Share

บทที่ 4

Author: Karawek House
last update Last Updated: 2025-08-15 15:30:16

เสียงพิณหวานปนเศร้าดังขึ้นในวินาทีนั้น

เมื่อคนเป็นนักดนตรีบรรเลงเพลงได้สักพัก อัยน์นาก็สังเกตเห็นหยาดเหงื่อเม็ดโตค่อยๆ ผุดพรายบนใบหน้า เธลม่า แกรนเทรนท์ ทั้งๆ ที่ท่านผู้หญิงเจ้ากรมการเมืองคนนี้ มักฉาบเครื่องสำอางเอาไว้อย่างแน่นหนา

ดูท่า ท่านผู้หญิงเองก็คงเคยได้ยินนิทานเพลงเรื่องนี้มาก่อน

ภาคกลางมีท่านหญิงดอกกุหลาบทะเลทราย...           

มารดานางตายจากแต่ยังเยาว์

“หยุดนะ” เสียงสั่งจากภรรยาเจ้าบ้าน ทำเอานักแสดงทั้งสองหยุดชะงัก

แต่ก็เพียงครู่เดียวเท่านั้น เพราะทันทีที่การแสดงหยุดลง ขุนนางสูงวัยก็ออกคำสั่งให้รีบแสดงต่อทันที

“เอาใหม่ ร้องให้จบ” ท่านเจ้ากรมการเมืองสั่งเสียงเข้ม

ภาคกลางมีท่านหญิงดอกกุหลาบทะเลทราย

มารดานางชิงตายจากแต่ยังเยาว์

บิดามากภาระฝากแม่เลี้ยงเลี้ยงดูเจ้า

                เรื่องน่าเศร้าจึงเกิดขึ้นกับโฉมตรู

                “นี่มันอะไรกันคะ ริชาร์ด คุณเรียกกวีสกปรกนี่มาทำไม?” ท่านผู้หญิงแกรนเทรนท์กำมือแน่น ท่าทางจะโกรธจัด แต่ยังพยายามรักษาสมบัติผู้ดี

                “ฟังต่อให้จบ” ขุนนางสูงวัยสั่งเสียงเข้ม สีหน้าเครียด ดูเคร่งขรึม “นิทานเรื่องนี้กำลังเป็นที่นิยมเชียวล่ะ” เขาจ้องลึกลงในแววตาตื่นตระหนกของเธลม่าและลูกสาวคนโตกับคนรอง “รู้ไหม ตอนนี้พวกกวี นักขับลำนำ ตั้งแต่ในรั้วในวังยันย่านร้านค้า เขาพากันแต่งทำนองออกมาขับร้องกันให้วุ่น” ท่านเจ้ากรมการเมืองแค่นหัวเราะ ก่อนจะเอ่ยต่อไป “แม้แต่เด็กตัวเล็กๆ ยังร้องเพลงนี้ได้ด้วยซ้ำ”

                “นิทานเกี่ยวกับอะไรหรือคะ คุณท่าน” อัยน์นาถามหน้าซื่อ เธอใช้ดวงตาใสแจ๋วดั่งทารกจ้องมองตาบิดาสลับกับท่านผู้หญิงเจ้ากรมการเมืองและพี่สาวต่างมารดาทั้งสอง

                แล้วพริสซิลล่าก็สะบัดหน้าปรกปอยผมหยิกหยักศกสีทองส่องประกาย สีเดียวกับมารดาและน้องสาว หันมาแหวใส่เธอเป็นคนแรก

                “นิทานโกหกพกลมน่ะสิ ยัยขี้เถ้า!”

                พอเห็นพี่สาวเอ็ดขึ้นมา แอนนาเบลก็ทำท่าจะอ้าปากพูดเสริม แต่โดนท่านเจ้ากรมการเมืองขัดขึ้นเสียก่อน

                “เงียบ แล้วฟัง”

                นังขี้เถ้า นังขี้เถ้า นังขี้เถ้า!

