" หว่านอี้ กลับมาแล้วเหรอลูก "
" ขอรับท่านแม่ หลังจากรายงานสถานการณ์กับฟ่าบาทเสร็จ ก็อยู่คุยกับคนอื่นๆต่อเลยมาช้าไปหน่อย "
" อีก3วันจะมีงานเลี้ยงต้อนรับในวังหลวง พี่อยากให้เจ้าไปด้วย "
เสิ่นหว่านอี้พูดแต่กลับมองหน้าอันชิงเหมยสลับกับหยางซือหรู ตกลงเขาพูดกับใคร อยากให้ใครไปงานเลี้ยงด้วยกันแน่
" ท่านพี่ ข้ายังไม่มีชุดสวยๆใส่เลย ท่านพาข้าไปซื้อได้หรือไม่ "
หยางซือหรูลุกขึ้นไปกอดแขนออดอ้อนเสิ่นหว่านอี้ อันชิงเหมยหน้าซีด ใจกระตุกวูบ ท่านพี่อย่างงั้นเหรอ หมายความว่ายังไงกัน นางจ้องหน้าเขาเขม็งเพื่อรอคำอธิบาย
เสิ่นหว่านอี้แกะแขนของหยางซือหรูออก แล้วเดินไปหาอันชิงเหมย มีสีหน้าลำบากใจ
" เหมยเอ๋อ คือว่า "
" อธิบายมาว่านางเป็นใคร"
" เอ่อ คือ "
เสิ่นหว่านอี้อ้ำอึ้งพูดไม่ออก เขาไม่รู้จะเริ่มอธิบายให้นางฟังอย่างไรดี หยางซือหรูก็พูดขึ้นมา
" ข้า หยางซือหรู เป็นภรรยาของท่านพี่หว่านอี้ "
ภรรยาอย่างงั้นเหรอ นี่มันเรื่องอะไรกัน นางเป็นคู่หมั้นของเขา รักเขารอเขามาเป็นปี เขาบอกให้นางรอนางก็รอ แล้วทำไมถึงทำกับนางแบบนี้ ก่อนไปเขาบอกกับนางว่าจะรักและซื่อสัตย์กับนางแค่คนเดียว เขาจะมีนางเป็นภรรยาแค่คนเดียว แล้วนี่อะไรกัน
เสิ่นหว่านอี้ เอื้อมไปกุมมือนางมาจับไว้แน่น เห็นน้ำตาที่เอ่อล้นจวนเจียนจะไหลออกมา ใจเขาก็เจ็บปวด
" เหมยเอ๋อ ซือหรูนางช่วยชีวิตพี่เอาไว้ ตอนนั้นพี่บาดเจ็บหนัก หมดสติไปหลายคืน หากไม่ได้นางพี่ก็คงไม่ได้มายืนอยู่ตรงนี้ "
" แล้วที่นางบอกว่าเป็นภรรยาท่าน "
" นางช่วยชีวิตข้า คอยเฝ้าดูแลรักษาบาดแผลให้ข้าทั้งวันทั้งคืน ต่อมาข้าถูกพิษนางก็ช่วยถอนพิษให้ข้าอีก การถอนพิษต้องใกล้ชิดสัมผัสนาง นางเป็นลูกสาวเจ้าเมือง ที่เชี่ยวชาญวิชาแพทย์ ข้าจำต้องรับนางเป็นภรรยาเพื่อรักษาเกียรตินาง "
ความจริงที่เขายังบอกไม่หมดคือเขากับนางแต่งงานกันแล้วที่เมืองหนานยาง หลังเสร็จศึกเจ้าเมืองหนานหยางพ่อของนาง เป็นคนจัดแจงงานแต่งทุกอย่าง พิษที่เขาได้รับคือพิษ7ราตรี วิธีถอนพิษมีอย่างเดียวคือจะต้องร่วมรักกันจนครบ7ราตรีเพื่อขับพิษออกทางน้ำรัก ทีแรกเขาไม่ยอม แต่หยางซือหรูยืนยันว่านางยอมให้เขาใช้ร่างกายของนางรีดพิษ นางบอกจะปิดเรื่องนี้เป็นความลับ แต่สุดท้ายเจ้าเมืองก็รู้เรื่อง เขาเองก็ไม่รู้ว่าเจ้าเมืองรู้ได้ยังไง เพราะเรื่องที่เขาถูกพิษมีเพียงแค่กู่เยว่คนสนิทของเขา กับชิงเอ๋อสาวใช้ของนางเท่านั้นที่รู้เรื่อง หลังจากนั้นเขาก็ต้องจำใจเข้าพิธีแต่งงานกับนาง
