Share

ตอนที่ 5

last update Huling Na-update: 2025-02-03 02:37:48

เนื่องจากชื่อเสียงของสมาคมอักขระที่มีความแม่นยำการตรวจจับพื้นที่มิติมากที่สุด ทำให้ข่าวดินแดนลับที่กำลังจะเปิดออกกระพือโหมไปไกลมาก ยิ่งหลายวันมานี้คนของสมาคมอักขระและหอเทพโอสถยังเดินทางมาแคว้นโจวอย่างต่อเนื่อง ทำให้ยิ่งมีข่าวแพร่กระจายออกไปตามการคาดเดาว่า บางทีมิติร่วมนภาอาจจะเปิดที่เมืองหลวงแคว้นโจวก็ได้

ดังนั้นจะเห็นได้ว่าทั่วทุกหัวมุมเมือง ทุกตรอกช่องทางของเมืองหลวงมักมีกลุ่มคนเดินสวนกันขวักไขว่อยู่เสมอ หลายคนต่างระมัดระวังการใช้ชีวิตยิ่งขึ้น กลุ่มผู้มีอำนาจของแคว้นโจวต่างบอกลูกหลานให้เก็บเนื้อเก็บตัวสักระยะ ด้วยกลัวว่าหากไปชนตอเข้า อำนาจที่ตระกูลมีจะช่วยไม่ได้ อย่าลืมว่าคนที่มายังเมืองหลวง นอกจากผู้ฝึกยุทธ์อิสระยังมีผู้เยาว์และกลุ่มอำนาจจากดินแดนเบื้องบนเดินทางมาเยือนด้วย

กลุ่มคนที่เติบโตในดินแดนกล่าวขานว่าทวีปศักดิ์สิทธิ์นั้นล้วนเป็นผู้แข็งแกร่งอย่างแท้จริงทั้งสิ้น ด้วยลมปราณที่หนาแน่นและบริสุทธิ์กว่าดินแดนเบื้องล่าง เพียงเกิดมาก็มีร่างกายแข็งแกร่ง ครั้นพลังปราณตื่นขึ้นยังตื่นในระดับแม่ทัพแล้ว ไม่เหมือนชาวทวีปนภาครามที่ต้องไต่ระดับตั้งแต่ระดับเริ่มต้น เพียงเกิดยังต่างชั้นขนาดนี้ ไม่นับว่าผ่านไปหลายปีคนเหล่านั้นเข้าสู่เส้นทางผู้ฝึกปราณอย่างจริงจัง ด้วยทรัพยากรที่เหนือกว่า ระดับพลังของพวกเขาเหล่านั้นจะล้ำหน้าเหมือนพยัคฆ์ติดปีกเพียงใด พวกเราดินแดนเบื้องล่างไม่อาจรู้ได้ เช่นนั้นการระมัดระวังรู้จักหลบหลีกได้เป็นดี

ชั่วพริบตาวันนัดหมายเดินตลาดกับสหายก็มาถึง เว่ยซือหงอยู่ในชุดสีเขียวไล่ระดับอ่อนไปเข้มปักลายกิ่งไผ่ลู่ลม ดูนุ่มนวลและสุภาพทั้งยังช่วยขับผิวขาวให้เปล่งประกาย ยิ่งนางดื่มกินน้ำและผักผลไม้ปราณเป็นประจำ ผิวพรรณยิ่งเปล่งปลั่งสะท้อนแสงแดดราวหยกน้ำงาม ยามเด็กหญิงเดินผ่าน คนอื่น ๆ คล้ายหมองลงไปเล็กน้อย

ข้างกายเว่ยซือหงคือหลินหว่านสหายสนิทที่นัดกันมาเที่ยวชมตลาดในวันนี้นั่นเอง เด็กหญิงอยู่ในชุดปักลายดอกเหมยสีเหลืองนวลไล่ระดับเช่นกัน ผิวพรรณของนางแม้ไม่อาจเทียบเท่าเว่ยซือหงแต่ก็ดีกว่าคนทั่วไปมาก

