แชร์

chapter 9

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-01 21:14:18

“มีอะไรให้ฉันช่วย บอกได้นะมัดหมี่” ฟารฮานถามยิ้มๆ แขนใหญ่กอดรัดร่างบอบบางและดึงเข้ามาแนบชิดและช่วยดึงตัวผ้าออกจากซิปเบาๆ แต่ริมฝีปากก็ยังวนเวียนหากำไรประพรมจุมพิตจากบ่ากว้าง ขึ้นไปตามลำคอระหง และประทับบนเรียวปากนุ่มที่กำลังจะส่งเสียงร้องห้าม

ริมฝีปากหนานุ่มขบเม้มริมฝีปากอิ่มเต็ม ปลายลิ้นสากระคายค่อยๆ ลากไล้และซอกซอนเข้าไปในเรียวปากนุ่มอิ่มเต็ม มือใหญ่จับแขนเรียวยาวที่พยายามดันร่างกายหนาแกร่งให้ออกห่างไพล่หลัง ปลายนิ้วไล้วนข้อมือสลับกับสะโพกกลมมน อีกมือขยับเคลื่อนไปตามลำขาเรียวยาว ขยำบีบต้นขาเสลา ความร้อนผ่าวแผ่ซ่านไปทั่วร่างจนต้องรีบระงับอารมณ์ปรารถนาที่กำลังปะทุเหมือนไฟกำลังเผาไหม้ให้คงที่ ก่อนที่จะทนไม่ไหวจนต้องรักปิยาพัชรเสียตรงนี้

แขนใหญ่โอบรัดรอบเรือนกายบอบบาง ขบกัดฟันจนได้ยินเสียงดังกรอด ใบหน้าซบกับซอกคอระหง ค่อยๆ ผ่อนลมหายใจลมหายใจหอบแรงเข้าออกอย่างช้าๆ จนกลับเป็นปกติ

“รีบเข้าไปในงานดีกว่ามัดหมี่ ก่อนที่ฉันจะทนไม่ไหวรักเธอตรงนี้เลย แล้วอย่างลืมนะสาวน้อยคืนนี้เจอกันหลังงานเลิก” สองมือใหญ่ดันร่างบอบบางเดินออกจากมุมอับ แต่ตัวเองยังคงยืนอยู่ตรงนั้นมองสาวน้อยปิยาพัชรเดินแกมวิ่งลับหายเข้าไปในห้องบอลลูม

จันฑีรานั่งกระสับกระส่าย พลางกวาดสายตามองหาร่างเพื่อนรักที่หายไป บอกว่าจะไปห้องน้ำแต่กลับหายตัวไปนานจนน่าสงสัย

“แกไปห้องน้ำหรือว่าแกไปตกถังส้วมกันแน่ยัยมัดหมี่ ทำไมป่านนี้ถึงยังไม่มาฮึ” ริมฝีปากอวบอิ่มขยับขึ้นและลงอย่างน่ามอง แล้วเมื่อเห็นว่าเพื่อนสาวหายตัวไปนานเกินไปแล้วก็เลยตัดสินใจที่จะตามไปดู เผื่อที่ว่าเพื่อนรักอาจต้องการความช่วยเหลืออยู่ก็เป็นได้

อินซอฟที่เฝ้าจับตามองสาวน้อยในชุดสีเหลืองทองคนนี้มานานแล้ว เมื่อเห็นว่าร่างบอบบางกำลังขยับเก้าอี้จะลุกขึ้น ด้วยเกรงกลัวว่าจะเป็นการไปรบกวนนายหนุ่มที่คงจะกำลังพูดคุยหาความสุขส่วนตัวอยู่กับสาวน้อยนามมัดหมี่ เลยพาร่างกายหนาใหญ่ของตัวเองมายืนใกล้ๆ พร้อมเอ่ยทักด้วยน้ำเสียงที่คิดว่านุ่มนวลที่สุดแล้ว

“สวัสดีครับ”

จันฑีราแหงนหน้าขึ้นและรีบตีหน้ายักษ์อย่างลืมไปว่าตอนนี้บนใบหน้าเธอมีหน้ากากปีกนกสีเหลืองทองปกปิดอยู่ เมื่อเห็นมือใหญ่จับขอบเก้าอี้เคลื่อนออกพร้อมกับนั่งลงใกล้ๆ ใบหน้าสวยเชิดขึ้นสูงและขยับกายหันไปอีกด้าน

