แชร์

แฝดสะท้านภพ(ดวงใจจอมทัพ)
แฝดสะท้านภพ(ดวงใจจอมทัพ)
ผู้แต่ง: ไห่ถาง

บทที่1 ครอบครัวสุขสันต์

ผู้เขียน: ไห่ถาง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-04 01:54:52

คฤหาสน์ตระกูลเฉิน

ร่างสูงก้าวเข้ามาภายในห้องโถง เคียงคู่กับหญิงสาวที่หน้าตาละม้ายคล้ายกัน แม้แต่ความสูงยังแทบจะเท่ากันเลยด้วยซ้ำ สองหนุ่มสาวในชุดลำลองสบาย ๆ เดินตรงไปยังห้องนั่งเล่น ซึ่งมีท่านเจ้าสัวเฉินกำลังหัวเราะร่าอยู่กับภรรยา

เฉินหมิงมองไปยังน้องสาวที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก่อนสองพี่น้องจะเบะปากให้กันเป็นเชิงหยอกล้อ วันนี้เป็นการลาพักร้อนที่ตรงกันในรอบหลายปีของเขาสองคนพี่น้อง

เฉินเปียวแกล้งมองผ่านลูกชายหญิง ก่อนจะชำเลืองมองอยู่ในที เขาอยากได้ยินข่าวดี ว่าทั้งสองลาออกจากกองทัพเสียที งานที่ลูก ๆ ทำมันอันตรายเกินกว่าเขาจะรับได้ แรก ๆ แค่ทหารยศธรรมดา พอนานวันเข้ากลายเป็นหน่วยรบพิเศษไปซะงั้น

“บ้านเราก็ออกจะร่ำรวย ทำไมใครบางคนต้องอยากเอาชีวิตไปทิ้งให้กับคนอื่นด้วยนะ”

เจ้าสัวเฉินแสร้งประชดลูก ๆ ก่อนจะทำท่าทางฮึดฮัด เมื่อลูกสาวคนรองเฉินหนิงก้าวเข้าไปนั่งข้าง ๆ พร้อมสวมกอดผู้เป็นพ่อ คุณนายเฉินได้แต่หัวเราะกับท่าทางของสามี ก่อนจะกวักมือเรียกลูกชายคนโต เฉินหมิงก้าวยาว ๆ เข้าไปสวมกอดผู้เป็นแม่ ก่อนจะพูดจาออดอ้อนเสียจนน่าหมั่นไส้

“ขอเวลาเราสองคนอีกนิดนะคะป๊า แล้วเราจะกลับมาอยู่บ้านจนป๊ากับม๊าเบื่อเราสองคนเลยค่ะ”

"อาหนิง ป๊าว่าลูกออกมาช่วยป๊ากับน้องดูแลบริษัทดีกว่านะ ลื้อด้วยอาหมิง"

เจ้าสัวเฉินเริ่มใช้ไม้อ่อนกับลูกสาว แน่นอนว่าเขาได้ยินคำว่าขอเวลาอีกนิด มาเป็นเวลาหลายปีแล้ว เขาไม่รู้ว่ามันจะ ‘นิด’ ไปอีกกี่ ‘นิด’ กันแน่

"โธ่! ป๊า อาหลิงดูแลมันก็ดีอยู่แล้วไม่ใช่เหรอคะ จริงไหมหมิง"

เฉินหนิงรีบหาแนวร่วม ด้วยการขอความเห็นจากแฝดของเธอ เรื่องนี้ถกเถียงกันมาหลายปี คำตอบมันก็ยังคงอยู่เช่นเดิม เธอสองพี่น้องก้าวเข้ามาในจุดที่ยากจะถอย ชีวิตหน่วยรบพิเศษ ต้องกำความลับทั้งดีและไม่ดีเอาไว้มากมาย จะถอยก็ไม่ใช่จะทำได้เลย

  "ฮึ! พวกลื้อก็เอาแต่โยนมาให้อาหลิงคนเดียว แล้วเมื่อไหร่ป๊ากับม๊าจะได้อุ้มหลานสักที ลื้อสองคนอายุสามสิบกันแล้วนะ"

