แชร์

CHAPTER 8 ไม่คุ้นเลย

ผู้เขียน: อัญธิญาน์
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-08-21 09:49:29

        เสียงเพลงแจ๊สคลอเบาๆ ท่ามกลางบรรยากาศหรูหราในงานเลี้ยงส่วนตัวที่จัดขึ้นกลางลานดาดฟ้าของโรงแรมห้าดาว เอกวินเจ้าภาพของงานเดินชนแก้วกับธรรศชวินพลางหัวเราะกลั้วเสียงดนตรี

“คิดว่าจะเบี้ยวนัดแล้ว” เอกวินแซว

ธรรศชวินยกแก้วขึ้นกระดกเล็กน้อย แววตาฉายความผ่อนคลายขึ้นมาบ้าง

“ฉันมาเพราะบอกว่าไม่เชิญแขกอย่างอลิสามา”

“ก็ไม่ได้เชิญจริงๆ นะ…” เอกวินหัวเราะแห้งๆ ยังไม่ทันจบประโยค เสียงส้นสูงกระทบพื้นกระเบื้องหินอ่อนก็ดังขึ้นเบาๆ ตามมาด้วยเสียงเรียก

เขาหันขวับไปตามเสียง แล้วสายตาก็ต้องกระตุกเบาๆ เมื่อเห็นอลิสาในชุดเดรสเปิดไหล่สีงาช้าง เดินเข้ามาด้วยท่าทางมั่นใจและรอยยิ้มบางที่พยายามแต่งให้ดูนุ่มนวลที่สุด

“สวัสดีค่ะคุณวินซ์ คุณเอกไม่คิดว่าจะเจอกัน” เธอส่งเสียงใสอย่างนุ่มนวล รู้ว่าเขามางานนี้จึงสั่งให้คนของพ่อไปตามหาการ์ดเชิญมาให้ได้ แม้จะรู้ว่าเอกวินไม่ได้เชิญก็ตาม

ชายหนุ่มเหลือบตาไปทางเอกวินทันที แววตาคมเต็มไปด้วยคำถาม ไหนบอกว่าไม่เชิญ?

“ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าเธอจะมาฉันไม่ได้เชิญ” เอกวินยกมือสองข้างขึ้นแบบคนบริสุทธิ์ กระซิบข้างใบหูของเพื่อน

“ขอโทษนะคะ ถ้ามาโดยไม่ทันตั้งใจให้ใครไม่พอใจแค่คิดถึงบรรยากาศเก่าๆ เลยแวะมานิดหน่อย” อลิสายังไม่สะทกสะท้านยังคงยิ้ม แม้ในใจอยากกรีดร้องใส่เขาก็ตามเสียงเธอนุ่มลง พูดช้าแต่มีจังหวะราวกับซ้อมมา

“เอ่อ ขอตัวแป๊บนะไปดูอาหารทางนู้นก่อนเดี๋ยวมา”เอกวินที่ยืนอยู่ข้างๆ ทำหน้าลำบากใจอย่างเห็นได้ชัด เขาส่งสัญญาณลับๆ ให้เพื่อนก่อนจะชิ่งหนีอย่างรวดเร็ว

ธรรศชวินถอนหายใจเบาๆ กลอกตาเล็กน้อยเมื่อเห็นเพื่อนทิ้งเขาไว้กับอลิสาแบบไม่มีเยื่อใย

“คุณยังไม่เลิกพยายามอีกเหรอ?” เขาถามเสียงนิ่งจ้องตรงเข้าไปในดวงตาของเธอ

“อย่าเรียกว่าพยายามเลยค่ะเรียกว่า แค่ยังไม่ยอมแพ้ก็แล้วกัน” แต่อลิสาเพียงยิ้มและยกแก้วไวน์ขึ้นอย่างสง่างาม ท่ามกลางบรรยากาศที่ทั้งน่ากระอักกระอ่วนและอึดอัด

