“ผมไม่แต่ง!!”
“แกต้องแต่ง!!”
“ผมไม่แต่ง พ่อก็รู้ว่าผมมีคนที่ผมรักอยู่แล้ว” แทนไทเอ่ยขึ้นเสียงดังเมื่อถูกผู้เป็นพ่อบังคับให้แต่งงานกับผู้หญิงที่ไม่ได้รัก แถมผู้หญิงคนนั้นยังเป็นเลขาของผู้เป็นพ่ออีกด้วย
“ก็เลิกซะสิ ผู้หญิงคนนั้นมันไม่ได้รักแกจริงหรอก”
“พ่อไม่มีสิทธิ์มาว่าผู้หญิงของผมนะ แล้วถ้าพ่ออยากให้แต่ง พ่อก็แต่งเองสิ หึ เข้ามาทำงานได้ยังไม่ทันใด ก็กล่อมให้พ่อฉันบังคับฉันให้แต่งงานกับเธอได้ เก่งเหมือนกันนี้” ชายหนุ่มปรายตามองไปยังหญิงสาวที่นั่งเงียบอยู่ให้ห้อง ผู้ที่เป็นสาเหตุให้เขากับพ่อกำลังทะเลาะกันอยู่ตอนนี้ ด้วยสายตาเหยียดหยามและดูถูก
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับหนูดา”
“ทำไมจะไม่เกี่ยวละครับ ก็ในเมื่อผมต้องแต่งงานกับเธอ” ชายหนุ่มชี้นิ้วไปที่หญิงสาวอย่างไม่พอใจ
“คุณท่านค่ะ ขอดาคุยกับคุณแทนไทสักครู่ได้ไหมคะ” หญิงสาวที่นั่งเงียบมานานเอ่ยขึ้น แดนไตรหันไปมองหญิงสาวก่อนจะพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต
“คุณแทนไทค่ะ ดิฉันขอคุยด้วยสักครู่นะคะ เชิญค่ะ” หญิงสาวเอ่ยก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินนำชายหนุ่มออกจากห้องไป
“เธอคิดจะทำอะไร” หลังออกจากห้อง หญิงสาวก็เดินนำชายหนุ่มไปที่หลังบ้านที่มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่อยู่
“คุณใจเย็น ๆ ก่อนนะคะ เรื่องแต่งงานฉันไม่รู้เรื่องด้วย อยู่ ๆ ท่านก็ให้ดิฉันมาที่นี่แล้วก็คุยเรื่องนี้ ฉันก็พึ่งรู้พร้อมคุณ แต่ฉันว่าท่านน่าจะมีเหตุผลของท่าน” หญิงสาวพูดขึ้นอย่างใจเย็น ไม่สนใจสายตาชายหนุ่มที่มองมา
“เธอคิดจะพูดอะไร” แทนไทจ้องมองหญิงสาวไม่วางตา จะมาไม้ไหนอีกละ ชายหนุ่มคิดในใจ
“ก็ถ้าเราอยากรู้ว่าท่านทำแบบนี้ทำไม ฉันคิดว่าเราควรทำตามที่ท่านต้องการ…”
“หึ สุดท้ายก็พูดเข้าทางตัวเอง เธอมันก็แค่ผู้หญิงที่คิดอยากจะจับผู้ชายรวย ๆ เท่านั้น” คำพูดดูถูกกับสายตาเชือดเฉือนไม่ได้ทำให้กานดารู้สึกหวั่นเกรงหรือกลัวแต่อย่างไร
“คุณฟังฉันให้จบก่อนสิคะ ที่ฉันบอกให้เราทำตามที่ท่านต้องการ เพราะท่านจะได้เลิกบังคับคุณให้แต่งงานกับฉัน”
“ไม่มีทาง ถึงจะบอกว่าจะทำตามที่พ่อฉันต้องการ แต่ถ้าไม่มีงานแต่งเกิดขึ้น พ่อฉันก็ไม่มีทางเลิกบังคับให้ฉันแต่งงานกับเธอ” แทนไทรู้ดีว่าพ่อตนเองเป็นคนเช่นใด
