“......” แนนนี่รู้สึกตัวงัวเงียตื่นขึ้นหลังจากที่เจอบทลงโทษจากคนใจร้าย
ส่วนคนก่อเหตุยังคงนอนหลับแถมยังกอดร่างบางไว้แน่น
“จะไปไหน!” เสียงเข้มดังขึ้นเมื่อร่างบางค่อย ๆ ยกท่อนแขนแกร่งออกจากตัว
“นะ...หนูจะไปอาบน้ำ” เด็กสาวตอบตะกุกตะกักอย่างเลิ่กลั่ก
“ฉันบอกเหรอ ว่าให้เธอไป!” ชายหนุ่มลืมตาขึ้นจ้องหน้าเด็กสาวอย่างไม่สบอารมณ์
“ตะ...แต่คุณทำไปหลายรอบแล้วนะคะ ตอนนี้มันก็จะมืดแล้วด้วย”
เธอรวบรวมความกล้าทั้งหมดจ้องหน้าและพูดความในใจออกไป
“อีกอย่างคุณไม่กลับไปหาน้องพาร์ทเหรอ ปล่อยให้เด็กอยู่บ้านคนเดียวมัน...”
“ไม่ต้องมาสอน!” ไม่ทันที่แนนนี่จะได้พูดจบชายหนุ่มก็พูดสวนขึ้นก่อน
“หนูไม่ได้สอนหนูแค่อธิบายให้ฟัง!”
“หึ...ปากเก่งนะเดี๋ยวนี้กล้าเถียง!” ชายหนุ่มกดเสียงทุ้มต่ำกระตุกยิ้มอย่างขบขัน
“หนูไม่ได้เถียง! ก็บอกอยู่ว่าหนูแค่อธิบาย!” ร่างบางพูดหนักแน่นพร้อมดันตัวออกจากอ้อมแขนท่อนใหญ่
หมับ!
“อยากลองดีว่างั้น?!” แต่ไม่ทันจะได้ลุกขึ้นก็ถูกเจ้าของท่อนแขนรั้งให้นอนลงที่เดิม
“ไม่ค่ะ!” เมื่อเห็นแววตาเยือกเย็น ไร้ซึ่งอารมณ์คู่นั้นทำให้เด็กสาวได้แต่นอนนิ่ง เพราะถ้าขืนยังพูดต่อปากต่อคำคงได้เจ็บตัวอีกเป็นแน่
แค่นี้เธอก็ระบมไปทั้งตัว ผิวขาว ๆ มีแต่รอยแดงเป็นจ้ำ ๆ ตามเรียวแขนมีแต่รอยนิ้วมือเต็มไปหมด
ไหนจะรอยกัดรอยเขี้ยวที่หัวไหล่จนเลือดซึม ตามหน้าท้อง ต้นขา พูดได้ว่าส่วนไหนที่อยู่ใต้ร่มผ้าที่คนอื่นไม่สามารถมองเห็นได้เป็นรอยหมดทุกส่วน
“ฉันสั่งห้ามเธอแล้วใช่ไหมว่าไม่ให้ไปเจอลูกชายฉันอีก!” สีหน้าเรียบนิ่งน้ำเสียงดุดันพร้อมสายตาที่พร้อมจะขย้ำเหยื่อจ้องมองที่เด็กสาว
“นะ...หนูแค่เอาของขวัญวันเกิดไปให้น้องค่ะ ไม่ได้จะไปทำอย่างอื่น” เธอกล่าวเสียงสั่น เพราะคนตัวโตเริ่มออกแรงบีบที่แขนเธออย่างแรง
“ลูกฉันไม่ต้องการอะไรจากเธอทั้งนั้น”
“จำไว้เธอห้ามเข้าใกล้ลูกชายฉันอีก! ผู้หญิงอย่างเธอไม่มีสิทธิ์จะเป็นแม่ของลูกฉันจำไว้!” ชายหนุ่มเอ่ยอย่างโกรธเกรี้ยวทั้ง ๆ ที่เขาสั่งห้ามแล้วแต่เด็กสาวก็ยังจะฝืนคำสั่ง
“หนูรู้ ว่าหนูไม่มีสิทธิ์แต่หนูขอเจอหน้าน้องบ้างได้ไหม!”