        สายตาของเขาเหลือบไปยังทางเข้างาน แล้วก็ต้องชะงักไปชั่วขณะ เมื่อร่างของหญิงสาวผู้หนึ่งปรากฏขึ้นอย่างงดงามสง่า

เธอสวมชุดราตรีสีชมพูอ่อน กระโปรงฟูฟ่องยาวเลยเข่า ตัวชุดเป็นเกาะอกสายเดี่ยวเผยให้เห็นผิวเนียนละมุนอย่างพอดี ทุกองค์ประกอบตั้งแต่ชุดไปจนถึงท่าทาง ล้วนบ่งบอกถึงความเป็นคุณหนูผู้เพียบพร้อม

เธอเกล้าผมขึ้นทั้งศีรษะอย่างประณีต งามอย่างเรียบหรู และสะกดทุกสายตาให้หยุดมองโดยไม่ต้องใช้ความพยายาม

ปิ่นมุกก้าวเข้ามาในร้านด้วยใบหน้ามีความตึงเครียดเพราะแม่ให้มางานคนเดียว เพราะท่านติดธุระสำคัญโชคดีที่ยังมีคิรันมาด้วย

เธอควงแขนเขาเข้ามาในงานด้วยความตื่นเต้น เพราะไม่ค่อยออกงานสังคม ระหว่างที่กำลังก้าวผ่านชายหญิงคู่หนึ่ง มือหนาของอีกฝ่ายกับรั้งต้นแขนเธอเอาไว้ราวกับรู้จักกันมาอย่างดี

“ปิ่นมุก...” เขาแทบหาเสียงตัวเองไม่เจอ เมื่อเจอกับผู้หญิงที่เขาเคยผลักไสไล่ส่ง วันนี้เธอขึ้นมากแต่สิ่งที่เขากลัวที่สุดคือสายของเธอที่มองเขามาแบบว่างเปล่า

ปิ่นมุกตกใจจนเผลอสบตากับเขาหัวใจของเธอเต้นระรัว เพราะเขาคือผู้ชายที่เธอเจอในร้านอาหาร แต่เธอไม่รู้จักเขามาก่อน

“ปล่อยค่ะ” กว่าจะหาน้ำเสียงตัวเองเจอ

“ปล่อยคุณปิ่นมุกด้วยครับ” คิรันย้ำอีกครั้ง

อสิลาไม่พอใจที่เขามองผู้หญิงตรงหน้าด้วยความเสน่ห์หา เธอไม่เคยเห็นเขาใช้สายตาแบบนี้มองใครมาก่อน แม้จะไม่พอใจแต่ต้องเก็บอาการไว้

ธรรศชวินยังไม่ยอมปล่อยมือจนหญิงสาวสะบัดแขนออก เขาจึงได้สติพอเขาจะเอ่ยปากทักทาย เธอกลับเดินผ่านเขาไปแล้ว เขาจะเดินตามและอลิสารั้งเขาไว้

“คุณวินซ์จะตามมันไปไม่ได้นะให้เกียรติอลิสบ้าง” ถึงจะถอนหมั้นกันแล้ว แต่สังคมก็ยังไม่รู้สถานะของพวกเธอ

เขาไม่ฟังสะบัดแขนออกอย่างแรงและรีบเดินตามปิ่นมุก เขาจ้องมองหญิงสาวตลอดเวลา ข้างกายยังมีผู้ชายเดินตามไม่ห่างจนเขาอยากเดินเข้าไปกระชากเธอมาถาม ว่าหายไปไหนมา

“มุกรู้จักเขาเหรอ”

“ใครเหรอ”

“คุณธรรศชวิน” เขาไม่ไว้ใจผู้ชายคนนั้นเลย เพราะสายของชายหนุ่มบ่งบอกว่ามีใจให้ปิ่นมุก

