แชร์

บทที่ 17

ผู้เขียน: มายุมายูมายา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-12-01 20:58:32

#####บทที่ 17

            หลังจากผ่านยามบ่ายไปแล้ว ดวงตะวันก็เคลื่อนคล้อยไปทางทิศประจิม ซึ่งเป็นเวลาที่ตำหนักสว่างไสว สถานที่จัดพิธีการเฉลิมฉลองวันพระราชสมภพของฮองเฮานั้นเต็มไปด้วยผู้คน ไม่ว่าจะเป็นเหล่าขุนนางหรือฮูหยิน พอแต่ละขบวนรถม้าหยุดจอดที่หน้าประตูก็จะมีขันทีเดินนำเข้ามายังโถงจัดงาน โดยที่โถงพิธีการนี้ได้เเบ่งที่นั่งออกเป็นสองฝั่งเว้นที่ว่างตรงทางไว้เป็นพื้นที่สำหรับการเเสดงต่าง ๆ โดยฝั่งหนึ่งเป็นที่นั่งของบุรุษ ไล่จากตำแหน่งใกล้ที่นั่งฮ่องเต้ไว้สำหรับยศสูงไล่ต่ำออกไป ส่วนอีกฝั่งเป็นที่นั่งของบรรดาสตรี โดยให้ฮูหยินทั้งหลายนั่งเบื้องหน้าตามด้วยบุตรสาวนั่งเบื้องหลังไล่ลำดับตามยศของสามี

            ทว่ายังไม่ถึงเวลางานฉะนั้นผู้คนส่วนใหญ่จึงจับกลุ่มคุยกัน น้อยคนที่จะไปนั่งที่นั่งเรียบร้อยแล้ว

            “วันนี้เจ้างดงามจริงเชียว ชุดสีเขียวมรกตนี้ช่างเข้ากับเจ้าเสียจริง”

            คนถูกชมแก้มแดงขึ้นสีระเรื่อ “มิสู้เจ้าหรอก ชุดสีชมพูลายดอกอิงฮวาช่างงามนัก เวลาเดินราวกับนางฟ้านางสวรรค์เริงระบำท่ามกลางดอกไม้ ตอนเจ้าเดินมาผู้คนทั้งห้องโถงต่างมองเจ้าเป็นตาเดียว”

            พูดไปก็ทำสีหน้าเชิงล้อเลียน

            ริมฝีปากบางหยักยิ้ม สายตาที่ส่งออกไปหยิ่งทะนงมิได้แสดงท่าทีขวยเขินเเต่อย่างใด เพราะคำชมเหล่านั้นนางฟังจนชินหูเสียแล้ว หานเผยหนิงผู้ได้ฉายายอดหญิงอันดับหนึ่งเเห่งเมืองหลวงพูดคุยกับเหล่าคุณหนูที่เดินเข้ามาคุยกับนางอย่างเป็นธรรมชาติ มีบางคราที่นางแอบเหลือบสายตาไปยังกลุ่มบุรุษที่ยืนสนทนาอยู่ไกล สายตานางมีไว้ให้เพียงบุคคลเดียวเท่านั้น

            “องค์ไท่จื่อวันนี้ช่างดึงดูดสายตาข้านัก ชุดขาวพิสุทธิ์นั่นแม้จะเป็นอย่างทุกวันแต่ไยวันนี้ข้าถึงรู้สึกว่าดูดีกว่าทุกวันก็ไม่รู้” 

            ซ่งป่าวซานเอ่ยด้วยใบหน้าเคลิบเคลิ้มสายตานางจ้องไปยังชายหนุ่มในกลุ่มบุรุษที่ยืนคุยกันอยู่ไม่ไกลผู้มีนามว่าเทียนเหิงซึ่งก็คือไท่จื่อองค์ปัจจุบัน