“งั้นเอาอย่างนี้ไหมคะ เราจดทะเบียนสมรสต่อหน้าท่าน แต่จะไม่มีงานแต่งงานใด ๆ เกิดขึ้น แล้วหลังจากนั้นฉันจะจดทะเบียนหย่าให้คุณทันที” แทนไทมองหญิงสาวไม่วางตา เขาจะเชื่อคำพูดของผู้หญิงคนนี้ได้อย่างนั้นหรือถ้าเกิดเธอไม่ยอมหย่าให้หลังจากจดทะเบียนสมรสกันแล้วละ เขาจะทำยังไง “ไม่ต้องมองฉันอย่างนั้นหรอกค่ะ ฉันพูดจริง ฉันไม่ได้ต้องการเงินทองอะไรของคุณเลย”
“ได้ ฉันจะเชื่อเธอดูสักครั้ง” แทนไทยอมตกลง เพราะตลอดเวลาที่คุยกัน เธอไม่ได้หลบสายตาของเขาที่จับผิดเลยสักครั้ง แทนไทเลยคิดว่าเธอน่าจะเชื่อถือได้ในระดับหนึ่ง “แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เธอผิดคำพูด เราได้เห็นดีกันแน่” แต่ก็ยังไม่วายขู่เธออยู่ดี
“ไม่ต้องห่วงค่ะ ฉันรักษาคำพูดแน่” กานดายืนยันอย่างหนักแน่นให้ชายหนุ่มสบายใจ
หลังจากวันนั้น นี้ก็ผ่านมา 2 ปีแล้วที่ทั้งแทนไทและกานดาอยู่ด้วยกันในฐานะสามีภรรยาตามที่คนในบ้านเข้าใจ แต่ในสายตาคนข้างนอกแล้ว ทั้งสองคนอยู่ในบทบาทเจ้านายกับลูกน้องกันเท่านั้น
“คุณแทนไทค่ะ นี่เป็นตารางงานของวันนี้ค่ะ” กานดายื่นแท็บเล็ตเครื่องหรูยี่ห้อดังไปให้ผู้เป็นเจ้านายดู แทนไทที่อ่านเอกสารอยู่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามอง แต่เอื้อมมือไปจับแท็บเล็ตที่เลขาสาวส่งมาให้ ด้วยความที่ไม่ได้มองจึงทำให้มือหนาจับโดนมือของอีกคนแทน จนกานดารีบชักมือกลับ ทำให้แทนไทเงยหน้าขึ้นมามอง
“โทษที” แทนไทบอกเสียงเรียบ
“ไม่เป็นไรค่ะ”
“มีงานด่วนอะไรไหม” หลังจากดูตารางงานแล้วแทนไทจึงเอ่ยถามขึ้น
“ไม่มีค่ะ”
“ถ้างั้นเดี๋ยวเราออกไปโรงงานกัน” แทนไทบอกก่อนจะส่งแท็บเล็ตคืนให้
“ได้ค่ะ” เมื่อรับคำสั่งแล้วกานดาก็หมุนตัวกลับแล้วพาตัวเองออกมาจากห้องแต่ก่อนที่ประตูจะปิดลงเสียงเจ้าของห้องก็ดังขึ้นมาก่อน
“เดี๋ยวก่อน ตามภพมาหาผมหน่อย”
“ค่ะ”
นั่งรอไม่ถึง 5 นาทีคนที่แทนไทต้องการพบตัวก็เข้ามา
“นายให้หาผมเหรอครับ” ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งเดินเข้ามาหาผู้เป็นนายทันที
“อืม วันนี้ปากลับจากอังกฤษ นายช่วยไปรับเธอแทนฉันหน่อย แล้วบอกเธอว่าตอนเย็นฉันจะไปรับไปทานข้าว”
“ได้ครับ” ภพรับคำสั่งก่อนจะออกจากห้องไป
หลังจากนั้นไม่นานแทนไทกับกานดาก็เข้ามาถึงโรงงานผลิตและเจียระไนเพชรของบริษัท D&T Diamond ผู้จัดการโรงงานรีบออกมารับทันทีที่เห็นทั้งสองคน
“เป็นไงบ้าง”
“ทุกอย่างปกติดีครับ ส่วนนี้เป็นรายงานการผลิตครับ” ผู้จัดการยื่นแฟ้มเอกสารซึ่งเป็นรายงานการผลิตเครื่องเพชรให้กับแทนไทดู
“คิดว่าจะเสร็จทันตามกำหนดที่เราจะต้องส่งลูกค้าไหม”
“ทันแน่นอนครับ”