“มุกไม่เคยรู้จักเขานะ” ในความทรงจำเธอจำอะไรไม่ได้ แต่ความรู้สึกเธอสับสน

“เห็นเขามองมุกตลอดเลย”

ปิ่นมุกหันไปมองเห็นชายหนุ่มจ้องมองมาจริงๆ จนเริ่มปวดศีรษะ เธอจึงขอตัวออกมาสูดอากาศข้างนอก คิรันจะตามมาแต่ถูกนักธุรกิจคนหนึ่งเรียกไว้เสียก่อน

ลมพัดเอื่อยปลิวผ่านเส้นผมที่หลุดจากการเกล้าอย่างประณีตของปิ่นมุก เธอยืนพิงราวเหล็กมองท้องฟ้าที่เริ่มมืดสนิท แสงไฟในเมืองเบื้องล่างกะพริบระยิบระยับ แล้วเสียงฝีเท้าเบาๆ ก็ดังขึ้นจากด้านหลัง

“ไม่คิดว่าจะยังชอบออกมายืนแบบนี้” เสียงทุ้มต่ำคุ้นหูเอ่ยขึ้นจากเงามืด เขายืนอยู่ตรงนั้นอีกครั้งเหมือนวันแรกที่เขาเคยเข้ามาในชีวิตเธอ

ปิ่นมุกหันกลับไปช้าๆ ก็พบชายหนุ่มในสูทเข้ารูปสีหน้าขรึม ดวงตาคมกริบที่จ้องมาทางเธอด้วยสายตาแน่วแน่เกินกว่าคนแปลกหน้าจะมองกัน

“คุณตามมาทำไมคะ?” ปิ่นมุกถามสุภาพ แต่ดวงตายังเต็มไปด้วยความระแวดระวัง

"ผู้ชายคนนั้นที่คุณมาด้วยมันเป็นใคร” เขาเดินเข้ามาใกล้อีกก้าว ใบหน้าเคร่งขรึมขึ้นนิดหน่อย

“ใครคะ?” ปิ่นมุกขมวดคิ้วทันที

“ก็ผู้ชายที่เดินเข้ามาพร้อมคุณในงานเมื่อครู่นี้ สนิทมันมากเหรอถึงควงกันออกงาน” เขาถอนหายใจออกมาเพราะไม่ชอบที่ปิ่นมุกสนิทกับผู้ชายคนอื่น ไม่เจอกันหนึ่งปีคิดว่าตัวเองรู้ใจตัวเองดี แต่พอกันอีกครั้งหัวใจของเขากลับเต้นแรงกว่าครั้งก่อน

ปิ่นมุกนิ่งไปครู่หนึ่งกำลังประมวลกับสิ่งที่เขาถาม ก่อนจะถามกลับอย่างจริงจัง

“แล้วคุณเป็นใครเหรอคะ มายุ่งอะไรกับคนอื่น”

คำถามนั้นกระแทกกลางอกธรรศชวินราวกับฝ่ามือฟาดเข้าหน้า เขานิ่งไปทันทีดวงตาสั่นไหววูบหนึ่งเหมือนถูกกระชากจากความฝัน

เธอไม่ได้พูดประชด แต่หมายความตามนั้นจริงๆ เธอจำเขาไม่ได้เลย

“ขอโทษนะคะ ถ้าฉันเคยรู้จักคุณมาก่อนฉันคงลืมไปจริงๆ” น้ำเสียงของเธอนุ่มแต่ไม่รู้สึกผิดแต่อย่างใด เป็นเพียงความจริงที่เธอพูดออกมาอย่างไม่รู้เลยว่ามันกำลังแทงลึกลงไปในใจของชายตรงหน้า

ธรรศชวินได้แต่ยืนนิ่งใบหน้าที่มักจะนิ่งสนิทอย่างควบคุมได้ทุกสถานการณ์ กลับวูบไหวอย่างห้ามไม่อยู่ เขาหัวเราะแผ่วในลำคอเจ็บจนหัวเราะออกมาได้

        “งั้นเหรอ” เสียงหัวเราะแผ่วเบาในลำคอของเขายิ่งฟังดูน่ากลัวในความเงียบงันใต้แสงไฟระเบียง เขาจ้องหน้าเธอนิ่ง สายตาคมวาบขึ้นอย่างไม่เชื่อ

“คุณจำผมไม่ได้หรือว่าแกล้งจำไม่ได้ ไหนละลูกที่คุณบอกว่าท้องกับผม!”

