อีกห้าวันก็คงจะถึงชายแดนเหลือแล้วสินะ
ข่าวเรื่องโจรปล้นขบวนเจ้าสาวของท่านอ๋องเย่ซิวหลางดังไปถึงค่ายทหารที่ท่านอ๋องคุมค่ายที่ชายแดนแห่งนี้ คนสนิทที่เดินเข้ามารายงานเรื่องที่โจรปล้นขบวนเจ้าสาวก่อนจะมาถึงอีกไม่กี่วัน "เป็นเรื่องจริงพะย่ะค่ะท่านอ๋อง" คนสนิทรายงาน "แต่ปล้นไม่สำเร็จเพราะทหารที่ฮ้องเต้ส่งมาคุ้มกันมีแต่ยอดฝีมือ มีคนของบิดาของว่าที่พระชายาอีกสามสิบคนที่ร่วมคุ้มกันมาด้วยเพราะเป็นห่วงบุตรสาวพะย่ะค่ะท่านอ๋องทั้งยังมีองค์รักษ์เงาที่มีฝีมือดีติดตามมาด้วย" และรายงานที่ได้รับมาว่าไม่ใช้ว่าโจรเข้าไม่ถึงในรถม้า "ได้ข่าวว่ากระเดนตกลงมาก่อนที่จะถึงตัวของพระยาชาพะย่ะค่ะท่านอ๋อง คนของเราในขบวนรายงานมาว่าพระชายาดูแลคนในขบวนดีมากพะย่ะค่ะ มีทั้งยาและอาหารการกินที่เตรียมลงมาด้วยจากเมืองหลวง" จนขบวนยาวเหยีดโดยเฉพาะรถม้าที่ขนเสบียง "พระชายาก็ดูแลทุกคนในขบวนเป็นอย่างดีตั้งแต่ที่หายจากป่วยไข้หลังจากออกเดินทางมาที่ชายแดนเหนือนี้พะย่ะค่ะท่านอ๋อง" อ๋องเย่ซิวหลางนั่งฟังคนสนิทรายงานเงียบๆก่อนจะพูดออก "อือขอบใจมากเจ้าไปพักผ่อนเถอะ" ท่านอ๋องบอก หลังจากคนสนิทออกไปจากในกระโจมท่านอ๋องก็นั่งคิดเงียบๆคนเดียว ตามที่ให้คนไปสืบเรื่องของหลิวเรอจินคนที่จะมาเป็นพระชายาของเขา เป็นบุตรสาวของฮูหยินใหญ่และไม่ค่อยสบายเท่าไรในจวนหลังจากที่มารดาเสียชีวิต บิดาแต่งฮูหยินรองหวังให้เข้าดูแลบุตรทั้งสองคนเพราะท่านแม่ทัพต้องไปชายแดนใต้ที่รบติดพันมานานเช่นเดียวกัน จนปล่อยให้ฮูหยินรองรังแกบุตรสาวที่จวนและพึ่งจะกลับมาจัดการได้ไม่นานก็ได้รรับสมรสราชทานจากฮ้องเต้ก่อนที่จะเดินทางลงชายแดนใต้ เดินทางเพื่อจะเข้าพิธีแต่งงานเข้าจวนอ๋องแห่งนี้นางป่วยหรือตามรายงานหลังจากหายป่วยก็เปลี่ยนไปทั้งยังสู้โจรได้อีกด้วยน่าสนใจไม่น้อยแต่ต้องดูไปก่อน ตัวเขาที่ไม่เคยคิดจะแต่งงานเพราะรำคาญพวกผู้หญิง เพราะเหมือนในวังหลังของบิดาที่มีนางสนมแก่งแย่งชิงความโปรดปานกับสวามีคนเดียวที่นั่งบัลลังก์มังกรที่สตรีทุกคนอยากเป็นใหญ่ในวังหลัง เห็นมารดาที่ทุกข์ใจแต่ไม่สามารถหนีไปจากตำแหน่งที่มีไปได้จึงต้องกล้ำกลืนฝืนทนมองสามีของตัวเองมีนางสนมมากมายในวังหลัง