“ดี อย่าให้มีอะไรผิดพลาดเกิดขึ้น ไม่งั้นคงรู้นะว่าผลมันจะเป็นยังไง” แทนไทสั่งเสียงเรียบนัยน์ตาคมมองไปยังผู้จัดการโรงงานอย่างกดดัน ทำเอาชายวัยกลางคนถึงกับเสียวสันหลังวาบเมื่อเจอกับสายตาคมราวกับใบมีดนั้นจ้องมองมา
“ครับ” ผู้จัดการตอบรับคำสั่ง ก่อนจะยื่นมือที่สั่นเล็กน้อยมารับแฟ้มเอกสารที่แทนไทส่งกลับคืนไปให้
“คุณแทนไทจะเข้าไปตรวจดูสินค้าไหมคะ” กานดาที่ยื่นเงียบอยู่เอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นว่าตรงนี้ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว
“ไหน ๆ ก็มาแล้ว เข้าไปดูหน่อยแล้วกัน” จากนั้นทั้งคู่จึงเดินเข้าดูที่ห้องเก็บสินค้าที่ทำเสร็จแล้ว ห้องนี้เป็นห้องเก็บสินค้าที่รอตรวจสอบว่าเพชรทั้งหมดไม่มีของปลอมปะปนมา ก่อนจะส่งไปเก็บที่ตู้นิรภัยที่บริษัทใหญ่ จึงมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่หลายคน และกว่าจะเข้าไปในห้องนั้นได้ก็ต้องผ่านการตรวจหลายขั้นตอนเพื่อเป็นการป้องกันการขโมยหรือสับเปลี่ยนเครื่องเพชร ในการตรวจนั้นแม้เป็นผู้บริหารก็ไม่เว้น
หลังจากใช้เวลาในการตรวจโรงงานไปเกือบค่อนวัน ทั้งคู่ก็กลับเข้ามาที่บริษัทอีกครั้งเพื่อเคลียร์งานเอกสารที่เหลืออยู่
เมื่อมองดูนาฬิกาอีกครั้งก็ใกล้เวลาเลิกงานแล้ว แทนไทจึงปิดแฟ้มเอกสารในมือลง เอนกายพิงพนักเก้าอี้แล้วปิดเปลือกตาลงช้า ๆ เพื่อพักสายตาที่ล้าจากการอ่านเอกสารติดต่อกันมาเป็นเวลานานหลายชั่วโมง ก่อนจะได้ยินเสียงเคาะประตูพร้อมกับร่างโปร่งบางของเลขาที่เดินเข้ามา
กานดาเดินอ้อมไปด้านหลังเก้าอี้ก่อนจะวางมือลงที่ไหล่แกร่งทั้งสองข้างแล้วเริ่มออกแรงบีบนวดให้เพื่อคล้ายความเมื่อยล้า แทนไทปิดเปลือกตาลงอย่างผ่อนคล้าย
หญิงสาวจะทำแบบนี้เสมอเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มเหนื่อยและเครียดกับงานจนเกินไป และแทนไทก็ชอบให้เธอทำให้เวลาเหนื่อย ๆ เพราะมันช่วยทำให้รู้สึกดีขึ้นมากทีเดียว มือเรียวนวดไปเรื่อย ๆ ตามไหล่แกร่งก่อนจะเลื่อนขึ้นไปตรงขมับแล้วนวดวนเบา ๆ อยู่อย่างนั้น ก่อนจะเอ่ยขึ้น
“ได้เวลาเลิกงานแล้วนะคะ คุณจะกลับเลยไหม”
“อืม”
ทั้งคู่เดินออกมาหน้าบริษัทเพื่อที่จะขึ้นรถกลับบ้าน แทนไทก้าวขึ้นไปนั่งในรถที่ภพขับมาจอดรออยู่แล้ว ส่วนกานดาก็เดินไปเรียกแท็กซี่ ซึ่งก็เป็นอย่างนี้มาตั้งแต่ที่กานดาย้ายมาเป็นเลขาให้แทนไทเมื่อ 1 ปีก่อนเพื่อไม่ให้คนที่บริษัทรู้ และเพื่อไม่ให้คนที่บ้านรู้เรื่องนี้กานดาและแทนไทจะเจอกันที่สวนสาธารณะก่อนที่จะถึงบ้านเพื่อขึ้นรถเข้าไปที่บ้านด้วยกันและวันนี้ก็เช่นกัน
