แชร์

บทที่ 32 ตัวเหม็น [3]

ผู้เขียน: Tuk Kung
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-08 17:38:08

หนิงเซียนจัดการตัดเห็ดหลินจือออกมาทีละดอก ด้วยนางมาพบเร็วเกินไปทำให้เวลานี้เห็ดยังโตไม่เต็มที่ทั้งหมด นางจึงเก็บมาได้เพียงสามดอกเท่านั้น อีกห้าดอกคงต้องปล่อยไว้เมื่อถึงเวลาเยว่สือก็จะค้นพบเอง

หลังจากเก็บทุกอย่างได้ตามต้องการ หญิงสาวได้นำใบไม้มาวางทับของที่เก็บได้อีกชั้น ก่อนจะเด็ดเอาดอกไม้ที่ขึ้นตามซอกหินวางไว้ด้านบน เพื่อบดบังสายตาของคนภายนอก เมื่อได้ของครบแล้วนางจึงได้เดินย้อนกลับทางเดิม เพื่อจะได้มาแช่น้ำอุ่นดั่งที่ตั้งใจไว้แต่แรก

“อ่า... นี่แหละคือสวรรค์โดยแท้” นึกถึงเมื่อก่อนที่นางใฝ่ฝันอยากไปแช่ออนเซ็นที่ญี่ปุ่นสักครั้ง ไม่คิดเลยว่าจะได้มาแช่น้ำจริง ๆ ต่างแค่สถานที่เท่านั้น

กายงามแช่น้ำอย่างสบายอารมณ์ นอนหลับตาพร้อมกับฮัมเพลงไปด้วย ทั้งสถานที่มิดชิด ควันสีขาวพวยพุ่งขึ้นจากน้ำ จึงทำให้มิต้องหวาดระแวงว่าผู้ใดจะเข้ามาเห็นร่างอันเปล่าเปลือยของตน อีกทั้งเสียงของน้ำตกที่ตกลงสู่พื้นดิน ราวกับเสียงสายฝนที่ซัดสาด ทำให้หนิงเซียนปล่อยอารมณ์ไปตามบรรยากาศอย่างไร้ความกังวล

ในขณะที่หญิงสาวปล่อยใจไปกับเสียงน้ำและความอุ่นของน้ำพุร้อน กลับต้องสะดุ้งตกใจสัมผัสที่ถูกโอบกอดจากใครบางคนอย่างกะทันหัน ร่างบางพยายามดิ้นสุดกำลัง ทว่าก็ไม่สามารถสู้แรงกอดรัดนั้นได้

“ว้ายยยย ปล่อยข้านะไอ้โจรห้าร้อย ไอ้คนเลว ข้าตายจะเป็นผีไปหลอกแก” เพราะความตื่นกลัวทำให้ร่างบางพ่นคำด่าออกไปไม่หยุด ทั้งดีดดิ้นและทุบตีใส่อีกฝ่ายไม่ยั้ง ไม่ว่าทุบเท่าไรก็เหมือนกับว่าจะเป็นนางที่เจ็บอยู่ฝ่ายเดียว

“ผู้ใดอนุญาตให้เจ้าตาย” เขาที่เพิ่งมาถึงได้รับข่าวที่ไม่คาดคิด จึงได้เร่งมาหานางที่นี่เพื่อพิสูจน์ความจริง มือหนาคว้าหมับเข้าที่ข้อมือเล็กทันทีพร้อมกับตรวจชีพจร ใจเขาตอนนี้มันเต้นโครมคราม อธิบายความรู้สึกได้ยากยิ่งนัก ถึงจะมาในเวลาที่ยังไม่พร้อม กระนั้นก็ไม่ได้นึกเสียใจเลยสักนิด

“ทะ ท่านอ๋อง” หนิงเซียนตกใจไม่น้อย ที่ต้องมาพบเขาในสภาพเช่นนี้ ใบหน้างามแดงก่ำอายที่ต้องเปลือยกายล่อนจ้อน ไร้ซึ่งอาภรณ์ใด ๆ ปกปิด

เหลียงเฟิงอุ้มภรรยาขึ้นจากบ่อน้ำอย่างรวดเร็ว พร้อมกับคว้าเอาชุดที่กองอยู่บนพื้นมาสวมให้อย่างชำนาญ ก่อนจะอุ้มคนตัวเล็กขึ้นแนบอกอีกครั้ง ใบหน้าคมบึ้งตึงทำเอาหนิงเซียนมิกล้าต่อปากต่อคำ ใครจะไปคิดว่าเขาจะกลับมา และที่สำคัญเขาก็ไม่มีสิทธิ์ไม่พอใจ ในเมื่อนางเองก็มั่นใจว่าตนไม่ได้ทำอะไรผิด