  "ป๊าครับอยากได้จริง ๆ เหรอ เดี๋ยวผมทำให้" เฉินหมิงพูดพร้อมขยิบตาให้เจ้าสัวเฉิน 

"ฮาๆๆ"

สองพี่น้องหัวเราะเสียงดัง จนทำให้เจ้าสัวเฉินค้อนควับให้ลูกชายทันที ชายชราได้แต่ส่ายหน้าระอากับนิสัยของลูกฝาแฝด ที่เอาแต่นั่งหัวเราะ 

แต่ถึงจะอย่างนั้น เขาก็ไม่เคยบังคับให้ทั้งสองลาออกจากงาน เพราะไม่อยากที่หักหาญความรู้สึกของลูก ๆ เขาอยากให้ทั้งคู่ลาออกด้วยความสมัครใจมากกว่า แม้จะรู้ดีว่าคงเป็นเรื่องที่ยาก

"มาแล้วค่ะ วันนี้หนูสวยไหมคะทุกคน"

เฉินหลิงเดินลงมาจากชั้นบน พร้อมกับหมุนตัวไปรอบ ๆ เพื่ออวดชุดเดรสสีหวานของเธอ ที่พี่สาวสั่งตัดให้ในวันเกิดของเธอ

“น้องสาวพี่สาวที่สุดอยู่แล้ว”

เฉินหมิงเดินเข้าไปโอบเอวคอดของน้องสาวคนเล็ก ก่อนจะพาเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าของทุกคน

“หิวแล้วครับ ไปกินข้าวกันดีกว่า มาครับคุณนายเฉิน แขนข้างนี้ของผม พร้อมให้คุณนายควงแล้วครับ”

ชายหนุ่มยื่นมือออกไปรับมือของผู้เป็นแม่ คุณนายเฉินหัวเราะน้อย ๆ ก่อนจะลุกขึ้นวางมือไว้บนมือหนาของลูกชาย ทางด้านเฉินหนิงเองก็ได้พยุงท่านเจ้าสัวลุกขึ้น พร้อมกับกอดแขนของผู้เป็นพ่ออย่างออดอ้อน

“คิดว่าเกิดมาหน้าตาดี ใครคือพ่อพันธ์กัน ฮ่า ๆ” 

ท่านเจ้าสัวพูดขึ้น พร้อมขยิบตาให้ภรรยา ที่ยืนคล้องแขนบุตรชายอยู่ ทำให้คุณนายเฉินหัวเราะน้อย ๆ กับท่าทางมิลืมแก่ของสามี

“ผมว่าเพราะมีแม่พันธ์ที่ดี อย่างคุณนายเฉินต่างหากเล่า ฮ่า ๆ”

สองพ่อลูกต่างไม่ยอมลงให้กัน เดินไปจิกกัดกันไป พร้อมเสียงหัวเราะร่าของพ่อลูก คุณนายเฉินตบต้นแขนบุตรชายเบา ๆ ด้วยความเอ็นดู พรางส่ายหน้ายิ้ม ๆ เมื่อมองดูพ่อลูกพูดคุยเถียงกันเหมือนเด็ก ๆ

แต่มีอยู่เรื่องหนึ่งที่เธอเห็นด้วยกับสามี นั่นคืออยากให้ลูก ๆ กลับมาอยู่บ้าน เพราะเธอกลัวว่าสักวัน....! เธอไม่อยากนึกถึงมันเลย ซึ่งมันคือความกลัวอยู่ลึก ๆ ของคนเป็นแม่ กับการที่ลูกทำงานเสี่ยงอันตราย หากเป็นอย่างนั้นขึ้นมาจริง ๆ เธอเองก็ยังไม่มั่นใจเลยว่าจะยอมรับมันได้ไหม ถึงแม้เธอมักจะพูดกับสามีเสมอ ว่ามันคือหน้าที่ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเราต้องยอมรับมันให้ได้

“เชิญครับคุณผู้หญิง”