นางแม่เลี้ยงย้อมกุหลาบด้วยขี้เถ้า

                เช้าใช้งานเย็นโยนเข้าห้องรูหนู

                จะเจ็บป่วยอย่างไรไม่ชายตาดู

                นางรู้แต่จะรัก แต่ลูกนาง

                ท่านหญิงขี้เถ้ามีพี่สาวอยู่สองศรี

                มีข้อดีที่งดงามดังเทพสร้าง

                แต่จิตใจอัปลักษณ์ทั้งสองนาง

                คอยกลั่นแกล้งถากถางกุหลาบงาม

นักขับลำนำยังคงเล่าเรื่องราวต่อไป แม้ดูเหมือนไม่มีผู้ฟังรายไหนชื่นชอบ

โดยเฉพาะท่านหญิงพริสซิลล่า นางถึงขั้นสบถบ่นอย่างลืมตัวบ่อยครั้ง ทำเอาบิดาต้องเหลียวมองตาเขียวเป็นระยะ

กว่าเรื่องเล่าที่นักขับลำนำของ เจ้ากรมการเมือง พกพามาจะจบลง ภรรยาและลูกสาวคนโตกับคนรองก็แทบจะประคองร่างให้นั่งตัวตรงไม่ไหว

“แม่ขี้เถ้า มาพัดให้ฉัน” คุณผู้หญิงของบ้านเผลอเรียกชื่อเล่นที่นางและลูกๆ ตั้งให้อัยน์นาอย่างลืมตัว พอนึกได้ว่าเผลอพูดอะไรออกไปต่อหน้าสามีและคนนอก ก็รีบแก้ตัวอย่างหัวเสีย “โอ้ย! ตาย! ขอโทษเถอะอัยน์นา ฉันคงไม่สบาย เลยเบลอจนเอาชื่อเรียกในนิทานนั่นมาเรียกเธอ” นางโบกพัดในมือกวาดลมใส่หน้าเสียเอง “ใช่ว่าจะอยากเป็นแม่เลี้ยงใจร้ายเหมือนในเรื่องเล่าหรอกนะ ฉันรึ ออกจะรักลูกเท่ากัน” นางแก้ตัวเป็นพัลวัน

“ท่านผู้หญิงอยากให้อัยน์นาไปตามท่านหมอไหมคะ” คนเป็นลูกเลี้ยงถามด้วยสีหน้าเป็นห่วงยิ่ง ทำเอานักขับลำนำกับนักดนตรีเผลอยิ้มเศร้า เหมือนเอ็นดูปนสงสาร

“ท่านผู้หญิงไม่เป็นอะไรนักหรอก” ท่านเจ้ากรมการเมืองบอกปัด ความขุ่นข้องหมองใจอัดแน่นในน้ำเสียง

ชายสูงวัยกวาดสายตามองภรรยาและลูกสาวทั้งสามแล้วทอดถอนใจเหนื่อยหน่าย

“ขอบใจที่มาวันนี้” เขาหันไปบอกนักขับลำนำกับสหายนักดนตรี “ข้างนอกมีทหารรออยู่ พวกเขาจะเอารถม้าออกไปส่งให้จนถึงที่พัก”

ขุนนางสูงวัยรอจนคนนอกครอบครัวออกไปจนหมด จึงเริ่มพูดเรื่องน่าหนักใจ

“ท่านผู้หญิง พริสซิลล่า แอนนาเบล ได้ยินนิทานเพลงนั่นชัดแล้วใช่ไหม ฟังเรื่องเล่านั่นแล้ว รู้สึกยังไงบ้าง”

แอนนาเบลส่ายหน้าสะบัดผมสีทองเหยียดตรงไปมาอย่างไม่ยี่หระ แล้วโพล่งออกมาทันควัน “ก็ไม่รู้สึกยังไงนี่คะ แค่นิทานไร้สาระ”

“ไร้สาระหรือ...” ท่านเจ้ากรมการเมืองเอ่ยอย่างสะกดอารมณ์ “ลูกฟังแล้วไม่รู้สึกคุ้นหูบ้างรึ?”