“คุณจะให้หนูทำอะไรก็ได้ จะเอาหนูไปขาย ให้หนูไปนอนกับใครจะตบ จะตี จะทำอะไรหนู หนูยอมหมด” แนนนี่พูดเสียงสะอื้นไห้ พูดระบายความรู้สึกที่เก็บไว้มานานออกมาจนหมด
“ขอแค่ให้หนูเจอหน้าน้องบ้างได้ไหม แค่ได้มองอยู่ไกล ๆ ก็ได้ หนูจะไม่เข้าใกล้น้องเลย ขอแค่มองอยู่ไกล ๆ ก็พอ” เด็กสาวลุกขึ้นยกมือไหว้ชายหนุ่มที่มองเธอด้วยความรำคาญ
“ฮึ...ไม่มีวันอย่าฝันอะไรเกินตัว!” สิ้นคำพูดร่างหนาก็ลุกขึ้นเดินไปเข้าห้องน้ำทันที
“อึก!”
“คนใจร้าย!!” แนนนี่ได้แต่มองตามเจ้าของคำพูดคนที่ทำร้ายเธอทั้งร่างกายและจิตใจ
“อึก! อึก” เธอได้แต่ก้มหน้ากอดเข่า เพียงแค่คิดว่าจะไม่ได้เจอหน้าเด็กน้อยหัวใจเธอก็เจ็บเจียนจะขาดใจตาย...
หลายวันผ่านไป
โรงเรียนเอกชนชื่อดัง
“แนนนี่”
“แนนนี่!”
“ว่าไงเบบี๋” ฉันหันไปยิ้มให้เบบี๋ที่เดินยิ้มแป้นมาแต่ไกล
“วันนี้เราไปชอปปิงกันไหมเบบี๋ขอแดดดี้แล้ว” เบบี๋เป็นคนน่ารักนิสัยดีแล้วอีกอย่างผู้ใหญ่ทั้งสองบ้านก็รู้จักกันมานาน
“ไปชอปปิงเหรอ” ตั้งแต่วันนั้นฉันก็ไม่ได้เจอคุณเขาอีกเลยและเขายังสั่งห้ามไม่ให้ฉันไปเจอน้องพาร์ทอีก
“นะ ไปด้วยกัน” เบบี๋ก็แบบนี้ตลอดชอบอ้อนชอบเอาหน้ามาถูแขนแล้วใครล่ะจะใจแข็งได้
“อือ...” ฉันยิ้มให้เบบี้
“เย่ ๆ ๆ ๆ ๆ นึกว่าแนนนี่จะไม่ไปกับเบบี๋ซะอีก”
“ช่วงนี้แดดดี้ก็เอาแต่ทำงาน ป๊ะป๋าก็เอาแต่ทำงาน พี่เปอร์ก็ไม่รู้ไปไหน เบบี๋เหง้าเหงา”
แก้มป่อง ๆ ดวงตากลมโตใสซื่อ รอยยิ้มหวาน ๆ เสียงหัวเราะที่สดใสของเบบี๋มันทำให้ฉันยิ้มได้
จะว่าไปเบบี๋ก็เหมือนเป็นน้องสาวมากกว่าเป็นเพื่อนมากกว่า
“งั้นเราเข้าห้องกันดีกว่า สอบอีกไม่กี่วิชาก็จะเสร็จแล้ว” ฉันพูดกับเบบี๋ที่กำลังยิ้มให้โทรศัพท์
“แนนนี่ดูนี่สิ”
“เบบี๋ว่าน้องพาร์ทเหมือนกับแนนนี่เลย ยิ่งเวลานอนนิ่ง ๆ ยิ่งเหมื้อนเหมือน” เธอยื่นโทรศัพท์ให้ฉันดู
ใช่! เหมือนมาก นึกว่าเป็นคนคนเดียวกัน ฉันได้แต่มองภาพแล้วยิ้ม มันเป็นภาพที่น้องพาร์ทนอนหลับอยู่บนตัวคุณเขา
“เราไปกันเถอะ!” ฉันพูดตัดบทไม่อยากจะนึกถึงเรื่องนี้เพราะต้องสอบอีกหลายวิชา
“ปะ!”
