แชร์

บทที่ 17 โยคะดีต่อร่างกาย [1]

ผู้เขียน: Tuk Kung
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-07 16:15:18

หนิงเซียนจัดการยกอาหารขึ้นโต๊ะไว้เพียงสองที่เท่านั้น สำหรับตัวนางเองและหัวหน้าองครักษ์ ในส่วนของท่านอ๋องนางได้แยกสำรับไว้ต่างหาก เพราะท่านอ๋องยังไม่หายดีจำต้องยกเข้าไปให้กินในห้อง ส่วนที่เหลือก็จะแบ่งให้คนที่คอยเฝ้ายามด้านนอก

“องครักษ์มู่มาพอดีเลย ข้าทำอาหารเสร็จแล้ว รบกวนให้คนยกอาหารตรงนั้นออกไปกินได้เลยเจ้าค่ะ ส่วนของท่านกับข้าอยู่บนโต๊ะ ประเดี๋ยวข้าเอาสำรับไปให้ท่านอ๋องเสร็จแล้วจะออกมากินด้วยเจ้าค่ะ ท่านไม่ต้องรอข้ากินก่อนได้เลย”

เดิมทีหนิงเซียนก็มิได้รับความเคารพจากเหล่าผู้ติดตามสามีตัวร้ายอยู่แล้ว นางจึงทำตัวราวกับหญิงรับใช้ผู้หนึ่ง ประหนึ่งว่าตนเองมิใช่ภรรยาเขามาก่อน ก็แค่ตำแหน่งอนุภรรยา มิต่างอะไรกันกับสาวใช้ข้างห้อง พิเศษกว่าหญิงรับใช้ก็แค่ได้ร่วมเตียงคอยปรนนิบัติก็เท่านั้น

“อนุหนิงข้าว่าท่านทานพร้อมท่านอ๋องดีกว่านะขอรับ” มู่หลางกล่าวเตือน ท่านอ๋องเปลี่ยนไปแม้เพียงเล็กน้อยเขาก็สัมผัสได้ บางทีหลังจากนี้พวกเขาอาจจะปฏิบัติต่ออนุหนิงเหมือนเดิมไม่ได้แล้วก็เป็นได้

“ได้อย่างไรเจ้าคะ ข้าจะตีตนเสมอท่านได้อย่างไร” หากให้นางต้องนั่งกินข้าวร่วมกับตัวร้าย มีหวังกินข้าวไม่อร่อยกันพอดี

ไม่รออีกฝ่ายได้พูดต่อ ร่างบางก็รีบยกสำรับอาหารเข้าห้องคนเจ็บไปอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อเข้ามาถึงก็พบว่าอ๋องเหลียงเฟิงกึ่งนั่งกึ่งนอนอ่านตำรารออยู่แล้ว การเป็นคนร่ำรวยและมีอำนาจนี้ช่างสบายเสียจริง นั่งอยู่เฉย ๆ ก็มีคนหาข้าวหาน้ำมาป้อนให้ถึงที่

“อาหารมาแล้วเพคะ”

เมื่อเห็นว่าอ๋องตัวร้ายแข็งแรงสามารถทำอะไรด้วยตัวเองได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องป้อนเหมือนหลายวันที่ผ่านมา หนิงเซียนจึงวางสำรับอาหารไว้ที่โต๊ะให้เท่านั้น เพื่อให้เขาจัดการด้วยตนเอง ส่วนนางก็จะกลับออกไปกินอาหารในส่วนของตนเช่นกัน หลังจากที่นำอาหารวางไว้เรียบร้อย นางเตรียมตัวจะออกจากห้องไม่รั้งรอให้อีกฝ่ายออกคำสั่ง แต่ก็ต้องชะงักเท้าเมื่อเสียงดุดันดังขึ้น

“นั่นเจ้าจะไปที่ใด” ชายหนุ่มวางตำราในมือลง พร้อมกับตวัดตามองหนิงเซียนอย่างไม่พอใจ เป็นภรรยาประสาอะไรวางสำรับไว้แล้วก็จะออกไปงั้นหรือ นางต้องคอยปรนนิบัติเอาใจเขาสิถึงจะถูก