ทั้งต้องคอยระวังฮองเฮามารดาของแผ่นดินอีกที่ต้องการให้บุตรของตนขึ้นครองบัลลังก์มังกรต่อจากฮ้องเต้ อ๋องเย่ซิวหลางจึงขอออกรบที่ชายแดนดีกว่าจะแย่งชิงกันในวังที่มีองค์ชายหลายคนที่มีบิดาเดียวกัน เขาจึงสร้างตัวตนขึ้นมาให้คนหวาดกลัวว่าเขามีใบหน้าที่น่าเกลียดจนรอดมาได้ตอนนี้ได้ยี่สิบแปดชันษาย่างยี่สิบเก้า บิดาก็ยังไม่ละความพยายามที่จะหาพระชายาให้กับบุตรชายเช่นเขา ส่วนพระมารดานั้นเลี้ยงเขามาอย่างใส่ใจและให้เลือกคู่ครองที่ลูกชอบได้เลยไม่ต้องมาเป็นเหมือนแม่ที่แต่งเพราะหน้าที่ เป็นองค์หญิงบรรณาการที่มาจากเมืองเหยียนที่ต้องอยู่และตายที่แผ่นดินของพระสวามี แต่พระบิดาก็ยังสมรสราชทานส่งเจ้าสาวมาถึงชายแดนเหนือที่แห้งแล้งไกลถึงเพียงนี้ ขบวนเจ้าสาวรอนแรมมานานถึงยี่สิบวันจะมาถึงที่จวนแม่ทัพใหญ่ในอีกห้าวันอ๋องเย่ซิวหลางที่ไม่เคยคิดถึงเรื่องการแต่งงานเลยตลอดที่ใช้ชีวิตที่ชายแดนแห่งนี้ นางอยู่ได้ก็ให้อยู่ไปท่านอ๋องจะทำตามพิธีให้จบๆไปเพื่อไม่เป็นการขัดราชโองการของฮ้องเต้ วันๆใช้ชีวิตแต่ในค่ายทหารและคิดหาวิธีที่จะรับมือกับภัยแล้งที่ผ่านมาก็จะแย่อยู่แล้ว นี้อีกหกเดือนก็จะถึงหน้าหนาวเสบียงจากเมืองหลวงที่มายังไม่ถึงอีก พอหน้าหนาวก็หนาวมากหน้าร้อนก็แล้งสิ้นดีหาน้ำจะกินจะใช้ก็ยังลำบากตลอดที่ผ่านมานี้ฝนพึ่งจะตกลงมาไม่ถึงสิบครั้งด้วยซ้ำ ต้นข้าวของชาวบ้านพึ่งจะได้รับน้ำฝนไปไม่รู้จะมีมาใส่ตอนที่ข้าวตั้งท้องหรือเปล่าก่อนที่จะเข้าหน้าหนาวต้องกักตุนเสบียงให้เพียงพอต่อหนาวที่ยาวนานเหมือนทุกปี ท่านอ๋องนั่งคิดจนตะวันมืดมิดวันนี้จึงเดินทางกลับไปที่จวนในเมืองเพื่อจะสั่งให้พ่อบ้านต้อนรับขบวนของว่าที่พระชายาที่จะมาถึงในห้าวัน ฟากฝั่งหลิวเรอจินตลอดเวลาที่เดินทางนางจะเปิดหน้าต่างรถม้าดูทิวทัศน์ข้างทาง ฝนคงจะพึ่งตกไปไม่เกินหนึ่งอาทิตย์นางมองดูหญ้ากำลังเกิดขึ้นมายังไม่สูงเท่าไรได้ข่าวว่าทางนี้แห้งแล้งอย่างหนัก จนฮ้องเต้ส่งท่านอ๋องเย่ซิวหลางมาประจำการได้สองปีแล้วเพื่อหาทางแก้ปัญหาภัยแล้งให้ยั่งยืน เห็นบอกว่าระดมกุนซือหลายคนลงพื้นที่ก็ยังไม่คืบหน้าเท่าที่ควรสองโอรสสวรรค์ต้องพิสูนจ์ผลงานว่าใครจะสามารถจัดการปัญหาในแต่ละชายแดนได้ โอรสที่เกิดจากฮองเฮาถูกส่งไปทางใต้เพื่อการเพาะปลูกในพื้นที่ดินเค็มเพราะประชาชนฎีกาว่าไม่สามารถปลูกอะไรขึ้น หลิวเรอจินนั่งมองและคิดหาวิธีช่วยเหลืองานของว่าที่พระสวามีไปด้วยจนแม่นมถาม "คิดอะไรหรือเจ้าคะคุณหนูทำไมทำหน้าเคร่งเครียดขนาดนั้น" "อ้อข้าอยากจะรู้ว่าชายแดนแห่งนี้แห้งแล้งมาหลายปีจนฮ้องเต้ถึงกับส่งพระโอรสในกุ้ยเฟยลงมาช่วยเหลือชาวบ้าน แต่เห็นว่ายังไม่คืบหน้าเท่าไรตามที่ท่านพ่อเล่าให้ข้าฟังก่อนที่จะออกเดินทางมานี้ละเจ้าค่ะแม่นม" หลิวเรอจินตอบแม่นมของตัวเองก่อนจะมองข้างทางและเก็บลายละเอียดให้มากขึ้น ตามที่จริงภูเขาน้อยใหญ่มากมายขนาดนี้ไม่น่าจะแห้งแล้งหรือต้นน้ำโดนทัพถมจากข้างบนหรือคลองน้ำมีไม่เพียงพอคงต้องสำรวจดูถึงจะแก้ปัญหาได้ตรงจุด ทำไม่เขาไม่ขุดบ่อน้ำเอาไว้ให้มากที่สุดลดการขาดแคลนน้ำได้มาทีเดียว พอหน้าหนาวที่หิมะตกลงมาถ้ามันละลายน้ำก็จะเต็มทุกบ่อทุกคลอง มันก็น่าจะแก้ได้ไม่มากก็น้อยละนางคิดเรื่อยเปื่อยจนตอนนี้รถม้าได้วิ่งเข้าสู่ตัวเมืองที่จวนแม่ทัพตั้งอยู่อีกไม่ไกล ขบวนเจ้าสาวเคลื่อนผ่านตลาดที่เมืองชายแดนหลิวเรอจินถูกแม่นมห้ามไม่ให้เปิดหน้าต่างรถม้านางจึงเซ็งเป็นอย่างมาก "ข้าขอดูตลาดนิดเดียวก็ไม่ได้เหรอเจ้าคะแม่นม" เรอจินออดอ้อนต่อรอง "ไม่ได้เจ้าค่ะคุณหนูเราจะผ่านไปที่จวนของท่านแม่ทัพเลยนะเจ้าคะ เอาไว้คุณหนูค่อยขออนุญาติท่านอ๋องออกมาเดินวันหน้าก็ยังไม่สาย พอเข้าไปที่จวนคุณหนูต้องทำพิธีแต่งงานเลยนะเจ้าคะ คลุมหน้าเจ้าสาวก่อนเจ้าค่ะคุณหนู" แม่นมจัดการคลุมหน้าเจ้าสาวก่อนที่รถม้าจะวิ่งไปที่จวนเพื่อเข้าพิธีแต่งงานของนางกับท่านอ๋องเย่ซิวหลางในอีกไม่กี่เค่อข้างหน้าใช่แล้วทั้งสี่คนที่หน้าห้องทำคลอดคือสี่บุรุษที่รักนางที่สุด กุนซืออู๋ชวนเหิงกับแม่ทัพหลิวจิ้นเหอมาถึงที่ตำหนักก็ได้ยินเสียงร้องอย่างเจ็บปวดของน้องสาวที่กำลังจะคลอดลูกเสียงกรีดร้องครั้งสุดท้ายชายหนุ่มทั้งสี่คนลุกขึ้นพร้อมกัน อีกคนผวาไปที่ประตูห้องพร้อมจะผลักเข้าไปทันทีจนเพื่อนต้องรั้งตัวของท่านอ๋องเอาไว้เพราะต่อมาเสียงของทารกก็ร้องขึ้นต่อจากเสียงร้องของมารดาอุแว้ อุแว้ ทุกคนหายใจด้วยความโล่งอกหลิวเรอจินก็รู้สึกโล่งไปพักหนึ่งหลังจากที่ได้ฟังเสียงของลูกน้อยแต่แล้วนางก็ต้องร้องออกมาด้วยความเจ็บที่ถี่ขึ้นอีกรอบ"พระชายาอดทนหน่อยนะเพคะคนพี่จะตามออกแล้วเบ่งเพคะ"เสียงหมอตำแยบอกนางหลิวเรอจินกลั้นใจเบ่งอีกครั้งและคนนี้คลอดง่ายกว่าคนแรกเสียงร้องของคนที่สองดังขึ้นคนแรกมากอีกครั้ง ท่านอ๋องเข่าแทบทรุดเพราะเป็นห่วงพระชายาของตัวเองเพราะนางบอกกับเขาว่ากลัวการคลอดลูกที่นี้เพราะไม่มีหมอพยาบาลเหมือนภพที่นางจากมา คนที่นั้นถ้าได้ลูกแฝดส่วนใหญ่จะทำการผ่าออกเหมือนในทีวีที่ท่านอ๋องได้ดูจึงเข้าใจนางและกังวลใจไม่ต่างกันกับชายารักเพราะบางคนก็ตกตายตามลูกไปก็มีเพราะเด็กไม่กลับหัว"ได้พระโอรสทั้งสองเลยเพคะ
วันนี้ท่านอ๋องไม่ไปค่ายแต่สั่งงานให้คนสนิททำแทนทุกอย่างเพราะชายารักใกล้จะคลอดแล้ว ท่านอ๋องประคองเมียรักนั่งลงหลังจากที่อาบน้ำแต่งตัวให้นางเรียบร้อย ทุกวันทั้งสองจะอาบน้ำด้วยกันเช้าเย็นตั้งแต่ที่สมรสและอยู่ด้วยกัน"ท่านพี่ไม่ไปทำงานจริงๆหรือเพคะน้องอาจจะยังไม่คลอดวันนี้ก็ได้นะเพคะเดี๋ยวจะเสียการเสียงานเอาได้นะเพคะ"หลิวเรอจินถามพระสวามีและจัดชุดให้เรียบร้อยรวมถึงหอมแก้มทั้งสองข้างทุกเช้าก่อนจะออกไปที่โต๊ะเพื่อเสวยอาหารเช้าด้วยกันกับท่านพ่อทุกวัน"ไม่ไปพี่จะอยู่ดูแลน้องใกล้จะครบวันที่ลูกเราจะคลอดแล้ว" อ๋องหนุ่มตอบและหอมแก้มนวลทั้งสองข้างด้วยความรักทั้งสองคนจะแสดงความรักต่อกันทุกวัน นางเปิดทีวีในมิติให้พระสวามีดูจนเขาเก่งกาจเลียนแบบในหนังมาทำกับนางทุกวัน ยังบอกว่างิ้วของกาลข้างหน้าสอนมาก็แหง่ละเขาดูทุกอย่างเวลาว่างแล้วมาจัดนางและยังน่ามึนถามเวลาร่วมรักกันว่าชอบแบบไหนบ้าง ท่านอ๋องช่างแสวงหามาใช้แทบจะครบทุกท่วงท่าจนวนกับมารอบใหม่อีกและหมออก็ยังบอกอีกนะว่าสามารถมีอะไรแบบไหนท่าไหนลูกจะได้ไม่อันตรายชายหนุ่มกระซิบบอกเมียรักทุกคืน"พาลูกของเราไปกินข้าวก่อนเถอะเดี๋ยวท่านพ่อตาจะรอนาน" อ๋องหนุ่มป
นับจากที่กลับมาจากเมืองหลวงครั้งนั้นนี้ก็ล่วงเลยเข้าปีที่สองเท่ากับว่าหลิวเรอจินมาหลงยุคมาอยู่โลกคู่ขนานได้สามปีแล้ว ตอนนี้นางกำลังตั้งครรภ์ได้หกเดือนหลังจากที่พระสวามีลงมือเล่นพลิกผ้าห่มกับนางได้สองปีท่านอ๋องก็ได้ปั้นน้ำเป็นตัวให้นางสำเร็จ ท่านอ๋องถึงกับปิดจวนแจกอาหารและเมล็ดพันธุ์ผักให้กับชาวเมืองทุกคน ที่ตำหนักอ๋องจะมีพระโอรสพระธิดามาวิ่งเล่นในจวน