LOGIN-โรงเรียนนานาชาติ-
“ป๊า…” ดาวศุกร์ที่อยู่ในชุดยูนิฟอร์มกระโปรงลายสก็อต รีบวิ่งเข้ามากอดป๊าของเธอไว้แน่นด้วยความดีใจ
หน้าที่รับส่งเด็กหญิงไปโรงเรียนในทุกๆ วันเลยตกเป็นของบุรินทร์ภัทรไปโดยปริยาย
“แต่งตัวซะหล่อเชียวนะ จะพาลูกไปเที่ยวไหน” ดาวศุกร์ยืนเท้าเอวหรี่สายตามองคนตรงหน้าอย่างจับผิด ปกติก็หล่ออยู่แล้ว แต่วันนี้ป๊าแฟรงก์ดูหล่อกว่าทุกวัน
“มารับศุกร์นั่นแหละ”
“วันนี้จุ๊บลูกหรือยัง”
“ศุกร์นั่นแหละมาจุ๊บป๊าก่อน”
ร่างสูงย่อตัวนั่งลงให้อยู่ในระดับเดียวกับหลานสาว ก่อนจะเอียงแก้มให้หอมเหมือนทุกวัน
“คุณครูคนนั้นต้องชอบป๊าแน่เลย ศุกร์เห็นเขาชอบแอบมองป๊าอยู่บ่อยๆ”
“…..” แฟรงก์ไม่ได้ตอบคำถามของหลานสาว ยกยิ้มมุมปากทักทายคุณครูอนุบาลคนสวยที่เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันมาก่อน
แต่มันก็เป็นแค่ระยะเวลาสั้นๆ ก่อนที่เขาจะเป็นฝ่ายตีตัวออกห่างขอจบความสัมพันธ์
“วันนี้ศุกร์อยากกินติม พาไปกินติมหน่อยได้มั้ย”
“กินทุกวันไม่เบื่อหรือไง”
“เมื่อวานกินช็อกโกแลต แต่วันนี้จะกินวานิลลา”
“ตามใจ แต่ห้ามบอกไอ้แว่นนะ เดี๋ยวเราสองคนจะโดนดุ”
“ศุกร์รู้งาน ไม่บอกอยู่แล้ว คิคิ” เด็กน้อยยกมือขึ้นปิดปากหัวเราะชอบใจอย่างมีจริต ก่อนที่ป๊าจะจูงมือให้เดินมาขึ้นรถที่จอดอยู่
สายตาเหลือบไปเห็นใครอีกคนที่นั่งรออยู่ก่อนหน้านั้น
“แล้วคนนี้ใครอ่ะป๊า?”
ชี้นิ้วไปทางลิชาที่นั่งอยู่เบาะด้านหน้า สีหน้าและท่าทางสดใสก่อนหน้านั้นค่อยๆ เปลี่ยนไป
“คนของป๊าเอง”
“คนของป๊าคือแบบไหน ศุกร์เห็นเปลี่ยนสาวทุกอาทิตย์เลยนะ” เคยเห็นลิชาคนเดียวที่ไหน ก่อนหน้านั้นมีสาวสวยที่มากับป๊าตั้งหลายคน
“เป็นเด็กเป็นเล็กไม่ต้องพูดมากนะศุกร์”
“หนูชื่อดาวศุกร์เป็นลูกป๊าแฟรงก์นะ แล้วพี่ชื่ออะไร”
“พี่ชื่อลิชาค่ะ”
“เป็นแฟนป๊าแฟรงก์เหรอ”
“ไม่ใช่ค่ะ”
“ไม่ใช่แฟนแล้วเป็นอะไร ทำไมถึงมาอยู่กับป๊าหนูได้” หันไปถามชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงเอาเรื่อง
เป็นเพราะไม่อยากให้ป๊ามีแฟนแถมยังหวงป๊ามากกว่าใคร ถ้าเธอบอกว่าไม่ชอบคนไหน ป๊าก็จะไม่พามาให้เห็นหน้าอีก
“เขาเป็นแค่พนักงานที่ร้านของป๊าเอง”
“…..”