“คุณพ่ออยากจะพูดอะไรกันแน่” พริสซิลล่าเชิดหน้าใส่บิดา เหมือนท้าทายให้เอ่ยออกมาตรงๆ

“เลิกใจร้ายกับอัยน์นาได้แล้ว”

“ฉันกับลูกไม่เคยใจร้ายกับเด็กนี่” เธลม่าเถียงทันควัน “ไอ้พวกชั้นต่ำมันเล่าลือกันไปเอง ทุเรศนัก เที่ยวหยิบเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปใส่สีตีไข่กันให้วุ่น!”

“ฉันเหมือนคนหูหนวกตาบอดรึ?” ท่านเจ้ากรมการเมืองถามภรรยาสีหน้าถมึงทึง “ที่ผ่านมา ฉันก็พอรู้ ว่าเธอกับลูกไม่ชอบใจอัยน์นานัก แต่ฉันก็เคยบอกแล้วไม่ใช่รึ เด็กคนนี้ไม่ผิดที่ไม่ได้เกิดเป็นลูกท่านผู้หญิง มันเป็นสิ่งที่อัยน์นาเลือกไม่ได้”

“อ๋อ ใช่สิ” นางแหวใส่สามีทันที “เพราะคนที่เลือกทำให้มันเกิดก็คือคุณ คนที่เลี้ยงมันไว้ในคฤหาสน์ก็คือคุณ คนที่มีสัมพันธ์กับนางทาสเชลยก็คือคุณ!”

เธลม่า! ขุนนางสูงวัยเอ็ดเสียงดังอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทำเอาพริสซิลล่ากับแอนนาเบลสะดุ้งเฮือก

“ปกป้องมันเหรอคะ” คนโดนเอ็ดลุกขึ้นยืนท้าทาย “อย่าลืมนะคะ ว่าที่คุณสุขสบายอยู่อย่างทุกวันนี้น่ะ เป็นเพราะใคร!”

“ฉันพูดก็เพื่อเธอกับลูก!” ท่านเจ้ากรมการเมืองตวาดเสียงดังลั่น “เปิดหูเปิดตาดูเสียมั่งสิ ผู้คนเขามองพวกเธอยังไงบ้าง! พริสซิลล่ากับแอนนาเบลไม่ได้อัปลักษณ์ อายุทั้งคู่ออกเรือนได้นานแล้ว แต่กลับไม่มีชายหนุ่มที่ไหนอยากสู่ขอ! ส่วนเธอ เธลม่า เธอเป็นถึงท่านผู้หญิงเจ้ากรมการเมืองแต่กลับถูกคนซุบซิบนินทาเป็นที่สนุกปาก ชอบรึ! หึ! แม่เลี้ยงใจยักษ์ กับพี่สาวชั่วร้าย งามหน้าไหมล่ะ!”

“ก็ใครใช้ให้แม่นี่สำออยนัก!” นางหันมาแหวใส่อัยน์นาผู้ได้แต่ยืนนิ่งอย่างไร้ปากเสียง

นั่นทำให้ความอดทนท่านเจ้ากรมการเมืองถึงขีดสุด

“ยังจะโทษคนอื่นอีกรึ! พอมีเรื่องขึ้นมาก็ดีแต่โทษคนอื่น ไม่รู้จักย้อนดูตัวเอง!” พริสซิลล่าจะเถียงแทนแม่ แต่ท่านเจ้ากรมการเมืองทุบโต๊ะดังปึง ดักคอไว้ “ฟัง! นับตั้งแต่พรุ่งนี้ไป พวกเธอสามคนต้องดีต่ออัยน์นาให้มากกว่านี้ ที่ผ่านมาฉันอาจจะไม่เคยปรามอย่างจริงจัง เป็นความผิดฉันเอง แต่นับจากวินาทีนี้ นับจากตอนนี้ ถ้ามีใครปฏิบัติตัวไม่เหมาะสม ฉันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด!”