ภพจอดรถที่สวนสาธารณะที่เคยจอดเป็นประจำเพื่อรอกานดาที่กำลังนั่งแท็กซี่ตามมา
หลังจากเมื่อคืนที่แทนไทฝ่าพายุกลับมาจนเปียกไปหมดทั้งตัว เช้านี้เลยมีอาการครั่นเนื้อครั่นตัวเหมือนจะไม่สบาย“ดาครับ” เสียงชายหนุ่มแหบผิดปกติจนกานดารับรู้ได้ หญิงสาวขมวดคิ้วทันทีเมื่อเดินเข้ามาใกล้ชายหนุ่ม“ไม่สบายหรือเปล่าคะ ทำไมเสียงเป็นแบบนั้น” เธอถามพร้อมกับยกมือขึ้นอังหน้าผากของชายหนุ่ม “ตัวรุม ๆ วันนี้คุณพักอยู่บ้านดีกว่าค่ะ เดี๋ยวฉันจะไปดูคนงานหน่อย”“ไม่เอาครับ ผมจะไปกับคุณด้วย”“แต่คุณป่วย มันจะหนักกว่าเดิมค่ะ ไปนอนพักดีกว่า” กานดาไม่ยอมให้ชายหนุ่มออกไปข้างนอกเพราะเธอรู้ดีว่าถ้าแทนไทป่วยจะหายยากมาก เพราะฉะนั้นต้องให้ชายหนุ่มรักษาตัวเองตั้งแต่ยังไม่เป็นหนัก“ดาครับ…” น้ำเสียงออดอ้อนแบบนี้กานดาไม่เคยใจแข็งได้เลยจริง ๆ“ฉันขอไปดูคนงานแป็บเดียวค่ะแล้วจะรีบกลับมา” สุดท้ายกานดาก็ต้องยอมทั้งที่พยายามใจแข็งแล้วแท้ ๆ“ผมรอนะ” แทนไทยิ้มกว้างทันทีเมื่อได้รับคำตอบที่พอใจ กานดาพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะเดินออกจากบ้านไป ชายหนุ่มมองตามจนสุดสายตาก่อนจะรีบปิดประตูบ้านลง เขามองกวาดไปทั่วบ้านแล้วเริ่มลงมือทำอะไรบางอย่าง บางอย่างที่จะตัดสินทุกอย่างต่อจากนี้ไปตลอดชีวิตของเขากานดาเดินตรวจงานจนเสร็จก่อน
“ผมไม่มีความสุขเลยสักวัน…...ดา”กานดาตัวชาวาบ ยืนนิ่งอยู่กับที่ไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัวหรือหันไปมอง เสียงฝีเท้าที่ค่อย ๆ ก้าวเข้ามาใกล้ทำให้หญิงสาวอย่างวิ่งออกไปจากตรงนี้แต่เธอกลับก้าวขาไม่ออกเลยสักนิด แรงกอดจากด้านหลังยิ่งทำให้กานดาอยากหนีหายไปจากตรงนี้ตอนนี้เลยยิ่งดี“ดา คิดถึง ผมคิดถึงคุณ ฮึก อย่าไปไหนอีกนะ อยู่กับผมก่อน ให้ผมได้อธิบายก่อนนะ ฮึก” กานดารับรู้ได้ถึงร่างกายอันสั่นเทาของคนที่กอดอยู่ด้านหลัง แทนไทกอดหญิงสาวเอาไว้แน่นราวกับกลัวว่าเธอจะหนีหายไปอีกใบหน้าคมซบลงกับไหล่แคบของหญิงสาวปล่อยให้น้ำตาลูกผู้ชายไหลรินอย่างไม่อาจห้ามได้ ความทรมานในวันที่ไม่มีหญิงสาวอยู่ชายหนุ่มรู้ซึ้งเป็นอย่างดี เขาจะไม่มีวันปล่อยเธอไปไหนอีกเด็ดขาด“คุณแทนปล่อยฉันก่อนนะคะ” กานดาบอกเสียงสั่นเครือแม้จะพยายามห้ามตัวเองไม่ให้ร้องไห้แต่น้ำตามันกลับไม่ยอมฟังเธอเลย“ไม่ปล่อย คุณหายไปอีก ผมไม่ปล่อย” แทนไทเอ่ยเสียงอู้อี้อยู่กับไหล่ของหญิงสาวทั้งยังกระซับกอดแน่นขึ้นด้วย“ปล่อยฉันก่อนเถอะค่ะ ถ้าใครมาเห็นเข้ามันจะดีนะคะ คุณจะทะเลาะกับคนของคุณเปล่า ๆ ” กานดาพยายามแกะมือชายหนุ่มออกจากตัว แต่ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหนก็ไม่
