Share

8.รีบเร่งจัดงาน

last update Last Updated: 2024-12-10 15:17:10

หลี่เจ๋อเชี่ยนก้มมองดวงหน้าที่งามล้ำในอ้อมแขน

"เหตุใดถึงต้องการร่วมเตียงกับข้ามากมายถึงขนาดนั้น ข้าได้บอกกล่าวเอาไว้แล้วว่าการร่วมเตียงของเรานั่นคือหน้าที่ มิได้มีความรักปะปนอยู่เลย..."

ไป๋หมิงหลันปรือตาขึ้นมามองหน้าของเขา รอยยิ้มพลันปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของนาง เรือนแก้มขึ้นเป็นสีชมพูระเรื่อด้วยฤทธิ์ของสุรา แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นก็ยังคงน่ามองมากทีเดียว

"ในค่ำคืนหนึ่งที่ฝนตกโปรยปรายลงมา หมู่มวลดอกไม้ต่างผลิบานออกมารับลมฝน ข้าลงมาจากแดนสวรรค์เพื่อตามหาปราณเซียนและเพื่อมาเผชิญคราวเคราะห์ ทว่ากลับถูกปีศาจชั้นต่ำแย่งชิงปราณเซียนไป ตัวข้าในยามนั้นยังอยู่ในวัยเยาว์ ไร้ซึ่งพลังที่จะมาต่อสู้..."

ดวงตากลมโตของหมิงหลันช้อนสายตาขึ้นมองหน้าเขา สายตาของนางเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก จับจ้องที่ใบหน้าของหลี่เจ๋อเชี่ยนด้วยความหลงใหล

"วันนั้นข้าอาจจะตาย หากมิได้ท่านจอมมารยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ"

"เทพบุปผาไร้ซึ่งประสบการณ์เรื่องความรักถึงขนาดที่พบเห็นความเมตตาเพียงน้อยนิดของข้า ก็ทึกทักไปเองว่าข้านั้นสนใจนั้นตัวเจ้างั้นหรือ?"

"หามิได้ ข้ารู้ดีว่าท่านคือจอมมารปกครองเผ่ามารที่แสนจะยิ่งใหญ่ และข้าคือเทพบุปผาตัวน้อยๆ ความหวังของข้ามิใช่ความรักจากท่าน แต่เพียงข้าได้สัมผัส.."

ไป๋หมิงหลันยกมือขึ้นมากอบกุมใบหน้าของหลี่เจ๋อเชี่ยนเอาไว้ ดวงตาของนางพลันหรี่ลงมันเอ่อล้นด้วยหยาดน้ำตาแวววาวราวกับเม็ดไข่มุกเมื่อสะท้อนเข้ากับแสงเทียนในห้อง นางกะพริบตาถี่ๆเพื่อไม่ให้หยาดน้ำตารินไหลลงมา..

"เช่นนั้นยามที่แยกจากเมื่อภารกิจลุล่วง เจ้าจะมิเจ็บปวดงั้นหรือ?"

"ข้าคิดว่าข้าสามารถจัดการความรู้สึกตัวเองได้ดี มันอาจจะเจ็บปวดแต่ข้าจะไม่ร้องขอหรือเรียกร้องสิ่งใดจากท่านอีก ในวันที่ข้าต้องเดินทางกลับไปที่แดนบุปผา"

ความรักคือสิ่งที่เขาเกลียดที่สุด เพราะมันคือเปลวไฟที่จะแผดเผาเขาจนตาย ต่อให้นางงดงามมากเพียงใดหรือแม้แต่คำหวานที่กล่าวออกมาพวกนั้น ก็มิสามารถทำให้เขารักนางได้หรอก เห็นทีจะต้องเว้นช่องว่างระหว่างเขากับนางให้มากกว่านี้อีกหน่อย ให้นางตระหนักถึงหน้าที่ของตัวเอง มากกว่าการคาดหวังสิ่งใดที่ไร้สาระจากตัวเขา

......

