로그인“เฮียจะไปไหนคะ” ลิชาได้แต่นั่งมองแผ่นหลังของบุรินทร์ภัทร ขณะที่เขากำลังยืนแต่งตัวอยู่หน้ากระจก
ทรงผมถูกจัดทรงรับกับใบหน้าคมคาย สวมเสื้อยืดแบรนด์เนมและกางเกงยีนตัวโปรดที่ชอบใส่อยู่เป็นประจำ
“จะออกไปข้างนอก”
“แล้วชาล่ะคะ”
“รออยู่ที่นี่ เดี๋ยวฉันกลับมา”
“ให้หนูไปด้วยได้ไหม” ลิชาพึมพำเสียงเบา ก่อนจะเดินเข้าไปเกาะแขนชายหนุ่มไว้แน่นอย่างเว้าวอน
“จะไปทำไมให้เกะกะ”
“หนูไม่อยากอยู่คนเดียว” วาดสายตามองไปบริเวณรอบห้องด้วยความไม่คุ้นชิน
“ฉันสั่งให้รอก็ต้องรอ อย่าทำตัวมีปัญหา”
“ได้ค่ะ…” คนตัวเล็กพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย ไม่ว่าเขาจะพูดหรือบอกอะไรก็เชื่อฟังไปซะทุกอย่าง
“เป็นเด็กดีของฉัน แล้วเธอจะได้ทุกอย่าง”
“ชาจะเป็นเด็กดีของเฮีย”
ใบหน้าน้อยๆ หลับตาพริ้มยามที่ชายหนุ่มโน้มริมฝีปากลงมาประกบจูบเบาๆ อย่างนิ่มนวล
สำหรับคนที่แอบรักมานานแสนนาน ได้แค่นี้ก็ดีใจมากแล้ว…
-ห้างสรรพสินค้า-
“พอยังไอ้หมวย เดินจนขาแทบลากแล้วนะเว้ย”
หมวยเฟย์หันขวับไปมองพี่ชายที่เอาแต่ส่งเสียงบ่นงุบงิบมาตลอดทั้งทาง
หญิงสาวถอดแว่นกันแดดออกจากใบหน้า หรี่สายตามองอย่างนึกรำคาญ ก็แค่เดินช๊อปปิ้งไปสามชั่วโมงกว่าจะบ่นอะไรนักหนา
เฮียแฟรงก์ขี้บ่นเหมือนเจ๊ปาลินไม่มีผิด ส่วนเฮียฟรินพูดน้อยเพราะวันๆ เอาแต่บอกรักเมีย ลูกเต้าไม่ค่อยสนใจ
“ขอเลือกเสื้อผ้าอีกหน่อยแล้วกัน” ดึงแขนพี่ชายให้เดินตามเข้ามาร้าน นานทีปีหนจะได้ออกมาเที่ยวด้วยกัน เลยจัดหนักจัดเต็มข้าวของพะรุงพะรังเต็มสองมือ
“ให้เวลาอีกครึ่งชั่วโมง เฮียมีธุระต้องไปทำต่อ”
“โอเครับทราบ เอาบัตรเฮียมาด้วย”
“เงินเดือนตัวเองก็มี ยังจะมาขอเงินคนอื่นอยู่ได้”
“คนอื่นที่ไหน เฮียเป็นพี่ชายหมวยนะ ทีกับสาวไม่เห็นจะบ่นสักคำ”
“…..” ถอนหายใจลากยาว ปรายหางตามองหน้าน้องสาวแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะเดี๋ยวมันโทรไปบอกป๋าจึงรีบยื่นบัตรเครดิตให้แบบจำใจ
รูดสะบัดหมดไปเป็นล้านภายในสิบนาที จะมีใครทำได้นอกจากไอ้หมวยเฟย์คนนี้
ไอ้หมวยมันลูกรักของพ่อ สองพ่อลูกเขาโอ๋กันยิ่งกว่าอะไร ส่วนเขากับไอ้แฝดเหมือนลูกบุญธรรมที่โดนเสี่ยบดินทร์เก็บมาเลี้ยงก็ไม่ต่าง
“เฮียฟรินก็ทิ้งหมวยไปแล้ว เฮียแฟรงก์จะทิ้งหมวยด้วยอีกคนเหรอ”
“ทิ้งบ้าทิ้งบออะไร ไม่ต้องมามองเฮียแบบนั้น”
“ไม่รู้สิทำไมช่วงนี้ชอบหายหน้าหายตาหรือว่าไปติดสาวที่ไหนซะอีก” ตีหน้าเศร้าดึงดราม่า เพราะรู้ว่าเฮียแฟรงก์แพ้น้ำตาผู้หญิง พี่ชายคนโตชอบคนขี้อ้อนทำตัวเชื่องๆ แต่ถ้าเป็นเฮียฟรินบอกเลยว่าไม่ได้ผล เพราะรายนั้นใจอ่อนยอมให้เมียคนเดียว
“เพ้อเจ้อ”
“ชุดนั้นสวยมั้ย เข้ากับหมวยหรือเปล่า”
“ก็น่ารักดี” แฟรงก์ไม่ได้มองชุดที่น้องสาวบอก แต่มองอีกชุดที่อยู่ข้างกัน สีชมพูพาสเทลหวานแหวว เห็นแล้วนึกถึงหน้าใครบางคน “เลือกชุดสวยๆ ให้เฮียหน่อย เอาแบบไม่สั้น ไม่บาง ห้ามโป๊!”