“หม่อมฉันจะออกไปทานอาหารด้านนอก ท่านอ๋องต้องการสิ่งใดเพิ่มหรือเพคะ” ร่างบางค่อย ๆ หมุนตัวกลับมาเผชิญหน้าชายหนุ่ม ทำหน้าใสซื่อราวกับไม่เข้าใจสิ่งที่ท่านอ๋องรับสั่ง แม้ใจจะขวัญกล้าทว่าขาก็ยังคงถอยออกห่างหนึ่งก้าว หรืออาจจะเป็นเพราะร่างกายนี้ยังคงมีความรู้สึกเกรงกลัวหลงเหลืออยู่ ทำให้นางเผลอทำไปเองอย่างไม่รู้ตัว

“มู่หลาง”

แต่แทนที่เหลียงเฟิงจะตอบคำถามของนาง กลับเรียกหาองครักษ์คู่กายแทน ทำเอาหนิงเซียนยิ่งไม่เข้าใจ ว่าเขาต้องการอะไรกันแน่

“พ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง” มู่หลางที่ถือถาดสำรับรออยู่ก่อนแล้ว ได้รีบเปิดประตูเข้ามาทันทีที่ท่านนายเหนือหัวเรียก พร้อมกันนั้นก็ยังวางถังน้ำและผ้าผืนเล็กสำหรับเช็ดตัวให้เสร็จสรรพ โดยที่ไม่ต้องเอ่ยปาก หลังจากเตรียมทุกอย่างให้เรียบร้อย เขาก็ได้หายตัวออกไปจากห้องอย่างรู้หน้าที่

หนิงเซียนที่ได้แต่ยืนนิ่งอ้าปากพะงาบ ๆ มองตามหลังองครักษ์มู่แทบไม่ทัน ไฉนมันกลายเป็นเช่นนี้ไปได้กันเล่า ในนิยายบอกไว้ชัดเจนว่าตัวร้ายจะไม่ให้ความสำคัญกับสตรีอื่นใดนอกจากนางเอก และเขายังเป็นคนถือตัวต้องการความเป็นส่วนตัวมาก หากไม่สำคัญมากพอก็ไม่มีทางที่จะให้ผู้ใดเข้ามานั่งทานอาหารร่วมโต๊ะ หรือเป็นเพราะถูกทำร้ายในครั้งนั้น ทำให้สมองกระทบกระเทือนอย่างหนัก อ๋องตัวร้ายสติฟั่นเฟือนไปแล้ว

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เหตุใดตัวร้ายถึงเอาแต่คลั่งรักข้า   ตอนพิเศษ มู่หลางผู้พ่ายแพ้ [4]

    “ไฉฉือหยุดความคิดของเจ้าเดี๋ยวนี้” คำพูดจากปากสาวเจ้าไม่ค่อยจะเข้าหู มู่หลางพยายามข่มกลั้นความโกรธของตนเองอย่างสุดความสามารถ“พวกเจ้าเป็นอันใดกัน น่ารำคาญยิ่งนัก จะไปไหนก็ไป” หลังจากเขากับภรรยาแอบฟังมู่หลางพูดคุยอยู่นาน ได้จังหวะเหมาะจึงแสร้งทำเป็นไม่พอใจไล่คนทั้งสองไปที่อื่นเสีย“ขออภัยพ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง กระหม่อมขอเวลาสักครู่พ่ะย่ะค่ะ” หากวันนี้ตกลงกันไม่เข้าใจ เห็นทีว่าไฉฉือคงต้องได้ยืดเวลากลับบ้านไปหาท่านป้าแล้ว“ไม่ต้อง อีกสองวันค่อยกลับมาทำหน้าที่ของเจ้า ไปแก้ปัญหาให้จบ อย่าให้ข้าเห็นเช่นนี้อีก” เหลียงเฟิงตวาดเสียงดุ ความจริงแล้วเขาก็อยากจะเล่นงิ้วต่อ แต่ภรรยาสุดที่รักกลับให้เขารีบจบบทบาทเจ้านายอารมณ์ร้ายนั่นเสีย ช่างน่าเสียดาย“ขออภัยอีกครั้งพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะไม่ให้เกิดขึ้นอีก” องครักษ์หนุ่มสำนึกผิดที่ตนทำให้นายเหนือหัวต้องรำคาญใจ ทั้งที่วันนี้ท่านอ๋องกับหวังเฟยควรจะได้ออกมาทานข้าวนอกอย่างสำราญใจแท้ ๆ กายหนาหันกลับไปคว้ามือเล็กคนข้างกาย พาอีกฝ่ายขึ้นชั้นสามไปอย่างรวดเร็ว“ว๊าย! พี่มู่เดี๋ยวก่อนเจ้าค่ะ” ไฉฉือร้องทัดทาน มือบางรวบเก็บชุดส่วนบนไว้แน่น ยิ่งพี่มู่ของนางดึงแรงเพียงใด

