Home / รักโบราณ / แฝดสะท้านภพ(ดวงใจจอมทัพ) / บทที่7 ความเจ็บปวดในอดีต

Share

บทที่7 ความเจ็บปวดในอดีต

last update Last Updated: 2025-02-06 20:15:43

“ข้ามิใช่เด็กแล้วนะขอรับท่านพ่อ ย่อมรู้สิ่งใดควรมิควร”

“เจ้าค่อยติดตามไปภายหลัง เอาเวลานี้สร้างฐานกำลังที่มั่นคงให้ฝาแฝดมิดีกว่าหรือ ที่เหลียงเจ้าอาจเหนือผู้อื่น แต่นี่แคว้นอู๋เป่ยถึงจะมีเงินมากแค่ไหน ก็ต้องรู้จักการถนอมชีวิต อย่าเร่งวิ่งเข้าไปตายให้เร็วนัก เราแค่นิ่งรอให้เหยื่อตายใจ แล้ววิ่งเข้ากับดักของเราเอง เจ้านี่นะ! พ่อสอนกี่ครั้งแล้วมิรู้จักจดจำ”

“ใครว่าข้าจะรีบวิ่งไปตายเล่าขอรับ ข้าแค่อยากให้หลาน ๆ เติบโตขึ้นมาในสายตาของข้าก็เท่านั้น”

“ยังจะเถียงอีก น้องสาวเจ้าได้สอนพวกเขามากพอแล้ว”

“อย่างไรขอรับ”

“ความอดทนอย่างไรเล่า นางแค่ทนรอให้ลูกของนางเติบโต เพื่อที่วันหนึ่งไร้นางหรือใคร ๆ เด็ก ๆ จะสามารถดูแลตัวเองได้ ถึงกระนั้นนางก็คือสตรีที่ถูกอบรมมาดี จึงยังยึดมั่นในคำสอนของชนรุ่นหลังอยู่”

“เช่นนั้นข้าจะไม่ยินยอมให้เหลียนฮวา ต้องเป็นอย่างฮุ้ยเหมยเด็ดขาด”

“หึ ๆ เจ้านี่น่า! จนป่านนี้ยังมองไม่ออกอีกหรือ ว่าหลานสาวของเจ้าจะแตกต่างกับแม่ของนาง คนละขั้วเลยทีเดียว”

จางหลี่ชางหัวเราะในลำคอ แม้ในจดหมายไม่ได้บอกถึงรายละเอียดอะไรมากมาย แต่จากที่เขาจับใจความได้นั้น สองแฝดต้องการที่จะเรียนวิชาการต่อสู้ ต่างจากลูกสาวของเขา ที่เป็นกุลสตรีทุกระเบียดนิ้ว

“ไม่รู้ล่ะ! อย่างไรเสีย ข้าจะบอกนางมิให้สนใจกับคำสอน ที่งมงายพวกนั้น”

จางหย่งสือตั้งใจอย่างแน่วแน่ ที่จะไม่ยินยอมให้หรงเหลียนฮวา หลานสาวเพียงคนเดียว จะต้องพบเจอเรื่องเจ็บปวด เช่นที่น้องสาวของเขาต้องประสบอยู่ในตอนนี้

"ฟง! เข้ามาหาข้าสักหน่อยได้หรือไม่"

สิ้นเสียงของหลี่ชาง ประตูเปิดออกในทันที ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง หน้าตาหล่อเหลาก้าวเข้ามาในห้อง เขาคือฟงเด็กกำพร้าที่ชายชราฟูมฟักเลี้ยงดูมาตั้งแต่อายุเพียงเจ็ดขวบ

เขารักชายหนุ่มเหมือนลูกชายอีกคน ฟงเป็นที่รักของทุกคนในบ้าน ตั้งแต่เล็กจนโต ชายหนุ่มเชื่อฟังและขยันเรียนรู้ทุกอย่าง ตอนนี้ฝีมือของชายหนุ่ม จัดได้ว่าอยู่ในขั้นสูงสุดในระดับพลังขั้นสีม่วง

แน่นอนว่าเขาก็คาดหวังที่จะเห็นหลาน ๆ แตกฉานด้านพลังแต่ละแขนงเช่นกัน การเดินทางของฟงในครั้งนี้ คงเต็มไปด้วยอันตรายและความท้าทายอีกมาก

