แคว่ก!
"กรี๊ดดดดดด" ลิตากรีดร้องอย่างสุดเสียงเมื่อชุดนักศึกษาถูกแม็กเครย์กระชากแค่เพียงครั้งเดียว กระดุมเหล็กบนเสื้อนักศึกษากระเด็นกระดอนไปคนละทิศละทาง กระโปรงทรงเอถูกถอดออกด้วยความชำนาญ จนร่างอรชรเหลือเพียงบราเซียและแพนตี้สีขาวยิ่งทำให้เธอดูเหมือนเด็กสาวที่ยังบริสุทธิ์ "ทะ...ที่หนูบอกว่า จะให้ทำอะไรก็ได้ หนูไม่ได้หมายถึงจะนอนกับคุณ" "แล้วคิดว่าผู้หญิงอย่างเธอมีค่าอะไรมากกว่าให้ฉันเอา" "...อึก~" เธอได้แต่อึ้งกับถ้อยคำดูถูกของคนตรงหน้า สองมือเล็กยกขึ้นมาป้องปิดของสงวน "อย่ามาทำเหมือนไม่เคย ถอดที่เหลือออกให้หมด" เจ้าของคำสั่งว่าพลางถอดเสื้อเชิ้ตสีดำออกอย่างใจเย็น เผยให้เห็นรอยสักที่ต้นแขนบ่งบอกความเป็นตัวตนของเขา แผงอกแกร่งหน้าท้องลอนซิกซ์แพ็กแสดงให้เห็นถึงการดูแลร่างกายอย่างสม่ำเสมอ ดวงตาอำพันจ้องมองหน้าอกที่ซ่อนรูปของเด็กสาว ทั้งที่เธอตัวเล็กนิดเดียวกลับมีหน้าอกที่ใหญ่เกินตัว ทำเอาความกระสันในตัวเขาพลุ่งพล่านขึ้นเรื่อยๆ "เพราะถ้าฉันถอดเองมันจะไม่เหลือชิ้นดี" "ฮึก..ฮือ" ลิตายังคงร้องไห้ไม่หยุด แต่สถานการณ์ตรงหน้ากลับบีบให้เธอต้องทำตามคำสั่งของเขาอย่างไม่มีทางเลือก เธอค่อยๆ ถอดบราเซียและชิ้นส่วนปราการสุดท้ายออกด้วยความเขินอาย มันเป็นครั้งแรกที่เธอเปลือยกายต่อหน้าผู้ชาย และเขาก็กำลังถอดกางเกงออกจนร่างกายเปลือยกายเช่นกัน เด็กสาวชะงักไปชั่วขณะเมื่อเห็นเขากำลังรูดท่อนเอ็นสีแดงก่ำรายล้อมไปด้วยเส้นเลือดปูดโปนกำลังพองออกมีขนาดขนาดใหญ่กว่าแขนของเธอ ทำเอาเธอหวาดผวา "หึ..หุ่นเธอดูใช้ได้หนิ" แม็กเครย์ลากสายตามองเรือนร่างของเด็กสาวอย่างจาบจ้วง มุมปากหยักยกยิ้มขึ้นด้วยความพึงพอใจ เขาเดินไปหยิบถุงยางอนามัยที่เขาสั่งทำขึ้นมาพิเศษในลิ้นชักออกมาก่อนจะสวมเครื่องป้องกันอย่างใจเย็นเหมือนทุกๆ ครั้ง แม้เขาจะมีอะไรกับผู้หญิงมานับไม่ถ้วน แต่เขาเองไม่คิดจะมีทายาทกับผู้หญิงที่ไหนทั้งนั้น "อื้อออ" ไม่ทันที่ปาลิตาจะได้ทันตั้งตัวเขาผลักร่างบางลงบนนอนบนเตียงนอนอีกครั้ง พร้อมๆ ฉกริมฝีปากของเธออย่างแรง เรียวลิ้นอุ่นชื้นตวัดเข้ามาในโพรงปากเล็ก รสจูบหนักหน่วงผสมกลิ่นควันบุหรี่จางๆ แทบทำให้เธอลืมหายใจไปชั่วขณะ "ถ้าจะโทษ ก็ต้องโทษที่เธอเข้ามารุกล้ำเส้นฉันก่อน" เขาผละริมฝีปากออกแล้วโทษว่าเป็นความผิดเธอทุกอย่าง ก่อนที่นิ้วเรียวยาวจะแหย่เข้าไปในช่องทางรักคับแคบเพื่อเบิกทาง มือข้างหนึ่งบีบหน้าอกอวบที่เต่งตึงสู้มือ "อื้อ...จะ...เจ็บ~" "หึ...