ลิชานั่งนิ่งเมื่อรู้สึกได้ว่าดาวศุกร์ดูไม่ค่อยเป็นมิตรกับเธอสักเท่าไหร่
“น้องศุกร์กินขนมมั้ยคะ เดี๋ยวพี่แบ่งให้”
“เอ๊ะ…มันคือขนมอะไรคะ ไม่เห็นจะน่ากินเลย” ใบหน้าจิ้มลิ้มเอียงมองด้วยความสงสัย ขนมอะไรหน้าตาประหลาดแถมยังดูพิลึกไม่เหมือนที่เคยกิน
“เขาเรียกว่าขนมครกค่ะ น้องศุกร์เคยกินไหมคะ”
“เอาครกมาทำขนมได้ด้วยเหรอคะ”
“ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ มันทำมาจากแป้งและกะทิ”
“งั้นขอลองชิมหน่อย” หยิบขนมที่ลิชายื่นให้แล้วกินอย่างพิจารณา โดยมีสายตาของแฟรงก์ที่คอยมองสังเกตอยู่ไม่ห่าง
“อร่อยไหมคะ”
“อร่อยดี ไม่เคยกินมาก่อนเลยค่ะ”
“ถ้าอร่อยก็กินเยอะๆ เลยค่ะ พี่ยกให้ทั้งหมดเลย” ลิชาคลี่ยิ้มบางเมื่อรู้ว่าดาวศุกร์เริ่มไว้ใจเธอขึ้นบ้างแล้ว
“…..”
“แล้วเรื่องงานที่หนูขอให้เฮียช่วย…”
แฟรงก์หยุดนิ่งไปชั่วขณะ เหลือบสายตามองหลานสาวที่นอนหลับสนิทผ่านกระจกหลัง เมื่อแน่ใจว่าดาวศุกร์จะไม่รับรู้เรื่องราวพวกนี้จึงตัดสินใจพูดมันออกมา
“อยากได้งานจากฉันขนาดนั้น”
“ถ้าได้ก็ดีค่ะ ชาอยากช่วยที่บ้านแบ่งเบาภาระ”
“งานที่ว่าคือนอนกับฉัน เธอยังอยากจะทำอยู่มั้ย”
“…..” ดวงตากลมโตฉายแววร้อนรนเมื่อชายหนุ่มพูดจบประโยค ไม่คาดคิดมาก่อนว่างานที่ฟ้าใสบอกจะเป็นแบบนี้
“เรียกมาสิจะเอาเท่าไหร่”
“เฮียหมายถึงอะไร?”
“ค่าตัวเธอไง จะเอาเท่าไหร่”
“…..”
“อยากทำงานเหมือนเพื่อนไม่ใช่เหรอ”
“เฮียจะบอกว่าฟ้าใสขาย…” เกิดเป็นความรู้สึกกระอักกระอ่วนอยู่ภายในใจ
“ก็ประมาณนั้น…แต่สบายใจได้ว่าฉันไม่เคยนอนกับเพื่อนเธอ ยัยนั่นไม่มีสิ่งที่ฉันต้องการ”
“แต่นะ…หนูไม่ได้ขายตัวนะ”
“แล้วฉันบอกตอนไหนว่าจะให้เธอไปขายตัว”
“…..”
“เพื่อนเธอนอนกับผู้ชายไปทั่ว ส่วนเธอต้องนอนกับฉันแค่คนเดียว จะเรียกว่าขายตัวได้ยังไง”
“…..”
“เธอเสียตัวให้ฉัน ฉันจ่ายเงินให้เธอ ถือว่าแฟร์กันทั้งคู่”
“…..”
“สนุกดีนะ เธออยากลองกับฉันดูไหมล่ะ”
“…..”