"คารวะนายท่าน คุณชายใหญ่"

หลี่ชางมองดูชายหนุ่มที่เอาแต่ก้มหน้า แล้วได้แต่ทอดถอนใจ เขารู้ว่าฟงได้ยินทุกอย่าง และจากการหลบหน้าก้มต่ำในตอนนี้ คือชายหนุ่มกำลังควบคุมโทสะมิให้ระเบิดออกมา

ฟงรักและเคารพบุตรชายหญิงของเขายิ่งกว่าชีวิต แค่เพียงรอยแมวข่วนก็ทำให้ฟงเป็นเดือดเป็นร้อนแล้ว ชายหนุ่มมีนิสัยเช่นไร ไยเขาจะไม่รู้

"เจ้าคัดเลือกเงาสักแปดคน แล้วไปที่ชายป่าตะวันออกของเมืองชีเป่ย เพื่อพบกับหลานชายของเจ้า จำไว้ว่าอย่าให้พี่สาวของเจ้าเห็นหรือรู้ว่าเจ้าอยู่ที่นั่นเป็นอันขาด คุ้มครองและเป็นอาจารย์ของเขา ส่วนสิ่งของอื่นใดที่จำเป็น พี่ชายของเจ้าจะจัดเตรียมให้เอง พรุ่งนี้ออกเดินทางก่อนรุ่งสาง อีกเรื่องอย่าให้จางฮูหยินรู้เรื่องนี้"

หลี่ชางบอกถึงจุดประสงค์ที่เขาต้องการ ฟงเงยหน้าขึ้นสบตากับบิดาบุญธรรม ก่อนจะก้มต่ำอีกครั้ง ความรู้สึกของชายหนุ่มในตอนนี้ ยิ่งกว่าภูเขาไฟที่พร้อมจะระเบิดได้ทุกเวลา

“ข้าน้อยทราบแล้วขอรับ นายท่าน”

“เมื่อไหร่เจ้าจะเรียกข้าว่าพ่อ หืม!”

“นั่นสิ! ข้าไม่คู่ควรเป็นพี่ชายเจ้าหรืออย่างไร มันน่านักเจ้าน้องชายคนนี่”

จางหย่งสือ พยายามเปลี่ยนบรรยากาศให้ผ่อนคลายลง เขากลัวใจของน้องชายบุญธรรม ว่าจะทำอะไรที่เป็นอันตรายต่อตัวเอง หากจะว่าเขามุทะลุแล้ว ฟงนั้นมักจะไม่พูดแต่ลงมือทันที

“ข้าน้อยมิกล้าคิดเช่นนั้นขอรับ”

“เอาล่ะ! ข้าไม่อยากเถียงกับเจ้าเรื่องนี้แล้ว เจ้าออกไปคัดคนเถอะ เดียวข้าจะไปเตรียมของสำคัญให้ อ่อ! ให้มีผู้หญิงไปด้วยสักสองคน เผื่อจะได้ไม่ทำให้ฮวาเอ๋อร์รู้สึกกระดากใจ หากจะมีแต่ผู้ชายทั้งหมด”

“รับทราบขอรับ”

ฟงลุกขึ้นก่อนจะก้าวออกจากห้องไปเงียบ ๆ สองพ่อลูกหันมาสบตากัน ก่อนที่หย่งสือจะทันได้เอ่ยอะไรออกมา เสียงทหารด้านนอกเอ่ยชื่อของผู้ที่กำลังมาหาพวกเขาในตอนนี้ ทุกอย่างจึงเปลี่ยนไปในฉับพลัน เพื่อมิให้จางฮูหยิน ผู้เป็นใหญ่อย่างแท้จริงเกิดสงสัย

ก่อนรุ่งสาง สองพ่อลูกได้ออกมาส่งฟง และเงาทั้งแปดนอกจวนอย่างลับ ๆ

"หย่งสือ ตั๋วเงินและป้ายทองของร้านตระกูลจางครบหรือไม่"

หลี่ชางจะเป็นกองหนุนที่ดีของหลาน ๆ นอกจากส่งมือดีไปเป็นอาจารย์แก่ทั้งสามแล้ว แน่นอนว่าอำนาจและทรัพย์สินจะต้องมีพร้อมเช่นกัน