ทั้งสองหยุดพูดคุยเป็นระยะเมื่อเห็นร้านที่ถูกใจ ก่อนจะพากันเดินต่อ สายตายังลอบประเมินท่าทีของผู้คนที่เดินสวนกันอยู่บ่อย ๆ พบคนที่กลิ่นอายแข็งแกร่งไม่น้อยเลย เด็กทั้งสองและกลุ่มผู้ติดตามเดินตลาดอย่างมีความสุข ทว่าดูเหมือนจะปกติสุขเกินไป สวรรค์จึงดลบันดาลให้ไปเจอกับปัญหาเข้า

“คุกเข่าขอโทษข้าเดี๋ยวนี้!”

ด้านหน้าของเว่ยซือหงมีคนกลุ่มใหญ่ยืนอยู่พร้อมเสียงโวยวายที่เล็ดลอดออกมา ชาวบ้านที่ทำมาค้าขายต่างพากันก้มหน้าไม่กล้ามองเหตุการณ์ที่กำลังเกิดมากนัก

“ดูเหมือนคุณชายกู้จะแย่แล้ว”

“นั่นสิ ไม่รู้ว่าเขาก้าวเท้าไหนออกจากบ้านจึงมาเจอกลุ่มคุณหนูคุณชายของดินแดนเบื้องบนเข้า”

“ไม่น่าเลย ชีวิตกำลังไปได้ดีแท้ ๆ”

“มีพลังปราณระดับจอมยุทธ์แล้วอย่างไร ต่อหน้าคนจากดินแดนเบื้องบนพวกเราก็ไม่ต่างอันใดกับมดปลวก”

“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ใช่ว่าคุณชายกู้จะเป็นคนผิดเสียหน่อย คนพวกนั้นต่างหากที่ผิด”

“ใช่ ๆ”

เว่ยซือหงและหลินหว่านที่ตอนแรกจะยืนดูเหตุการณ์อยู่วงนอกเฉย ๆ พลันเปลี่ยนใจทันทีเมื่อคนที่กำลังมีปัญหาเป็นสหายของพี่ชายคนรอง  ครั้นพอมองให้ดียังเห็นเว่ยซือเหลียงยืนอยู่ข้าง ๆ ด้วย นอกจากนี้ยังมีคุณชายจากตระกูลอื่น ๆ ที่สนิทชิดเชื้อรวมอยู่ในกลุ่ม

“ขออภัยเจ้าค่ะท่านป้า ไม่ทราบว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้นหรือ พอจะเล่าให้พวกข้าฟังสักหน่อยจะได้หรือไม่เจ้าคะ” หลินหว่านจูงมือสหายเดินเข้าไปถามท่านป้านางหนึ่งที่ดูแล้วน่าจะพูดคุยด้วยได้  

“จะอะไรเล่า ก็คุณชายกู้น่ะสิไปขัดขากลุ่มคุณหนูคุณชายเข้าจนทำให้พวกเขาไม่พอใจ”

“ขัดขา?”

“เฮ้อ จะโทษคุณชายกู้ก็ไม่ถูกต้องหรอก ความจริงเขาแค่เข้ามาช่วยเด็กคนหนึ่ง ที่บังเอิญวิ่งไปชนคนในกลุ่มนั้นเข้า คนพวกนั้นโหดร้ายยิ่งนัก เด็กเพียงห้าขวบวิ่งชนกลับถึงขั้นลงไม้ลงมือส่งพลังปราณไปทำร้าย หากไม่ได้คุณชายกู้ปัดป้องเอาไว้ ไม่แน่อาจถึงชีวิต เรื่องมันก็เป็นแบบนี้แหละ นี่ก็นานเป็นเค่อแล้ว ยังจบเรื่องไม่ได้เลย ซ้ำยังทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ พวกเจ้าก็รีบกลับเถอะ อย่าอยู่นานนัก ประเดี๋ยวจะโดนลูกหลงไม่รู้ตัว ชาวบ้านหลาย ๆ คนก็เริ่มปลีกตัวกลับแล้ว แผงลอยหลายร้านก็เก็บข้าวของกลับแล้วเช่นกัน”