ชายหนุ่มเปิดประตูรถให้กับแม่และน้องสาว ก่อนจะปิดลงอย่างเบามือ ส่วนท่านเจ้าสัวเฉินนั้น เฉินหนิงได้เปิดประตูอีกด้านให้เช่นกัน เฉินหมิงขึ้นไปนั่งประจำที่คนขับ โดยมีคู่แฝดของเขานั่งคู่กันด้านหน้า

ห้าคนพ่อแม่ลูกต่างมีเรื่องมากมายมาหยอกเย้ากัน พอรถเลี้ยวพ้นซอยบ้านออกมาได้เล็กน้อย คุณนายเฉินกลับรู้สึกใจคอไม่ดีขึ้นมาเอาเสียดื้อ ๆ เธออยากให้การออกมากินข้าวครั้งนี้...เต็มไปด้วยความสุขเช่นในทุก ๆ ครั้งที่ได้อยู่พร้อมหน้ากัน

‘เธอเป็นบ้าไปแล้ว ทำไมคิดอะไรที่ไม่เป็นมงคลเลย’ 

คุณนายเฉินตำหนิตัวเองอยู่ในใจ แต่เธอรู้สึกอย่างนั้นจริง ๆ มันเหมือนกับว่าอีกไม่นาน เธอจะสูญเสียพวกเขาไป ใบหน้าที่แต่งแต้มมาแต่พองาม เริ่มจะซีดเผือดลงด้วยความไม่สบายใจ

“ม๊าคะ! เป็นอะไรรึเปล่าคะ ทำไมหน้าซีด ๆ”

เฉินหนิงที่มองเห็นใบหน้าของผู้เป็นแม่ ผ่านทางกระจกรถหันกลับมาถามด้วยความเป็นห่วง

“ไม่มีอะไรจ๊ะ! คงเพราะม๊าตื่นเช้ามากไปหน่อยเท่านั้นเอง” คุณนายเฉินปฎิเสธลูกสาวอย่าไม่ค่อยเต็มเสียงนัก

“ก็ม๊าของพวกลื้อตื่นเต้นที่จะได้อยู่กับพวกลื้อนาน ๆ ไง หยุดงานมาตั้งหลายวันแบบนี้ ม๊าลื้อคงคิดเมนูอาหารวันละเป็นสิบอย่างเลยมั้ง”

ท่านเจ้าสัวพูดขึ้น ก่อนจะเอื้อมมือไปบีบมืออวบของภรรยาเบา ๆ เขาเข้าใจความรู้สึกของเธอดี ว่าห่วงสองแฝดแค่ไหน

“คืนนี้จะนอนกอดให้เบื่อกันไปข้างเลยครับ ม๊าต้องยิ้มกว้าง ๆ เพราะลูกชายสุดหล่อจะมาอยู่รับใช้ตั้งสองเดือนเลยนะครับ”

“จ๊ะ! พะ...กรี๊ดดด”

'ปังๆ' เสียงปืนดังขึ้นด้านหน้าฝั่งคนขับ ทำให้ทุกคนกรีดร้องอย่างเสียขวัญ

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • แฝดสะท้านภพ(ดวงใจจอมทัพ)   บทที่93 ก็แค่ข่าวลือ