ในเมื่อหรงจิ่งหวังเพียงผลประโยชน์ เขาก็จะมอบทั้งหมดให้หลานชายเป็นผู้รับไปเสีย อยากรู้นักว่าวันที่สกุลหรง ไม่หลงเหลือเงินแม้แต่อีแปะเดียว มันจะเป็นเช่นไร

"มีหรือข้าจะลืม ฟงเจ้าบอกหลาน ๆ ของเราว่าใช้ให้เต็มที่ ส่วนเจ้าก็อย่าได้ตระหนี่จนไม่กินไม่ใช้นะ เจินจู! เรื่องการกินอยู่ของพวกเจ้าทั้งเก้าคน ข้าให้เจ้ารับผิดชอบ นี่ตั๋วเงินสำหรับการเดินทาง ถ้าเอาไว้ที่หัวหน้าของเจ้า คงได้กินแค่ข้าวต้มกับเกลือเป็นแน่ เห็นไหมว่าข้าไม่เคยตระหนี่แบบใคร ๆ ว่า จริงไหมขอรับท่านพ่อ"

จางหย่งสือมอบตั๋วเงินปึกใหญ่ให้กับหญิงสาว ที่เป็นหนึ่งในเงามือดีของสกุลจาง ก่อนจะหันไปยิ้มแต้ให้แก่บิดา พร้อมคำถามที่ทุกคนได้แต่นิ่งเงียบ จางหลี่ชางกระพริบตาปริบ ๆ เพราะคำว่าไม่ตระหนี่นั้น คงน้อยเกินไปกับคนเช่นหย่งสือ

ทะเลที่ว่าเค็มคงไม่สู้ความงกของบุตรชายเขาได้ ทำการค้าสำหรับจางหย่งสือ จะต้องไม่มีคำว่าขาดทุน หากคิดจะคดโกงเขาแม้เพียงอีแปะเดียว คนที่ทำคือดวงถึงฆาตแล้วจริง ๆ

แต่สำหรับคนในครอบครัว และผู้ติดตาม คนงานในร้าน หย่งสือจะไม่มีคำว่าหวงเงิน เขาจะทุ่มทุกอย่างให้แก่ทุกคนเต็มที่เสมอ การทำงานหนักย่อมต้องได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่า นั่นคือคติประจำตัวของจางหย่งสือ

“เช่นนั้นพวกข้าขอลานายท่าน กับคุณชายใหญ่นะขอรับ หากมีสิ่งใดคืบหน้าข้าจะรีบส่งข่าวทันทีขอรับ”

ทั้งเก้าคนทำความเคารพผู้เป็นนาย ก่อนจะพากันเหวี่ยงกายขึ้นบนหลังม้า ควบหายไปในความมืด ทิ้งให้คนด้านหลังมองตามด้วยความเป็นกังวลอยู่ลึก ๆ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • แฝดสะท้านภพ(ดวงใจจอมทัพ)   ตอนที่96 ข้าจะรักษามันไว้

    “ชูฮูหยิน เราไม่ได้โง่จนเชื่อในคำของเจ้าหรอกนะ เพราะพวกเราที่นี่ เข้าใจความหมายของคุณหนูหรงดี แต่เป็นเจ้าที่พยายามดึงดัน ให้เป็นความเกินเลย เจ้าควรกลับไปทบทวนตนเองให้ดี ว่าสมควรแล้วหรือ ที่คิดหักหน้าผู้อื่นอย่างไรมารยาทเยี่ยงนี้”เป็นหนึ่งในฮูหยินขุนนางชั้นผู้ใหญ่ ที่เอ่ยขึ้นหลังจากจบคำพูดของท่านแม่ทัพจ้าวหมิงเยี่ย นางที่อยู่ในเหตุการณ์ตั้งแต่ต้น ไม่ได้แทรกแซง เพราะอยากรู้ว่าคุณหนูใหญ่สกุลหรง ที่มีข่าวลือไม่ดีมาก่อน จะแกไขสถานการณ์อย่างไรและดูเหมือนจะเหนือความคาดหมายไปมาก คุณหนูใหญ่หรงเหลียนฮวา นอกจากจะลากคนเยี่ยงต้วนชิงชิง ออกมาตบต่อหน้าทุกคน ด้วยคำพูดของผู้ได้รับการอบรมมาดี และความเยือกเย็นที่แสดงออก ล้วนไม่มีความหวั่นเกรงแฝงอยู่ นี่คือวิสัยของผู้นำทั้งสิ้นแต่น่าเสียดายแทนสกุลหรง ที่ไม่รักษาหยกเนื้อดีชิ้นนี้เอาไว้ กลับหย่าขาดภรรยา ทำให้บุตรชายหญิง จากอดีตภรรยาเอก กลายเป็นทายาทสกุลจาง ที่มากด้วยทรัพย์และอำนาจ แม้ข่าวเรื่องนี้ยังไม่แพร่ออกไป แต่มิเกินครึ่งวัน เรื่องที่ท่านเสนาบดีหรง หย่าภรรยาเอกก็คงสะพัดไปทั่วเมืองหลวง“ไยเจียงฮูหยิน จึงได้เห็นงามกับคำของหญิง ที่มีข่าวลือเสียหายด้วย

  • แฝดสะท้านภพ(ดวงใจจอมทัพ)   ตอนที่95 ให้ร้าย

    ไยคนเยี่ยงต้วนชิงชิงจะมิรู้ ว่ามันคือการใส่สีตีไข่ เพื่อทำลายชื่อเสียงของนาง แต่ก็ยังอาจหาญนำมาหยิบยกเป็นประเด็น โอ้!! เด็กน้อย ช่างไม่คิดถึงตอนที่โดนกระแสตีกลับบ้างเลย “บังอาจ!” เจินจู ตวาดคนพูดด้วยความไม่พอใจ ที่คุณหนูของนางถูกดูหมิ่นในร้านของตนเอง หญิงผู้นี้ช่างมิรู้สูงต่ำเสียจริง แต่ก่อนที่จะพูดตำหนิสตรีผู้นั้นไปมากกว่านี้ มือเรียวของผู้เป็นนาย ก็ยกมาแตะที่แขนของนางเบาๆ เป็นการบอกให้นิ่งเสีย “ข้าแค่พูดตามข่าวลือ” ต้วนชิงชิงตอบกลับอย่างไม่สะท้าน ก่อนจะยกยิ้มหยัน จับจ้องไปที่ศัตรูหัวใจ ทว่านางต้องนิ่งค้าง เมื่ออีกฝ่ายหาได้แสดงท่าทีอันใดตอบโต้ “ข่าวลือนั้นจะใส่สีตีไข่เยี่ยงไรก็ย่อมได้ เพราะคนฟังมิได้เห็นด้วยตา แต่ต่างจากตัวข้า ที่ไม่เคยกล่าวให้ร้ายใคร โดยเฉพาะเจ้าชูฮูหยิน ทั้งที่ข้าเห็นกับตา ว่าเจ้าวอแวคู่หมั้นของข้ามิยอมเลิกรา แต่ยังดี...ที่พี่หมิงเยี่ย เป็นสุภาพบุรุษที่เพียบพร้อม จึงไม่ก้าวลงไปจมปรักเหม็นเน่า ให้ข้าต้องเสียใจ ท่านอาเมิ่ง ชานี่รสดีมากเลย” หญิงสาวพูดกับอดีตคนรัก ของคู่หมั้นเสร็จ ก็หันไปเอ่ยกับผู้ดูแลร้าน ชื่นชมต่อช