“จะรีบไปไหนล่ะครับคุณ...อยู่คุยกันก่อนซิ” มือใหญ่เอื้อมไปวางทับบนมือเรียวขาวที่กำกระเป๋าสตางค์ใบเล็กบนตักแน่นจนเส้นเอ็นปูดโปนออกมาให้เห็น อีกทั้งใบหน้าที่ถึงแม้จะซุกซ่อนอยู่ใต้หน้ากากไปครึ่งหนึ่ง แต่ก็ยังสามารถมองเห็นประกายโกรธที่แวบออกมาจากดวงตา และใบหน้าก็เริ่มแดงตลอดไปจนถึงลำคอระหง

อืม...เป็นอย่างเช่นที่นายบอกไว้ แม่สาวตรงหน้าท่าทางดุร้ายและร้อนแรงไม่เบา ไม่รู้ว่ายามที่เธออยู่บนเตียงกับเขาจะกลายเป็นนางแมวยั่วสวาทหรือเปล่านะ

ใบหน้าคมคร้ามแต่งแต้มด้วยรอยยิ้มจนดวงตาพราวระยับด้วยความพอใจ ปลายนิ้วยาวใหญ่ลากไล้เบาๆ บนมือเล็กเรียว

ริมฝีปากอวบอิ่มขบเม้มอย่างแรง หัวใจเต้นแรงและเร็วตามเส้นเลือดที่มันสูบฉีดด้วยความโกรธและไม่พอใจกับพฤติกรรมจาบจ้วงและเห็นแก่ตัวของผู้ชายที่เธอยังไม่รู้จัก มือเล็กเรียวรีบสะบัดออกและถลาลุกอย่างเร็ว จนเก้าอี้เกือบจะล้มกองกับพื้น แต่ก็ดีที่ได้แขนใหญ่จับรั้งเอาไว้ได้ทัน ก่อนที่เหตุการณ์ทุกอย่างจะกลายเป็นจุดสนใจของหลายๆ คนที่นั่งหรือเดินผ่านไปผ่านมา

อินซอฟไม่ยอมให้แม่สาวน้อยในชุดเหลืองทองหนีหายได้ดังใจ ร่างหนารีบเดินตามไปและเพียงแค่ก้าวยาวๆ เพียงแค่สองสามก้าวก็เดินตามทัน แต่ก็เพียงแค่เดินตามไปเฉยๆ อย่างไม่สนใจว่าหญิงสาวจะไม่ชอบใจแล้วยังตวัดสายตาคมกริบราวกับใบมีดโกนส่งมาให้อีกสองสามครั้ง

จะตามมาทำไมนะไอ้บ้านี่ ลมหายใจหอบแรงด้วยความโกรธเกรี้ยวและเริ่มมีความรู้สึกกลัวๆ จุดขึ้นในหัวใจก่อนจะขยายลามไปทั่วเรือนกายอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นว่าร่างใหญ่เดินตามมาติดๆ และเพียงแค่มือเรียวดันประตูให้เปิดออกและก้าวออกไปจากห้อง

มือแกร่งคว้ามือเรียวและดึงเอาร่างบอบบางเข้าแนบชิดกาย อีกมือก็ยกขึ้นปิดปากอวบอิ่มไว้ได้ทันก่อนที่หญิงสาวจะร้องขอความช่วยเหลือ ร่างหนารัดร่างบอบบางและพาเดินไปด้านหลังตึกซึ่งเป็นที่มืด

ดวงตากลมโตเบิกกว้างและเหลือกถลนด้วยความกลัว หัวใจเต้นแรงเร็วราวกับจะทะลุออกจากอกสลับกับอ่อนแรงหวิวๆ เหมือนกับคล้ายจะเป็นลม อีกทั้งลมหายใจก็หอบแรง สองมือสองเท้าเย็นเฉียบ พยายามยกขึ้นประทุษร้ายเพื่อเอาตัวรอดจากน้ำมือผู้ชายที่ไม่เคยรู้จัก ในใจก็เฝ้าภาวนา