  • เหตุใดตัวร้ายถึงเอาแต่คลั่งรักข้า   ตอนพิเศษ มู่หลางผู้พ่ายแพ้ [3]

    “เป็นอะไรไปไฉฉือ” หนิงเซียนเอ่ยถามขึ้น เมื่ออีกฝ่ายเอาแต่ก้มหน้าก้มตาเดินผิด ๆ ถูก ๆ“นายหญิงเจ้าคะ ให้ข้ากลับเถอะเจ้าค่ะ คนมองเต็มเลย สงสัยข้าน้อยแต่งตัวประหลาด” หญิงสาวกระซิบกระซาบเสียงเบา ตั้งแต่นางพาเข้าในโรงเตี๊ยม ก็ถูกผู้คนจับต้องตลอดทางเดิน ทำให้นางไม่เป็นตัวของตัวเองเท่าใดนัก“เป็นเพราะเจ้างดงามพวกเขาจึงได้มอง ไปกันเถอะ ไม่มีอะไรต้องกลัว ไม่อยากเจอพี่มู่ของเจ้าหรือ”“พี่มู่อยู่ที่นี่หรือเจ้าคะ” เมื่อนายหญิงเอ่ยชื่อพี่ชายที่แสนดี หญิงสาวก็หูผึ่งขึ้นมาทันที หลงลืมความอายไปชั่วขณะ“ใช่แล้ว ไปกันเถอะ” มู่หลางจงจำไว้ที่เจ้าพูดว่าจะไม่แต่งงานน่ะ ข้าจำคำนั้นขึ้นใจเชียวละ หุ หุเพราะหลายครั้งที่นางได้ยินคำนี้ออกจากปากองครักษ์หนุ่ม หนิงเซียนก็เฝ้ารอวันที่มู่หลางจะพลาดพลั้งบ้าง ส่วนมากคนพูดเช่นนี้ก็มักจะไม่พ้นผิดไปจากที่พูดเสียทุกรายมู่หลางหายใจฟึดฟัดเมื่อเห็นอีกคนเดินเข้ามาด้านในโรงเตี๊ยม วันนี้ไม่รู้ว่าท่านอ๋องคิดอะไรอยู่ ถึงได้ออกมานั่งรอหวังเฟยที่โต๊ะด้านนอก แทนที่จะเปิดห้องพิเศษเหมือนทุกครั้งไป นั่นใครสั่งใครสอนให้แต่งกายประหลาดเช่นนั้น เดินทีกระโปรงเปิดเปลือยไปถึงขาอ่อน แต่งมายั่

  • เหตุใดตัวร้ายถึงเอาแต่คลั่งรักข้า   ตอนพิเศษ มู่หลางผู้พ่ายแพ้ [2]