“ให้เวลาไปคิดทบทวน ถ้าตัดสินใจได้เมื่อไหร่ค่อยมาบอกฉัน” เลื่อนฝ่ามือเข้าไปบีบปลายคางมนให้หันหน้ากลับมาสบตา เคลื่อนใบหน้าเข้าใกล้ จูบที่ปากเล็กเบาๆ “แต่อย่าคิดนานนักล่ะ ก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจ”
FAHKIN PART บรี๊น…เสียงมอเตอร์ไซค์คันเก่าท่อดังบิดคันเร่งสนั่นจนควันขโมงไปทั่วบริเวณ เจ๊ติ๋มชะเง้อคอมองตามคอยสอดส่อง ในถือตะหลิวเตรียมจะเขวี้ยงใส่ไอ้พวกเด็กแว๊นที่ชอบมาเบิ้ลรถแถวนี้ เสียงท่อดังจนหมาข้างบ้านตกใจเห่าร้องประสานกันระงมสร้างความรำคาญใจให้แก่คนที่อยู่แถวนั้น “ขับรถรีบไปตายที่ไหนวะ ไอ้ลูกพ่อแม่ไม่…” “พ่อกับแม่ผมไปดีแล้วป้า ทิ้งลูกเต้าไว้ให้คนอื่นเลี้ยง” แต่พูดยังไม่ทันจบประโยคเสียงที่คุ้นเคยทำให้รู้ได้ทันทีว่าเป็นใคร “ที่แท้เป็นฟาคินนี่เอง ป้าก็นึกว่าใคร” ฟาคินขับรถมอเตอร์ไซค์คันเก่าคู่ใจมาหาจีบสาวที่แอบชอบมานาน “พี่รี่อยู่ไหม” “นังรี่มันอยู่ในครัว เดี๋ยวป้าไปตามมันให้” จากขุ่นเคืองแปรเปลี่ยนเป็นอารมณ์ดีหลังจากเห็นลูกชายมหาเศรษฐีมาตามจีบลูกสาวทุกวี่ทุกวัน “รีบไปรีบมาเลยนะ ฝากบอกลูกสาวป้าด้วยว่าผมคิดถึง” ตึกตัก เสียงหัวใจของชายหนุ่มเต้นแรงทุกครั้งยามได้เห็นหน้า หมาเด็กกับพี่คนสวยน่าจะเป็นฉายาที่เหมาะสมกับเขาที่สุด “มีอะไรหรือเปล่า” “ไปนั่งรถเ
4ปีผ่านไปPHARAOH PART “เฮียเป็นไร ทำไมไม่ยอมคุยกับน่าน” น่านฟ้าที่อยู่ในอาการมึนเมา หยุดยืนอยู่ที่ปลายเตียงด้วยท่าทางโอนเอนทรงตัวแทบไม่ไหว จ้องมองชายหนุ่มที่นอนคลุมโปงส่งเสียงสะอึกสะอื้น “ไม่ต้องมายุ่ง ออกไปให้พ้น” “งอนอะไรอีก” “ไม่ต้องมายุ่ง อยากอยู่คนเดียว” เพราะเธอออกไปพบปะสังสรรค์กับเพื่อนร่วมรุ่นเลยกลับบ้านช้าผิดเวลาไปนิดหน่อย “น่านบอกแล้วไงว่ามินนี่เป็นแค่รุ่นน้อง ไม่ได้มีอะไรกันสักหน่อย” “ถ้าไม่มีอะไรแล้วไปกินข้าวด้วยกันทำไม ฉันโทรหาก็ไม่ยอมรับสาย ส่งข้อความไปก็ไม่ตอบ” “ก็แบตมันหมด น่านเคยบอกไปแล้ว ทำไมถึงไม่เชื่อกันบ้าง” “คนเจ้าชู้แบบเธอมันไว้ใจไม่ได้ ไม่ต้องมาให้ฉันเห็นหน้าอีก เราเลิกกัน!” คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันอย่างงุนงงพลางถอนหายใจหนักๆ “พองอนทีไรบอกเลิกน่านตลอดเลย” “…..” “ถ้าน่านไปจริงอย่ามาง้อแล้วกัน” น่านฟ้าแสร้งพูดขึ้นเสียงดัง จงใจให้แฟนหนุ่มได้ยิน แล้วมันก็ได้ผลเป็นอย่างดีเมื่อคนตัวโตหยุดการเคลื่อนไหวราวกับรอฟังว่าจะเกิดอะไรขึ้นต
