แชร์

บทที่ 54 นางเอก [2]

ผู้เขียน: Tuk Kung
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-10 15:11:22

“หยุนหรือ แซ่หลี่ใช่หรือไม่” ถ้าหากใช่นับว่าเป็นโชคดีของนางแล้ว

“ใช่ขอรับ” เด็กน้อยปาดน้ำตากลั้นเสียงสะอื้น เพราะคิดว่านายท่านทั้งสองเพียงแค่ถามไถ่ธรรมดา อีกไม่นานก็จะส่งตัวเขากลับไปที่เดิม ไม่มีผู้ใดยอมเสียเวลายื่นมือเข้ามายุ่งเรื่องผู้อื่นอยู่แล้ว จะกลับไปหรือตายอยู่ที่นี่ก็มีค่าเท่ากัน

“ท่านอ๋องรับเด็กคนนี้ไว้ได้หรือไม่เพคะ” หญิงสาวหันกลับไปขออนุญาตสามี โอกาสมาถึงแล้วจะปล่อยให้หลุดมือไม่ได้ นางจะชุบเลี้ยงเด็กคนนี้เอง

“ปล่อยไปไม่ดีกว่าหรือ รับมาแล้วจะทำอะไรได้” ไม่เห็นว่าจะมีประโยชน์อันใดแม้แต่น้อย ถ้าหากพบเจอคนที่อ่อนแอแล้วเก็บมาชุบเลี้ยงไปทุกครั้ง มิต้องทำเช่นนี้กับทุกคนหรอกหรือ เขาไม่เห็นด้วยที่หนิงเซียนเป็นคนขี้สงสารสักเท่าไรนัก ในบางครั้งคนเราก็สมควรใจร้ายบ้างจะเป็นไรไป

“ทำได้สิเพคะ หม่อมฉันจะให้หลี่หยุนคอยเป็นพี่เลี้ยงลูกของเราเพคะ รับเขาไว้สักคนเถิดหม่อมฉันขอ” ในอนาคตหลี่หยุนผู้นี้จะกลายเป็นมือขวาฝีมือดี คอยเคียงบ่าเคียงไหล่แม่ทัพใหญ่ตระกูลหยางรุ่นต่อไป ฉะนั้นนางจะฉกชิงเอาคนมีความสามารถไว้ข้างกายบุตรของนางแทน

“ข้าไม่ค่อยเห็นด้วย อ่อนแอทั้งผอมแห้ง มิรู้ว่าจะมีชีวิตรอดถึงเมื่อไรกัน” หน่วยก้านหรือก็ไม่เหมาะจะเป็นนักรบ จะอยู่ข้างกายบุตรเขาได้อย่างไร นางเอาความมั่นใจมาจากที่ใดกัน

“เราก็แค่ให้ข้าวให้น้ำเขามากหน่อย ที่หลับนอนดี ๆ ให้ร่ำเรียนวิชากับองครักษ์มู่ หม่อมฉันเชื่อว่าเขาจะต้องเก่งกาจแน่เพคะ”

“เช่นนั้นก็ตามใจ กลับขึ้นรถม้าเถิด แดดแรงแล้วประเดี๋ยวจะไม่สบาย” ชายหนุ่มโอบไหล่ภรรยากลับรถม้า พร้อมกับพยักหน้าให้คนสนิทจัดการส่วนที่เหลือให้เรียบร้อย เด็กคนนั้นก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของมู่หลางจัดการไป

“ฮือออ” หลี่หยุนยังคงร้องไห้ไม่ยอมหยุด รู้แน่ชัดแล้วว่าชะตาของตนคงไม่พ้นต้องถูกนายจ้างฆ่าตายแน่แท้ เด็กน้อยหลับหูหลับตาเอาแต่ร้องไห้ โดยที่ไม่ได้ฟังเสียด้วยซ้ำว่าตนเองถูกพาไปที่ใด

“เจ้าหนูหยุดร้องไห้ได้แล้ว ต่อไปจงสำนึกบุญคุณนายหญิงกับนายท่านเสีย ที่ทั้งสองท่านยินยอมชุบเลี้ยงเจ้า เช็ดน้ำตาออก แล้วขึ้นไปนั่งบนรถม้าท้ายขบวน” มู่หลางส่งเด็กชายหน้าตามอมแมมขึ้นรถม้า ต่อจากนี้เจ้าเด็กตรงหน้าจะกลายเป็นศิษย์คนแรกของตน เมื่อเห็นว่าหลี่หยุนขึ้นนั่งบนรถเรียบร้อยแล้ว จึงได้กลับไปประจำที่ของตนเพื่อออกเดินทางไปยังเมืองหลวงต่อ