กำชับเสียงหนัก เพราะเฟย์วาชอบแต่งตัวโป๊เปิดตรงนั้นแหวกตรงนี้ แต่งหน้าทำผมอลังการเหมือนจะไปงานประกาศรางวัลอยู่ตลอดเวลา นิสัยแบบนี้ไม่ต้องบอกว่ามาจากใคร ได้มาจากเจ๊ปาลินคนเดียว
หมวยเฟย์หรี่สายตามองหน้าพี่ชายอย่างจับผิด ไม่คิดว่าคำพูดเหล่านี้จะออกมาจากปากพ่อหนุ่มเพลย์บอย มันดูไม่ใช่เฮียแฟรงก์ของเธอเลยสักนิด
หน้าฟีดเฟซบุ๊กและในอินสตาแกรมของพี่ชายเห็นมีแต่สาวสวยนมใหญ่นุ่งบิกินี่ แล้วอยู่ดีๆ จะมาทำตัวเป็นเสือจำศีล บอกเลยว่าไม่น่าไว้ใจ
“จะซื้อไปให้ใคร”
“ซื้อมาใส่เองมั้ง”
“เฮียแฟรงก์อย่ากวนตีนนะ”
“จะซื้อให้ใครไม่ต้องอยากรู้หรอก รีบไปเลือกมา เอาสักสี่ห้าชุด”
“ปกติเห็นชอบมองสาวแต่งตัวโป๊ๆ เดี๋ยวนี้เปลี่ยนรสนิยมแล้วหรือไง”
“เออน่า!” บอกปัดอย่างนึกรำคาญ ถ้าเลือกเองเป็น คงไม่รบกวนให้ถูกสงสัยอยู่แบบนี้
“เอาไซซ์ไหน?”
“ตัวเล็กกว่าหมวยนิดหน่อย”
“ถ้างั้นต้องไซซ์XS ทำไมแฟนเฮียตัวเล็กจัง”
“อุ้มง่ายดี”
“ฮั่นแน่…ยอมรับแล้วสิ ว่ามีแฟนแล้วอ่ะ” หรี่สายตามอง ยกมือขึ้นปิดปากหัวเราะอย่างมีจริต รู้สึกชนะที่ทำให้พี่ชายคนนี้เสียอาการ แน่นอนว่าคนที่ถูกจับได้ถึงกลับทำสีหน้าเลิ่กลั่ก
“มาฟง มาแฟนอะไร ไม่ใช่สักหน่อย”
“แล้วทำไมหูแดงอ่ะ ถ้าเป็นแบบนี้แสดงว่าต้องเขินแน่ๆ”
แฟรงก์ถอนหายใจหนัก ยกมือขึ้นลูบหน้าเพื่อตั้งสติ แล้วทำไมจู่ๆ ต้องคิดเห็นภาพเด็กนั่นด้วยวะ!
บัดซบ!
