Home / โรแมนติก / เจ๊บังเอิญได้ผัวเด็ก / 4 ผู้ชายหัวฟ้าคนนั้น

Share

4 ผู้ชายหัวฟ้าคนนั้น

last update Last Updated: 2025-10-12 01:30:20

ตอนนี้ฉันเดินเข้ามาข้างในของผับแล้ว กำลังกวาดสายตามองอยู่ว่าอีพวกที่มาก่อนมันนั่งอยู่ตรงไหน แต่มองเท่าไหร่ก็หาไม่เจอเลยต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาพวกมัน

"ฮัลโหลอีเจ๊"

"อีนัทมึงอยู่ไหนเนี่ย กูมองหาเท่าไหร่ก็ไม่เห็นพวกมึงเลย"

"พวกฉันอยู่ข้างนอกจ้ะ ไปหาข้าวต้มกินกันมา พอดียังไม่ได้กินข้าวเย็น"

"เออๆงั้นกูรออยู่ตรงทางเข้าผับก็แล้วกัน" ฉันวางสายจากอีนัทเสร็จก็เดินวกกลับไปตรงโถงทางเดินก่อนที่จะเข้ามาในโซนผับ เพราะเข้าไปก็ไม่มีเพื่อนเลยเลือกที่จะรอพวกมันอยู่ตรงนี้ก่อน

10นาทีผ่านไป

"อีเจ๊! รอนานไหมโทษทีร้านข้าวต้มอยู่อีกฝั่งอ่ะ กว่าจะข้ามถนนมาได้รถเยอะชิบหาย" อีนัทกับเดอะแก๊งมาถึงก็บ่นทันที

"เออๆมึงเลิกบ่นแล้วพากูเข้าไปได้แล้ว แล้วนี่มึงจองโต๊ะไหนไว้กูเห็นข้างล่างแล้วคนเยอะชิบหาย" เมื่อกี้ที่ฉันเดินเข้าไปข้างในคือแบบวันนี้คนเยอะมาก บางทีถ้าอาจไม่ได้จองอาจจะไม่มีโต๊ะนั่งเลยก็ได้

"วันนี้อีชมพู่คนพูดน้อยออกเงินจองโต๊ะ VIP ให้เราจ้า" อีนัทพูดเสร็จก็ผลักอีชมพู่ที่ยืนอยู่ด้านหลังให้ออกมาด้านหน้าทันที ชมพู่หรืออีชมพู่ที่แก๊งเราเรียกนั้นมันเป็นคนพูดน้อยมากถึงเข้าขั้นเป็นใบ้แต่งานมันเสร็จเร็วกว่าเพื่อน ถึงมันจะไม่ชอบพูดแต่บางครั้ง แต่ละคนต้องการอะไรชมพู่ก็จะตอบสนองได้เร็วกว่าเพื่อนในทันที เหมือนแค่มองหน้ากันก็รู้ได้ว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร

"เออดีๆ แล้วแต่มึงไปเอาเงินที่ไหนมาเลี้ยงพวกกูว่าอีชมพู่"

"เออน่า ไม่ต้องถามหรอกเจ๊ ไปนั่งโต๊ะกันได้แล้ว" พูดเสร็จอีชมพู่ก็จูงมือพวกเราตรงไปที่ชั้นสองของผับทันที มันคงจะไม่ให้ถามมากเพราะว่าบางทีเงินตรงนี้อาจจะมาจากรถคันที่มารับมันตอนเย็นทุกวันที่หน้าบริษัทก็เป็นได้ มันคงจะกิ๊กกั๊กกันอยู่นั่นแหละเดี๋ยวถ้าวันไหนมันพร้อมบอกมันก็บอกเองนั่นแหละ

"เออ ไปๆ"

ตื้ด~ ตื้ด~ ตื้ด~

ทันทีที่ก้าวขาออกจากโถงทางเดินเข้ามาในตัวผับก็พบกับเสียงเพลงที่ทำให้หูแทบอื้อ ทั้งเบส ทั้งลำโพงมาแบบจัดหนักจัดเต็ม นึกว่างานเลี้ยงโรงเรียนแหนะ เพราะในผับเต็มไปด้วยผู้คนมากมายที่ใส่ชุดนักเรียนนักศึกษามาแดนซ์กระจายอยู่รวมกันข้างล่าง