หลายวันต่อมา ร่างสูงคมคายของบุรินทร์ทอดสายตามองผืนน้ำทะเลกว้างใหญ่ที่ไกลจนสุดสายตา แสงท้องฟ้ากลายเป็นสีทองอร่ามในขณะที่พระอาทิตย์กำลังจะลาลับขอบฟ้าเมื่อถึงเวลาของมัน สายลมและเสียงเกลียวคลื่นที่ดังกระทบเข้าฝั่งให้ความรู้สึกสงบทุกครั้งที่ได้ยิน “มี่ตามหาตั้งนาน หลบมายืนอยู่ตรงนี้นี่เอง” เดมี่เดินเข้าไปสวมกอดสามีจากทางด้านหลัง ภาพเบื้องหน้ามีลูกทั้งห้าคนที่กำลังส่งรอยยิ้มพูดคุยอย่างสนุกสนาน “ดูพวกเขาเล่นกัน” ฟาคินนั่งก่อประสาททรายโดยมีฟรังค์และฟาโรห์นอนอาบแดดอยู่ข้างกัน ส่วนฟรานเป็นคนขับเจสกีมีฟาเรนนั่งซ้อนท้ายส่งเสียงกรี๊ดดังลั่นไปทั่วบริเวณ “มี่ไม่เคยเห็นพวกเขามีความสุขขนาดนี้มาก่อนเลย” “แล้วเธอมีความสุขไหม” “ความสุขของมี่ก็คือแด๊ดดี้ไง” “ฉันคงเป็นพ่อที่แย่ ขอโทษที่ไม่มีเวลาให้เธอกับลูก” ถึงแม้จะมีเงินมากมายแต่สิ่งที่ซื้อไม่ได้ก็คือเวลา บุรินทร์ใช้เวลาทุ่มเทให้กับธุรกิจของตัวเอง เขาทำงานอย่างหนักก่อนจะวางมือเพื่อให้ลูกได้ดูแลสืบสานต่อ “มี่รู้ว่าแด๊ดดี้ทำเพื่อพวกเรา มี
แกร๊ก…บานประตูห้องนอนถูกเปิดออกในยามวิกาล ดวงตาคู่สวยทอดสายตามองแผ่นหลังกว้างเปลือยเปล่าของสามี ริมฝีปากสีคล้ำคาบมวนบุหรี่พ่นควันจนลอยคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ “ดึกแล้วนะ ทำไมยังไม่นอน” ร่างเล็กเดินเข้าไปหาด้วยความระมัดระวัง วางใบหน้าสะสวยซบลงบนแผ่นหลังกว้างของสามีที่เต็มไปด้วยรอยสักน่าเกรงขาม บุรินทร์หันกลับมาเผชิญหน้า ก้มลงมองภรรยาคนสวยที่มีความสูงแค่ระดับแผงอกของเขาเพียงเท่านั้น “ลูกหลับแล้วเหรอ” “มี่ส่งเข้านอนครบทุกคนแล้วค่ะ” “แล้วฟาคินเป็นยังไงบ้าง ไม่สบายดีขึ้นหรือยัง” “อาการดีขึ้นแล้วค่ะ คงเป็นเพราะได้ยาดีจากแด๊ดดี้แน่เลย” “ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว เด็กนั่นกลัวเข็มจะตายไป” บุรินทร์หัวเราะเบาๆ ในลำคอ ใช้ฝ่ามือหนาบีบเข้าที่ปลายคางของคนตัวเล็กให้เงยหน้าขึ้นมาสบตาแล้วบรรจงจูบที่ริมฝีปากอิ่มสวยเบาๆ “วันนี้เด็กดีสวยมาก สวยทุกวันเลยรู้มั้ย” “แด๊ดดี้ก็หล่อมากเหมือนกัน หล่อที่สุดในสายตามี่เลยรู้มั้ย” “ต้องการอะไรแค่พูดมา จะให้ทุกอย่าง” “อาทิตย์หน้าเราพาลูกๆ ไปเที่ยวเกาะกันดีไหมค