“ขอบคุณท่านป้าเจ้าค่ะ” เว่ยซือหงกล่าวขอบคุณพร้อมยื่นเงินให้อีกฝ่ายหนึ่งตำลึง

“เอาไงดีอาหง” หลินหว่านถามสหายด้วยสีหน้ากังวล

“ไม่ยุ่งไม่ได้หรอก ในกลุ่มนั้นมีพี่ชายของข้าอยู่ เจ้าไปรอข้าที่โรงเตี๊ยมของท่านตา ประเดี๋ยวเสร็จธุระตรงนี้ข้าจะรีบตามไป”

“เรื่องอะไรเล่า มาด้วยกันก็ไปด้วยกันสิ ข้าไม่ทิ้งเจ้าแน่” หลินหว่านยืนยันแม้นางจะหวาดกลัวแต่ไม่คิดทิ้งสหาย  

เว่ยซือหงที่เห็นว่าอย่างไรสหายก็ไม่ยอมไปจึงพยักหน้าแล้วเดินนำไปยังกลุ่มคนที่มีปัญหากันทันที

“พี่รอง”

“น้องเล็กมาทำอันใดที่นี่ กลับจวนได้แล้ว” เว่ยซือเหลียงตกใจที่เห็นน้องสาวอยู่ตรงนี้เอ่ยเสียงเครียด

เด็กหญิงส่ายหน้าเหลือบสายตามองไปยังกลุ่มคุณหนูคุณชายจากดินแดนเบื้องบนเล็กน้อย ฝ่ายนั้นมีกันอยู่ห้าคนไม่รวมผู้ติดตาม แต่ละคนมีพลังระดับปราชญ์ขั้นต้นทั้งสิ้น

‘มีพลังระดับปราชญ์? ไม่แปลกที่สร้างความกดดันให้พี่รองได้’

“น้องเล็กไม่ใช่เวลามาดื้อนะ กลับไปได้แล้ว” เด็กหนุ่มดุน้องสาวอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน ด้วยกลัวว่าน้องจะได้รับอันตราย

“ไม่เจ้าค่ะ” เว่ยซือหงยืนกราน แล้วเลือกไปเผชิญหน้ากับกลุ่มคนตรงหน้าทันที

ฝ่ายคุณหนูคุณชายที่มาจากดินแดนเบื้องบนเองต่างรู้สึกแปลกใจที่เด็กสิบขวบกล้าสบตากับพวกเขา

“เหอะ ช่างไม่กลัวตาย” เสิ่นเถา คุณชายจากทวีปศักดิ์สิทธิ์เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นเด็กหญิงคนหนึ่งไม่เกรงกลัวในพลังอำนาจที่เขามี

เว่ยซือหงเพียงมองนิ่ง ๆ ก่อนเลื่อนสายตาไปมองคนอื่น ๆ ทั้งห้าคนนี้มีอยู่หนึ่งคนที่จิตใจสว่างกว่าคนอื่น ๆ น่าจะพอคบหาได้

“ขออภัยที่เข้ามาขัดจังหวะเจ้าค่ะ ข้านามซือหงแซ่เว่ย ไม่ทราบว่าพวกท่านมีชื่อแซ่อย่างไรกันบ้างเจ้าคะ”

ทันทีที่ได้ยินแซ่เว่ยออกจากปากเด็กหญิงตรงหน้า ท่าทีเหยียดหยามดูแคลนของคนกลุ่มนั้นพลันเปลี่ยนไปเล็กน้อย แม้แต่เสิ่นเถาเองยังชะงักไปครู่หนึ่ง