ใครก็ได้ช่วยลูกด้วย อย่าให้ไอ้บ้านี่มันทำอะไรลูกเลย

มือใหญ่คลายออกพอให้จันฑีราค่อยๆ คลายความกังวลและหวาดกลัวออกไปได้เล็กน้อย แต่แล้วดวงตากลมโตก็เบิกกว้างขึ้น เมื่อความร้อนผ่าวประดุจถ่านไฟทาบลงบนเรียวปากนุ่มอิ่มเต็ม ตั้งแต่เกิดมาจนถึงตอนนี้อายุก็ปาไปเกือบจะยี่สิบสามปีแล้ว ยังไม่เคยถูกใครจูบเลยสักครั้ง แต่วันนี้กลับต้องมาเสียท่าให้กับใครก็ไม่รู้

“อื้อ...อื้อ...” ใบหน้าขาวหอมกรุ่นส่ายหนีริมฝีปากอุ่นร้อน พยายามดึงมือออกจากคีมเหล็กที่จับไว้ สองเท้าก็พยายามบดเบียดส้นเท้าลงไปบนเท้าใหญ่ แต่ก็ดูเหมือนว่าจะถูกรู้ทันไปเสียทุกอย่าง ขาแข็งแกร่งสอดแทรกเข้าไประหว่างสองขาเรียวยาว กดตรึงไว้ด้วยความแข็งแกร่งที่เหนือกว่าให้ร่างบางอยู่กับที่ อีกทั้งมือใหญ่ก็จับตรึงปลายคางมนให้รับจุมพิตแผดร้อนอย่างถนัดถนี่

ปากหนาขบเม้มบนริมฝีปากนุ่ม มอบจุมพิตวาบหวามใจให้กับสาวน้อยที่อยู่ใต้ร่าง ปลายลิ้นสากระคายและร้อนผ่าวลากไล้วนเวียนพยายามสอดแทรกเข้าไปหาความหวานภายในโพรงปากนุ่ม แต่ดูเหมือนว่าแม่สาวน้อยชุดเหลืองทองจะไม่ยอมให้ความร่วมมือสักเท่าไหร่เลย

จันฑีราตัวสั่นด้วยไม่เคยเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นสาวที่ดูก๋ากั่น พูดจาหัวเราะหยอกล้อและรู้ทันผู้ชาย แต่ก็ไม่เคยให้ใครได้ไกลชิดถึงเพียงนี้ ร่างบอบบางพยายามขยับตัวแต่ยิ่งทำกลับยิ่งจมหายเข้าไปในอกกว้าง แล้วตอนนี้ก็รู้สึกเหมือนคนกำลังจะจมน้ำหายใจไม่ออก พยายามเบือนหน้าหนีแต่ก็ไม่พ้นเสียที

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เล่ห์ร้ายทรายสิเน่หา   chapter 112 - จบ

    “พาหม่อมฉันกลับมาอีกทำไม หม่อมฉันไม่อยากเห็นหน้าคนใจร้าย คนหลอกลวง”“ถ้าไม่ใจร้ายและหลอกลวงอีก จะอยู่ด้วยไหมล่ะ” น้ำเสียงนุ่มทุ้มและเว้าวอนทำเอาคนที่พยายามจะใจแข็งถึงกับสั่นระรัว ด้วยรู้ชะตาตัวเองดีตั้งแต่ถูกจับได้นั่นแหละว่าอาจหนีไม่พ้นอ้อมแขนใหญ่นี้ไปตลอดชีวิต“จะรู้ได้ไง พระองค์จะไม่หลอกหม่อมฉันอีก ทั้งพี่ทั้งน้องช่างวางแผนและเจ้าเล่ห์เหลือเกินนี่”“ใช้หัวใจแลกหัวใจไง”“เชอะ...คนอย่างองค์นาสเซอร์ ประมุขผู้ครองแคว้นซัลจาร์บาเมีย ชายหนุ่มที่มีผู้หญิงนับสิบอ๋อ...นับร้อยมากกว่าคอยถวายตัวเป็นข้ารองบาทน่ะหรือจะยอมหยุดอยู่ที่ผู้หญิงอย่างหม่อมฉันเพียงคนเดียว เชื่อตายละ” กัญญาพัชรยังคงปากแข็งแม้ใจจะยอมผ่อนตามไปเกือบจะครึ่งแล้ว“อ้าว...ทำไมล่ะ เราแตกต่างกับชายหนุ่มคนอื่นอย่างไร ถึงจะหยุดอยู่ที่ผู้หญิงเพียงคนเดียวไม่ได้น่ะ ผู้หญิงไม่ใช่สิ่งสำคัญเสมอไปในชีวิตนะมัดหวาย สำหรับเราเมื่อเราพบคนที่ใช่ เราก็พร้อมที่จะหยุดทุกอย่างไว้ที่เธอคนนั้นเพียงคนเดียว และตอนนี้เราก็คิดว่าเราพบนางคนนั้นของเราแล้ว”หัวใจดวงน้อยเต้นตึกตักๆ ไม่เป็นจังหวะ นาสเซอร์หมายถึงเธอใช่ไหม ‘ไม่นะมัดหวาย แกอย่าลืมซิว่าเขาหลอกลว