    ห้าวันถัดมา ณ ร้านผ้าสกุลจาง จางเหลียนฮวา ได้ก้าวเข้ามาภายในร้าน พร้อมสาวใช้ข้างกายสองนาง การมาของหญิงสาว เรียกสายตาของเหล่าสตรีน้อยใหญ่ ที่อยู่ภายในร้านผ้า ให้หันมองเป็นจุดเดียว ด้วยความงามที่โดดเด่น และเป็นหญิงสาวแปลกหน้า สำหรับใครหลายคนในเมืองหลวง หากจะมีคนรู้จักนาง ก็คงเป็นคนที่ไปร่วมงานวันเกิด ของท่านราชครูหรงเท่านั้น จึงจะรู้ว่านางคือบุตรสาวคนโต ที่กำเนิดจากภรรยาเอกของท่านเสนาบดีหรงจิ่ง “นางงดงามยิ่งนัก ข้าไม่แปลกใจเลยว่าทำไม ท่านแม่ทัพจ้าวหมิงเยี่ย จึงรอนางโดยไม่คิดถอนหมั้น” หญิงสาวนางหนึ่งเอ่ยขึ้นเบาๆ ทว่ากลับไม่เบาสำหรับหญิงสาวอีกคน ที่ยืนอยู่ด้านหลัง ต้วนชิงชิงกำหมัดแน่น หากไม่เพราะหรงเหลียนฮวา มีหรือคนรักของนาง จะเอาใจออกห่าง จนทำให้นางต้องแต่งกับคนอื่น “คุณหนู เชิญด้านในขอรับ” ผู้ดูแลร้านก้าวเข้ามาโค้งกายให้นายสาว ก่อนจะผายมือเชื้อเชิญผู้เป็นนาย ให้เข้าไปนั่งด้านใน “ท่านอาเมิ่งสบายดีนะเจ้าคะ” หญิงสาวเอ่ยถามผู้ดูแลร้าน “ข้าน้อยสบายดีขอรับ คุณหนูกับคุณชายมาถึงเมืองหลวง ข้าน้อยเสียมารยาทนัก มิได้เข้าไปคาร

  • แฝดสะท้านภพ(ดวงใจจอมทัพ)   บทที่92 มิควรสืบพันธุ์

    “หากเจ้ายินยอมแต่โดยดี ข้าจะมอบตำแหน่งที่คู่ให้” “กระบี่เจ้า! ควบคุมมันมิให้สั่นได้เสียก่อน ค่อยคิดสิ่งอื่นดีกว่าไหม…” หญิงสาววางถ้วยชาลง บนโต๊ะอย่างใจเย็น พรึ่บ! ปึก! เคร้ง! รวดเร็วจนชายหนุ่ม ขาสั่นจนแทบยืนไม่อยู่ กระบี่ในมือร่วงลงพื้น ก่อนที่เขาจะเบนสายตา ไปมองยังหญิงสาว ซึ่งตอนนี้กลับไปนั่งยังที่เดิม เสมือนกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับเขาเมื่อครู่ มันมิใช่ฝีมือของนาง “จะลงมือกับใครก็ตาม เจ้าต้องศึกษาอีกฝ่ายให้แจ่มแจ้ง หึๆ ยังดีที่ตรงนี้เป็นข้า ถ้าเป็นผู้ติดตามของข้าทั้งสอง เจ้าคงไม่ได้ยืนต่อคำ เกินชั่วอึดใจ...” ชายหนุ่มถึงกับใบหน้าถอดสี เขาไม่คิดว่าแผนการที่แยบยล จะถูกล่วงรู้จนหมดสิ้นเช่นนี้ “ผู้ใดอยู่ข้างนอก เข้ามานี่เร็ว!” อ๋องน้อยโหว ตะโกนเรียกเหล่าองครักษ์ ทว่ากลับไร้ซึ่งวี่แวว ชายหนุ่มรีบย่อกายลงเก็บกระบี่ โดยที่สายตา หาได้ละไปจากร่างงาม ที่นั่งดื่มชาอย่างเพลิดเพลิน ราวกับเขาที่อยู่ร่วมห้อง เป็นเพียงอากาศธาตุ “หึๆ มิใช่เจ้าสั่งห้ามใครมารบกวนหรอกหรือ แต่คนของข้าอยู่ข้างนอกนะ เรียกได้...” “หญิงแพศยา! สตรีมีคู่หมาย

