บทที่ 5 ทะลึ่ง
“ตกลงยังไง ข้อเสนอของฉันน่าสนใจใช่ไหม? นายไม่ต้องเปลืองตัวอะไรเลย แถมยังมีเงินใช้สบายๆ” อลิสเอ่ยขึ้นหลังเห็นคนตรงหน้าเงียบไปนานหลายนาที
เอเดนพ่นลมหายใจออกมาหนักๆอย่างเหนื่อยหน่ายให้กับความคิดของอลิส อะไรที่ทำให้เธอมั่นใจขนาดนั้นว่าข้อเสนอของตัวเองน่าสนใจ
สิ้นคิดชิบหาย
“ขอคิดดูก่อน แล้วผมจะให้คำตอบ” เอเดนตอบด้วยน้ำเสียงที่ชวนก่อให้เกิดสงครามประสาทมาก
“…”
“ถ้าฉันเป็นนายฉันจะรีบคว้าโอกาสดีๆแบบนี้เอาไว้”
ให้ตายเถอะเอาอะไรมามั่นใจว่านี่คือโอกาสดีๆของกูวะ ตื้อฉิบหาย
“นี่นามบัตรฉัน ถ้าคิดได้เมื่อไหร่ก็โทรมาหาเจ๊นะจ๊ะพ่อหนุ่ม...น้อย” เอเดนหลุบมองนามบัตรที่ถูกเลื่อนมาวางไว้ตรงหน้าราวกับกำลังใช้ความคิด ทว่าก็ยังไม่รับไว้
“หึ...แน่ใจเหรอครับว่า...หนุ่มน้อย เพราะเมื่อคืนตรงนี้ของผมมันทำให้เธอร้องเสียงดังเหมือนหมูที่กำลังโดนเชือดในโรงฆ่าสัตว์เลย” เอเดนเอ่ยด้วยท่าทางกวนประสาทพร้อมกับหลุบมองเป้ากางเกงตัวเองด้วยรอยยิ้มร้ายกาจ
“ไอ้เด็กบ้า อย่ามาทะลึ่งกับฉันนะ” อลิสเอ่ยพร้อมกับถลึงตาใส่คนตรงหน้าราวกับขมขู่ เอเดนหยักไหล่ใส่อย่างไม่สะทกสะท้าน
เด็กอะไรทั้งทะลึ่ง ทั้งหน้ามึน วอนตีนซะจริงๆ
ใจเย็นๆนะอลิส เด็กนี่ยังมีประโยชน์กับเธอ ใจเย็นๆ
อลิสพูดในใจพร้อมกับสูดลมหายใจเข้าลึกๆเพื่อรวบรวมสติให้ตัวเองอารมณ์เย็นลง ไม่คล้อยตามกับคำพูดของเด็กบ้า
“แล้ววันนี้นายมีเรียนหรือเปล่า?”
“ถามทำไม?...จะไปส่งผมเหรอ?”
“ถ้านายไม่มีรถไป ฉันจะไปส่ง เดี๋ยวให้คนเอารถมารับ”
เอเดนนิ่งไปสักพัก เพราะกำลังคิดแผนร้ายบางอย่าง ก่อนจะส่งข้อความไปบอกมือขวาคนสนิทว่าให้กลับไปก่อน
“ผมมีเรียนตอนบ่าย...แล้วผมก็ไม่ได้เอารถมาเมื่อคืนผมพาเธอนั่งแท็กซี่เพื่อหาจองโรงแรมที่ใกล้ที่สุด” เอเดนจำต้องโกหก เพราะขี้เกียจอธิบาย
“แต่โรงเเรมที่นายจองราคาแพงหูฉี่เลยนะ แต่ก็เข้าใจได้ นายคงเอาเงินที่ได้จากเจ๊เลี้ยงมาใช้จ่าย แต่ต่อไปนี้เจ๊อลิสจะเลี้ยงเอง จะเลี้ยงอย่างดีเลย” อลิสเอ่ยด้วยรวยยิ้มหวานจนตาหยี
“...”