            “นั่นสิ ข้าเตรียมเพลงพิณมาเพื่อมัดใจองค์ไท่จื่อเป็นเดือนเชียวนะ ข้าขอตำแหน่งชายารองก็ยังดี ส่วนชายาเอกข้ายอมให้สหายรักอย่างเจ้า” 

            ต่งจิ่นถิงเอื้อมไปจับมือยอดหญิงอันดับหนึ่งสหายรักของตนเอาไว้โดยที่สายตาไม่ได้ละไปจากบุรุษชุดขาวสักเค่อเดียว ส่วนหานเผยหนิงที่ถูกจับมือนางเเสดงสายตาดุดันวาบหนึ่งก่อนกลับมาเป็นปกติและรีบเอ่ยขึ้น

            “พูดจาส่งเดชน่าจิ่นถิง คุณหนูซูเมิ่งต่างหากที่เป็นว่าที่ชายาเอกมิใช่ข้าเสียหน่อย” 

            น้ำเสียงแกมตัดพ้อเบาบางเอ่ยขึ้น เเต่ลึก ๆในใจกลับกระหยิ่มกระย่อง ตำเเหน่งหวงไทจื่อเฟยนางก็อยากได้ ตำแหน่งฮองเฮาในอนาคตนี้ทั่วเมืองหลวงไม่มีใครเหมาะสมมากไปกว่านางอีกแล้ว

            “นั่น ๆ ไท่จื่อกำลังหันมาทางนี้” 

            จิ่นถิงรีบดึงเเขนเสื้อสหาย ส่วนตัวเองหันกลับมาเพราะไม่กล้าสบตาคู่นั้นกลับกันกับหานเผยหนิงที่พอได้ยินดังนั้นก็ชายตามองพร้อมอมยิ้มส่งไป สายตาหวานหยดย้อยแฝงแววเขินอายสบเข้ากับแววตาติดเย็นชาของเทียนเหิงก่อนรีบหลุบตาลงต่ำพอทิ้งเวลาไว้ชั่วครู่ก็รีบเงยขึ้นหวังสบตาฝ่ายตรงข้ามอีกคราแต่ก็ต้องพบกับความว่างเปล่า เทียนเหิงหมุนตัวเดินออกไปพร้อมกับกลุ่มสหายแล้ว แววตาผิดหวังสว่างวาบหนึ่งก่อนกลับมานิ่งสงบอีกครา

            “พวกเราก็รีบไปนั่งประจำที่กันเถอะ ใกล้ได้เวลาเริ่มงานแล้ว” 

หานเผยหนิงพูดจบก็เดินนำมุ่งตรงไปยังฝั่งขวาที่นั่งของสตรีทันที แต่ก่อนถึงที่หมายเท้าบางพลันชะงักเพราะเสียงขันทีที่หน้าทางเข้าโถงตะโกนเข้ามา

            “ตระกูลไป๋!!! เชิญ”

            ทุกคนหันไปมองตามเสียงอย่างพร้อมเพียงโดยมิได้นัดหมาย เป้าหมายในการมาเข้าร่วมในวันนี้ของทุกคนมิใช่การมาถวายพระพรฮองเฮา แต่คือการได้ชมละครฉากใหญ่ของเจ้าของข่าวลืออย่างตระกูลไป๋ต่างหาก ข่าวลือที่ว่าคุณหนูไป๋ซึ่งถูกหมั้นหมายกับองค์ไท่จื่อนั้นถูกลักพาตัวไปจนตอนนี้ยังหาไม่เจอนั้นถือว่าส่งผลเสียต่อตระกูลไป๋อย่างมากรวมทั้งเป็นการสั่นครอนสัญญาการหมั้นหมายด้วยเช่นกัน 

            สตรียังไม่ออกเรือนนางหนึ่งหายตัวไปไม่รู้ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ แต่นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญเพราะแม้กลับมาได้เเต่ตำเเหน่งหวงไทจื่อเฟยนั้นคงหลุดลอยแน่นอน หรือแม้เเต่การจะออกเรือนเป็นฮูหยินเอกของตระกูลเล็ก ๆก็ยังแทบไม่มีหวัง 