หมิงหลันลุกขึ้นมาจากที่นอน เมื่อคืนจะเมาก็มิใช่ แต่จะว่าไม่เมาก็ไม่ถูก ดวงตาของนางเห็นใบหน้าที่เย็นชาของเขาได้อย่าชัดเจนและดวงตาสีนิลที่ว่างเปล่านั้นฝังลึกหยั่งรากลงไปบนจิตใจของนาง ถึงแม้ว่าท่านจอมมารจะมิกล่าวคำใดออกมาแต่แววตาที่เขามองมานั้นมันราวกับว่าเขากำลังย้ำเตือน

ให้นางรู้จักประมาณตน

ความรักที่ไร้หนทางสมหวังนี้จะดำเนินต่อไปทางไหนกันนะ ทั้งที่ทำใจเอาไว้แล้วว่ามันไม่มีหนทางที่จะสมหวังแต่พอมาเจอเข้าจริงๆ หัวใจก็หลีกเลี่ยงความเจ็บปวดมิได้ สายลมแห่งความปวดร้าวพัดผ่านร่างกายของหมิงหลันไปช้าๆราวกับจะหอบเอาความเศร้าโศกที่นางพึ่งจะประสบพานพบมาย้ำเตือนอีกรอบ

"นายท่านหลี่และฮูหยินหลี่เดินทางกลับมาแล้วเจ้าค่ะ ท่านเทพบุปผาควรจะออกไปแสดงความเคารพต่อผู้อาสุโสทั้งสองของเผ่ามาร..."

"ข้าทราบแล้ว"

สาวใช้ทั้งสองได้จัดการแต่งตัวให้หมิงหลันเสียใหม่ ใช้เสื้อคลุมสีม่วงเข้มปักด้วยลายดอกเหมยฮวาดูงดงามและอ่อนหวาน หมิงหลันเดินเข้ามาที่ห้องโถงรับรอง นางก้มหน้าลงเพื่อทำความเคารพแก่ผู้อาวุโสของเผ่ามารทั้งสอง มีคำกล่าวเล่าขานเกี่ยวกับโศกนาฏกรรมความรักในอดีต ท่านจอมมารคนก่อนเป็นผู้มักมากในกาม ฉุดฆ่าสตรีไปทั่ว และภรรยาของจอมมารคนก่อนก็คือเทพซื่อมิ่ง เทพผู้กุมดวงชะตา

สวรรค์วุ่นวายเป็นการใหญ่เมื่อเทพซื่อมิ่งถูกลักพาตัวลงมาอยู่ที่เผ่ามาร เพราะมิมีผู้กุมชะตาของชาวมนุษย์ ท่านเทพวั่งซูได้ตัดสินใจลงมาช่วยเหลือสหายรักแต่ทว่าก็สายเกินไปแล้ว เพราะท่านเทพซื่อมิ่งตั้งครรภ์

หมิงหลันช้อนสายตาขึ้นมองหน้าของอดีตเทพซื่อมิ่งที่กำลังมองมาที่เธอพร้อมกับส่งยิ้มอย่างใจดี ในใจพลันรู้สึกดีไม่น้อยกับรอยยิ้มนั้น

"ข้าได้ยินว่าเทพบุปผามีสองคนพี่น้อง คนพี่นั้นงดงามเย้ายวน เพียบพร้อม คนน้องน่ารักสดใสสะกดสายตา วันนี้ข้าได้พบเห็นแล้วก็คิดว่าคำกล่าวพวกนั้นมิเกินจริงเลย เจ้าคือไป๋เฉียนใช่หรือไม่?"

หมิงหลันทำได้เพียงส่งยิ้มแห้งๆให้ท่านเทพซื่อมิ่ง

"ข้าคือไป๋หมิงหลันเจ้าค่ะ ท่านพี่นั้นปักใจรักกับท่านเทพสงครามอันฉี ข้าก็เลยอาสามาที่นี่แทนพี่สาว"

เทพซื่อมิ่งเลิกคิ้วมองหมิงหลัน

"มีคำกล่าวว่าจอมมารนั้นมีหน้าอัปลักษณ์แถมยังน่ากลัว เจ้ามิหวาดกลัวว่าจะต้องร่วมหอกับคนเช่นนั้นหรืออย่างไร?"

หมิงหลันส่ายหน้า

"ข้ารู้ว่าข่าวลือนั้นเป็นเพียงคำโป้ปดเพราะว่าข้าเคยเห็นท่านจอมมารมาก่อนเจ้าค่ะ"

เทพซื่อมิ่งยกยิ้ม นางหันไปมองหน้าสามีพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

หมิงหลันมองท่าทางท่านเทพซื่อมิ่งและท่านอดีตจอมมารด้วยความสงสัย เหตุใดทั้งสองคนถึงดูรักกันราวกับคู่สามีภรรยาทั่วไปกันนะ? ไม่มีแววตาที่โกรธเคืองของภรรยา และไม่มีวี่แววความโหดเหี้ยมจากท่านอดีตจอมมารเลย

"นี่แสดงว่าเจ้าอาสามาที่นี่ก็เพราะว่าเจ้าเคยเห็นหน้าเจ๋อเชี่ยนของข้ามาก่อนงั้นหรือ?"