"อื้อหือ เบาได้เบานะเจ๊ชุดน่ะ ผู้ชายข้างล่างมองจนน้ำลายหกเต็มพื้นไปหมดแล้ว แน่ใจหรอว่าเคยใส่ชุดนี้เรียนที่มหาวิทยาลัยอ่ะเจ๊" ทันทีที่เดินเข้าผับมาได้สักพักทั้งอีนัทและอีอาร์ตี้ก็เริ่มแซวชุดที่ฉันใส่มาทันที

"ก็นิดหน่อยป่ะพวกมึง วันนี้เจ๊ต้องได้ต้องโดนแล้วแหละ" ก็ต้องแหวกบนแหวกแล้วนั่นแหละเพราะว่าจบมานานแล้ว แล้วก็เมื่อก่อนอยากใส่แบบนี้มาก แต่ก็ไม่มีความกล้ามากที่จะทำแบบนี้ ในเมื่อวันนี้มีโอกาสก็ขอลองแบบนี้สักหน่อยก็แล้วกัน

"มึงก็ปากดีนะอีเจ๊ กูเห็นพูดแบบนี้ตลอดแต่มึงก็ไม่เคยไปกับเขาเลยอีเจ๊ ส่วนมึงสองตัวก็ไม่เป็นต้องแซวอีเจ๊หรอกจ้ะ ชุดพวกมึงก็ใช่ย่อยที่ไหนล่ะแทบไม่ต่างจากอีเจ๊เลยพวกมึงอ่ะ" ก็จริงอย่างที่อีเก๋พูดมานั่นแหละ ฉันมันก็ดีแต่ปากเพราะทุกครั้งที่ผู้ชายเข้าหาฉันก็จะปฏิเสธตลอด ด้วยความกลัวที่ถูกเล่าปากต่อปากมาว่าครั้งแรกมันเจ็บ เจ็บแบบจะตาย มันเลยทำให้ฉันกลัวและไม่ยอมเปิดโอกาสให้ผู้ชายเข้าหาสักเท่าไหร่

"ขอร้อง!!! พวกมึงเลิกเถียงกันสักทีเถอะเมื่อไหร่จะเดินไปถึงโต๊ะ" เพราะเดินขึ้นบันไดมาได้สักพักพวกเราก็หยุดเถียงกัน เลยทำให้เดินไม่ถึงโต๊ะที่จองไว้สักที จนทำให้อีชมพู่บ่นขึ้นมาอีกรอบ

"จ้าๆๆ ไปเดี๋ยวนี้ล่ะค่ะคุณหญิงชมพู่ขา~"

พรึบ!!

"ว้าววว VIP นี่มันดีจริงๆมึงเปิดโปรเท่าไหร่เนี่ยทำไมเหล้าดีอย่างนี้" เพราะทันทีที่มาถึงโต๊ะพวกเราก็เห็นเล่าที่วางเรียงรายไว้บนโต๊ะให้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว รวมทั้งถังน้ำแข็งเล็กๆที่มาวางไว้บริการเลยโดยต้องไม่ใส่มาเป็นถังเหล็กแบบปกติ

"เยอะอ่ะ จุกอยู่" อีชมพู่คนจ่ายเงินมันพูดออกมา

"จุกนี้~ เงินหรือค*ยคะคุณชมพู่" อีอาร์ตี้ที่เหมือนจะรู้อะไรบางอย่างก็พูดพร้อมกับยิ้มกรุ้มกริ่มใส่ชมพู่ทันที

"พูดมากไม่ต้องแดก เอามานี่!!!"

"อร๊าย!!! อย่าทำกับกระเทยแบบนี้ กะเทยต้องการเหล้า" นาทีก็ต่อมาก็เกิดการยื้อยุดฉุดกระชากแก้วเหล้ากันสักพัก เพราะความที่อีอาร์ตี้ที่ไปกวนประสาทคนจ่ายเงินอย่างชมพู่เข้าให้

"ขอโทษนะครับ"

"อีเจ๊ๆ น้องเขาเรียกมึงไงเจ๊หันไปสิหล่อมากกก~" ฉันที่ตั้งหน้าตั้งตายกแก้วเหล้าดื่มอยู่ก็โดนอีนัทที่นั่งอยู่ข้างๆสะกิดขายิกๆพร้อมกับพยักเพยิดหน้าให้หันไปดูข้างหลัง