            …ทว่าที่กล่าวมาทั้งหมดนี้เป็นเพียงข่าวลือ พวกเขาต่างตั้งตาคอยงานวันนี้อย่างใจจดใจจ่อ หากคุณหนูซูเมิ่งปรากฏกายที่งานนี้ก็จะสามารถสยบข่าวลือเหล่านั้นได้ แต่หากไม่ล่ะก็ต่อให้ตระกูลไป๋มีข้ออ้างร้อยเเปดพันเก้าอย่างไรก็ไม่สามารถสยบข่าวลือนี้ได้

            นางกำนัลรับใช้นำทางพาบุรุษสามสตรีสามเดินเข้ามา บ่าวรับใช้ที่ติดตามมาด้วยถูกกันให้เดินห่างออกไป สายตาของความกระหายใคร่รู้ทุกคู่เพ่งมองมายังกลุ่มผู้มาใหม่เป็นจุดเดียว

            ไป๋หย่งคังและไป๋ซือฉีผู้เป็นน้องเดินนำไป๋เหิงซานผู้เป็นพี่ชายใหญ่ของซูเมิ่งเเยกไปทางฝั่งบุรุษตรงตำเเหน่งที่นั่งของตนเองอย่างสงบนิ่งราวกับกับว่าสายตาทุกครู่มองมานั้นคือเรื่องปรกติ ส่วนฮูหยินของหย่งคังนามเฟยจิน ฮูหยินของซือฉี และสตรีงามสง่าอีกนางเดินตามนางกำนัลไปยังฝั่งตรงข้าม  ใบหน้าสตรีเยี่ยงพวกนางแดงก่ำหลบตามิสู้ใคร ในอกเต็มไปด้วยความอับอาย

            “สตรีที่เดินตามไป๋ฮูหยินใช่คุณหนูซูเมิ่งคนนั้นหรือไม่? ข้ามองไม่ค่อยชัดเลย” 

            เป็นฮูหยินซ่งเอ่ยถามอีกคนที่นั่งอยู่ด้วยกัน นางชี้ไปทางสตรีที่ก้มหน้าจนเห็นเพียงไรผมและเครื่องประดับบนหัว

            “ข้าก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน คุณหนูตระกูลไป๋คนนี้มิค่อยได้เผยหน้าเท่าไรนักเปลี่ยนฤดูทีก็ป่วยทีร่างกายไม่แข็งแรง จะได้เจอทีก็ต้องเป็นงานใหญ่ ๆทั้งนั้น ข้าจำหน้ามิได้หรอก”

            “ข้าก็ลืมไปแล้วว่าใบหน้านางเป็นเยี่ยงไร” เสียงพูดนางเบาลง สายตายังเฝ้าสังเกตไปที่กลุ่มสตรีตระกูลไป๋มิวางตา

            ทางฝ่ายผู้เป็นจุดศูนย์รวมสายตาอย่างสตรีทั้งสามก็พยายามทำตัวให้ลีบเล็กที่สุด จนสตรีผู้มีอายุน้อยสุดในสามคนนี้เอ่ยขึ้นอย่างอดมิได้

            “ท่านป้าเจ้าคะ ข้าจะทดไม่ไหวแล้วเจ้าค่ะ สายตาที่เเต่ละคนมองมานั้นราวจะมองทะลุทั้งตัวข้าอย่างไรอย่างนั้น ข้าขอออกไปเดินเล่นข้างนอกได้ไหมเจ้าคะ” 

