วันนี้เป็นวันเสาร์ก็จริง แต่เป็นอีกหนึ่งวันที่ฉันต้องตื่นแต่เช้ากว่าปกติเพราะมีนัดพาแองจี้ไปแคสบทซีรีย์ตามที่สัญญากับนางเอาไว้ แน่นอนว่าฉันทำหน้าที่เพื่อนสาวแสนน่ารักเป็นสารถีขับรถไปรับนางด้วยตัวเอง ฉันชอบขับรถเล่นหน่ะ
"แองจี้ ลงมาเร็ว" ฉันเปิดลำโพงต่อสายหาเพื่อนรักทันทีที่รถกำลังตีไฟกระพริบ "ฉันยืนรอแกอยู่ข้างล่าง" "โอเคๆ เลี้ยวเข้ามาแล้ว" ฉันถอยหลังเทียบรถจอดตรงหน้าที่เพื่อนยืนพอดิบพอดีอย่างมืออาชีพ "ไฮ..." "อืม" อุตส่าห์มารับแท้ๆ แต่กลับเย็นชาใช่ฉันเนี่ยนะ ใจร้ายเกินไปแล้ว "เป็นอะไรของแก ทำไมเกร็งขนาดนั้น" "อยู่ในบท" อ่อ ถึงว่าละนิ่งเชียว ฉันก็ลืมไปเลยว่าคาแรกเตอร์ที่แองจี้ต้องไปแคสวันนี้นางได้รับบทเป็นคนเย็นชาพูดน้อยไร้ความรู้สึก ซึ่งฉันก็ติวเพื่อนมาเป็นอย่างดีแล้วละ แต่เป็นธรรมดาที่นางจะตื่นเต้นขนาดนี้ ครั้งแรกนี่นะ ตอนฉันไปแคสงานครั้งแรกก็ตื่นเต้นแบบนี้เหมือนกัน "มั่นใจตัวเอง ท่องไว้" สองมือเล็กเกาะบ่าเพื่อนส่งพลังบวกอย่างให้กำลังใจ "แกทำได้อัษ" แน่นอนว่าต่อหน้าทีมงานมากมายเรียกชื่อนี้ดีที่สุด "อื้ม" "ลุย" หลังจากเชียร์อัพเพื่อนเสร็จ ฉันก็แอบมายืนหลบมุมให้กำลังใจอยู่ห่างๆ โชคดีที่ฉันรู้จักพี่ๆ ทีมงานทุกคนเลยยืนให้กำลังใจเพื่อนในนี้ได้ ซีนแรกและครั้งแรกถือว่าทำได้ดีนะ ถึงจะดูตื่นเต้นนิดหน่อยก็เถอะ ไม่เสียแรงที่ฉันติวเข้มซ้อมบทด้วยอยู่หลายชั่วโมง "เป็นไงแก ดูแข็งไปมั้ย" อัษฎาวิ่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่มาหาเพื่อนสาว เขาทำได้ "ไม่นะ ฉันว่าแกได้งานนี้" "ถ้าได้จริงๆ ฉันให้พี่แพทดูแลฉันด้วยได้มั้ย" คงจะรู้สึกอุ่นใจมากกว่าคนอื่น เพราะอย่างน้อยแองจี้กับพี่แพทก็รู้จักและสนิทกันระดับหนึ่ง ผ่านฉันนี่แหละ "ได้อยู่แล้ว เดี๋ยวฉันบอกพี่แพทให้ สบายมาก" จะมีเพื่อนเป็นดาราทั้งที เพื่อนที่แสนดีอย่างวาดฝันคนนี้ก็ขอพาไปฉลองมื้อกลางวันกันเบาเบาเลือกเป็นอาหารญี่ปุ่นร้านดังใจกลางเมืองที่อยู่ไม่ไกลจากสตูดิโอนี่แหละ เห็นรีวิวว่าอร่อยเหมือนบินไปกินที่ญี่ปุ่นแถมเจ้าของร้านก็หล่อมากด้วย ฉันไม่เชื่อหรอก ต้องไปให้เห็นกับตาตัวเอง แต่จริงๆ อยากไปกินของอร่อยมากกว่านะ "ฝัน แกเลือกเลยนะ ฉันเป็นเจ้ามือ" อยากเลี้ยงตอบแทนกันวันนี้ละสิท่า รู้หรอกนะ เพราะนางเป็นคนขี้เกรงใจมาก "ดีเลย สั่งกลับบ้านด้วยนะ" แค่หยอกเล่นเท่านั้น ไม่ทำจริงหรอก เห็นอย่างนี้ ฉันก็ขี้เกรงใจเหมือนกันนะ "หึ ได้สิ" "เหล้าบ๊วยเบาเบากันมั้ย" "แกขับรถนะ ลืมหรอ" "ก็จริง" ซึม วาดฝันซึม ฉันกับเพื่อนสั่งเมนูแนะนำของทางร้านมาแค่สามสี่อย่างเพราะกลัวกินไม่หมด ระหว่างที่รออาหารมาเสิร์ฟฉันก็ชวนแองจี้ถ่ายรูปเล่นทำคอนเทนต์เบาเบาวันหยุดลงโซเชียลสักหน่อย ชาวด้อมจะได้ไม่ลืมน้องวาดฝันคนนี้ "หืม ตาลุงนี่" มากับสาวซะด้วย "ห๊ะ แกว่าอะไรนะ" "ปะ เปล่า" เซ็งเป็นบ้าเลย เจอใครไม่เจอมาเจอเจ้ากรรมนายเวรตามมาถึงนี่ ไหนว่ามีธุระ ธุระสับรางรถไฟละสิไม่ว่า ฉันเผลอมองผู้หญิงที่มากับเขาอยู่นาน เธอสวยน่ารักมากหุ่นก็ดีรูปร่างพอๆ กับฉันนี่แหละ ไทป์นี้สินะ... "รู้จักหรอ" แองจี้มองตามสายตาเพื่อนก่อนจะหันกลับมากระซิบถามเสียงเบา "มะ ไม่รู้จัก อุ้ย อาหารมาพอดีเลย" ฉันรีบเฉไฉทำเปลี่ยนเรื่อง ขอบคุณพนักงานที่มาช่วยฉันได้ทันเวลา "ถ่ายรูปก่อนมั้ย" เพื่อนคนนี้เนี่ย รู้ใจกันที่สุด ติ๊ง เสียงแจ้งเตือนในไอจีของใครบางคนที่ผมติดตาม ทำผมรีบกดเข้าไปดูรูปที่เธอโพสต์ก่อนจะเงยหน้ามองไปรอบๆ ร้านกวาดสายตาหาเป้าหมาย ปล่อยให้โฟดูเมนูและสั่งอาหารให้ คิ้วได้รูปขมวดเป็นปมยุ่งเมื่อเห็นเธอนั่งอยู่กับใครอีกคน คนละฝั่งกับโต๊ะที่เขานั่ง ท่าทางสนิทสนมมาก มากจนน่าหงุดหงิด กินไปคุยไปหัวเราะไป ไม่เหมือนเวลาที่อยู่กับเขา Film.lff : ใคร? Film.lff : กลับไปเจอดีแน่ ไม่ใช่ว่าเธอไม่เห็นข้อความที่ผมส่ง แต่นอกจากจะไม่เปิดอ่านแล้ว ยังเงยหน้าขึ้นมามองท่าทางท้าทายก่อนจะคว่ำโทรศัพท์ลงกับโต๊ะให้รู้ว่าเธอจงใจเมินใส่ แสบนักนะ ผมทำได้แค่เอาลิ้นดุนกระพุ้งแก้มระงับอารมณ์ตัวเองเอาไว้ใช้สายตามองตัวแสบที่ไม่รู้ร้อนรู้หนาวอย่างคาดโทษและกลับมาสนใจโฟกัสน้องสาวของผมแทน "อุ้ย" เกือบหนึ่งชั่วโมงที่ผมอดทนนั่งมองเธอดี๊ด๊าอยู่กับผู้ชายดูมีความสุขจนน่าหมันไส้ แต่สุดท้าย โอกาสก็มาหาผม เพราะเธอลุกเดินไปทางห้องน้ำหลังร้าน