"เอออีห่ากูรู้แล้ว ให้กูเล่นตัวบ้างก็ได้" ที่จริงก็รู้ตัวแหละว่าผู้ชายคนนี้คุยกับฉัน แต่ก็อยากเล่นตัวไง ทำเป็นหันไปช้าๆอะไรแบบนี้ แต่ดันโดนช็อตฟิวเพราะอีนัทสะกิดขานี่แหละ

"ว่าไงคะรูปหล่อ" หล่อ จัดว่าหล่อมากเลยแหละ แต่ไม่ใช่สเปคฉันอ่ะแอบเสียดายอยู่นะ

"คือว่า...ผมขอเบอร์หรือขอแลกคอนแทคหน่อยได้ไหมครับ" พูดเสร็จผู้ชายตรงหน้าก็ยื่นโทรศัพท์มาให้ฉันทันที

"ได้สิคะ" ไม่เห็นต้องปฏิเสธเลย ถึงจะไม่ใช่สเปคก็เถอะเพราะตอนนี้ก็เหงาและไม่มีใครในใจอยู่ตอนนี้

เมื่อรับโทรศัพท์มาจากผู้ชายตรงหน้าฉันก็พิมพ์เบอร์โทรและ I* ไว้ให้เขา

"นี่ค่ะ"

"ขอบคุณครับ ว่าแต่ผมพอจะทราบชื่อของคุณได้หรือเปล่าครับ" ก็ไม่แปลกที่เขาจะถามแบบนี้เพราะเบอร์ที่ฉันพิมพ์ให้เขาฉันเมมไว้ว่าคนสวยและ I* ของฉันก็เป็นแค่อักษรย่อและตัวเลขก็เท่านั้นเลยทำให้เขาต้องถามชื่อฉันอีกครั้ง

"ชื่อบังเอิญค่ะเรียนเอิญก็ได้"

"ผมคีตะนะครับ" พูดเสร็จนายคีตะก็เดินกลับไปที่โต๊ะของตัวเองพร้อมกับยกถาดบางถาดตรงมาที่ฉัน

"รับนี้ได้ไหมครับแด่มิตรภาพของเรา" พูดเสร็จเขาก็ยื่นแก้วบางอย่างมาตรงหน้าฉันพร้อมกับหลอดไว้สำหรับดูของตรงหน้าหนึ่งอัน

"อื้อหือ หวังให้ฉันคลานกลับบ้านเลยหรอคะ" จะไม่พูดแบบนั้นเลยถ้าตรงหน้าไม่ใช่แก้วของ b52 รสหวานรับประทานง่ายหงายหลัง นี่แหละคอนเซ็ปของแก้วนี้

"นิดหน่อยนะครับ สนใจรับไหมครับ"

"ได้อยู่แล้วสิคะ ไม่เสียน้ำใจคุณแน่นอน" ฉันพูดเสร็จก็หยิบหลอดขึ้นมาพร้อมกับจุ่มลงไปในแก้วแล้วรีบดูดของเหลวเข้าสู่ลำคอทันที ทันทีที่เข้ามาภายในช่องปากและลำคอของฉันก็รู้สึกร้อนวูบวาบขึ้นมาทันทีจนฉันเผลอเบ้หน้าให้กับความแรงของเหล้าแก้วนี้

ฉันดื่มเหล้าแก้วนั่นเสร็จแล้วก็พูดคุยกับเขานิดหน่อยก่อนที่เขาจะขอตัวกลับไปที่โต๊ะของตัวเองพร้อมกับยื่นมือถือที่ฉันพิมพ์เบอร์และ I* เข้าไปเมื่อกี้ให้กับผู้ชายอีกคนที่นั่งอยู่ตรงนั้น ผู้ชายที่ดูโดดเด่นกว่าใครๆเพราะด้วยใบหน้าที่หล่อเหลาราวกับพระเจ้ารักเขาแค่คนเดียวเท่านั้นบนโลก อีกทั้งยังมีสีผมสีฟ้าสุดแสบตาอยู่บนหัวนั่นอีก ทำให้ทุกอย่างดูลงตัวไปหมดสำหรับผู้ชายคนนี้ แต่มองไปมองมาใบหน้าของเขาทั้งสองคนก็ดูเด็กมากจริงๆนะ ฉันไม่ได้คิดไปเอง