“ขอบคุณขอรับ ข้าน้อยขอถวายชีวิตและจะไม่ลืมบุญคุณในครั้งนี้เลยขอรับ” หลี่หยุนที่ไม่คิดว่าการตัดสินใจเสี่ยงตายหนีออกมาครั้งนี้ จะเป็นโอกาสให้ตนได้มีชีวิตใหม่ อีกทั้งนายหญิงจิตใจดีพูดจาอ่อนโยนกับเขา หลี่หยุนคนนี้ช่างซาบซึ้งใจยิ่งนัก

เด็กชายวัยห้าหนาวได้เพิ่มเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ในขบวน เขาเอาแต่นั่งยิ้มไม่หุบ ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีความสุขเช่นนี้มาก่อนเลยสักครั้ง ในตอนที่นายหญิงพูดคุยกับนายท่าน แม้เสียงจะเบาได้ยินไม่ถนัดนัก แว่ว ๆ ว่าอยากให้เป็นพี่เลี้ยงบุตรของท่านทั้งสอง ไม่คิดเลยเขาจะได้รับหน้าที่อันทรงเกียรตินี้

.

.

รถม้าคันใหญ่ด้านข้างมีตราสัญลักษณ์วังเหลียงอ๋อง แล่นเข้าสู่ประตูเมืองทำให้เป็นที่สนใจแก่ชาวเมืองไม่น้อย สิ่งที่ทำให้ผู้คนอยากรู้อยากเห็นมิใช่ขบวนเหลียงอ๋อง ทว่าสิ่งที่ทำให้พวกเขาสนใจก็คือผู้ใดอยู่ภายในรถม้าที่ประทับเหลียงอ๋อง ก็ในเมื่อท่านอ๋องนั่งอยู่บนหลังอาชาคู่กายนำขบวน แล้วผู้ใดกันที่อยู่ในรถม้านั้นถ้าไม่ใช่ท่านอ๋อง

แม้จะมีสายตามากมายหลายคู่เฝ้ามอง เหลียงอ๋องก็มิได้ใส่ใจอันใด ชายหนุ่มยังคงนั่งอยู่บนหลังม้าเชิดหน้าอย่างไม่แยแส หลังจากผ่านพ้นประตูเมืองมาได้ไม่นาน ขบวนเหลียงอ๋องได้เดินทางมาถึงวังอ๋องในที่สุด บรรดาขันทีนางในรวมไปถึงเหล่าบ่าวรับใช้ทุกคน ต่างก็ออกมายืนต้อนรอรับผู้เป็นนายกันทั่วหน้า

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เหตุใดตัวร้ายถึงเอาแต่คลั่งรักข้า   ตอนพิเศษ มู่หลางผู้พ่ายแพ้ [4]

    “ไฉฉือหยุดความคิดของเจ้าเดี๋ยวนี้” คำพูดจากปากสาวเจ้าไม่ค่อยจะเข้าหู มู่หลางพยายามข่มกลั้นความโกรธของตนเองอย่างสุดความสามารถ“พวกเจ้าเป็นอันใดกัน น่ารำคาญยิ่งนัก จะไปไหนก็ไป” หลังจากเขากับภรรยาแอบฟังมู่หลางพูดคุยอยู่นาน ได้จังหวะเหมาะจึงแสร้งทำเป็นไม่พอใจไล่คนทั้งสองไปที่อื่นเสีย“ขออภัยพ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง กระหม่อมขอเวลาสักครู่พ่ะย่ะค่ะ” หากวันนี้ตกลงกันไม่เข้าใจ เห็นทีว่าไฉฉือคงต้องได้ยืดเวลากลับบ้านไปหาท่านป้าแล้ว“ไม่ต้อง อีกสองวันค่อยกลับมาทำหน้าที่ของเจ้า ไปแก้ปัญหาให้จบ อย่าให้ข้าเห็นเช่นนี้อีก” เหลียงเฟิงตวาดเสียงดุ ความจริงแล้วเขาก็อยากจะเล่นงิ้วต่อ แต่ภรรยาสุดที่รักกลับให้เขารีบจบบทบาทเจ้านายอารมณ์ร้ายนั่นเสีย ช่างน่าเสียดาย“ขออภัยอีกครั้งพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะไม่ให้เกิดขึ้นอีก” องครักษ์หนุ่มสำนึกผิดที่ตนทำให้นายเหนือหัวต้องรำคาญใจ ทั้งที่วันนี้ท่านอ๋องกับหวังเฟยควรจะได้ออกมาทานข้าวนอกอย่างสำราญใจแท้ ๆ กายหนาหันกลับไปคว้ามือเล็กคนข้างกาย พาอีกฝ่ายขึ้นชั้นสามไปอย่างรวดเร็ว“ว๊าย! พี่มู่เดี๋ยวก่อนเจ้าค่ะ” ไฉฉือร้องทัดทาน มือบางรวบเก็บชุดส่วนบนไว้แน่น ยิ่งพี่มู่ของนางดึงแรงเพียงใด