  • แฝดสะท้านภพ(ดวงใจจอมทัพ)   บทที่94 ก็แค่ข่าวลือ

    ห้าวันถัดมา ณ ร้านผ้าสกุลจาง จางเหลียนฮวา ได้ก้าวเข้ามาภายในร้าน พร้อมสาวใช้ข้างกายสองนาง การมาของหญิงสาว เรียกสายตาของเหล่าสตรีน้อยใหญ่ ที่อยู่ภายในร้านผ้า ให้หันมองเป็นจุดเดียว ด้วยความงามที่โดดเด่น และเป็นหญิงสาวแปลกหน้า สำหรับใครหลายคนในเมืองหลวง หากจะมีคนรู้จักนาง ก็คงเป็นคนที่ไปร่วมงานวันเกิด ของท่านราชครูหรงเท่านั้น จึงจะรู้ว่านางคือบุตรสาวคนโต ที่กำเนิดจากภรรยาเอก ของท่านเสนาบดีหรงจิ่ง “นางงดงามยิ่งนัก ข้าไม่แปลกใจเลยว่าทำไม ท่านแม่ทัพจ้าวหมิงเยี่ย จึงรอนางโดยไม่คิดถอนหมั้น ทั้งที่ก็มีสตรีไม่น้อย หวังปีนป่ายขึ้นเตียงเขาอยู่หลายหน แต่ท่านแม่ทัพหาได้ชายตาแล” หญิงสาวนางหนึ่งเอ่ยขึ้นเบาๆ ทว่ากลับไม่เบาสำหรับหญิงสาวอีกคน ที่ยืนอยู่ด้านหลัง ต้วนชิงชิงกำหมัดแน่น หากไม่เพราะหรงเหลียนฮวา มีหรือนางจะไม่ได้ครองคู่กับท่านแม่ทัพ หากนางได้ตำแหน่งภรรยาเอก ไหนเลยจะต้องแต่งให้แก่คน “คุณหนู เชิญด้านในขอรับ” ผู้ดูแลร้านก้าวเข้ามาโค้งกายให้นายสาว ก่อนจะผายมือเชื้อเชิญผู้เป็นนาย ให้เข้าไปนั่งด้านใน “ท่านอาเมิ่งสบายดีนะเจ้าคะ”หญิงสาวเอ่

  • แฝดสะท้านภพ(ดวงใจจอมทัพ)   บทที่93 สมควรแล้ว

    โหวปู้หยา ดวงตาเบิกกว้าง ปากที่มิอาจหุบได้ มีเพียงเสียงประหนึ่งคนใบ้ หลุดรอดออกมาเท่านั้น สองหน่วยตาที่แดงก่ำ เปียกชื้นไปด้วยน้ำตาที่เอ่อล้น ไหลอาบสองแก้มราวเด็กน้อยถุกกลั่นแกล้งความเจ็บปวดที่แผ่ซ่านไปทุกอณูขุมขน มันเกินที่เขาจะบรรยายออกมาได้ด้วยคำพูด ใจแทบขาดสิ้นเสียให้ได้ แต่คงเพราะยาที่ถูกกรอกปากไปเมื่อครู่ เขาจึงยังหายใจอยู่ และได้ลิ้มรสความเจ็บปวดอันแสนสาหัสนี้ โดยไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะปกป้องตนเองแคว่ก! เสียงมีดที่ตัดผ่านเนื้อนิ่ม ดังยิ่งกว่าเสียงลมหายใจเขาในตอนนี้เสียอีก เฟยไม่ได้แสดงท่าทีใดๆ เขาจัดการพวงเล็กๆ ของชายหนุ่มผู้มากด้วยตัญหา ก่อนจะใช้มีดกรีดกางเกงฉ่ำเลือด ให้เปิดกว้างตรงบาดแผล และเทยาห้ามเลือดลงไป ทุกการกระทำมิได้มีความรีบร้อนแม้แต่น้อยแต่คนถูกกระทำนั้น แหลกลาญไปทั้งกายและใจ ชีวิตของเขาจะเหลือสิ่งใดให้ภูมิใจได้อีก ความเป็นชายมิหลงเหลือ จะให้เขามีชีวิตอยู่ต่อเยี่ยงไรเล่า...“ท่านอ๋องน้อยกระทำกับสตรีมามิน้อย ที่ทุกคนไม่กล้าเอื้อยเอ่ยสิ่งใด ใช่ว่าพวกนางและครอบครัวไม่เจ็บปวด แต่เพราะอำนาจที่มีมาแต่บรรพบุรุษ ทำให้ผู้ใดก้แตะต้องสกุลโหวไม่ได้ แต่อย่าลืมว่านายหญิงน้อยของข้า ค