หมิงหลันส่งยิ้มให้ท่านเทพซื่อมิ่งด้วยหัวใจที่เต้นแรง นางเหลือบมองท่านจอมมารหลี่เจ๋อเชี่ยนที่กำลังยกถ้วยน้ำชาขึ้นมาดื่ม

"เจ้าค่ะ ข้าตกหลุมรักท่านจอมมารตั้งแต่แรกเห็น อาจจะฟังดูน่าขบขัน..."

"แค่ก!! แค่ก!!"

หลี่เจ๋อเชี่ยนที่กำลังดื่มน้ำชาอยู่ถึงกับสำลัก ส่วนเทพซิ่งมิ่งหัวเราะร่า

"ให้ตายสิ ทุกคราที่มองหน้านาง เหตุใดราวกับข้ามองเห็นสามีข้าในอดีตก็ไม่รู้!!"

อดีตจอมมารยกมือขึ้นมาโอบกอดภรรยาของเขาเอาไว้ พร้อมกับส่งยิ้มที่แสนอ่อนโยนให้ไป๋หมิงหลัน

"ข้าคิดว่าควรจะจัดงานแต่งและกำหนดวันเข้าหอให้เร็วที่สุด!! เจ๋อเชี่ยน เจ้าควรจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย!"

"ท่านพ่อ ลูกคิดว่าลูกต้องคุยกับท่านก่อน เทพบุปผาลงมาที่นี่ก็เพื่อทำหน้าที่ของนาง"

"เชี่ยนเชี่ยน เจ้าคิดว่าเผ่ามารของเราน่าอยู่มากนักรึไง ลูกก็รู้ว่าแม่จะต้องออกไปพักที่ดินแดนมนุษย์ทุกๆ สามปี นั่นหมายความว่าเทพสวรรค์จะมิสามารถอยู่ที่นี่ได้ตลอดไป สุขภาพของพวกเราจะย่ำแย่ลงเพราะไอขุ่นมัวมากมายพวกนี้ นางรอนแรมเดินทางมาหาเจ้าตั้งไกล อีกทั้งยังใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ซึ่งมีแต่อันตราย เจ้าคิดว่าสตรีตัวเล็กๆ เช่นนางเดินเข้ามาที่นี่ด้วยความรู้สึกเช่นไร!!"

หลี่เจ๋อเชี่ยนหลับตาลงพร้อมกับถอนหายใจ เขาไม่อยากเถียงท่านแม่เลยให้ตายเถอะ!!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เทพบุปผาปรารถนาจะเป็นภรรยาท่านจอมมาร   2.25 สาบาน

    วันเวลาที่หลี่เจ๋อเชี่ยนรอคอยในที่สุดก็เดินทางมาถึงเสียที เขารอคอยมาเนิ่นนานมากทีเดียวจนกว่าจะถึงวันที่เราได้แต่งงานกัน เขาจะได้ประกาศก้องออกไปให้ดังไกลไปทั่วสี่ทะเลแปดดินแดนว่าเทพบุปผาหมิงหลัน นางคือภรรยาของจอมมารผู้นี้“ข้ามิคิดว่าภรรยาจะสามารถงดงามได้มากยิ่งขึ้นไปอีก..”เมื่อกล่าวจบหลี่เจ๋อเชี่ยนก็หอมแก้มหมิงหลันแรงๆ ท่ามกลางพิธีแต่งงานที่พวกเขากำลังคำนับฟ้าดินท่านอดีตจอมมารถึงกับกระแอมออกมาเสียงดัง“เจ๋อเชี่ยน..ทำพิธีให้เสร็จก่อนสิเจ้าลูกคนนี้!!"เสียงหัวเราะดังขึ้นมาในทันที แขกในงานไม่คาดคิดว่าพวกเขาจะได้เห็นภาพของท่านจอมมารที่ดูอ่อนโยนและทนุถนอมท่านเทพบุปผาเช่นนี้หมิงหลันร้องไห้อยู่สามวันสามคืนเลยทีเดียว ยิ่งใกล้ถึงกำหนดแต่งงานนางยิ่งรู้สึกตื้นตันใจ ทั้งๆ ที่เรามีเจ้าตัวน้อยซึ่งเป็นพยานรักตั้งสองคนแล้ว แต่หมิงหลันก็ยังอดรู้สึกตื้นตันไม่ได้ทุกที“อย่าร้องสิ ในวันแต่งานของเราเจ้าควรจะยิ้มเยอะๆ ให้ผู้คนที่มาร่วมงานลือให้ไกลเป็นพันลี้ว่าท่านจอมมารเป็นคนดียิ่งนัก เขาทำให้ภรรยาแย้มยิ้มได้ตลอดงาน..”เมื่อได้ฟังดังนั้นหมิงหลันก็หัวเราะออกมาเบาๆ“คำสาบานของข้านั้นเรียบง่ายยิ่งนัก ถึงแม