ฉันกับเบบี๋เดินคล้องแขนกันไปเข้าห้อง เบบี๋ไม่มีเพื่อนคนอื่นนอกจากฉัน ส่วนฉันก็มีเพื่อนสนิทอยู่คนหนึ่งแต่อยู่คนละโรงเรียน
นาน ๆ เราจะนัดเจอกันเพราะเธอต้องช่วยพ่อแม่ทำงานเลยไม่ค่อยมีเวลาเท่าไร
ระหว่างที่รอข้อสอบฉันก็เอาหนังสือมาอ่านทบทวน แต่เชื่อเถอะมันไม่เข้าหัวสักนิด ในหัวมันคิดแต่เรื่องจะทำยังไงฉันถึงจะได้เจอน้องพาร์ท
ถ้าจะพาหนีไปอยู่ที่อื่น เฮ้อ ขนาดตัวเองยังเอาตัวเองจะไม่รอดแล้วจะเลี้ยงดูน้องพาร์ทได้ยังไง
อีกอย่างน้องพาร์ท อยู่กับคุณเขา ก็สุขสบายมีทุกอย่างพร้อมไม่ต้องดิ้นรนอะไร แล้วดูฉันสิ มีอะไรเรียนยังไม่จบ ม. ปลายด้วยซ้ำ
“เฮ้อ!” คิดแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ
ฉันฝันอยากเรียนรัฐศาสตร์ถ้าฉันเรียนจบมีงานทำฉันก็สามารถดูแลน้องพาร์ทได้สบาย
ฉันเลือกเรียนสาขาการระหว่างประเทศ มันเป็นสาขาที่มุ่งทำความเข้าใจกับระบบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศต่าง ๆ
“เป็นไง”“ตกลงว่าท้องไหม?”ปรเมศวร์เอ่ยน้ำเสียงตื่นเต้นเมื่อเห็นร่างบางของภรรยาสาวเดินออกมาจากห้องน้ำ“ฟองเบียร์ล่ะ” แต่เธอกลับไม่สนใจเดินผ่านหน้าสามีหนุ่มสายตาสอดส่องหาลูกสาวตัวน้อย“แนน! หนูตอบป๋าก่อนตกลงท้องไหม!” ท่อนแขนแกร่งคว้าเอวคอดดึงร่างเล็กเข้ามากอดเมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่สนใจ“ป๊ะป๋า! ปล่อยอึดอัดหายใจไม่ออก” สองมือเล็กผลักดันหน้าอกอย่างรำคาญ“เหม็นด้วย! ““ไหนบอกว่าเลิกได้แล้วทำไมยังได้กลิ่นบุหรี่!” เธอชักสีหน้าไม่พอใจทำจมูกฟุดฟิดเมื่อได้กลิ่นเหม็นของบุหรี่ติดปลายจมูก“อะไรป๋าไม่ได้สูบ คงจะลูกค้าสูบมันเลยติดเสื้อ ป๋าเลิกนานแล้ว” ปรเมศวร์รีบอธิบายอย่างกระตือรือร้น แต่เห็นอาการแปลก ๆ ของเมียรักเขาก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ด้วยความดีใจ“ดีใจมากไหมคะ” คนตัวเล็กคลี่ยิ้มบางเมื่อได้เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าสามี หลังจากที่พยายามจะมีลูกอีกคนมาหลายเดือนและในวันนี้ก็สิ้นสุดการรอคอยแต่จะเป็นลูกสาวอย่างที่เขาหวังไหม อันนี้คงต้องว่ากันอีกที“ที่สุดครับ!”“หนูน่ารักที่สุดเลยรู้ไหม!”พรึบ!ร่างบางถูกช้อนอุ้มเดินตรงไปยังเตียงนอน“คงได้เวลาป๋าต้องทำงานให้น้อยลงเพื่อจะได้ดูแลหนูกับลูกให้มากขึ้นแล้วสินะ!” เขาพูด