" เหมยเอ๋อ ข้าจะแต่งนางเป็นฮูหยินรอง ส่วนฮูหยินเอกยังคงเป็นเจ้าผู้เดียว เจ้าเมตตานางหน่อยได้ไหม "
อันชิงเหมยแค่นหัวเราะ ให้นางเป็นฮูหยินเอกเหรอ เขาจำคำพูดของเขาไม่ได้แล้วกระมัง ก่อนไปศึกเขาให้สัญญากับนาง ว่าจะมีนางเป็นภรรยาแค่คนเดียว จะไม่รับอนุหรือมีหญิงอื่นอีก ผ่านไป1ปีเขากลับลืมทุกอย่าง
นางมองเข้าไปในดวงตาของเขา ตอนนี้แววตาของเขาที่เคยมีแต่นาง มันไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว เขาเหลือบไปมองหยางซือหรูเป็นระยะ แววตาบ่งบอกถึงความลำบากใจ
" ไม่ต้องแต่งนางมาเป็นฮูหยินรองหรอก ท่านแต่งนางมาเป็นฮูหยินเอกเถอะ ข้าอันชิงเหมยผู้นี้ ขอตัดขาดวาสนากับท่าน ในเมื่อท่านรักษาคำมั่นสัญญา ที่ให้ไว้กับข้าไม่ได้ ข้าขอถอนหมั้นคืนอิสระให้ ต่อไปเราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก "
พูดจบนางก็ก้าวเดินออกไป ไม่สนใจว่าเขาจะมีสีหน้าเป็นอย่างไร
" ช้าก่อนเหมยเอ๋อ บุรุษมีหลายภรรยา ไม่ใช่เรื่องแปลก จริงอยู่ที่หว่านอี้เคยให้สัญญากับเจ้าเอาไว้ ว่าจะมีเจ้าแค่คนเดียว แต่เจ้าก็รู้ว่าเขามีความจำเป็น ต้องรับซือหรูมาเป็นภรรยาอีกคน "
เสิ่นเย่วชิงเดินเข้าไปจับมืออันชิงเหมย
" ตำแหน่งฮูหยินเอกยังเป็นของเจ้า ส่วนซือหรูยังไงนางก็เป็นเพียงฮูหยินรอง เป็นรองเจ้าอยู่ดี ตอนนี้เจ้ากำลังโกรธ เอาไว้ใจเย็นลงแล้วค่อยคุยกันเถอะนะ "
" ไม่จำเป็นต้องคุยวันหลัง ข้าว่าข้าพูดไปหมดแล้วว่าข้าจะถอนหมั้น ข้ายอมรับว่าข้าเป็นคนใจแคบ ไม่อาจใช้สามีร่วมกับผู้ใดได้ "
อันชิงเหมยมองหน้าของหยางซือหรู สายตาของนางแวววาวมีความเย้ยหยันอยู่ในนั้น
ฮึ อันชิงเหมยยิ้มเย็น ส่งสายตาแข็งกร้าวกลับไปให้นาง นางคงคิดว่าแย่งคนรักของคนอื่นไปได้แล้วคงจะภูมิใจมากสินะ เอาไปเลย ผู้ชายใจโลเลแบบนี้ แค่สัญญายังรักษาไม่ได้ไม่นับเป็นลูกผู้ชาย เสียแรงเป็นถึงรองแม่ทัพ อันชิงเหมยเดินเข้าไปเผชิญหน้ากับหยางซือหรู
" ดีใจด้วย กับตำแหน่งฮูหยินรองแม่ทัพ รักษาเอาไว้ดีๆเล่า วันหน้าเขาไปรบกลับมา เขาก็จะพาสตรีคนใหม่มาอีก แล้วบอกว่านางช่วยชีวิตเขาเอาไว้เลยต้องตอบแทนด้วยการรับนางเป็นภรรยาอีกคน ขอให้เจ้าเมตตานางด้วย "
แล้วอันชิงเหมยก็กระซิบให้ได้ยินกันแค่2คน
" บุรุษขาเป๋หน้าบากผู้นี้ ข้ายินดียกให้ "