“เดี๋ยวก่อนเพคะ กระบุงข้า เอากระบุงข้ากลับไปด้วย” หญิงสาวรีบชี้บอกอีกฝ่ายที่กำลังพานางเหาะขึ้นฟ้าด้วยวิชาตัวเบา ถึงจะกลัวตกมากเพียงใดแต่ของที่อยู่ในกระบุงก็สำคัญ จะทิ้งไว้ตรงนี้มิได้เด็ดขาด นางอุตส่าห์หามาด้วยความเหนื่อยยาก

“สำคัญนักหรือ ไม่ต้องห่วงหรอกประเดี๋ยวมู่หลางเอากลับไปให้” ชายหนุ่มหน้าบึ้งตึงมากกว่าเดิม ไม่พอใจที่หนิงเซียนให้ความสำคัญกับของป่าที่หามาได้ มากกว่าสุขภาพ ความปลอดภัยของนางและบุตรในครรภ์

“ท่านอ๋อง” ตอนนี้ในหัวนางลืมความไม่พอใจไปชั่วขณะ เพราะกลิ่นเหม็นแปลก ๆ ที่กำลังตีรวนขึ้นจมูก ทำให้นางเริ่มรู้สึกมวนท้องอย่างบอกไม่ถูก ตาก็มิกล้าลืมขึ้นเพราะกลัวความสูง แต่ภายในหัวก็อยากจะรู้ว่ากลิ่นเหม็นนี้มาจากที่ใด หนิงเซียนทำจมูกฟุดฟิดดมตามหากลิ่นนั้นไปเรื่อย ๆ ทำเอาคนตัวโตหายใจติดขัดขึ้นมาทันที

“เรียกแล้วเหตุใดมิพูดต่อ” ลมหายใจที่กำลังเป่ารดปลายคาง ทำเอาเขาแทบไม่มีสมาธิ อยากจะดุด่าแต่ก็ทำไม่ลง

“ท่านอ๋องอาบน้ำล่าสุดเมื่อใดเพคะ กลิ่นตัวท่านเหม็นเปรี้ยวมาก”

 “ถ้าไม่อยากตกลงไปด้านล่าง ก็หยุดคำพูดของเจ้าซะ” หากนางลืมตาขึ้นมาคงได้เห็นใบหูที่แดงซับสีด้วยความอับอาย บังอาจมาว่าเขาตัวเหม็นทั้งที่ก็อาบน้ำทุกวัน มันน่าจับบีบคอให้ตายตรงนี้ดีหรือไม่

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เหตุใดตัวร้ายถึงเอาแต่คลั่งรักข้า   ตอนพิเศษ มู่หลางผู้พ่ายแพ้ [4]

    “ไฉฉือหยุดความคิดของเจ้าเดี๋ยวนี้” คำพูดจากปากสาวเจ้าไม่ค่อยจะเข้าหู มู่หลางพยายามข่มกลั้นความโกรธของตนเองอย่างสุดความสามารถ“พวกเจ้าเป็นอันใดกัน น่ารำคาญยิ่งนัก จะไปไหนก็ไป” หลังจากเขากับภรรยาแอบฟังมู่หลางพูดคุยอยู่นาน ได้จังหวะเหมาะจึงแสร้งทำเป็นไม่พอใจไล่คนทั้งสองไปที่อื่นเสีย“ขออภัยพ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง กระหม่อมขอเวลาสักครู่พ่ะย่ะค่ะ” หากวันนี้ตกลงกันไม่เข้าใจ เห็นทีว่าไฉฉือคงต้องได้ยืดเวลากลับบ้านไปหาท่านป้าแล้ว“ไม่ต้อง อีกสองวันค่อยกลับมาทำหน้าที่ของเจ้า ไปแก้ปัญหาให้จบ อย่าให้ข้าเห็นเช่นนี้อีก” เหลียงเฟิงตวาดเสียงดุ ความจริงแล้วเขาก็อยากจะเล่นงิ้วต่อ แต่ภรรยาสุดที่รักกลับให้เขารีบจบบทบาทเจ้านายอารมณ์ร้ายนั่นเสีย ช่างน่าเสียดาย“ขออภัยอีกครั้งพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะไม่ให้เกิดขึ้นอีก” องครักษ์หนุ่มสำนึกผิดที่ตนทำให้นายเหนือหัวต้องรำคาญใจ ทั้งที่วันนี้ท่านอ๋องกับหวังเฟยควรจะได้ออกมาทานข้าวนอกอย่างสำราญใจแท้ ๆ กายหนาหันกลับไปคว้ามือเล็กคนข้างกาย พาอีกฝ่ายขึ้นชั้นสามไปอย่างรวดเร็ว“ว๊าย! พี่มู่เดี๋ยวก่อนเจ้าค่ะ” ไฉฉือร้องทัดทาน มือบางรวบเก็บชุดส่วนบนไว้แน่น ยิ่งพี่มู่ของนางดึงแรงเพียงใด