อ๋องหนุ่มเข้าสามสิบสองชันษาแล้วพอมีลูกจึงดีใจเป็นธรรมดาหลิวเรอจินตอนนี้ก็ยี่สิบปี ท้องของนางหกเดือนจนจะเดินไม่ไหวเพราะท้องใหญ่มากตอนที่นางตั้งครรภ์สองเดือนแรกท่านอ๋องแพ้ท้องแทนนางจนลุกไปทำงานแทบจะไม่ไหว เขาอาเจียนจนหน้าไม่มีสีเลือด ทุกเช้าและกินอะไรไม่ได้เลยนอกจากผลไม้ในมิติของชายารักเพียงเท่านั้น จนนางคิดว่าพระสวามีป่วยหนักจนต้องให้หมอมาตรวจก็ไม่เจอโรคร้ายแรงแต่ท่านหมอกับขอตรวจนางแทนจึงได้รู้ว่านางท้องเกือบสามเดือนท่านอ๋องดีใจมากแทบจะไม่ให้นางทำอะไรเลยเขาดูแลนางยิ่งกว่าไข่ในหิน"ในที่สุดพี่ก็สามารถปั้นน้ำจนเป็นบุตรจนได้ไม่เสียแรงที่พี่เคี้ยวกร่ำเมียรักแทบจะทุกคืนก็ชายาของพี่น่ารักจนพี่อดใจไม่ไหวคืนไหนไม่ได้นอนกอดเจ้าพี่จะขาดใจตายจินเอ๋อร
ท่านอ๋องเย่ซิวมองพระชายาแล้วตอบ"พี่ก็มีแค่จินเอ๋อร์เป็นชายารักเพียงคนเดียวเท่านั้นก็เพียงพอแล้วไม่คิดจะเอาใครเข้ามาให้น้องหญิงไม่ชอบใจอย่างแน่นอน" ท่านอ๋องบอกด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง"ขอบพระทัยเพคะเสด็จพี่" นางตอบเสียงหวานยิ้มให้พระสวามีจนตาหยี่ชายหนุ่มเอามือลูบผมนางด้วยความเอ็ดดูกุนซือหนุ่มกระแอ่มไอเบาๆ "เกรงใจคนไม่มีคู่บ้างนะท่านอ๋องหวานกันจนมดจะขึ้นแล้ว"หลิวเรอจินหัวเราะด้วยความถูกใจที่กุนซือพูดให้นางกับพระสวามี พี่ใหญ่กับท่านพ่อได้แต่อึ้งที่บุตรสาวช่างไม่สำรวมเอาเสียเลยที่นางพูดกับท่านอ๋องกับกุนซือแบบไม่มีความเป็นคุณหนูในห้องหอเลย นี้แม่นมของบุตรสาวลืมสอนนางหรือเปล่าท่านแม่ทัพหลิวคิดในใจ"อ้อท่านพ่อตาอย่าได้กังวลใจไปข้ากับจินเอ๋อร์กับกุนซือคุนกันแบบนี้มาโดยตลอดที่อยู่เมืองชายแดน ข้าก็รักที่นางเป็นตัวของตัวเองไม่แสร้งเล่ห์เหมือนคุณหนูทั้งหลายที่ทำตัวน่ารำคาญ"อ๋องเย่ซิวบอกกับพ่อตาว่าเขาพอใจในตัวนางที่เป็นคนตรงๆรักก็บอกรักไม่ชอบอะไรนางจะบอกเขาตรงๆทั้งสองถ้อยทีถ้อยอาศัยปรับตัวให้เข้าหากันและนิสัยของทั้งสองก็คลายกันแทบจะทุกอย่าง"ขอบพระทัยท่านอ๋องที่ไม่ถือสาบุตรสาวของกระหม่อมพะย