    “น้องสาวทางสายเลือดหรือไม่” ตรงส่วนนี้ที่นางรู้สึกสงสัย ก็ไหนมู่หลางเคยบอกว่าไม่มีครอบครัวแล้วอย่างไร เหตุใดถึงได้มีน้องสาวโผล่มาได้“ไม่ ๆ เจ้าค่ะ ข้าน้อยเป็นเพียงบุตรสาวคนข้างบ้านพี่มู่ แต่ว่าเติบโตมาด้วยกันจึงสนิทกันเจ้าค่ะ” หญิงสาวรีบชี้แจงให้นายหญิงคนงามเข้าใจ นางและพี่มู่ห่างกันตั้งหกปี แม้จะเคยสนิทสนมกันมาก ทว่าเมื่อโตขึ้นพี่มู่กลับเว้นระยะห่าง แม้แต่เคยเล่นกอดคอกันเมื่อตอนเด็ก ๆ เขายังสั่งห้ามมิให้เข้าใกล้ ซึ่งนางก็ไม่ค่อยจะเข้าใจสักเท่าใดนัก“จริงหรือ แล้วเขาดูแลเจ้าดีหรือไม่” ที่หนิงเซียนซักถามเช่นนั้น ก็เพราะว่ามู่หลางเป็นคนค่อนข้างจะทึ่มทื่อปากหนักในเรื่องชายหญิง นางก็อยากจะรู้เขาจะมีความรู้สึกพิเศษอะไรกับไฉฉือหรือไม่ สตรีหน้าตาจิ้มลิ้มน่ารักออกปานนี้ ไม่มีความรู้สึกอันใดก็คงจะแปลกไม่น้อย“ดีมากเจ้าค่ะ มีอะไรก็นึกถึงข้ากับท่านแม่ตลอดเลย นี่ก็ห่วงว่าพี่มู่จะหาภรรยาไม่ได้ แก่ไปคงได้อยู่ตัวคนเดียว ท่านแม่จึงให้ข้ามาดูให้เห็นกับตาเจ้าค่ะ” ด้วยความใสซื่อ ไฉฉือจึงพูดออกมาอย่างไม่มีปิดบัง แต่เมื่อถึงตอนนั้น หากเขามีคนรักขึ้นมาจริง นางก็ไม่รู้ว่าตนเองจะทำใจรับได้หรือไม่ ที่ผ่านมาต

  • เหตุใดตัวร้ายถึงเอาแต่คลั่งรักข้า   ตอนพิเศษ มู่หลางผู้พ่ายแพ้ [1]

    ไฉฉือสาวน้อยจากหมู่บ้านชนบทยืนชะเง้อคอยาวอยู่หน้าประตูวังอันใหญ่โต นางไม่คิดว่าพี่มู่จะอยู่ดีเกินคาดไปมาก เมื่อได้เห็นกับตาก็สบายใจไปเปลาะหนึ่งที่ผ่านมานางและมารดากลัวว่าเขาจะอยู่อย่างยากลำบาก เงินที่แบ่งปันให้นางกับครอบครัวทุกเดือนก็มากโข แล้วไหนจะมีของฝากราคาแพงอีกมากมาย เพราะแบบนี้มารดาจึงไม่สบายใจ เกรงว่ามู่หลางจะเอาแต่ทำงานหนักไม่รู้จักดูแลตนเอง เงินที่ได้มาก็คงจะส่งให้พวกตนทั้งหมด ด้วยเขามีนิสัยคิดถึงผู้อื่นมากกว่าตนเองเสมอครอบครัวไฉฉือและมู่หลางไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดแต่อย่างใด เป็นเพียงเพื่อนบ้านที่ดีต่อกันเท่านั้น ตอนเด็กนางและเขาสนิทกันมาก ในตอนมู่หลางอายุได้สิบหนาวบิดามารดาตายจากด้วยโรคระบาด ไม่มีญาติมิตรคอยดูแล มารดาไฉฉือสงสารจึงได้ส่งเสียเลี้ยงดูราวกับลูกในไส้ สำหรับสายตาของหญิงสาว มารดาออกจะรักมู่หลางมากกว่านางที่เป็นบุตรสาวแท้ ๆ เสียอีกเมื่อเติบโตต่างฝ่ายต่างแยกย้าย ไฉฉือเป็นเพียงสตรีจึงทำได้แค่ช่วยมารดาทำสวนทำไร่อยู่บ้านนอก ส่วนมู่หลางเขาได้เดินทางมาเมืองหลวงเพื่อหางานทำ หลังจากนั้นก็ไม่ได้พบหน้ากันอีกเลย มีเพียงจดหมายพร้อมกับตั๋วเงินแนบมาให้ในทุก ๆ เดื

  • เหตุใดตัวร้ายถึงเอาแต่คลั่งรักข้า   ตอนพิเศษ เสด็จแม่ชอบกินของเผ็ด [3]