  • เทพบุปผาปรารถนาจะเป็นภรรยาท่านจอมมาร   2.24 ค่าตอบแทนของความพยามยาม

    เวลาเป็นสิ่งเดียวที่เดินหน้าแล้วมักจะไม่มีวันย้อนกลับ และตัวเขา..ทำให้สตรีผู้หนึ่งเสียเวลาในชีวิตไปนานมากเลยทีเดียว“ยินดีต้อนรับเจ้าค่ะคุณชาย..เชิญนั่งรอที่ชั้นบนได้เลยเจ้าค่ะ ข้าจะจัดการนำชาเลิศรสและขนมหวานที่เป็นเอกลักษณ์ของร้านน้ำชาเราไปส่งให้ท่านถึงที่โต๊ะเลย..”ท่านเทพดวงชะตาบอกกับเขาว่าเขาควรจะทำอะไรที่เป็นการไถ่โทษที่ครั้งหนึ่งเขาเคยทำให้ชีวิตของสตรีผู้หนึ่งพังลง และในยามนี้จงจิ้งโหวกำลังกระทำการไถ่โทษนางในแบบของเขาอยู่ครั้งหนึ่งเราทั้งสองคนคือสารเลว แต่ทว่าในครั้งนี้เขาจะสอนเสวียนม่านด้วยตัวเอง ว่าการทำความดีมันง่ายดายยิ่งกว่าการว่าร้ายผู้อื่น..“ข้ามาที่ร้านน้ำชาแห่งนี้บ่อยมากทีเดียว แต่กลับไม่เคยเห็นสามีของเถ้าแก่เนี้ยเลย..”เขาถามทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่านางคือหญิงหม้าย แต่ถึงอย่างนั้นจงจิ้งโหวคิดว่านี่คือจุดเริ่มต้นการสนทนาที่ค่อนข้างดีมากทีเดียวระหว่างเขาและนาง“ข้าไม่มีสามีเจ้าค่ะ จะเรียกว่ายังไม่มีสามีก็ยังไงอยู่ เพราะว่าข้าคือหญิงหม้ายที่พึ่งผ่านการหย่าร้างมา..คุณชายท่านนี้สนใจในตัวหญิงหม้ายผู้นี้อย่างนั้นหรือเจ้าคะ?”จงจิ้งโหวมองหน้าของเสวียนม่าน เขายกมุมปากขึ้นสูงเล็