ผมเลยทำทีเป็นอยากเข้าห้องน้ำ บอกให้น้องสั่งของหวานมากินรอ ยืนรอจนเธอเดินออกมา... "ยั่วโมโหฉัน?" ร่างสูงเดินกอดอกไล่ต้อนเธอจนร่างบางชิดกำแพงไม่มีทางให้หนี "ใครยั่วไม่ทราบ" ตัวแสบเถียงสู้อย่างไม่ยอมกัน ผิดกับตอนอยู่กับผู้ชายคนนั้นอย่างกับคนละคน "มากับใคร" "แล้วลุงยุ่งอะไรด้วย" มันน่าฟาดสักทีมั้ยวะ "มา กับ ใคร" เสียงทุ้มพยายามระงับอารมณ์โกรธอย่างที่สุด หน้าของเขาตอนนี้เหมือนเสือที่พร้อมจะตะครุบเหยื่อตรงหน้า "..." "อื้ออออ" แต่นอกจากเธอจะไม่ตอบแล้ว ยังกลอกตามองบนใส่และพยายามจะใช้มือเล็กๆ ผลักหน้าอกแกร่งให้ถอยห่าง ทำขีดความอดทนของเขาขาดลงทันที คว้าศีรษะของเธอมาบดจูบสั่งสอนว่าอย่าขัดใจกัน "ตอบ" "ไม่ต้องยุ่ง" "อ๊ะ อื้อ" ตากลมโตสั่นระริกมองคนตรงหน้าไม่ยอมตอบคำถามให้เขาโล่งใจ พยายามสะบัดตัวออกจากมือหนา แต่พยายามเท่าไหร่ก็ยิ่งโดนเขาดึงเข้ามากอดให้แน่นขึ้นมากเท่าไหร่ ริมฝีปากร้อนบดจูบริมฝีปากบางอีกครั้ง เป็นอีกครั้งที่ได้กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งอยู่ในปากของกันและกัน ถ้าเธอไม่ตอบ เขาก็จะจูบจนกว่าเธอจะยอมตอบ และต้องเป็นคำตอบที่เขาพอใจเท่านั้น #อย่าให้พี่โกรธ😈"มามี๊เสร็จยังครับ" ตั้งแต่ที่เขารู้ว่ามีเบบี๋น้อยมานอนขดตัวอยู่ในท้องของฉันตั้งแต่วันนั้น เขามักจะทำเสียงเล็กเสียงน้อยแล้วก็มีหางเสียงเสมอ ไม่เว้นแม้แต่เวลาที่อยากกวนประสาทฉันด้วย เพราะเขามั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าเบบี๋ตัวน้อยจะเป็นผู้หญิง แต่ที่จริงถ้าเป็นผู้ชายเขาก็ไม่ติดหรอก เขาบอกว่าจะได้มีเพื่อนไปเตะฟุตบอลตอนเย็น กลัวจะพากันไปเที่ยวซะมากกว่า ฉันว่าต้องเป็นแบบที่ฉันคิดแน่ๆ"เสร็จแล้วค่ะปะป๊า""ทำไมใส่ชุดนี้คะ" ฉันก้มมองดูชุดตัวเองตามสายตาที่เขาไล่มอง ปกตินะ...เสื้อยืดสีขาวเอวลอยกับกางเกงผ้าขายาว สบายๆ ต้องใส่ตอนนี้แหละ ถ้าท้องโตกว่านี้คงใส่ไม่ค่อยสวยและไม่สบายเท่าไหร่"ไปกินอาหารญี่ปุ่นร้านพี่ไอไม่ใช่หรอ""กะ ก็ใช่ แต่ปะป๊าอยากให้มามี๊ใส่เดรสสวยๆ มากกว่า" แปลกอยู่นะ ปกติถ้าไปร้านใกล้ๆ แถวนี้หรือร้านพี่ไอ ฉันก็ใส่แบบนี้ได้นี่นา