  • เหตุใดตัวร้ายถึงเอาแต่คลั่งรักข้า   ตอนพิเศษ มู่หลางผู้พ่ายแพ้ [3]

    “เป็นอะไรไปไฉฉือ” หนิงเซียนเอ่ยถามขึ้น เมื่ออีกฝ่ายเอาแต่ก้มหน้าก้มตาเดินผิด ๆ ถูก ๆ“นายหญิงเจ้าคะ ให้ข้ากลับเถอะเจ้าค่ะ คนมองเต็มเลย สงสัยข้าน้อยแต่งตัวประหลาด” หญิงสาวกระซิบกระซาบเสียงเบา ตั้งแต่นางพาเข้าในโรงเตี๊ยม ก็ถูกผู้คนจับต้องตลอดทางเดิน ทำให้นางไม่เป็นตัวของตัวเองเท่าใดนัก“เป็นเพราะเจ้างดงามพวกเขาจึงได้มอง ไปกันเถอะ ไม่มีอะไรต้องกลัว ไม่อยากเจอพี่มู่ของเจ้าหรือ”“พี่มู่อยู่ที่นี่หรือเจ้าคะ” เมื่อนายหญิงเอ่ยชื่อพี่ชายที่แสนดี หญิงสาวก็หูผึ่งขึ้นมาทันที หลงลืมความอายไปชั่วขณะ“ใช่แล้ว ไปกันเถอะ” มู่หลางจงจำไว้ที่เจ้าพูดว่าจะไม่แต่งงานน่ะ ข้าจำคำนั้นขึ้นใจเชียวละ หุ หุเพราะหลายครั้งที่นางได้ยินคำนี้ออกจากปากองครักษ์หนุ่ม หนิงเซียนก็เฝ้ารอวันที่มู่หลางจะพลาดพลั้งบ้าง ส่วนมากคนพูดเช่นนี้ก็มักจะไม่พ้นผิดไปจากที่พูดเสียทุกรายมู่หลางหายใจฟึดฟัดเมื่อเห็นอีกคนเดินเข้ามาด้านในโรงเตี๊ยม วันนี้ไม่รู้ว่าท่านอ๋องคิดอะไรอยู่ ถึงได้ออกมานั่งรอหวังเฟยที่โต๊ะด้านนอก แทนที่จะเปิดห้องพิเศษเหมือนทุกครั้งไป นั่นใครสั่งใครสอนให้แต่งกายประหลาดเช่นนั้น เดินทีกระโปรงเปิดเปลือยไปถึงขาอ่อน แต่งมายั่

  • เหตุใดตัวร้ายถึงเอาแต่คลั่งรักข้า   ตอนพิเศษ มู่หลางผู้พ่ายแพ้ [2]

