 เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบภายในห้องพักฟื้น ทอฝันค่อย ๆ ลุกขึ้นจากเตียงแล้วก้าวลงอย่างช้า ๆ เนื่องจากยังรู้สึกเคล็ดขัดยอกอยู่ แต่ถึงกระนั้นทอฝันก็ลากเสาน้ำเกลือค่อย ๆ พยุงตัวเองเดินไปที่เคาน์เตอร์พยาบาล
“สวัสดีค่ะ คนไข้ที่ชื่อ ภูริตา พิมุกเดชา พักอยู่ห้องไหนเหรอค่ะ”
“สักครู่นะค่ะ คนไข้อยู่ ชั้น 7 ค่ะ”
“ชั้น 7 มีห้องพักฟื้นด้วยเหรอค่ะ” ทอฝันขมวดคิ้วพร้อมกับถามออกไปเท่าที่เธอรู้ห้องพักฟื้นของโรงพยาบาลนี้มีตั้งแต่ชั้น 8 ไม่ใช่เหรอ
“ชั้น 7 จะเป็นห้องปลอดเชื้อค่ะ” เมื่อได้ยินแบบนั้นหัวคิ้วทั้งสองข้างของทอฝันก็ยิ่งขมวดเข้าหากันมากขึ้น แต่กระนั้นก็ขอบคุณพยาบาลแล้วค่อย ๆ เดินไปที่ลิฟต์เพื่อลงไปที่ชั้น 7
เมื่อลงลิฟต์มาถึงชั้น 7 ทอฝันก็เดินไปสอบถามพยาบาลว่าภูริตาพักอยู่ที่ห้องไหน หลังจากที่เดินมาถึงหน้าห้องที่พยาบาลบอก ทอฝันถึงกับตกใจทันทีเมื่อมองเข้าไปแล้วเห็นสภาพของภูริตาที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้
“ทำไม” ทอฝันเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาราวกับขนนก
“ตกใจเหรอที่เห็นสภาพของริตา” เสียงที่ดังมาจากทางด้านหลังทำให้ทอฝันต้องหันกลับไปมองก็พบว่าเป็นภูวินทร์ที่ยืมมองเธอด้วยสายตาที่ทอฝันเห็นรู้สึกขนลุกอย่างบอกไม่ถูก
“มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมริตาถึง...”
“ฉันสิต้องถามเธอว่ามันเกิดอะไรขึ้น เธอเป็นคนขอพาน้องสาวฉันไปนี่” สรรพนามและน้ำเสียงที่เปลี่ยนไปทำให้ทอฝันรู้สึกสะท้านในอกและเมื่อมองลึกลงไปในดวงตาคู่นั้นมันก็ยิ่งทำให้ทอฝันรู้สึกหนาวเหน็บในหัวใจอย่างบอกไม่ถูก
“ฝัน.....” เมื่อทอฝันมองเข้าไปในดวงตาคมคู่นั้น ก็ทำให้ทอฝันถึงกับพูดไม่ออกไปชั่วขณะ ทอฝันไม่รู้จะเริ่มต้นพูดจากตรงไหนก่อนดีมันสับสนไปหมด
“เธอบอกที่บ้านฉันว่าจะพาริตาไปกินข้าว แต่จริง ๆ แล้วเธอพาน้องฉันไปเที่ยวสถานที่แบบนั้น ใช่ไหม”
“ฝัน.....” ทอฝันสบตากับภูวินทร์ด้วยดวงตาที่สั่นระริก ทอฝันไม่สามารถพูดออกไปได้ว่าคนที่ขอให้เธอช่วยโกหกคือริตา
“ทำไม ถึงกับพูดไม่ออกเลยงั้นเหรอ ที่ฉันรู้” ภูวินทร์มองทอฝันด้วยสายตาที่ทอฝันไม่เคยเห็นมาก่อน
“มันไม่ใช่แบบนั้น คือฝัน....”