หรือว่าแพ้ท้องอีกแล้ว ถึงได้งอแงอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ แบบนี้มือหนาของเขาดันแผ่นหลังเล็กเบาเบาให้เดินกลับเข้าไปในห้องนอนอีกครั้ง ก่อนจะเปิดตู้เสื้อผ้าเลือกเดรสยาวสีขาวแขนตุ๊กตาที่เขาชอบให้เธอเปลี่ยน คนตัวเล็กก็รับไปเปลี่ยนอย่างตามใจ เห็นแก่ที่เขาแพ้ท้องแทนเธอมาหลา
ก๊อก ก๊อก ก๊อก"เดี๋ยวฝันไปเปิดเอง" คนตัวเล็กชะโงกหน้าขาวใสมาจากตู้เย็นอาสาเป็นคนไปเปิดประตูรับแขก เพราะผมนอนดมยาดมหมดแรงอยู่บนโซฟาหลังจากวิ่งเข้าวิ่งออกไปโก่งคออาเจียนในห้องน้ำมาสามรอบได้"สวัสดีค่ะพี่เลนส์" "ค่ะ"ปึก! "ไม่ต้องมาคะขากับเมียกู!" หมอนอิงลอยไปกลางอากาศพร้อมกับสายตาอาฆาตและเสียงเข้มๆ จากผม น่าเสียดายดันลอยไปตกใส่มือไอ้แฝดเสียได้ ถ้าไม่ติดว่ากำลังเวียนหัวอยู่คงได้วิ่งไปกระโดดถีบสักทีสองที"ไงมึง ถึงกับไปทำงานไม่ไหว?" ยังจะเดินยิ้มหน้าระรื่นเข้ามาใกล้เหมือนชอบอกชอบใจที่เห็นผมอยู่ในสภาพไม่มีแรงแบบนี้"เออ กูขอพักสักสองสามวัน" "มึงประชุมแทนกูไปก่อน" ช่วงนี้งานสายการบินค่อยข้างลงตัวไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เพราะงั้นพี่ชายของผมคนนี้สามารถปลีกตัวมาประชุมโครงการต่างๆ แทนผมได้ สบายมาก"ค่าโอทีกู?" ซีอีโอสายการบินยักษ์ใหญ่เรียกร้องขอค่าโอที เหลือจะเชื่อ! "ไอ้พี่เวร กูเป็นน้องมึงนะ" "สองนาทีกูไม่นับ" ปึก! เวลานี้เราสองคนก็ไม่ต่างจากเด็กน้อย ปาหมอนใส่กันไปกันมาอย่างไม่มีใครยอมกัน จนเมียผมถึงกับนั่งกุมขมับปวดหัวกับความไม่โตของเราสองคน สุดท้ายผมก็เป็นฝ่ายยอมแพ้ยกธงขาวเพราะอาการเว
ไม่น่าเชื่อว่าฉันกับเขาจะสามารถเป็นแฟนกันได้นานขนาดนี้ นานจนจากที่ฉันเรียนอยู่ปีสอง มาตอนนี้ฉันกำลังจะจบการศึกษาในเดือนหน้านี้แล้ว เราสองคนอยู่ด้วยกันทุกวันนอนพร้อมกันตื่นพร้อมกันกินข้าวพร้อมกัน จนบางทีฉันก็แอบคิดว่าจริงๆ แล้วฝาแฝดของเขาคือฉันนี่แหละ ใครจะไปรู้ว่าหนุ่มฮอตที่มีแต่สาวๆ หมายปองจะมาเป็นตาลุงขี้หวงของฉัน เพราะตอนนี้ฉันแทบไม่ได้รับงานเลย เขาสั่งให้พี่แพทรับเฉพาะงานเสื้อผ้าแฟชั่นตามฤดูกาลที่ออกคอลเลคชั่นใหม่ และพวกครีมบำรุงผิวหน้าอะไรแบบนี้เท่านั้น