หลายเดือนผ่านไป พลั่ก! ตุบ! ตุบ! เสียงหมัดหนักๆ กระแทกเข้ากับกระสอบทรายอย่างบ้าคลั่ง สายตาเรียบนิ่งของเด็กชายจ้องแน่วแน่ไปที่เป้าหมายไม่มีวอกแวก ก่อนที่จะกระแทกหมัดหนักๆ ตรงไปยังพี่เลี้ยงที่เป็นผู้ฝึกซ้อม “ลูกชายคนเล็กของเสี่ยหน่วยก้านดีนะ ผมว่าอนาคตได้เป็นดาวรุ่งแน่นอน” บุรินทร์นั่งมองภาพฝึกซ้อมผ่านจอมอนิเตอร์ในห้องทำงาน ฟาคินมีใจรักทางด้านศิลปะการต่อสู้ ซึ่งเขาเองก็ไม่ได้ห้ามอีกทั้งยังสนับสนุนหาพี่เลี้ยงระดับมือโปรมาฝึกให้ “เดือนหน้ามีเดิมพันใหญ่ ถ้าเสี่ยตกลงบอกผมได้เลย” “ถ้าชนะแล้วได้อะไร” “เดิมพันด้วยชีวิตและท่าเรือ” “…..” บุรินทร์หลับตาลงพลางใช้ความคิดหลังจากได้ยินข้อเสนอที่แสนยั่วยวน ท่าเรือเดิมพันมีมูลค่ามหาศาล ถ้าได้มันมาคงจะต่อยอดธุรกิจของเขาได้ไม่น้อย “เสี่ยอยากได้ท่าเรือของไอ้ปีเตอร์มานานแล้วไม่ใช่เหรอ ลองเสี่ยงดูสักตั้งจะเป็นอะไรไป” “ข้อเสนอถือว่าไม่เลว” “ยิ้มแบบนี้แปลว่าตกลงใช่ไหม” “ตามนั้น” “แล้วรอบนี้เสี่ยจะส่งใครขึ้นชก ผมจะได้เตรีย
“วันนี้ตัวทำเมนูอะไรมาบ้าง” ฟาโรห์ตื่นนอนตั้งแต่เช้าตรู่ ลุกขึ้นมาทำอาหารเพื่อใส่บาตรในวันนี้ เขาสวมชุดนอนสีชมพูสดใสพร้อมกับที่มาร์คหน้าเห็นเพียงดวงตาและริมฝีปากเหมือนอย่างเคย “วันนี้มีแซนด์วิชแซลมอนรมควันท็อปด้วยไข่ปลาคาเวียร์ให้หลวงตาแบบฉ่ำๆ มีอูนินำเข้าเกรดพรีเมี่ยมด้วยนะ และก็มีกุ้งล็อบสเตอร์อบชีส” เรื่องงานบ้านงานเรือนถือได้ว่าไม่เป็นที่สองรองใคร ทำได้หมดทั้งอาหารคาวหวาน ใครที่ได้เป็นผัวมีหวังโชคดียิ่งกว่าถูกลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่ง “น้ำแร่บริสุทธิ์จากเทือกเขาประเทศสวิตส่วนผลไม้ส่งตรงจากออสเตรเลีย” “แค่ใส่บาตร มันต้องขนาดนี้เลยเหรอตัว” “แบบนี้ดีที่สุด ถ้าตายเราจะได้ไปสวรรค์” “…..” “นั่นไงหลวงตามาแล้ว” ฟรานยิ้มกว้างยกมือขึ้นไหว้อย่างนอบน้อม มองไปทางหลวงตาและสามเณรฟาเรนที่เดินตามหลังกันเป็นขบวน อีกทั้งยังมีฟาคินคอยเป็นเด็กวัดสะพายย่ามถือข้าวของพะรุงพะรังเต็มสองมือ ตั้งแต่น้องชายอาการดีขึ้น ปู่ก็เลยบังคับให้บวชเณรเพื่อต่อชะตาชีวิต ฟาเรนไม่มีทางเลือกจึงต้องยอมจำนนเข้าพิธีบวชเณ