แกร๊ก…บานประตูห้องถูกเปิดออก ลิชารีบดีดตัวลุกขึ้นอย่างเร็วก่อนจะวิ่งไปหาบุรินทร์ภัทรด้วยท่าทางดีใจหลังจากที่ถูกเขาปล่อยให้รออยู่ภายในห้องคนเดียวมาตลอดทั้งวัน
“เฮียแฟรงก์” ประคองชายหนุ่มที่เดินโซซัดโซเซให้กลับมานั่งบนโซฟา กลิ่นแอลกอฮอล์ลอยคละคลุ้งพ่นผ่านทางลมหายใจ บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเค้าคงดื่มหนักมาก่อนหน้านั้น
“ดึกมากแล้ว ทำไมถึงยังไม่นอน” ดวงตาคมมองสำรวจหญิงสาวตั้งแต่หัวจรดเท้า ลิชาสวมใส่เพียงเสื้อยืดตัวโคร่งกับกางเกงขาสั้นที่เขาเตรียมไว้ให้
“ชารอเฮียอยู่ค่ะ”
“ฉันซื้อของมาให้ เอาไปดูสิว่าชอบมั้ย”
“เฮียซื้อให้หนูทั้งหมดเลยหรอ” ลิชาทวนถามด้วยความไม่มั่นใจ หลังจากที่บุรินทร์ภัทรยื่นถุงเสื้อผ้าแบรนด์เนมมากมายให้กับเธอ
“ของเธอทั้งหมด คราวหลังจะได้ไม่ต้องเอาเสื้อผ้าฉันไปใส่ ฉันไม่ชอบใช้ของร่วมกับใคร”
“…..” รอยยิ้มบางปรากฏขึ้นใบหน้าจิ้มลิ้ม รีบก้มมองข้าวของที่อยู่ในมือราวกับเด็กน้อยได้ของเล่นใหม่ นานแค่ไหนแล้วที่ลิชาไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้าดีๆ แบบนี้
“มัวแต่ยิ้มอยู่นั่นแหละ ทำเหมือนไม่เคยได้”
“ของที่เฮียซื้อให้หนูชอบทั้งหมดเลย ขอบคุณที่ใจดีกับหนูนะ”
“ก็ไม่ทำไม แค่เห็นสภาพเธอแล้วสงสาร”
“…..”
FAHKIN PART บรี๊น…เสียงมอเตอร์ไซค์คันเก่าท่อดังบิดคันเร่งสนั่นจนควันขโมงไปทั่วบริเวณ เจ๊ติ๋มชะเง้อคอมองตามคอยสอดส่อง ในถือตะหลิวเตรียมจะเขวี้ยงใส่ไอ้พวกเด็กแว๊นที่ชอบมาเบิ้ลรถแถวนี้ เสียงท่อดังจนหมาข้างบ้านตกใจเห่าร้องประสานกันระงมสร้างความรำคาญใจให้แก่คนที่อยู่แถวนั้น “ขับรถรีบไปตายที่ไหนวะ ไอ้ลูกพ่อแม่ไม่…” “พ่อกับแม่ผมไปดีแล้วป้า ทิ้งลูกเต้าไว้ให้คนอื่นเลี้ยง” แต่พูดยังไม่ทันจบประโยคเสียงที่คุ้นเคยทำให้รู้ได้ทันทีว่าเป็นใคร “ที่แท้เป็นฟาคินนี่เอง ป้าก็นึกว่าใคร” ฟาคินขับรถมอเตอร์ไซค์คันเก่าคู่ใจมาหาจีบสาวที่แอบชอบมานาน “พี่รี่อยู่ไหม” “นังรี่มันอยู่ในครัว เดี๋ยวป้าไปตามมันให้” จากขุ่นเคืองแปรเปลี่ยนเป็นอารมณ์ดีหลังจากเห็นลูกชายมหาเศรษฐีมาตามจีบลูกสาวทุกวี่ทุกวัน “รีบไปรีบมาเลยนะ ฝากบอกลูกสาวป้าด้วยว่าผมคิดถึง” ตึกตัก เสียงหัวใจของชายหนุ่มเต้นแรงทุกครั้งยามได้เห็นหน้า หมาเด็กกับพี่คนสวยน่าจะเป็นฉายาที่เหมาะสมกับเขาที่สุด “มีอะไรหรือเปล่า” “ไปนั่งรถเ