“ไทเกอร์!!”“ไอ้ไทเกอร์!!!”ปรเมศวร์ส่งเสียงเรียกลูกน้องหนุ่มที่ซึ่งกำลังหัวหมุนกับเจ้าสองแสบลูกชายเจ้านายเสียงแข็ง“ครับนาย” ชายหนุ่มวิ่งหอบตรงเข้าหาผู้เป็นนาย“ดูฟองเบียร์ด้วยกูมีธุระ!”“แล้วดูลูก ๆ กูดี ๆ ล่ะ อย่าให้ไปวิ่งเล่นแถวสระน้ำ!”“ถ้าลูกกูเป็นอะไรไปมึงตาย!”สิ้นประโยคเด็กน้อยแก้มใสวัยห้าเดือนเศษก็ถูกยัดใส่มือลูกน้องหนุ่มที่ทำหน้ามึนงง“นาย!” แต่ยังไม่ทันที่เจ้านายหนุ่มจะได้เดินไปไหนเขาก็อุ้มเด็กน้อยไปขวางหน้าไว้เสียก่อน“อะไรของมึงอีก?” เจ้านายหนุ่มมองหน้าลูกน้องอย่างไม่สบอารมณ์เพราะจิตใจมันลอยล่องไปอยู่ที่สระน้ำ“แล้ว...” ลูกน้องหนุ่มมองไปที่สองพี่น้องที่กำลังเล่นต่อสู้กันอยู่“มันเป็นหน้าที่มึง! ไว้กูขึ้นเงินเดือนให้!”เขาพูดแค่นั้นก็จะรีบสาวเท้ายาว ๆ ไปหาภรรยาสาวที่กำลังเล่นน้ำอย่างสบายใจ โดยที่ไม่รู้ตัวว่าภัยร้ายกำลังจะถึงตัวเพราะชุดบิคีนีตัวจิ๋วที่เธอสวมใส่……“ไม่ตายวันนี้จะตายวันไหน! ไอ้ไทเกอร์!” ไทเกอร์ได้แต่บ่นตามหลังเจ้านาย ทำหน้าเหมือนแบกโลกไว้ทั้งใบ“อ้อแอ้ อ้อแอ้” แต่ต้องสีหน้าเปลี่ยนเมื่อเสียงหวานเล็กดังอ้อแอ้ มือเล็กนุ่มนิ่มลูบจับที่หน้าเขาอย่างอ่อนโยน“เห็นแบบ
“กรี๊ด อุแว้!!”“พอร์ช! ลูกอีกแล้วนะแกล้งน้องทำไม!”เฮ้อ! ฉันละเหนื่อยใจกับลูกชายคนนี้ ตั้งแต่วันนั้นจนมาถึงตอนนี้ก็ผ่านมาแล้ว 3 เดือนกว่า ๆ ทุกอย่างเงียบกริบทางตำรวจพยายามสืบหาที่มาของเด็กแต่ไร้ซึ่งวี่แวว ฉันกับคุณป๋าเลยรับเลี้ยงสาวน้อยและรับเป็นลูกบุญธรรมน้องฟองเบียร์ เด็กหญิง พิชามญชุ์ โชติฐิติเมธานนท์พิชามญชุ์ ผู้งดงามด้วยความรู้ ชื่อนี้หลวงตาเป็นคนตั้งให้ และต้องขอบคุณป๊ะป๋าที่ตามใจฉันให้ลูกใช้นามสกุลเดียวกันกับเราได้เพราะไม่รู้วันเกิดเด็กที่แน่ชัดเราเลยเอาวันที่เจอน้องเป็นวันเกิด และดีที่คุณป๋าเขามีเส้นสายจัดการเรื่องเอกสารให้ลูกได้มีสิทธิ์ทุกอย่างเหมือนคนอื่น