    “น้องสาวทางสายเลือดหรือไม่” ตรงส่วนนี้ที่นางรู้สึกสงสัย ก็ไหนมู่หลางเคยบอกว่าไม่มีครอบครัวแล้วอย่างไร เหตุใดถึงได้มีน้องสาวโผล่มาได้“ไม่ ๆ เจ้าค่ะ ข้าน้อยเป็นเพียงบุตรสาวคนข้างบ้านพี่มู่ แต่ว่าเติบโตมาด้วยกันจึงสนิทกันเจ้าค่ะ” หญิงสาวรีบชี้แจงให้นายหญิงคนงามเข้าใจ นางและพี่มู่ห่างกันตั้งหกปี แม้จะเคยสนิทสนมกันมาก ทว่าเมื่อโตขึ้นพี่มู่กลับเว้นระยะห่าง แม้แต่เคยเล่นกอดคอกันเมื่อตอนเด็ก ๆ เขายังสั่งห้ามมิให้เข้าใกล้ ซึ่งนางก็ไม่ค่อยจะเข้าใจสักเท่าใดนัก“จริงหรือ แล้วเขาดูแลเจ้าดีหรือไม่” ที่หนิงเซียนซักถามเช่นนั้น ก็เพราะว่ามู่หลางเป็นคนค่อนข้างจะทึ่มทื่อปากหนักในเรื่องชายหญิง นางก็อยากจะรู้เขาจะมีความรู้สึกพิเศษอะไรกับไฉฉือหรือไม่ สตรีหน้าตาจิ้มลิ้มน่ารักออกปานนี้ ไม่มีความรู้สึกอันใดก็คงจะแปลกไม่น้อย“ดีมากเจ้าค่ะ มีอะไรก็นึกถึงข้ากับท่านแม่ตลอดเลย นี่ก็ห่วงว่าพี่มู่จะหาภรรยาไม่ได้ แก่ไปคงได้อยู่ตัวคนเดียว ท่านแม่จึงให้ข้ามาดูให้เห็นกับตาเจ้าค่ะ” ด้วยความใสซื่อ ไฉฉือจึงพูดออกมาอย่างไม่มีปิดบัง แต่เมื่อถึงตอนนั้น หากเขามีคนรักขึ้นมาจริง นางก็ไม่รู้ว่าตนเองจะทำใจรับได้หรือไม่ ที่ผ่านมาต

  • เหตุใดตัวร้ายถึงเอาแต่คลั่งรักข้า   ตอนพิเศษ มู่หลางผู้พ่ายแพ้ [1]

    ไฉฉือสาวน้อยจากหมู่บ้านชนบทยืนชะเง้อคอยาวอยู่หน้าประตูวังอันใหญ่โต นางไม่คิดว่าพี่มู่จะอยู่ดีเกินคาดไปมาก เมื่อได้เห็นกับตาก็สบายใจไปเปลาะหนึ่งที่ผ่านมานางและมารดากลัวว่าเขาจะอยู่อย่างยากลำบาก เงินที่แบ่งปันให้นางกับครอบครัวทุกเดือนก็มากโข แล้วไหนจะมีของฝากราคาแพงอีกมากมาย เพราะแบบนี้มารดาจึงไม่สบายใจ เกรงว่ามู่หลางจะเอาแต่ทำงานหนักไม่รู้จักดูแลตนเอง เงินที่ได้มาก็คงจะส่งให้พวกตนทั้งหมด ด้วยเขามีนิสัยคิดถึงผู้อื่นมากกว่าตนเองเสมอครอบครัวไฉฉือและมู่หลางไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดแต่อย่างใด เป็นเพียงเพื่อนบ้านที่ดีต่อกันเท่านั้น ตอนเด็กนางและเขาสนิทกันมาก ในตอนมู่หลางอายุได้สิบหนาวบิดามารดาตายจากด้วยโรคระบาด ไม่มีญาติมิตรคอยดูแล มารดาไฉฉือสงสารจึงได้ส่งเสียเลี้ยงดูราวกับลูกในไส้ สำหรับสายตาของหญิงสาว มารดาออกจะรักมู่หลางมากกว่านางที่เป็นบุตรสาวแท้ ๆ เสียอีกเมื่อเติบโตต่างฝ่ายต่างแยกย้าย ไฉฉือเป็นเพียงสตรีจึงทำได้แค่ช่วยมารดาทำสวนทำไร่อยู่บ้านนอก ส่วนมู่หลางเขาได้เดินทางมาเมืองหลวงเพื่อหางานทำ หลังจากนั้นก็ไม่ได้พบหน้ากันอีกเลย มีเพียงจดหมายพร้อมกับตั๋วเงินแนบมาให้ในทุก ๆ เดื

  • เหตุใดตัวร้ายถึงเอาแต่คลั่งรักข้า   ตอนพิเศษ เสด็จแม่ชอบกินของเผ็ด [3]