แทนไทยกมือถือขึ้นต่อสายหาเพื่อนอีกคนที่น่าจะคุ้นเคยและชำนาญพื้นที่มากว่าพวกเขาตู๊ดดดด ตู๊ดดด“ฮัลโหล”(ว่า)“ฉันมีเรื่องให้แกช่วยว่ะ”(อื้มรู้แล้ว พวกไอ้คริสบอกมาหมดแล้ว ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวทางนี้ฉันจะช่วยสืบอีกแรง)“ขอบใจมากราฟ”(ถ้าได้ความคืบหน้าอะไร ยังไงเดี๋ยวฉันติดต่อไป แล้วไนท์ว่าไงบ้าง)“น่าจะรู้เรื่องแล้วละแต่ฉันไม่อยากกวนมันตอนนี้ว่ะ ทางนั้นก็มีเรื่องอยู่” แทนไทว่า เมื่อนึกไปถึงเพื่อนอีกคนที่ตอนนี้ก็กำลังเจอปัญหาอยู่เหมือนกัน(อืม มีอะไรเพิ่มเติมเดี๋ยวติดต่อไป) พูดเสร็จก็วางสายไปทันที การที่ได้ราฟาแอลมาช่วยทำให้การหาตัวกานดาง่ายขึ้นเพราะด้วยธุรกิจของราฟาแอลควบคุมทางฝั่งอเมริกาและยุโรปเป็นส่วยใหญ่ทำให้ราฟาแอลคุ้นเคยกับพื้นที่มากกว่าพวกเขาที่อยู่ทางฝั่งเอเชีย แถมคนของราฟาแอลยังเก่งเรื่องแกะรอยและติดตามมากกว่าหลังจากวางสายจากเพื่อนสนิท แทนไทก็ต่อสายตรงเข้าเครื่องของพ่อตัวเองทันที และรอไม่นานปลายสายก็รับ“พ่อเอาเมียผมไปไว้ไหน” แทนไทถามเสียงราบเรียบ(เมียแกก็อยู่ที่บ้านไง) ปลายสายตอบมาเสียงเรียบไม่แพ้กัน“จะอยู่ที่บ้านได้ไงก็ในเมื่อเมียผมหายไปพร้อมกับพ่อ”(ฉันเปล่า ยัยผู้หญิงคนนั้น
“คุณต้องการอะไรปารมี” เสียงทุ้มถามขึ้นเสียงเข้ม แต่มีหรือที่หญิงสาวจะกลัวในเมื่อเธอเสียแทนไทไปแล้ว เธอก็จะทำให้แทนไทเสียกานดาไปเหมือนกัน“ความสะใจยังไงละ คุณสงสารฉัน พาฉันเข้ามาอยู่ที่นี่นั้นก็เท่ากับว่าเป็นการบอกกลายๆ ไปแล้วว่าคุณเลือกฉัน แล้วคุณคิดว่าคนฉลาดๆ อย่างเลขาคุณเขาจะทำยังไงดีนะ”“!!!”“หึ” ปารมีว่าก่อนจะเดินออกไปจากบ้านพร้อมความสะใจที่ได้เอาคืนคนอย่างแทนไทให้รู้สึกเจ็บบ้างเหมือนที่เธอรู้สึก ทิ้งไว้เพียงแทนไทที่ยืนนิ่งชาไปทั้งตัวแทนไททรุดนั่งลงกับพื้นอย่างคนหมดแรงเมื่อเข้าใจความหมายของสิ่งที่หญิงสาวต้องการจะสื่อ‘อย่ารู้ตัวในวันที่สาย’‘รู้ตัวซะแทนไท อย่าให้ต้องเสียใจในวันที่เขาไม่อยู่กับแกแล้ว’‘หึ ทำทุกอย่างเพราะสงสาร งั้นก็อย่าลืมสงสารตัวเองบ้างนะไอ้ลูกชาย’เสียงของแอนโทนี่และผู้เป็นพ่อดังขึ้นมาในหัวทันที‘ไม่มีทาง ผมไม่ยอมปล่อยให้คุณไปจากผมแน่กานดา คุณต้องอยู่กับผม ต้องอยู่กับผมเท่านั้น ผม…คุณ’ เสียงพึมพำแผ่วเบาพร้อมกับหยดน้ำตาของลูกผู้ชายที่ไม่คิดว่าจะมีไหลลงมาช้าๆ ในอกมันเจ็บไปหมดเมื่อรู้ว่าตอนนี้ข้างกายที่เคยมีใครคนหนึ่งอยู่มันว่างเปล่า ความเหน็บหนาวค่อยๆ กัดกินใจแกร