“ข่มขู่กันเหรอคะ” เธลม่าถามเสียงสั่น ใบหน้าฉาบเครื่องสำอางขึ้นสี ไม่รู้ว่าโกรธหรืออับอายมากกว่ากัน

“ฉัน ทำ เพื่อ พวก เธอ” ขุนนางสูงวัยเอ่ยเน้นถ้อยเน้นคำ “ต่อไปนี้ เธอต้องปฏิบัติเหมือนอัยน์นาเป็นลูกสาวแท้ๆ คนหนึ่ง พริสซิลล่ากับแอนนาเบลต้องทำตัวดีให้สมกับที่เป็นพี่สาว พวกเราจะพาเด็กคนนี้ออกงานสังคม กอบกู้ชื่อเสียงเธอกับลูกสาวเรา”

“จะให้ยกย่องมันออกหน้าออกตาเหรอคะ”

“หรือเธออยากให้ผู้คนเขาชิงชังหยามหยันตระกูลเราอยู่แบบนี้” คำถามนั้นทำเอา ‘ท่านผู้หญิงเจ้ากรมการเมือง’ เถียงไม่ออก

“ก็ได้...” นางยอมแพ้ในที่สุด “เราจะพาเด็กนี่ไปเปิดตัวเพื่อแก้ข่าว” นายหญิงของคฤหาสน์กัดริมฝีปากแน่นก่อนเอ่ย “ขอแสดงความยินดีด้วย อัยน์นา นับจากนี้ เธอจะได้ไปงานเลี้ยงทุกงานที่พวกเราไปจนกว่าเรื่องนี้จะซาลง เริ่มจากงานเลี้ยงที่คฤหาสน์ท่านเจ้ากรมการคลังในอีกหนึ่งสัปดาห์ข้างหน้านี่ล่ะ”

“ไม่ได้นะคะ!” พริสซิลล่ากับแอนนาเบลแหวใส่มารดาอย่างพร้อมเพรียง

“ลูกได้ข่าวว่า ไซรัส พ่อค้ารูปงามจากต่างแดนอาจไปร่วมงาน” พริสซิลล่าบอกเสียงแหลม

“แล้วท่านคาร์ล ญาติผู้น้องที่เพิ่งย้ายมาจากต่างแดนของท่านเจ้ากรมการคลังก็ต้องมาร่วมงานด้วยแน่” แอนนาเบลกล่าวเสริม

“รู้อะไรไหม พ่อของลูกพูดถูก ปัญหาของลูกทั้งคู่ไม่ได้อยู่ที่หน้าตา ในเมื่อปัญหาไม่ได้อยู่ที่รูปลักษณ์ ต่อให้พาแม่นี่ไปด้วยแล้วจะทำไม”

“แต่...” พริสซิลล่าทำท่าจะขัด แต่ก็พูดอะไรไม่ออก

“เอาตามนี้แหละ” เธลม่าทิ้งตัวลงนั่ง วางท่าเป็นคุณผู้หญิง “แต่งตัวให้มิดชิด ห้ามเที่ยวหว่านเสน่ห์ไปทั่วเด็ดขาด” นางกำชับลูกเลี้ยงเสียงดุ “จำไว้ให้ดีเชียว ถึงฉันจะยอมให้หล่อนไปออกงานสังคมด้วยกัน ก็ใช่ว่าฉันจะยอมให้หล่อนเป็นแกรนเทรนท์ด้วยหรอกนะ” ท่านผู้หญิงเจ้ากรมการเมืองตวัดหางตาคมกริบไปที่สามี “อย่าลืมเชียวล่ะ เคยลั่นวาจาไว้แล้วนะคะ ว่าเด็กนี่จะไม่มีวันเทียมเท่าพริสซิลล่ากับแอนนาเบล มีแค่เรื่องนี้เท่านั้น ที่ดิฉันจะไม่ยอมลดราวาศอกเด็ดขาด”

แต่เพียงเท่านั้น อัยน์นาก็พอใจ

หญิงสาวซ่อนความรู้สึกนั้น ก่อนออกปากถามบิดา

“จะดีเหรอคะคุณท่าน”

“ดีต่อทุกคนที่สุดแล้ว” ตอบแล้วท่านเจ้ากรมการเมืองก็ถอนหายใจยาว แววตาเขายามจ้องมองเธอ มีส่วนผสมของความเวทนาสงสารและความรักใคร่อยู่ในนั้น