  • แฝดสะท้านภพ(ดวงใจจอมทัพ)   บทที่92 มิควรสืบพันธุ์

    “หากเจ้ายินยอมแต่โดยดี ข้าจะมอบตำแหน่งที่คู่ให้” “กระบี่เจ้า! ควบคุมมันมิให้สั่นได้เสียก่อน ค่อยคิดสิ่งอื่นดีกว่าไหม…” หญิงสาววางถ้วยชาลง บนโต๊ะอย่างใจเย็น พรึ่บ! ปึก! เคร้ง! รวดเร็วจนชายหนุ่ม ขาสั่นจนแทบยืนไม่อยู่ กระบี่ในมือร่วงลงพื้น ก่อนที่เขาจะเบนสายตา ไปมองยังหญิงสาว ซึ่งตอนนี้กลับไปนั่งยังที่เดิม เสมือนกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับเขาเมื่อครู่ มันมิใช่ฝีมือของนาง “จะลงมือกับใครก็ตาม เจ้าต้องศึกษาอีกฝ่ายให้แจ่มแจ้ง หึๆ ยังดีที่ตรงนี้เป็นข้า ถ้าเป็นผู้ติดตามของข้าทั้งสอง เจ้าคงไม่ได้ยืนต่อคำ เกินชั่วอึดใจ...” ชายหนุ่มถึงกับใบหน้าถอดสี เขาไม่คิดว่าแผนการที่แยบยล จะถูกล่วงรู้จนหมดสิ้นเช่นนี้ “ผู้ใดอยู่ข้างนอก เข้ามานี่เร็ว!” อ๋องน้อยโหว ตะโกนเรียกเหล่าองครักษ์ ทว่ากลับไร้ซึ่งวี่แวว ชายหนุ่มรีบย่อกายลงเก็บกระบี่ โดยที่สายตา หาได้ละไปจากร่างงาม ที่นั่งดื่มชาอย่างเพลิดเพลิน ราวกับเขาที่อยู่ร่วมห้อง เป็นเพียงอากาศธาตุ “หึๆ มิใช่เจ้าสั่งห้ามใครมารบกวนหรอกหรือ แต่คนของข้าอยู่ข้างนอกนะ เรียกได้...” “หญิงแพศยา! สตรีมีคู่หมาย

  • แฝดสะท้านภพ(ดวงใจจอมทัพ)   บทที่91 มอบบทเรียน

    ยิ่งไม่เคยรู้ถึงฝีมือของคู่ต่อสู้ เขายิ่งต้องรีบเผด็จศึก ให้ได้โดยไว จึงมิคิดที่จะลีลาให้ตนเอง กลายเป็นฝ่ายเสียท่า สิ้นคำของชายหนุ่ม เงาร่างในชุดสีดำสองคน ก้าวออกจากหลังฉากกั้น ซึ่งเป็นส่วนด้านหลังห้องที่มีหน้าต่าง “อือๆ” เจ้าของจวนทำได้แค่...ส่งเสียงทัดทานในลำคอ ทว่ากลับไม่สามารถต่อต้านการกระทำใดๆ ของชายชุดดำได้เลย อาภรณ์เนื้อดีถูกถอดออก จนแหลือเพียงร่างกายเปลือยเปล่า ก่อนที่ชายชุดดำจะดึงมีดเล่มเล็กออกมา “นายหญิง โปรดพักผ่อนรอสักครู่ขอรับ” ชายผู้ถือมีดเอ่ยกับผู้เป็นนาย จินอู่หันหลังให้ พร้อมสะบัดมือเล็กน้อย เพื่อให้คนของเขา ลงมือได้แล้ว หากไม่ติดว่าที่นี่ คือถิ่นศัตรู...คำว่าเงียบเสียง จะไม่มีเลยสำหรับเขา ความเจ็บปวดของศัตรู ควรประกาศให้โลกรู้ แต่เมื่อสถานที่ไม่อำนวย เขาก็ไม่ติดที่จะลงมืออย่างเงียบๆ โหวอ๋องดวงตาเหลือกลาน แต่ก็ไม่อาจทำสิ่งใดได้ เมื่ออาวุธคู่กายของเขา กำลังถูกเฉือดเฉือนประหนึ่งหนูถูกถลกหนัง แม้มันจะไม่รู้สึกเจ็บ ทว่าใจของบุรุษแท้เยี่ยงเขา มันแหลกละเอียดจนมิเหลือชิ้นดี “สกุลโหว ควรสิ้นสุดที่เจ้าสองพ่อลูก อย่าได้สร้าง

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status