  • เล่ห์ร้ายทรายสิเน่หา   chapter 111

    “ไม่ใช่หรอกมัดหมี่ ถ้าเพียงแค่ความต้องการของผู้ชายคนหนึ่ง ฉันว่าเขาไม่ทำถึงขนาดนี้หรอก” ใบหน้าคมคร้ามแต่งแต้มด้วยรอยยิ้ม มือใหญ่จับมือเล็กเรียวมาวางบนแผงอกกว้างตรงที่มีหัวใจกำลังเต้นอยู่“สิ่งที่ฉันทำด้วยความเจ้าเล่ห์และร้ายกาจก็จริง แรกเริ่มมาจากเพียงแค่ความปรารถนาก็จริง แต่สิ่งหนึ่งนับจากวันแรกที่ฉันได้ครอบครองความบริสุทธิ์ของสาวน้อยคนนั้น มันเป็นคำสั่งมาจากหัวใจทั้งสิ้น” สองมือใหญ่จับรั้งใบหน้าขาวสวยให้จ้องเข้าไปในดวงตาคมกริบ“ฉันอยากจะบอกให้มัดหมี่รู้เหมือนกัน ฉัน...รัก...มัดหมี่”ปิยาพัชรแทบไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน ดวงตากลมโตเบิกกว้าง ริมฝีปากอ้าค้าง หากว่าไม่ถูกจับรั้งไว้ศีรษะทุยคงจะส่ายบอกว่าไม่เชื่อและไม่จริง แต่คำพูดที่หนักแน่น ดวงตาที่มั่นคงดุจดังภูเขาหินที่ไม่อาจพังทลายลงมาได้ ไม่ว่าจะเจอพายุร้ายเพียงใดเป็นคำตอบที่ชัดเจน และที่สำคัญคือหัวใจของเธอมันก็เลือกที่จะเชื่อคำพูดนั้นซะด้วยสองแขนเรียวโอบรอบกายแข็งแกร่ง “จริงๆ นะคะ คุณฟารฮานพูดจริงๆ นะคะ ไม่ได้หลอกให้มัดหมี่ดีใจเล่นนะคะ”“จริงซิ ฉันจะโกหกมัดหมี่ทำไมล่ะ เพราะรัก ฉันเลยต้องวางแผนการร้ายทุกอย่าง เพื่อส่งแม่สาวจอมหว