ท่านพี่ไปอาบน้ำเถอะ เดี๋ยวจะได้มากินข้าวกัน"" ได้ งั้นข้าไปอาบน้ำก่อน"มองดูอวิ๋นชางเดินกลับไปหยิบไก่และตะกร้าใส่ผักหายเข้าไปในบ้าน อันชิงเหมยยิ้มบางๆ นางไม่คิดว่านางกับเขาจะมีวันนี้ วันที่ได้ใช้ชีวิตคู่ด้วยกันภาพเหตุการณ์ในอดีตผุดขึ้นมา ตอนนั้นนางคิดว่านางตายไปแล้ว แต่พอลืมตาขึ้นมาก็เห็นบิดากับพี่ชายของนางจ้องมองอยู่ข้างๆ หรือว่าพวกเขากลัวว่านางจะเหงาเลยตายเป็นเพื่อนนาง" ท่านพ่อ พี่ใหญ่ นี่พวกท่านก็ตายเหมือนกันรึ"" หือตายอะไรกัน พวกข้ายังไม่ตาย เจ้าก็ด้วย"อันซูหลุนประคองนางลุกขึ้น" ท่านพ่อใช้เกล็ดปลาชุบชีวิตเจ้า"" เกล็ดปลาอะไรเจ้าคะ"" ไม่รู้เหมือนกัน แต่เป็นของแม่เจ้า ตอนนั้นข้ากำลังจะพาเจ้ากลับไปที่แคว้นเยี่ยน ตอนกลางคืนข้าฝันเห็นแม่ของเจ้ามาหา นำเกล็ดปลามาให้"อันซูหลุนนึกถึงความฝันเมื่อคืนก่อน ภรรยาของเขาที่จากไป นางเดินขึ้นมาจากในน้ำ ส่งยิ้มบางๆให้เขา แล้วเข้าไปนั่งลงข้างๆอันชิงเหมย ลูบหัวของนางอย่างอ่อนโยน ก่อนจะแบมือออกมา มีแสงสีทองสว่างวาบ พอแสงนั้นหายไปก็มีเกล็ดปลาอยู่บนมือของนาง นางยื่นเกล็ดปลาให้เขา " สิ่งนี้จะช่วยลูกของเราได้ "แล้วเขาก็สะดุ้งตื่นขึ้นมา ก็พบว่ามีเ
อันซูหลุนเดินเข้าไปคว้าแขนอันเฟยเทียน" นี่มันอะไรกัน เหตุใดน้องสาวเจ้ากับองค์ชายเหลียวนั่น"มู่เฉิงฮ่องเต้มองดูเหตุการณ์แล้วพยักหน้า นั่นมันนางทาสคนนั้นนี่ คนที่ทำให้อวิ๋นชางหลงใหล นางเป็นทั้งบุตรสาวและน้องสาวของแม่ทัพแคว้นเยี่ยน ยังเคยเป็นชายาของสวี่หานอีก หึหึ เขารู้เรื่องนี้ตั้งแต่ตอนที่นางหนีไปจากวังหลวงครั้งนั้นแล้ว เข่อเล่อเล่าให้เขาฟัง ในเมื่อนางเป็นคนสำคัญของแม่ทัพทั้งสาม ถ้าอย่างงั้นก็มู่เฉิงคว้าดาบจากทหารคนหนึ่งวิ่งเข้าไปเขวี้ยงดาบพุ่งตรงไปที่กลางหลังของอันชิงเหมย สวี่หานเห็นดาบที่ลอยมาก็รีบลุกขึ้นด้วยความยากลำบาก จะวิ่งไปปัดดาบออก อันเฟยเทียนกับอันซูหลุนก็วิ่งเข้าไปจะปัดดาบออกเช่นกันแต่ช้าไป" ไม่ " " ไม่" "ไม่"ฉึก ดาบแทงทะลุกลางหลังอันชิงเหมย นางล้มลงซบอวิ๋นชาง" เหมยเอ๋อ เหมยเอ๋อ "อันเฟยเทียนแย่งอันชิงเหมยมาจากอวิ๋นชาง อวิ๋นชางที่ประคองตัวเองไม่อยู่ก็ล้มลง แต่ยังตะเกียกตะกายไปจับมืออันชิงเหมย" อะ องค์ชาย"เห็นทั้งสองเอื้อมมือหากัน อันเฟยเทียนรำคาญทนดูไม่ได้ จึงจับมืออันชิงเหมยไปใส่มืออวิ๋นชาง" เหมยเอ๋อ "สวี่หานที่ล้มลุกคลุกคลาน ก็นอนคว่ำเอื้อมมือไขว่คว้านางเช่นกัน