  • แฝดสะท้านภพ(ดวงใจจอมทัพ)   บทที่91 มอบบทเรียน

    ยิ่งไม่เคยรู้ถึงฝีมือของคู่ต่อสู้ เขายิ่งต้องรีบเผด็จศึก ให้ได้โดยไว จึงมิคิดที่จะลีลาให้ตนเอง กลายเป็นฝ่ายเสียท่า สิ้นคำของชายหนุ่ม เงาร่างในชุดสีดำสองคน ก้าวออกจากหลังฉากกั้น ซึ่งเป็นส่วนด้านหลังห้องที่มีหน้าต่าง “อือๆ” เจ้าของจวนทำได้แค่...ส่งเสียงทัดทานในลำคอ ทว่ากลับไม่สามารถต่อต้านการกระทำใดๆ ของชายชุดดำได้เลย อาภรณ์เนื้อดีถูกถอดออก จนแหลือเพียงร่างกายเปลือยเปล่า ก่อนที่ชายชุดดำจะดึงมีดเล่มเล็กออกมา “นายหญิง โปรดพักผ่อนรอสักครู่ขอรับ” ชายผู้ถือมีดเอ่ยกับผู้เป็นนาย จินอู่หันหลังให้ พร้อมสะบัดมือเล็กน้อย เพื่อให้คนของเขา ลงมือได้แล้ว หากไม่ติดว่าที่นี่ คือถิ่นศัตรู...คำว่าเงียบเสียง จะไม่มีเลยสำหรับเขา ความเจ็บปวดของศัตรู ควรประกาศให้โลกรู้ แต่เมื่อสถานที่ไม่อำนวย เขาก็ไม่ติดที่จะลงมืออย่างเงียบๆ โหวอ๋องดวงตาเหลือกลาน แต่ก็ไม่อาจทำสิ่งใดได้ เมื่ออาวุธคู่กายของเขา กำลังถูกเฉือดเฉือนประหนึ่งหนูถูกถลกหนัง แม้มันจะไม่รู้สึกเจ็บ ทว่าใจของบุรุษแท้เยี่ยงเขา มันแหลกละเอียดจนมิเหลือชิ้นดี “สกุลโหว ควรสิ้นสุดที่เจ้าสองพ่อลูก อย่าได้สร้าง

  • แฝดสะท้านภพ(ดวงใจจอมทัพ)   บทที่90 ก้าวเท้าผิด

    “คุณหนูเฉินเป็นอย่างไรบ้าง” เป็นสาวใช้อาวุโส ที่เอ่ยถามกับสาวใช้สกุลเฉิน และผู้ติดตามหนุ่ม “คุณหนูดื่มยาแก้เมา และหลับอยู่เจ้าค่ะ” เจินจู ตอบสาวใช้สูงวัย ก่อนจะเหลือบตามองไปยัง สาวใช้ของอนุหรู สตรีผู้เพียรพยายามรั้ง ให้คุณหนูของนางพักในจวน “ข้าจะมาเชิญคุณหนูเฉิน กลับเข้าพักยังเรือนรับรอง ด้วยตอนนี้เฉินฮูหยิน ได้พักผ่อนรออยู่แล้ว” “หากไม่มีคำสั่งใดจากปากของฮูหยิน ข้าคงมิอาจปล่อยให้คุณหนูห่างสายตา เอาเป็นว่าข้าจะให้เจินจู ติดตามท่านเข้าไปพบฮูหยินของเราก็แล้วกัน” “นี่เป็นประสงค์ของท่านอ๋อง ที่มิอยากให้ผู้ใดตำหนิ ว่าดูแลแขกไม่ดี” หญิงชราตวัดสายตาดุใส่ชายหนุ่ม ผู้ไร้ความยำเกรงในอายุและฐานะของนาง ยิ่งเห็นใบหน้าเรียบเฉย แม้เพียงครึ่งเสี้ยงของใบหน้า นางก็รู้ดีว่าคนผู้นี้ ไม่ได้สะท้านต่อคำของนางเลย “งานเลี้ยงกับคนเมามาย ย่อมเป็นของคู่กัน และมิใช่ทุกคนที่ต้องการพักในจวนของเจ้าภาพ คุณหนูอยู่ในรถม้าแล้ว รอเพียงฮูหยินกลับออกมา เราก็พร้อมกลับจวน” จากความอ่อนน้อม พลันเป็นดุดัน จนทำให้ชายหนุ่มหลายคน ที่ยืนอยู่เบื้องหลังส