สองพ่อลูกบิดาของหลิวเรอจินลองชุดเกราะกันด้วยความดีใจที่บุตรสาวใส่ใจนำมาฝากและใส่ได้พอดีไม่หนักเหมือนที่ใส่อันเก่า เป็นที่ถูกอกถูกใจเสียงหัวเราะลั่นออกมาจากห้องโถงด้วยความสุขดังออกมาจนบ่าวไพร่ที่จัดสถานที่สำหรับอยู่ก็ยิ้มกันไปด้วยความยินดี ในที่สุดจวนกลับมามีเสียงหัวเราะของคุณหนู หลังจากผ่านเรื่องเลวร้ายมาเป็นปีและทุกคนที่ได้รับของฝากกันทั้งจวนต่อจากนี้ในจวนคงจะมีแต่เรื่องที่น่ายินดีเกิดขึ้นสักพักพ่อบ้านของท่านพ่อเดินเข้ามาบอกว่า "ท่านอ๋องเสด็จมาถึงแล้วขอรับท่านแม่ทัพ""ขอบใจมากพ่อบ้านไปเตรียมน้ำชามาต้อนรับท่านอ๋องเร็วเข้า" ท่านแม่ทัพสั่งก่อนจะนั่งรอพร้อมกันกับบุตรสาวกับบุตรชายที่นั่งขนาบข้างซ้ายขวาในห้องโถงใหญ่สักพักท่านอ๋องก็เดินตามหลังบ่าวเข้ามารวมถึงท่านกุนซือและคนสนิท แม่ทัพหลิวซางหวงลุกขึ้นทำตามพิธีเพราะยศต่ำกว่าท่านอ๋องรวมทั้งสองพี่น้องที่ลุกตามบิดาจะทำความเคารพท่านอ๋องอ๋องเย่ซิวหลางรีบโบกมือพูดขึ้นว่า "ไม่ต้องมากพิธีทำตัวตามสบายเป็นเปิ่นหวางมาในฐานะบุตรเขยจะให้ท่านทำความเคารพข้าก็กระไรอยู่" ท่านอ๋องตอบท่านแม่ทัพหลิวพ่อตาของตนเองแต่พี่ใหญ่กับหลิวเรออจินก็ทำความเคา
หลังพูดคุยกับบิดากับพี่ชายในรอบบ่ายทั้งคุยกันเรื่องปัญหาของชายแดนที่ท่านพ่อประจำการอยู่ในตอนนี้"เมื่อเช้าที่เข้าประชุมมีรับสั่งจากฮ้องเต้ให้พ่อกับพี่ใหญ่ของลูกไปประจำการที่ชายแดนใต้แทนคนของฮองเฮา เห็นว่าที่ไปแก้ปัญหายังไม่ได้สักอย่างจนโดนฮ้องเต้สั่งปลด ญาติทางฮองเฮาที่ออกตัวไปแก้ปัญหาพร้อมกับองค์ชายใหญ่และขอย้ายสลับกันกับพ่อกับพี่ใหญ่ของลูกเมื่อปีที่แล้ว วันนี้ในท้องพระโรงถกกันหนักหน่วงเรื่องปัญหาของเกลือที่ทางแคว้นซ่งขึ้นราคาและเรื่องดินที่เค็มจนไม่สามารถเพาะปลูกอะไรขึ้น" บิดาเล่าเรื่องในตอนเช้านี้ให้บุตรสาวฟังคร่าวๆ"มันก็ไม่เห็นจะแก้ไม่ได้นะเจ้าค่ะถ้าท่านพ่อกับพี่ใหญ่ไปเดี๋ยวลูกจะบอกวิธีทำนาเกลือให้ไม่ต้องไปซื้อเกลือที่แคว้นอื่นหรอกเจ้าค่ะ ทำเองขายเองขึ้นตรงกับราชสำนักขายให้ประชาชนตาดำๆให้ได้เข้าถึงกันทุกคน เรื่องดินเค็มคงจะแก้ยากหน่อยเพราะคนที่มีที่ทางใกล้ทะเลจะทำการเพาะปลูกไม่ค่อยขึ้นก็ให้ยึดอาชีพหาของทะเลมาแปรรูปขายทำได้ทั้งส่งสดและทำตากแดดเอาไว้กินได้เป็นปีๆเลยนะเจ้าคะท่านพ่อพี่ใหญ่"หลิวเรอจินออกความเสนอคิดของตัวเองให้ทั้งสองคนฟังแต่ตอนนี้ทำไมทั้งพ่อกับพี่ชายถึงกับอ้าปากพะงาบ