พวกชุดว่ายน้ำหรือครีมอาบน้ำที่เคยมีโดนกากบาทตัดทิ้งออกจากลิสต์ทั้งหมดดีนะที่ตอนนั้นฉันโกยงานโกยเงินตุนเข้ากระเป๋าไว้เยอะ ไม่อย่างนั้นคงเสียดายโอกาสดีดีแน่"ลุง ยังไม่ตื่นหรอ" เกือบสิบโมงแล้วนะ ปกติถึงจะเป็นวันหยุดเขาก็ต้องตื่นขึ้นมาชงกาแฟและออกกำลังกายแต่เช้า ต่างจากวันนี้นอนขดตัวอยู่ในผ้าห่มไม่ยอมลุกสักที"ไม่สบายรึเปล่าคะ" "...""ตัวก็ไม่ร้อนนี่นา" ฉันเดินไปนั่งข้างเตียงยื่นมือเล็กไปแตะหน้าผากกว้างเพื่อวัดอุณหภูมิบนตัวเขา"พี่เวียนหัว" คนตัวโตดึงมือเล็กไปแนบแก้มกอดแขนฉันไว้ไม่ปล่อย"หรอ งั้นนอนพักหน่อย เดี๋ยวฝันไปทำข้าวต้มใ
"ฝัน พรุ่งนี้ไปกินข้าวบ้านพี่นะ" เพราะพรุ่งนี้เป็นวันเกิดของมามี๊ ท่านขอแค่ได้ทุกคนอยู่พร้อมหน้าทานข้าวด้วยกันพูดคุยอัพเดตเรื่องราวต่างๆ เพราะหลายปีมานี้โอกาสที่ทุกคนจะได้อยู่พร้อมหน้ามีน้อยมาก ผมเลยอยากถือโอกาสนี้พาเธอไปแนะนำให้ป๊ากับมามี๊ได้รู้จัก"อารมณ์ไหนอีกเนี่ย" "อารมณ์อยากเปิดตัวเมียครับ" "ไม่เร็วไปหรอ" ผลัดมาหนึ่งปีแล้ว เอาอะไรมาเร็ว"ช้าไปด้วยซ้ำ"เด็กดื้อไม่พูดอะไรต่อไม่หยิบยกข้ออ้างขึ้นมาต่อรองเหมือนทุกทีที่ผมชวนเธอไปบ้าน พาตัวเองวิ่งเข้าไปในห้องนอนหายไปนานจนผมรู้สึกสงสัยเลยแอบตามเข้าไปดูสักหน่อย บานเลื่อนตู้เสื้อผ้าถูกเปิดกว้างมีเธอยืนยุ่งอยู่กับการหาเสื้อผ้าจนไม่ทันสังเกตว่ามีผมเดินเข้ามานั่งข้างกองชุดเดรสสี่ห้าชุดที่ถูกวางไว้บนที่นอน ผมเลยหยิบขึ้นมาดูชุดสองชุดเป็นแบบที่ผมไม่เคยเห็นเธอใส่แนวนี้มาก่อน น่ารักเรียบร้อยซะจนผมเองก็คิดภาพไม่ออกว่าถ้าอยู่บนตัวเธอแล้วจะสวยมากขนาดไหน"อ้าว ลุงเข้ามาเงียบเชียว" "งั้นมาช่วยฝันเลือกหน่อยสิ" ผมคว้าเอวบางเข้ามานั่งบนตักแกร่งใช้นิ้วเคาะปลายจมูกเชิดรั้นเบาเบาด้วยความมันเขี้ยว เข้ามานั่งนานแล้วแท้ๆ แต่เธอกลับพึ่งสนใจกัน ก่อนจะช่วย