“คุณพูดอะไรคะ ฉันไม่เข้าใจ” ปิ่นมุกชะงัก ก้าวถอยเล็กน้อย

“ไม่เข้าใจ เมื่อก่อนคุณจะเป็นจะตายเพราะรักผม มาวันนี้กลับทำเป็นจำไม่ได้ ปั่นหัวผมอยู่เหรอปิ่นมุก!” เขาพึมพำเสียงต่ำ แล้วก้าวพรวดเข้ามาอย่างเร็วมือสองข้างคว้าเข้าที่ต้นแขนเธออย่างแรงพอให้เธอผงะ ใบหน้าคมเข้มโน้มลงมาต่ำ เสียงของเขาเหมือนฟ้ากำลังคำราม

“เลิกเล่นละครเถอะปิ่นมุก! อย่าคิดว่าผมจะเชื่อว่าคุณลืมฉันได้จริงๆ”

“คุณบ้าไปแล้ว ปล่อยฉันนะ!”

“คุณมันแสดงละครดีจริงๆ” เขาเขย่าตัวเธอเบาแต่เต็มไปด้วยแรงอารมณ์จนร่างเธอสั่น แล้วจู่ๆ มือหนึ่งก็เลื่อนไปที่ท้ายทอยของเธอ ดึงเธอเข้ามาใกล้จนแทบไม่เหลือช่องว่าง ก่อนที่ปิ่นมุกจะตั้งสติได้ ริมฝีปากของเขาก็ประทับลงมาแรงและเร็ว

เธอสะดุ้งดวงตาเบิกกว้าง ร่างแข็งค้างในวินาทีที่ถูกช่วงชิงจูบอย่างไม่ทันตั้งตัว หัวใจเต้นรัวด้วยความตกใจกลัว และสับสนสุดขีด แต่เพียงไม่กี่วินาทีเธอก็ผลักเขาออกสุดแรง แล้วตวัดฝ่ามือใส่ใบหน้าของเขาเต็มแรง

เพียะ!

เสียงตบดังสะท้อนในความเงียบของลานระเบียง ธรรศชวินชะงักใบหน้าหันไปตามแรง ก่อนจะค่อยๆ หันกลับมาเผชิญหน้ากับเธอ

น้ำตาคลอในดวงตาของปิ่นมุกใบหน้าสวยซีดเผือดและสั่นเทาเธอกลั้นหายใจ เหมือนต้องใช้แรงทั้งหมดในตัวเพื่อไม่ให้ทรุดลงตรงนั้น

“คุณไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้กับฉัน!”

“ทำไมจะไม่มีสิทธิ์ในเมื่อคุณเป็นเมียผม ตอนนั้นคุณบอกท้องลูกของผมอยู่เลย!”

“ไม่จริงฉันไม่เคยเป็นของใคร”

“หึๆ อย่าคิดว่าผมจะปล่อยคุณไปให้ไอ้ผู้ชายหน้าไหนอีก” ดวงตาแดงก่ำเพราะความหึงหวง และไม่เข้าใจว่าทำไมปิ่นมุกถึงลืมเอาไปแล้ว