            หยางเจียงเหมยผู้เป็นหลานสาวของหยางฮูหยินเอ่ยขึ้น วันนี้นางอุตส่าห์ดีใจที่ได้ติดตามมาเปิดหูเปิดตางานใหญ่เป็นครั้งแรก มิคิดเลยว่าเพราะข่าวลือของคุณหนูไป๋ซูเมิ่งตัวปัญหาจะมาตกลงที่นาง ตอนนี้นางอยากประกาศให้ทุกคนรู้ว่านางหาใช่คนถูกลักพาตัวไม่ คนถูกลักพาตัวนั้นหายไปเป็นเดือนป่านนี้เหลือเเต่ซากแล้วกระมัง …แต่นางก็ไม่สามารถทำได้เพราะการออกเรือนของนางนั้นจะดีเลวขึ้นอยู่กับชื่อเสียงตระกูลไป๋เช่นกัน

            ทุกคนที่รู้เรื่องในจวนต่างถูกสั่งให้ปิดปากเงียบเรื่องการหายตัวไปของไป๋ซูเมิ่งโดยปล่อยข่าวว่าป่วยหนักแทน จนกระทั่งมีข่าวโครมลอยนี้ขึ้นมาทำเอานางและคนในตระกูลมิมีหน้าออกจากจวน ไม่เว้นแม้กระทั่งท่านป้าของนางหรือผู้เป็นมารดาของเจ้าตัวปัญหาพอได้ยินข่าวก็บ่นกับนางแทบทุกเวลา

            “นั่งลง! อยู่เงียบ ๆสงบเสงี่ยมไว้ แค่นี้ข้าก็อับอายมากพอแล้ว” 

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เล่ห์รักบุปผาซ่อนพิษ   บทส่งท้าย

    #####บทส่งท้ายมือหนาควานหาร่างอุ่นนุ่มอย่างที่ทำเป็นประจำทุกวัน ทว่าควานไปพบแต่ความว่างเปล่า สองตาค่อย ๆลืมขึ้น ไฉนวันนี้เขาถึงรู้สึกมึนหัวประหลาดหือ วันนี้เขาตื่นสายหรือ ไยเป็นภรรยาเขาที่ตื่นก่อนได้เล่า นางตื่นแล้วไยไม่เรียกเขาเสียหน่อยล่ะ“ใครอยู่ด้านนอกเข้ามาที”เป็นเย่าถิงที่เดินเข้ามา นางชะงักนิดหน่อยเพราะกลิ่นที่เกิดจากการทำกิจกรรมของสองข้าวใหม่ปลามันคละคลุ้งทั่วห้อง ซึ่งเมื่อคืนพวกนางต่างรู้ดีกว่าเกิดอะไรขึ้นในห้อง เพราะเสียงที่ดังทะลุกำแพงออกมาตลอดคืน“นายหญิงไปไหนหรือ?”เย่าถิงยกคิ้วฉงนก่อนตอบ “ก็ไม่ได้อยู่ในห้องหรอกหรือเพคะ” พูดพลางสอดส่องมองทั่วห้องก็ไม่เห็นคุณหนูของตนจริง จึงขออนุญาตเรียกไป๋จื่อและบ่าวคนอื่น ๆมาถามไถ่ แต่ก็ไม่มีใครพบเห็นเลย พอไม่เจอสตรีที่ตนเรียกหาจึงกลายเป็นเรื่องใหญ่ คนของชินหวังทั่วทั้งจวนต่างกระจายกำลังหาทั่วจวน แต่หานานหลายชั่วยามก็ไม่มีใครพบ“พวกเจ้าดูแลนางอย่างไรนายหญิงออกจากห้องไปไยไม่มีใครเห็น!”บรรยากาศโดยรอบของบุรุษผู้ทรงอำนาจเย็นยะเยือกลามไปทั่วทั้งจวน นัยน์ตาดุดันจ้องมองเขม็งไปที่เหล่าบ่าวใช้ที่คุกเข้าตรงหน้า“หม่อมฉันเฝ้าหน้าห้องตลอดไม่เห็