“แต่ผมยังไม่ได้รับปากข้อเสนอของเธอเลย”
“ถึงยังไม่รับปากก็จะเลี้ยงอยู่ดี เพราะนายเป็นของฉันแล้ว และต้องเป็นของฉันคนเดียวเท่านั้น” อลิสเอ่ยด้วยแววตาจริงจัง
“หิวผู้ชายขนาดนี้เลยเหรอ”
“ฉันทำได้ทุกอย่าง ถ้ามันจะทำให้ฉันไม่ต้องแต่งงานกับคนที่คุณปู่เลือกให้”
“แล้วมันต่างกันตรงไหน เราก็ไม่ได้รักกันสักหน่อย แต่เธอดูกระหายผมมากนะ...ติดใจxxxผมเหรอ” เอเดนเอ่ยด้วยแววตาร้ายกาจพร้อมกับหลุบมองเป้ากางเกงตัวเองราวกับภูมิใจในความหรรมใหญ่ยักษ์ของตัวเอง
“บอกว่าอย่ามาพูดจาทะลึ่งใส่ ฉันไม่ชอบ”
ครืดดด~ ครืดดด~
เอเดนไม่ได้ตอบอะไรกลับไป เพราะเสียงโทรศัพท์ของเขาดังขึ้นซะก่อน
“ผมขอตัวไปรับโทรศัพท์ก่อนนะ”
“ตามสบาย”
‘หึ เจ๊คนไหนโทรมาหาละ เสน่ห์แรงจริงจริ๊งงง’ อลิสบ่นพึมพำคนเดียวเมื่อเอเดนเดินห่างไปไกลแล้ว
-ARIC CALLING-
เอเดนพ่นลมหายใจออกมาหนักๆด้วยความเหนื่อยหน่าย เมื่อหลุบมองโทรศัพท์แล้วเห็นเป็นชื่อพี่ชายคนโตของบ้านที่ชอบทำตัวเหมือนพ่อคนที่สอง
“เฮียมีอะไร”
(มีคนส่งรูปให้กู มึงไปทำอะไรที่บาร์โฮส?)
“นี่เฮียสั่งให้คนตามผมเหรอ”
(พ่อเป็นคนสั่ง เพราะตอนนี้ศัตรูของพ่อมันมาหลบซ่อนตัวอยู่ที่ประเทศไทย เลยสั่งให้คนตามดูมึงห่างๆ...ตอบคำถามกูได้ยัง)
ไม่รู้จะส่งคนมาตามทำไม ในเมื่อลูกน้องเขาก็มีตั้งเยอะ
“ทำทีมแพ้บอล เลยต้องทำตามข้อตกลง ไปเป็นเด็กบาร์โฮสหนึ่งคืน พอใจยัง”
(ข้อตกลงปัญญาอ่อนชิบหาย)
“ฝากบอกพ่อด้วยไม่ต้องเป็นห่วง ผมไม่กลัวใครหน้าไหนอยู่แล้ว ให้มันมาเถอะ ผมจะเป็นคนตัดแขนมันเอง”
(อย่าซ่าส์ให้มันมาก เพราะศัตรูของพ่อมันไม่ใช่คนที่จะสู้ซึ่งๆหน้า เดี๋ยวกูส่งข้อมูลให้...เออพรุ่งนี้กูกับเอเดรียนจะเดินทางไปประเทศไทย)
“มาทำ...” ยังไม่ทันที่เอเดนจะพูดจบเอริคก็ชิงตัดสายไปซะก่อน
เอเดนพ่นลมหายใจออกมาหนักๆอย่างเบื่อหน่ายก่อนจะเก็บโทรศัพท์ใส่ในกระเป๋ากางเกงเหมือนเดิม
“เป็นอะไร” อลิสเอ่ยถามเมื่อเอเดนเดินมาทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์ เพราะก่อนออกไปคุยโทรศัพท์ยังดูปกติพูดจากวนประสาทเธออยู่เลย
“เปล่า เธอรีบไปแต่งตัวให้เรียบร้อยเถอะ เพราะผมต้องไปเรียนแล้ว ส่วนเสื้อผ้าอยู่ในห้องแต่งตัว ผมให้คนเตรียมมาให้ตั้งแต่เช้าแล้ว”
“ขอบใจนะ” ว่าจบอลิสก็เดินหายเข้าไปในห้องแต่งตัวทันที
‘นายนี่เทสต์ดีขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย ราคาแพงมากด้วย เจ๊เลี้ยงให้เงินนายนี่เท่าไหร่เนี่ย’ อลิสเอ่ยเมื่อเปิดถุงเสื้อผ้ายี่ห้อแบรนด์ดัง ทว่าว่าจู่ๆใบหน้าอลิสก็แดงก่ำราวกับลูกมะเขือเทศเมื่อเธอหยิบชุดชั้นในไปสวมใส่ เพราะเธอใส่ได้พอดีเลย
บ้าชะมัด ทำไมรู้สึกแปลกๆแบบนี้นะ
...