“ไอ้โรคจิต!” เธอพูดทั้งเสียงสั่น ก่อนจะหมุนตัวแล้ววิ่งกลับเข้าไปในงานทันที

“ปิ่นมุก บ้าฉิบ!” ทิ้งให้เขายืนอยู่ลำพัง เขายืนค้างอยู่อย่างนั้นสองมือกำแน่น ขณะที่ใบหน้าด้านที่โดนตบยังอุ่นวาบ เธอจำเขาไม่ได้จริงๆ หรือแค่เลือกที่จะลืมกันแน่

“คุณวินซ์อยู่นี่เองอลิส...” อสิลาเดินตามหาเขาทั่วงาน

“เลิกทำตัวเป็นปลิงเกาะแกะผมสักทีรำคาญ!” เขาเดินหนีมองหน้าปิ่นมุกอีกครั้ง แต่กลับไม่มีวี่แววจึงหงุดหงิดและรีบออกจากงานทันที

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เมื่อของตายกลายเป็นของรัก   CHAPTER 30 สุขสันต์วันครบรอบ จบ

    บ่ายวันเสาร์ในสวนสาธารณะอากาศดี เสียงเด็กๆ วิ่งเล่นเจี๊ยวจ๊าวไปทั่วสนามหญ้า ข้างม้านั่งใต้ต้นไม้ใหญ่ สองคุณพ่อรูปหล่อ กำลังนั่งจิบกาแฟคุยกันแบบพ่อๆ ยุคใหม่ที่แต่งตัวดีแต่เลี้ยงลูกเอง“ทัพน้อยโตขึ้นเยอะเลยว่ะ ขาเริ่มยาวเหมือนพ่อนะ” เอกวินพูดยิ้มๆ ขณะมองเจ้าหนูน้อยวัยสี่ขวบที่วิ่งเล่นอยู่กับเด็กคนอื่น“เออน่าหล่อไม่แพ้พ่อแหละ” ธรรศชวินยักคิ้วข้างเดียวอย่างภาคภูมิข้างๆ กัน เด็กหญิงตัวน้อยผมลอนหยักศก ดวงตากลมโตใสแจ๋ววัยสองขวบที่ชื่อ แก้มใส ลูกสาวสุดหวงของเอกวิน กำลังยืนเกาะกระโปรงตุ๊กตาหมีของตัวเองอย่างน่ารัก“ลูกสาวมึงเนี่ยหน้าหวานเหมือนแม่เลยนะ ไม่เหมือนมึงซักนิด” เขาหันไปมองแล้วแซวเล่น“แน่นอนแม่น้องแก้มสวยขนาดนั้น แต่ถ้าใครมาแตะนะกัดแน่” เอกวินพูดเล่นแบบจริงจัง คิดไม่ถึงว่าเขาจะแต่งงานและมีลูกตามเพื่อนไปติดๆ ยังไม่ทันขาดคำเสียงร้องไห้ของเด็กน้อยดังขึ้น จนคนที่อยู่บริเวณนั้นตกใจ“ฮืออออ~ พ่อจ๋า! เขามาหอมแก้มหนู!!!”ทุกสายตาหันไปทันที และภาพที่เห็นก็คือเจ้าทัพน้อยยืนยิ้มฟันหลอ กำลังจุ๊บมือเปื้อนดินของตัวเองเหมือนนักรักตัวจิ๋ว ส่วนน้องแก้มใสยืนทำหน้าจะร้องไห้อยู่ข้างๆ มือจับแก้มตัวเองแล