"อีเจ๊ เอาเลยคนนี้แหละ ผ่าน!!!!" อีนัทที่เห็นว่าผู้ชายคนนั้นเดินออกไปแล้วก็หันมาพูดกับฉันพร้อมกับเขย่าตัวฉันไปด้วย

"เอาห่าอะไรล่ะอีนัท มึงดูก่อนชื่อไอจีเนี่ยตรงกับชื่อคนมาขอซะที่ไหนล่ะ" พูดเสร็จฉันก็โชว์มือถือที่เปิดหน้า I* ของคนที่ add friend มาเมื่อกี้ทันที

"pp.princeee_48 อ้าว! ในนี้เขียนว่าปริ้นซ์วะเจ๊ แต่ไม่เห็นหน้าอ่ะขอกดยอมรับคำขอเลยนะเจ๊"

"อย่านะ!! / ว้าววโคตรหล่อเลยเจ๊! อีนัทคนนี้อยากได้จนมดลูกสั่นเลยอ่ะ" ฉันที่กำลังจะห้ามมันไม่ให้กดยอมรับแต่ก็คงจะไม่ทันแล้ว เพราะตอนนี้มันกำลังกดดูรูปผู้ชายคนที่ชื่อว่า 'ปริ้นซ์' คนนั้นอยู่

"มึงนี่น่ะ ไม่ฟังกูเลยนะ กูจะบอกให้มึงห้ามกดยอมรับเขา อีพวกนี้นี่!!" ที่ฉันด่าพวกมันทั้งหมดเพราะว่าตอนนี้พวกมันกำลังรุมดูรูปผู้ชายคนนั้นในโทรศัพท์ของฉันอยู่ ซึ่งฉันก็ไม่รู้หรอกว่าคนที่ชื่อว่าปริ้นซ์หน้าตาเขาเป็นยังไง เพราะว่ายังไม่ได้โทรศัพท์คืนมาจากพวกอีนัทเลย

"เอาไปเจ๊ พวกฉันดูเสร็จแล้วบอกเลยว่ามดลูกสั่นมากจ้า" เมื่อฉันรับโทรศัพท์ของตัวเองมาไว้ในมือก็ก้มดูรูปภาพที่เปิดค้างไว้ เมื่อมองดูรูปนั้นก็ขมวดคิ้วทันที หน้าตาแบบนี้หัวสีฟ้าแบบนี้ ไม่ต้องเดาให้ยากเลยว่าผู้ชายคนเมื่อกี้มาขอคอนแทคฉันให้เพื่อนคนที่นั่งรออยู่ที่โต๊ะ

เมื่อฉันหันไปมองโต๊ะของพวกเขาอีกทีก็เจอกับผู้ชายหัวฟ้าคนนั้นกำลังหันมาจ้องฉันอยู่ เมื่อฉันสบตากับเขาเขาก็กระตุกยิ้มมุมปากใส่ฉันทันที แค่เขาทำแบบนั้นใส่ฉันแค่แป๊บเดียวมันทำให้ขนฉันลุกซู่ไปทั้งตัว รู้สึกเหมือนร้อนๆหนาวๆยังไงก็ไม่รู้

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เจ๊บังเอิญได้ผัวเด็ก   68 ตลอดไป(จบ)

    เจ็ดปีผ่านไป “พ่อครับผมรักพ่อที่สุดเลยครับ ผมจะเป็นเด็กดีของพ่อกับแม่ทุกวันเลยนะครับ จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ” ปริ้นซ์โน้มหน้าลงไปหาลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเขาที่กำลังบอกรักเขาเนื่องในโอกาสวันพ่อแห่งชาติอยู่ ก่อนที่เขาจะจุ๊บลูกคืนกลับไปด้วย “ครับลูก ไปจำคำพวกนี้มาแต่ไหนครับ” เขาก็ไม่คิดว่าลูกชายแก่นเซี้ยวคนนี้จะพูดบอกรักพ่ออย่างเขาดีๆเป็น “ผมพูดตามที่ครูบอกครับฮี่ๆ” เด็กก็คือเด็กอยู่วันยังค่ำไม่ว่าใครจะถามอะไรก็เลือกจะพูดความจริงออกมาทุกอย่าง “โถ่ลูก โกหกพ่อหน่อยก็ได้ บอกว่าผมคิดเองครับอย่างนี้ก็ได้น่ะลูก” “ไม่ได้ครับ แม่บอกว่าถ้าใครโกหกจะเป็นเด็กไม่ดีแล้วแม่ก็จะให้นอนนอกบ้านด้วยครับ” “อึก” ปริ้นซ์สะอึกขึ้นเล็กน้อยเมื่อเจอลูกชายของตนพูดแบบนั้นออกมา สงสัยเมียเขาจะสอนลูกมาอย่างดีเลยแหะ เขาไม่สามารถหลอกล่ออะไรได้เลยเพราะเจ้าแสบเอาแต่เชื่อฟังเมียเขาอย่างเดียว “วันนี้ไปไหนดีครับน้องธีร์” ลูกชายของผมและเมียสุดที่รักอย่างบังเอิญมีชื่อว่าน้องธีร์ หรือ เด็กชายอิทธิกร ธัญญธราทรัพย์ โดนนามสกุลนั้นเป็นนามสกุลของครอบครัวของผมเอง “ไปห้างครับคุณพ่อ ผมอยากไปกินเค้ก” นั่นแหละคือสิ่งที่ลูกเขาชอบที