ๆแต่ต้องปวดหัววันละแปดรอบกับไอ้ตัวแสบลูกชายคนเล็ก เผลอเป็นไม่ได้แอบหยิกแก้มน้องทุกทีอย่างวันนี้ก็เหมือนกันน้องนั่งเล่นหัวเราะ อยู่ ๆ คนพี่วิ่งมาจากไหนไม่รู้หยิกแก้มน้องจนเป็นรอย จนน้องร้องกรี๊ด“แบร่!!!” แล้วยังไม่ทันจะได้พูดอะไรกันมาแลบลิ้นใส่แล้ววิ่งไปหาพี่ชายทันที ให้มันได้แบบนี้สิ! ลูกคนนี้นิ“นี่ก็อีกคนเขาแกล้งขนาดนี้ยังมองตามตาละห้อย แล้วอะไรคือยิ้มหวานคะ? หนูไม่เจ็บเหรอลูก”ฉันทายาใส่แก้มขาวใสที่เป็นรอยแดงอย่า
ประเทศจีน...“แนน!!”“จะทะเลาะกับป๋าให้ได้ใช่ไหม!”“ได้!”“งั้นขึ้นห้อง ถอดเสื้อผ้าเรามีเรื่องต้องคุยกัน!”สิ้นคำพูดร่างฉันก็ถูกกระชากขึ้นไปบนห้อง และจากนั้นไม่ต้องพูดถึงว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง!คนบ้าอะไรจะถอดเสื้อผ้าคุยกัน เขาหาเรื่องรังแกฉันมากกว่า!“ทีนี้หายโมโหยัง” ก็แบบนี้ทุกทีพอได้แล้วก็มาอ้อน ทีตอนลากขึ้นเตียงเกรี้ยวกราดที่สุด“......” ฉันเงียบ! ดีนะที่วันนี้พี่ไทเกอร์พาสองหนุ่มไปเที่ยว ฉันเลยแวะไปหาคุณป๋าที่บริษัท แต่ต้องไปเห็นอะไรที่มันทำให้อารมณ์เสียเพราะแบบนี้ฉันถึงไม่อยากกลับมาที่นี่ ที่บ้านหลังนี้ เพราะมันมีอะไรหลายอย่างที่มันทำให้ฉันรู้สึกเจ็บ“ป๋าไม่ได้อะไรกับผู้หญิงพวกนั้นแล้วนะ เราก็อยู่ด้วยกันตลอด แค่เอาหนูคนเดียวป๋าก็ไม่มีเวลาทำอย่างอื่นแล้ว”ฉันเข้าใจเพราะเรื่องมันก็นานแล้วแต่มันก็หงุดหงิดใจอยู่ดี ที่เห็นผู้หญิงที่เขาเคยควง!“ป๋าเป็นเด็กดีแล้วนะครับ” ลมหายใจอุ่น ๆ พ่นรดที่ต้นคออย่างแผ่วเบา“หนูเข้าใจแต่หนูไม่ชอบ ไม่ชอบที่พวกเธอมองป๊ะป๋าด้วยสายตาท่าทางอ่อยแบบนั้น หนูหวง!”ฉันพลิกตัวมุดหน้าซุกแผงอกแกร่ง เพิ่งจะกลับมาอยู่จีนได้ไม่ถึงอาทิตย์กลับต้องมาทะเลาะกันเสียแล้วแ
หลายเดือนผ่านไป...งานแต่งถูกจัดขึ้นอย่างใหญ่โต ทั้ง ๆ ที่ฉันขอแค่งานเล็ก ๆ แต่ป๊ะป๋าบอกมันไม่ได้เพราะด้วยฐานะฉันตอนนี้ที่เป็นถึงน้องสาวเจ้าของบริษัทส่งออกใหญ่โตของประเทศและคุณเขาที่เป็นถึงประธานบริษัทค้าเพชรอันดับต้น ๆ จะให้จัดงานเล็ก ๆ มันเป็นไปไม่ได้“แม่สวยจังครับ!” น้องพาร์ทที่วันนี้อยู่ในชุดสูทสีขาวพูดมองแม่แล้วเอาแต่นั่งยิ้มกริ่ม ส่วนน้องพอร์ชตอนนี้กำลังซน ก็ช่วงวัยของเขาแหละกำลังหัดเดินไม่เคยจะอยู่นิ่งดีที่ได้พี่ไทเกอร์คอยดูแลวิ่งตามตั้งแต่เช้าจนตอนนี้ พี่ไทเกอร์ยังไม่ได้พักเลยแต่ความซนยังไม่เท่าน้องญี่ปุ่นลูกสาวคนสวยของเบบี๋ รายนั้นบอกเลยทั้งซนทั้งแสบส่วนคนที่สบายหน่อยคือพี่พิมพ์ เพราะน้องมาเฟียคือนิ่งสุขุมถอดแบบพี่เทเลอร์มาทุกอย่าง! ฉันละปลื้มใจแทนพี่สาวเพราะไม่ต้องมานั่งปวดหัววิ่งไล่จับลูกเหมือนฉันส่วนคุณเจ้าบ่าวป๊ะป๋าคนหล่อ ก็ดีใจจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ เข้าใจว่าตื่นเต้นแต่ฉันเป็นผู้หญิงแท้ ๆ ยังไม่ตื่นเต้นจนออกหน้าออกตาเท่าเขาเลยไม่ใช่ไม่ดีใจที่ได้แต่งานมันก็ดีใจแต่ป๊ะป๋าเขาดีใจเกินไป อยู่ด้วยกันมากี่ปี ลูกสองคนก็โตจนวิ่งไล่เตะก้นพ่อได้แล้ว ทุกวันนี้ฉันเหมือนมีลูกชายส
“ลูกไม่ยอมดูดขวด!” คุณป๋าเขามองฉันอย่างคาดโทษและส่งลูกให้ฉัน“หนูขอโทษ!” ฉันได้แต่ทำหน้าสำนึกผิด เสื้อผ้าก็ยังไม่ได้ใส่ลูกก็จะกินนม“แอ้!!”“รู้แล้วครับไม่ต้องมาทำหน้าอ้อนเลย ก็อ้อนแบบนี้แม่ถึงใจอ่อนให้หนูกินจากเต้าจนป๊ะป๋าดุ” ฉันเอาลูกนอนลงที่ตักทันทีที่เห็นเต้าตามเคยตัวเล็กดีใจจนตัวสั่นจ๊วบ!!ด๊วบ!!“เบา...ไอ้เสือ นมแม่ช้ำหมดแล้วลูก!” คุณป๋าเขาคลานเข่าขึ้นมาบนเตียงจูบที่เท้าเล็ก“ทำอะไรไม่เอามันจั๊กจี้!” ฉันเอามือดันตัวเขาที่เอาหัวหนุนตักแล้วอ้าปากงับเต้าอีกข้าง“ทีลูกดูดไม่เห็นเป็นอะไรป๋าก็หิวเหมือนกันกินหน่อยนะ!” เขามันบ้า! ดูดดึงหน้าอกแล้วดูดแรงด้วยแรงพอจนน้ำนมมันทะลักออกมานั่นแหละ“ป๊ะป๋า! ไม่เอาพอแล้วลูกกินนมอยู่นะ!” ฉันพูดดุ ๆ“หึ...ป๋าแค่ล้อเล่นเอง”“แล้วพาร์ท ล่ะคะ” ทำไมฉันถึงรู้สึกผิดต่อลูกอยู่ตลอดนะ“มีอะไรหรือเปล่า”คุณเขานั่งช้อนด้านหลังเอาคางเกยไหล่ มือสากเอื้อมมาหยอกล้อเล่นกับตัวเล็กที่พอนมเข้าปากก็เงียบไปเลย“ป๊ะป๋า!” ฉันเอียงคอหันไปจ้องหน้าเขา“ฮือ ว่าไงครับเป็นอะไรทำไมทำหน้าเศร้า ๆ” คุณเขาจุ๊บที่ปากฉันเบา ๆ“ป๊ะป๋ารักน้องพาร์ทไหม” ฉันพูดเสียงสั่น ไม่รู้ฉันคิดอะไรทำ