“ที่แท้เป็นคุณหนูตระกูลเว่ยนี่เอง ข้าเปียวหย่ง ยินดีที่ได้รู้จักคุณหนูน้อย” เปียวหย่งมีอัธยาศัยดีที่สุดในกลุ่มเอ่ยแนะนำตัวเอง

“ยินดีที่ได้รู้จักคุณชายเปียวเช่นกันเจ้าค่ะ แล้ว...” เด็กหญิงทิ้งหางตาไปยังคนอื่น ๆ เปียวหย่งกลั้วหัวเราะพลางว่า

“ข้าจะแนะนำให้คุณหนูได้รู้จักเอง เริ่มจากสตรีหนึ่งเดียวในกลุ่มของข้า นางมีนามว่าจิวซิน เป็นผู้ปรุงโอสถ คนที่มีรอยยิ้มอยู่ตลอดเวลานามเตียวฝานเป็นนักอักขระ ส่วนนั่นอี้หยวนไท่ เขาเป็นคนไม่ค่อยพูด และสุดท้ายเสิ่นเถา”

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • เว่ยซือหง สตรีเหนือชะตา เล่ม 2   ตอนที่ 75 จบ

    เห็นดังนั้น เว่ยซือหลิวจึงวางใจ ปล่อยให้นางฝึกฝนด้วยตนเอง ส่วนเขาก็กลับไปตั้งใจบ่มเพาะอย่างจริงจัง ตัวเว่ยซือหลางและเว่ยซือเหลียงเองก็จากไปบ่มเพาะเช่นกันเว่ยซือหงยังคงฝึกทักษะการต่อสู้ต่อไปแม้จะไม่มีคู่ซ้อม นางไม่คิดไปนั่งบ่มเพาะ เพราะพอใจในระดับพลังตอนนี้ของตนแล้ว ขอแค่อยากเลื่อนระดับ แค่หลับตานางก็สามารถเลื่อนไปยังระดับราชันได้ทันที ดังนั้นการบ่มเพาะสำหรับนางแล้วไม่จำเป็นเลยเด็กหญิงตั้งหน้าตั้งตาฝึกยุทธ์ขัดเกลาฝีมือของตนต่อไปไม่หยุดยั้ง กระบวนท่าของนางก็เฉียบคมและดุดันขึ้นเรื่อย ๆทั้งรวดเร็วและอันตรายมั่นใจได้เลยว่า หากได้ประมือกับพี่ชายทั้งสองอีก ต่อให้ไม่อาจเอาชนะ แต่นางก็ไม่แพ้อย่างแน่นอน พอใจในพัฒนาการของตนยิ่งนักเว่ยซือหงจึงสลับไปศึกษาศาสตร์อักขระและปรุงยาบ้าง สลับสับเปลี่ยนไปเช่นนี้อย่างไม่รู้เบื่อ วันเวลาในมิติผลันเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว แม้ทุกคนจะมีใบหน้าและอายุเท่าเดิม เพราะเวลาในมิติไม่ส่งผลต่อมนุษย์ ทว่าระดับพลังของพวกเขานั้นคนละเรื่องไปเลย มันพัฒนาอย่างมากชนิดที่ว่าหากพวกเขาไม่ได้มีโอกาสเข้ามาฝึกฝนในมิติพฤกษาสวรรค์ พวกเขาก็ไม่อาจคิดฝันว่าตนเองจะมาถึงระดับนี้!เว่ย