“ไม่ใช่แบบนั้นแล้วมันแบบไหน เธอจะบอกว่าน้องสาวฉันให้เธอช่วยโกหกที่บ้านเพื่อจะได้ไปเที่ยวในสถานที่แบบนั้น งั้นเหรอ” เมื่อได้ยินภูวินทร์พูดแบบนั้นทอฝันก็อยากจะบอกเหลือเกินว่าใช่ แต่ดูแล้วต่อให้เธอพูดอะไรภูวินทร์ก็คงคิดว่าสิ่งที่เธอพูดนั้นมันเป็นคำแก้ตัว เพราะงั้นทอฝันจึงเลือกที่จะไม่พูดออกไปและยอมรับผิดคนเดียว
“ฝันผิดเอง ฝันขอโทษที่โกหกที่บ้านภู”
“คิดว่ายอมรับผิดแล้ว เรื่องมันจะจบงั้นสิ” ภูวินทร์พูดเสียงขึ้นจมูกอย่างเย้ยหยัน
“หมายความว่ายังไง” ทอฝันถามออกไปอย่างไม่เข้าใจในคำพูดของภูวินทร์
“น้องสาวฉันต้องนอนเป็นเจ้าหญิงนิทราไม่รู้สึกตัวแบบนี้ก็เพราะเธอ เพราะฉะนั้นเธอต้องรับผิดชอบ” เมื่อได้ยินสิ่งที่ภูวินทร์พูดทอฝันถึงกับยืนตัวแข็งทื่อไม่คิดว่าอาการของภูริตาจะหนักถึงกับนอนเป็นเจ้าหญิงนิทราไม่รู้สึกตัวอย่างนี้
“ไม่จริง” ทอฝันพูดออกมาเบา ๆ เหมือนคนละเมอ พร้อมกับน้ำตาที่ค่อย ๆ ไหลออกมาจากดวงตาที่กำลังสั่นไหวราวกับดอกหญ้าต้องลมหนาว
“จริง และเธอรู้ไหมว่าพ่อกับแม่ฉันต้องทุกข์ทรมานแค่ไหนที่ต้องทนมองลูกสาวของตัวเองต้องมีสภาพแบบนี้ ทั้งหมดก็เป็นเพราะเธอ ทอฝัน” ภูวินทร์เดินเข้ามาบีบต้นแขนทั้งสองข้างของทอฝันอย่างแรงก่อนที่จะผลักตัวของทอฝันออกไปให้ห่างจากตัวเองอย่างนึกรังเกียจ และจังหวะนั้นทอฝันก็ล้มลงกระแทกกับพื้นอย่างแรงเพราะไม่ทันตั้งตัว
“โอ้ยย”
“ไม่ต้องมาสำออยแค่นี้ไม่ถึงตายหรอก และฉันก็ไม่ยอมให้เธอตายง่าย ๆ ด้วย เธอต้องอยู่รับผิดชอบกับสิ่งที่เธอทำไว้กับครอบครัวฉัน” พูดจบภูวินทร์ก็เดินออกไปทันทีไม่แม้แต่จะหันกลับมามองทอฝันที่ยังคงนั่งอยู่บนพื้นสักนิด
ทอฝันยังคงนั่งร้องไห้อยู่ตรงนั้นจนกระทั่งมีพยาบาลเดินมาเห็นจึงช่วยพยุงทอฝันให้ลุกขึ้นและพาตัวไปใส่สายน้ำเกลือใหม่ เนื่องจากตอนที่ล้มลงไปทำให้สายน้ำเกลือหลุด
ภายในห้องพักผู้ป่วยทอฝันนั่งห้อยขาอยู่บนเตียงนอน พร้อมกับเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างที่แม่ของเธอเปิดผ้าม่านไว้
“ฝันแม่ซื้อโจ๊กหมูร้านเจ้าประจำของฝันมาให้ด้วยนะ มาเดี๋ยวแม่ป้อน”
“........”