  • เล่ห์รักบุปผาซ่อนพิษ   บทที่ 50

    #####บทที่ 50นับจากวันที่กลับจากไปเยี่ยมจวนตระกูลไป๋ซูเมิ่งก็รอบางอย่างจนสิ่งที่นางรอคอยก็มาถึง ไป๋จื่อเข้ามาหาซูเมิ่งในห้องหนังสือพร้อมปิดประตูแน่น จนในห้องเหลือเพียงซูเมิ่งและไป๋จื่อสองคน“ครานี้ได้เรื่องแล้วเพคะพระชายา”“ว่ามา...”ตามที่ให้ไป๋จื่อออกไปรับเรื่องที่นางให้เป่าต้ง บ่าวบุรุษที่ซูเมิ่งไว้ใจในจวนตระกูลไป๋ทำเรื่องบางอย่างในจวน การมารายงานครานี้ของเป่าต้งนั้นต่างออกไปจากครั้งก่อน ๆแล้ว เรื่องที่ซูเมิ่งกำลังเฝ้าคอยเป็นเรื่องเกี่ยวกับไป๋หย่งคังบิดาของซูเมิ่งเอง ในวันที่นางกลับไปเยี่ยมบ้านนั้นนอกจากซูเมิ่งจะเข้าไปขอพบหย่งคังเป็นการส่วนตัวแล้วนางยังเรียกเป่าต้งเพื่อมอบหมายงานให้ทำด้วยนั่นก็คือ ให้เขาคอยจับตาดูไป๋หย่งคังตลอดทุกฝีก้าวตอนที่อยู่ในจวนไม่เว้นแม้กระทั่งช่วงกลางคืน และให้มารายงานนางทุก ๆสามวัน ในช่วงแรก ๆ สิ่งที่ไป๋หย่งคังทำนั้นซูเมิ่งคิดว่าปรกติทั่วไป แต่พอได้ฟังคำจากเป่าต้งรายงานหลาย ๆคราซูเมิ่งเริ่มสงสัยบางอย่างเข้าให้แล้ว กิจวัตรหนึ่งที่น่าสงสัยคือไป๋หย่งคังมักจะเทียวไปเรือน ๆหนึ่งทุก ๆสองหรือสามวันเสมอและใช้เวลาอยู่ที่นั่นราวสองเค่อ สิ่งที่น่าประหลาดคือเรือนแห่ง

  • เล่ห์รักบุปผาซ่อนพิษ   บทที่ 49

    #####บทที่ 49และแล้ววันที่ท่านหมอพิษมาถึงจวนชินหวังก็มาถึง เขาเข้ามาพร้อมกับหยางเหวินเพื่อมาตรวจอาการของซูเมิ่ง “แปลก พระชายาไม่น่ามีพิษชนิดนี้อยู่ในกายได้พะยะค่ะ”หมอพิษพูดพลางลองตรวจสอบพิษอีกรอบผลปรากฎว่าเลือดที่มาจากร่างกายซูเมิ่งนั้นเป็นพิษชนิดที่เขาคิดจริง ๆ“อย่างไรหรือท่านหมอ”ซูเมิ่งเอ่ยถาม นางอยากรู้อย่างที่สุดว่าพิษที่อยู่ในร่างกายนางแต่กำเนิดนั้นคือชนิดใดกันแน่โดยท่านหมอพิษบอกว่าพิษนี้คือพิษที่มีแหล่งกำเนิดจากอาณาจักรชิงจง ซึ่งคืออาณาจักรข้างเคียงที่เป็นศัตรูกับอาณาจักรที่นางอยู่นี้มาช้านานแล้ว โดยพิษนี้เป็นพิษที่หากออกฤทธิ์จะค่อย ๆทำลายอวัยวะทั้งหมดในร่างกาย แต่เงื่อนไขการออกฤทธิ์จะออกฤทธิ์เมื่ออยู่ในกระแสเลือดของบุคคลผู้นั้นนานเป็นเวลาสองปี ซึ่งพิษนี้ไม่ค่อยมีผู้คนนำมาใช้เท่าไหร่นัก แทบไม่มีคนในอาณาจักรนี้รู้จักเลยด้วยซ้ำ แต่สำหรับอาณาจักรชิงจงพิษชนิดนี้จะใช้เฉพาะกับทหารที่ฝึกไว้เพื่อเป็นสายลับเท่านั้น ด้วยเงื่อนไขการออกฤทธิ์นี้ทำให้สามารถใช้เพื่อควบคุมเหล่าทหารยามต้องออกไปปฏิบัติการได้ โดยการให้สายลับทุกคนดื่มพิษชนิดนี้เข้าไปและหากต้องการมีชีวิตต่อเพียงแค่กลับไปที่ฐาน