  • เมื่อของตายกลายเป็นของรัก   CHAPTER 29 ลูกชายคนแรก

    “ลูกชาย! มานี่เลยนะครับ!” เสียงเข้มแต่แฝงความเหนื่อยหอบของธรรศชวินดังลั่นไปทั่วห้องนอนพ่อหนุ่มมาดเนี้ยบมีคนรับใช้ล้อมรอบ วันนี้ต้องนั่งคุกเข่าบนพื้นพรมในสภาพเสื้อยับผมกระเซิง ถือแพมเพิสในมือหนึ่ง ส่วนอีกมือกำลังเอื้อมคว้าหลังเจ้าลูกชายวัยแปดเดือนที่กำลังคลานหนีอย่างปราดเปรียวเหมือนนักวิ่งโอลิมปิก“ทัพน้อย! อย่าคลานไปแทะรีโมตสิลูกรีโมตไม่ใช่ข้าวเกรียบ!”ลูกกูเหมือนกูท่องไว้ พ่อบ้านใจกล้าที่แท้หรูกลัวเมียจะเลี้ยงลูกเหนื่อยเลยให้ออกไปเที่ยว แต่ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงลูกชายก็แผลงฤทธิ์ใส่เขาเด็กน้อยหัวกลมๆ หันมายิ้มกว้างโชว์ฟันน้ำนมซี่เล็กๆ หนึ่งซี่ ก่อนจะหมุนตัวหนีอีกครั้ง โดยไม่รู้เลยว่าด้านหลังน่ะยังเปลือยเปล่า! คนเป็นพ่อทิ้งตัวนั่งแผละถอนหายใจยาว“เมื่อก่อนพ่อใส่สูทประชุมกับผู้บริหาร ตอนนี้ใส่แพมเพิสให้ลูกแต่ยังแพ้ลูกอยู่เลย”เขาพูดกับตัวเองก่อนจะรวบรวมแรงเฮือกสุดท้าย ลุกขึ้นมาใช้แผนใหม่วางผ้าเปียกไว้ข้างตัว เอาแพมเพิสวางตรงกลาง และเปิดคลิปเสียงแม่ของลูกในมือถือเสียงนุ่มๆ ของมุกดังขึ้นจากโทรศัพท์ที่วางไว้บนพื้น “ทัพน้อยครับ มาหาแม่เร็ว~”แผนนี้ได้ผลอย่างน่าอัศจรรย์ เจ้าตัวเล็กหยุดคลานทั

  • เมื่อของตายกลายเป็นของรัก   CHAPTER 28 แม่ของลูก

    เสียงดนตรีจังหวะชิลล์ๆ ดังคลอเบาๆ ในห้องวีไอพีของบาร์หรูที่ตกแต่งสไตล์ลอฟต์ผสมโมเดิร์น กลิ่นเหล้าแพงและซิการ์จางๆ ลอยตลบผสมกับกลิ่นน้ำหอมผู้ชายระดับไฮเอนด์ท่ามกลางแสงไฟสีอุ่นและบรรยากาศที่ไม่ได้ครึกครื้นจนอึดอัด แต่ก็ไม่เงียบเหงาจนน่าเบื่องานปาร์ตี้สละโสดของ ธรรศชวินกำลังดำเนินไปอย่างเรียบง่ายตอนนี้ปิ่นมุกตั้งท้องได้สี่เดือนและงานแต่งงานจะถูกจัดขึ้นในอีกสองวันข้างหน้า เรียกว่าตอนนี้ทุกอย่างลงตัวสุดๆ พ่อแม่ของเขาก็รักเอ็นดูปิ่นมุกมาก จนลืมไปแล้วว่าตัวเองมีลูกชาย“บอกตรงๆ นะงานนี้ไม่ใช่ความคิดของกู” ธรรศชวินพูดขณะยกแก้วขึ้นจิบเบาๆ ใบหน้ายังเรียบเฉยเหมือนทุกวัน แต่สายตากลับหลุดกลอกไปมาราวกับหาทางหนีทีไล่“แน่นอนอยู่แล้ว เพราะกูเป็นคนจัดเองกับมือ!” เอกวินกระแทกตัวลงนั่งข้างเขาอย่างไม่สนใจฟอร์ม เสื้อเชิ้ตแบรนด์เนมของเขาถูกปลดกระดุมสองเม็ดเผยอกนิดๆ ตามสไตล์คนไม่ยอมแก่มันทิ้งให้เขาอยู่เป็นโสดตามลำพัง ส่วนตัวเองหนีไปมีเมียก่อน“แล้วลากกูมาแบบนี้ทำไม” เขาถามเสียงเบาแต่ปากเริ่มยิ้มขำ คิดถึงปิ่นมุกอยากนอนกอดเมียใจจะขาด“ก็เพื่อย้ำให้รู้ตัวไงมึง ว่าคืนนี้คือคืนสุดท้ายแล้วที่มึงจะอยู่ในสารบบชาย