แสงแดดยามเช้าไม่ได้มีผลทำให้ร่างหนาที่นอนหลับอยู่บนเตียงอย่างมีความสุขจากเหตุการณ์เมื่อคืนรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเลยสักนิดก๊อกๆ ก๊อกๆเสียงเคาะประตูทำให้คิ้วหนาขมวดเข้าหากันเล็กน้อยแต่ยังไม่ยอมลืมตา มือหนาควานหาร่างบางที่กกกอดเมื่อคืนแต่กลับมีแต่ความว่างเปล่า ตาคมลืมขึ้นมามองข้างกายก็ไม่เห็นคนที่กอดเมื่อคืน จึงคิดว่ากานดาคงลงไปทำอาหารเช้าเมื่อทุกวัน จึงไม่ได้คิดอะไรแต่เสียงเคาะประตูยังคงดังไม่หยุดชายหนุ่มจึงตัดรำคาญโดยการลุกขึ้นไปเปิด แต่พอเห็นคนที่เคาะประตูแทนไทก็อยากจะปิดประตูลงซะตอนนี้เลย“แทนค่ะทำไมเมื่อวานคุณไม่ลงไปทานข้าว แม่เลขานั้นก็ด้วย” แทนไทยังไม่ได้พูดถามอะไรก็เจอคำถามรัวจากสาวเจ้าซะก่อน ทำเอาคนที่ตื่นขึ้นมาอย่างอารมณ์ดีเริ่ม หงุดหงิดขึ้นมาแล้ว“ผมจะลงไปหรือไม่ลงไปแล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณละปา” แทนไทถามขึ้นเสียงเย็น สายตามองหญิงสาวอย่างไม่พอใจ“กะ ก็ปาเป็นห่วงกลัวว่าคุณจะไม่สบาย เมื่อวานปาก็ว่าจะขึ้นมาดูแต่พ่อคุณก็ไม่ยอมเอาแต่บอกว่าคุณไม่เป็นไรอยู่นั่นแหละ เป็นพ่อยังไงไม่ห่วงลูกตัวเองเลยถ้า…”“ปารมี! ที่คุณกำลังว่าอยู่คือพ่อของผม!! คุณลงไปได้แล้ว แล้วไม่ต้องหวังดีเสนอหน้าขึ้นมา
“ไม่ต้องกลัวที่รัก ครั้งนี้ผมจะถนอมคุณให้มากที่สุด เชื่อใจผมนะ” แทนไทเอ่ยปลอบเสียงนุ่ม กานดาพยักหน้าเบาๆ แทนไทยกยิ้มเล็กน้อยอย่างพอใจก่อนจะสวบบบบ!!“อ่า/อืมม” แทนไทกดดันมังกรตัวใหญ่เข้าไปถ้ำแคบทีเดียวสุดความยาว จนทำให้กานดาผวากอดร่างหนาแน่นจะกี่ครั้งก็ไม่ชินสักทีกับความใหญ่และยาวนั้น แทนไทรอจนกานดาพร้อมก่อนจะเริ่มขยับ“อ่า เบาค่ะแทน เบา พี่แทน อ่า”“อ่า แน่นมาก ซี๊ดดด” มือหนาจับสะโพกมนเอาไว้มั่นแล้วกระแทกกระทั้นแท่งใหญ่เข้ามาอย่างหิวกระหาย“อ๊ะ อ๊ะ อ่า อ๊ะ” เสียงหวานครางเสียวออกมาดังลั่นห้อง เธอส่ายหน้าไปมาด้วยความเสียวซ่าน ทรมานจนไม่รู้จะระบายความเสียวนั้นออกมายังไง มือเล็กจิกเล็บลงไปที่ต้นแขนแกร่งเพื่อระบายความเสียวอีกทางแก่นกายใหญ่สอดใส่เข้าสุดออกสุดอย่างหนักหน่วงรัวเร็วไปตามอารมณ์ความกระสัน ทั้งที่ปากบอกว่าจะถนอมเธอแต่เอาเข้าจริงแทนไทแทบควบคุมตัวเองไม่อยู่เมื่อด้านในนุ่มของหญิงสาวบีบรัดเอ็นใหญ่จนปวดหนึบแทนไทก้มลงจูบหญิงสาวแนบแน่นดุดันและร้อนแรง ปากหนาขบเม้มเรียวปากบางไล้เลียปากสวยดูดดึงลิ้นเล็กอย่างเอาแต่ใจส่วนล่างยังตอกใส่ร่องสวาทที่คับแคบไม่หยุดหย่อน มือหนาบีบเคล้นอกสวยจนแดง