  • เทพบุปผาปรารถนาจะเป็นภรรยาท่านจอมมาร   2.23 ยินยอม

    หลี่เจ๋อเชี่ยนค่อยๆ ปรือตาขึ้นมา สิ่งแรกที่เขาสัมผัสได้คือกลิ่นหอมของหมู่มวลบุปผาพร้อมๆ กับกลิ่นไอของแสงแดดนี่เขากำลังฝันกลางวันอยู่หรืออย่างไร เผ่ามารถึงได้ดูแปลกตาเช่นนี้ เขาเงยหน้ามองท้องฟ้าที่ไร้ไอขุ่นมัว แสงของดวงตะวันสามารถส่องกระทบมาบนพื้นหญ้าได้อย่างชัดเจน และบนพื้นดินที่เคยเป็นสีดำสนิท ยามนี้มันกลับเขียวขจีไปทั่วทั้งดินแดนมวลบุปผาชูช่ออวดโฉมเบ่งบาน มุมปากของหลี่เจ๋อเชี่ยนหยักยิ้มขึ้นมาด้วยความเจ็บปวดที่ฝังแน่นในใจ มิใช่ว่ายามนี้หมิงหลันอยู่ที่นี่แล้วอย่างนั้นหรือ ยังไม่ทันที่เขาจะได้ก้าวเดินออกไปจากห้อง หมิงหลันก็เดินเข้ามาพร้อมๆ กับถาดน้ำชาในมือ สาวใช้ที่เดินตามนางเข้ามาสีหน้าไม่สู้ดีสักเท่าไหร่ อาจจะเพราะว่าพวกนางพยายามอย่างมากในการห้ามท่านเทพบุปผาไม่ให้นางทำงานแต่ด้วยนิสัยของหมิงหลันแล้ว นางไม่ถนัดเรื่องการมีคนรับใช้..เขาส่งยิ้มให้กับภรรยาผู้งดงามยิ่งกว่าผู้ใดในสี่ทะเลแปดดินแดน หลี่เจ๋อเชี่ยนเดินเข้าไปหาหมิงหลันโดนที่นางยังไม่ทันได้ตั้งตัวด้วยซ้ำเขาโอบกอดและฝังใบหน้าลงไปบนเรือนผมด้วยความคำนึงถึง“ภรรยา..ข้าหลับไปนานพอสมควรเลยอย่างนั้นหรือ?”หมิงหลันหลับตาลงช้าๆ นางยกมื

  • เทพบุปผาปรารถนาจะเป็นภรรยาท่านจอมมาร   2.22 ไม่เอาอีกแล้ว

    “ตามกฎแล้ว ถึงแม้ว่าข้าจะเป็นเทพแห่งดวงชะตาแต่ทว่าข้าไม่สามารถเปิดเผยเรื่องราวของเหล่าเซียนได้เลย..”สีหน้าของท่านเทพดวงชะตานั้นเต็มไปด้วยสีหน้าขมขื่น จงจิ้งโหวปรายตามองไปยังสวนที่แสนกว้างใหญ่ของเขา“แต่ท่านก็แหกกฎนั้นเพื่อบอกท่านแม่ของข้านี่”เทพซื่อมิ่งเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนที่นางจะแย้มยิ้มขึ้นมาจางๆ“ข้าไม่เคยเข้าหาเจ้าเพียงเพราะว่าในอนาคตเจ้าจะได้เป็นองค์รัชทายาทหรือว่าองค์เง็กเซียนเลยแม้แต่นิดเดียว ที่ตำหนักดวงชะตาของข้านั้น ข้ามักจะชอบนั่งทำงานที่ริมหน้าต่างและเมื่อมองทอดสายตาออกมาด้านนอกหน้าต่างนั้น มันทำให้ข้าได้เห็นเด็กชายผู้หนึ่งที่นั่งอยู่เงียบๆ หน้าสระบัว..ในยามนั้นข้าเพียงคิดว่านั่นคือเรื่องราวที่แปลกพอสมควรเพราะว่าเด็กในวัยเดียวกันควรจะวิ่งเล่นหรือไม่ก็ท่องเที่ยวไปทั่วสวนของแดนบุปผาแล้ว แต่เด็กชายผู้นั้นกลับไม่กระทำการที่เด็กในวัยเด็กกันทำ ข้ามองเด็กคนนั้นมานานหลายสิบปี จนข้าตัดสินใจเข้าไปพูดคุยเพราะข้าอยากรู้ว่าอะไรกันแน่ที่ทำให้เด็กน้อยผู้นั้นดูเศร้าหมองได้ถึงเพียงนั้น การพูดคุยของข้านั้น เป็นการท้าทายความอดทนของข้ามากทีเดียวเพราะว่าเขามิได้ยินยอมพูดกับข้าในทันทีที่ข้าเอ