  • เหตุใดตัวร้ายถึงเอาแต่คลั่งรักข้า   ตอนพิเศษ มู่หลางผู้พ่ายแพ้ [3]

    “เป็นอะไรไปไฉฉือ” หนิงเซียนเอ่ยถามขึ้น เมื่ออีกฝ่ายเอาแต่ก้มหน้าก้มตาเดินผิด ๆ ถูก ๆ“นายหญิงเจ้าคะ ให้ข้ากลับเถอะเจ้าค่ะ คนมองเต็มเลย สงสัยข้าน้อยแต่งตัวประหลาด” หญิงสาวกระซิบกระซาบเสียงเบา ตั้งแต่นางพาเข้าในโรงเตี๊ยม ก็ถูกผู้คนจับต้องตลอดทางเดิน ทำให้นางไม่เป็นตัวของตัวเองเท่าใดนัก“เป็นเพราะเจ้างดงามพวกเขาจึงได้มอง ไปกันเถอะ ไม่มีอะไรต้องกลัว ไม่อยากเจอพี่มู่ของเจ้าหรือ”“พี่มู่อยู่ที่นี่หรือเจ้าคะ” เมื่อนายหญิงเอ่ยชื่อพี่ชายที่แสนดี หญิงสาวก็หูผึ่งขึ้นมาทันที หลงลืมความอายไปชั่วขณะ“ใช่แล้ว ไปกันเถอะ” มู่หลางจงจำไว้ที่เจ้าพูดว่าจะไม่แต่งงานน่ะ ข้าจำคำนั้นขึ้นใจเชียวละ หุ หุเพราะหลายครั้งที่นางได้ยินคำนี้ออกจากปากองครักษ์หนุ่ม หนิงเซียนก็เฝ้ารอวันที่มู่หลางจะพลาดพลั้งบ้าง ส่วนมากคนพูดเช่นนี้ก็มักจะไม่พ้นผิดไปจากที่พูดเสียทุกรายมู่หลางหายใจฟึดฟัดเมื่อเห็นอีกคนเดินเข้ามาด้านในโรงเตี๊ยม วันนี้ไม่รู้ว่าท่านอ๋องคิดอะไรอยู่ ถึงได้ออกมานั่งรอหวังเฟยที่โต๊ะด้านนอก แทนที่จะเปิดห้องพิเศษเหมือนทุกครั้งไป นั่นใครสั่งใครสอนให้แต่งกายประหลาดเช่นนั้น เดินทีกระโปรงเปิดเปลือยไปถึงขาอ่อน แต่งมายั่

  • เหตุใดตัวร้ายถึงเอาแต่คลั่งรักข้า   ตอนพิเศษ มู่หลางผู้พ่ายแพ้ [2]