“แต่...ดิฉันไม่มีเครื่องแต่งกายที่เหมาะสม” เธอบอกอย่างเศร้าสร้อย

“ท่านผู้หญิงจะช่วยดูแลเธอเอง”

“เรื่องจะให้ตัดเสื้อผ้าใหม่คงไม่ทัน” นายหญิงของคฤหาสน์บอกเสียงเรียบ “พริสซิลล่ากับแอนนาเบลมีเสื้อผ้าเหลือใช้เป็นกุรุส แต่ละชุดเคยใช้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น เธอใส่ชุดไหนได้ก็ไปเลือกมาใส่ก็แล้วกัน”

“คราวหน้าเราจะจัดหาเครื่องแต่งกายที่เหมาะสมให้เธอ” ขุนนางสูงวัยเอ่ยคล้ายต้องการปลอบใจ

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ดิฉันเป็นแค่ผู้ติดตาม ได้ใช้เสื้อผ้าสวยๆ ของท่านหญิงพริสซิลล่า กับท่านหญิงแอนนาเบลก็นับว่าดีมากแล้ว”

“ไม่สั่งให้จัดหาเครื่องประดับให้แม่นี่ซะด้วยเลยล่ะคะ” พริสซิลล่ากระแทกเสียงใส่อย่างหมั่นไส้ ว่าจบบุตรสาวคนโตของคฤหาสน์ ก็ดึงมือแอนนาเบลให้ลุกจากที่นั่ง “ถ้าคุณพ่อไม่มีธุระอื่นแล้ว ลูกกับน้องสาวก็ขอตัว” เจ้าหล่อนจิกตาใส่น้องต่างมารดาทิ้งท้าย

แม้จะรู้ดีว่าหลังจากนี้ พริสซิลล่า แอนนาเบล และเธลม่า แกรนเทรนท์ อาจหาเรื่องเสียดสีกลั่นแกล้งเธอ แต่อัยน์นากลับพึงพอใจมากกว่าหวาดกลัวหรือขุ่นเคือง

คนตื้นเขินก็คิดได้แต่เรื่องตื้นเขิน อยากทำร้ายคนอื่นแต่กลับทำลายตัวเองโดยไม่รู้ตัว...

ต่อให้เธอไม่ทำอะไรเลย คนทั้งสามก็จะทำลายชื่อเสียงตัวเองจนย่อยยับอยู่ดี

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เล่ห์รักเจ้าชายอสูร   บทที่ 8

    รถม้าสีดำสนิทเทียมม้าขาวลักษณะดีเคลื่อนผ่านประตูรั้วเหล็กดัดแสนกว้างขวาง มุ่งหน้าเข้าหาคฤหาสน์หลังเขื่อง ซึ่งซุกตัวอยู่ท่ามกลางสวนวงกตและพันธุ์ไม้ไร้ดอกอย่างเชื่องช้า ทันทีที่รถม้าเคลื่อนถึงประตูทางเข้าคฤหาสน์ ไซรัสก็พบว่าเจ้าบ้านจัดให้คนรับใช้และทหารในสังกัดออกมายืนเรียงแถวรอต้อนรับแขกที่ได้รับเชิญอย่างเป็นระเบียบ ทันทีที่รถม้าจอดสนิท ลูคัสก็รีบถือกล่องของกำนัลลงจากรถม้า แล้วยืนรอไซรัสด้วยท่าทีเคารพยิ่ง “ไซรัส เจ้าของกิจการอัญมณีและแพรพรรณ” ไซรัสแนะนำตัวสั้นๆ ให้ชายเครางามที่ดูคล้ายจะเป็นหัวหน้าคณะต้อนรับแขก แล้วชายคนนั้น ก็ขานชื่อเขาเสียงดังกังวาน “ไซรัส เจ้าของกิจการอัญมณีและแพรพรรณ ผู้ปราดเปรื่องและกว้างขวาง” ประโยคนั้นดึงความสนใจจากแขกเหรื่อได้ทั้งงาน ไม่ทันที่คนรับใช้ชายจะนำทางไซรัสเดินเข้าข้างใน นายทหารร่างท้วมที่เคยได้รับแหวนเพชรเป็นของกำนัลก็รีบปราดเข้ามาจับมือทักทายเขาอย่างสนิทสนม “มาเสียที” เขาสวมกอดไซรัสราวกับเป็นมิตรสหายที่รักใคร่กันมานาน “ไป ไปพบท่านเจ้ากรมการคลังกับคนอื่นๆ กั

