ขบวนรถม้าของเจ้าสาวที่วิ่งเข้าไปในจวนเป็นเวลาเกือบยามอู่เพราะกว่าจะมาถึงไม่ใช่ใกล้ๆ
พ่อบ้านเข้ามายืนรอรับและบอก "ท่านอ๋องติดธุระไม่สามารถเข้าพิธีได้ เชิญพระชายาไปพักที่เรือนฮวาได้เลยพะย่ะค่ะ" เพราะเดินทางมาหลายวันทุกคนคงจะเหน็ดเหนื่อยกันไม่น้อย พ่อบ้านผายมือให้ขบวนรถม้าที่มีทหารของฮ้องเต้กับของบิดาของหลิวเรอจินเข้าไปในจวนและให้คนงานนำทางทุกคนไปพักและทานมื้อเที่ยง แม่นมกำลังจะอ้าปากถามพ่อบ้านหลิวเรอจินจึงเรียกเอาไว้ก่อน "ไม่เป็นไรเจ้าค่ะแม่นมดีเสียอีกข้ากำลังเหนื่อยอยู่เลย ไม่มีพิธีก็ดีเวลาหย่าจะได้ง่ายเพราะเราไม่ได้เข้าพิธีกราบไหว้ฟ้าดิน ผูกผมร่วมดื่มเหล้ามงคลเป็นเช่นนี้เป็นผลดีกับพวกเรานะเจ้าคะแม่นม" แม่นมมองคุณหนูหลิวเรอจินกระะซิบนางที่เป็นแม่นมของตัวเองเบาๆ "นี้มันเหมือนการไม่น้อมรับราชโองการนะเจ้าคะคุณหนู" แม่นมไม่พอใจที่ท่านอ๋องไม่ให้เกีรติคุณหนูของนางที่เป็นถึงลูกสาวของแม่ทัพใหญ่เหมือนกัน "ดีเหมือนกันเจ้าค่ะเพราะข้าก็ไม่ต้องการแต่งกับท่านอ๋องเช่นเดียวกันแม่นมเจ้าขาท่านต้องดีใจสิเจ้าคะถึงจะถูกเชิญท่านพ่อบ้านนำทางด้วยเจ้าค่ะ" หลิวเรอจินรีบบอกพ่อบ้านก่อนที่แม่นมจะพูดอะไรอีก พ่อบ้านก็เหงื่อเย็นไหลเต็มหลังกลัวว่าที่พระชายาจะโกรธที่ท่านอ๋องไม่ยอมอยู่เข้าร่วมพิธีแต่งงานก่อน แต่เลือกออกไปที่ค่ายทหารแทนเพราะไม่ได้ให้ความสำคัญกับสมรสพระราชทานในวันนี้ หลิวเรอจินที่เดินตามพ่อมาที่เรือนฮวานางมองดูเรือนโบราณสามห้องนอน ด้านหลังเป็นห้องครัวห้องกินข้าวมีห้องโถงห้องน้ำที่ติดห้องครัวสะอาดสะอ้านดีเพราะมีพ่อบ้านดูแล มีบ้านที่สร้างเหมือนเรือนของสาวใช้สี่หลังมองไปด้านหลังเป็นที่ดินรกร้างยาวไปจนสุดสายตาถือว่าจวนนี้เนื้อที่เยอะเหมือนกัน "อ้าวแล้วพวกท่านพักที่ไหนละท่านพ่อบ้าน" หลิวเรอจินถามพ่อบ้านของจวน "ข้าอยู่ฝั่งทางโน้นขอรับมีเรือนคนงานที่อยู่ติดกำแพงจนติดถนนอีกฝั่งหนึ่ง" พ่อบ้านตอบด้วยน้ำเสียงนอบน้อม "แต่ส่วนมากอยู่ที่เรือนของท่านแม่ทัพขอรับคุณหนูหลิว" "อ้อนี้คงเป็นเรือนท้ายจวนสินะเจ้าคะเพราะไกลจากตำหนักของท่านอ๋องพอสมควร" แต่ก็ดีไม่ต้องลำบากใจที่จะเจอหน้ากันหลิวเรอจินคิด "อ้อแล้วท่านอ๋องสั่งอะไรพ่อบ้านเอาไว้อีกไหมเจ้าคะเรื่องคนที่ติดตามข้ามาด้วยสิบสามคนรวมทั้งแม่นมกับสาวใช้ถ้าท่านอ๋องไม่ให้พักในจวนข้าจะไปหาซื้อที่สำหรับคนของข้าเองเจ้าค่ะ" หลิวเรอจินถามพ่อบ้านของจวนท่านอ๋อง "ท่านอ๋องสั่งเอาไว้ว่าให้จัดเตรียมที่ให้คนของพระชายาด้วยพะย่ะค่ะ" พ่อบ้านตอบว่าที่พระชายาหลิวเรอจิน "แล้วคนที่มากับขบวนท่านให้พวกเขาพักสักสองวันแล้วค่อยให้กลับเพราะเดินทางมาตั้งยี่สิบวันกว่าจะมาถึง"พวกเขาต้องคอยดูแลความปลอดภัยกับทุกคนจนมาถึงที่นี้" หลิวเรอจินบอกพ่อบ้าน " ข้าฝากด้วยนะเจ้าค่ะท่านพ่อบ้าน" หลิวเรอจินกำชับอีกที "พะย่ะค่ะพระชายา" พ่อบ้านจวนอ๋องตอบก่อนที่จะลาไปดูแลขบวนที่มาจากเมืองหลวงและบอกให้พระชายาพักผ่อนให้สบายพระทัย หลิวเรอจินจึงบอกความต้องการของตัวเองไปอีกอย่างว่าจะทำอาหารที่เรือนฮวากินเองขอให้พ่อบ้านจัดเตรียมวัตถุดิบส่งมาให้ก็พอ หลังจากที่ท่านพ่อบ้านกลับไปที่ตำหนักใหญ่แล้วแม่นมก็ถามคุณหนูของตนด้วยความไม่สบายใจ ไม่พอใจที่ท่านอ๋องไม่ทำตามราชโองการของฮ้องเต้ไม่ยอมเข้าพิธีแต่งงานก่อนที่จะส่งคุณหนูของนางมาที่เรือนฮวาท่ายจวนนี้ หลิวเรอจินหัวเราะด้วยความดีใจที่ท่านอ๋องก็ไม่อยากแต่งงานกับนางเหมือนกัน ดีนางจะได้เป็นข้ออ้างและยื่นข้อเสนอเรื่องที่ตัวของหลิวเรอจินต้องการข้อแลกเปลี่ยนกับท่านอ๋อง "แม่นมอย่าได้พูดไปมันเป็นผลดีกับตัวของข้าที่ไม่ต้องฝืนแต่งให้กับท่านอ๋องเช่นเดียวกันเจ้าค่ะ ต่อไปพอพวกเราอยากออกไปจากจวนท่านอ๋องมันจะได้ง่ายและที่นี้มันห่างไกลจากเมืองหลวงมากฮ้องเต้คงไม่มาสนใจเท่าไรหรอกเจ้าค่ะแม่นม" "เอาไว้ให้ทุกคนพักผ่อนให้หายเหนื่อยข้าจะให้คนของเราไปหาซื้อที่ดินที่อยู่ติดกับแม่น้ำให้ได้เยอะที่สุดพวกเราจะเริ่มต้นกันที่นั้นแต่เราต้องยื่นข้อเสนอกับท่านอ๋องก่อนเจ้าค่ะแม่นม" หลิวเรอจินบอกแผนของนางต่อจากนี้ "แล้วเราจะสร้างบ้านเอาไว้หลังจากออกจากตำหนักของท่านอ๋องยังไงละเจ้าคะ" แม่นมถามขึ้น "ท่านอย่าได้เป็นห่วงข้ามีแผนสำรองเอาไว้แล้วเจ้าค่ะ" นางบอกและยิ้มหน้าบานเป็นจานที่ไม่ต้องเข้าพิธีแต่งงานที่ตำหนักของท่านอ๋องเย่ซิวหลาง และอย่าได้กลัวความแห้งแล้งเราย่อมมีวิธีรับมือได้อย่างแน่นอน ขอเพียงข้ายื่นข้อต่อรองกับท่านอ๋องเรื่องนี้ละที่จะทำให้เราเป็นอิสระจากท่านอ๋องเย่ซิวหลางนางคิดในใจอย่างมาดหมาย หลิวเรอจินหัวเราะอย่างชั่วร้ายพอมองเห็นวิธีเอาตัวรอดจากการแต่งงานให้ท่านอ๋องเย่ซิวหลาง ขอเพียงให้นางออกไปสำรวจแม่น้ำลำคลองเสียก่อนเพื่อหาทางช่วยชาวบ้านอีกทาง อย่าลืมว่านางมาจากยุคอนาคตย่อมต้องรู้วิธีรับมือภัยแล้งที่มีในเมืองจี้เปียงแห่งนี้ "แต่คุณหนูจะเสียชื่อเสียงนะเจ้าคะที่มาถึงตำหนักของท่านอ๋องขนาดนี้ยังไม่ได้เข้าพิธีกราบไหว้ฟ้าดินอีก คนจะเอาไปพูดให้คุณหนูเสียหาย ให้นมเขียนจดหมายไปหาท่านแม่ทัพท่านพ่อของคุณหนูหรือไม่เจ้าคะ" "ไม่ต้องเจ้าค่ะแม่นมท่านจะไปสนใจทำไมกับเสียงนินทาเจ้าคะ มันไม่ได้ทำให้ข้าอายหรอกเจ้าค่ะมันเป็นผลดีกับตัวของข้าต่างหาก คนที่เขามีปากเราห้ามเขาพูดเรื่องของเราไม่ได้และคนเหล่านั้นก็ไม่ได้มาหาข้าวให้เรากินแม่นมจะไปสนใจพวกเขาทำไมเจ้าคะ ปล่อยให้เขาพูดไปเลยเราควรจะทำตัวของเราให้ดีและมีความสุขสิมันถึงจะถูก ข้าไม่ห่วงเรื่องชื่อเสียงเงินทองสักนิดเดียวข้าหวังเพียงแค่อิสระภาพของข้าที่จะโบยบินไปตามความฝันของตัวเองมากกว่าเจ้าค่ะ ถ้าแม่นมรักข้าแม่นมห้ามพูดเรื่องให้ข้าเข้าพิธีแต่งงานอีกนะเจ้าคะ เพราะข้าก็ไม่ต้องการแต่งให้ท่านอ๋องเย่ซิวหลางเช่นเดียวกันเจ้าค่ะ" นางบอกกับแม่นมของตัวเองที่ยืนฮึดฮัดขัดใจอยู่ตรงหน้าด้วยความเอ็นดู "ได้เจ้าค่ะนมจะไม่พูดอีกถ้าคุณหนูต้องการเช่นนั้น จริงๆ" แม่นมบอกคุณหนูของตัวเองเบา "ดีเจ้าค่ะพี่ถังถังพาแม่นมไปพักผ่อนได้แล้วเจ้าค่ะ ไปกันเจ้าค่ะพี่เพียนเพียนข้าจะอาบน้ำนอนพักเช่นเดียวกันและพวกพี่ก็ไปพักเช่นเดียวกันมื้อเย็นเราค่อยเจอกัน รวมทั้งพวกพี่ๆองครักษ์ทุกคนด้วยแยกกันไปพักเถอะเจ้าค่ะนางบอกคนของตัวเอง " เจ้าค่ะ/ขอรับคุณหนู" "ไม่ต้องเป็นห่วงข้าที่นี้ในจวนท่านอ๋องคงไม่มีใครกล้าเข้ามาทำร้ายเราตอนนี้หรอกกระมังเจ้าค่ะ" พูดจบนางก็เดินเข้าห้องใหญ่ที่พ่อบ้านเตรียมเอาไว้ให้กับว่าที่พระชายาที่เรือนฮวาแห่งนี้ ในห้องนอนขนาดใหญ่พอดีมีเตียงขนาดใหญ่ตู้ใส่ผ้าและหีบของนางที่สาวใช้นำเข้ามาเก็บให้เรียบร้อย มีโต๊ะเก้าอี้ข้างหน้าต่างให้นั่งชมวิวด้านนอกที่มีแต่ที่รกร้างเป็นการต้อนรับที่ใส่ใจจากว่าที่พระสวามีจริงๆ ที่แสดงออกชัดเจนเรื่องแต่งงานแม้แต่ตำหนักใหญ่ยังไม่ให้ว่าที่พระชายาอย่างเราขึ้นไปพักด้วยเลย กับยกเรือนท้ายจวนให้อยู่ซะห่างจากตำหนักมากโขหลิวเรอจินคิดและหัวเราะกับการต้อนรับของท่านอ๋องเย่ซิวหลาง ยังกับข้าอยากจะเจอท่านอย่างนั้นแหละน่าสนุกไม่น้อยเหวินเว่อในร่างของหลิวเรอจินคิดก่อนจะนอนพักผ่อนในรอบบ่ายหลังจากที่รอมแรมมาเกือบเดือนใช่แล้วทั้งสี่คนที่หน้าห้องทำคลอดคือสี่บุรุษที่รักนางที่สุด