  • เมื่อของตายกลายเป็นของรัก   CHAPTER 27 ขอแค่มีเธอข้างกาย

    ประตูเพนท์เฮาส์หรูบนชั้นสูงสุดของตึกกลางเมืองปิดลงอย่างเงียบงัน กลางห้องกว้างที่ตกแต่งอย่างหรูหราด้วยโทนสีขาวเทา ธรรศชวินอุ้มปิ่นมุกเข้ามาอย่างระมัดระวังแล้วค่อยๆ วางเธอลงบนโซฟาหนังแท้ริมหน้าต่างบานใหญ่ที่มองเห็นวิวเมืองยามค่ำคืนแต่ยังไม่ทันที่มือของเขาจะผละจากแขนเธอ ปิ่นมุกก็สะบัดมันออกเต็มแรง ใบหน้าเรียวหันหนีไปทางอื่นดวงตาคู่งามฉายแววเย็นชาเสียยิ่งกว่าท้องฟ้ายามฝนตก“อย่าแตะต้อง” เสียงเธอแข็งราวมีดบางคมกริบเฉือนลงกลางใจเขาชายหนุ่มทรุดตัวลงนั่งคุกเข่าต่อหน้าเธอ มือทั้งสองประสานกันไว้ราวกับกำลังสารภาพบาป ใบหน้าคมคายที่เคยเต็มไปด้วยความมั่นใจบัดนี้อ่อนแรงลงอย่างเห็นได้ชัด“มุก...พี่รักมุกนะ” เขาเอ่ยช้าๆ ดวงตาจับจ้องเธอแน่นิ่ง ไม่มีเล่ห์เหลี่ยม ไม่มีความเย่อหยิ่งใดๆ มีแต่ความรู้สึกเปลือยเปล่าจากส่วนลึกของหัวใจปิ่นมุกหัวเราะออกมาเสียงแห้ง รอยยิ้มที่ผุดขึ้นไม่ใช่ความสุข แต่คือความเจ็บปวดที่พยายามหลบซ่อนไว้“รักเหรอ? ตอนนี้เนี่ยนะ” เธอเชิดหน้าขึ้น ดวงตาเริ่มคลอด้วยน้ำตาแต่ไม่ยอมให้ไหลลงมา“ตอนที่มุกรักคุณหมดหัวใจ คุณกลับผลักไสไล่ส่ง บอกว่ามุกไม่มีค่าอะไร แล้วตอนนี้ล่ะจะเอาอะไรจากฉันอีก