  • เจ๊บังเอิญได้ผัวเด็ก   67 วันที่มีความสุขที่สุด

    “เฮ้อ พวกกูละช็อคมากเลยน่ะอีเจ๊ มึงหายไปแป๊บเดียวกลับมาก็ท้องซะแล้ว” เพื่อนๆต่างก็บ่นให้เธอฟังหลังจากที่เธอเล่าเรื่องราวต่างๆให้พวกมันฟัง “เอ่อน่า อย่าบ่นกูนักเลย แล้วนี่วันนี้ไม่มีงานหรอ” เธอถามทุกคนออกไปเพราะพวกมันมานั่งคุยกับเธออยู่นี่ก็นานมากพอสมควรแล้ว “ไม่อ่ะ เคลียร์งานลูกค้าเสร็จหมดแล้ว ช่วงนี้น่าจะว่างแหละมั้งถ้าไม่มีลูกค้าเข้า” “อุ๊ย ต๊ายตาย นึกว่าใคร ที่แท้ก็อีบังเอิญนี่เอง มาที่นี่ทำไมไม่ทราบ” “อะไรอีปูขาเป๋ อีเจ๊มาแล้วมึงมาเสือกอะไร ห๊ะ” นัททำท่าจะพุ่งเข้าไปหาปูเป้ที่เป็นคู่กัดของทีมพวกเธอแต่ก็โดนเพื่อนๆดึงตัวห้ามเอาไว้ก่อน “อะไรอีนัท มึงนี่โง่เนาะ กฎเขามีไว้ปฏิบัติตามไม่ใช่หรอ ผู้ใดที่ไม่ใช่พนักงานไม่มีสิทธิ์เข้ามาที่นี่ แล้วอีบังเอิญมันก็ลาออกไปแล้วไม่ใช่หรอ กูว่ากูก็ไม่ได้ความจำเสื่อมน่ะ” “แล้วมึงมายุ่งอะไรด้วยห๊ะ” “ก็ไม่ได้อยากยุ่งเท่าไหร่หรอก แต่ในเมื่อพวกมึงไม่ทำตามกฎที่บริษัทตั้งไว้กูคงต้องไปฟ้องท่านประธานสักหน่อยแล้วมั้ง ฮ่าๆๆๆๆๆ” แกร๊ก “ใครจะฟ้องอะไรฉันไม่ทราบ” “ท….ท่านประธาน” ทั้งนัท อาร์ตี้ เก๋และชมพู่ต่างก็พากันเหงื่อตกเมื่อคนที่เปิดประตูเข้

  • เจ๊บังเอิญได้ผัวเด็ก   66 ท้องได้ไง

    “ตัวเอง เร็วๆหน่อยไหม” “ครับๆๆ เร็วแล้วครับที่รัก” ปริ้นซ์ใสเสื้อผ้าอย่างรีบเร่ง ก็เมียเขาน่ะสิตื่นขึ้นมาบอกว่าวันนี้จะเข้าไปที่บริษัท เขาเลยต้องมารีบแบบนี้ให้เธอนั่นแหละ แถมยังดื้อไม่กินข้าวด้วยน่ะ บอกจะไปกินที่ร้านประจำข้างๆบริษัทแทน เขากลัวเธอจะหิวเลยต้องรีบใส่เสื้อผ้าให้เร็วที่สุดเพื่อที่จะได้พาเมียไปกินข้าวในร้านที่เธออยากกิน “เร็วๆ เขาหิวแล้วตัวเอง” “ป่ะครับ ค่อยๆเดินน่ะที่รัก” “แทบจะต่อเท้ากันเดินแล้วเนี่ยตัวเอง เร็วๆเลย” บังเอิญยังคงเร่งปริ้นซ์ไม่หยุด วันนี้เธอรู้สึกขัดหูขัดตาเขาเป็นพิเศษเพราะเธอบอกให้เขารีบก็ไม่รีบสักที เดี๋ยวแม่ก็งอนให้เข็ดซะหรอก “ครับ เชิญครับคุณผู้หญิง” เมื่อเดินมาถึงรถปริ้นซ์ก็รีบวิ่งไปเปิดประตูฝั่งข้างคนขับให้เมียอย่างรวดเร็วก่อนที่องค์แม่จะลงประทับมาในร่างของเมียเขา “ขอบคุณค่ะ” บังเอิญรีบสอดตัวเข้าไปในรถอย่างรวดเร็ว วันนี้เธอแต่งตัวน่ารักเป็นพิเศษเพราะเป็นชุดที่คุณแฟนเป็นคนเลือกให้นั่นเอง วันนี้มาในชุดเดรสระบายลูกไม้สีชุมพูอ่อนพร้อมกับเข็มกลัดที่ติดไว้ตรงหน้าท้องเพื่อบ่งบอกให้คนที่เห็นรู้ว่าตัวเธอนั่นกำลังตั้งท้องอยู่ ถึงท้องจะนูนออกมานิดหน่

  • เจ๊บังเอิญได้ผัวเด็ก   65 เลือกที่อยู่

    “อยู่นี่” “อยู่ที่กรุงเทพครับ” “ฉันบอกว่าให้อยู่นี่” “ไม่ได้ครับต้องอยู่กรุงเทพ” “ลูกฉัน ฉันจะให้ลูกอยู่กันฉันที่นี่” “แต่นั่นก็เมียผม ต้องไปอยู่กรุงเทพเท่านั้น” “พอค่ะ!!!!” ทั้งสองที่มีปากเสียงกันอยู่หันไปหาคนที่ตะโกนขัดขึ้นมา “ลูกเลือกมาเลยว่าจะอยู่ที่ไหน / ที่รักเลือกมาเลยว่าที่รักจะอยู่ที่ไหน” ทั้งลูกเขยและพ่อตาต่างก็หันไปขอความคิดเห็นจากบังเอิญที่นั่งทำหน้าเอือมระอาอยู่บนโซฟา นี่เธอนั่งฟังทั้งสองคนเถียงกันมาได้ประมาณสิบนาทีแล้ว ไม่รู้ว่าปริ้นซ์ไปพูดอะไรไม่เข้าหูพ่อของเธอก็ไม่รู้ ถึงได้มาลงเอยด้วยการเถียงกันอย่างที่เห็นนั่นแหละ “พ่อคะ พ่อก็รู้ว่าหนูจะเลือกที่ไหนอยู่แล้วนี่คะ จะมาเถียงกันทำไมอีก” “ลูกอ่ะ ไม่คิดจะเปลี่ยนใจกลับมาอยู่บ้านเราเลยหรอลูก” “พ่อขา~ หนูชอบกรุงเทพมากกว่านี่คะ พ่อก็รู้ว่าหนูชอบช็อปปิ้งจะตาย” บังเอิญเดินไปหาพ่อของตัวเองที่อยู่โซฟาอีกตัว พร้อมกับเข้าไปกอดออดอ้อนคนเป็นพ่อใหญ่ “ก็ได้ลูก เห็นว่าเป็นความชอบของลูกหรอกนะ ไม่งั้นพ่อไม่ยอมแน่ๆ” คุณบดินทร์ลูบหัวลูกสาวอย่างรักใคร่ พร้อมกับถอนหายใจออกมาเบาๆเมื่อเขาไม่สำเร็จในการต่อรองกับลูกสาว บังเอ