    “น้องสาวทางสายเลือดหรือไม่” ตรงส่วนนี้ที่นางรู้สึกสงสัย ก็ไหนมู่หลางเคยบอกว่าไม่มีครอบครัวแล้วอย่างไร เหตุใดถึงได้มีน้องสาวโผล่มาได้“ไม่ ๆ เจ้าค่ะ ข้าน้อยเป็นเพียงบุตรสาวคนข้างบ้านพี่มู่ แต่ว่าเติบโตมาด้วยกันจึงสนิทกันเจ้าค่ะ” หญิงสาวรีบชี้แจงให้นายหญิงคนงามเข้าใจ นางและพี่มู่ห่างกันตั้งหกปี แม้จะเคยสนิทสนมกันมาก ทว่าเมื่อโตขึ้นพี่มู่กลับเว้นระยะห่าง แม้แต่เคยเล่นกอดคอกันเมื่อตอนเด็ก ๆ เขายังสั่งห้ามมิให้เข้าใกล้ ซึ่งนางก็ไม่ค่อยจะเข้าใจสักเท่าใดนัก“จริงหรือ แล้วเขาดูแลเจ้าดีหรือไม่” ที่หนิงเซียนซักถามเช่นนั้น ก็เพราะว่ามู่หลางเป็นคนค่อนข้างจะทึ่มทื่อปากหนักในเรื่องชายหญิง นางก็อยากจะรู้เขาจะมีความรู้สึกพิเศษอะไรกับไฉฉือหรือไม่ สตรีหน้าตาจิ้มลิ้มน่ารักออกปานนี้ ไม่มีความรู้สึกอันใดก็คงจะแปลกไม่น้อย“ดีมากเจ้าค่ะ มีอะไรก็นึกถึงข้ากับท่านแม่ตลอดเลย นี่ก็ห่วงว่าพี่มู่จะหาภรรยาไม่ได้ แก่ไปคงได้อยู่ตัวคนเดียว ท่านแม่จึงให้ข้ามาดูให้เห็นกับตาเจ้าค่ะ” ด้วยความใสซื่อ ไฉฉือจึงพูดออกมาอย่างไม่มีปิดบัง แต่เมื่อถึงตอนนั้น หากเขามีคนรักขึ้นมาจริง นางก็ไม่รู้ว่าตนเองจะทำใจรับได้หรือไม่ ที่ผ่านมาต

  • เหตุใดตัวร้ายถึงเอาแต่คลั่งรักข้า   ตอนพิเศษ มู่หลางผู้พ่ายแพ้ [1]

    ไฉฉือสาวน้อยจากหมู่บ้านชนบทยืนชะเง้อคอยาวอยู่หน้าประตูวังอันใหญ่โต นางไม่คิดว่าพี่มู่จะอยู่ดีเกินคาดไปมาก เมื่อได้เห็นกับตาก็สบายใจไปเปลาะหนึ่งที่ผ่านมานางและมารดากลัวว่าเขาจะอยู่อย่างยากลำบาก เงินที่แบ่งปันให้นางกับครอบครัวทุกเดือนก็มากโข แล้วไหนจะมีของฝากราคาแพงอีกมากมาย เพราะแบบนี้มารดาจึงไม่สบายใจ เกรงว่ามู่หลางจะเอาแต่ทำงานหนักไม่รู้จักดูแลตนเอง เงินที่ได้มาก็คงจะส่งให้พวกตนทั้งหมด ด้วยเขามีนิสัยคิดถึงผู้อื่นมากกว่าตนเองเสมอครอบครัวไฉฉือและมู่หลางไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดแต่อย่างใด เป็นเพียงเพื่อนบ้านที่ดีต่อกันเท่านั้น ตอนเด็กนางและเขาสนิทกันมาก ในตอนมู่หลางอายุได้สิบหนาวบิดามารดาตายจากด้วยโรคระบาด ไม่มีญาติมิตรคอยดูแล มารดาไฉฉือสงสารจึงได้ส่งเสียเลี้ยงดูราวกับลูกในไส้ สำหรับสายตาของหญิงสาว มารดาออกจะรักมู่หลางมากกว่านางที่เป็นบุตรสาวแท้ ๆ เสียอีกเมื่อเติบโตต่างฝ่ายต่างแยกย้าย ไฉฉือเป็นเพียงสตรีจึงทำได้แค่ช่วยมารดาทำสวนทำไร่อยู่บ้านนอก ส่วนมู่หลางเขาได้เดินทางมาเมืองหลวงเพื่อหางานทำ หลังจากนั้นก็ไม่ได้พบหน้ากันอีกเลย มีเพียงจดหมายพร้อมกับตั๋วเงินแนบมาให้ในทุก ๆ เดื

  • เหตุใดตัวร้ายถึงเอาแต่คลั่งรักข้า   ตอนพิเศษ เสด็จแม่ชอบกินของเผ็ด [3]