  • เว่ยซือหง สตรีเหนือชะตา เล่ม 2   ตอนที่ 74

    ความจริงแล้วตระกูลเว่ยไม่ได้อาศัยอยู่ในจวน แต่พวกเขามารวมตัวกันอยู่ภายในมิติพฤกษาสวรรค์เว่ยซือหลินกับหลินซือเหยา แม่สามีลูกสะใภ้พากันเดินชมแปลงสมุนไพรพลังปราณระดับเซียนที่เคยเห็นชื่อแค่ในตำราด้วยความตื่นตาตื่นใจเว่ยซือหลิวกับเว่ยซือซานเองพากันศึกษากลยุทธ์ด้านการศึกสงครามในเรือนตำราส่วนสามพี่น้อง เว่ยซือหลาง เว่ยซือเหลียง และเว่ยซือหง พากันนอนกินผลไม้ปราณนิ่ง ๆ เนื่องจากพวกเขาเที่ยวเล่นในมิติจนพอแล้วกระทั่งได้เวลาอาหารกลางวัน ทุกคนก็มารวมตัวรับประทานอาหารพร้อมกันที่จุดเดียว จากนั้นเว่ยซือหลิวก็เอ่ยแจกแจงสิ่งที่แต่ละคนต้องทำขึ้นว่า“หลังจากนี้ข้าคิดว่าให้ทุกคนตั้งใจทำการบ่มเพาะดีกว่า ด้วยความช่วยเหลือจากมิติพฤกษาสวรรค์ พวกเจ้าทุกคนน่าจะเลื่อนระดับพลังปราณได้ไม่ยาก”“ข้าเห็นด้วยกับท่านพ่อนะขอรับ แต่นั่งบ่มเพาะนาน ๆ อย่างเดียวอาจเบื่อได้ เช่นนั้นให้ศึกษาอย่างอื่นที่ตนสนใจด้วยดีหรือไม่ขอรับ” เว่ยซือหลิวเสนอแนะ“จริงด้วยขอรับท่านปู่ ทำเช่นนี้จะได้คลายความเบื่อหน่าย การบ่มเพาะของพวกเราอาจจะก้าวหน้าเร็วขึ้น” เว่ยซือเหลียงเห็นด้วยกับความคิดบิดา“เช่นนั้นก็จัดเวลาด้วยตนเอง ศึกษาสิ่งที่สนใจส

  • เว่ยซือหง สตรีเหนือชะตา เล่ม 2   ตอนที่ 73

    “ได้ เริ่มจากข้าเลยแล้วกัน” หวังไท่หยางเป็นคนตรงไปตรงมาเอ่ยรับคำ ก่อนที่จะเอ่ยถึงข้อเสนอที่ตนเตรียมมาให้พ่อลูกตระกูลเว่ยและคนอื่น ๆ ได้ฟังถัดจากเขาคนอื่น ๆ ก็เริ่มนำเสนอข้อเสนอหรือสิ่งแลกเปลี่ยนของตนเองบ้าง การพูดคุยครั้งนี้เป็นไปอย่างดุเดือด ไม่มีใครยอมใคร ทั้งเว่ยซือหลิวและเว่ยซือซานเองยังต้องคิดให้ถี่ถ้วนก่อนจะตัดสินใจยอมรับข้อเสนอหรือแลกเปลี่ยนกับอีกฝ่ายหรือไม่การเจรจาเริ่มตั้งแต่ยามซื่อ(09:00-10:59) จนถึงยามซวี(19:00-20:59) โดยมีการหยุดพักรับประทานอาหารหนึ่งครั้งเท่านั้น การพูดคุยตกลงกันถึงได้สิ้นสุดลงโดยที่แต่ละคนมีรอยยิ้มบนใบหน้า บ่งบอกว่าการเจรจามันผ่านไปได้ด้วยดี“ยินดีที่ได้ร่วมมือนะน้องเว่ย” หรงเทียนฮ่าว “ยินดีที่ได้ร่วมมือเช่นกันน้องเว่ย” หวังไท่หยาง “หวังว่าเราจะได้ร่วมมือกันอีกนะน้องเว่ย” ฉินตงหยาง“หากน้องเว่ยมีของดีอย่าลืมบอกพวกเราด้วยนะ” อิงหลันฮวาจาก ‘นายท่านตระกูลเว่ย’ ปัจจุบันเปลี่ยนคำเรียกขานว่า ‘น้องเว่ย’ ชี้ชัดว่าจากการพูดคุยครั้งนี้ พวกเขาพัฒนาความสัมพันธ์กันไม่น้อยเลยทั้งนี้ทั้งนั้นก็เป็นผลมาจากทุกข้อเสนอได้รับการตอบรับอย่างดีนั่นแหละ หากไม่ใช่เช่นนั้น