ไม่น่าเชื่อ ยังไม่เคยสินะ" เขาถอนนิ้วยาวออกจากใจกลางความเป็นสาว ดวงตาสีอำพันจ้องมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยแววตาหื่นกระหาย เขาไล่สายตามองเนินสามเหลี่ยมอันโหนกนูนมีขนบางๆ ปกคลุมด้วยความพิจารณา กลีบดอกไม้ที่ปิดสนิทบ่งบอกว่าหญิงสาวยังไม่เคยผ่านมือชายจนทำให้เขาตัดใจสินทำอะไรบางอย่าง ทำเอาดวงตากลมสั่นระริกมองดูด้วยความหวาดกลัว "คุณถอดถุงยางออกทำไม" "ก็เธอยังเวอร์จิ้น ฉันก็คงไม่จำเป็นต้องใส่ถุงยาง" ในเมื่อเขาเจอผู้หญิงบริสุทธิ์ เขาก็น่าจะได้เปิดซิงเธอโดยปราศจากเครื่องป้องกัน "มะ...ไม่นะ" ลิตาลนลานหมายจะก้าวขาลงจากเตียง แต่ก็ช้ากว่าแม็กเครย์ที่คว้าข้อเท้าเล็กแล้วกระชากร่างอรชรลงที่เดิม หมับ! ปึก! "กรี๊ดดดดดดดด" ลิตากรีดร้องอย่างสุดเสียงด้วยความเจ็บปวดเมื่อเรียวขาทั้งสองขาถูกดันให้แยกออกจากกัน จากนั้นแม็กเครย์จึงอัดกระแทกความใหญ่โตเข้ามาในร่องสวาทเต็มแรงจนเยื่อบางๆ ในช่องทางรักฉีกขาด น้ำตาที่เหือดแห้งก็กลับมาเปียกชุ่มบนใบหน้าหวานอีกครั้ง "เธอควรดีใจนะที่ฉันจะสดกับเธอเป็นคนแรก" "อื้อ..ไม่เอา" เธอรีบยกมือสั่นเทาดันหน้าคมคายออกห่าง ร่างกายของเธอดิ้นพล่านจนแก่นกายใหญ่ที่สอดเข้ามาได้เพียงส่วนหัวของมันออกไป "ขะ...คุณแม็กเครย์" น้ำเสียงที่เปล่งออกมาเริ่มขาดห้วงเมื่อแขนทั้งสองข้างถูกตรึงไว้เหนือศีรษะด้วยมือแข็งแรงเพียงข้างแล้วสอดใส่ความใหญ่โตเข้ามาในช่องทางรักอีกครั้งโดยไม่สวมเครื่องป้องกัน "ใครๆ ก็อยากขึ้นเตียงกับฉันทั้งนั้นแหละ อย่าเล่นตัวไปหน่อยเลย" ปึก! ปึก! จบประโยคเขาอัดกระแทกแก่นกายใหญ่เข้าไปในช่องทางรักคับแคบอยู่หลายครั้งและเลือดบริสุทธิ์ก็ไหลซึมออกมา "อึก~ หนู...จะ...เจ็บ" ความรู้สึกเจ็บมันกำลังแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย สายตาคมกริบมองจุดเชื่อมต่อที่ภายในโพรงสวาทสุดแสนจะฝืดเคือง พลางใช้นิ้วกลางสัมผัสที่ติ่งเกสรเพื่อให้หญิงผลิตน้ำหวานใสเป็นการเบิกทาง ปึก! ปึก! ปึก! เขาเริ่มขยับสะโพกอย่างเนิบนาบเปลี่ยนเป็นหนักหน่วงในเวลาต่อมา เธอดิ้นพล่านแทบขาดใจและตอนนี้ตัวตนของเขามันเข้าไปอยู่ในตัวเธอจนเกินครึ่งลำ "ฮื้อ...นะ...หนูเจ็บ" "อย่าเกร็ง" ไม่ใช่แค่เด็กสาวที่เจ็บ เขาเองก็ปวดหนึบกับแรงบีบรัดภายในไม่ต่างกัน มันเป็นครั้งแรกที่เขาต้องรอให้เด็กสาวปรับตัวและผ่อนคลายลง มาเฟียหนุ่มทาบทับร่างกำยำไปที่คนตัวเล็กอีกครั้ง ปากหยักดูดดุนเม็ดทับทิมสีชมพูอย่างมูมมาม แล้วออกแรงบดเบียดแก่นกายจดสุดความยาวของมัน "อึก...