  • แฝดสะท้านภพ(ดวงใจจอมทัพ)   บทที่89 เฉินฮูหยิน

    “สามหาว! เจ้ากล้าข่มขู่ท่านอ๋องเยี่ยงนั้นรึ!” “ทำไมข้าต้องขู่ผู้ใดด้วย อีกอย่างถ้าท่านบริสุทธิ์ใจจริง จะเป็นเดือดเป็นร้อนไปไย แค่คุณหนูเฉินจะกลับบ้านตนเอง หรือมีสิ่งใดเป็นนอกในอย่างนั้นรึ! ดูรั้งนางจนออกหน้าเยี่ยงนี้” ชายหนุ่มเอียงหน้าช้า พร้อมมุมปากบิดขึ้นน้อยๆ การกระทำนั้นชวนให้อนุคนงาม หนาวสะท้านไปทั้งกาย บุรุษที่น่ากลัวย่อมเป็นคนที่มีหลากหลายบุคลิก ซึ่งปกติแล้วหรงเล่อถงสุขุมนุ่มลึก ทว่าตอนนี้...เขายิ่งกว่าคนจิตวิปลาสอย่างไรอย่างนั้น “นอกในอันใดกัน นางเป็นแขกของสามีข้า การดูแลเอาใจใส่ ย่อมเป็นเรื่องที่ข้าต้องทำอยู่แล้ว” “เช่นนั้นหลีกทางข้าเถิด อนุหรู” หรงเล่อถง กดน้ำเสียงให้ลึก และชัดเจนว่าเขาพร้อมขัดขวางเรื่องนี้ อย่างไม่คิดยินยอมปล่อยผ่าน ต่อให้สตรีที่กำลังตกที่นั่งลำบาก มิใช่พี่น้อง เขาก็คงปล่อยให้สตรีเหล่านั้น แปดเปื้อนจากคนโสมมได้เป็นอันขาด ถึงเขาจะมิใช่คนดีไปเสียทุกเรื่อง แต่เขามีพี่สาวน้องสาว พวกนางจะเป็นเช่นหากต้องอยู่อย่างอดสู แบกรับความอัปยศไปทั้งชีวิตเฉินหนิงฮวาในตอนนี้ ดวงตาปรือจนแทบจะปิดแล้ว ชายหนุ่มพอจะเดาได้ ว่าเกิดจากสาเ

  • แฝดสะท้านภพ(ดวงใจจอมทัพ)   บทที่88 ข้าคงดื่มมากไป

    “หยุดนะ! เจ้าจะทำอะไรลูกข้า!” เจียงชูเหนียง รีบผลักร่างของคนสนิทออก ก่อนจะหันไปหาบุตรชาย มือบางหมายจะเอื้อมไปแตะ ที่ข้างแก้มของผู้เป็นลูก ทว่าร่างสูงกลับเบี่ยงกายหลบ “อย่าล้ำเส้นข้าอีก มิเช่นนั้น...ข้าจะไม่ใจดีเช่นครั้งก่อน” “ครั้งก่อน...” เจียงชูเหนียง ถึงกับเซถอยหลัง คนของนางไม่เคยลงมือกับบุตรชาย มีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ที่ทั้งคู่เคยปะทะกัน เมื่อปีก่อนที่อารามบนเขา แววตาแตกตื่นทำได้เพียง มองตามแผ่นหลังของบุตรชาย ที่กลืนหายไปในความมืด “ไหนเจ้าบอกว่า เขาไม่เห็นเจ้าอย่างไรเล่า แล้ว...หรือเจ้าทำนอกเหนือจากที่ข้ารู้” “เขาก็แค่หยั่งเชิงเรา เจ้าอย่าได้เผยพิรุธจะดีกว่า เลือดในกายเขามีของเจ้าแค่ครึ่งเดียว อย่าคาดหวังให้มาก ว่าเขาจะเหมือนเจ้า เพราะขนาดพ่อแท้ๆ เขายังไม่เหมือนเลย กลับไปได้นิสัยของยายแก่ แม่สามีเจ้ามาแทบทั้งสิ้น” “พูดเรื่องนี้ก็ดี เจ้าหานางพบรึยัง!” “ยัง! หรงเล่อถงไม่เคยเผยร่องรอย ให้ข้าตามไปจนถึงตัวยายแก่นั้นได้เลย” “อย่าช้า! นางรู้เรื่องมากเกินไป หากปล่อยไว้ เล่อถงต้องคิดแปรพักตร์” “เหม

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status