  • เว่ยซือหง สตรีเหนือชะตา เล่ม 2   ตอนที่ 72

    โอหยางจิง ตัวแทนจากหอเทพโอสถโอหยางเจี๋ย ตัวแทนจากสมาคมอักขระหรงเทียนฮ่าว ตัวแทนจากนิกายมังกรสวรรค์อิงหลันฮวา ตัวแทนจากนิกายจากบุปผาสวรรค์หวังไท่หยาง ตัวแทนจากนิกายพยัคฆ์สวรรค์ฉินตงหยาง ตัวแทนจากนิกายวิหคสวรรค์ตัวแทนที่มาจากนิกายทั้งสี่ ฟังจากที่โอหยางจิงที่เคยบอกกล่าวล่วงหน้าล้วนแต่เป็นเจ้านิกาย เป็นตัวตนยิ่งใหญ่ที่เขาสองพ่อลูกไม่อาจเสียมารยาทได้ก่อนหน้านี้พวกเขาได้ศึกษาประวัติดินแดนเบื้องบนหรือที่ถูกกล่าวขานว่าทวีปศักดิ์สิทธิ์มาแล้วอย่างคร่าว ๆ ทวีปศักดิ์สิทธิ์ เป็นทวีปที่ปกครองตนเอง ไม่มีราชวงศ์ แบ่งออกเป็น 4 ดินแดน 4 นิกายหรือสำนักศึกษาอันเป็นขุมอำนาจสำคัญ ได้แก่ ดินแดนมังกร ดินแดนพยัคฆ์ ดินแดนวิหค และดินแดนบุปผาดินแดนมังกร เป็นดินแดนที่มีพื้นที่ใหญ่และเฟื่องฟูมีความเจริญก้าวหน้ามากที่สุด จึงถูกจัดให้เป็นเมืองหลวงของทวีปศักดิ์สิทธิ์ ดินแดนมังกรเป็นที่ตั้งของนิกายมังกรสวรรค์ โดยตระกูลหรงจัดเป็นตระกูลใหญ่และเรืองอำนาจมากที่สุดในดินแดนนี้ทิศเหนือของดินแดนมังกรคือดินแดนวิหค ที่อยู่บนเทือกเขาสูงไม่อาจเดินทางด้วยวิธีธรรมดา จำต้องขึ้นเรือเหาะหรือเรือบินเท่านั้น ดินแดนวิหคเป็นที่

