ณรงค์พร้อมรักษาอาการป่วยให้คุณแม่แล้ว ด้วยเข็มเนื้อทื่อมน กับร่องก้นของหญิงกลางวัยเริ่มจะเปียกฉ่ำ หรืออาจจะเป็นเพราะ เธออยู่กับเขาสองต่อสอง และเธออาจจะรู้สึกตามด้วย
สองมือหนากำลังลูบไล้เรือนก้น ลากไปตามเรือนกายอุ่นร้อน สัดส่วนชวนเย้ายวนให้เกิดอารมณ์ ทำให้ณัฏฐิการู้สึกว่า ไม่มีการฉีดยาที่ก้นเลย นอกจากเขากำลังนั่งคร่อมบนเรือนกายเธอ มีบางอย่างกำลังไหลลงมาในร่องก้น บุกเข้าไปในช่องสวาทซึ่งกำลังเปียกอยู่
“ณรงค์ หยุดนะ!!! ไหนบอกว่าจะฉีดยายังไง มานั่งทับตัวแม่ทำไมกันล่ะ?” ณัฏฐิกาห้ามเสียงดัง แต่ไร้เรี่ยวแรงขัดขืน พิษไข้ทำให้เธอต้องยอมจำนน ปล่อยเขาดำเนินต่อไป
“ผมกำลังฉีดยาให้คุณแม่ครับ แต่ต้องเขย่ายาอีกนาน กว่ามันจะไหลเข้าไปในตัวคุณแม่” ชายหนุ่มแหย่ท่อนเนื้อของตัวเอง ซึ่งกำลังตื่นตัวเต็มที่ทั้งใหญ่และยาวมาก มันไม่ได้ทำการบ้านกับณัฐณิชาเป็นเดือนแล้ว
“ปล่อยแม่นะ!!” ณัฏฐิกาพยายามจะยกตัวเองลุกขึ้น แต่เรี่ยวแรงมันไม่มีเอาเสียเลย ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากกินยาเข้าไปแล้ว ยิ่งง่วงนอนหมดแรงต่อต้านอีก
ปลายองคชาติกลมร้อน พยายามมุดตามต้นขา เพื่อควานหากลีบบวมเปียกแฉะ ณัฏฐิกาพยายามหนีบต้นขาปกปิดมิให้ณรงค์ดันจ้าวโลกเข้ามา แต่ยิ่งหนีบมากเท่าไหร่ ชายหนุ่มก็ยิ่งรู้สึกดีที่มันฟิตแน่น ส่งความสุขเสียวผ่านองคชาติ
“อ้าขากว้างๆ สิครับ ผมจะฉีดยาให้คุณแม่” ชายหนุ่มโน้มตัวลงมา กระซิบอยู่ข้างหู เมื่อหญิงกลางถูกลูกชายนอนทับจนดิ้นไม่หลุด ราวกับเผลอตัวเมื่อเรือนต้นขาอวบเผยกว้าง เขาปล่อยองคชาติมุดเข้าไปในกลีบบวมแน่นได้
“กล้ามเนื้อคุณแม่ฟิตดีจังเลยนะครับ” เขาว่าจบ ดันปลายองคชาติไหลลึกเข้าไปอย่างเร็ว ทำให้หญิงกลางคนอ้าปากร้องอย่างเสียวกระสัน นานแล้วที่ไม่มีเพศสัมพันธ์กับใครตั้งแต่สามีป่วยตาย เธอรู้สึกแน่นท้องน้อย และรู้สึกดีเหลือเกิน