“ฝัน เป็นอะไรไปลูก” เมื่อเห็นว่าทอฝันนั่งหันหลังไม่ยอมหันมา คุณอิงดาวจึงเดินอ้อมไปด้านหน้า แล้วก็ต้องตกใจกับดวงตาที่บอบช้ำของทอฝัน
“แม่” ทอฝันเรียกผู้เป็นแม่พร้อมกับปล่อยโฮออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ เมื่อเห็นอาการของทอฝันทำให้คุณอิงดาวต้องรีบเข้าไปกอดปลอบลูบหลังของทอฝันทันที สภาพของทอฝันตอนนี้คุณอิงดาวเดาได้ว่าทอฝันน่าจะรู้เรื่องของภูริตาแล้วแน่ ๆ ไม่งั้นคงไม่มีอาการเช่นนี้
“ไม่เป็นไรนะ แม่อยู่นี่แล้ว”
“ฝันทำให้ริตาเป็นแบบนั้น ฝันไม่ได้ตั้งใจ ฝัน......” ทอฝันพูดไปสะอื้นไปรู้สึกผิดที่ตัวเองมีส่วนที่ทำให้ภูริตาต้องมีสภาพแบบนั้น
“มันไม่ใช่ความผิดของฝัน มันเป็นอุบัติเหตุ ฝันอย่าโทษตัวเองแบบนั้น”
“มันเป็นเพราะฝัน ถ้าฝันไม่ตามใจริตา ถ้าฝันขัดริตา ไม่ยอมช่วยริตาโกหกที่บ้าน ริตาก็คงไม่ต้องเป็นเจ้าหญิงนิทราแบบนี้” ทอฝันยังคงพร่ำเพ้อโทษตัวเองว่าทั้งหมดมันคือความผิดของตัวเอง
“ไม่เอาฝัน ไม่พูดแบบนั้น ทั้งหมดมันคืออุบัติเหตุ และไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น เพราะฉะนั้นห้ามโทษตัวเองเด็ดขาด เข้าใจไหม” ทอฝันร้องไห้จนหลับไปในอ้อมแขนของคุณอิงดาว
หลังประตูห้องพักฟื้นคนไข้ ภูวินทร์ยืนกำหมัดแน่นขบกรามจนเป็นสันนูนหลังจากฟังสิ่งที่ทอฝันพูดกับคุณอิงดาว แล้วคิดว่ามาถึงขนาดนี้แล้วทอฝันยังโกหกแล้วโยนความผิดให้กับน้องสาวของเขา
“ได้ทอฝันถ้าเธอยังไม่ยอมรับผิดในสิ่งที่เธอทำ งั้นหลังจากนี้อย่าหาว่าฉันใจร้ายก็แล้วกัน”

ภายในห้องพักฟื้น ทอฝันค่อย ๆ ลุกขึ้นจากเตียงแล้วก้าวลงอย่างช้า ๆ เนื่องจากยังรู้สึกเคล็ดขัดยอกอยู่ แต่ถึงกระนั้นทอฝันก็ลากเสาน้ำเกลือค่อย ๆ พยุงตัวเองเดินไปที่เคาน์เตอร์พยาบาล“สวัสดีค่ะ คนไข้ที่ชื่อ ภูริตา พิมุกเดชา พักอยู่ห้องไหนเหรอค่ะ”“สักครู่นะค่ะ คนไข้อยู่ ชั้น 7 ค่ะ”“ชั้น 7 มีห้องพักฟื้นด้วยเหรอค่ะ” ทอฝันขมวดคิ้วพร้อมกับถามออกไปเท่าที่เธอรู้ห้องพักฟื้นของโรงพยาบาลนี้มีตั้งแต่ชั้น 8 ไม่ใช่เหรอ“ชั้น 7 จะเป็นห้องปลอดเชื้อค่ะ” เมื่อได้ยินแบบนั้นหัวคิ้วทั้งสองข้างของทอฝันก็ยิ่งขมวดเข้าหากันมากขึ้น แต่กระนั้นก็ขอบคุณพยาบาลแล้วค่อย ๆ เดินไปที่ลิฟต์เพื่อลงไปที่ชั้น 7เมื่อลงลิฟต์มาถึงชั้น 7 ทอฝันก็เดินไปสอบถามพยาบาลว่าภูริตาพักอยู่ที่ห้องไหน หลังจากที่เดินมาถึงหน้าห้องที่พยาบาลบอก ทอฝันถึงกับตกใจทันทีเมื่อมองเข้าไปแล้วเห็นสภาพของภูริตาที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้“ทำไม” ทอฝันเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาราวกับขนนก“ตกใจเหรอที่เห็นสภาพของริตา” เสียงที่ดังมาจากทางด้านหลังทำให้ทอฝันต้องหันกลับไปมองก็พบว่าเป็นภูวินทร์ที่ยืมมองเธอด้วยสายตาที่ทอฝันเห็นรู้สึกขนลุกอย่างบอกไม่ถูก“มันเกิดอะไรขึ้น ท