กุนซืออู๋ชวนเหิงกับแม่ทัพหลิวจิ้นเหอมาถึงที่ตำหนักก็ได้ยินเสียงร้องอย่างเจ็บปวดของน้องสาวที่กำลังจะคลอดลูกเสียงกรีดร้องครั้งสุดท้ายชายหนุ่มทั้งสี่คนลุกขึ้นพร้อมกัน อีกคนผวาไปที่ประตูห้องพร้อมจะผลักเข้าไปทันทีจนเพื่อนต้องรั้งตัวของท่านอ๋องเอาไว้เพราะต่อมาเสียงของทารกก็ร้องขึ้นต่อจากเสียงร้องของมารดาอุแว้ อุแว้ ทุกคนหายใจด้วยความโล่งอกหลิวเรอจินก็รู้สึกโล่งไปพักหนึ่งหลังจากที่ได้ฟังเสียงของลูกน้อยแต่แล้วนางก็ต้องร้องออกมาด้วยความเจ็บที่ถี่ขึ้นอีกรอบ"พระชายาอดทนหน่อยนะเพคะคนพี่จะตามออกแล้วเบ่งเพคะ"เสียงหมอตำแยบอกนางหลิวเรอจินกลั้นใจเบ่งอีกครั้งและคนนี้คลอดง่ายกว่าคนแรกเสียงร้องของคนที่สองดังขึ้นคนแรกมากอีกครั้ง ท่านอ๋องเข่าแทบทรุดเพราะเป็นห่วงพระชายาของตัวเองเพราะนางบอกกับเขาว่ากลัวการคลอดลูกที่นี้เพราะไม่มีหมอพยาบาลเหมือนภพที่นางจากมา คนที่นั้นถ้าได้ลูกแฝดส่วนใหญ่จะทำการผ่าออกเหมือนในทีวีที่ท่านอ๋องได้ดูจึงเข้าใจนางและกังวลใจไม่ต่างกันกับชายารักเพราะบางคนก็ตกตายตามลูกไปก็มีเพราะเด็กไม่กลับหัว"ได้พระโอรสทั้งสองเลยเพคะ
วันนี้ท่านอ๋องไม่ไปค่ายแต่สั่งงานให้คนสนิททำแทนทุกอย่างเพราะชายารักใกล้จะคลอดแล้ว ท่านอ๋องประคองเมียรักนั่งลงหลังจากที่อาบน้ำแต่งตัวให้นางเรียบร้อย ทุกวันทั้งสองจะอาบน้ำด้วยกันเช้าเย็นตั้งแต่ที่สมรสและอยู่ด้วยกัน"ท่านพี่ไม่ไปทำงานจริงๆหรือเพคะน้องอาจจะยังไม่คลอดวันนี้ก็ได้นะเพคะเดี๋ยวจะเสียการเสียงานเอาได้นะเพคะ"หลิวเรอจินถามพระสวามีและจัดชุดให้เรียบร้อยรวมถึงหอมแก้มทั้งสองข้างทุกเช้าก่อนจะออกไปที่โต๊ะเพื่อเสวยอาหารเช้าด้วยกันกับท่านพ่อทุกวัน"ไม่ไปพี่จะอยู่ดูแลน้องใกล้จะครบวันที่ลูกเราจะคลอดแล้ว" อ๋องหนุ่มตอบและหอมแก้มนวลทั้งสองข้างด้วยความรักทั้งสองคนจะแสดงความรักต่อกันทุกวัน นางเปิดทีวีในมิติให้พระสวามีดูจนเขาเก่งกาจเลียนแบบในหนังมาทำกับนางทุกวัน ยังบอกว่างิ้วของกาลข้างหน้าสอนมาก็แหง่ละเขาดูทุกอย่างเวลาว่างแล้วมาจัดนางและยังน่ามึนถามเวลาร่วมรักกันว่าชอบแบบไหนบ้าง ท่านอ๋องช่างแสวงหามาใช้แทบจะครบทุกท่วงท่าจนวนกับมารอบใหม่อีกและหมออก็ยังบอกอีกนะว่าสามารถมีอะไรแบบไหนท่าไหนลูกจะได้ไม่อันตรายชายหนุ่มกระซิบบอกเมียรักทุกคืน"พาลูกของเราไปกินข้าวก่อนเถอะเดี๋ยวท่านพ่อตาจะรอนาน" อ๋องหนุ่มป