“ผมจะรักษาให้นะครับ อย่าดื้อนะครับ” หมอณรงค์ กำลังทำการรักษาคนไข้ด้วยการฉีดยาจากเบื้องหลัง เรือนกายของณัฏฐิกาสวยงาม อีกอย่างเธอดูแลตัวเองมาดีตั้งแต่มีลูกสาว ร่างกายของเธอจึงไม่ค่อยร่วงโรยเหมือนคนอื่นๆ
“หยุดเถอะนะ... ณรงค์” ณัฏฐิการ้องขอวิงวอน แต่ณรงค์ไม่หยุดจึงเร่งความเร็ว และกระแทกแรงๆ เข้าไปภายในกายเธอหนักขึ้น หญิงกลางคนครวญร้องจนห้ามเขาไม่ออก เมื่อมันทำให้เธอรู้สึกมีความสุขเหลือเกิน จนลืมตัวหยุดเขา
ท่อนเนื้อบวมพองไหลลื่นเล็ดลอดเข้าไปจนสุดทาง กระทุ้งหนักกระแทกแรง เข้าไปในช่องสวาทอันคับแคบแทบเคลิบเคลิ้ม หมอหนุ่มเริ่มเครื่องร้อน สองมือจึงปลดเสื้อเชิ้ตสุภาพ และกางเกงนั้นออก ปล่อยให้เหลือกายเปลือยเปล่า
หญิงกลางคนมิได้ขัดขืนอีกต่อไป ยอมทำตามอย่างสลึมสลือ เพราะยาออกฤทธิ์ทำให้ง่วงนอน แต่เธอหลับไม่ลงเลย เมื่อถูกหมอหนุ่ม กำลังสอดใส่ท่อนเนื้อให้จนกายสะเทือนอย่างเป็นสุข
“คุณแม่รูปร่างดี หุ่นสวยจริงๆ นะครับ” หมอหนุ่มเอ่ยปากชม แม้กำลังกระแทกจากเบื้องหลัง นึกอยากจะเชยชมกายเบื้องหน้า แต่หญิงกลางคนมิยอมพลิกกายให้
หมอหนุ่มดึงองคชาติออก พลางลุกขึ้นจับเธอพลิกกายนอนหงายบนเตียงใหญ่ ณัฏฐิกาพยายามขัดขืน แต่ว่าฤทธิ์ยาทำให้เธอหมดแรง ไม่อาจหาหนทางหนีได้เลย นอกจากถูกหมอหนุ่มกำลังขืนใจอย่างนุ่มนวล
“กางขากว้างๆ สิครับ ผมจะฉีดยาให้” หมอหนุ่มแทรกกายหนุ่มแน่น เข้ามาระหว่างเรือนกายหญิงกลางคน ดันองคชาติยาวลอดเข้าไปในพื้นที่ต้องห้าม ไร้ผู้คนมานานแล้ว ความล้ำลึกและก้อนเนื้อที่อัดแน่นแข็งยาว กำลังไปชนกันภายในจนเธอร้องอุทาน
“แม่จะบอกณัฐณิชา” เธอข่มขู่กลับ รู้สึกแย่มากเลยที่ใช้สามีคนเดียวกับณัฐณิชา สีหน้าเธอดันเพลิดเพลินมีความสุข แทนที่จะโกรธ...