" คุณหนูมีข่าวการศึกขอรับ"เหอซานกับฮ่าวหยูเดินเข้ามารายงาน" ในเวลานี้ทัพเยี่ยนสามารถตีเอาเมืองทั้ง6คืนได้แล้ว พวกทัพเหลียวถูกขับไล่ออกจากแคว้นเยี่ยนแล้วขอรับ"" งั้นก็หมายความว่าสงครามจะจบแล้วใช่หรือไม่เจ้าคะคุณหนู แบบนี้คุณหนูก็จะได้พบบิดากับพี่ชายของคุณหนูแล้ว"" เจ้าก็จะได้เจอกุนซือหม่าด้วยใช่ไหมหล่ะ"" เหอซานอย่ามาทำเป็นรู้ดี "" เหอะ ข้าพูดถูกหล่ะสิ"" แต่ข้าคิดว่าศึกครั้งนี้ไม่น่าจะจบลงง่ายๆ"" อืม ข้าก็คิดแบบเดียวกับฮ่าวหยู"และสิ่งที่นางคิดก็เป็นจริง ฮ่องเต้มีคำสั่งให้ตีเเคว้นเหลียวยึดเป็นเมืองขึ้น ทัพเยี่ยนที่นำโดยแม่ทัพทั้ง6 เข้าล้อมแคว้นเหลียวตีเมืองต่างๆของแคว้นเหลียวมาได้หลายเมืองสงครามกินเวลายืดเยื้อมาครึ่งปี แม้ทัพเยี่ยนจะยึดเมืองต่างๆของแคว้นเหลียวมาได้มากกว่าครึ่ง แต่ก็ยังไม่สามารถตีเมืองที่เหลือได้ สวี่หานนำทัพล้อมเมืองหลวงเอาไว้อยู่หลายเดือนก็ยังไม่สามารถตีฝ่าเข้าไปถึงตัวเมืองได้ ในเวลากลางคืนป่าเขาเต็มไปด้วยฝูงหมาป่า มีทหารหลายคนถูกพวกมันรุมกัด เป็นอุปสรรคสำหรับการรบในเวลากลางคืน สวี่หานจึงเรียกแม่ทัพทั้ง6รวมตัวหารือวางแผน และเตรียมบุกโจมตีพร้อมกันจากทุกด้าน ด้วย
ฝูกุ้ยอิงคุกเข่าโขกหัวยอมรับผิดต่อหน้าสวี่หาน ฝูหวั่นเห็นฮูหยินของตนทำแบบนั้นก็ไม่อาจทนเห็นนางต้องรับโทษคนเดียวได้จึงคุกเข่าลงข้างๆโขกหัวรับผิดด้วย" ท่านอ๋องโปรดอภัย เป็นความผิดของข้าที่ไม่ดูแลพวกเขาให้ดีทำให้ท่านต้องเดือดร้อน โปรดลงโทษข้าแทนเถอะ"ฝูชิงเย่วก็คุกเข่าอีกคน" ข้าเป็นคุณชายใหญ่ของจวนนี้ ความผิดครั้งนี้ข้าขอรับโทษแทนทุกคนเอง"เห็นทุกคนออกมารับผิดแทน ฝูซือฟานก็น้ำตาไหล ส่วนตงฟางได้แต่มองดูเฉยๆเอ้อเจินกระซิบถามฝูอวี้หนิว" เจ้าไม่ไปคุกเข่ากับพวกเขาเรอะ"" ไม่หล่ะ ข้าไม่ได้ทำอะไรผิดจะไปรับโทษแทนคนอื่นทำไม ใครทำก็รับไปเองสิ "" โอ้ "เอ้อหวังมองหน้าฝูอวี้หนิว ช่างมีความคิดแตกต่างจากคนอื่นในครอบครัวจริงๆ" พอแล้ว ท่านอ๋องยังไม่ได้พูดอะไรพวกท่านก็พากันขอรับโทษ"เฉาซื่อพูดขึ้นมาก่อนจะหันไปมองสวี่หาน ที่นั่งจิบชาสบายๆ ดูจากสายตาไม่ได้มีอารมณ์โกรธแต่อย่างใด" พวกเจ้าอยากรู้ไหมว่าทำไมยาปลุกกำหนัดถึงไม่ได้ผล"ทุกคนหันไปมองหน้าเฉาซื่อด้วยความอยากรู้" เพราะมันใช้กับท่านอ๋องไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นยาปลุกกำหนัดที่มีฤทธิ์แรงขนาดไหน หรือมนต์เสน่ห์เล่ห์กลก็ทำอะไรท่านอ๋องไม่ได้"" ทำไม"ตงฟางถ