  • เล่ห์ร้ายทรายสิเน่หา   chapter 110

    “แสดงว่าพวกนายรู้แผนการของเราทุกอย่างเลยใช่ไหม แล้วรู้ได้ยังไง รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วทำไมถึงไม่ขัดขวางตั้งแต่ต้น”“เอาเป็นว่าฉันจะเล่าให้เธอฟังวันหลังนะ แต่วันนี้ขอฉันลงโทษคนที่ทำให้ใจเสียก่อนละกัน”ใบหน้าขาวสวยแย้มยิ้ม ดวงตาเป็นประกายพราวระยับ สองแขนเรียวยกขึ้นโอบรอบลำคอแกร่ง “เสียใจด้วยนะอินซอฟ เผอิญว่าวันนี้เครื่องซักผ้ามันดันเกิดแอ๊กซิเดนท์ ทำงานไม่ได้อ่ะ”จันฑีราหัวเราะคิกคักชอบอกชอบใจ ยิ่งได้เห็นใบหน้าเสียอารมณ์ของอินซอฟก็ยิ่งอยากแกล้งยั่วเย้าให้หนักขึ้นอีก แต่รู้ดีว่าเมื่อไหร่ที่เธอหายจากสิ่งที่เป็นอยู่ ย่อมจะต้องถูกเขาเอาคืนจนอาจจะลุกจากเตียงไม่ได้เพราะความเพลียมือเล็กจับแขนใหญ่วางยาวแนบไปกับพื้นเตียง พร้อมกับวางศีรษะลงไปนอนหนุน อีกมือก็จับแขนใหญ่มาพาดรอบเรือนกายเล็ก กายบางขยับจนแนบชิดกับเรือนกายใหญ่ นับจากวันนี้ชีวิตที่เคยมีเคยอยู่คนเดียวได้มีชายหนุ่มคนหนึ่งเข้ามาเติมเต็มด้วยความรักและความอบอุ่น“ขอบใจนะอินซอฟที่รักฉัน เมื่อก่อนที่ฉันเคยทำร้ายและทำไม่ดีกับนายไว้ ขอให้นายยกโทษและให้อภัยฉันด้วยนะ ฉันสัญญาว่าต่อไปนี้ฉันจะทำตัวดีๆ และรักนายให้มากที่สุดเท่าที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะทำ

  • เล่ห์ร้ายทรายสิเน่หา   chapter 109

    “จะไปไหนล่ะมัดหมี่...” แขนแข็งแกร่งสอดเข้าระหว่างเอวเล็กคอดและดึงเข้าหาตัว ศีรษะทุยโน้มลงกระซิบเบาๆ ข้างใบหูนุ่ม น้ำเสียงกึ่งกระเซ้าและยั่วเย้า“รู้ไหมว่าโทษของคนที่คิดหนีฉันน่ะมันร้ายแรงมากนะ”“ปล่อยน้องสาวฉันนะนายฟารฮาน” แม้จะห้อยต่องแต่งอยู่บนร่างสูงใหญ่ แต่กัญญาพัชรก็ไม่วายส่งเสียงแว้ดๆ ใส่ฟารฮาน สองมือยันแผ่นหลังกว้างเพื่อจะได้นำเอาตัวเองลงไปขัดขวาง“ฉันว่าเธอเอาตัวให้รอดพ้นจากพี่ชายฉันก่อนดีกว่านะมัดหวาย ก่อนที่จะมาช่วยเหลือคนอื่นเขาน่ะ” ฟารฮานตอบกลับด้วยน้ำเสียงยิ้มๆ คิ้วคมเข้มข้างหนึ่งเลิกขึ้นสูงเป็นจังหวะ“ไปกันเถอะมัดหมี่ เรามีเรื่องที่จะต้องคุยเหมือนกัน”“ว้าย!!” สองแขนเรียวโอบรอบลำคอแกร่งอย่างรวดเร็ว เมื่อร่างกายลอยขึ้นจากพื้นอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว “ทำอะไรก็ไม่รู้คุณฟารฮานน่ะ”“ก็พาคนที่กล้าหนีฉันไปลงโทษไง” ใบหน้าคมโน้มลงจนจมูกโด่งคมประชิดติดแก้มนุ่ม“บ้า...” ปิยาพัชรส่งค้อนให้คนพูดวงโตด้วยความอบอุ่นในหัวใจ เพราะฟังจากน้ำเสียงฟารฮานไม่ได้โกรธเคืองเธอแม้แต่น้อยนิด อาจมีน้อยใจบ้าง แต่ถ้าอธิบายให้ฟังเขาก็พร้อมที่จะเข้าใจ“โว้ย...ปล่อยฉันนะคนบ้า คนเฮ็งซวย ไอ้ผู้ชายเส็งเคร็ง รัง