“แต่ผมว่า แม่อย่าบอกเขาเลยนะครับ เพราะผมรู้ว่าแม่ชอบผมให้มารักษาแบบนี้” ณรงค์พยายามหว่านล้อมให้ณัฏฐิกายอมรับเสียโดยดี ว่าร่างกายเธอตอบรับกิจกามจากเขาดีแค่ไหน เมื่อสายธารน้ำหลั่งไหลเมื่อเขาดันก้อนเนื้อเข้าไป
เพราะณัฐณิชาทำแต่งาน ไม่มีเวลาให้เขา แม้จะเป็นวันหยุดเดียวกัน ณรงค์อยากจะทำการบ้านกับเธอยังไม่ได้เลย และวันนี้เป็นโอกาสดีที่จะได้ปลดปล่อยอารมณ์ แม้จะไม่ใช่กับภรรยา แต่แม่ยายหุ่นดี หน้าตาสวย เขาคงจะอดใจไม่ไหว เพราะหน้ามืดตามัวจนทนไม่ได้
ณัฐฏิกาไม่อาจปฏิเสธ เขาพูดมาราวกับรู้ใจ กลัวจะถูกตราหน้าว่าหลายผัว เธอจึงไม่ยอมมีสามีใหม่ แต่กลับมาได้กับสามีของลูกสาว เรื่องนี้ยิ่งทำให้เธอไม่สบายใจ แต่เมื่อมาถึงขั้นนี้... ณัฏฐิกาจึงปล่อยตัวปล่อยใจให้หมอหนุ่มละเลงรักในตัวเธอ
ต้นขาถูกจับเปิดกว้าง ปล่อยให้ท่อนเนื้อกระแทกใส่ครั้งแล้วครั้งเล่า ความเสียวกระสันส่งอารมณ์จนถึงจุดสูงสุด ณัฏฐิกาเผลอครางเพราะอารมณ์เคลิ้ม และณรงค์อัดกระแทกรัวหนัก เมื่อรู้ว่าหญิงกลางคนเสียวจนแทบทนไม่ไหว
หน้าอกช่างสวยงามจนมือไม่อยากอยู่เฉย บีบให้นุ่มมือ เค้นให้ได้อารมณ์ ในขณะที่สะโพกยังคงทำงานขยับเข้าหากายณัฏฐิกา ร่องกลีบบวมตอบรับตอดขมิบแน่น จนเสียวขนลุกไปทั่วกาย ชายหนุ่มรู้สึกดีเหลือเกิน เมื่อได้เสพสมกับเธอ
ครั้งแรกของเขากับณัฏฐิกา จึงยังคงเป็นความลับหลังจากเสร็จร่วมกัน และหลังจากนั้นเป็นต้นมา...ณัฏฐิกามักจะอ้างว่าป่วยเพื่อให้ณรงค์ หมอหนุ่มมาแอบลับนอนกับตนเรื่อยมา... ยามเมื่ออารมณ์ความต้องการร้อนรุ่ม...
******
หลังจากนางสร้อยเงินเดินทางกลับมาถึงบ้าน พบเห็นว่าลูกสาวอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า นั่งเย็บปักถักร้อยอยู่ภายในห้องขอตัวเอง โดยไม่ออกมาด้านนอกตามที่ตนสั่ง นางสร้อยเงินแวะไปเยี่ยมนายปวรุตม์เสียหน่อยว่ากำลังทำงานอยู่หรือเปล่าพบเห็นว่าชายหนุ่มดังกล่าว กำลังนั่งปอกเปลือกมะพร้าว และกำลังผ่าฟืนตามสั่ง เพื่อเป็นเชื้อเพลิงให้นางสร้อยเงิน ทำอาหารมื้อเย็นและเช้าวันถัดไป“ทำงานอยู่รึ ระวังมีดบาดนะ”“ครับ ผมทำงานใกล้จะเสร็จแล้วครับ” ปวรุตม์ยิ้มแย้มก่อนจะตั้งใจทำงานต่อไป แววตาของนางสร้อยเงินมองชายหนุ่มอย่างไม่ไว้ใจ ระหว่างที่ไม่อยู่นางน่าจะพากลิ่นจันทร์ไปด้วย