อื้อ!" ร่างอรชรสั่นเกร็งอย่างหนัก หน้าอกอวบกระเพื่อมไปตามแรงกระแทกกระทั้นที่แสนป่าเถื่อน มือเล็กจิกลงบนที่นอนราวกับระบายความเจ็บปวด ยิ่งเธอสะอื้นไห้เท่าไร เขายิ่งตอกอัดความใหญ่โตเข้ามาด้วยความรุนแรงกว่าเดิม "เอาแค่นี้เธอไม่ตายหรอก" "อึก...ฮือ" ลิตาเหลือบมองจุดเชื่อมต่อผ่านม่านน้ำตาด้วยความหวาดกลัว ก่อนที่เขาจะยอมปล่อยมือของเธอให้เป็นอิสระ "นะ...หนูจุก ฮื้อ!" เธอยกมือดันหน้าท้องแกร่งเบาๆ หวังให้แม็กเครย์หยุดการกระทำอันหยาบโลน แต่เขากลับโน้มใบหน้าลงมาซุกไซ้ซอกคอขาว แล้วฝังฟันคมสลับกับขบเม้มผิวเนื้ออ่อนอย่างแรงเพื่อทิ้งร่องรอยของตัวเองไว้บนร่างกายของเธอ ปึก! ปึก! ปึก! ปึก! เสียงกระแทกหยาบโลนปนกับเสียงสะอื้นของเด็กสาวดังก้องไปทั่วห้อง สะโพกสอบยังคงเคลื่อนไหวไม่มีพัก ยิ่งเห็นกลีบดอกไม้ของเธอมันยิ่งยั่วยวนให้เขาถาโถมแรงกายไม่หยุด หน้าอกขนาดใหญ่ล่อตาล่อใจจนเขาเอื้อมไปบีบเคล้น ความเต่งตึงและเป็นธรรมชาติกลับเด้งสู้มือยิ่งทำให้เขารู้สึกมันเขี้ยว "อื้อ...อ๊า" สะโพกสอบยังคงอัดกระแทกแก่นกายใหญ่เข้าใส่ในร่องสวาทครั้งแล้วครั้งเล่า ทำเอาลิตาหอบหายใจหนักๆ จนเธอยกมือขึ้นมากอดรัดลำคอหนาเพื่อหาที่ยึดเหนี่ยว ความใหญ่โตของแม็กเครย์ที่สอดใส่เข้าไปทำให้เธอทั้งเจ็บและจุก "ซี๊ด..แน่นชิบ" เขาเผลอครางด้วยความพึงพอใจ ในขณะที่สะโพกสอบอัดกระแทกถี่ๆ ใส่ร่องสวาทไม่ยั้งเมื่อใกล้ถึงฝั่งฝัน "อ่าาาาส์" เขากระตุกเกร็งสองสามทีก่อนจะเปล่งเสียงคำรามลั่นเมื่อถึงจุดหมาย ลาวาสีขาวขุ่นก็อัดฉีดใส่ในใจกลางความเป็นสาวในห้องอารมณ์สุดท้าย มีเสียงลมหายใจหอบเหนื่อยของมาเฟียหนุ่มและเด็กสาว ท่ามกลางอากาศเย็นฉ่ำที่อุณภูมิสิบแปดองศา แต่ทว่าไม่บรรเทาความร้อนรุ่มในตัวชายหนุ่มได้เลย "หนูไปได้แล้วใช่ไหม" ใบหน้าหวานถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ในตอนที่เขาถอดถอนแก่นกายออกมาจนมันไหลเปลอะเปื้อนผสมกับเลือดบริสุทธิ์ลงบนผ้าปูที่นอน แล้วจ้องมองช่องสวาทคับแน่นที่มันขยายกว้างด้วยฝีมือของเขาอย่างพึงพอใจ หลังจากนั้นจึงหดกลับขนาดเล็กลงดังเดิม "ฉันบอกตอนไหนว่าให้เธอกลับ" ใบหน้าหล่อเหลาปรากฏรอยยิ้มร้ายกาจทำเอาหัวใจกระตุกวูบด้วยความหวาดระแวง และแล้วสิ่งที่เธอกลัวมันก็เกิดขึ้นอีกครั้ง"มึงไปเอาเอกสารทั้งหมดที่กูต้องเซ็นมาที่นี่ วันนี้กูไม่เข้าบริษัท" แม็กเครย์เดินออกมานอกห้องแล้วหันไปสั่งการกับลูกน้องคนเดิม"ได้ครับนาย"ภายในห้องทำงานที่รายล้อมไปด้วยหนังสือหลายร้อยเล่มซึ่งจัดวางไว้เป็นระเบียบบนชั้นวางหนังสือ แม็กเครย์นั่งเซ็นเอกสารและตรวจแฟ้มงานที่กองไว้บนโต๊ะ เขาสะดุดกับเอกสารชุดหนึ่งแล้วอารมณ์เดือดดาลก็คุกรุ่นขึ้นทันทีใจความสำคัญของกระดาษแผ่นนี้คือ ทางคณะของมหาวิทยาลัยที่ปาลิตาเรียนอยู่ ขอยกเลิกฝึกงาน เนื่องจากเด็กสาวมีความประสงค์จะไปฝึกงานที่อื่นใกล้ๆ หอพัก และให้นักศึกษาคนอื่นมาฝึกงานที่นั่นแทนแม็กเครย์จึงขยำกระดาษแผ่นดังกล่าวทิ้งลงที่พื้นเพื่อระบายอารมณ์ เด็กนั้นกล้าดียังไง ถึงได้ปฏิเสธที่จะฝึกงานกับโรงแรมห้าดาวหรูหราใจกลางเมืองที่มีเงินเดือนให้อย่างโรงแรมแอมมิวตันก๊อก ก๊อก"ขออนุญาตครับ นาย""เข้ามา" เขาละสายตาจากเอกสารแล้วเงยหน้าให้คำตอบมือขวาคนสนิทที่กำลังเดินเข้ามาในห้องทำงาน"นายครับ HR แจ้งมาว่า เรื่องขอยกเลิกการฝึกงานของปาลิตา ไม่ทราบว่านายจะอนุมัติหรือไม่ครับ พอดีทางมหา'ลัยติดต่อมาต้องการทราบผลภายในวันนี้ครับ เพราะมันมีผลต่อชั่วโมงฝึกงาน" ประโยคยืดย
"ไปดีลงาน แต่เจ้าพ่อรถตักดินดันไปลากเด็กในคลับมาแทน?"เสียงของออนิกซ์โพล่งขึ้นเป็นเชิงเหน็บแนมทันทีที่เห็นพี่แม็กเครย์เดินเข้ามาด้านในของห้องรับรองที่พวกเขาในกลุ่มมักจะมารวมตัวกันเพื่อคุยเรื่องธุรกิจสีเทาหรือสังสรรค์บ้างในบางครั้ง ไม่ก็ไปที่คลับของเขาแทน ส่วนฉายา "เจ้าพ่อรถตักดิน" เป็นคำที่เพื่อนๆ ตั้งไว้เรียกแม็กเครย์โดยเฉพาะ สืบเนื่องจากชื่อของเจ้าตัวดันไปใกล้เคียงกับคำว่าแม็กโคร"มึงหงุดหงิดเรื่องอะไร หรือเป็นเพราะกูโทรไปขัดจังหวะมึงบนรถ?" เป็นลาร์คินที่ตั้งข้อสังเกต เพราะโดยปกติเท่าที่เขาเห็น แม็กเครย์ไม่เคยมีเรื่องหัวเสียขนาดนี้มาก่อน มาเฟียใบหน้าเย็นชาเป็นนักแก้ปัญหาที่เก่งกาจ ขนาดถูกลูกน้องหักหลัง แต่แม็กเครย์ก็ไม่เคยไม่แสดงท่าทีเกรี้ยวกราดให้ได้เห็น ยิ่งเรื่องผู้หญิงความเป็นไปได้แทบเป็นศูนย์"เด็กมันคงพยศแหละมั้ง เจ้าพ่อรถตักดินลูกรังถึงได้อารมณ์เสียเอา" ไทเลอร์พูดแทรกขึ้นพลางหยิบแก้วไวน์ขึ้นมาแกว่งเบาๆ ก่อนจะกระดกของเหลวสีแดงเข้มเข้าปากในพรวดเดียว"ถ้าพวกมึงตามกูมาแค่ต้องการกวนตีนใส่กู งั้นกูจะกลับ" แม็กเครย์รีบตัดบทสนทนาก่อนจะเดินไปนั่งที่โซฟาซึ่งว่างอยู่ โดยไม่ได้รู้ตัวเลยว