  • เล่ห์รักบุปผาซ่อนพิษ   บทที่ 48

    #####บทที่ 48“คุณหนูเจ้าคะ ตื่นได้แล้วเจ้าค่ะ”เป็นเย่าถิงที่เข้ามาปลุกซูเมิ่งที่กำลังกอดกองผ้าห่มนุ่มด้วยอาการมึนงง นางลืมตามองเย่าถิงอย่างเกียจคร้าน“ข้าขอนอนอีกหน่อยได้หรือไม่”ไม่พูดเปล่าซูเมิ่งปิดเปลือกตาลงอีกครั้ง นางรู้สึกอ่อนเพลีย และปวดเนื้อปวดตัวไปหมดจนไม่อยากขยับเขยื้อน แต่ก็ต้องลืมตาขึ้นอีกครั้งเพราะแขนตัวเองถูกดึงให้ลุกขึ้นและทันทีที่เย่าถิงดึงแขนของซูเมิ่งพ้นผ้าห่มก็ต้องตกใจ นางมองไปยังรอยสีกุหลาบบนผิวขาวผุดผาดของผู้เป็นนายที่ตอนนี้ขึ้นรอยแดงราวถูกแมลงกัดต่อย และยิ่งพอซูเมิ่งเอนตัวขึ้นตามแรงดึงของเย่าถิงแล้วผ้าห่มที่คลุมร่างอยู่ไหลกองลงปิดเพียงเอวยิ่งตระหนกไปใหญ่ ทั้งรอยมือและบางแห่งเกิดเป็นรอยช้ำ เย่าถิงพอนึกถึงว่าที่มารอยพวกนี้มาจากไหนจึงใบหน้าแดงขึ้นลามจนถึงใบหู“ไป๋จื่อเตรียมน้ำอุ่นผสมสมุนไพรให้แล้วเจ้าค่ะ ให้บ่าวพยุงไปนะเจ้าคะ”ซูเมิ่งพยักหน้ารับคำอย่างว่าง่าย นางรู้สึกล้าเกินจะลืมตาตื่นด้วยซ้ำ แต่ก็รู้ว่าตามธรรมเนียมแล้วตนจะต้องไปไหว้บุพการีของซือหมิง ซูเมิ่งแทบจะอยากไปหักคอของบุรุษน่าตายนามซือหมิงให้ตายคามือเสียเดี๋ยวนี้เลย เมื่อคืนเขารู้ทั้งรู้แท้ ๆว่าไม่ควรเข้

  • เล่ห์รักบุปผาซ่อนพิษ   บทที่ 47 (ต่อ)