  • เว่ยซือหง สตรีเหนือชะตา เล่ม 2   ตอนที่ 71

    เพียงสามวันหลังจากกลุ่มผู้เยาว์กลับออกมาจากการสำรวจดินแดนลับ ข้อเสนอที่เต็มไปด้วยผลประโยชน์และหลุมพรางมากมายก็ถูกยื่นตรงเข้าหาพวกเขา หลายคนมีความคิดตื้นเขินเห็นแก่ผลประโยชน์เล็กน้อยก็สูญเสียบางอย่างที่ล้ำค่าไป ทว่ามีอีกหลายคนที่มีความคิดอ่านลึกซึ้ง จึงอยู่ในช่วงเจรจาต่อรอง ตระกูลเว่ยเป็นหนึ่งในคนกลุ่มหลังนี้เพียงแต่ว่าตระกูลเว่ยมีความแตกต่างจากคนอื่นอยู่บ้าง นั่นเป็นเพราะพวกเขามีแต้มต่อที่เยอะมาก ทั้งยังไม่เห็นแก่ผลประโยชน์เล็กน้อยยังไม่นับรวมการที่เว่ยซือหลิวมีพลังปราณระดับราชัน จากที่คิดว่าอาจถูกกดดัน กลายเป็นว่าตัวตนของตระกูลเว่ยไปกดดันผู้ที่มาเจรจาต่อรองผลประโยชน์แทนแม้จะเป็นเช่นนั้น ประตูของตระกูลเว่ยก็ไม่ได้เงียบเหงาเลยแม้แต่น้อย ทั้งยังมีคนเข้าออกอย่างต่อเนื่อง เพราะยังไม่มีข่าวว่าพวกเขาตกลงปลงใจกับขุมอำนาจใด หมายความว่าพวกเขายังมีหวังต่อตระกูลเว่ยอยู่ทรัพยากรที่เด็ก ๆ ตระกูลเว่ยเก็บเกี่ยวมาได้นั้นหอมหวานเกินไป ต่อให้การเจรจาต่อรองจะเป็นไปได้ยาก พวกเขาก็ไม่อาจตัดใจได้ จนกว่าจะมีข่าวว่าตระกูลเว่ยจับมือตกลงผลประโยชน์กับกลุ่มอำนาจใดไปแล้วนั่นแหละ พวกเขาจึงจะถอยในคนเหล่านั้น บา

  • เว่ยซือหง สตรีเหนือชะตา เล่ม 2   ตอนที่ 70

    “เรื่องที่อาหงสามารถพาทุกคนเข้าไปยังมิติของตัวเองได้นั้นเป็นเรื่องจริงเจ้าค่ะ กล่าวให้ถูกคืออาหงสามารถพาทุกคนเข้ามิติได้ตั้งแต่ตอนที่ตัวเองอยู่ในระดับแม่ทัพแล้ว ทว่ามันต้องแลกกับการต้องทำพันธสัญญาเลือดกับทุกคน คล้ายการทำพันธสัญญาทาสที่จะไม่ทรยศหรือหักหลังอาหง”“...”“แต่ทุกคนเป็นครอบครัวของอาหงนะเจ้าคะ อาหงจะทำพันธสัญญาเช่นนั้นกับพวกท่านได้อย่างไร จึงไม่เคยเอ่ยถึงหรือบอกกล่าวความจริงนี้ให้ฟัง ด้วยเหตุนั้นอาหงจึงเริ่มศึกษามิติของตนเองมาเรื่อย ๆ ว่าจะมีวิธีใดบ้างที่จะพาทุกคนเข้าไปในมิติได้โดยไม่ต้องทำพันธสัญญากดขี่เช่นนั้น และอาหงก็ค้นพบ”“...”“นั่นก็คือต้องเพิ่มความเเข็งแกร่งให้ตนเองมาก ๆ อย่างน้อยต้องมีพลังระดับจักรพรรดิเป็นอย่างต่ำ ถึงจะสามารถพาทุกคนเข้ามิติได้โดยไม่ต้องทำพันธสัญญาดังกล่าว เพียงแต่ว่า...” เด็กหญิงรู้สึกลำบากใจเล็กน้อยที่จะเอ่ยส่วนที่เหลือออกไป“เด็กดี ไม่ต้องกังวล เอ่ยออกมาเถิด เป็นเช่นไรเดี๋ยวพวกแม่ตัดสินใจกันเอง เจ้าไม่ต้องคิดมาก” หลิวลี่หงปลอบบุตรสาว ไม่อยากให้นางกังวลเกินไปนัก อายุเพียงเท่านี้ก็คิดทำหลายอย่างเพื่อครอบครัวมากเกินไปแล้ว“เฮ้อ มิติของอาหงมันพิเศษเจ

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status