    เด็ก ๆ สามคน รวมไปถึงมู่หลางนั่งล้อมวงดื่มชากินขนมกันอยู่ศาลาพัก พร้อมกับพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน จวนแม่ทัพหยางให้ความเอ็นดูเด็กแฝดเป็นอย่างมาก ฮูหยินหยางอยากให้บุตรชายได้มีบุตรแบบนี้สักคู่ทว่าแต่งงานมาได้สองปีกลับยังไม่มีหลานให้อุ้ม พวกเขาจึงแก้เหงาด้วยการขอท่านหญิงน้อย ท่านอ๋องน้อย มาเล่นที่จวนแม่ทัพในบางครั้งขนมพร้อมกับน้ำชาแสนอร่อยถูกลำเลียงมาวางจนเต็มโต๊ะ ทำเอาเด็ก ๆ ทั้งสามตาลุกวาวอย่างถูกอกถูกใจ มาจวนแม่ทัพทีไรล้วนแล้วแต่มีของอร่อยให้ได้กินจนเต็มคราบแต่เมื่อกลับถึงวังของหวานเหล่านี้จะกินตามใจปากไม่ได้แล้ว เพราะท่านแม่มักจะจำกัดการกินของพวกเขาเสมอ ท่านแม่บอกว่าเด็กกินของหวานไม่ดี ฟันจะผุ ถูกแมลงตัวร้ายกินหมดปาก“เฮ้อ” เด็กหญิงเคี้ยวขนมแก้มตุ่ย นั่งถอนหายใจราวกับมีเรื่องให้หนักใจเป็นหนักหนา กระนั้นก็ยังยกขนมในมือขึ้นกัดเข้าไปอีกคำโต“ไม่สบายตรงไหนหรือพ่ะย่ะค่ะท่านหญิง” หลี่หยุนรีบวางขนมในมือทันที พร้อมกับถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง“เราไม่เป็นไร เราแค่กังวลใจ”“ท่านหญิงกังวลใจเรื่องอะไรหรือพ่ะย่ะค่ะ เล่าให้กระหม่อมฟังได้หรือไม่” มู่หลางรู้สึกเป็นห่วง ท่านหญิงเป็นเด็กร่าเริง น้อยนักท

  • เหตุใดตัวร้ายถึงเอาแต่คลั่งรักข้า   ตอนพิเศษ เสด็จแม่ชอบกินของเผ็ด [1]

    “หนิงหนิง พี่ทนไม่ไหวแล้ว”กายหนาจับภรรยาหันหน้าเข้าผนังห้องทันที ก่อนจะถลกกระโปรงหญิงสาวขึ้นถึงเอว จากนั้นท่อนเนื้ออันใหญ่โตสอดเข้าผสานเนินสาวอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังออกแรงโยกไปตามอารมณ์ดิบเข้าออกเป็นจังหวะช้าเร็วตามแรงอารมณ์ ไม่แม้แต่จะเล้าโลมให้เสียเวลา“ท่านพี่เดี๋ยวก่อน” หนิงเซียนบัดนี้นางได้ถูกคนตัวโตตอกอัดตนเองเข้ากับผนังอย่างไม่ทันตั้งตัว นางและเขาใช้ชีวิตรักฉันสามีภรรยามานาน จนบุตรแฝดทั้งสองอายุได้สามหนาวแล้ว ทว่าความต้องการของสามีก็มิได้ลดน้อยลงจากเดิม ในบางครั้งออกจะมีความต้องการมากล้นเสียด้วยซ้ำตั้งแต่เจ้าสองแสบเริ่มโต นางและเขาก็มิได้มีเวลาให้กันมากเท่าใดนัก ด้วยบุตรทั้งสองต่างงอแงอ้อนขอนอนด้วยทุกค่ำคืน แม้พวกเขาจะโตมากพอที่จะแยกห้องนอนกันได้แล้ว แต่ก็ยังเกาะติดผู้เป็นมารดาราวกับลูกลิง บิดาผู้หลงบุตรมีหรือจะไม่ยอมตามใจ ผลกรรมทั้งหมดได้ตกมาอยู่ที่เขาแทน“พี่ขอเถอะ ประเดี๋ยวลูกก็คงกลับจากเรียนวิชาดาบแล้ว” เขาอดกินภรรยามาเกือบเจ็ดวันแล้ว เวลานี้ได้โอกาสเหมาะ จึงไม่พลาดที่จะกลืนกินภรรยาสาว ทุกเวลาล้วนมีค่าสำหรับเขา“อ๊ะ! แรงไปแล้วนะเจ้าคะ” หนิงเซียนหัวโยกหัวคลอน เขาไม่ยอมผ่อน

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status