เมื่อได้ฟังความจนจบ หลายคนต่างแตกเป็นสองเสียง ฝ่ายหนึ่งว่าเรื่องแค่นี้ ฮองเฮาทรงเป็นมารดาของแผ่นดิน ทำไมจะทำไม่ได้ อีกส่วนก็แย้งขึ้น ผู้เฒ่าฟ่งหาใช่คนธรรมดา ล่วงเกินไปหนึ่งคืนกลับให้สิบ จะแสดงอำนาจก็ควรดูให้แน่ใจ หากสร้างความผิดใจต่อกัน อีกฝ่ายลงมือหนักหน่วงเช่นนี้ เจ้ามีความสามารถหยุดเขาได้หรือไม่
“ฝ่าบาท... จะไม่ทรงเสด็จออกไปทอดพระเนตรฮองเฮาหน่อยหรือพ่ะย่ะค่ะ” หลิวกงกงเอ่ยถามพระวรกายสูงด้วยสีหน้าสงสัย ยามนี้ทิศตะวันออกของวัง โดยเฉพาะตำหนักของมารดาแผ่นดิน มีสภาพเรียบโกร๋นไม่เหลือกระทั่งหญ้าสักต้น ฮองเฮาเองก็ติดอยู่ท่ามกลางกองเพลิงที่ลุกโชน ผ่านไปหนึ่งวันเต็มๆ ผู้ยิ่งใหญ่สองท่านนั้นก็ยังต่อ
“พวกเราต่างก็รู้ดีอาจารย์นั้นก้าวลงจากเรือนหลักไปเรือนรองยังหลงทาง ท่านใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตจดจำเส้นทางในหุบเขา พอจำได้บ้างแล้วก็มาถูกผู้เฒ่าฟ่งหวังดีทำลายคันแนวที่แยกสองสำนักออก ดังนั้นพอท่านลงจากยอดเขาก็เลยไปหลงทางอยู่สำนักมังกรฟ้าด้านหน้าให้พวกลูกศิษย์และอาจารย์สำนักมังกรฟ้าดูอยู่หลายวัน ท่านอาจา
ผู้มาใหม่เป็นชายหนุ่มใบหน้าหล่อเหลาผู้หนึ่ง ร่างสูงปราดเปรียวขยับกายอย่างคล่องแคล่ว กิริยาท่าทางแลดูกระฉับกระเฉง พอลงยืนได้มั่นคงเจ้าตัวก็ประสานมือให้ทุกคนโดยรอบ ก่อนจะเดินเข้ามาหาอวี้เหลียนด้วยใบหน้ายิ้มๆ“ศิษย์พี่รอง ท่านอยู่ที่นี่เอง พอดีข้าตามอาจารย์มาทางนี้น่ะ” หลิงจิงเสียงนั่นเองเดิมทีหลิงจิง
จวิ๋นเทียนเฮ่อกวาดตามองคนด้านล่างด้วยสายตาเย็นชา เขาเพียงพยักหน้ารับคำพูดอวี้เหลียน ก่อนจะเปิดปากเอ่ยวาจา“เจ้าเฒ่าฟ่งเหวินอยู่ไหน ผู้ใดกล้าโกหกให้ที่ซ่อนตัวกับเจ้าแก่นั่น ข้าจวิ๋นเทียนเฮ่อจะจับมันเผาไฟทั้งเป็นให้ดู!”วาจาที่เอ่ยมาของบุรุษบนฟ้า หาได้นุ่มนวลดั่งภาพลักษณ์และเสียงไม่ ขณะที่กวาดตาสังเกต
เห็นอีกฝ่ายทำเป็นไม่ได้ยิน ทั้งยังรีบร้อนปักปิ่นตัวเอง ฟ่งเหวินพลันร้องด่าสามีของลูกศิษย์ไปเจ็ดชั่วคน ดวงตาผู้เฒ่ามีแววน้อยอกน้อยใจเผยให้เห็น เขาอุตส่าห์ดั้นด้นไปหาปิ่นที่งดงามเพื่อศิษย์หลาน ทว่ากลับโดนไอ้เด็กใจร้ายนี่ขัดขวางไม่ให้ใช้อีกมองเห็นอาจารย์ตามีดวงตาแดงๆ จ้าวเหมยฮวาให้รู้สึกสงสารผู้สูงวัย