มหาวิทยาลัยออสเวิร์ด
“นายเรียนที่นี่เหรอ” อลิสเอ่ยถามเมื่อรถหรูราคาหลายสิบล้านแล่นเข้ามาภายในมหาวิทยาลัย เธอรู้ว่าที่นี่เป็นมหา’ลัยเอกชนติดอันดับท๊อปเท็นของประเทศค่าเทอมไม่ต้องพูดถึงแพงหูฉี่มาก แถมเจ้าของยังเป็นผู้ทรงอิทธิพลที่ใครๆต่างก็เกรงกลัว
“อื้อ”
“เจ๊เลี้ยงของนายคงรวยน่าดูเลยเนอะ ถึงส่งเสียนายมากขนาดนี้”
เอเดนถอนหายใจออกมาหนักๆอย่างเหนื่อยหน่ายเพราะเบื่อคำว่าเจ๊เลี้ยงของเธอเต็มทน
“ขอบคุณครับที่มาส่ง”เอเดนเอ่ยพร้อมกับเปิดประตูก้าวขาลงจากรถ
“ไม่เป็นไร พ่อหนุ่มวิศวะ เลิกเรียนให้เจ๊มารับไหม”
เอเดนไม่ตอบ เขาเดินเข้าตึกเรียนทันทีเพราะไม่อยากเสียเวลาคุยไร้สาระกับอลิส
‘จริงสิ ฉันยังไม่มีช่องทางติดต่อเด็กบ้าเอเดนเลย’
“เดี๋ยว”อลิสวิ่งตามเอเดนเข้ามาในตึกเรียนอย่างรวดเร็วเมื่อนึกขึ้นได้ว่ายังไม่มีช่องทางติดต่อเอเดนเลย
“อะไร จะตามไปเรียนกับผมด้วยหรือไง”
“เปล่า ฉันแค่จะมาขอช่องทางติดต่อนาย”
“เรามีอะไรให้ต้องติดต่อกันเหรอครับ ผมสายมากแล้วขอตัวไปเรียนก่อนนะ ถ้าพรมลิขิตมีจริงเราคงได้เจอกันอีก” ว่าจบเอเดนก็รีบวิ่งไปขึ้นลิฟต์ทันที
‘ไอ้เด็กบ้าเอ๊ย ไม่ง้อก็ได้ มีผู้ชายมาให้คนอย่างอลิสเลือกตั้งเยอะ ชิ ฉันไม่สนใจนายแล้วไอ้หัวทองขี้เก๊ก’
--------------------
เอเดนถอนหายใจไปแล้วกี่รอบ5555555
สวัสดีปีใหม่ทุกๆคนนะคะ ฝากเป็นกำลังใจให้ฮงฮวยด้วนนะค๊าบบ❤️🙏