนแรงแล้วล้มลงไปเนี่ยสิ ถ้าเธอยังตัวคนเดียวเธอคงไม่กังวลเรื่องนี้หรอก “ครับ ผมไม่มีทางปล่อยให้ที่รักล้มแน่นอน” ปริ้นซ์พยุงบังเอิญเดินกายภาพบำบัดอยู่นานนับชั่วโมงก่อนจะให้คนตัวเล็กนั่งวิวแชร์กลับมาที่ห้องพัก ตอนนี้เขาแทบจะมาอยู่โรงพยาบ

  • เจ๊บังเอิญได้ผัวเด็ก   63 ตกลง

    “……….” “ว่าไงครับที่รัก” “ม…เมื่อกี้ตัวเองพูดว่าอะไรน่ะ” บังเอิญยังอึ้งไม่หายกับสิ่งที่คนตรงหน้าเธอพูดออกมาก่อนหน้านี้ “ที่รักเรามาแต่งงานกันน่ะครับ” จะให้เขาพูดอีกกี่สิบรอบก็ยอมได้ ขอแค่เธออย่าปฏิเสธเขาเลย “อื้ออตกลง แต่งสิ ป่องแล้วไม่แต่งได้ไง” ตอนแรกก็ไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้หรอก แต่งตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้วไง ในท้องเธอเขาก็เสกปริ้นซ์น้อยเข้ามาใส่แล้ว จะให้โอกาสนี้หลุดมือไปได้ยังไง “จริงหรอ ผมดีใจมากๆเลยนะที่รัก จุ๊บๆๆๆ” “อื้อออ พอแล้วมันจั๊กจี๊” นี่เขาอยู่เฝ้าเธอจนไม่มีเวลาไปโกนหนวดเลยหรอเนี่ย ปกติเธอเป็นคนโกนให้เขาเองแหละ “ผมอยากทำมากกว่านี้อีก แต่มันยังทำไมได้ ผมดีใจมากๆเลยที่ที่รักไม่ปฏิเสธผม” เขาอยากดึงเธอมากอดรัดฟัดเหวี่ยงเสียด้วยซ้ำ แต่มันก็ยังทำไม่ได้ เลยทำให้ต้องจุ๊บแค่ริมฝีปากบางของเธอเท่านั้น “จะปฏิเสธทำไมล่ะ ปริ้นซ์น้อยก็นอนอยู่ในนี้แล้วไม่ใช่หรอคะคุณพ่อ” “ใช่ครับคุณแม่” ปริ้นซ์นั่งลงที่เก้าอี้ข้างเตียงก่อนจะยื่นมือมาลูบที่หน้าท้องของเมียเบาๆราวกับขนนก เขาไม่กล้าที่จะแตะต้องตัวของเธอแรงมากเพราะกลัวว่าจะกระทบกระเทือนจนถึงลูกในท้อง “จริงด้วยตัวเอง” อยู่ดีบั

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status