ภายในห้องพักฟื้นแสงแดดอ่อน ๆ ที่สาดส่องเข้ามาในห้อง ทำให้ทอฝันที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้ต้องขยับตัวเพื่อหนีแสงแดด“โอ้ยย” แค่เพียงขยับตัวทอฝันก็ต้องร้องออกมาเพราะรู้สึกระบบไปทั้งตัว“ฝันตื่นแล้วเหรอลูกเป็นยังไงบ้าง” คุณอิงดาวรีบเข้ามาดูทันทีที่ได้ยินเสียงของทอฝัน“คุณแม่” ทอฝันเอ่ยเรียกคนเป็นแม่เสียงแผ่ว“ฝันเป็นยังไงบ้าง เจ็บตรงไหน ให้แม่เรียกหมอให้ไหม” คุณอิงดาวรีบถามทอฝันอย่างเป็นห่วงกลัวทอฝันจะมีอาการอย่างอื่นแทรกซ้อน“ฝันไม่เป็นอะไรมากค่ะ แค่ระบบตามตัว” หลังจากพูดจบทอฝันก็นึกขึ้นได้ว่าเธอไม่ได้ประสบอุบัติเหตุคนเดียวแต่ยังมีภูริตาอีกคนที่นั่งมาในรถกับเธอ“แม่ค่ะ แล้วริตาล่ะค่ะ ริตาเป็นยังไงบ้าง” เมื่อได้ยินทอฝันถามถึงภูริตาก็ทำให้คุณอิงดาวถึงกับเงียบลงพร้อมกับถอนหายใจออกมาน้อย ๆ เพราะเมื่อเข้าเธอเจอ คุณภารัน คุณพระพาย และภูวินทร์ ทำให้เธอได้รู้ว่าภูริตายังมีอาการโคม่าไม่รู้สึกตัวหลังจากที่ผ่าตัดไปเมื่อคืน เมื่อเห็นท่าทางของคนเป็นแม่ก็ทำให้ทอฝันใจคอไม่ดี“ว่าไงค่ะแม่ ริตาเป็นยังไงบ้างค่ะ” เมื่อได้ยินคนเป็นแม่เล่าอาการของภูริตาจบ น้ำตาของทอฝันก็ค่อย ๆ ไหลลงมาอย่างช้า ๆ เพราะความรู้สึกผิ
ภายในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลเอกชล แพทย์พยาบาลกำลังช่วยเหลือชีวิตคนไข้ที่พึ่งประสบอุบัติเหตุมา“หมอค่ะ เอายังไงดีค่ะ คนไข้รายนี้อาการไม่ดีเลยค่ะ” พยาบาลที่ขึ้นเวรวันนี้เดินมาหาคุณหมอที่ทำการดูแลอาการของคนไข้อีกคนที่ประสบอุบัติเหตุมาด้วยกัน“โอเค เดี๋ยวผมไป คนไข้รายนี้ไม่เป็นอะไรมาก คุณพยาบาลจัดการต่อเลยนะครับ” หลังจากพูดจบคุณหมอก็เดินไปดูคนไข้อีกรายที่อาการสาหัสกว่าคนไข้รายเมื่อกี้อยู่มาก“ได้ค่ะ”“คุณหมอค่ะ คนไข้ความดันต่ำมากค่ะ”“เตรียมห้องผ่าตัด” หลังจากประเมินอาการแล้วหมอหนุ่มมีความเห็นว่าต้องทำการผ่าตัดช่วยชีวิตคนไข้โดยด่วน เนื่องจากก่อนมาคนไข้เสียเลือดมาก ถ้าปล่อยไว้นานกว่านี้อาจจะอันตรายถึงแก่ชีวิตได้“ได้ค่ะ”“แล้วติดต่อญาติคนไข้ได้หรือยัง”“ติดต่อได้แล้วค่ะ ญาติกำลังมาค่ะ” หมอหนุ่มพยักหน้ารับพร้อมกับเดินออกไปเพื่อเตรียมตัวผ่าตัดคนไข้บริเวณหน้าห้องฉุกเฉิน ภารัน พระพาย และภูวินทร์ต่างก็รีบวิ่งมาหลังจากที่ได้รับรู้ว่าลูกสาวและน้องสาวเกิดอุบัติเหตุ“ลูกสาวผมเป็นยังไงบ้างครับ” ภารันรีบถลาเข้าไปถามคุณหมอที่เดินออกมาจากห้องฉุกเฉินทันที“ไม่ทราบว่าลูกสาวคุณชื่ออะไรครับ”“ภูริตาครับ ล