    บทที่ 47 (ต่อ)“คุณหนู พร้อมแล้วออกมาได้เลยนะเจ้าคะขบวนของชินหวังใกล้มาถึงแล้วคุณหนูออกมาได้เลยเจ้าค่ะ”ร่างงามระหงเดินตามนางกำนัลเจี่ยงและคนอื่นออกจากห้องนอนเพื่อไปยังโถงจัดงานไม่นานขบวนเสด็จของชินหวังก็หยุดลง ทั้งขุนนาง และทหารรักษาพระองค์ตั้งขบวนจนหางยาวไปไกลลิบตา บนม้าต้นขบวนร่างกำยำงามสง่าในชุดแดงผ่าเผย นัยน์ตานิ่งลึกล้ำยากคาดเดา ยามปรายตาไปทางใดเหล่าบ่าวใช้ที่ติดตามเจ้านายจวนตระกูลไป๋ออกมาต้อนรับต่างเขินหน้าแดงเป็นลูกตำลึง ซือหมิงเหวี่ยงตัวลงจากอานม้าท่าทางงามสง่าเต็มไปด้วยอำนาจแม้วันนี้เขาจะยังคงท่าทาดุดันเข้าถึงยากอยู่แต่หากเป็นคนสนิทของซือหมิงย่อมมองออกมาเจ้านายของพวกเขานั้นนัยน์ตาเปล่งประกายเจิดจ้ากว่าวันใด และริมฝีปากบางนั่นก็หยักยกเล็กน้อยด้วยพอซือหมิงถูกเชิญเข้ามาในจวนเพื่อไปยังห้องโถงกลาง ก็พอดีกับที่นางกำนัลเจี่ยงจูงมือซูเมิ่งซึ่งมีผ้าสีแดงผืนใหญ่ปิดใบหน้าเดินออกมา ขนาดไม่เห็นหน้าตาซือหมิงยังรู้สึกใจเต้นแรงขึ้นมา เขามองเห็นเพียงทรวดทรงและท่าทางการเดินนั่นก็รู้สึกภาคภูมิใจเป็นไหน ๆ พอถึงย้อนไปคราที่เขาพบนางครั้งแรก ท่ามความมืดมิดในค่ำคืนหนึ่งในป่ากว้าง ร่างงามสง่าผิวข

  • เล่ห์รักบุปผาซ่อนพิษ   บทที่ 47

    #####บทที่ 47วันรุ่งขึ้นตื่นขึ้นมาร่างกายของซูเมิ่งก็เริ่มกลับมาปรกติแล้ว ความเจ็บปวดเมื่อตอนก่อนได้รับเทียบยาถอนพิษคลายลง ทำให้ร่างกายซูเมิ่งกลับมามีแรงอีกครา เมื่อคืนตอนที่นางนั่งคุยกับหยางเหวินทำให้ได้รู้ว่าหมอพิษคนที่ท่านหมอจูบอกว่าเป็นหมอกำจัดพิษที่เก่งที่สุดนั้นแท้จริงคืออาจารย์ผู้สอนหยางเหวินนั่นเอง จากคำกล่าวของหยางเหวิน เขาบอกว่าอาจารย์ของเขาผู้นี้รักความสงบมากมักจะเร้นกายไม่ให้คนขอพบได้ง่าย และเนื่องด้วยเขาอายุมากแล้วไม่แข็งแรงกำยำเหมือนสมัยหนุ่ม ๆจึงไม่รับรักษาคนอีก เหมือนว่าหยางเหวินจะคือลูกศิษย์คนสุดท้ายของเขา แต่แม้หยางเหวินจะได้รับการถ่ายทอดวิชาแต่ด้วยประสบการณ์ตรงในความรอบรู้เรื่องพิษต่าง ๆก็ไม่สู้อาจารย์ได้อยู่ดี แต่หยางเหวินอาจสามารถขอให้อาจารย์มารักษาซูเมิ่งได้เป็นกรณีพิเศษ นี่คือเหตุผลที่ซูเมิ่งคุยกับหยางเหวินจนดึกดื่นใครจะไม่ตื่นเต้นเล่าที่พบหนทางกำจัดพิษได้ นางไม่อยากเป็นสตรีอ่อนแออย่างนี้หรอกนะ ซูเมิ่งตื่นขึ้นมาอีกทีก็ยามเว่ยแล้ว ไป๋จื่อนำอาหารอ่อนเข้ามาให้ซูเมิ่งกินถึงหน้าเตียง พอทานเสร็จก็ขอร้องแกมบังคับให้นางนอนพักผ่อนต่ออีก แต่ด้วยความที่นางเพิ่งทานข้าวไป

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status