"ฝันหิวอาหารทะเลมากเลย" ระหว่างนั่งรถไปรีสอร์ทที่เขาจองไว้ ฉันก็รู้สึกหิวอยากจะกินอาหารทะเลอร่อยๆ มาก มาทะเลทั้งทีนี่นะ เดี๋ยวเขาจะหาว่ามาไม่ถึง"เดี๋ยวพี่สั่งพนักงาน" "หรือจะไปกินที่ร้านดี ชวนพี่แพทไปด้วย" "ได้" ตามใจเก่งก็คุณลุงของวาดฝันคนนี้นี่แหละ"ลุงร้านนี้ดีมั้ย" ฉันรับหน้าที่เสิร์ชหาร้านซีฟู้ดใกล้ฉัน และดูคะแนนรีวิวว่าร้านไหนน่าไปที่สุด เลือกมาสองสามร้านถามความเห็นเขาสักหน่อย"หืม ร้านนี้รอนานนะ รอไหว?" ฉันเปิดรูปร้านที่ได้คะแนนรีวิวเยอะที่สุดให้เขาดู"หรอ แล้วร้านนี้ละ" กลัวรอนานจนโมโหหิวแล้วพาลกินไม่อร่อยนี่แหละ"พี่ไม่ไปเคย แต่ลองได้" ยังไงดีละทีนี้ การเลือกร้านอาหารเป็นอะไรที่ยากมากสำหรับฉัน กลัวพาทุกคนไปเจอร้านไม่อร่อยจัง"เป็นอะไร ทำหน้ายุ่ง""ฝันเลือกไม่ถูก" "หึ" สุดท้ายฉันตัดสินใจเลือกตามที่เขาบอกตั้งแต่แรก สั่งอาหารของทางรีสอร์ทนี่แหละ ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่อร่อย เขาก็จะได้ไม่ต้องเหนื่อยขับรถไปขับรถกลับด้วย รถสปอร์ตหรู ถอยหลังจอดเข้าที่พร้อมกับรถของพี่แพท เพราะเขาจองห้องพักเผื่อผู้จัดการส่วนตัวของฉันด้วย แถมยังเป็นห้องสวีทเห็นวิวทะเลสวยมาก สวยพอพอกับห้องฉันเลย ทำฉั
"ลุง" คนน้องวิ่งมากอดคอเขาจากด้านหลังยื่นแก้มนุ่มๆ มาแนบแก้มสากอย่างออดอ้อน"หืม" ผมตอบรับในลำคอรอฟังเสียงหวานๆ ของเด็กแสบ ดูซิ จะมีเรื่องอะไรมาเล่าให้ผมฟังอีกตั้งแต่เป็นแฟนกันแบบจริงจัง ไม่ได้อยู่ในสถานะคู่นอนเหมือนตอนแรก ผมก็ได้เข้าไปอยู่ในชีวิตเธอมากขึ้น ไม่ว่าเธอจะไปไหนทำอะไรอยู่ที่ไหนก็มักจะกลับมาเล่าให้ผมฟังจนรู้สึกเหมือนได้ไปด้วยกันในทุกๆ ที่ ซึ่งผมชอบนะ ชอบมาก และผมก็ทำเช่นนั้นเหมือนกัน"วันหยุดนี้ว่างมั้ย" "ทำไม" ระหว่างรอเธอตอบ ผมก็เปิดตารางงานเช็คดูให้มั่นใจ แต่ถึงไม่ว่างผมก็เลื่อนได้"ฝันมีถ่ายงานที่ต่างจังหวัด ไปด้วยกันมั้ย" "พี่ไปได้?" จริงอยู่ที่เกือบสามเดือนมานี้ ผมมักจะไปรอรับเธอทั้งกองถ่ายโฆษณาหรือเวลาที่เธอไปเดินแบบอยู่ตลอด จนผมกับทีมงานเริ่มคุ้นชินกันบ้าง ถึงขนาดที่ทุกคนสามารถเก็บเรื่องของผมกับเธอไว้เป็นความลับได้ มีค่าปิดปากเป็นชานมไข่มุกและขนมอร่อยๆ จากร้านของมินินที่ผมซื้อติดมือไปทุกครั้งตามคำแนะนำของคุณแพทผู้จัดการส่วนตัวของเธอ"อ่าฮะ" "ไม่กลัวเป็นข่าว?" ครั้งนี้เป็นงานต่างจังหวัด และคงต้องค้างคืน ซึ่งผมไม่มีทางนอนคนละห้องเด็ดขาด"ลุงกลัวหรอ" "ไม่เคยกลัวค