  • เทพบุปผาปรารถนาจะเป็นภรรยาท่านจอมมาร   2.21 นับถือดั่งมารดา

    ท่านเทพซื่อมิ่งเดินเข้าไปหาองค์รัชทายาทจงจิ้งโหวที่นั่งอยู่บนพื้นหญ้า ในมือของเด็กน้อยผู้นั้นถือถ้วยน้ำชาเอาไว้และมันยิ่งกำถ้วยในมือเอาไว้แน่นมากยิ่งขึ้นเมื่อนางเดินเข้าไปใกล้ครั้งหนึ่งเมื่อยามที่นางยังอยู่บนแดนสวรรค์ นางพบเห็นเด็กน้อยที่น่าสงสารมากกว่าใครๆ ทั้งๆ ที่เขาเป็นหนึ่งในโอรสของสวรรค์แต่ทว่ากลับมิได้รับความเคารพจากผู้ใดเลย จงจิ้งโหวเป็นเด็กที่เก็บตัวเงียบอยู่ในมุมมืดเพียงผู้เดียว ไม่ได้ออกมาวิ่งเล่นดังเช่นเด็กคนอื่น เนื่องจากหอดวงชะตาอยู่ไม่ไกลจากตำหนักชมจันทร์ที่จงจิ้งโหวอาศัย เมื่อมองเด็กน้อยผู้นี้นานๆ เข้า ท่านเทพซื่อมิ่งก็ตัดสินใจเดินเข้าไปหาเขา“เหตุใดถึงมีเพียงองค์ชายผู้เดียวที่มานั่งชมสระบัวอยู่ตรงนี้เพคะ”นางตามตื๊ออยู่นานทีเดียวกว่าจงจิ้งโหวจะยินยอมพูดด้วย“นี่คือบันทึก..เกี่ยวกับดวงชะตาอย่างนั้นหรือขอรับ”เขาใช้มือลูบไล้ลงไปบนแผ่นไม้ที่จารึกดวงชะตาของเหล่ามนุษย์เอาไว้ด้วยความประหลาดใจ รอยยิ้มน้อยๆ ของเด็กที่ไม่เคยพบเจอสิ่งใดนอกจากสระบัวและดวงจันทร์ข้างๆ ตำหนัก มันทำให้ท่านเทพซื่อมิ่งอดรู้สึกเวทนามิได้“พระองค์..อยากอ่านหรือไม่เพคะ”ในแววตาที่ไร้เดียงสาปรากฏร่องรอยค

  • เทพบุปผาปรารถนาจะเป็นภรรยาท่านจอมมาร   2.20 ไม่รู้เรื่องอะไรเลย

    “ครั้งหนึ่งยามเมื่อหมู่มวลวสันต์ผลิบาน แสงแรกของดวงตะวันฉายชัดลงมา บรรยากาศบนแดนสวรรค์นั้นทำให้ข้ารู้สึกอบอุ่น อ้อมกอดแรกของสตรีที่มิใช่มารดาโอบกอดลงมาบนร่างกายเล็กๆ ของข้า ในครั้งที่ข้าเป็นเด็ก เพราะว่าข้าคือโอรสที่เกิดจากพระสนมจึงมิมีใครคอยดูแล ยกเว้นเทพที่แสนใจดีผู้หนึ่ง นางสอนข้าเดินหมาก อ่านเขียน แต่งกลอน..”แววตาในยามที่จงจิ้งโหวกล่าวถึงสตรีผู้นั้นมันช่างดูเศร้าหมองจนหมิงหลันอดจะรู้สึกสงสารเขาไม่ได้เลย“ข้าที่ไม่มีใคร รู้สึกดีใจและขอบคุณมากๆ เมื่อท่านเทพผู้นั้นปฏิบัติกับข้าดีเหมือนกับว่าข้าคือบุตรชายของนาง..”คล้ายหัวใจของจงจิ้งโหวถูกทุบจนแหลกละเอียดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เขาหลับตาลงช้าๆ เพื่อข่มความเจ็บปวดเอาไว้“แล้ว..ยามนี้ท่านเทพผู้นั้นอยู่ที่ใดกันเล่าเพคะ”“...นางมิได้อยู่บนแดนสวรรค์ ข้าถูกช่วงชิงนางไปเพราะอดีตจอมมารหลงรักนางตั้งแต่แรกพบ หมิงหลันข้าน่ะไม่เคยมีใครเลยในชีวิต ข้ามีนางที่นับถือราวกับมารดาแท้ๆ เพียงผู้เดียวเท่านั้น ทว่าเรื่องน่าตลกมันเริ่มฉายชัดในยามที่ข้าเติบใหญ่ เมื่อพี่น้องทยอยล้มตายอย่างไร้สาเหตุและมีข้าเพียงผู้เดียวนั้นที่มีชีวิตรอด ข้าที่เป็นเพียงโอรสที่เกิด

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status