  • เล่ห์รักเจ้าชายอสูร   บทที่ 7

    ภายในห้องโดยสารบนรถม้า ไซรัสเคาะบัตรเชิญงานเลี้ยงที่คฤหาสน์เจ้ากรมการคลังในมือไป ภายในใจก็จินตนาการภาพงานเลี้ยงระดมทุนไป ยิ่งจินตนาการมากเท่าไหร่ก็ยิ่งสงสัย ว่าคืนนี้ เขากับ ลูคัส ที่วันนี้รับบทผู้ติดตาม จะต้องอดทนเข้าสังคมชั้นสูงของเวเนเซียนานแค่ไหน พ่อค้าหนุ่มเหลียวมองผู้ติดตามที่นั่งตัวเกร็งอยู่บนที่นั่งฝั่งตรงข้ามแล้วเหยียดยิ้ม อดคิดไม่ได้ว่า ถ้าแม้แต่ลูคัสที่ดูจะมีท่าทีสงบ คุ้นชินเรื่องวิถีชนชั้นสูงที่สุดในบรรดาผู้ติดตามทั้งหมด แถมยังเข้ากันกับลูกค้าชั้นสูงได้อย่างดีเยี่ยม ยังรู้สึกอึดอัดกังวลได้ขนาดนี้ คำเล่าลือที่ว่าอาณาจักรนี้เป็นอาณาจักรบ้าพิธีรีตองจนน่าเบื่อ คงเป็นเรื่องจริง“ทำใจให้สบายเถอะ ถ้าอึดอัดก็เดินเข้าไปในงานแค่พอเป็นพิธี ทนไม่ไหวเมื่อไหร่ก็หลบออกมานั่งรอที่รถม้าก็ได้” ไซรัสบอกผู้ติดตามเรียบๆ เรียกรอยยิ้มโล่งใจให้ผุดพรายบนใบหน้าคนฟังท่ามกลางความเงียบงันในบทสนทนา รถม้าเนื้อไม้สีดำสนิท แกะสลักขอบบนและล่างตัวห้องโดยสารด้วยลวดลายคล้ายน้ำเต้า...ผลไม้จากแดนใต้เรียงซ้อนกันเป็นแถวตามแนวยาว เคลื่อนไปตามถนนปูอิฐอย่างไม่เร่งรีบ ส่งผลให้ผู้โดยสารทันได้ยินเสียงน