  • เจ๊บังเอิญได้ผัวเด็ก   64 ดูเพศ

    สามเดือนผ่านไป วันเวลาเลื่อนผ่าน ความสุขของทั้งสองยังเพิ่มขึ้น “ค่อยๆเดินนะที่รัก” ปริ้นซ์พยายามประคองใต้แขนของบังเอิญอย่างระมัดระวัง วันนี้ก็เป็นเวลาสามเดือนแล้วหลังจากที่เมียเขาต้องนอนเป็นผักเปื่อยอยู่บนเตียงผู้ป่วยมานาน วันนี้เมียของเขาได้รับอนุญาตให้ขยับร่างกายได้แล้ว และต้องเริ่มมากายภาพบำบัดเล็กน้อยเพราะว่านอนนานเกินไปจนกล้ามเนื้อบางส่วนอ่อนแรง ตอนนี้เขารู้สึกสงสารเมียเขาเหลือเกิน ที่กำลังทำหน้าตางอแงเหมือนจะร้องไห้อย่างนั้นแหละเพราะได้รับอนุญาติทั้งทีแต่ตัวเองดันกลับมาเดินเหินแบบปกติยังไม่ได้ “หงึ ปริ้นซ์ งื้ออออ” “อย่าทำหน้าแบบนั้นสิครับที่รัก สู้ๆน่ะ แป๊บเดียวเดี๋ยวที่รักก็เดินได้แบบเดิมแล้ว จุ๊บ” ปริ้นซ์หอมไปที่กลางหน้าผากของบังเอิญอย่างให้กำลังใจ “งื้อก็ได้ แต่ตัวเองต้องพยุงเขาน่ะ ห้ามปล่อยน่ะเดี๋ยวเขาล้ม” เธอกลัวว่าตัวเองจะแข้งขาอ่อนแรงแล้วล้มลงไปเนี่ยสิ ถ้าเธอยังตัวคนเดียวเธอคงไม่กังวลเรื่องนี้หรอก “ครับ ผมไม่มีทางปล่อยให้ที่รักล้มแน่นอน” ปริ้นซ์พยุงบังเอิญเดินกายภาพบำบัดอยู่นานนับชั่วโมงก่อนจะให้คนตัวเล็กนั่งวิวแชร์กลับมาที่ห้องพัก ตอนนี้เขาแทบจะมาอยู่โรงพยาบ

  • เจ๊บังเอิญได้ผัวเด็ก   63 ตกลง

    “……….” “ว่าไงครับที่รัก” “ม…เมื่อกี้ตัวเองพูดว่าอะไรน่ะ” บังเอิญยังอึ้งไม่หายกับสิ่งที่คนตรงหน้าเธอพูดออกมาก่อนหน้านี้ “ที่รักเรามาแต่งงานกันน่ะครับ” จะให้เขาพูดอีกกี่สิบรอบก็ยอมได้ ขอแค่เธออย่าปฏิเสธเขาเลย “อื้ออตกลง แต่งสิ ป่องแล้วไม่แต่งได้ไง” ตอนแรกก็ไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้หรอก แต่งตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้วไง ในท้องเธอเขาก็เสกปริ้นซ์น้อยเข้ามาใส่แล้ว จะให้โอกาสนี้หลุดมือไปได้ยังไง “จริงหรอ ผมดีใจมากๆเลยนะที่รัก จุ๊บๆๆๆ” “อื้อออ พอแล้วมันจั๊กจี๊” นี่เขาอยู่เฝ้าเธอจนไม่มีเวลาไปโกนหนวดเลยหรอเนี่ย ปกติเธอเป็นคนโกนให้เขาเองแหละ “ผมอยากทำมากกว่านี้อีก แต่มันยังทำไมได้ ผมดีใจมากๆเลยที่ที่รักไม่ปฏิเสธผม” เขาอยากดึงเธอมากอดรัดฟัดเหวี่ยงเสียด้วยซ้ำ แต่มันก็ยังทำไม่ได้ เลยทำให้ต้องจุ๊บแค่ริมฝีปากบางของเธอเท่านั้น “จะปฏิเสธทำไมล่ะ ปริ้นซ์น้อยก็นอนอยู่ในนี้แล้วไม่ใช่หรอคะคุณพ่อ” “ใช่ครับคุณแม่” ปริ้นซ์นั่งลงที่เก้าอี้ข้างเตียงก่อนจะยื่นมือมาลูบที่หน้าท้องของเมียเบาๆราวกับขนนก เขาไม่กล้าที่จะแตะต้องตัวของเธอแรงมากเพราะกลัวว่าจะกระทบกระเทือนจนถึงลูกในท้อง “จริงด้วยตัวเอง” อยู่ดีบั

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status