    เด็ก ๆ สามคน รวมไปถึงมู่หลางนั่งล้อมวงดื่มชากินขนมกันอยู่ศาลาพัก พร้อมกับพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน จวนแม่ทัพหยางให้ความเอ็นดูเด็กแฝดเป็นอย่างมาก ฮูหยินหยางอยากให้บุตรชายได้มีบุตรแบบนี้สักคู่ทว่าแต่งงานมาได้สองปีกลับยังไม่มีหลานให้อุ้ม พวกเขาจึงแก้เหงาด้วยการขอท่านหญิงน้อย ท่านอ๋องน้อย มาเล่นที่จวนแม่ทัพในบางครั้งขนมพร้อมกับน้ำชาแสนอร่อยถูกลำเลียงมาวางจนเต็มโต๊ะ ทำเอาเด็ก ๆ ทั้งสามตาลุกวาวอย่างถูกอกถูกใจ มาจวนแม่ทัพทีไรล้วนแล้วแต่มีของอร่อยให้ได้กินจนเต็มคราบแต่เมื่อกลับถึงวังของหวานเหล่านี้จะกินตามใจปากไม่ได้แล้ว เพราะท่านแม่มักจะจำกัดการกินของพวกเขาเสมอ ท่านแม่บอกว่าเด็กกินของหวานไม่ดี ฟันจะผุ ถูกแมลงตัวร้ายกินหมดปาก“เฮ้อ” เด็กหญิงเคี้ยวขนมแก้มตุ่ย นั่งถอนหายใจราวกับมีเรื่องให้หนักใจเป็นหนักหนา กระนั้นก็ยังยกขนมในมือขึ้นกัดเข้าไปอีกคำโต“ไม่สบายตรงไหนหรือพ่ะย่ะค่ะท่านหญิง” หลี่หยุนรีบวางขนมในมือทันที พร้อมกับถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง“เราไม่เป็นไร เราแค่กังวลใจ”“ท่านหญิงกังวลใจเรื่องอะไรหรือพ่ะย่ะค่ะ เล่าให้กระหม่อมฟังได้หรือไม่” มู่หลางรู้สึกเป็นห่วง ท่านหญิงเป็นเด็กร่าเริง น้อยนักท

  • เหตุใดตัวร้ายถึงเอาแต่คลั่งรักข้า   ตอนพิเศษ เสด็จแม่ชอบกินของเผ็ด [1]

    “หนิงหนิง พี่ทนไม่ไหวแล้ว”กายหนาจับภรรยาหันหน้าเข้าผนังห้องทันที ก่อนจะถลกกระโปรงหญิงสาวขึ้นถึงเอว จากนั้นท่อนเนื้ออันใหญ่โตสอดเข้าผสานเนินสาวอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังออกแรงโยกไปตามอารมณ์ดิบเข้าออกเป็นจังหวะช้าเร็วตามแรงอารมณ์ ไม่แม้แต่จะเล้าโลมให้เสียเวลา“ท่านพี่เดี๋ยวก่อน” หนิงเซียนบัดนี้นางได้ถูกคนตัวโตตอกอัดตนเองเข้ากับผนังอย่างไม่ทันตั้งตัว นางและเขาใช้ชีวิตรักฉันสามีภรรยามานาน จนบุตรแฝดทั้งสองอายุได้สามหนาวแล้ว ทว่าความต้องการของสามีก็มิได้ลดน้อยลงจากเดิม ในบางครั้งออกจะมีความต้องการมากล้นเสียด้วยซ้ำตั้งแต่เจ้าสองแสบเริ่มโต นางและเขาก็มิได้มีเวลาให้กันมากเท่าใดนัก ด้วยบุตรทั้งสองต่างงอแงอ้อนขอนอนด้วยทุกค่ำคืน แม้พวกเขาจะโตมากพอที่จะแยกห้องนอนกันได้แล้ว แต่ก็ยังเกาะติดผู้เป็นมารดาราวกับลูกลิง บิดาผู้หลงบุตรมีหรือจะไม่ยอมตามใจ ผลกรรมทั้งหมดได้ตกมาอยู่ที่เขาแทน“พี่ขอเถอะ ประเดี๋ยวลูกก็คงกลับจากเรียนวิชาดาบแล้ว” เขาอดกินภรรยามาเกือบเจ็ดวันแล้ว เวลานี้ได้โอกาสเหมาะ จึงไม่พลาดที่จะกลืนกินภรรยาสาว ทุกเวลาล้วนมีค่าสำหรับเขา“อ๊ะ! แรงไปแล้วนะเจ้าคะ” หนิงเซียนหัวโยกหัวคลอน เขาไม่ยอมผ่อน

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status