นับจากที่กลับมาจากเมืองหลวงครั้งนั้นนี้ก็ล่วงเลยเข้าปีที่สองเท่ากับว่าหลิวเรอจินมาหลงยุคมาอยู่โลกคู่ขนานได้สามปีแล้ว ตอนนี้นางกำลังตั้งครรภ์ได้หกเดือนหลังจากที่พระสวามีลงมือเล่นพลิกผ้าห่มกับนางได้สองปีท่านอ๋องก็ได้ปั้นน้ำเป็นตัวให้นางสำเร็จ ท่านอ๋องถึงกับปิดจวนแจกอาหารและเมล็ดพันธุ์ผักให้กับชาวเมืองทุกคน ที่ตำหนักอ๋องจะมีพระโอรสพระธิดามาวิ่งเล่นในจวน อ๋องหนุ่มเข้าสามสิบสองชันษาแล้วพอมีลูกจึงดีใจเป็นธรรมดาหลิวเรอจินตอนนี้ก็ยี่สิบปี ท้องของนางหกเดือนจนจะเดินไม่ไหวเพราะท้องใหญ่มากตอนที่นางตั้งครรภ์สองเดือนแรกท่านอ๋องแพ้ท้องแทนนางจนลุกไปทำงานแทบจะไม่ไหว เขาอาเจียนจนหน้าไม่มีสีเลือด ทุกเช้าและกินอะไรไม่ได้เลยนอกจากผลไม้ในมิติของชายารักเพียงเท่านั้น จนนางคิดว่าพระสวามีป่วยหนักจนต้องให้หมอมาตรวจก็ไม่เจอโรคร้ายแรงแต่ท่านหมอกับขอตรวจนางแทนจึงได้รู้ว่านางท้องเกือบสามเดือนท่านอ๋องดีใจมากแทบจะไม่ให้นางทำอะไรเลยเขาดูแลนางยิ่งกว่าไข่ในหิน"ในที่สุดพี่ก็สามารถปั้นน้ำจนเป็นบุตรจนได้ไม่เสียแรงที่พี่เคี้ยวกร่ำเมียรักแทบจะทุกคืนก็ชายาของพี่น่ารักจนพี่อดใจไม่ไหวคืนไหนไม่ได้นอนกอดเจ้าพี่จะขาดใจตายจินเอ๋อร
ท่านอ๋องเย่ซิวมองพระชายาแล้วตอบ"พี่ก็มีแค่จินเอ๋อร์เป็นชายารักเพียงคนเดียวเท่านั้นก็เพียงพอแล้วไม่คิดจะเอาใครเข้ามาให้น้องหญิงไม่ชอบใจอย่างแน่นอน" ท่านอ๋องบอกด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง"ขอบพระทัยเพคะเสด็จพี่" นางตอบเสียงหวานยิ้มให้พระสวามีจนตาหยี่ชายหนุ่มเอามือลูบผมนางด้วยความเอ็ดดูกุนซือหนุ่มกระแอ่มไอเบาๆ "เกรงใจคนไม่มีคู่บ้างนะท่านอ๋องหวานกันจนมดจะขึ้นแล้ว"หลิวเรอจินหัวเราะด้วยความถูกใจที่กุนซือพูดให้นางกับพระสวามี พี่ใหญ่กับท่านพ่อได้แต่อึ้งที่บุตรสาวช่างไม่สำรวมเอาเสียเลยที่นางพูดกับท่านอ๋องกับกุนซือแบบไม่มีความเป็นคุณหนูในห้องหอเลย นี้แม่นมของบุตรสาวลืมสอนนางหรือเปล่าท่านแม่ทัพหลิวคิดในใจ"อ้อท่านพ่อตาอย่าได้กังวลใจไปข้ากับจินเอ๋อร์กับกุนซือคุนกันแบบนี้มาโดยตลอดที่อยู่เมืองชายแดน ข้าก็รักที่นางเป็นตัวของตัวเองไม่แสร้งเล่ห์เหมือนคุณหนูทั้งหลายที่ทำตัวน่ารำคาญ"อ๋องเย่ซิวบอกกับพ่อตาว่าเขาพอใจในตัวนางที่เป็นคนตรงๆรักก็บอกรักไม่ชอบอะไรนางจะบอกเขาตรงๆทั้งสองถ้อยทีถ้อยอาศัยปรับตัวให้เข้าหากันและนิสัยของทั้งสองก็คลายกันแทบจะทุกอย่าง"ขอบพระทัยท่านอ๋องที่ไม่ถือสาบุตรสาวของกระหม่อมพะย