    เด็ก ๆ สามคน รวมไปถึงมู่หลางนั่งล้อมวงดื่มชากินขนมกันอยู่ศาลาพัก พร้อมกับพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน จวนแม่ทัพหยางให้ความเอ็นดูเด็กแฝดเป็นอย่างมาก ฮูหยินหยางอยากให้บุตรชายได้มีบุตรแบบนี้สักคู่ทว่าแต่งงานมาได้สองปีกลับยังไม่มีหลานให้อุ้ม พวกเขาจึงแก้เหงาด้วยการขอท่านหญิงน้อย ท่านอ๋องน้อย มาเล่นที่จวนแม่ทัพในบางครั้งขนมพร้อมกับน้ำชาแสนอร่อยถูกลำเลียงมาวางจนเต็มโต๊ะ ทำเอาเด็ก ๆ ทั้งสามตาลุกวาวอย่างถูกอกถูกใจ มาจวนแม่ทัพทีไรล้วนแล้วแต่มีของอร่อยให้ได้กินจนเต็มคราบแต่เมื่อกลับถึงวังของหวานเหล่านี้จะกินตามใจปากไม่ได้แล้ว เพราะท่านแม่มักจะจำกัดการกินของพวกเขาเสมอ ท่านแม่บอกว่าเด็กกินของหวานไม่ดี ฟันจะผุ ถูกแมลงตัวร้ายกินหมดปาก“เฮ้อ” เด็กหญิงเคี้ยวขนมแก้มตุ่ย นั่งถอนหายใจราวกับมีเรื่องให้หนักใจเป็นหนักหนา กระนั้นก็ยังยกขนมในมือขึ้นกัดเข้าไปอีกคำโต“ไม่สบายตรงไหนหรือพ่ะย่ะค่ะท่านหญิง” หลี่หยุนรีบวางขนมในมือทันที พร้อมกับถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง“เราไม่เป็นไร เราแค่กังวลใจ”“ท่านหญิงกังวลใจเรื่องอะไรหรือพ่ะย่ะค่ะ เล่าให้กระหม่อมฟังได้หรือไม่” มู่หลางรู้สึกเป็นห่วง ท่านหญิงเป็นเด็กร่าเริง น้อยนักท

  • เหตุใดตัวร้ายถึงเอาแต่คลั่งรักข้า   ตอนพิเศษ เสด็จแม่ชอบกินของเผ็ด [1]

    “หนิงหนิง พี่ทนไม่ไหวแล้ว”กายหนาจับภรรยาหันหน้าเข้าผนังห้องทันที ก่อนจะถลกกระโปรงหญิงสาวขึ้นถึงเอว จากนั้นท่อนเนื้ออันใหญ่โตสอดเข้าผสานเนินสาวอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังออกแรงโยกไปตามอารมณ์ดิบเข้าออกเป็นจังหวะช้าเร็วตามแรงอารมณ์ ไม่แม้แต่จะเล้าโลมให้เสียเวลา“ท่านพี่เดี๋ยวก่อน” หนิงเซียนบัดนี้นางได้ถูกคนตัวโตตอกอัดตนเองเข้ากับผนังอย่างไม่ทันตั้งตัว นางและเขาใช้ชีวิตรักฉันสามีภรรยามานาน จนบุตรแฝดทั้งสองอายุได้สามหนาวแล้ว ทว่าความต้องการของสามีก็มิได้ลดน้อยลงจากเดิม ในบางครั้งออกจะมีความต้องการมากล้นเสียด้วยซ้ำตั้งแต่เจ้าสองแสบเริ่มโต นางและเขาก็มิได้มีเวลาให้กันมากเท่าใดนัก ด้วยบุตรทั้งสองต่างงอแงอ้อนขอนอนด้วยทุกค่ำคืน แม้พวกเขาจะโตมากพอที่จะแยกห้องนอนกันได้แล้ว แต่ก็ยังเกาะติดผู้เป็นมารดาราวกับลูกลิง บิดาผู้หลงบุตรมีหรือจะไม่ยอมตามใจ ผลกรรมทั้งหมดได้ตกมาอยู่ที่เขาแทน“พี่ขอเถอะ ประเดี๋ยวลูกก็คงกลับจากเรียนวิชาดาบแล้ว” เขาอดกินภรรยามาเกือบเจ็ดวันแล้ว เวลานี้ได้โอกาสเหมาะ จึงไม่พลาดที่จะกลืนกินภรรยาสาว ทุกเวลาล้วนมีค่าสำหรับเขา“อ๊ะ! แรงไปแล้วนะเจ้าคะ” หนิงเซียนหัวโยกหัวคลอน เขาไม่ยอมผ่อน

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status