พรึ่บบบ!เขาช้อนร่างเปลือยของเด็กสาวด้วยความไวประหนึ่งปีศาจ แล้วจับเธออ้าขาพร้อมๆ กับกดสะโพกมนลงมาที่ตักแกร่งสวบ!"กรี๊ดดดดด ยะ...อย่านะ"ช่องทางรักที่เปียกแฉะไปด้วยน้ำหวานค่อยๆ กลืนกินแก่นกายความเป็นชายที่ขนาดใหญ่กว่าข้อมือเข้าไปได้ง่ายกว่าครั้งแรก ฝ่ามือหนาล็อกสะโพกงามงอนของสาวน้อยกระทบกับหน้าขาของของเขาด้วยความหื่นกระหาย"รอฟ้าสว่างก่อนนะแล้วฉันจะหยุด" เขากระซิบด้วยน้ำเสียงแหบพร่าก่อนจะเป็นฝ่ายออกแรงตับๆๆๆเสียงเนื้อกระแทกเนื้อดังกึกก้องภายในรถหรูตามจังหวะระรัวด้วยฝีมือคนตัวสูง ปลายส้นสูงเสียดสีไปมากับเบาะหนัง เธอจึงคว้ากอดลำคอหนาเพื่อหาที่ยึดเหนี่ยว กลิ่นน้ำหอมราคาแพงบนลำตัวเขาเสมือนกับดักที่ล่อให้เหยื่อติดกับทว่าอีกฝ่ายกลับมองภาพคนตรงหน้าที่เปลือยเปล่าซึ่งสวมเพียงรองเท้าส้นแหลมกำลังนั่งคร่อมบนตัวเขา กระตุ้นอารมณ์ดิบเถื่อนให้ยิ่งร้อนระอุ"อื้อ! จะ...จุก""อืม~" แม็กเครย์ตะโบมดูดสองเต้าอวบที่จุกสีชมพูกำลังแข็งชูชันตรงหน้าราวกับคนอดอยาก ช่างล่อตาให้เขาอยากจะขย้ำมันแรงๆ เขาขบกัดหน้าอกใหญ่ทั้งสองข้างไปมาด้วยความกระหาย จนลิตาใบหน้าเหยเกทั้งรู้สึกเจ็บและเสียวในเวลาเดียวกันเขาผลักเธอ
ตุ๊บ!"โอ๊ย นี่คุณจะพาฉันไปไหน กระเป๋าฉันอยู่ที่ห้องแต่งตัว" สรรพนามที่เด็กสาวแทนตัวเปลี่ยนไป พร้อมๆ กับกำปั้นเล็กอีกข้างพยายามทุบนิ้วมือของเขาเพื่อให้คลายพันธนาการออกจากข้อแขนของเธอแต่กลับกลายเป็นว่ายิ่งกระตุ้นต่อมโทสะของเขาให้เดือดดาล"เข้าไป" เขายัดเธอเข้าไปในรถโรลส์รอยซ์คันหรูที่ลานจอดรถ แล้วก้าวขายาวตามขึ้นมาติดๆ"ปล่อยนะ ฉันไม่ไป โอ๊ย!" ร่างอรชรล้มคะมำกระแทกกับเบาะหนังจนเด็กสาวรู้สึกเจ็บแปล๊บที่สะโพกงอนงาม ก่อนจะกวาดสายตามองภายห้องโดยสารที่กว้างขวางกว่าปกติแบบที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน"หึ...อยู่กับฉันทำเป็นหวงเนื้อหวงตัวเพื่ออัพราคา พอทีกับคนอื่นรีบอ้าขาให้โดยไม่ลังเล...ผู้หญิงร่าน" ถ้อยคำดูถูกของแม็กเครย์ทำเอาเด็กสาวถูกเรียกคืนสติ แล้วหันมองเขาด้วยแววตาวาวโรจน์ ฝ่ามือเล็กกำหมัดแน่นด้วยความขุ่นเคือง"ออกรถ""ขะ...คุณจะพาฉันไปไหน" ดวงตากลมมองข้างทางด้วยความหวาดกลัวเมื่อรถคันดังกล่าวถูกขับเคลื่อนไปถนนเส้นหลักด้วยความเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนดหลังจากที่แม็กเครย์ออกคำสั่ง"อยากขายตัวนักไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวฉันซื้อไว้เอง""มะ...ไม่ ก็บอกไม่ได้ขายไง" เธอตวาดกลับเสียงสั่นไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะเจอ
"ก็ไหนลาออกไปแล้วไม่ใช่เหรอ...ปาลิตา" ถ้อยคำกระแนะกระแหนของสาวสวยเจ้าของชื่อ 'ซอนญ่า' หญิงสาวเชื้อสายไทยแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์ที่ใช้ชื่อใหม่ตั้งแต่เธอเข้ามาเป็นพีอาร์ของผับแห่งนี้ แววตาริษยาเพ่งมองอีกคนที่กำลังสำรวจความเรียบร้อยของชุดผ่านกระจกเงาในห้องน้ำ"..." ลิตาเลือกที่จะเงียบ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ซอนญ่ามักจะพูดจากระแนะกระแหนเธอ"หึ...ไปแล้วก็น่าจะไปลับไม่ต้องกลับมาอีก""ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอ" ถึงแม้ลิตาจะไม่ใช่คนชอบต่อปากต่อคำ แต่ทว่าอีกฝ่ายยังไม่ยอมหยุดหาเรื่อง ครั้งนี้เธอจึงต้องใช้คำพูดให้เป็นเหมือนเกราะป้องกันตัวเอง"เจ๊น้ำไม่รู้คิดอะไรอยู่ที่รับแกเข้ามาทำงานอีกครั้ง น่ะ หึ..ทำเป็นไร้เดียงสาเวลาเจอแขกเพื่อเรียกร้องความสนใจล่ะสิไม่ว่า" ถ้อยคำกระแทกแดกดันดังขึ้นอีกครั้งในจังหวะที่เด็กสาวใบหน้าสวยปรายตามองมา"ฉันอัดเสียงไว้ในมือถือ อยากให้ฉันไปบอกเจ๊น้ำไหมล่ะ ว่าเธอกำลังนินทาเจ๊น้ำ"ว่าพลางลิตาล้วงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาจากกระเป๋ากระโปรงที่สวมใส่อยู่แล้วอาศัยจังหวะเปิดกล้องค้างไว้ให้ดูเหมือนกับว่าเธออัดวิดีโอจริงๆ แล้วหันหน้าจอให้ซอนญ่าดูก่อนจะหย่อนเก็บไว้ที่เดิมในเสี้ยววินาที ในเมื่อพ
ซ่า~ ซ่า~เสียงสายน้ำเย็นฉ่ำไหลออกมาจากฝักบัวตกกระทบร่างกายไหลลงสู่พื้น เด็กสาวยืนนิ่งเงียบราวกับคนไร้วิญญาณในห้องน้ำส่วนตัวเมื่อกลับมาถึงหอพัก ปล่อยให้น้ำสะอาดชำระล้างความสกปรกทั่วเรือนร่างซึ่งเต็มไปด้วยร่องรอยความป่าเถื่อน"คุณมันใจร้าย ฮึก ฮือ" เสียงสะอื้นไห้ดังสลับกับเสียงสายน้ำไหลเป็นระยะไม่เคยนึกฝันภายใต้ใบหน้าหล่อเหลาของแม็กเครย์ที่เป็นนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงแต่เขากลับบ้ากามและข่มเหงเด็กฝึกงานอย่างเธอได้ลงคอนานนับชั่วโมงที่ลิตาร้องไห้จนแทบไม่เหลือน้ำตา เธอคว้าหยิบผ้าขนหนูพันตัวแล้วจึงค่อยๆ เดินออกมาแต่งตัวครืด~ ครืด~โทรศัพท์มือถือดังขึ้นเรียกความสนใจให้ลิตาที่พึ่งสวมเสื้อผ้าเสร็จรีบเดินมาที่กระเป๋าสะพาย ก่อนจะล้วงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อเห็น 'สิริ' โทรมา"...ค่ะ พี่สิ"[วันนี้ไม่มาทำงานหรือไง]"ลิตารู้สึกไม่ค่อยสบายค่ะ เลยจะขอลา"[อ้าวเหรอ เมื่อคืนพี่ให้เรากลับดึกไปหน่อยเลยไม่สบายละสิ]"เออ..." มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับสิริสักนิด แต่เธอก็ไม่สามารถเล่าเรื่องทั้งหมดให้คนในสายฟังได้ ได้แต่ปล่อยให้สิริคิดไปเองตามนั้น[งั้น..ถ้าไม่ไหวยังไงก็พักก่อน เดี๋ยวพี่