ภายในผับหรูย่านกลางเมืองเหล่าบรรดาผีเสื้อราตรีทั้งหลายกำลังวาดลวดลายเต้นกันอยู่อย่างสนุกสนานหนึ่งในนั้น คือ ภูริตา พิมุกเดชา ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของ ภารัน พิมุกเดชา และยังเป็นน้องสาวสุดที่รักของภูวินทร์ พิมุกเดชา ประธานบริหารโรงแรมหรูย่านกลางเมืองอีกต่างหาก“ยัยริตาแกมาเที่ยวแบบนี้พ่อกับพี่ชายแกไม่ว่าเหรอ” เพื่อนสาวคนสนิทเอ่ยถามขึ้นเพราะรู้กิตติศัพท์เรื่องความขี้หวงของพ่อกับพี่ชายของริตาดี“ไม่ว่า” ริตาตอบกลับไปด้วยใบหน้าทะเล้นที่ไม่ว่าเพราะว่าเธอไม่ได้บอกที่บ้านว่ามาเที่ยวสถานที่แบบนี้ ถ้าขืนบอกมีหวังโดนกักบริเวณแน่ พ่อกับพี่ชายเธอน่ากลัวจะตาย“จริงเหรอ” เมื่อกลุ่มเพื่อนสาวของริตาได้ยินแบบนั้นก็ทำสีหน้างงไปตามๆ กัน ว่าเป็นไปได้ยังไง“เพราะว่าฉันไม่ได้บอกที่บ้านว่าจะมาเที่ยวที่นี่” เมื่อพูดจบกลุ่มเพื่อนสาวก็พยักหน้าเข้าใจทันที“แล้วแกไม่กลัวพ่อกับพี่ชายแกรู้เหรอ”“ไม่มีทางรู้แน่นอน” ริตาตอบอย่างมั่นใจว่าที่บ้านไม่มีทางรู้อย่างแน่นอนเพราะเธอบอกกับที่บ้านว่าเธอมากินข้าวกับทอฝัน และที่สำคัญเธอโทรไปเตี้ยมกับทอฝันเรียบร้อยแล้ว ไม่มีทางที่ที่บ้านของเธอจะรู้แน่นอน“แกนี่มันร้ายจริงๆ” หลังจา
ภายในห้องทำงานชั้นบนสุดของประธานผู้บริหารคนใหม่ของโรงแรมดิ เอมเมอร์รัลด์ แกรนด์ ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา รูปร่างกำยำสูงโปร่ง คิ้วเข้ม ตาคม จมูกโด่ง อย่าง ภูวินทร์ พิมุกเดชา ลูกชายเพียงคนเดียวของ นายภารันและนางพิตะวัน พิมุกเดชา นั้นเอง หลังจากที่เกษียณตัวเองก็มอบหมายให้ลูกชายบริหารงานแทนทั้งหมดเพื่อที่ตัวเองจะได้มีเวลาอยู่กับเมียมากขึ้นก๊อก ๆ ๆ ๆ“ขออนุญาตครับ ท่านประทาน” แทนไทเลขาหนุ่มที่พวงตำแหน่งเพื่อนสนิทก็เคาะประตูห้องทำงานพร้อมกับเปิดเข้ามา“ว่าไง” ชายหนุ่มถามออกไปทั้งที่ยังไม่ได้เงยหน้าจากเอกสารตรงหน้าสักนิด“คุณทอฝันมาขอพบครับ”“บอกไปว่าฉันไม่ว่าง”“เอ่อออ” เมื่อได้ยินเสียงอั้มอึ้งของแทนไททำให้ภูวินทร์ต้องเงยหน้าจากเอกสารที่กำลังอ่านอยู่“ทำไม”“ท่านประธานก็รู้นิสัยคุณทอฝันดีนี่ครับ”“ออกไปบอกว่าฉันไม่ว่าง” และจังหวะที่แทนไทกำลังจะเดินไปที่ประตู คนด้านนอกก็เปิดประตุสวนเข้ามาสะก่อน“ภู” เสียงหวานใสดังมาก่อนที่เจ้าของเสียงจะปรากฏตัวด้วยซ้ำ เจ้าของชื่อถึงกับถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย“นายออกไปก่อนเถอะ”“ครับ” แทนไทโค้งศีรษะลงเล็กน้อยก่อนจะเดินออกจากห้องทำงานไป พร