4ปีผ่านไปPHARAOH PART “เฮียเป็นไร ทำไมไม่ยอมคุยกับน่าน” น่านฟ้าที่อยู่ในอาการมึนเมา หยุดยืนอยู่ที่ปลายเตียงด้วยท่าทางโอนเอนทรงตัวแทบไม่ไหว จ้องมองชายหนุ่มที่นอนคลุมโปงส่งเสียงสะอึกสะอื้น “ไม่ต้องมายุ่ง ออกไปให้พ้น” “งอนอะไรอีก” “ไม่ต้องมายุ่ง อยากอยู่คนเดียว” เพราะเธอออกไปพบปะสังสรรค์กับเพื่อนร่วมรุ่นเลยกลับบ้านช้าผิดเวลาไปนิดหน่อย “น่านบอกแล้วไงว่ามินนี่เป็นแค่รุ่นน้อง ไม่ได้มีอะไรกันสักหน่อย” “ถ้าไม่มีอะไรแล้วไปกินข้าวด้วยกันทำไม ฉันโทรหาก็ไม่ยอมรับสาย ส่งข้อความไปก็ไม่ตอบ” “ก็แบตมันหมด น่านเคยบอกไปแล้ว ทำไมถึงไม่เชื่อกันบ้าง” “คนเจ้าชู้แบบเธอมันไว้ใจไม่ได้ ไม่ต้องมาให้ฉันเห็นหน้าอีก เราเลิกกัน!” คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันอย่างงุนงงพลางถอนหายใจหนักๆ “พองอนทีไรบอกเลิกน่านตลอดเลย” “…..” “ถ้าน่านไปจริงอย่ามาง้อแล้วกัน” น่านฟ้าแสร้งพูดขึ้นเสียงดัง จงใจให้แฟนหนุ่มได้ยิน แล้วมันก็ได้ผลเป็นอย่างดีเมื่อคนตัวโตหยุดการเคลื่อนไหวราวกับรอฟังว่าจะเกิดอะไรขึ้นต
หลายวันต่อมา ร่างสูงคมคายของบุรินทร์ทอดสายตามองผืนน้ำทะเลกว้างใหญ่ที่ไกลจนสุดสายตา แสงท้องฟ้ากลายเป็นสีทองอร่ามในขณะที่พระอาทิตย์กำลังจะลาลับขอบฟ้าเมื่อถึงเวลาของมัน สายลมและเสียงเกลียวคลื่นที่ดังกระทบเข้าฝั่งให้ความรู้สึกสงบทุกครั้งที่ได้ยิน “มี่ตามหาตั้งนาน หลบมายืนอยู่ตรงนี้นี่เอง” เดมี่เดินเข้าไปสวมกอดสามีจากทางด้านหลัง ภาพเบื้องหน้ามีลูกทั้งห้าคนที่กำลังส่งรอยยิ้มพูดคุยอย่างสนุกสนาน “ดูพวกเขาเล่นกัน” ฟาคินนั่งก่อประสาททรายโดยมีฟรังค์และฟาโรห์นอนอาบแดดอยู่ข้างกัน ส่วนฟรานเป็นคนขับเจสกีมีฟาเรนนั่งซ้อนท้ายส่งเสียงกรี๊ดดังลั่นไปทั่วบริเวณ “มี่ไม่เคยเห็นพวกเขามีความสุขขนาดนี้มาก่อนเลย” “แล้วเธอมีความสุขไหม” “ความสุขของมี่ก็คือแด๊ดดี้ไง” “ฉันคงเป็นพ่อที่แย่ ขอโทษที่ไม่มีเวลาให้เธอกับลูก” ถึงแม้จะมีเงินมากมายแต่สิ่งที่ซื้อไม่ได้ก็คือเวลา บุรินทร์ใช้เวลาทุ่มเทให้กับธุรกิจของตัวเอง เขาทำงานอย่างหนักก่อนจะวางมือเพื่อให้ลูกได้ดูแลสืบสานต่อ “มี่รู้ว่าแด๊ดดี้ทำเพื่อพวกเรา มี
แกร๊ก…บานประตูห้องนอนถูกเปิดออกในยามวิกาล ดวงตาคู่สวยทอดสายตามองแผ่นหลังกว้างเปลือยเปล่าของสามี ริมฝีปากสีคล้ำคาบมวนบุหรี่พ่นควันจนลอยคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ “ดึกแล้วนะ ทำไมยังไม่นอน” ร่างเล็กเดินเข้าไปหาด้วยความระมัดระวัง วางใบหน้าสะสวยซบลงบนแผ่นหลังกว้างของสามีที่เต็มไปด้วยรอยสักน่าเกรงขาม บุรินทร์หันกลับมาเผชิญหน้า ก้มลงมองภรรยาคนสวยที่มีความสูงแค่ระดับแผงอกของเขาเพียงเท่านั้น “ลูกหลับแล้วเหรอ” “มี่ส่งเข้านอนครบทุกคนแล้วค่ะ” “แล้วฟาคินเป็นยังไงบ้าง ไม่สบายดีขึ้นหรือยัง” “อาการดีขึ้นแล้วค่ะ คงเป็นเพราะได้ยาดีจากแด๊ดดี้แน่เลย” “ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว เด็กนั่นกลัวเข็มจะตายไป” บุรินทร์หัวเราะเบาๆ ในลำคอ ใช้ฝ่ามือหนาบีบเข้าที่ปลายคางของคนตัวเล็กให้เงยหน้าขึ้นมาสบตาแล้วบรรจงจูบที่ริมฝีปากอิ่มสวยเบาๆ “วันนี้เด็กดีสวยมาก สวยทุกวันเลยรู้มั้ย” “แด๊ดดี้ก็หล่อมากเหมือนกัน หล่อที่สุดในสายตามี่เลยรู้มั้ย” “ต้องการอะไรแค่พูดมา จะให้ทุกอย่าง” “อาทิตย์หน้าเราพาลูกๆ ไปเที่ยวเกาะกันดีไหมค
หลายเดือนผ่านไป พลั่ก! ตุบ! ตุบ! เสียงหมัดหนักๆ กระแทกเข้ากับกระสอบทรายอย่างบ้าคลั่ง สายตาเรียบนิ่งของเด็กชายจ้องแน่วแน่ไปที่เป้าหมายไม่มีวอกแวก ก่อนที่จะกระแทกหมัดหนักๆ ตรงไปยังพี่เลี้ยงที่เป็นผู้ฝึกซ้อม “ลูกชายคนเล็กของเสี่ยหน่วยก้านดีนะ ผมว่าอนาคตได้เป็นดาวรุ่งแน่นอน” บุรินทร์นั่งมองภาพฝึกซ้อมผ่านจอมอนิเตอร์ในห้องทำงาน ฟาคินมีใจรักทางด้านศิลปะการต่อสู้ ซึ่งเขาเองก็ไม่ได้ห้ามอีกทั้งยังสนับสนุนหาพี่เลี้ยงระดับมือโปรมาฝึกให้ “เดือนหน้ามีเดิมพันใหญ่ ถ้าเสี่ยตกลงบอกผมได้เลย” “ถ้าชนะแล้วได้อะไร” “เดิมพันด้วยชีวิตและท่าเรือ” “…..” บุรินทร์หลับตาลงพลางใช้ความคิดหลังจากได้ยินข้อเสนอที่แสนยั่วยวน ท่าเรือเดิมพันมีมูลค่ามหาศาล ถ้าได้มันมาคงจะต่อยอดธุรกิจของเขาได้ไม่น้อย “เสี่ยอยากได้ท่าเรือของไอ้ปีเตอร์มานานแล้วไม่ใช่เหรอ ลองเสี่ยงดูสักตั้งจะเป็นอะไรไป” “ข้อเสนอถือว่าไม่เลว” “ยิ้มแบบนี้แปลว่าตกลงใช่ไหม” “ตามนั้น” “แล้วรอบนี้เสี่ยจะส่งใครขึ้นชก ผมจะได้เตรีย
“วันนี้ตัวทำเมนูอะไรมาบ้าง” ฟาโรห์ตื่นนอนตั้งแต่เช้าตรู่ ลุกขึ้นมาทำอาหารเพื่อใส่บาตรในวันนี้ เขาสวมชุดนอนสีชมพูสดใสพร้อมกับที่มาร์คหน้าเห็นเพียงดวงตาและริมฝีปากเหมือนอย่างเคย “วันนี้มีแซนด์วิชแซลมอนรมควันท็อปด้วยไข่ปลาคาเวียร์ให้หลวงตาแบบฉ่ำๆ มีอูนินำเข้าเกรดพรีเมี่ยมด้วยนะ และก็มีกุ้งล็อบสเตอร์อบชีส” เรื่องงานบ้านงานเรือนถือได้ว่าไม่เป็นที่สองรองใคร ทำได้หมดทั้งอาหารคาวหวาน ใครที่ได้เป็นผัวมีหวังโชคดียิ่งกว่าถูกลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่ง “น้ำแร่บริสุทธิ์จากเทือกเขาประเทศสวิตส่วนผลไม้ส่งตรงจากออสเตรเลีย” “แค่ใส่บาตร มันต้องขนาดนี้เลยเหรอตัว” “แบบนี้ดีที่สุด ถ้าตายเราจะได้ไปสวรรค์” “…..” “นั่นไงหลวงตามาแล้ว” ฟรานยิ้มกว้างยกมือขึ้นไหว้อย่างนอบน้อม มองไปทางหลวงตาและสามเณรฟาเรนที่เดินตามหลังกันเป็นขบวน อีกทั้งยังมีฟาคินคอยเป็นเด็กวัดสะพายย่ามถือข้าวของพะรุงพะรังเต็มสองมือ ตั้งแต่น้องชายอาการดีขึ้น ปู่ก็เลยบังคับให้บวชเณรเพื่อต่อชะตาชีวิต ฟาเรนไม่มีทางเลือกจึงต้องยอมจำนนเข้าพิธีบวชเณ