แต่อยากให้ลูกสาวประหลาดใจ เมื่ออีกไม่กี่วันบิดาของเธอจะกลับมาวันเวลาผ่านไปราวอาทิตย์หนึ่ง ปรากฏร่างของชายหนุ่มสูงวัย เดินทางมาถึงบ้านของนางสร้องเงิน ปวรุตม์กำลังขุดดินปลูกต้นไม้อยู่ข้างบ่อน้ำ เขาถอดเสื้อสวมผ้าถุงสีทึบเพียงชิ้นเดียว ปวรุตม์พบเห็นร่างของชายดูดีมีภูมิฐาน เขารู้สึกกลัวขึ้นมาในทันใด หน้าตาก็คล้ายๆ กับกลิ่นจันทร์“ไอ้หนุ่ม... เอ็งเป็นใครมาจากไหน มาอยู่บ้านข้าวะ?” แววตาที่ดุดันมองมายังชายหนุ่มอย่างไม่ไว้ใจ“สวัสดีครับ ผมชื่อ ปวรุตม์ คุณส
หลังจากนั้นเป็นต้นมา... ปวรุตม์จึงเปลี่ยนเสื้อผ้า ทำตัวกลมกลืนกับคนที่บ้านของกลิ่นจันทร์ ช่วยเหลืองานบ้าน และงานสวน ทำให้สร้อยเงินรู้สึกพอใจว่า ชายแปลกหน้าจากกรุงเทพฯ ซึ่งหาบ้านยายแสงดาวไม่เจอ กลายเป็นคนงานคนสวนไปโดยปริยายชายหนุ่มอาศัยอยู่ในเรือนรับรองเล็กๆ อีกแห่งของเขตบ้าน เพราะนางสร้อยเงินไม่ยอมให้อยู่ในบ้านเดียวกับลูกสาว หวังว่าจะไหว้วานผู้ใหญ่บ้าน ช่วยเขียนจดหมายไปบอกสามีในเมืองว่า ช่วยแวะกลับมาบ้าน เรื่องไอ้หนุ่มกรุงเทพฯ มาอาศัยอยู่ในบ้าน“แม่เดินทางปลอดภัย โชคดีนะจ๊ะ” หลังจากที่แอบลักลอบได้เสียกับปวรุตม์ เธอระมัดระวังตัวมิให้มารดารู้ว่า ลูกเสียสาวไปแล้วกับชายแปลกหน้า แต่เขาทำให้กลิ่นจันทร์มีความสุขยามเมื่อได้สวมกอด และบางสิ่งที่ทำให้เธอหลงใหล“แม่จะรีบไปรีบกลับนะ อยู่ดูแลบ้านดีๆ ล่ะ” นางสร้อยเงิน ใช้แรงงานทาสขับเกวียนไปส่งนางที่บ้านผู้ใหญ่ หวังจะขอให้ผู้มีความรู้เขียนจดหมายส่งไปให้สามีทราบเรื่องที่บ้านทีหลังจากนั้นเมื่อไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อน กลิ่นจันทร์จึงเดินไปที่เรือนรับรองของปวรุตม์ เพื่อขอมีอะไรด้วยกันเพราะความคิดถึงมากมาย...ชายหนุ่มกำลังรอเวลานี้ที่จะได้อยู่กับกลิ่นจันท
เรือนกายหญิงสาวยืนพิงหลังต้นไม้ใหญ่ บดบังเรือนร่าของเธอและปวรุตม์ให้พ้นสายตาใครอื่น สองแขนหญิงสาวซึ่งกันเอาไว้ระหว่างอกเขาและกายบางได้ลดลง แขนบางทั้งสองโอบกอดตอบรับชายหนุ่มเบื้องหน้าทำให้ปวรุตม์ดีใจเหลือเกินเมื่อเธอยินยอมเขาแล้ว มือของชายหนุ่มทั้งสองจึงทำงานปลดตะขอกางเกง ทำให้แววตาหญิงสาวตกใจว่า นี่เขาจะแก้ผ้าทำไมกันนะ...