สองพ่อลูกบิดาของหลิวเรอจินลองชุดเกราะกันด้วยความดีใจที่บุตรสาวใส่ใจนำมาฝากและใส่ได้พอดีไม่หนักเหมือนที่ใส่อันเก่า เป็นที่ถูกอกถูกใจเสียงหัวเราะลั่นออกมาจากห้องโถงด้วยความสุขดังออกมาจนบ่าวไพร่ที่จัดสถานที่สำหรับอยู่ก็ยิ้มกันไปด้วยความยินดี ในที่สุดจวนกลับมามีเสียงหัวเราะของคุณหนู หลังจากผ่านเรื่องเลวร้ายมาเป็นปีและทุกคนที่ได้รับของฝากกันทั้งจวนต่อจากนี้ในจวนคงจะมีแต่เรื่องที่น่ายินดีเกิดขึ้นสักพักพ่อบ้านของท่านพ่อเดินเข้ามาบอกว่า "ท่านอ๋องเสด็จมาถึงแล้วขอรับท่านแม่ทัพ""ขอบใจมากพ่อบ้านไปเตรียมน้ำชามาต้อนรับท่านอ๋องเร็วเข้า" ท่านแม่ทัพสั่งก่อนจะนั่งรอพร้อมกันกับบุตรสาวกับบุตรชายที่นั่งขนาบข้างซ้ายขวาในห้องโถงใหญ่สักพักท่านอ๋องก็เดินตามหลังบ่าวเข้ามารวมถึงท่านกุนซือและคนสนิท แม่ทัพหลิวซางหวงลุกขึ้นทำตามพิธีเพราะยศต่ำกว่าท่านอ๋องรวมทั้งสองพี่น้องที่ลุกตามบิดาจะทำความเคารพท่านอ๋องอ๋องเย่ซิวหลางรีบโบกมือพูดขึ้นว่า "ไม่ต้องมากพิธีทำตัวตามสบายเป็นเปิ่นหวางมาในฐานะบุตรเขยจะให้ท่านทำความเคารพข้าก็กระไรอยู่" ท่านอ๋องตอบท่านแม่ทัพหลิวพ่อตาของตนเองแต่พี่ใหญ่กับหลิวเรออจินก็ทำความเคา
หลังพูดคุยกับบิดากับพี่ชายในรอบบ่ายทั้งคุยกันเรื่องปัญหาของชายแดนที่ท่านพ่อประจำการอยู่ในตอนนี้"เมื่อเช้าที่เข้าประชุมมีรับสั่งจากฮ้องเต้ให้พ่อกับพี่ใหญ่ของลูกไปประจำการที่ชายแดนใต้แทนคนของฮองเฮา เห็นว่าที่ไปแก้ปัญหายังไม่ได้สักอย่างจนโดนฮ้องเต้สั่งปลด ญาติทางฮองเฮาที่ออกตัวไปแก้ปัญหาพร้อมกับองค์ชายใหญ่และขอย้ายสลับกันกับพ่อกับพี่ใหญ่ของลูกเมื่อปีที่แล้ว วันนี้ในท้องพระโรงถกกันหนักหน่วงเรื่องปัญหาของเกลือที่ทางแคว้นซ่งขึ้นราคาและเรื่องดินที่เค็มจนไม่สามารถเพาะปลูกอะไรขึ้น" บิดาเล่าเรื่องในตอนเช้านี้ให้บุตรสาวฟังคร่าวๆ"มันก็ไม่เห็นจะแก้ไม่ได้นะเจ้าค่ะถ้าท่านพ่อกับพี่ใหญ่ไปเดี๋ยวลูกจะบอกวิธีทำนาเกลือให้ไม่ต้องไปซื้อเกลือที่แคว้นอื่นหรอกเจ้าค่ะ ทำเองขายเองขึ้นตรงกับราชสำนักขายให้ประชาชนตาดำๆให้ได้เข้าถึงกันทุกคน เรื่องดินเค็มคงจะแก้ยากหน่อยเพราะคนที่มีที่ทางใกล้ทะเลจะทำการเพาะปลูกไม่ค่อยขึ้นก็ให้ยึดอาชีพหาของทะเลมาแปรรูปขายทำได้ทั้งส่งสดและทำตากแดดเอาไว้กินได้เป็นปีๆเลยนะเจ้าคะท่านพ่อพี่ใหญ่"หลิวเรอจินออกความเสนอคิดของตัวเองให้ทั้งสองคนฟังแต่ตอนนี้ทำไมทั้งพ่อกับพี่ชายถึงกับอ้าปากพะงาบ