" เฉาซื่อเจ้ามาก็ดีแล้ว ถึงท่านอ๋องจะเป็นนายของเจ้า แต่ฟางเอ๋อก็เป็นน้องสาวของเจ้า เจ้าต้องอยู่ข้างนางถึงจะถูก"" ฝูฮูหยินท่านพูดอะไร ข้าไม่เข้าใจ"" เมื่อคืนพอท่านอ๋องกลับมา ฟางเอ๋อก็ลงมือต้มน้ำซุปแก้เมาค้างด้วยตัวเองแล้วนำไปให้ท่านอ๋อง ข้าก็คิดว่านางนำไปให้แล้วกลับเรือน ใครจะรู้ว่าตอนเช้าข้าไปหานางกลับพบแต่สาวใช้ของนางสองคน พวกนางบอกว่าฟางเอ๋อยังไม่กลับมาจากเรือนตะวันออกตั้งแต่เมื่อคืน พวกนางก็ไปด้วยแต่ถูกท่านอ๋องไล่กลับมา ข้าก็เลยมาตามนางที่นี่และขอให้ทุกคนมาเป็นพยาน ว่าท่านอ๋องล่อลวงนาง"" ใครล่อลวงใครรึ"ทุกคนหันควับไปมอง เห็นสวี่หานเดินมาพร้อมเอ้อเจินก็พากันงง ฝูกุ้ยอิงตกใจละล่ำละลักถาม" ท่าน ท่านอ๋อง เหตุใดท่านมาอยู่ที่นี่"" เมื่อคืนท่านอ๋องไปนอนที่ห้องของข้า ข้ากับเฉาซื่อนอนอยู่ด้วยกันกับท่านอ๋องทั้งคืน"เอ้อเจินตอบ " เป็นไปไม่ได้ ท่านอ๋องอยู่นี่ แล้วใครอยู่ในนั้น"ฝูกุ้ยอิงส่ายหน้าไม่อยากเชื่อ ฝูซือฟานบอกว่ายาปลุกกำหนัดชนิดนี้แรงมาก เป็นไปไม่ได้ที่ใครจะต้านทานอยู่ ตงฟางก็ทรวดทรงยั่วยวนขนาดนั้น ถ้าเปลื้องผ้าออกต่อให้ไม่ต้องใช้ยาปลุกกำหนัดก็ต้องเกิดอารมณ์อยู่แล้ว เว้นแต่คนคน
" เหมยเอ๋อ"สวี่หานเอ่ยชื่อนางด้วยเสียงแผ่วเบา ไม่ใช่แค่หลายวันที่ผ่านมา แต่ตั้งที่นางจากเขาไป เขาพยายามคิดว่าเขาทำอะไรผิด นางถึงต้องทำกับเขาเช่นนี้" เจ้ายังโกรธข้าเรื่องหว่านลู่ซืออยู่เหรอ ข้าสาบานได้ว่าข้าไม่เคยเกินเลยกับนาง เพียงเห็นนางเป็นสหายคนหนึ่งเท่านั้น หรือว่า"ภาพในอดีตแว่บเข้ามา ตอนที่เขากำลังเป่ายาให้หายร้อนป้อนหว่านลู่ซือด้วยตัวเอง" เหมยเอ๋อ เจ้าโกรธที่ตอนนั้นข้าป้อนยาให้นางใช่ไหม ตอนนั้นข้าไม่ได้คิดอะไร เห็นว่านางอ่อนแรง หมอหญิงคนอื่นก็ไม่ว่าง ข้าก็เลย""เรื่องผ่านมาตั้งนานแล้วข้าลืมไปหมดแล้วและข้าก็ไม่ได้โกรธ มือของท่านปากของท่านจะเป่ายาหรือจะป้อนใครมันก็สิทธิ์ของท่าน"" ไม่ เหมยเอ๋อ เจ้ามีสิทธิ์โกรธข้า ข้าผิดเองข้ารู้ว่าข้าผิด ข้าไม่ควรดูแลหญิงอื่น ข้าไม่ควรดูแลนาง ไม่ควรป้อนยานาง "อันชิงเหมยลุกเดินหนี ไม่อยากฟังเขาพูดอีกเรื่องผ่านมานานเป็นปีแล้ว นางไม่รู้สึกอะไรแล้ว สวี่หานตามไปคว้าแขนนางแต่นางสะบัดออก" ท่านอ๋อง ข้ากับท่านไม่ได้เกี่ยวข้องกันแล้ว อยู่ให้ห่างๆจากข้าหน่อย"" ไม่ว่าเจ้าจะพูดยังไงสำหรับข้าเจ้ายังภรรยาของข้าอยู่ ในชีวิตนี้ข้าจะมีเจ้าเป็นภรรยาแค่คนเดีย