  • เล่ห์รักเจ้าชายอสูร   บทที่ 6

    ไซรัสนึกภาพตามได้ไม่ยาก “แล้วเรื่องนั้นมีมูลความจริงสักกี่มากน้อย?” “ไม่มีมูลเลยสักนิด” อารีตอบโดยไม่ต้องคิด “หลังรู้ข่าวว่าผู้หญิงคนนั้นโดนเผาทั้งเป็น คงเพราะค้างคาใจ ลูคัสถึงได้ค่อยๆ เลียบๆ เคียงๆ ถามผู้คนไปทั่ว เจ้านั่นเที่ยวสืบเสาะจนรู้ว่าพยานที่มาให้การล้วนเป็นพวกละโมบโลภมาก ส่วนหลักฐานที่พวกเขาใช้ปรักปรำผู้หญิงโชคร้ายนั่นก็เป็นข้าวของที่ไม่เคยมีใครในหมู่บ้านรู้เห็นว่าเป็นของผู้หญิงคนนี้...พยานคนหนึ่งยังเคยหลุดปากพูดตอนลูคัสหลอกเลี้ยงเหล้า ว่าเมื่อไม่นานมานี้เพิ่งมีลาภลอย เพราะจู่ๆ ก็มีคนที่เขาเองก็ไม่รู้ว่าใครมาจ้างวานให้ไปให้การคดีที่เขาไม่รู้เรื่องอะไรด้วย...แค่ยอมไปตอบว่า ‘ใช่ขอรับ’ เท่านั้น ก็ได้ของมีค่ามากมาย” “ช่างหยาบช้าดีแท้” ไซรัสออกความเห็นเรียบๆ สีหน้าไม่ทุกข์ไม่ร้อน “ตอนนี้มนุษย์ประนามว่าสิ่งมีชีวิตที่ครอบครองดินแดนเร้นลับหลังแนวเขาเป็นปีศาจร้ายกาจจอมเจ้าเล่ห์ พอได้ยินเจ้าพูดแบบนี้แล้ว ก็อดคิดไม่ได้ ว่าใครกันแน่ที่ชั่วร้ายมากเล่ห์กว่ากัน” พูดแล้วไซรัสก็อดนึกถึงสภาพน่าขันของโลกนี้ไม่ได้ทั้งๆ ที่โลกนี้มีสิ่งมีชีวิตอื่นอี

  • เล่ห์รักเจ้าชายอสูร   บทที่ 5

    “ไม่น่าเชื่อ ว่าพวกนั้นจะยอมง่ายๆ” เสียงจากอารี เรียกให้ชายร่างสูงท่าทีภูมิฐานในห้องทำงานเรียบหรูดูกว้างขวาง ละความสนใจจากเอกสารบัญชีเขาวางปากกาหมึกซึมด้ามจับเงางาม เงยหน้ามองชายผิวสีตรงหน้า แล้วขยับริมฝีปากหยัก ดูคมคาย ถามด้วยท่าทีสงบนิ่งดั่งรูปปั้น“พวกพ่อค้าอัญมณีรายย่อยทั้งหมดตอบรับแล้วใช่ไหม”“ทุกอย่างเป็นไปตามที่ท่านต้องการ มีสองสามรายลังเลไม่อยากเซ็นชื่อในสัญญาค้าขายกับท่านเพราะระแวงว่าวิธีการที่ท่านกำหนดให้กระจายสินค้าจะทำให้พวกเขาเสียประโยชน์ แต่พอข้าจะขอตัวกลับเท่านั้น พวกเขาก็รีบตอบรับ ยอมเซ็นสัญญาทันที”อารีตอบพลางก้าวเข้ามายื่นปึกหนังสือสัญญาให้เขา“ไม่เปิดม่านรึ?” ชายผิวสีถามพลางเหลียวมองม่านสีดำหนาทึบด้วยความประหลาดใจ “ท่านนี่ก็แปลก ฝั่งตรงข้ามมีหอนางคณิกาเลื่องชื่อ มีสาวๆ สวยๆ อยู่นับไม่ถ้วน กลับไม่ชายตาแลสักนิด พวกนางรึออกจะคอยสอดส่องมองท่านอยู่เนืองๆ โดยเฉพาะซามีร่า ดูท่านางจะพึงใจท่านไม่น้อย ลือกันว่าถ้าภายในหนึ่งเดือนหลังจากนี้ท่านไม่ชายตาแล นางจะงัดเอายาปลุกกำหนัดที่ช่วงนี้ซื้อขายกันลับๆ ในตลาดมืดมามอมเมาท่านทีเดียว”“ผู้หญิงมักมาพร้อมเรื่องยุ่งยาก” เจ้าของห้องต