“ปวรุตม์ คุณจะทำอะไรรึ?” เธอไม่เข้าใจว่า เขากำลังทำอะไรแปลกๆ ออกมา หลังจากบอกรักเธอ ต้องแก้ผ้าด้วยรึ?“ผมอยากได้คุณ ปลดผ้าถุงสิ” เขาบอกให้เธอทำบ้าง หญิงสาวยังรู้สึกสับสนว่า ทำไม แต่ถ้าลองดูก็อาจจะคลายความสงสัยได้บ้างเพียงช่วงล่างเปล่าเปลือยปวรุตม์ไม่เห็นมีที่ร่วมรักใดได้ คิดเสียว่าคงต้องเลือกท่ายืนนอกสถานที่ในป่าลับเช่นนี้เขาโอบอุ้มเธอเอาไว้ใต้สองแขน ทำให้กายบางหญิงสาวลอยสูง ปลายเท้าไม่แตะพื้นและช่วงต้นขาของเธอต้องกางออก เพราะเขาดึงร่างบางเข้าหาชายหนุ่ม เรือนหน้าหญิงสาวตกใจและหน้าแดงก่ำ เธอรู้สึกอายจริงๆ“อย่าตกใจนะ กลิ่นจันทร์... ผมจะทำให้คุณรู้สึกดีเอง” ชายหนุ่มพยายามกระซิบข้างหู มิให้เธอตกใจดิ้นหลุดจากแขนเขา เธอกลัวจนตัวสั่น ระหว่างถูกดึงเข้าหาร่างชายหนุ่ม ต้นข
หลังจากเขาแนะนำตัวเองกับแม่ของกลิ่นจันทร์ เธอชื่อสร้อยเงิน กำลังทำอาหารกับทาสสองคน สีหน้าของเธอไม่ค่อยไว้ใจที่มีผู้ชายแปลกหน้ามาคุยกับลูกสาว“แม่ อย่าไปว่าเขาสิ เขาคงหลงทางมาถึงบ้าน ถามหายายแสงดาว แม่พอจะรู้จักคุณยายแสงดาวไหม” กลิ่นจันทร์ถามด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม คิดว่าหากช่วยเหลือเขาไปแล้ว เธอกับแม่จะได้บุญ และเขาคงจะไปทำธุระเรื่องครอบครัวได้เสียที“โอ๊ย...อยู่มาตั้งนาน ไม่เคยได้ยินยายชื่อแสงดาวอะไรนั้นเลยนะ พ่อหนุ่มมาจากกรุงเทพฯ ลองไปถามญาติตัวเองใหม่เถอะ... กลับไปได้แล้ว ลูกสาวฉันจะเสียชื่อหมด” นางสร้อยเงินตอบปัด จึงอยากให้ทาสพาเขาออกจากเรือน“ไม่เป็นไรจ้าแม่... ให้ทาสช่วยแม่ทำอาหารเถอะ ฉันจะไปส่งเขาเองจ๊ะ” กลิ่นจันทร์รับอาสาเอง เพราะคิดว่าตนคงเป็นเหตุนำพาเรื่องวุ่นวายเข้าบ้าน คิดเสียว่าแนะนำให้เขาไปคุยกับผู้ใหญ่บ้าน เผื่อจะได้รับความช่วยเหลือที่ดีกว่านี้“ขอโทษนะครับ คุณแม่สร้อยเงิน ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ” ปวรุตม์รู้สึกเสียใจที่ไม่ได้พบญาติหรือแม่ ทุกคนหายไปไหนหมด อีกทั้งทุกๆ คนที่นี่ใส่ชุดสมัยร.๕ทั้งนั้น เขามาหลงอยู่บ้านใครกันเนี่ย... ชายหนุ่มแอบคิด******กลิ่นจันทร์พาเขาเดินออกจากบร