  • เล่ห์ร้ายทรายสิเน่หา   chapter 108

    ยามราตรีที่ท้องฟ้ามีแสงดาวส่องนำทาง สามร่างเดินตามกันไปอย่างรีบเร่ง โดยมีร่างสูงโปร่งเดินนำและร่างบอบบางอีกสองร่างเดินตามไปติดๆ ศีรษะทุยสอดส่ายเหลียวซ้ายแลขวา ทุกย่างก้าวเต็มไปด้วยความระมัดระวัง ถึงแม้จะรู้ว่าคืนนี้นาสเซอร์ ฟารฮาน และอินซอฟกำลังอยู่ร่วมการประชุมในการกำหนดนโยบายของแคว้นว่าจะให้เดินไปในทิศทางใดหลังจากนี้ แต่ใครจะรู้เล่าเกิดว่าคนหนึ่งคนใดเกิดสงสัยในพฤติกรรมลับๆ ล่อๆ และกระซิบกระซาบที่เธอและน้องๆ ทั้งสองคนมีมีหลายครั้งที่ร่างโปร่งบางหยุดยืนและหันไปจะเอ่ยปากถามสองสาวที่ตามมาด้วยว่าตัดสินใจดีแล้วใช่ไหมที่จะตามเธอไปน่ะ แต่พอเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความรักและห่วงใยของสองสาวก็ทำให้พูดไม่ออก ใจจริงกัญญาพัชรไม่ได้อยากชวนปิยาพัชรและจันฑีราหนีไปด้วย แต่เพราะความเป็นห่วงเป็นใยในสวัสดิภาพของสองสาว ที่ไม่รู้ว่าจะต้องโดนหางเลขจากคนที่ไม่หวังดีด้วยเมื่อไหร่ มันก็ทำให้เธอต้องคะยั้นคะยอชักแม่น้ำทั้งห้าให้สองสาวเดินทางหลบหนีกลับบ้านด้วย อีกทั้งเมื่อน้องสาวทั้งสองคนรู้ว่าเธอจะหนีกลับ ทั้งสองก็ไม่ยอมให้เธอต้องเดินทางเพียงลำพังปิยาพัชรและจันฑีราเดินตามกัญญาพัชรไปด้วยใจที่เจ็บปวดและหวาดกลัว

  • เล่ห์ร้ายทรายสิเน่หา   chapter 107

    “อ้าว...พี่มัดหวายหลับแล้วละแก” ปิยาพัชรที่เล่าเรื่องของตัวเองจ๋อยๆ ด้วยความดีใจและสุขล้นหยุดอย่างรวดเร็ว ดวงตากลมโตแปรเปลี่ยนเป็นหมองเศร้าลง เธอเล่าเรื่องทุกอย่างให้พี่สาวฟังแทบทั้งหมด ยกเว้นเรื่องที่เธอตกเป็นของฟารฮานแล้วและเรื่องถูกปองร้ายหมายเอาชีวิต“ใจเย็นๆ นะแก ฉันเชื่อว่าอีกไม่นานอินซอฟจะต้องหาคนที่คิดร้ายกับแกเจอ” จันฑีรายกมือขึ้นตบบ่ากว้างของเพื่อนรักเบาๆ เธอเองก็เป็นกังวลไม่น้อยไปกว่าปิยาพัชร แต่ตอนนี้เมื่อเห็นว่ากัญญาพัชรมีอาการดีขึ้น ความเหนื่อยจากการเดินทางไกลก็เริ่มประท้วง ริมฝีปากอวบอิ่มอ้าหาวหวอดๆ ดวงตาก็เริ่มที่จะหรี่ลง“ฉันไม่ไหวแล้วแก ขอนอนกอดพี่มัดหวายก่อนนะ” ร่างบอบบางคลานขึ้นไปบนเตียงนอนใหญ่ เอนตัวนอนแนบชิดร่างกัญญาพัชร“เฮ้ย...ไม่เอาซิแก ฉันนอนด้วย” ปิยาพัชรบอก เพราะเธอก็เหนื่อยและเพลียเหมือนกัน ร่างบอบบางรีบเอนตัวลงอิงแอบแนบซบกับร่างพี่สาว แขนเรียวยาวพาดไปโอบร่างโปร่งไว้ แต่ด้วยความไม่ระมัดระวังทำให้ปลายมือไปถูกเอาที่บาดแผล ทำให้คนที่หลับอยู่ถึงกับสะดุ้งตื่นขึ้นมาอย่างงงๆ และเจ็บปวดเล็กน้อย“ขอมัดหมี่นอนด้วยนะพี่มัดหวาย คิดถึง อยากนอนกอดพี่” ปิยาพัชรบอกเสียงหว

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status