  • เล่ห์รักเจ้าชายอสูร   บทที่ 4

    เสียงพิณหวานปนเศร้าดังขึ้นในวินาทีนั้นเมื่อคนเป็นนักดนตรีบรรเลงเพลงได้สักพัก อัยน์นาก็สังเกตเห็นหยาดเหงื่อเม็ดโตค่อยๆ ผุดพรายบนใบหน้า เธลม่า แกรนเทรนท์ ทั้งๆ ที่ท่านผู้หญิงเจ้ากรมการเมืองคนนี้ มักฉาบเครื่องสำอางเอาไว้อย่างแน่นหนาดูท่า ท่านผู้หญิงเองก็คงเคยได้ยินนิทานเพลงเรื่องนี้มาก่อน‘ภาคกลางมีท่านหญิงดอกกุหลาบทะเลทราย... มารดานางตายจากแต่ยังเยาว์’“หยุดนะ” เสียงสั่งจากภรรยาเจ้าบ้าน ทำเอานักแสดงทั้งสองหยุดชะงักแต่ก็เพียงครู่เดียวเท่านั้น เพราะทันทีที่การแสดงหยุดลง ขุนนางสูงวัยก็ออกคำสั่งให้รีบแสดงต่อทันที“เอาใหม่ ร้องให้จบ” ท่านเจ้ากรมการเมืองสั่งเสียงเข้ม‘ภาคกลางมีท่านหญิงดอกกุหลาบทะเลทรายมารดานางชิงตายจากแต่ยังเยาว์บิดามากภาระฝากแม่เลี้ยงเลี้ยงดูเจ้า เรื่องน่าเศร้าจึงเกิดขึ้นกับโฉมตรู’ “นี่มันอะไรกันคะ ริชาร์ด คุณเรียกกวีสกปรกนี่มาทำไม?” ท่านผู้หญิงแกรนเทรนท์กำมือแน่น ท่าทางจะโกรธจัด แต่ยังพยายามรักษาสมบัติผู้ดี “ฟังต่อให้จบ” ขุนนางสูงวัยสั่งเสียงเข้ม สีหน้าเครียด ดูเคร่งขรึม “นิทานเรื่องนี้กำลังเป็นที่นิยมเชียวล่ะ

  • เล่ห์รักเจ้าชายอสูร   บทที่ 3

    เธอทำสำเร็จ อัยน์นาแน่ใจว่าอย่างนั้นตั้งแต่วินาทีที่หญิงรับใช้ในคฤหาสน์มาแจ้งว่าท่านเจ้ากรมการเมือง ริชาร์ด แกรนเทรนท์ ประกาศเรียกตัวเธอ กับท่านผู้หญิงเธลมา แกรนเทรนท์ และสองศรีพี่สาวต่างมารดาของเธออย่างท่านหญิงพริสซิลล่ากับท่านหญิงแอนนาเบล ให้ไปรวมตัวกันที่ห้องหนังสือ เพื่อฟังนิทานที่นักขับลำนำคนหนึ่งพกพามายังคฤหาสน์แม่คะ...ดูอยู่ใช่ไหม เธอถามภาพหญิงสาวอ่อนเยาว์ คิ้วเรียวเข้ม ตาคม ริมฝีปากรูปกระจับสีแดงระเรื่อดูอิ่มสวยเหมือนกลีบกุหลาบแรกแย้ม ไม่เพียงใบหน้าดูงดงามสมบูรณ์แบบเหมือนภาพวาด สตรีในสายตาเธอมีเส้นผมสีดำสนิทยาวหยักศกทิ้งตัวอย่างเป็นระเบียบจรดบั้นท้าย มองแล้วชวนให้นึกถึงนางพรายผิวขาวผ่องในตำนานของนักเดินเรืออัยน์นาไม่เคยเห็นหน้าแม่ แต่เธอคิดว่าแม่ผู้ให้กำเนิดคงหน้าตาไม่ต่างจากภาพสะท้อนในกระจกเงาตรงหน้าสักเท่าไหร่...“คุณหนูจะแต่งตัวแบบนี้จริงๆ เหรอคะ” หญิงรับใช้ถามเสียงเครียด “คุณท่านกำชับให้ดิฉันจัดหาเสื้อผ้าที่เหมาะสมให้คุณหนูสวมก่อนไปพบท่านนะคะ”“ทำไมล่ะคะ”‘คุณหนู’ ลดสายตาลงมองชุดกระโปรงยาวสีขาวประดับลูกไม้ขาดๆ ด้วยแววตาเหมือนกวางน้อย ดวงตาอ่อนโยนคู่นั้นช่างดูซื่อใส เหมือ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status