รุ่งเช้าท่ามกลางเสียงโวกเวกโวยวาย ผู้คนเดินไปมา สลับวิ่งจนพื้นไม้ภายในบ้านสั่นสะเทือน ปวรุตม์รู้สึกว่าถูกรบกวนจากการนอนแสนสบาย จึงลืมตาปรือตื่น หันมองว่าร่างของแม่ข้างๆ หายไป คงจะสมทบกับญาติ ซึ่งกำลังทำอะไรสักอย่าง“เร็วๆ เข้า!!! อุ้มคุณแม่ขึ้นรถ!!!” เสียงของผู้หลักผู้ใหญ่กำลังวุ่นวาย กับการนำร่างของคุณยายซึ่งเริ่มหายใจช้าลง หลับตาโดยไม่มีการตอบสนอง ครอบครัวญาติฝ่ายแม่ตกใจมากพวกเขาพาร่างของคุณยายขึ้นรถ ออกตัวจากบ้านไปอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงญาติทุกๆ ต่างคนกลับไปที่รถของตัวเอง ต่างขับรถแห่ไปทีละคันจนหมดบ้าน...เหลือไว้เพียงเขายังยืนงงอยู่ภายในบ้านคนเดียว“ไปกันหมดเลย” ปวรุตม์ไม่อาจจะพูดถามใคร ในช่วงเวลาอันฉุกละหุกได้เลย ว่าเขาควรทำตัวอย่างไร พ่อแม่เขาค่อนข้างวุ่นวายกับการพาร่างของคุณยายขึ้นรถ และรีบพาไปร.พ. ในขณะที่ญาติๆ คนอื่นๆ ต่างแยกย้ายขับรถตามไป“กลิ่นจันทร์ไปกับเขาด้วยหรือเปล่านะ?” ปวรุตม์ยังคงนึกถึงสาวเมื่อคืนนี้ หากไม่อยู่ในพุ่มไม้มืด เขาอาจจะจำหน้าเธอได้ชัดกว่านี้ ตะวันในเช้านี้ทอแสงนวลแผ่วเบา แต่ท้องเขานี่สิ ร้องออกมาอย่างหิวโหย ไม่รู้ว่าตอนนี้จะเหลืออะไรใหเขากินได้บ้าง******ช
ในความเงียบภายในรถยนต์ ระหว่างเดินทางออกมาตจว. นอกเขตเมือง สู่ชนบทในท้องนา ภาพบรรยากาศของตึกราบ้านช่องหายไปจากสายตาของชายหนุ่มคนหนึ่ง ซึ่งเป็นคนหนุ่มสมัยใหม่ อาศัยอยู่ในเมืองเขาจำใจต้องเดินทางมากับพ่อแม่ เพื่อไปบ้านของยายแสงดาวซึ่งอยู่ตจว. เขาเบื่อมากกับการไปอยู่บ้านนอก โบราณ คนแก่หัวเก่าๆ ซึ่งมันไม่มีอะไรน่าสนใจสำหรับเขาเลยปวรุตม์ (ปะ-วะ-รุด) หยิบมือถือสมาร์ทโฟนขึ้นมาเพื่อแชทกับเพื่อน และนัดกันว่ากลับบ้านจากญาติแล้ว จะไปดื่มเหล้าเที่ยวผับ ควงสาวมาฟันให้สนุกแก้เบื่อเสียเลย เขายิ้มเงียบๆ โดยมิให้พ่อซึ่งกำลังขับรถหันมาดุได้อีกแม่ของเขานั่งอยู่หน้ารถ กำลังชี้ทางบอกไปทางคุณยาย คือคุณแม่ของเธอค่อนข้างมีอายุมากแล้ว พวกเขาทั้งครอบครัวถูกเรียกให้มาบ้านญาติตจว. เพื่อให้มารับทราบว่า คุณยายใกล้จะไปสบายดีแล้ว ญาติคนอื่นๆ เรียกพ่อแม่และปวรุตม์ ให้มาดูใจกันครั้งท้าย ก่อนคุณยายจะเสีย“ทำตัวดีๆ นะแกไอ้รุตม์ เดี๋ยวจะไม่ได้รับมรดกกันพอดี” คุณพ่อของเขา เป็นลูกเขยของญาติข้างแม่ ชายหนุ่มอายุราวยี่สิบสองปี ทำตัวสงบเสงี่ยมเจียมตัวเรียบร้อย อย่างน้อยเขาอยากจะกลับเมือง มากกว่านอนค้างอยู่บ้านนอกตจว.แบบนี้