  • เมื่อของตายกลายเป็นของรัก   CHAPTER 26 ยอมแพ้

    “ทำไมผู้หญิงคนนั้นถึงใจร้ายจัง มายอมมาดูดำดูดีกันเลย” คุณหญิงวีณาบ่นเสียงแข็ง วางตะกร้าผลไม้ลงโต๊ะอย่างแรงจนผลแอปเปิลกลิ้งตกไปลูกหนึ่งธรรศชวินที่นอนอยู่บนเตียงเงยหน้ามามองแม่ ร่างเขายังดูอ่อนแรงสีหน้าไม่สดใสเหมือนเคย แต่แววตายังแข็งกร้าวอยู่บ้าง“แม่อย่าว่ามุกเลยครับ” เขาพูดเบาๆ ขณะพยายามลุกขึ้นนั่ง“ไม่ให้ว่าได้ยังไงคนอะไรใจร้าย ไม่มาเยี่ยมไม่ถามไถ่สักคำ คนเคยรักกันนะวินซ์ เขาเห็นสภาพลูกไหมเนี่ยแผลยังไม่หายดีเลย!” เสียงแม่ขึ้นสูงเล็กน้อยปนห่วงและโมโหแทน“ผมทำกับเขาไว้เยอะเขาไม่ควรต้องอยู่ใกล้ผมด้วยซ้ำ” เขาถอนหายใจเฮือกหนึ่ง ก่อนเอ่ยออกมาช้าๆคุณหญิงชะงักมองหน้าลูกชายอย่างไม่อยากเชื่อหู เสียงของลูกชายเรียบนิ่ง แต่น้ำเสียงเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด คุณหญิงเงียบลงสีหน้าค่อยๆ อ่อนลงอย่างไม่ทันรู้ตัว หัวใจคนเป็นแม่แม้จะไม่ชอบผู้หญิงคนนั้นนัก แต่ก็สะเทือนใจเมื่อเห็นลูกชายเจ็บทั้งกายและใจ“แต่ลูกก็รักเขาไม่ใช่เหรอ” คุณหญิงถามเบาๆ“ครับรักจนไม่รู้จะทำยังไงกับตัวเองดี” เขาหันหน้าไปอีกทางดวงตาแดงวาบริมฝีปากเม้มแน่นอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบช้าๆบรรยากาศในห้องเงียบงันอยู่พักหนึ่ง ก่อนคุณหญิงจะเดินเข

  • เมื่อของตายกลายเป็นของรัก   CHAPTER 25 เธอที่แปลว่าเมีย

    คิรันกับปิ่นมุกที่กำลังนั่งคุยกันอยู่ห้องโถงขวับไปมองพร้อมกัน สีหน้าของหญิงสาวซีดเผือดทันทีเมื่อเห็นชายร่างสูงเดินเข้ามาอย่างโกรธจัด มีรอยเลือดซึมตรงเสื้อผ้าที่แผลผ่าตัดตรงหน้าท้อง “ป้าห้ามเขาแล้วค่ะเขาจะเข้ามาให้ได้” “เดี๋ยวมุกจัดการเองค่ะ” เขาต้องอยู่โรงพยาบาลไม่ใช่หรือ ทำไมถึงมาในสภาพแบบนี้ได้“คุณวินซ์!” ปิ่นมุกลุกพรวดขึ้นด้วยความตกใจ“มุกถอยไป” คิรันลุกขึ้นมาขวางทันทีไม่ทันได้พูดอะไรต่อ หมัดของธรรศชวินก็พุ่งเข้าใส่หน้าคิรันเต็มแรง เสียงกระแทกดังสนั่นจนคิรันเซล้มลงไปกองกับพื้น เลือดซึมตรงมุมปาก“คุณวินซ์หยุดนะ!” ปิ่นมุกกรีดร้อง พุ่งเข้าไปจับแขนเขาไว้ แต่เขาสะบัดแขนออกอย่างแรง ดวงตาแดงก่ำและบ้าคลั่ง“มึงเป็นใครถึงมานั่งข้างเมียกูแบบนี้ ห้ะ! มึงเป็นใคร!!!”“มุกไม่ใช่เมียคุณ! ออกไปจากบ้านของมุก” ปิ่นมุกตะโกนสวนเขากำลังจะพุ่งเข้าไปซ้ำอีก แต่ปิ่นมุกเข้าขวางแล้วผลักเขาออกเต็มแรงจนชายหนุ่มเสียหลักล้มกระแทกลงกับพื้นตุบ!ชายหนุ่มกัดฟันแน่น มือข้างหนึ่งกดที่แผลผ่าตัดที่เหมือนจะปริออก เลือดสีแดงสดไหลทะลุผ้าพันแผลอย่างน่าตกใจ“พี่วินซ์!” ปิ่นมุกร้องเสียงหลง มองเห็นเลือดแล้ว

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status